Share

5

last update Last Updated: 2024-11-10 09:54:04

“รู้เพคะ”

“แล้วใยเวลาพูดถึงไม่ยอมเงยหน้าสบตาข้า”

น้ำเสียงแม้ทรงอำนาจหากก็เยียบเย็นบาดจิต จางลี่จึงต้องเงยหน้าขึ้น มือของนางยิ่งเย็นมากกว่าเก่า องค์ชายหลี่เจี๋ยผู้มีพระชนมายุมากกว่านางถึงหนึ่งรอบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ชั่วแว่บหลี่เจี๋ยกลับรู้สึกว่าพระธิดาของฉีหวนกงซึ่งเป็นพระปิตุลานั้นมิได้เป็นอย่างที่เขาคาดคิดไว้แม้แต่น้อย นางยังเยาว์ ใบหน้างดงามสวยซึ้งนั้นเปล่งปลั่งจับตา รูปร่างของนางบอบบางภายใต้ชุดผ้าไหมปักลวดลายวิจิตร แววตาของนางบอกความประหม่า หลี่เจี๋ยก้าวผ่านนางไปและทรุดกายลงนั่งบนตั่งไม้ จางลี่จึงค่อย ๆ ย่อตัวลงและขยับเข้าไปนั่งบนพื้นเบื้องล่างห่างจากองค์ชายไม่ถึงวา นางไม่ได้ก้มหน้าดังเก่าแต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะสบนัยน์ตาคมปลาบราวมีดเหล็กกล้า

“เจ้าชื่ออะไรนะ?”

“จางลี่เพคะ”

“เจ้าเป็นธิดาของฉีหวนกง พระปิตุลาของข้า จะว่าไปเราสองคนก็มีสายเลือดเดียวกัน แต่...เจ้าเป็นธิดาของสนมองค์ใดกัน”

“หม่อมฉันเป็นธิดาของพระสนมซิ่วอิงเพคะ”

“ขยับเข้ามาใกล้ข้าซิ”

“เพคะ”

จางลี่ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ นางเข้าไปนั่งแทบเท้าองค์ชายหลี่เจี๋ย แต่แล้วก็ต้องตระหนกเมื่อแขนของนางถูกกระชากอย่างแรง 

“ฟังข้าไว้จางลี่...ข้ามิปรารถนาในตัวเจ้า...แม้เพียงสักนิด!”

“องค์ชาย...ทะ...ท่าน..”

จางลี่สะอึกเพราะไม่นึกว่าอ๋องแคว้นหลู่จะสำแดงความกักขฬะในคราแรกที่ได้พบ นางเริ่มสั่นแต่รวบรวมกำลังใจแม้หวั่นกลัว หลี่เจี๋ยเหยียดยิ้มอำมหิต แววตานั้นแปรเปลี่ยนจากมิตรเป็นดิบดันกร้าวกล้า

“คิดหรือว่าที่ข้ายอมรับธิดาของฉีหวนกงมาเป็นชายาเป็นเพราะข้าเต็มใจ...เปล่าเลย ฟังข้าให้ชัด ๆ เถิดธิดาแคว้นฉี แม้เรามีสายเลือดเดียวกันหากเลือดของข้านั้นเข้มข้นยิ่งกว่าเจ้าหลายเท่านัก!”

“องค์ชาย...ได้โปรดเถิดเพคะ หม่อมฉันมิได้ตั้งใจทำให้องค์ชายเคืองพระทัยเลยแม้แต่น้อย ที่หม่อมฉันตอบรับการเป็นชายาของพระองค์ก็เพราะว่า...”

“ข้าไม่ต้องการเหตุผล!”

เสียงคำรามลั่นของหลี่เจี๋ยทำให้จางลี่ผงะ ใบหน้าเคียดขึ้งของเขายิ่งทำให้นางหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าการตอบรับบัญชาของพระบิดาผิดหรือถูก นางอยากออกจากแคว้นฉีเพื่อมิให้พระเชษฐาต่างมารดารังแกเพื่อพบว่าการมาเป็นองค์ชายาแคว้นหลู่สร้างความยุ่งยากมากกว่านั้น นี่นางหนีเสือมาปะจระเข้จริง ๆ หรือนี่

“องค์ชาย...”

