Share

บทที่ 158

Author: เย่ชิงขวง
"ได้ ห้าสิบล้านตำลึงก็ห้าสิบล้านตำลึง" ไทเฮาปากสั่นไปหมด เมื่อกวักมือเรียกก็มีข้ารับใช้ยกหีบตั๋วเงินและเพชรพลอยต่างๆเข้ามาวางตรงหน้ากู้ชูหน่วน

"ตั๋วเงิน เครื่องประดับ ของโบราณ และเพชรพลอยพวกนี้ มูลค่าเทียบเท่าห้าสิบล้านตำลึง คุณหนูสามกู้จะตรวจสอบดูก่อนก็ย่อมได้"

ทุกคนต่างรู้ดี

ไทเฮาไม่มีเงินแล้ว

ถึงได้นำของเก่า เครื่องประดับเพชรพลอยออกมา

กู้ชูหน่วนเปิดหีบดู ภายในมีทั้งไข่มุก โกเมน แก้วตาแมว หรือแม้แต่ไข่มุกราตรีเม็ดใหญ่เท่าไข่ไก่มากมาย

กู้ชูหน่วนเปิดทีละหีบ นับทีละชิ้น ทุกหีบมีมูลค่าแทบจะซื้อเมืองได้ทั้งเมือง

"เฮือก..."

ทุกคนมองจนตาแทบหลุด

หัวใจขององค์หญิงตังตังและไทเฮาอาบเลือด แทบอยากจะฟันกู้ชูหน่วนเป็นชิ้นๆ เพื่อระบายความโกรธแค้นในใจ

เอาเงินก็แล้วไป แต่ยังเปิดทีละหีบ นับทีละชิ้นต่อหน้าพวกนางอีก แบบนี้ต่างอะไรจากประหารพวกนางหรือ

องค์หญิงตังตังร้อนรนจนนิ่งเฉยไม่ไหว อยากให้เสด็จแม่ถอนคำพูด แต่ก็กลัวว่าไทเฮาจะตบหน้าเป็นรางวัล

แล้วก็เป็นเซียวอวี่เชียนที่ทนดูต่อไปไม่ไหว เขาเดินเข้ามา เอ่ยเสียงกระซิบ "ยัยขี้เหร่ พอแค่นี้เถิด สีหน้าของไทเฮาไม่ค่อยสู้ดีนัก"

"เงินมาของไป หากข้านับ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 159

    กู้ชูหน่วนตาเบิกโพลง กะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ก่อนจะผายมือยักไหล่เอ่ย "เมื่อคืนข้าถูกคนลอบสังหารไม่รู้กี่หน ระหว่างหนีเอาตัวรอด หยกจันทร์เสี้ยวตกลงมา หลักจากนั้น...มันก็แตก"ไทเฮาสมองพร่ามัว แทบจะเป็นลมล้มไป นางชี้กู้ชูหน่วน เดือดดาลจนพูดไม่ออกกู้ชูหน่วนยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจไม่มีเกรงกลัว "ไทเฮา คนของฮ่องเต้กล้าเข้ามาสังหารนักเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง นี่เรียกว่าท้าทายฮ่องเต้ ท้าทายไทเฮา ท้าทายกฎหมายแคว้นเย่ ที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือเขายังทำหยกจันทร์เสี้ยวที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้องค์หญิงตังตังเสียหายอีก ขอไทเฮาโปรดจับตัวคนร้าย แล้วตัดมือให้เข็ดหลาบด้วยเถิด""สามหาว กู้ชูหน่วน หยกจันทร์เสี้ยวเสียหายยามอยู่ในมือเจ้า เจ้ากลับเล่นลิ้น ใครก็ได้ จับตัวหญิงนางนี้ไปที"ไทเฮาเดือดดาล คนทั้งสำนักบัณฑิตหลวงตื่นตระหนก พากันคุกเข่าลงเป็นแถวเซียวอวี่เชียนเอ่ยอย่างร้อนใจ "ไทเฮา เมื่อคืนนี้มีมือสังหารมากมายหมายจะเอาชีวิตยัยขี้เหร่นี่จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ หากไม่ใช่เพราะนางหนีได้ทัน ป่านนี้คงตายไปแล้ว หยกจันทร์เสี้ยวเสียหาย ก็มิควรโทษนางเพียงผู้เดียว""ข้าจะลงโทษผู้ใด เจ้ามีสิทธิห้ามตั้งแต่เมื่อไหร่"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 160

