แชร์

บทที่ 159

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
กู้ชูหน่วนตาเบิกโพลง กะพริบตาปริบๆ อย่างใสซื่อ ก่อนจะผายมือยักไหล่เอ่ย "เมื่อคืนข้าถูกคนลอบสังหารไม่รู้กี่หน ระหว่างหนีเอาตัวรอด หยกจันทร์เสี้ยวตกลงมา หลักจากนั้น...มันก็แตก"

ไทเฮาสมองพร่ามัว แทบจะเป็นลมล้มไป นางชี้กู้ชูหน่วน เดือดดาลจนพูดไม่ออก

กู้ชูหน่วนยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจไม่มีเกรงกลัว "ไทเฮา คนของฮ่องเต้กล้าเข้ามาสังหารนักเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง นี่เรียกว่าท้าทายฮ่องเต้ ท้าทายไทเฮา ท้าทายกฎหมายแคว้นเย่ ที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือเขายังทำหยกจันทร์เสี้ยวที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้องค์หญิงตังตังเสียหายอีก ขอไทเฮาโปรดจับตัวคนร้าย แล้วตัดมือให้เข็ดหลาบด้วยเถิด"

"สามหาว กู้ชูหน่วน หยกจันทร์เสี้ยวเสียหายยามอยู่ในมือเจ้า เจ้ากลับเล่นลิ้น ใครก็ได้ จับตัวหญิงนางนี้ไปที"

ไทเฮาเดือดดาล คนทั้งสำนักบัณฑิตหลวงตื่นตระหนก พากันคุกเข่าลงเป็นแถว

เซียวอวี่เชียนเอ่ยอย่างร้อนใจ "ไทเฮา เมื่อคืนนี้มีมือสังหารมากมายหมายจะเอาชีวิตยัยขี้เหร่นี่จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ หากไม่ใช่เพราะนางหนีได้ทัน ป่านนี้คงตายไปแล้ว หยกจันทร์เสี้ยวเสียหาย ก็มิควรโทษนางเพียงผู้เดียว"

"ข้าจะลงโทษผู้ใด เจ้ามีสิทธิห้ามตั้งแต่เมื่อไหร่"

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 160

    เพียงแค่ประโยคสั้นๆ แต่กลับทำให้หวาดผวาขึ้นมาอย่างน่าประหลาดทุกคนเงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองออกไปไม่ไกล ภาพที่เห็นคือชิงเฟิงเข็นรถเข็นเข้ามา ด้านข้างมีเจี้ยงเสวี่ยยืนขนาบส่วนคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้น จะเป็นผู้ใดนอกเสียจากเทพสงครามหานอ๋องทุกคนต่างตื่นตะลึงเทพสงคราม...เทพสงครามตัวจริง?เขาไม่ได้ป่วยใกล้ตาย หายใจติดขัด ออกจากจวนไม่ได้หรอกหรือ? วันนี้เหตุใดถึงได้มาถึงสำนักบัณฑิตหลวง?ดวงตาเหี้ยมโหดของเย่จิ่งหานแสนเย็นชาประหนึ่งกระบี่ในธารน้ำแข็ง กวาดมองทุกคนในที่นั้นนั่นเป็นสายตาที่ให้ความรู้สึกดุจดั่งเขานั้นเหนือกว่าผู้ใด ยื่นตระหง่านอยู่บนยอดผา กำลังก้มลงมองเหล่ามดตัวกระจ้อยสุดท้ายเขาหยุดสายตาลงบนร่างของกู้ชูหน่วนที่กำลังทำท่าเอื่อยเฉื่อย"ได้ยินมาว่ามีคนคิดจะแตะต้องอ๋องเฟยของข้า"เพียงประโยคหยั่งเชิง ไทเฮากลับหน้าซีดเผือดอ๋องเฟยของข้า?เทพสงครามคิดจะปกป้องนางหรือ?ทุกคนต่างตกตะลึงเทพสงครามยอมรับว่ากู้ชูหน่วนคือชายาของเขา นั่นมันหญิงอัปลักษณ์เลยนะไทเฮาฉีกยิ้มเหยเก ไม่มีแล้วท่าทีวางอำนาจเหมือนเมื่อครู่ "กู้ชูหน่วนทำหยกจันทร์เสี้ยวที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้องค์หญิงตั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 161

