หากไม่ใช่เพราะเจ้านายของพวกเขาโดนยาพิษ แถมยังติดกับดักที่คนอื่นวางไว้ คงไม่มีทางยอมให้นางยำยีเช่นนี้พวกเขาอยากจะช่วยเจ้านาย แต่จนปัญญาเพราะโดนยาพิษเช่นกัน ใจอยากช่วยแต่ไร้กำลังอีกฟากหนึ่งของทุ่งหญ้า ร่างทั้งร่างของเย่จิ่งหานไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงถลึงตาจ้องกู้ชูหน่วน"เจ้าลองแตะต้องข้าแม้แต่ปลายก้อยสิ""แตะแค่ปลายก้อยจะพอได้อย่างไร อย่างน้อยก็ต้องแตะทั้งตัว"บางทีอาจเป็นเพราะดวงตาคู่นั้นของเขาเดือดพล่านมากเกินไป กู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบกดจุดเขาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน"แค่ยืมร่างกายหรอกน่า เจ้าเองก็ไม่สึกหรอเสียหน่อย"นางพูดอย่างไม่กระดากอาย แต่กลับทำเอาเย่จิ่งหานโมโหจนแทบลมจับค่ำคืนต้องอันงดงามเย่จิ่งหานโกรธจนเส้นเอ็นปูดโปนโธ่เว้ย เทพสงครามผู้ใหญ่อย่างเขา กลับถูกหญิงที่ไหนก็ไม่รู้ข่มเหงเสียได้แต่ที่แค้นที่สุดก็คือ ตัวนางเองเสร็จสมแล้ว แต่ "น้องชาย" ของเขาไม่พอใจเป็นที่สุด ไฟราคะถูกนางโหมกระพือจนกระสับกระส่ายไปทั้งตัว แต่หญิงผู้นี้กลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อยกู้ชูหน่วนเหนื่อยอ่อนจนสั่นเครือไปทั้งร่างนางฉีกเสื้อตัวหนึ่งแล้วคลุมท่อนบนของเ
นางเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ากลับทำเอากู้ชูหลันและอี๋เหนียงห้าโกรธจนสั่นไปทั้งตัว"กู้ชูหน่วน เจ้าโกหก ตอนที่เจ้าบังคับให้ข้าดื่มเมามายพันกาล มิได้ท่าทางเช่นนี้เลย""น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องอันใด ข้ารู้ว่าข้าผิด ไม่ควรจะไปสาย น้องสาวอย่าโกรธเลยได้หรือไม่"กู้ชูหลันเสียสติ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางถูกอีกฝ่ายทำลาย แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นใสซื่อเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย ความโกรธเอาชนะกู้ชูหลัน นางตะกายตัวขึ้นมาหมายจะบีบลอคำของอีกฝ่าย ราวกับอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตายทั้งเป็น"สามหาว"เสียง "ปึง" ดังขึ้น อัครเสนาบดีกู้ตบโต๊ะ โมโหเลือดขึ้นหน้าเว้นเสียแต่กู้ชูหน่วน ทุกคนต่างตื่นตกใจส่วนอี๋เหนียงห้าก็กระชากกู้ชูหลันให้คุกเข่าลงเสียงดังโครม "นายท่านใจเย็นเจ้าค่ะ หลันเอ๋อร์ก็แค่คิดน้อยไปจึงได้ออกไปกับคุณหนูสาม เมามายพันกาลนั่น ต้องมีคนจงใจวางยาแน่"ฮูหยินใหญ่และอี๋เหนียงสามรวมถึงคนอื่นๆ พากันแค่นหัวเราะมีคนจงใจวางยางั้นรึ? หมายถึงพวกนางอย่างนั้นหรือ?อี๋เหนียงห้าเป็นที่โปรดปรานของอัครเสนาบดี ยามปกติแล้วมักจะอวดเบ่งวางอำนาจกับพวกนางอยู่บ่อยๆ ยามนี้กู้ชูหลัน