    เพียงแค่ประโยคสั้นๆ แต่กลับทำให้หวาดผวาขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทุกคนเงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองออกไปไม่ไกล ภาพที่เห็นคือชิงเฟิงเข็นรถเข็นเข้ามา ด้านข้างมีเจี้ยงเสวี่ยยืนขนาบส่วนคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้น จะเป็นผู้ใดนอกเสียจากเทพสงครามหานอ๋องทุกคนต่างตื่นตะลึงเทพสงคราม...เทพสงครามตัวจริง?เขาไม่ได้ป่วยใกล้ตาย หายใจติดขัด ออกจากจวนไม่ได้หรอกหรือ? วันนี้เหตุใดถึงได้มาถึงสำนักบัณฑิตหลวง?ดวงตาเหี้ยมโหดของเย่จิ่งหานแสนเย็นชาประหนึ่งกระบี่ในธารน้ำแข็ง กวาดมองทุกคนในที่นั้นนั่นเป็นสายตาที่ให้ความรู้สึกดุจดั่งเขานั้นเหนือกว่าผู้ใด ยื่นตระหง่านอยู่บนยอดผา กำลังก้มลงมองเหล่ามดตัวกระจ้อยสุดท้ายเขาหยุดสายตาลงบนร่างของกู้ชูหน่วนที่กำลังทำท่าเอื่อยเฉื่อย"ได้ยินมาว่ามีคนคิดจะแตะต้องอ๋องเฟยของข้า"เพียงประโยคหยั่งเชิง ไทเฮากลับหน้าซีดเผือดอ๋องเฟยของข้า?เทพสงครามคิดจะปกป้องนางหรือ?ทุกคนต่างตกตะลึงเทพสงครามยอมรับว่ากู้ชูหน่วนคือชายาของเขา นั่นมันหญิงอัปลักษณ์เลยนะไทเฮาฉีกยิ้มเหยเก ไม่มีแล้วท่าทีวางอำนาจเหมือนเมื่อครู่ "กู้ชูหน่วนทำหยกจันทร์เสี้ยวที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้องค์หญิงตั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 161

    เย่จิ่งหานเลิกคิ้ว "ทำไม ข้าจะไปไหนต้องบอกเจ้าด้วยหรือ"นางผู้นี้ ช่วยเหลือนางแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณสักคำ ยังคิดจะไล่เขาไปอีก"ได้ที่ไหนกันเล่า เพียงแต่ท่านผู้มีอำนาจใหญ่โตมาอยู่ในสำนักบัณฑิตเช่นนี้ ดูสิ ทำพวกเขาตกใจกลัวกันหมด แล้วพวกเขาจะมีกะจิตกะใจเรียนได้อย่างไร ข้าช่วยท่านสร้างกุศลอยู่หรอกนะ"กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเหล่านักเรียนที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่เต็มสำนักบัณฑิต สายตาแฝงไว้ด้วยความหยอกเย้าเซียวอวี่เชียนและคนอื่นๆ คิดว่าเทพสงครามไม่มีทางยอมกลับไปง่ายๆ แน่ คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานเพียงแค่โบกมือ ชิงเฟิงก็เข้าใจในทันที พลันเข็นรถเข็นออกไปจากสำนักบัณฑิตหลวงทิ้งไว้เพียงแค่ประโยคเรียบๆ ประโยคเดียว "หากคืนนี้ไม่กลับจวนอีก เจ้าคอยดูแล้วกันว่าสี่เท้าของเจ้า จะยังเก็บรักษาไว้ได้อยู่หรือไม่"เอ๊ะ...เทพสงครามกลับไปง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือเขามาที่นี่แค่เพื่อช่วยยัยขี้เหร่จริงๆ หรือย้อนนึกถึงท่าทีที่เทพสงครามมีต่อกู้ชูหน่วนหลายๆ ครั้ง เซียวอวี่เชียนเหมือนจะพอเข้าใจแล้วว่า บางทีเทพสงครามอาจจะไม่ได้พูดยากอย่างที่คิดส่วนกู้ชูหน่วนกลับกระตุกมุมปากเบาๆสี่เท้า ?ว่านางเป็นสุนัขเช่นนั้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 162