    เย่จิ่งหานเลิกคิ้ว "ทำไม ข้าจะไปไหนต้องบอกเจ้าด้วยหรือ"นางผู้นี้ ช่วยเหลือนางแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณสักคำ ยังคิดจะไล่เขาไปอีก"ได้ที่ไหนกันเล่า เพียงแต่ท่านผู้มีอำนาจใหญ่โตมาอยู่ในสำนักบัณฑิตเช่นนี้ ดูสิ ทำพวกเขาตกใจกลัวกันหมด แล้วพวกเขาจะมีกะจิตกะใจเรียนได้อย่างไร ข้าช่วยท่านสร้างกุศลอยู่หรอกนะ"กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเหล่านักเรียนที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่เต็มสำนักบัณฑิต สายตาแฝงไว้ด้วยความหยอกเย้าเซียวอวี่เชียนและคนอื่นๆ คิดว่าเทพสงครามไม่มีทางยอมกลับไปง่ายๆ แน่ คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานเพียงแค่โบกมือ ชิงเฟิงก็เข้าใจในทันที พลันเข็นรถเข็นออกไปจากสำนักบัณฑิตหลวงทิ้งไว้เพียงแค่ประโยคเรียบๆ ประโยคเดียว "หากคืนนี้ไม่กลับจวนอีก เจ้าคอยดูแล้วกันว่าสี่เท้าของเจ้า จะยังเก็บรักษาไว้ได้อยู่หรือไม่"เอ๊ะ...เทพสงครามกลับไปง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือเขามาที่นี่แค่เพื่อช่วยยัยขี้เหร่จริงๆ หรือย้อนนึกถึงท่าทีที่เทพสงครามมีต่อกู้ชูหน่วนหลายๆ ครั้ง เซียวอวี่เชียนเหมือนจะพอเข้าใจแล้วว่า บางทีเทพสงครามอาจจะไม่ได้พูดยากอย่างที่คิดส่วนกู้ชูหน่วนกลับกระตุกมุมปากเบาๆสี่เท้า ?ว่านางเป็นสุนัขเช่นนั้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 162

    ผ่านไปแสนนาน ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกนออกมาก่อนว่าเพลงดี ถึงได้เรียกสติทุกคนกลับมาได้ทุกคนมองเยี่ยเฟิงด้วยความตกตะลึงไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึง เขารอบรู้ปรีชาก็พอว่า แต่ยังเล่นฉินได้ไพเราะถึงเพียงนี้อีกทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างพากันกระซิบกระซาบ"ฝีมือการบรรเลงฉินของเยี่ยเฟิง หากเทียบกับอาจารย์ซ่างกวาน เรียกได้ว่าสูสีกันเลยทีเดียว""ก็ใช่น่ะสิ ข้าไม่เคยได้ยินผู้ใดบรรเลงฉินได้จับใจเช่นนี้มาก่อน ทำเอาใจข้าแตกเป็นเสี่ยงแล้ว เหตุใดเสียงฉินของเขาถึงได้เศร้าสลดเพียงนั้น""ข้าคิดว่าฝีมือฉินของคุณหนูสองกู้ดีมากแล้วเสียอีก ยามนี้พอเทียบกับเยี่ยเฟิง ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย น่าเสียดายที่การประลองศิลปะไม่มีการแข่งประลองฉิน ไม่เช่นนั้นเยี่ยเฟิงจะต้องชนะแน่"สีหน้าของกู้ชูอวิ๋นมืดดำนางเสียสิทธิ์ในการร่วมประลองศิลปะไป เดิมตั้งใจจะมีชื่อเสียงกระฉ่อนเมืองหลวงด้วยสิ่งนี้ คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเยี่ยเฟิงเอาชนะเสียได้เขาก็แค่บัณฑิตยากจนผู้หนึ่ง เหตุใดจึงได้เล่นฉินได้ดีถึงเพียงนี้ที่ผ่านมา ไม่ว่านางจะยืนอยู่ที่ใดก็ล้วนแต่เจิดจรัสดึงดูดสายตาที่สุดเสมอ ยามนี้นางกลับถูกด้อยค่าลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าขืนเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 163