หลังจากกลับมาถึงห้อง กู้ชูหน่วนปลดผ้าคลุมหน้าออก เมื่อเห็นใบหน้าขี้เหร่เป็นหลุมเป็นบ่อของตัวเองก็กินข้าวไม่ลงเพียงเถ้าธุลีพิษที่นางโดนเรียกว่าเพียงเถ้าธุลี เธอถอนได้ เพียงแค่ต้องใช้ยาหลายชนิด มีสองชนิดที่ค่อนข้างหายากกู้ชูหน่วนนึกย้อนในความทรงจำ แต่กลับหาไม่เจอว่าใครเป็นคนวางยานางในความทรงจำ ก่อนอายุได้สิบขวบนางก็หน้าตาน่ารักน่าชัง หลังจากสิบขวบก็ถูกผึ้งต่อยครั้งหนึ่ง ทั้งใบหน้าก็เริ่มเน่าเฟะ จนสุดท้ายก็กลายเป็นผีเดินได้แบบนี้อ๋อ พิษผึ้ง...ให้มันได้อย่างนี้สิ"คุณหนูเจ้าคะ ครั้งนี้เรามีเรื่องกับอี๋เหนียงห้ากับคุณหนูห้าเข้าแล้วจริงๆ หากนางมาหาเรื่องเราอีกจะทำอย่างไรเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น พวกเราไปขอร้องเจ๋ออ๋อง ให้เจ๋ออ๋องช่วยพวกเราดีไหมเจ้าคะ""สาวอนุหนึ่งกับลูกสายตรงหนึ่ง เจ้าต้องกลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?"ชิวเอ๋อร์ตกใจ "คุณหนูของบ่าว อี๋เหนียงห้าเป็นถึงคนโปรดของนายท่านเชียวนะเจ้าคะ ฐานะของนางในจวนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฮูหยินใหญ่เลย หากนางอยากจะบีบเราให้ตาย ยังง่ายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่งอีกเจ้าค่ะ""วางใจเถิด แค่พวกนางสองคนไม่มีทางทำอะไรเราได้หรอก""คุณหนูเจ้าคะ หลังจากท่านกลั
หากเป็นแต่ก่อน พวกนางคงตวาดลั่นไปแล้ว แต่เพราะวันนี้เจ๋ออ๋องอยู่ด้วย พวกนางคงอยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนให้ตายไปเสียกู้ชูหลันจงใจตำหนิเสียงเบา "ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงได้แต่งตัวเช่นนี้อีกแล้ว ต่อหน้าเจ๋ออ๋อง ท่านจะทำอะไรตามใจเช่นนี้ไม่ได้ เจ๋ออ๋อง ท่านพี่เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยๆ ขอท่านอย่าได้ถือโทษเลยนะเพคะ"กู้ชูหน่วนกลอกตาอีกแล้วอะไรเล่า?เสียบริสุทธิ์แล้ว แต่นางยังมีหน้ามาเกาะแกะเจ๋ออ๋องอีก ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน"น้องสาว เจ้าก็พูดเสีย เพราะรู้ว่าเจ๋ออ๋องจะเสด็จ ข้าถึงได้ตั้งใจแต่งตัว พวกเจ้าดูชุดข้าสิ สวยหรือไม่"สวย?ทุกคนอยากจะสำรอก"เจ๋ออ๋อง พวกเราก็ถึงวัยเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เมื่อไหร่ท่านถึงจะมาสู่ขอข้าอย่างเป็นทางการที่บ้านสักที"กู้ชูหน่วนกระแซะเข้าไปใกล้เจ๋ออ๋อง จงใจแสร้งล้มเซ ผ้าคลุมบนใบหน้าปลิวไปตามลม เผยใบหน้าแสนอัปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัวให้เจ๋ออ๋องได้เห็นเต็มตาเจ๋ออ๋องตกใจจนถอยกรูไปหลายก้าว หัวใจเต้นถี่รัวนั่นมันใบหน้าอัปลักษณ์แบบใดกัน บนหน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ว่าจะแนวตั้งแนวขวางก็มีแต่ตุ่มหนองเล็กใหญ่เต็มไปหมด ไร้ซึ่งพื้นที่ว่างและที่น่าขยะแขยงที่สุดก็คือ น