    ผ่านไปแสนนาน ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกนออกมาก่อนว่าเพลงดี ถึงได้เรียกสติทุกคนกลับมาได้ทุกคนมองเยี่ยเฟิงด้วยความตกตะลึงไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึง เขารอบรู้ปรีชาก็พอว่า แต่ยังเล่นฉินได้ไพเราะถึงเพียงนี้อีกทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างพากันกระซิบกระซาบ"ฝีมือการบรรเลงฉินของเยี่ยเฟิง หากเทียบกับอาจารย์ซ่างกวาน เรียกได้ว่าสูสีกันเลยทีเดียว""ก็ใช่น่ะสิ ข้าไม่เคยได้ยินผู้ใดบรรเลงฉินได้จับใจเช่นนี้มาก่อน ทำเอาใจข้าแตกเป็นเสี่ยงแล้ว เหตุใดเสียงฉินของเขาถึงได้เศร้าสลดเพียงนั้น""ข้าคิดว่าฝีมือฉินของคุณหนูสองกู้ดีมากแล้วเสียอีก ยามนี้พอเทียบกับเยี่ยเฟิง ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย น่าเสียดายที่การประลองศิลปะไม่มีการแข่งประลองฉิน ไม่เช่นนั้นเยี่ยเฟิงจะต้องชนะแน่"สีหน้าของกู้ชูอวิ๋นมืดดำนางเสียสิทธิ์ในการร่วมประลองศิลปะไป เดิมตั้งใจจะมีชื่อเสียงกระฉ่อนเมืองหลวงด้วยสิ่งนี้ คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเยี่ยเฟิงเอาชนะเสียได้เขาก็แค่บัณฑิตยากจนผู้หนึ่ง เหตุใดจึงได้เล่นฉินได้ดีถึงเพียงนี้ที่ผ่านมา ไม่ว่านางจะยืนอยู่ที่ใดก็ล้วนแต่เจิดจรัสดึงดูดสายตาที่สุดเสมอ ยามนี้นางกลับถูกด้อยค่าลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าขืนเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 163

    กู้ชูหน่วนแบ่งยาเป็นสองส่วน กินไปครึ่งเม็ด อีกครึ่งเม็ดบดเป็นผงแล้วทาบนใบหน้านางส่องกระจก เห็นตุ่มหนองบนใบหน้าของตนในกระจกค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว มองดูไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว ผิวก็ดูฉ่ำวาวขึ้นกว่าเดิมเพียงแต่รอยแผลเป็นน่ากลัวที่สลับทับกันราวกับเนินเขายังคงอยู่หากไม่กำจัดรอยแผลเป็นเหล่านี้ ใบหน้าของนางก็ยังคงอัปลักษณ์สุดจะมองเหมือนเดิม"เห็นทีต้องรีบคิดวิธีหาหญ้าตี้อวี้ให้เจอแล้ว"กู้ชูหน่วนผลักประตูห้องออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วสูดอากาศที่บริสุทธิ์เดิมทียังพอมีความหวังว่า ขาดตัวยาไปตัวเดียวอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นางคงจะฝันหวานเกินไป"ยัยขี้เหร่ ในที่สุดก็หาเจ้าเจอ เจ้ามาแอบอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใด นี่ก็ใกล้จะยามจื่อแล้ว เจ้ายังไม่รีบกลับจวนหานอ๋องอีก หากเทพสงครามตัดขาเจ้าขึ้นมาจริงๆ จะทำเช่นไร"เขาจะกล้าตัดหรือเว้นเสียแต่ว่าเขาไม่ต้องการถอนพิษแล้วกู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ ก่อนจะพูดนิ่งๆ "ดึกขนาดนี้แล้วหรือ เจ้าบาดเจ็บ ทำไมยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก""ไม่ใช่เพราะห่วงเจ้าหรืออย่างไร เจ้านี่เป็นสตรีที่ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ความเอาเสียเลย"กู้ชูหน่วนกอดคอเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 164