    กู้ชูหน่วนแบ่งยาเป็นสองส่วน กินไปครึ่งเม็ด อีกครึ่งเม็ดบดเป็นผงแล้วทาบนใบหน้านางส่องกระจก เห็นตุ่มหนองบนใบหน้าของตนในกระจกค่อยๆ จางหายไปอย่างรวดเร็ว มองดูไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว ผิวก็ดูฉ่ำวาวขึ้นกว่าเดิมเพียงแต่รอยแผลเป็นน่ากลัวที่สลับทับกันราวกับเนินเขายังคงอยู่หากไม่กำจัดรอยแผลเป็นเหล่านี้ ใบหน้าของนางก็ยังคงอัปลักษณ์สุดจะมองเหมือนเดิม"เห็นทีต้องรีบคิดวิธีหาหญ้าตี้อวี้ให้เจอแล้ว"กู้ชูหน่วนผลักประตูห้องออกมาด้วยความหงุดหงิด แล้วสูดอากาศที่บริสุทธิ์เดิมทียังพอมีความหวังว่า ขาดตัวยาไปตัวเดียวอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นางคงจะฝันหวานเกินไป"ยัยขี้เหร่ ในที่สุดก็หาเจ้าเจอ เจ้ามาแอบอยู่ตรงนี้ด้วยเหตุใด นี่ก็ใกล้จะยามจื่อแล้ว เจ้ายังไม่รีบกลับจวนหานอ๋องอีก หากเทพสงครามตัดขาเจ้าขึ้นมาจริงๆ จะทำเช่นไร"เขาจะกล้าตัดหรือเว้นเสียแต่ว่าเขาไม่ต้องการถอนพิษแล้วกู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ ก่อนจะพูดนิ่งๆ "ดึกขนาดนี้แล้วหรือ เจ้าบาดเจ็บ ทำไมยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก""ไม่ใช่เพราะห่วงเจ้าหรืออย่างไร เจ้านี่เป็นสตรีที่ทำสิ่งใดก็ไม่ได้ความเอาเสียเลย"กู้ชูหน่วนกอดคอเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 164

    เจ้าสำนักนอนจมกองเลือด ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเบิกกว้าง ราวกับค้นพบความลับสำคัญบางอย่าง ตายตาไม่หลับ ถูกใครบางคนปาดคอเงยขึ้นไปมองรอบๆ หอสมุดอีกครั้ง ไร้ซึ่งร่องรอยการต่อสู้โดยสิ้นเชิง หากทายไม่ผิด น่าจะถูกคนข้างกายที่ไว้ใจเป็นอย่างยิ่งหรือคนที่ไม่เคยระแวงสงสัยฆ่าอาจารย์หรงร้องคำราม "เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ วันนี้ผู้ใดเฝ้ายามตอนดึกที่หอสมุด เจ้าสำนักวิทยายุทธล้ำเลิศถึงเพียงนั้น จะถูกคนปาดคอได้อย่างไร"บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกขาอ่อน ตอบเสียงสั่น "เรียน...เรียนอาจารย์หรง หลังจากที่เจ้าสำนักมาถึงหอสมุด ก็บอกว่าตกดึกน้ำค้างลง ให้พวกเราไม่ต้องเฝ้ายาม กลับไปพักผ่อนได้เลย พวกเรา...พวกเราก็เลยกลับไป""เหลวไหล เจ้าสำนักให้พวกเจ้ากลับไป พวกเจ้าก็กลับเช่นนั้นหรือ พวกเจ้าไม่รู้จักเฝ้าจากไกลๆ หรืออย่างไร"เห็นอาจารย์หรงกำลังจะระเบิดอารมณ์ อาจารย์สวีจึงกล่าวเตือน "เจ้าสำนักใจดีมีเมตตา ที่ผ่านมาก็ให้บ่าวที่เฝ้ายามช่วงดึกกลับไปพักอยู่บ่อยๆ ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ท่านก็อย่าโทษพวกเขานักเลย"หลังจากที่อาจารย์ซ่างกวานตรวจสอบศพของเจ้าสำนักจนทั่วแล้วรอบหนึ่ง จึงเอ่ยถามเสียงขรึม"เมื่อครู่เกิดเหตุอั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 165