หากเป็นหลายปีก่อน การได้แต่งงานกับหานอ๋องถือว่าได้รับมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง แต่บัดนี้... หานอ๋องโดนยาพิษ อาการหนักถึงชีวิต มีข่าวลือว่าจะคงจะอยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้ยิ่งไปกว่านั้น หานอ๋องอารมณ์แปรปรวน โหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนเป็นผักปลา การแต่งงานกับพระองค์ ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตายหรอกหรือ?อัครเสนาบดีกู้พิจารณาพระราชประสงค์อย่างถี่ถ้วนลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่เพียงแต่รูปโฉมอัปลักษณ์ ยังอ่านหนังสือไม่ออกสัก หานอ๋องมีกำลังทหารในมือ อำนาจเทียมฟ้า การมอบลูกสาวของเขาให้กับหานอ๋อง ไม่ใช่การดูหมิ่นหานอ๋องซึ่งหน้าหรือ?ก่อนหน้านี้แม้ฮ่องเต้และหานอ๋องจะไม่ลงรอยกัน แต่ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ แต่การแต่งงานครั้งนี้ อาจทำให้ฮ่องเต้และหานอ๋องต้องแตกหักกันมุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก หน้ามุ่ยคอตกฮ่องเต้แห่งแคว้นเย่ชอบจับคู่ให้คนอื่นเขาขนาดนั้น?เพิ่งจะยกเลิกการหมั้นหมายไปหนึ่ง ก็มาอีกหนึ่ง หากฉันขายไม่ออกท่านคงไม่ยอมเลิกราสินะ?ขันทีหม่าผู้มาประกาศราชโองการหัวเราะพลางเอ่ย “ฝ่าบาทตรัสว่า การแต่งงานของคุณหนูสามนั้นเป็นพระราชประสงค์ของฮ่องเต้พระองค์ก่อน บัดนี้... บัดนี้เจ๋ออ๋องประชวรอาการหนัก เ
กู้ชูหยุน ลูกสาวที่สองของเขานั้นรอบรู้ศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งฉิน หมากล้อม ตำรา วาดภาพ จึงถูกบังคับให้เรียนที่สำนักบัณฑิตหลวง จวบจนตอนนี้ขุนนางเล็กใหญ่ในราชสำนักยังคงอิจฉาเขา อัครเสนาบดีกู้เองภาคภูมิใจเไปได้อีกนานแต่ว่า...ลูกสาวคนที่สามของเขา ไม่รู้หนังสือแม้สักแต่ หากเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงท่ามกลางเหล่าปัญญาชนมากมาย คงเสียหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นนางยังหน้าตาขี้อัปลักษณ์ชวนอาเจียนเมื่อมีราชโองการ นางจึงเป็นหานเฟยโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากนางเสียหน้า ก็เท่ากับหานอ๋องเสียหน้าไปด้วยหากอัครเสนาบดีกราบทูลฝ่าบาท ฝ่าบาทจะต้องพอพระทัยและสรรเสริญเขาอย่างมากแต่เขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานอ๋องโดยสิ้นเชิงอัครเสนาบดีกู้ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าการเลือกข้างฝ่าบาทจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง“หากหลันเอ๋อร์ฉลาดได้เจ้าสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องเสียความบริสุทธิ์”อี๋เหนียงห้าซบใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของอัครเสนาบดีกู้ เอ่ยเสียงอ่อนหวาน “หลันเอ๋อร์ยังเด็ก คิดอะไรไม่รอบคอบ จึงถูกใส่ร้าย โชคดีที่รู้เรื่องนี้ไม่กี่คน หากปกปิดได้ดี เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ ต่อจากนี้ไปข้าจะอบรมห