    เจ้าสำนักนอนจมกองเลือด ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง ราวกับค้นพบความลับสำคัญบางอย่าง ตายตาไม่หลับ ถูกใครบางคนปาดคอเงยขึ้นไปมองรอบๆ หอสมุดอีกครั้ง ไร้ซึ่งร่องรอยการต่อสู้โดยสิ้นเชิง หากทายไม่ผิด น่าจะถูกคนข้างกายที่ไว้ใจเป็นอย่างยิ่งหรือคนที่ไม่เคยระแวงสงสัยฆ่าอาจารย์หรงร้องคำราม "เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ วันนี้ผู้ใดเฝ้ายามตอนดึกที่หอสมุด เจ้าสำนักวิทยายุทธล้ำเลิศถึงเพียงนั้น จะถูกคนปาดคอได้อย่างไร"บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกขาอ่อน ตอบเสียงสั่น "เรียน...เรียนอาจารย์หรง หลังจากที่เจ้าสำนักมาถึงหอสมุด ก็บอกว่าตกดึกน้ำค้างลง ให้พวกเราไม่ต้องเฝ้ายาม กลับไปพักผ่อนได้เลย พวกเรา...พวกเราก็เลยกลับไป""เหลวไหล เจ้าสำนักให้พวกเจ้ากลับไป พวกเจ้าก็กลับเช่นนั้นหรือ พวกเจ้าไม่รู้จักเฝ้าจากไกลๆ หรืออย่างไร"เห็นอาจารย์หรงกำลังจะระเบิดอารมณ์ อาจารย์สวีจึงกล่าวเตือน "เจ้าสำนักใจดีมีเมตตา ที่ผ่านมาก็ให้บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกกลับไปพักอยู่บ่อยๆ ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ท่านก็อย่าโทษพวกเขานักเลย"หลังจากที่อาจารย์ซ่างกวานตรวจสอบศพของเจ้าสำนักจนทั่วแล้วรอบหนึ่ง จึงเอ่ยถามเสียงขรึม"เมื่อครู่เกิดเหตุอั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 165

    ณ ห้องควบคุมตัวเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดเนื้อผ้าหยาบ หลังเหยียดตรง ยืนเงียบๆ อยู่ตรงกลางรอรับการพิจารณาคดีจากสำนักบัณฑิตหลวงใบหน้าของเขาซีดขาว ไม่รู้ว่าเพราะได้รับบาดเจ็บหรือเพราะป่วยอาจารย์หรงเอ่ยเสียงกร้าว "เยี่ยเฟิง เจ้าฆ่าเจ้าสำนักใช่หรือไม่"เยี่ยเฟิงดวงตาใสสว่าง ไม่จำเป็นต้องหยุดคิดก็ตอบออกมาทันที "ไม่ใช่""พยานก็อยู่ครบ เจ้ายังกล้าแก้ตัว" อาจารย์หรงโยนผ้าคาดผมเส้นหนึ่งลงตรงหน้าเยี่ยเฟิงเนื้อผ้าของผ้าคาดผมเส้นนั้นหยาบกระด้าง และเป็นเส้นที่เขาใช้บ่อยๆ ก่อนจะเข้ามาในสำนักบัณฑิตหลวงสำนักบัณฑิตหลวงที่กว้างใหญ่มีเพียงแค่เขาผู้เดียวที่ใช้ผ้าคาดผมอัตคัดเช่นนี้"วันนี้กู้ชูหน่วนดึงแขนเสื้อเจ้าขาด แล้วก็ดึงผ้าคาดผมของเจ้าขาดเป็นท่อน ตอนเจ้าไปเปลี่ยนชุด เจ้าก็เปลี่ยนผ้าคาดผมด้วย ตอนนั้นเจ้าใช้ผ้าคาดผมเส้นนี้พอดี"สายตาเฉยชาของเยี่ยเฟิงมองไปยังผ้าคาดผมที่คุ้นเคยบนพื้น ไม่ได้ปฏิเสธทุกคนต่างก็มองไปยังผ้าคาดผมบนศีรษะของเยี่ยเฟิง ผ้าคาดผมเส้นนั้นเรียบง่ายเหมือนกัน เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เส้นเดียวกับที่ใช้ตอนค่ำ"พูดมา เหตุใดเจ้าถึงได้ฆ่าเจ้าสำนัก" อาจารย์หรงเอ่ยถามอีกครั้งเยี่ยเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 166