    ณ ห้องควบคุมตัวเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดเนื้อผ้าหยาบ หลังเหยียดตรง ยืนเงียบๆ อยู่ตรงกลางรอรับการพิจารณาคดีจากสำนักบัณฑิตหลวงใบหน้าของเขาซีดขาว ไม่รู้ว่าเพราะได้รับบาดเจ็บหรือเพราะป่วยอาจารย์หรงเอ่ยเสียงกร้าว "เยี่ยเฟิง เจ้าฆ่าเจ้าสำนักใช่หรือไม่"เยี่ยเฟิงดวงตาใสสว่าง ไม่จำเป็นต้องหยุดคิดก็ตอบออกมาทันที "ไม่ใช่""พยานก็อยู่ครบ เจ้ายังกล้าแก้ตัว" อาจารย์หรงโยนผ้าคาดผมเส้นหนึ่งลงตรงหน้าเยี่ยเฟิงเนื้อผ้าของผ้าคาดผมเส้นนั้นหยาบกระด้าง และเป็นเส้นที่เขาใช้บ่อยๆ ก่อนจะเข้ามาในสำนักบัณฑิตหลวงสำนักบัณฑิตหลวงที่กว้างใหญ่มีเพียงแค่เขาผู้เดียวที่ใช้ผ้าคาดผมอัตคัดเช่นนี้"วันนี้กู้ชูหน่วนดึงแขนเสื้อเจ้าขาด แล้วก็ดึงผ้าคาดผมของเจ้าขาดเป็นท่อน ตอนเจ้าไปเปลี่ยนชุด เจ้าก็เปลี่ยนผ้าคาดผมด้วย ตอนนั้นเจ้าใช้ผ้าคาดผมเส้นนี้พอดี"สายตาเฉยชาของเยี่ยเฟิงมองไปยังผ้าคาดผมที่คุ้นเคยบนพื้น ไม่ได้ปฏิเสธทุกคนต่างก็มองไปยังผ้าคาดผมบนศีรษะของเยี่ยเฟิง ผ้าคาดผมเส้นนั้นเรียบง่ายเหมือนกัน เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เส้นเดียวกับที่ใช้ตอนค่ำ"พูดมา เหตุใดเจ้าถึงได้ฆ่าเจ้าสำนัก" อาจารย์หรงเอ่ยถามอีกครั้งเยี่ยเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 166

    "ข้าก็เชื่อเจ้า"สิ่งที่ยิ่งทำให้เยี่ยเฟิงตกตะลึงคือ ยามนี้ เซียวอวี่เชียนที่คอยตั้งตัวเป็นอริกับเขาก็ออกมาปกป้องเขาด้วย เขามีบาดแผลเต็มตัว มือข้างหนึ่งถูกพันด้วยผ้าพันแผลที่คล้องอยู่บนคอ ทว่ากลับส่งยิ้มมาให้เขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเชื่อใจ"เพราะเหตุใด...""เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกันอย่างไรเล่า"ทันทีที่ได้ยินคำว่าเพื่อน เยี่ยเฟิงก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ราวกับบางส่วนภายในจิตใจพังทลายเขาไม่มีเพื่อนตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เคยมีเพื่อนเลยเขา...ไม่มีใครคบ...ทุกคนตรงหน้าในยามนี้ล้วนแต่พุ่งเป้ามาที่เขา พวกเขาไม่ต้องเข้ามาแปดเปื้อนด้วยก็ได้ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นของกู้ชูหน่วนกวาดไปยังผู้คนที่อยู่ตรงนั้น ริมฝีปากแดงเอื้อนเอ่ย "พวกเจ้าบอกว่าเยี่ยเฟิงเป็นคนฆ่า หากเขาฆ่าจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงกลับมา"ทุกคนชะงักงันทันใดนั้นเองก็มีคนตอบ "ที่เขาเข้ามาในสำนักบัณฑิตจะต้องมีเป้าหมายแน่ ยามนี้เป้าหมายนั่นอาจยังไม่บรรลุง จึงกลับมาอีกครั้ง""อ่อ เช่นนั้นเขามีเป้าหมายใด" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความตักเตือนคนผู้นั้นอึกอักอยู่นาน กลับพูดไม่ออกสักคำอาจารย์หร