คุณ...คุณหนูสาม... กล้าตบ...ตบหน้าอี๋เหนียงห้าเลยหรือ...แม่เจ้า พวกเขาไม่ได้ตาฟาดใช่ไหมอี๋เหนียงห้าเป็นถึงอนุคนโปรดของนายท่านเชียวนะอี๋เหนียงห้าโดนตบจนเห็นดาว เกือบเซล้ม นางกุมใบหน้าบวมแดงอย่างตกตะลึง ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาดอี๋เหนียงห้าเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตวาดลั่น "นี่เจ้ากล้าตบข้าหรือ?""ก็ตบเจ้าอย่างไรเล่า""สามหาว! สามหาว! ใครก็ได้ จับตัวคุณหนูสามเอาไว้ วันนี้ข้าจะสั่งสอนนางให้เข็ด""กล้าก็เข้ามา"กู้ชูหน่วนที่เคยอ่อนแอ กลับแผ่รังสีทรงอำนาจไปทั่วร่างแววตาของนางเย็นยะเยือก เย็นชาไร้ซึ่งตวามรู้สึก เมื่อถูกนางจ้องมอง เหล่าบ่าวรับใช้ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับก้าวเท้าข้างหนึ่งลงนรกไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นกู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย็นชา "ท่านแม่ข้าคือน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ได้รับแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเจาหลิง ส่วนข้านั้นเป็นลูกสาวแท้ๆ ขององค์หญิง คุณหนูสามสายตรงแห่งจวนอัครเสนาบดี อี๋เหนียงห้าจะเทียบอันใดได้? ก็แค่อนุภรรยาชั้นต่ำในจวนอัครเสนาบดี อย่าว่าแต่ข้าตบเจ้าวันนี้เลย ต่อให้วันนี้ข้าฆ่าเจ้า ก็ไม่มีใครทำอะไรข้าได้"ตาลายทุกคนต่างตาลายหากการที่นางปฏ
ฮูหยินใหญ่หัวใจกระตุกวูบนางคิดบัญชีกับอี๋เหนียงห้าเสร็จแล้ว ก็หันมาคิดบัญชีกับนางงั้นหรือ?ฮูหยินใหญ่ส่งสายตาให้แม่นมผู้ดูแล ตวาดเสียงลั่น "เงินเดือนของคุณหนูสามเล่า เหตุใดนางถึงไม่ได้รับ? หรือว่าพวกเจ้าแอบยักยอก""ฮูหยินโปรดตรวจสอบ ต่อให้ข้าทาสจะใจกล้าเพียงใด ข้าทาสก็ไม่กล้ายักยอกเงินเดือนของคุณหนูสามหรอกเจ้าค่ะ ข้าทาสจะตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าค่ะ""แม่นมไป๋ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนละ ในเมื่อบัดนี้ข้าคือว่าที่พระชายาของเทพสงครามหานอ๋อง หากหานอ๋องรู้เข้าว่าพระชายาของเขาใช้ชีวิตอย่างลำบาก เกรงว่าเขาคงจะไม่พอใจนัก""เจ้าค่ะๆ..."คนทั้งจวนสีหน้าไม่สู้ดีนักยังไม่ทันได้เป็นหานอ๋องเฟย ก็เริ่มวางท่าเป็นหานอ๋องเฟยแล้ว ใครก็รู้ว่าหานอ๋องมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หากหานอ๋องไม่อยู่แล้ว คอยดูซินางจะอวดดีเช่นนี้หรือไม่กู้ชูหน่วนกวาดตามองทุกคน ณ ที่นั้น ก่อนจะประกาศตนเสียงทรงอำนาจ "นับแต่วันนี้เป็นต้นไป หากผู้ใดกล้ารังแกชิวเอ๋อร์ ก็เท่ากับรังแกข้า แม้ในจวนนี้ข้าจะฐานะต่ำต้อยไปสักหน่อย แต่ข้าคิดว่าด้วยฐานะของธิดาแห่งองค์หญิงเจาหลิง หากจะสั่งประหารชีวิตใครสักคนคงพอมีอำนาจอยู่บ้าง"ทุกคนหวาดผวาตัวสั่