    "ข้าก็เชื่อเจ้า"สิ่งที่ยิ่งทำให้เยี่ยเฟิงตกตะลึงคือ ยามนี้ เซียวอวี่เชียนที่คอยตั้งตัวเป็นอริกับเขาก็ออกมาปกป้องเขาด้วย เขามีบาดแผลเต็มตัว มือข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่คล้องอยู่บนคอ ทว่ากลับส่งยิ้มมาให้เขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเชื่อใจ"เพราะเหตุใด...""เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันอย่างไรเล่า"ทันทีที่ได้ยินคำว่าเพื่อน เยี่ยเฟิงก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ราวกับบางส่วนภายในจิตใจพังทลายเขาไม่มีเพื่อนตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยมีเพื่อนเลยเขา...ไม่มีใครคบ...ทุกคนตรงหน้าในยามนี้ล้วนแต่พุ่งเป้ามาที่เขา พวกเขาไม่ต้องเข้ามาแปดเปื้อนด้วยก็ได้ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นของกู้ชูหน่วนกวาดไปยังผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ริมฝีปากแดงเอื้อนเอ่ย "พวกเจ้าบอกว่าเยี่ยเฟิงเป็นคนฆ่า หากเขาฆ่าจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงกลับมา"ทุกคนชะงักงันทันใดนั้นเองก็มีคนตอบ "ที่เขาเข้ามาในสำนักบัณฑิตจะต้องมีเป้าหมายแน่ ยามนี้เป้าหมายนั่นอาจยังไม่บรรลุง จึงกลับมาอีกครั้ง""อ่อ เช่นนั้นเขามีเป้าหมายใด" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความตักเตือนคนผู้นั้นอึกอักอยู่นาน กลับพูดไม่ออกสักคำอาจารย์หร

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 294

    "ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 293

    ประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมองหม่นลงไปอย่างรู้สึกได้หากหัวหน้าเผ่าหมอไม่มา แม้นายท่านหลันจะมีวิทยายุทธที่สูงล้ำ แต่การจะล้มเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแต่หัวหน้าเผ่าหมอมาด้วยตัวเอง เรื่องก็เริ่มจะตึงมือขึ้นมาเล็กน้อยที่สำคัญที่สุดคือ การสู้กับเขตกองธงหลันในคราวนี้ เผ่าเทียนเฝินจะต้องเข้ามาประสมโรงเป็นแน่ ศัตรูรายใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฝิน"รีบสู้รีบจบ เอาหัวของนายท่านหลันมา แล้วค่อยล่อหัวหน้าเผ่าหมอออกมา"ซูมู่พลันเงยหน้า พูดด้วยความตกตะลึง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ผู้ที่มาครานี้มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไป ด้วยแรงของเจ้าคนเดียวจะสู้เขากับหัวหน้าเผ่าหมอได้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ หัวหน้าเผ่าหมอยกให้ข้า เจ้าตั้งใจรับมือกับเผ่าเทียนเฝินไปเถอะ""ไม่ทันแล้ว" ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งจากทางนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูงหากเขาทายไม่ผิด เผ่าเทียนเฝินและหัวหน้าเผ่าหมอกำลังทางนี้เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไปพลางเอ่ย "หากเจ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยข้าตามหาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 292