“เจ้าก็เคยรู้มามิใช่หรือว่าครั้งหนึ่งฉีหวนกงเคยทำสิ่งใดไว้กับพระบิดาของข้าหากเจ้าจะเคยได้ยินมาบ้าง”

“หม่อมฉันมิอาจเข้าใจความบาดหมางในอดีต หากบัดนี้รู้แล้วว่าที่ท่านตอบรับข้าเป็นชายาก็ด้วยเหตุผลนี้ใช่หรือไม่เพคะ”

คำตอบของจางลี่จุดรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เจี๋ยก่อนเขาจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆๆ...เจ้าเองก็ฉลาดไม่เบา ถึงเป็นแค่ธิดาของพระสนมหากก็มีไหวพริบเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ”

“หม่อมฉันมิได้นึกเสียใจที่เมื่อเดินทางมาถึงพระองค์มิได้ออกไปต้อนรับหม่อม และมิได้นึกเสียใจที่เมื่อมาถึงแคว้นหลู่ก็หาได้มีพิธีการต้อนรับอย่างที่เคยคิดเอาไว้ หากมิเข้าใจว่าเหตุใดพระองค์จึงปล่อยให้พวกหม่อมฉันเดินทางข้ามแคว้นเข้ามายังแผ่นดินหลู่ได้ พระองค์มิพักต้องลำบากให้คนของพระองค์ไปคอยต้อนรับหม่อมฉัน หากเป็นดังที่พระองค์ทรงหวังก็ควรฆ่าหม่อมฉันเสียตั้งแต่ตอนเดินทางมายังแคว้นหลู่”

นางตอบปากกสั่นระริกหากก็กล้าเชิดปลายคางมนขึ้นราวกับจะท้าทาย ท่าทีของพระธิดาแม้วัยเยาว์กว่าแต่ช่างอวดดียิ่งจุดความคั่งแค้นในหัวอกของหลู่อ๋อง แม้นางอวดกล้าถึงเพียงนี้หากหลี่เจี๋ยก็มีวิธีกำราบด้วยการจับไหล่บางทั้งสองดึงร่างนั้นเข้ามาใกล้และโน้มใบหน้าคมคายลงไปหา เห็นได้ชัดว่ากายนางสั่น ใบหน้าสวยซึ้งของนางอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่ถึงคืบ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่ใกล้ชายใดมากขนาดนี้ จางลี่อยากขัดขืนแต่มือหนาใหญ่ของอ๋องแคว้นหลู่กระชับบ่าเล็กของนางมั่น หลี่เจี๋ยเหยียดยิ้มร้ายกาจ

“ข้าเพียงรอให้เจ้ามาถึงแคว้นหลู่เพื่อจะทำอะไรสนุก ๆ”

นางเลิกคิ้วขึ้น “สนุก ๆ หรือเพคะ?”

“เมื่อใดที่เจ้าย่างเท้าลงบนแผ่นดินหลู่ เจ้าก็มีค่าแค่สัตว์เลี้ยงของข้าเท่านั้น!”

โดยมิทันคาดคิด องค์ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหาองค์ชายาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากได้รูปฉกวูบลงบนกลีบปากของจางลี่ที่ค้างอ้าด้วยไม่นึกว่าหลี่เจี๋ยจะล่วงล้ำนางตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ร่างน้อยนิ่งงันและสั่นระริก หัวใจของนางเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อจุมพิตแรกจาบจ้วงเข้าไปในอุ้งปาก หลี่เจี๋ยไม่เปิดโอกาสให้นางตั้งตัว จุ่มจ้วงปลายลิ้นหยาบหนาเข้าไปในเรียวปากเล็ก จางลี่หลับตาและกดเกร็ง ความหวาดหวั่นกลายกลับเป็นความร้อนรุ่ม