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 167

    ทว่าเยี่ยเฟิงเพียงแค่ขมิบปากเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มขมขื่น แล้วพูดออกมาประโยคเดียว "นึกขึ้นได้ว่าเจ้าสำนักต้องการพบข้า อาจมีเรื่องสำคัญ ข้าจึงย้อนกลับมา"ประโยคนี้ ไม่มีผู้ใดเชื่อฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลยหากเขาคิดได้เช่นนี้จริง มีหรือที่ตอนนั้นจะออกไปทางหน้าต่างเขาไม่ออกทางประตูใหญ่ กลับปีนหน้าต่างออกไป นี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตอนนั้นจะต้องมีเหตุสุดวิสัยอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ ทำให้เขาไม่แม้แต่จะมีเวลาเดินออกทางประตูใหญ่"รบกวนตอบคำถามเมื่อครู่ด้วย เหตุใดเจ้าถึงไม่ออกทางประตูใหญ่ แต่กลับปีนหน้าต่าง" ผู้อาวุโสเอ่ยเซียวอวี่เชียนมองทุกคนด้วยความโกรธ พลางพูดอย่างมั่นใจ "เยี่ยเฟิง เจ้าบอกพวกเขาไป เหตุใดไม่ออกทางประตูใหญ่"เซียวอวี่เชียนคิดว่าเยี่ยเฟิงจะต้องรีบตอบอย่างทันควัน ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบงันหัวใจของเขาเต้นระส่ำ ก่อนจะหันไปมองเยี่ยเฟิงที่กำลังนิ่งเงียบ "เจ้ากลัวดอกพิกุลร่วงหรือไร จะทำเอาข้าร้อนใจจะตายอยู่แล้ว เจ้ารีบบอกพวกเขาถึงเหตุผลที่เจ้าปีนหน้าต่างออกไปสิ""ไม่มีเหตุผล เพียงแค่ปีนหน้าต่างเร็วกว่า""……"ทุกคนหมดคำพูด นี่มันเหตุผลอะไรกันเขาคงคิดข้ออ้างไม่ออกแล้ว

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 294

    "ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 293

    ประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมองหม่นลงไปอย่างรู้สึกได้หากหัวหน้าเผ่าหมอไม่มา แม้นายท่านหลันจะมีวิทยายุทธที่สูงล้ำ แต่การจะล้มเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแต่หัวหน้าเผ่าหมอมาด้วยตัวเอง เรื่องก็เริ่มจะตึงมือขึ้นมาเล็กน้อยที่สำคัญที่สุดคือ การสู้กับเขตกองธงหลันในคราวนี้ เผ่าเทียนเฝินจะต้องเข้ามาประสมโรงเป็นแน่ ศัตรูรายใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฝิน"รีบสู้รีบจบ เอาหัวของนายท่านหลันมา แล้วค่อยล่อหัวหน้าเผ่าหมอออกมา"ซูมู่พลันเงยหน้า พูดด้วยความตกตะลึง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ผู้ที่มาครานี้มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไป ด้วยแรงของเจ้าคนเดียวจะสู้เขากับหัวหน้าเผ่าหมอได้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ หัวหน้าเผ่าหมอยกให้ข้า เจ้าตั้งใจรับมือกับเผ่าเทียนเฝินไปเถอะ""ไม่ทันแล้ว" ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งจากทางนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูงหากเขาทายไม่ผิด เผ่าเทียนเฝินและหัวหน้าเผ่าหมอกำลังทางนี้เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไปพลางเอ่ย "หากเจ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยข้าตามหาก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 292