    ดวงตาที่นิ่งเรียบของเย่จิ่งหานไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆชายชุดครามซูมู่ยิ้มเยาะ"สำนักซิวหลัว เผ่าหมอ และเจ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำซึ่งกันและกัน หากความสัมพันธ์เช่นนี้ถูกทำลาย สองพยัคฆ์ช่วงชิงกัน เผ่าเทียนเฝินจะต้องถือโอกาสเข้ามาผสมโรงเป็นแน่""เผ่าเทียนเฝินเป็นเผ่าเก่าแก่กว่าพันปี แกร่งกล้ามั่นคง วิทยายุทธหัวหน้าเผ่าเกินกว่าจะประเมินได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ภายในเผ่ายังมีท่านผู้อาวุโสอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งปรมาจารย์อาวุโส ได้ยินมาว่า หัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไปเหนือกว่ารุ่นก่อน วิทยายุทธก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าเผ่า ต่อให้ผู้ใต้บัญชาของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด แต่จะเทียบพวกเขาได้อย่างไร""ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเผ่าเทียนเฝินนั้นสลับซับซ้อนนัก มีคนของพวกเขาอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า แคว้นเย่...เหอะ หากไม่มีเจ้า คงถูกแคว้นต่างๆ แบ่งกลืนดินแดนไปนานแล้ว ยามนี้ฮ่องเต้น้อยยังจะใจเย็นอยู่ได้อีก"เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงขรึม "ข้าว่าเจ้าคงว่างเกินไป"ซูมู่จัดระเบียบแขนเสื้อที่ใหญ่โคร่งของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ระหว่างที่กินผลไม้อย่างสง่างาม ปากก็พลอยคลี่ยิ้ม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 291

    ดวงตาสุกสกาวของกู้ชูหน่วนฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผาดหนึ่งจู่ๆ นางก็กุมหัวใจของตัวเองไว้แน่น เลือดพลันพุ่งทะลักออกมา ส่วนร่างของนางก็ล้มลงไปที่พื้น ร่างที่อ่อนแรงพูดด้วยความตกตะลึง "ผู้ใด...ผู้ใดช่างเหี้ยมโหด ถึงกับกล้า...วางยา..."ซืดดด....ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพากันมองไปยังกู้ชูหน่วนที่นอนหลับตาปี๋จมกองเลือดอยู่อย่างไม่เชื่อสายตา สายตาเต็มไปด้วยความลนลาน“หมอหลวง รีบตามหมอหลวง”ไม่รู้ผู้ใดในกลุ่มคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกเหล่าองครักษ์พากันวิ่งออกไปตามหมอหลวงอย่างรีบร้อน“พระชายา ท่านเป็นอะไรไป…”องครักษ์หญิงนางหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้าไปจับชีพจรของนาง สีหน้าที่เดิมก็ดูหวาดกลัวอยู่แล้วพลันซีดเผือด“ไม่…ไม่มีชีพจรแล้ว…พระชายาไม่มีชีพจรแล้ว”ฟู่วววร่างของทุกคนสั่นผวาไม่มีชีพจรก็หมายความว่าตายแล้วไม่ใช่หรือคุณพระช่วย หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเขาจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไรแต่พวกเขาคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะมีโอกาสวางยาพระชายาได้"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."ร่างที่อยู่ทั้งในที่ลับและที่สว่างต่างพากันออกไป บ้างก็ไปรายงานเย่จิ่งหาน บ้างก็ไปตามหมอ แค่เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ผู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 290

    หลายวันมานี้อยู่แต่ในจวนหานอ๋องมาตลอด กู้ชูหน่วนคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดีนางคลำทางไปด้วยความชำนาญ เพิ่งจะออกจากสวนไปได้ก็ถูกผู้อารักขาขวางเอาไว้"พระชายาอยากกินขนมตงฝูดอกกุ้ยฮวา พวกเจ้ารีบหลีกไป""ท่านอ๋องมีรับสั่ง ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามออกจากสวนไปแม้แต่ก้าวเดียว โดยเฉพาะท่าน พระชายา"บ้าเอ้ยนางพรางตัวแล้ว คนพวกนี้ยังจำได้อีกหรือเหมือนจะรู้ว่านางกำลังสงสัย อารักขาจึงอธิบาย"ใต้เท้าชิงเฟิงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เขาไม่มีทางออกไปจากเรือนทอจันทร์ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็กำชับไว้แล้วว่าพระชายาเชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลปากว้า แปลงกาย และบิดเบือนหลักการ ไม่ว่าผู้ใดคิดจะออกจากเรือนนี้ไปล้วนแต่เป็นไปได้ว่าคือพระชายาปลอมตัวมา""……"กู้ชูหน่วนหน้าเหวอวิเคราะห์นางได้อย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้เลยหรือ"เช่นนี้หากข้าจะดื้อดึงออกไป พวกเจ้าก็จะตัดขาของข้า หรือจะคร่าชีวิตเด็กในท้องแล้วค่อยสังหารข้า ?""ข้าน้อยไม่บังอาจ แต่ท่านอ๋องรับสั่งไว้แล้ว หากพระชายาออกไปจากเรือนทอจันทร์ ให้ทุบขาของแม่นางชิวเอ๋อร์เสีย"กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม "วันนี้ ข้าขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ข้าจะต้องออก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 289