นางเคว้งคว้างหลงในภวังค์ราวใบไม้ร่วงหล่นหากก็คืนสติกลับมาอีกครั้งเมื่อหลี่เจี๋ยถอนริมฝีปาก หากลมหายใจหอบหนักของเขายังราดรดบนปลายจมูกเล็ก นางลืมตาขึ้นและต้องเผชิญกับนัยน์ตากล้าแข็ง องค์ชายหนุ่มยังกระชับไหล่บางไว้แน่นหนักหากในหัวอกของหลี่เจี๋ยกลับอื้ออึงด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน  เขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นรอยน้ำรื้นบนดวงตาของจางลี่...นางร้องไห้ หากเขากลับทำราวกับไม่ใส่ใจและยังสำแดงความคียดขึ้งออกมา

“น้องสาวของข้า...เจ้าคือองค์ชายาแห่งแคว้นหลู่และตำหนักร้อยไหมแห่งนี้คือที่พำนักของเจ้า หากมิได้รับการอนุญาตจากข้าเจ้าก็มิอาจออกไปไหนได้ทั้งนั้น”

Related chapters

  • ชายายอดเสน่หา   6

    “นี่ท่านกักขังข้าเช่นนั้นหรือ แล้วหากข้าขัดคำสั่งของท่าน”“คนของเจ้าทั้งหมดจะต้องกลายเป็นอาหารของจระเข้ในบึงใต้ตำหนักร้อยไหมทันที หรือหากเจ้าอยากลองดีกับข้า จะลองดูสักหนก็ได้พระธิดาจางลี่!”“ท่านร้ายกาจนักองค์ชายหลี่เจี๋ย...อื๊อ!”เสียงของนางหายเข้าไปในปากหยักได้รูปขององค์ชายอีกหน หลี่เจี๋ยกดท้ายทอยจางลี่บังคับให้นางรับจุมพิตก้าวร้าวคุกคามโดยไม่สนใจว่านางจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อตอนนี้เขาคือผู้ถือไพ่เหนือกว่า พระธิดาจางลี่เป็นแค่หมากตัวเล็กในเกมแก้แค้นของอ๋องแคว้นหลู่เท่านั้น หลี่เจี๋ยบดริมฝีปากร้อนรุ่มบนกลีบปากของนางรุนแรงพอจะทำให้เรียวปากอิ่มบวมเจ่อก่อนปล่อยร่างบอบบางให้เป็นอิสระ จางลี่เซไปข้างหลัง นางแทบจะทรุดลงนอนกับพื้นแต่ยังทรงกายให้นั่งและยกมือขึ้นป้องปากบวมเป็นสีแดงเข้มพร้อมกับน้ำตาถั่งไหล“องค์ชาย...”“หึ!...คิดหรือว่าข้าจะยินดีรับเจ้าเป็นองค์ชายา ข้ารู้ว่าพระปิตุลากำลังคิดการใด ส่งเจ้ามาเพื่อมิให้เกิดการพิภาทระหว่างแคว้น ต้องการรกะชับความสัมพันธ์และคิดจะควบคุมข้าให้อยู่ในอำนาจของเขาเช่นนั้นหรือ”“เช่นนั้นพระองค์ควรปฏิเสธเสด็จพ่อแต่แรก ข้าเองก็มิได้อยากทำตามประสงค์ของเสด็จพ่อแม