หากไม่พูดถึงอาจารย์ซ่างกวานก็แล้วไป แต่พอเอ่ยถึงเขา สีหน้าขององค์หญิงตังตังก็แย่ยิ่งไปกว่าเดิมกู้ชูหลันร้อนรน หากองค์หญิงจ่ายหนึ่งล้านตำลึงจริงๆ เช่นนั้นนางก็ต้องจ่ายสองแสนตำลึงเช่นกันหรือ?เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้ชูหลันก็ยิ้มเย็นเอ่ย "เจ้ามิได้ใช้ความสามารถผ่านเข้ารอบเป็นสามอันดับแรก เดิมพันครั้งนี้เป็นโมฆะ""ลูกสาวอนุก็คือลูกสาวอนุ ไร้อารยะ น่ากลัวแท้""เจ้าด่าใคร ข้าไร้อารยะอย่างไร?" ต่อให้นางจะไร้อารยะแค่ไหน แต่ก็เหนือกว่ากู้ชูหน่วนหลายขุมก็แล้วกัน"ตอนพวกเราวางเดิมพัน ได้กำหนดหรือว่าห้ามใช้อาศัยดวง? ดูเหมือนว่าจะตัดสินกันที่แพ้ชนะเท่านั้นนะ?""แต่...""องค์หญิง คนชั่วบางคนแค่เงินน้อยนิด ก็ไม่ยอมจ่าย ข้าเชื่อว่าองค์หญิงอย่างท่าน คงไม่หน้าด้านหน้าทนเหมือนนางแน่นอน"องค์หญิงตังตังและกู้ชูหลันโมโหจนธาตุไฟแทบแตกกู้ชูหน่วนบีบให้พวกนางจ่ายเงินชัดๆ หากไม่จ่าย พวกนางก็จะเสียหน้าไม่เหลือชิ้นดีองค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด "ข้ากล้าพนันก็กล้าเสีย ประเดี๋ยวให้บ่าวนำเงินหนึ่งล้านตำลึงมาส่งให้เจ้า" องค์หญิงตังตังกัดฟันจนปากสั่นยามพูดนั่นมันเงินหนึ่งล้านตำลึงเชียวนะ กลัวก็แต่จวนองค์หญิงมี
ทั้งห้องมีเพียงองค์หญิงตังตังและกู้ชูหลันที่ใบหน้าเหยเก เดิมที่การพนัยครั้งนี้พวกนางต้องชนะแน่นอน แต่ยามนี้กู้ชูหน่วนกลับโชคหล่นทับดอกไม้แดงอยู่ในมือนาง เช่นนั้นก็แปลว่านางคือคนที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเซียวอวี่เชียนตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่กระนั้นก็ไม่อาจปกปิดความดีใจได้"ยัย...ยัยขี้เหร่ เสียงกลองหยุดแล้ว เจ้าชนะแล้ว"กู้ชูหน่วนก็เองก็คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้โชคจะหล่นทับเธอ เธอยังคิดอยู่เลยว่าการจะเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้ คงต้องใช้เวลาสักหน่อยนอกจากอาจารย์ซ่างกวานแล้ว อาจารย์ทุกคนต่างมุมปากกระตุกหงึกยกตำแหน่งนี้ให้นาง เท่ากับดูหมิ่นทุกสรรพสิ่ง นางเป็นแค่คนไม่เอาถ่ายคนหนึ่ง จะสู้ยอดฝีมือจากแคว้นจ้าว แคว้นหวา หรือแคว้นฉู่"กู้ชูหน่วน คุณหนูสามตระกูลกู้ เข้ารอบชิงชนะเลิศโดยมิต้องผ่านการทดสอบ" ตาเฒ่าสวีพูดอย่างไม่เต็มใจองค์หญิงตังตังลุกพรวดขึ้นมาคนแรก "อาจารย์ เช่นนี้ไม่ยุติธรรม หากไม่ใช่เพราะเซียวอวี่เชียนยื้อดอกไม้เอาไว้นานขนาดนั้น เสียงกลองคงไม่หยุดที่กู้ชูหน่วนพอดี"กู้ชูหลันพยักหน้า "องค์หญิงพูกถูกต้องเจ้าค่ะ เซียวอวี่เชียนโกง ครั้งนี้ไม่นับ"หากกู้ชูหน่วนชนะ สองแสนตำลึงของนางก
"ใช่แล้ว""อาจารย์ เช่นนั้นพวกเราจะเลือกอย่างไร?"ทุกคนเตรียมตัวพร้อม อยากให้ข่าวดีเกิดขึ้นกับตัวเอง"ตีกลองส่งดอกไม้ พวกเราส่งต่อดอกไม้ทีละคน หากเสียงกลองหยุดแล้วดอกไม่อยู่ที่ใคร คนนั้นก็จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ""นี่มันวัดดวงชัดๆ"พวกหลิ่วเยว่และเซียวอวี่เชียนต่างให้ความสนใจ"พี่ใหญ่ หากดอกไม่ส่งมาถึงพวกเราได้ พวกเราก็จะดังข้ามคืนเชียวนะ""เซียวอวี่เชียนเองก็ยิ้มหากได้ตำแหน่งคนที่สีมา ไม่แน่ว่าวันหน้าท่านพ่อจะไม่ด่าไม่ทุบตีเขาอีกไม่สิ...