    ดวงตาที่นิ่งเรียบของเย่จิ่งหานไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆชายชุดครามซูมู่ยิ้มเยาะ"สำนักซิวหลัว เผ่าหมอ และเจ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำซึ่งกันและกัน หากความสัมพันธ์เช่นนี้ถูกทำลาย สองพยัคฆ์ช่วงชิงกัน เผ่าเทียนเฝินจะต้องถือโอกาสเข้ามาผสมโรงเป็นแน่""เผ่าเทียนเฝินเป็นเผ่าเก่าแก่กว่าพันปี แกร่งกล้ามั่นคง วิทยายุทธหัวหน้าเผ่าเกินกว่าจะประเมินได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ภายในเผ่ายังมีท่านผู้อาวุโสอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งปรมาจารย์อาวุโส ได้ยินมาว่า หัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไปเหนือกว่ารุ่นก่อน วิทยายุทธก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าเผ่า ต่อให้ผู้ใต้บัญชาของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด แต่จะเทียบพวกเขาได้อย่างไร""ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเผ่าเทียนเฝินนั้นสลับซับซ้อนนัก มีคนของพวกเขาอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า แคว้นเย่...เหอะ หากไม่มีเจ้า คงถูกแคว้นต่างๆ แบ่งกลืนดินแดนไปนานแล้ว ยามนี้ฮ่องเต้น้อยยังจะใจเย็นอยู่ได้อีก"เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงขรึม "ข้าว่าเจ้าคงว่างเกินไป"ซูมู่จัดระเบียบแขนเสื้อที่ใหญ่โคร่งของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ระหว่างที่กินผลไม้อย่างสง่างาม ปากก็พลอยคลี่ยิ้ม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 291

    ดวงตาสุกสกาวของกู้ชูหน่วนฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผาดหนึ่งจู่ๆ นางก็กุมหัวใจของตัวเองไว้แน่น เลือดพลันพุ่งทะลักออกมา ส่วนร่างของนางก็ล้มลงไปที่พื้น ร่างที่อ่อนแรงพูดด้วยความตกตะลึง "ผู้ใด...ผู้ใดช่างเหี้ยมโหด ถึงกับกล้า...วางยา..."ซืดดด....ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพากันมองไปยังกู้ชูหน่วนที่นอนหลับตาปี๋จมกองเลือดอยู่อย่างไม่เชื่อสายตา สายตาเต็มไปด้วยความลนลาน“หมอหลวง รีบตามหมอหลวง”ไม่รู้ผู้ใดในกลุ่มคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกเหล่าองครักษ์พากันวิ่งออกไปตามหมอหลวงอย่างรีบร้อน“พระชายา ท่านเป็นอะไรไป…”องครักษ์หญิงนางหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้าไปจับชีพจรของนาง สีหน้าที่เดิมก็ดูหวาดกลัวอยู่แล้วพลันซีดเผือด“ไม่…ไม่มีชีพจรแล้ว…พระชายาไม่มีชีพจรแล้ว”ฟู่วววร่างของทุกคนสั่นผวาไม่มีชีพจรก็หมายความว่าตายแล้วไม่ใช่หรือคุณพระช่วย หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเขาจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไรแต่พวกเขาคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะมีโอกาสวางยาพระชายาได้"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."ร่างที่อยู่ทั้งในที่ลับและที่สว่างต่างพากันออกไป บ้างก็ไปรายงานเย่จิ่งหาน บ้างก็ไปตามหมอ แค่เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ผู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 290

    หลายวันมานี้อยู่แต่ในจวนหานอ๋องมาตลอด กู้ชูหน่วนคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดีนางคลำทางไปด้วยความชำนาญ เพิ่งจะออกจากสวนไปได้ก็ถูกผู้อารักขาขวางเอาไว้"พระชายาอยากกินขนมตงฝูดอกกุ้ยฮวา พวกเจ้ารีบหลีกไป""ท่านอ๋องมีรับสั่ง ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามออกจากสวนไปแม้แต่ก้าวเดียว โดยเฉพาะท่าน พระชายา"บ้าเอ้ยนางพรางตัวแล้ว คนพวกนี้ยังจำได้อีกหรือเหมือนจะรู้ว่านางกำลังสงสัย อารักขาจึงอธิบาย"ใต้เท้าชิงเฟิงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เขาไม่มีทางออกไปจากเรือนทอจันทร์ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็กำชับไว้แล้วว่าพระชายาเชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลปากว้า แปลงกาย และบิดเบือนหลักการ ไม่ว่าผู้ใดคิดจะออกจากเรือนนี้ไปล้วนแต่เป็นไปได้ว่าคือพระชายาปลอมตัวมา""……"กู้ชูหน่วนหน้าเหวอวิเคราะห์นางได้อย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้เลยหรือ"เช่นนี้หากข้าจะดื้อดึงออกไป พวกเจ้าก็จะตัดขาของข้า หรือจะคร่าชีวิตเด็กในท้องแล้วค่อยสังหารข้า ?""ข้าน้อยไม่บังอาจ แต่ท่านอ๋องรับสั่งไว้แล้ว หากพระชายาออกไปจากเรือนทอจันทร์ ให้ทุบขาของแม่นางชิวเอ๋อร์เสีย"กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม "วันนี้ ข้าขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ข้าจะต้องออก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 289