    Last Updated : 2024-11-10
  • ชายายอดเสน่หา   7

    เมื่ออีกราตรีมาถึงพระธิดาจางลี่ก็เริ่มหัวใจไม่เป็นสุข หลังอาหารมื้อเย็นที่เหล่านางกำนัลและข้ารับใช้ของปาอ๋องแคว้นหลี่นำมาถวายจางลี่ทำตัวตามปกติแม้เห็นว่านางกำนัลคนสนิทมีท่าทีลุกลี้ลุกลนนางจึงเอ่ยถามเมื่ออยู่กันสองต่อสอง“หลินเจิน...เจ้าบอกข้าว่าคืนนี้จะออกไปหาราชองครักษ์เจ้า แล้วเจ้าจะออกไปจากตำหนักนี้ได้อย่างไรในเมื่อเหล่าทหารขององค์ชายเฝ้าเวรยามเต็มไปหมดเช่นนี้”“ใจเย็นก่อนเจ้าค่ะท่านหญิง”หลินเจินขยับเข้ามาใกล้พระธิดา นางชะเง้อมองซ้ายขวาแล้วหันมากระซิบว่า“ทหารของหลู่อ๋องเฝ้าอยู่มากมายก็จริง นั่นเพราะทหารเหล่านี้ต้องทำการเฝ้ายามมิให้พวกเราคลาดสายตาหรือออกจากตำหนักแห่งนี้ได้ แต่หากเราทำให้ทหารเหล่านั้นกลับไปสนใจอย่างอื่นก็มีหนทางที่ข้าจะออกไปพบกับราชองครักษ์เจ้าได้นะเจ้าคะท่านหญิง”“สนใจอย่างอื่นกระนั้นหรือ...เจ้าจะทำอย่างไร”“ฟังหลินเจินนะเจ้าคะ ข้ามีวิธีการที่จะทำให้ทหารเหล่านั้นเบี่ยงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่น แต่สัญญากับข้าก่อนว่าหากเกิดอะไรขึ้นท่านหญิงต้องไม่ตกใจและต้องร่วมมือกับข้าด้วย”“เจ้าจะทำอะไร”“ตามมาทางนี้เจ้าค่ะ”หลินเจินดึงมือพระธิดาให้เดินตามนางไปในห้องนอน ไปหยุดข้าง

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   8

    จางลี่เองก็หาได้พักผ่อนไม่ นางเป็นกังวลต่อการหลบหนีออกไปจากตำหนักร้อยไหมของหลินเจินในห้วงเวลาของความโกลาหล เฝ้าคอยมองว่านางกำนัลคนสนิทจะกลับเข้ามาเมื่อใดหลังทุกอย่างสงบลงแล้ว ปริวิตกว่านางจะได้พบราชองครักษ์เจียนเจ้าดังที่หวังหรือไม่เพราะจวบจนแสงโคมทองอาบไปทั่วบึงน้ำใหญ่รอบตำหนักก็ยังไม่เห็นเงาของหลินเจินว่านางจะกลับมา จางลี่นั่งคอยรอจนเกือบผลอยหลับหากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้นางสะดุ้งตื่นจากภวังค์ใกล้นิทรา“หลินเจิน...เจ้าคงกลับมาแล้วสินะ”จางลี่รำพึงกับตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนวิ่งไปเปิดประตูหากแต่ต้องผงะเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่นั่น“องค์ชาย!”ร่างน้อยชะงักและถอยหลัง ใบหน้าสวยซึ้งเปลี่ยนเป็นซีดลงเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่งามสง่าขององค์ชายหลี่เจี๋ยภายใต้พระภูษาน่าเกรงขามยืนนิ่งและจ้องมองมายังร่างเล็กบอบบางของพระธิดาที่ฝืนยิ้มให้“องค์ชาย...ไหนพระองค์ตรัสว่าจะกลับมาที่ตำหนักร้อยไหมในอีก...”“สามราตรี”หลี่เจี๋ยแทรกด้วยน้ำเสียงกังวานก้อง ใบหน้าคมคายของอ๋องแคว้นหลู่ดูเหมือนเคียดขึ้งหากรอยยิ้มเหยียดผุดบนมุมปากหยัก ปาอ๋องหรี่นัยน์ตาดำยาวรี“สามราตรีนั้นดูจะมากไป ข้าอยากพบพระธิดาจางลี่ของข