คนที่ต้องการตำแหน่งนี้มากที่สุดน่าจะเป็นกู้ชูหน่วนหากนางแพ้ เช่นนั้นแล้ว...สิ่งที่นางสูญเสียอาจจะเป็นชีวิตเซียวอวี่เชียนตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จะแย่งชิงดอกไม้นั้นมาให้นางให้ได้ตีกลองส่งดอกไม้ได้เริ่มต้นขึ้น ฝ่ามือเรียวขาวของซ่างกวานฉู่หนิบดอกไม้สีแดงสดขึ้นมา เผนยิ้มสง่างาม "ส่งต่อตามลำดับ ไม่ว่าก็ห้ามเก็บดอกไม้ไว้กับตัว ไม่อยากนั้นจะถูกตัดสิทธิ์"ว่าจบเขาก็ส่งสัญญาณเมือน กู้ชูอวิ๋นรับต่อ ใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบนั้นแดงระเรื่อด้วยขณะเดียวกัน คนด้านล่งก็เริ่มตีกลอง เสียงกลองตึงตัง กู้ชูอวิ๋นเสียดายแต่ก็จำใจส่งต่อกู้ชูหลันกับองค์ห
วิชานี้มีอาจารย์มาหลายคน ผู้สอนคืออาจารย์สวี พอได้ยินเสียงบ่นของเขา กู้ชูหน่วนก็อ้าปากหาววอด ฟุบลงกับโต๊ะแล้วผล็อยหลับไป"ปึง..."ทันใดนั้นก็มีคนตบโต๊ะของเธออย่างแรงจนเธอสะดุ้งตื่น"ใครกันไร้คุณธรรมเสียจริง ตบโต๊ะข้าได้อย่างไร?" กู้ชูหน่วนยกหมัดสวน"พัวะ..."หมัดนั้นต่อยเข้าที่เบ้าตาขวาของอาจารย์สวี เจ็บจนเขาร้องโอดโอย ดวงตาบวมช้ำคล้ำเขียว"กู้ชูหน่วน สามหาวนัก กล้าต่อยแม้แต่อาจารย์ ข้า...ข้าจะทูลฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทลงโทษเจ้า""โธ่ ที่แท้ก็อาจารย์สวีนี่เอง ท่านสอนหนังสืออยู่ดีๆ แล้วมาตบโต๊ะข้าทำไมกันเล่า เขากำลังฟันเห็นโจรป่า คิดว่าโจรป่าจะทำมิดีมิร้ายข้า ข้าถึงได้คิดว่าท่านเป็นโจรป่าอย่างไรเล่า?"อาจารย์สวีโมโหจนหายใจหอบ "หลับให้ห้องเรียน ยังจะมาเถียงอีก""เมื่อวานท่านรับปากเองแล้วนี่ ว่าอนุญาตให้ข้าหลับในคาบเรียนได้? หากท่านจะกราบทูลฝ่าบาท ข้าก็ไม่ติดใจ เอาเป็นว่าเมื่อวานท่านอนุญาตให้ข้าหลับเพื่อให้ข้าท่องกลอนซูหลีประโยคสุดท้าย คนได้ยินทั้งห้อง ท่านหนีไม่พ้นหรอก"อาจารย์ทุกคนหันไปทางอาจารย์สวี อาจารย์สวีตั้งรับไม่ไหว ทำได้เพียงตวาดลั่น "เกินกำลังที่ข้าจะสั่งสอน เกินกำลังที่ข้าจ
พวกหลิ่วเยว่เดินวนไปมาอย่างร้อนใจ "ลูกพี่ ท่านพนันด้วยมือและเท้าทั้งคู่เลยนะ พวกเราจะไม่เดิมพันได้อย่างไร""สองแสนตำลึงเชียวนะ เหตุใดไม่เดิมพัน?""นางเป็นแค่ลูกสาวอนุ จะมีเงินสองแสนตำลึงได้อย่างไร? ชนะแล้ว ก็ไม่ได้เงินอยู่ดี ถ้าแพ้แล้ว แต่ท่านถูกตัดมือตัดเท้าเลยนะ"กู้ชูหน่วนยกยิ้มก่อนจะเอ่ยในทันใด "น้องหา หลิ่วเยว่พูดมีเหตุผล หากเจ้าไม่มีเงินสองแสนขึ้นมา เช่นนั้นหากข้า...ชนะ ก็ไม่ได้เงินน่ะสิ? ข้าว่าเดิมพันครั้งนี้ถือว่าไม่เกิดขึ้นก็แล้วกัน"เมื่อครู่กู้ชูหลันยังสงสัยว่านางมีกลโกง แต่เห็นนางถอยเช่นนี้ จึงคิดว่าอีกฝ่ายกลัว รู้สึกมั่นใจอย่างบอกไม่ถูกนางล้วงตราประทับออกมาจากอกแล้ววางบนโต๊ะ "นี่คือสิ่งที่ท่านตามอบให้ข้า ด้วยตราประทับนี้ เจ้าจะครอบครองร้านค้าทั้งหมกหลายสิบแก่ง คงพอสองแสนตำลึงแล้วกระมัง?"กู้ชูหน่วนยิ้มร้ายประโยคนี้แหละที่รออยู่"ได้ เช่นนั้นก็ลงชื่อเป็นหลักฐาน"กู้ชูหน่วนและกู้ชูหลันลงนามในสัญญา ทุกคนต่างตกตะลึง"แม่เจ้า ที่ข้าเห็นคืออะไร... กู้ชูหลันมิใช่ลูกสาวอนุหรอกหรือ? เหตุใดนางถึงได้มีเงินเยอะขนาดนั้น""เหมือนท่านตาของนางจะเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองค้