    นัยน์ตาของนางดุจหยดน้ำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ ระหว่างที่มอง มีรังสีความสูงสง่ามออกมาโดยไม่ต้องแสร้งทำกู้ชูหน่วนลูบใบหน้ารูปไข่ที่เกลี้ยงเกลาของนาง มุมปากยกยิ้มจางๆรูปโฉมนี้ ไม่เสียแรงที่นางดั้นด้นตามหาหญ้าตี้อวี้และดอกเยียนหลัวด้วยความยากลำบากเป็นเวลานานเดิมกู้ชูหน่วนไม่อยากคลุมผ้าคลุมหน้า ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใด สุดท้ายนางก็หยิบผ้าคลุมหน้าออกมาปกปิดใบหน้าที่งามหยาดเยิ้มของนางเอาไว้ เผยให้เห็นเพียงแค่ดวงตาใสสว่างคู่นั้น"ชิงเฟิง""ข้าน้อยอยู่นี่ ไม่ทราบว่าพระชายามีสิ่งใดให้รับใช้""ท่านอ๋องได้ไปที่เขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองหรือไม่""เรื่องนี้...ข้าน้อยไม่ทราบได้""ไปสืบถามมาหน่อย""พระชายา นายท่านรับสั่งเอาไว้ นอกจากคุ้มกันท่าน เรื่องอื่นห้ามยุ่ง ยิ่งห้ามพูดคุยกับพระชายา""เช่นนั้น ควาหมายของเจ้าก็คือ ข้าถูกกักขัง"“ข้าน้อยมิบังอาจ”"ในเมื่อไม่กล้า เช่นนั้นเจ้าว่า ยามนี้เจ้าควรทำอะไรเล่า" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ดวงตาที่ใสเป็นประกายคู่นั้นฉายแววที่ต่างออกไปชิงเฟิงตัวสั่นระรัวไปชั่วขณะ พูดด้วยความตัดพ้อ "พระชายา ได้โปรดอย่าทำให้บ่าวลำบากใจเลย"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 288

    ณ เรือนทอจันทร์ จวนหานอ๋องกู้ชูหน่วนยืนอยู่ริมหน้าต่าง ทอดมองไปยังนกบนยอดไม้ นิ้วที่ข้อต่อชัดเจนเคาะเป็นจังหวะเบาๆเย่จิ่งหานไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะไปเขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองแต่เขาก็รับปากแล้วว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยออกมาอย่างปลอดภัย และจะปลิดชีวิตนายท่านหลัน คงทำได้จริงเหตุใดภายในใจนางถึงได้ว้าวุ่น รู้สึกว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรบางอย่างอยู่เรื่อย"แอ๊ด" ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ชิวเอ๋อร์ยกถ้วยยาบำรุงเข้ามา"คุณหนู เหตุใดยังยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้คุณหนูกำลังท้อง จะตากลมไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูลองชิมโจ๊กรังนกที่บ่าวเคี่ยวดูสิเจ้าคะ"กู้ชูหน่วนดึงความคิดกลับมา ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักกินทีละช้อนอย่างไม่ได้ใส่ใจ"รสชาติดีเลย ชิวเอ๋อร์ฝีมือยอดเยี่ยมเลยนี่"ชิวเอ๋อร์ยิ้มร่า ก่อนจะตักให้กู้ชูหน่วนเพิ่มอีกถ้วย "คุณหนู ต่างก็ว่ากันว่าเทพสงครามโหดเหี้ยม ฆ่าคนเป็นผักปลา จากที่บ่าวสังเกตในช่วงหลายวันมานี้ ที่จริงแล้วท่านอ๋องก็เป็นคนดีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะหลังจากที่คุณหนูตั้งท้องแล้ว ท่านอ๋องดีกับคุณหนูยิ่งกว่าเดิม""อ่อ...ดีกับข้าอย่างไรหรือ" ขังนางไว้ในเรือนเล็กๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยยอดฝีมือ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 287