    นัยน์ตาของนางดุจหยดน้ำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ ระหว่างที่มอง มีรังสีความสูงสง่ามออกมาโดยไม่ต้องแสร้งทำกู้ชูหน่วนลูบใบหน้ารูปไข่ที่เกลี้ยงเกลาของนาง มุมปากยกยิ้มจางๆรูปโฉมนี้ ไม่เสียแรงที่นางดั้นด้นตามหาหญ้าตี้อวี้และดอกเยียนหลัวด้วยความยากลำบากเป็นเวลานานเดิมกู้ชูหน่วนไม่อยากคลุมผ้าคลุมหน้า ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใด สุดท้ายนางก็หยิบผ้าคลุมหน้าออกมาปกปิดใบหน้าที่งามหยาดเยิ้มของนางเอาไว้ เผยให้เห็นเพียงแค่ดวงตาใสสว่างคู่นั้น"ชิงเฟิง""ข้าน้อยอยู่นี่ ไม่ทราบว่าพระชายามีสิ่งใดให้รับใช้""ท่านอ๋องได้ไปที่เขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองหรือไม่""เรื่องนี้...ข้าน้อยไม่ทราบได้""ไปสืบถามมาหน่อย""พระชายา นายท่านรับสั่งเอาไว้ นอกจากคุ้มกันท่าน เรื่องอื่นห้ามยุ่ง ยิ่งห้ามพูดคุยกับพระชายา""เช่นนั้น ควาหมายของเจ้าก็คือ ข้าถูกกักขัง"“ข้าน้อยมิบังอาจ”"ในเมื่อไม่กล้า เช่นนั้นเจ้าว่า ยามนี้เจ้าควรทำอะไรเล่า" กู้ชูหน่วนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ดวงตาที่ใสเป็นประกายคู่นั้นฉายแววที่ต่างออกไปชิงเฟิงตัวสั่นระรัวไปชั่วขณะ พูดด้วยความตัดพ้อ "พระชายา ได้โปรดอย่าทำให้บ่าวลำบากใจเลย"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 288

    ณ เรือนทอจันทร์ จวนหานอ๋องกู้ชูหน่วนยืนอยู่ริมหน้าต่าง ทอดมองไปยังนกบนยอดไม้ นิ้วที่ข้อต่อชัดเจนเคาะเป็นจังหวะเบาๆเย่จิ่งหานไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะไปเขาหมายวิญญาณด้วยตัวเองแต่เขาก็รับปากแล้วว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยออกมาอย่างปลอดภัย และจะปลิดชีวิตนายท่านหลัน คงทำได้จริงเหตุใดภายในใจนางถึงได้ว้าวุ่น รู้สึกว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดอะไรบางอย่างอยู่เรื่อย"แอ๊ด" ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ชิวเอ๋อร์ยกถ้วยยาบำรุงเข้ามา"คุณหนู เหตุใดยังยืนอยู่ตรงนั้น ตอนนี้คุณหนูกำลังท้อง จะตากลมไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูลองชิมโจ๊กรังนกที่บ่าวเคี่ยวดูสิเจ้าคะ"กู้ชูหน่วนดึงความคิดกลับมา ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักกินทีละช้อนอย่างไม่ได้ใส่ใจ"รสชาติดีเลย ชิวเอ๋อร์ฝีมือยอดเยี่ยมเลยนี่"ชิวเอ๋อร์ยิ้มร่า ก่อนจะตักให้กู้ชูหน่วนเพิ่มอีกถ้วย "คุณหนู ต่างก็ว่ากันว่าเทพสงครามโหดเหี้ยม ฆ่าคนเป็นผักปลา จากที่บ่าวสังเกตในช่วงหลายวันมานี้ ที่จริงแล้วท่านอ๋องก็เป็นคนดีอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะหลังจากที่คุณหนูตั้งท้องแล้ว ท่านอ๋องดีกับคุณหนูยิ่งกว่าเดิม""อ่อ...ดีกับข้าอย่างไรหรือ" ขังนางไว้ในเรือนเล็กๆ แห่งนี้ รายล้อมไปด้วยยอดฝีมือ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 287