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   9

    จางลี่กัดฟันแน่น มิได้นึกเจ็บปวดต่อบาดแผลแรกที่อ๋องแคว้นหลู่บากมันไว้บนไหล่แต่เจ็บใจที่นางนึกไม่ถึงว่าพระญาติผู้พี่จะมีจิตใจอำมหิตถึงเพียงนี้ ก่อนนางขยับตัวหลินเจินจับมือเรียวบางไว้แน่นและเอ่ยทั้งน้ำตา“ท่านหญิง...เป็นเพราะข้าท่านถึงต้องมาตกที่นั่งลำบากเยี่ยงนี้ อภัยให้ข้าด้วย”“แค่โบยร้อยครั้ง...ก็แค่ตาย”จางลี่กัดฟันพลางเหลือบมองญาติผู้พี่ของนางที่ยืนอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน นางแสดงความเข้มแข็งด้วยการลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องนั้น ราชองครักษ์โม่โฉวเก็บดาบลงฝักพลางเอ่ยขึ้น“ท่านอ๋อง...จะให้ผู้คุมเป็นผู้โบยองค์ชายาหรือไม่พะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง...เดี๋ยวข้าจะไปที่คุกหลวงและเป็นคนลงแส้นางเอง!”หลี่เจี๋ยหันหลังกลับและก้าวออกจากห้องนั้น ยังเหลือหลินเจินที่นั่งตาเบิกค้างเมื่อได้ยินบัฐชาของผู้ครองแคว้นหลู่ และก่อนที่โม่โฉวจะเดินตามออกไปหลินเจินก็ร้องออกมาว่า“มินึกเลยว่าคนแคว้นหลู่จะใจดำอำมหิตเช่นนี้ พระธิดาจางลี่เป็นองค์ชายามิใช่กบฏแผ่นดินแม้แต่น้อย”“แต่นางกระทำผิดอย่างร้ายแรง” ราชองครักษ์ตอบเสียงหนักแน่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตำหนักร้อยไหมมีความสำคัญต่อท่านอ๋องเยี่ยงไร”“สำคัญเยี่ยงไรเล่า ตำหนักนี

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   10

    “หม่อมฉันหร้อมรับโทษเพคะ และหากหม่อมฉันตายไปก็ขอพระองค์โยนร่างของหม่อมฉันลงไปที่ใต้ตำหนักร้อยไหมให้จระเข้ของพระองค์ฉีกทึ้ง มิต้องเหลือซากแม้กระดูกกลับคืนแผ่นดินฉี”ควับ!!“ฮึก!”จางลี่สะดุ้ง หลังของนางแอ่นเมื่อหลี่เจี๋ยหวดแส้ลงบนหลังบอบบางหนแรกจนชุดผ้าแพรเป็นรอยแยกบางๆ หากนางกลับมิส่งเสียงร้องออกมาเพียงสักแอะ หลู่อ๋องขบกรมแน่นก่อนลงแส้เป็นครั้งที่สอง คราวนี้เนื้อผ้าบนแผ่นหลังของนางขาดออกจากกันหากจางลี่ก็มิยอมส่งเสียงร้องออกมาดังเดิม4บุปผาเดียวดายยิ่งจางลี่ไม่ส่งเสียงร้องก็เหมือนเป็นการยั่วยุโทสะอ๋องหลี่เจี๋ย เขาตวัดปลายแส้ลงไปอีกสามครั้งแผ่นหลังของนางก็เป็นรอยแผลปริแยก โลหิตซึมออกมาหากนางก็ยังกัดฟันแต่ใบหน้าของนางกดเกร็ง คิ้วขมวดมุ่นควับ!!เสียงปลายแส้สะบัดลงบนแผ่นหลังของนางอีกครั้งคราวนี้โลหิตสาดกระเซ็น แต่ก่อนที่หลี่เจี๋ยจะเงื้อมือเพื่อลงแส้ซ้ำลงไปอีกเขาต้องชะงักเมื่อโม่โฉวปราดเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“พอก่อนเถิดพระองค์...เกรงว่าหากลงแส้จนครบร้อยครั้งนางอาจทนไม่ไหวและต้องสิ้นใจในคุกหลวงนี้เป็นแน่”ราชองครักษ์เอกกราบทูลด้วยเสียงแน่นหนักทั้งที่เขาไม่เคยขัดต่อพระประสงค์ของหลู่อ๋องมาก่อ