"แต่ว่า...""ข้าว่าที่คุณหนูห้าพูดก็มีเหตุผล เดิมพันครานี้ ข้าต้องชนะแน่นอน มีอะไรต้องกลัวกัน"นางว่าพลางลงนามด้วยพู่กันกู้ชูหลันกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะเปลี่ยนใจ จึงรีบเร่งให้นางลงนามเช่นกัน กู้ชูหน่วนจ้องพู่กันที่นางยื่นให้อยู่นาน สุดท้ายจึงเลือกประทับรอยนิ้วมือแทนทุกคนพากันหัวเราะ"แม้แต่ชื่อตัวเองนางยังเขียนไม่เป็น ยังคิดจะเข้ารอบชิงอีก ฝันกลางวันชัดๆ""นี่ หากต้องตกอยู่ในกำมือองค์หญิงตังตัง สู้ตายไปเสียยังจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทรมาน"หลิ่วเยว่และพรรคพวกเตือนนางก็แล้วก็ไม่สำเร็จ ทำได้เพียงร้อนใจ แถมไม่รู้เพราะเหตุใดพี่ใหญ่เซียวอวี่เชียนดันมาสายอีกทุกคนต่างคิดว่ากู้ชูหน่วนแพ้แน่นอน มีเพียวกู้ชูอวิ๋นเท่านั้นที่นึกคลางแคลงใจนางเองก็ไม่ได้คิดจะห้ามองค์หญิงตังตังจริงๆ หรอก ก็แค่ทำพอเป็นพิธีองค์หญิงตังตังยิ้มลำพองใจ "หากเจ้าแพ้ละก็ ข้าจะตบหน้าเจ้าหน้าประตูสำนักบัณฑิตหลวงห้าร้อยครั้ง ข้าจะขังเจ้าในสังเวียนชนสัตว์ ให้เจ้าดวลกับสัตว์ป่า แล้วข้าก็จะ...""องค์หญิง รอท่านชนะก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องพวกนั้นดีกว่า? หากท่านแพ้ขึ้นมา เดี๋ยวจะหน้าแตกเอา""ข้าจะแพ้ได้อย่างไร""เด็กดี เรียกน้
องค์หญิงตังตังเดินเข้ามาอย่างโดดเด่นดั่งเดือนท่ามกลางหมู่ดาว ตามหลังมามีทั้งกู้ชูหลันและกู้ชูอวิ๋นนางเอ่ยเหน็บแนม "ใครบางคนไม่ประมาณตน คิดว่าตัวเองจะชนะ ไม่ดูสภาพตัวเองเลย""เอ๊ะ นั่นมิใช่หลานสาวข้าหรอกหรือ อรุณสวัสดิ์ เจ้าก็มาลงเดิมพันว่าน้าสะใภ้จะชนะใช่หรือไม่""น้าสะใภ้อะไรเล่า เจ้ามีสิทธิอะไรมาเป็นน้าสะใภ้ข้า""แปลกนัก หรือว่าเทพสงครามมิใช่เสด็จน้าของเจ้า? เช่นนั้นก็ได้ ในเมื่อเทพสงครามไม่คู่ควรจะเป็นเสด็จน้าของเจ้า ก็คิดเสียว่าข้าไม่เคยพูด"องค์หญิงตังตังเลือดขึ้นหน้า "ข้าด่าเจ้า เกี่ยวอะไรกับเสด็จน้าของข้า?""ข้าเป็นคู่หมั้นของเขา ก็เหมือนคนๆ เดียวกัน หากข้าไม่คู่ควร เช่นนั้นแล้วเขาจะคู่ควรได้อย่างไร? เจ้าวางใจเถิด หากข้าได้พบเขา ข้าจะบอกเขาตามความจริง บอกว่าองค์หญิงตังตังพูดต่อหน้าทุกคนว่าเขาไม่คู่ควรจะเป็นเสด็จน้าของเจ้า"องค์หญิงตังตังแทบกระอักเลือด เหตุใดถึงไม่มีใครบอกเลยว่ากู้ชูหน่วนปากร้ายปานนี้?เมื่อวานถูกฉีกหน้ากลางที่สาธารณะ นางก็แทบทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ยังมาดูแคลนนางต่อหน้าผู้คนอีก หากนางอดทนได้ อย่ามาเรียกนางว่าองค์หญิงตังตังเลยขณะที่กำลังระเบิดอารมณ์กลับเห็น