    ความหมายอีกนัยหนึ่งของนางก็คือ หากเขาปฏิเสธ นางก็จะพาลูกไปเจอยมบาลแม้รู้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังขู่เขา แต่ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายเด็กกระทั่งวินาทีนี้ เย่จิ่งหานถึงได้พบว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มรู้จักนาง กู้ชูหน่วนเอาเขาเสียอยู่หมัด"เจี้ยงเสวี่ย จัดกองกำลังทหาร มุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณทันที ข้าต้องการหัวของนายท่านหลันและตัวยายของเยี่ยเฟิงกลับมา""ขอรับ"เย่จิ่งหานกวาดสายตามองกู้ชูหน่วนผาดหนึ่ง แสร้งทำเป็นเฉยชา "ข้าไม่อยากให้ลูกต้องมาคร่าชีวิตคนตั้งแต่ยังไม่เกิด ไม่ใช่เพราะเจ้าถึงได้ส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณหรอก""เจ้าค่า ท่านสั่งสมบุญแทนลูก ข้าก็ขอบคุณท่านแทนลูกด้วย"กู้ชูหน่วนโล่งใจไปเปราะหนึ่งยังดีที่ความรู้ทางการแพทย์ของนางล้ำพอ สามารถสร้างเรื่องน่ายินดีจอมปลอมขึ้นมาได้นางเดิมพันถูกแล้วเย่จิ่งหานยังมีมนุษยธรรมอยู่ ไม่ถึงขั้นไม่ยอมรับกระทั่งลูกแท้ๆ ของตัวเองมีความช่วยเหลือของเย่จิ่งหาน เยี่ยเฟิงและแม่เฒ่าเยี่ยก็น่าจะไม่เป็นไรแล้ว"ท่านอ๋อง ท่านมั่นใจนะว่าจะช่วยแม่เฒ่าเยี่ยได้น่ะ""เจ้าคิดว่าข้าเป็นพวกดีแต่ปากหรือ""เอ่อ ไม่ใช่แน่นอน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 286

    กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย มือทั้งสองข้างหยิบของกินเล่นเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจ รอดูฉากเด็ดปากของชิงเฟิง เจี้ยงเสวี่ยและชิวเอ๋อร์ล้วนแต่กลมจนเป็นตัวOแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว นางก็ท้องลูกของนายท่านแล้วหรือ จะแข็งแรงเกินไปหรือเปล่าคุณหนูท้องก่อนแต่ง จบกัน จบเห่แล้ว ต่อไปจะทำเช่นไรดีเย่จิ่งหานถามด้วยน้ำเสียงเฉยชา "แน่ใจแล้วหรือว่าท้อง ตรวจดูให้ละเอียดว่านางใช้ยาอะไรแสร้งทำเป็นท้องหรือไม่"วิชาการแพทย์ของสตรีผู้นี้ล้ำเลิศนัก ยากจะรับประกันได้ว่านางจะไม่แกล้งแสดงหมอหลวงเหงื่อเย็นไหลซึมพวกเขาก็หวังว่าจะเป็นการใช้ยาแกล้งทำเป็นท้อง หากเป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่ต้องฉุนเฉียวถึงขั้นนี้แต่ว่า..."ท่านอ๋อง คุณหนูสามกู้มีข่าวดีจริงๆ ชีพจรของนางไม่มีร่องรอยของการใช้ยาเลยแม้แต่น้อย""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเจ้าคงรู้ผลที่ตามมาดี"“ขอรับๆๆ""ไปให้พ้น"“ขอรับๆๆ"หมอหลวงห้าคนแทบจะล้มลุกคลุกคลานกันออกไป ด้วยกลัวว่า เทพสงครามจะลงไม้ลงมือกับพวกเขาสีหน้าเย่จิ่งหานมีความประหลาดใจ แปลกใจ ดีใจ กังวล ไม่วางใจปะปนอยู่ด้วยกัน ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะไม่รู้ว่าตนเองคว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status