    ความหมายอีกนัยหนึ่งของนางก็คือ หากเขาปฏิเสธ นางก็จะพาลูกไปเจอยมบาลแม้รู้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังขู่เขา แต่ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายเด็กกระทั่งวินาทีนี้ เย่จิ่งหานถึงได้พบว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มรู้จักนาง กู้ชูหน่วนเอาเขาเสียอยู่หมัด"เจี้ยงเสวี่ย จัดกองกำลังทหาร มุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณทันที ข้าต้องการหัวของนายท่านหลันและตัวยายของเยี่ยเฟิงกลับมา""ขอรับ"เย่จิ่งหานกวาดสายตามองกู้ชูหน่วนผาดหนึ่ง แสร้งทำเป็นเฉยชา "ข้าไม่อยากให้ลูกต้องมาคร่าชีวิตคนตั้งแต่ยังไม่เกิด ไม่ใช่เพราะเจ้าถึงได้ส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณหรอก""เจ้าค่า ท่านสั่งสมบุญแทนลูก ข้าก็ขอบคุณท่านแทนลูกด้วย"กู้ชูหน่วนโล่งใจไปเปราะหนึ่งยังดีที่ความรู้ทางการแพทย์ของนางล้ำพอ สามารถสร้างเรื่องน่ายินดีจอมปลอมขึ้นมาได้นางเดิมพันถูกแล้วเย่จิ่งหานยังมีมนุษยธรรมอยู่ ไม่ถึงขั้นไม่ยอมรับกระทั่งลูกแท้ๆ ของตัวเองมีความช่วยเหลือของเย่จิ่งหาน เยี่ยเฟิงและแม่เฒ่าเยี่ยก็น่าจะไม่เป็นไรแล้ว"ท่านอ๋อง ท่านมั่นใจนะว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยได้น่ะ""เจ้าคิดว่าข้าเป็นพวกดีแต่ปากหรือ""เอ่อ ไม่ใช่แน่นอน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 286

    กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย มือทั้งสองข้างหยิบของกินเล่นเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ รอดูฉากเด็ดปากของชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยและชิวเอ๋อร์ล้วนแต่กลมจนเป็นตัวOแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว นางก็ท้องลูกของนายท่านแล้วหรือ จะแข็งแรงเกินไปหรือเปล่าคุณหนูท้องก่อนแต่ง จบกัน จบเห่แล้ว ต่อไปจะทำเช่นไรดีเย่จิ่งหานถามด้วยน้ำเสียงเฉยชา "แน่ใจแล้วหรือว่าท้อง ตรวจดูให้ละเอียดว่านางใช้ยาอะไรแสร้งทำเป็นท้องหรือไม่"วิชาการแพทย์ของสตรีผู้นี้ล้ำเลิศนัก ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่แกล้งแสดงหมอหลวงเหงื่อเย็นไหลซึมพวกเขาก็หวังว่าจะเป็นการใช้ยาแกล้งทำเป็นท้อง หากเป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่ต้องฉุนเฉียวถึงขั้นนี้แต่ว่า..."ท่านอ๋อง คุณหนูสามกู้มีข่าวดีจริงๆ ชีพจรของนางไม่มีร่องรอยของการใช้ยาเลยแม้แต่น้อย""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเจ้าคงรู้ผลที่ตามมาดี"“ขอรับๆๆ""ไปให้พ้น"“ขอรับๆๆ"หมอหลวงห้าคนแทบจะล้มลุกคลุกคลานกันออกไป ด้วยกลัวว่า เทพสงครามจะลงไม้ลงมือกับพวกเขาสีหน้าเย่จิ่งหานมีความประหลาดใจ แปลกใจ ดีใจ กังวล ไม่วางใจปะปนอยู่ด้วยกัน ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะไม่รู้ว่าตนเองคว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status