นางเป็นห่วงตัวเองเสียที่ไหน นางเป็นห่วงคุณหนูต่างหากถึงได้เสี่ยงหนีออกจากมาจากจวน ออกตามหาคุณหนู บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจวน "เรือถึงฝั่งแล้วค่อยเทียบท่า ทหารบุกมาค่อยรับมือ หากน้ำหลากย่อมมีดินสูบ" แม้ปากของกู้ชูหน่วนจะพูดว่าไม่ใส่ใจ แต่ในแววตานั้นมีความกระวนกระวายแฝงอยู่ตามที่เธอคาดการณ์ไว้ เซี่ยอวี่น่าจะตายอย่างเร็วคงเป็นตอนบ่ายวันนี้ แต่ทำไมถึงได้ตายตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว ในจวนมีคงมีคนอยากกำจัดมือเท้าของอี๋เหนียงห้าไปให้พ้นเสียทีโชดคีที่ชิวเอ๋อร์เป็นห่วงเธอ แล้วหนีออกมาก่อน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่คิดถึงผลที่ตามมาใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว นักเรียนสี่ห้าคนจับกลุ่มกันเดินเข้ามาในสำนักบัณฑิต กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเรียบ "วันนี้เจ้าอยู่ที่สำนักบัณฑิตหลวงนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น"ชิวเอ๋อร์ร้องได้สะอื้นตอนกลางวันพวกนางยังพอซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ แต่ประเด็นคือตอนกลางคืนเล่า?ชิวเอ๋อร์ไม่คิดจะถามต่อแล้ว กู้ชูหน่วนก็เดินเข้าไปเข้าไปยังชั้ยในสำนักบัณฑิตแบ่งเป็นขั้นในกับชั้นนอก บ่าวรับใช้อย่างพวกนางต้องรออยู่ชั้นนอกเท่านั้นตลอดทางที่กู้ชูหน่วนเดินผ่าน ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาแปลกประหลา
เลือดลมตีกลับ พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ หากไม่ช่วยชีวิต เขานั้นตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย"ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้ถึงได้เจอเจ้าอยู่เรื่อย ช่างเถอะ เห็นแก่ที่แทะโลมเจ้าไป จะช่วยชีวิตเจ้าอีกสักครั้งก็ได้"กู้ชูหน่วนว่าพลางคุกเข่าลง จับชีพจรของเขา เพียงสัมผัสชีพจร สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนโดนพิษถึงสองชนิดเลยหรือ แถมยังเป็นพิษที่ร้ายแรงและโหดเหี้ยมที่สุดในโลกอีกต่างหากชนิดแรกคือพิษเหมันต์ พิษเหมันต์นี้คงจะติดตัวมาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในท้องแม่ หลังจากคลอดออกมา ทุกวันที่สิบหน้าของเดือนเขาถึงต้องทรมานกับความเจ็บปวดที่คนทั่วไปไม่อาจต้านทานได้เมื่อพิษเหมันต์ออกฤทธิ์ เลือดที่ส่งไปยังอวัยวะภายในทั้งห้าและทวารทั้งหกจะแข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ทำในเขาหนาวเหน็บเหมือนตายทั้งเป็น แต่กลับตายไม่ได้อีกชนิดหนึ่งคือพิษมารทลโลหิต พิษนี้ร้ายแรงถึงชีวิต เมื่อออกฤทธิ์จะทะลวงเข้าไปถึงกระดูก ร่างทั้งร่างเหมือนถูกมดนับหมื่นรุมตอมกัด ประหนึ่งมีดนับพันทิ่มแทงเขาหมายจะใช้พิษเหมันต์และหมื่นบุปผายับยั้งพิษมารทลโลหิต เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ทว่าพิษทั้งสองชนิดนี้ไม่ถูกกัน ความเจ็บปวดท