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   11

    “นางมิเป็นอะไรมากดอก เจ้ามิต้องห่วงกังวล”“ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ ที่ข้าเป็นกังวลนั้นเป็นเพราะเห็นบาดแผลของนางน่ากลัวยิ่งนัก ตั้งแต่ข้ารับใช้พระธิดามาก็มิเคยเห็นโลหิตตกจากพระกายาของนางเลยแม้แต่น้อย”“ข้าได้จัดโอสถอย่างดีให้นางกำนัลใส่ในลูกประคบแผลนางแล้ว เครื่องโอสถแคว้นหลู่นั้นถือว่าเป็นเครื่องปรุงทิพย์ นางจักมีพระอาการดีขึ้นในอีกไม่เกินเจ็ดราตรีหลังจากนี้”“นี่แสดงว่าท่านคงทำการรักษาผู้ต้องทัณฑ์ลงแส้มานักต่อนักถึงได้มีความรู้เรื่องยารักษามากเช่นนี้”ได้ยินดังนั้นหมอหลวงกลับส่ายหน้า“เปล่าเลยสนม...ข้าเคยรักษาผู้ต้องอาญาโบยด้วยแส้เพียงไม่กี่คน”“ทำไมเจ้าคะ?”“ส่วนใหญ่หามีผู้ใดรอดจากอาญาร้ายแรงเทียมผูกร่างให้ม้าฉีกออกเป็นชิ้นนั้นอย่างไรเล่า”“จริงหรือเจ้าคะ?” หลินเจินหน้าตื่น“แต่อาการของพระนางนั้นหาได้ร้ายแรงไม่ จากที่ข้าพินิจดูรอยแผลของนางต้องรอยแส้นับไม่กี่หน”“แต่โลหิตนางก็ไหลมากเหลือเกินนะเจ้าคะ”“นั่นเพราะแผลลึกมาก อืม...ผู้ใดกันที่ลงแส้พระธิดา”หมอหลวงทำท่านึกแต่หลินเจินหาได้หลุดปากออกไปไม่ว่าหลู่อ๋องนั่นอย่างไรเป็นผู้ลงแส้ด้วยพระองค์เอง กระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นว่า“ช่างมันเถิด ไม่ว

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   12

    เสียงนกร้องและแสงแดดอ่อนลอดเข้ามาทางหน้าต่างห้องของตำหนักร้อยไหมที่หันไปยังบูรพทิศทำให้จางลี่รู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางความเจ็บปวดรวดร้าวบนแผ่นหลัง แต่สิ่งแรกที่นางเห็นเมื่อลืมตาคือหลู่อ๋องหลี่เจี๋ยซึ่งยืนที่หน้าต่างห้องขณะกำลังมองออกไปยังเวิ้งน้ำด้านนอกที่โอบล้อมตำหนักร้อยไหม นางยังนอนคว่ำบนเตียงและขยับตัวไม่ได้มากนัก รู้เพียงว่าร่างกายที่มีผ้าไหมบาง ๆ ปกปิดอยู่นั้นเจ็บร้าวไปหมด จางลี่มองไปรอบ ๆ ไม่เห็นใครแม้แต่หลินเจิน นางต้นห้องคนสนิท ความกลัวแล่นเข้าจับใจอีกครั้งแต่เมื่อกำลังจะหลับตากลับได้ยินเสียงทรงอำนาจดังขึ้น“เจ้าฟื้นแล้วหรือ น้องพี่?”หลี่เจี๋ยก้าวเข้ามาและหย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ ดวงตาดำยาวรีจับจ้องบนดวงหน้าสีกุหลาบโดยปราศจากรอยยิ้ม จางลี่หาได้ยินดีไม่ นางไม่ปรารถนาเห็นหน้าพระญาติผู้พี่ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าจะเป็นพระสวามีของนาง อ๋องแคว้นหลู่สมญาพยัคฆ์ขาวรูปงามแท้แล้วจิตใจอำมหิตยิ่งนัก“เมื่อคืนนี้ข้ามิได้หลับเลยรู้ไหม...กายเจ้าร้อนดั่งไฟ และข้าต้อง...ป้อนยาให้เจ้าทั้งคืน”หลู่อ๋องไล้ปลายนิ้วหยาบแกร่งบนปลายคางมน นัยน์ตาคู่นั้นหาได้ฉายแววแห่งความอารีย์ดังคำพูดที่เปล่งออกมาไม่ จางลี่เม้ม

    Last Updated : 2024-11-13
  • ชายายอดเสน่หา   13

    “มิน่าเชื่อว่าธิดาของฉีหวนกงนั้นช่างเข้มแข็ง ข้านึกว่านางจะร้องคร่ำครวญ ร้องขอชีวิตแต่นางกลับอดกลั้นได้ยิ่งกว่าชายอกสามศอก แต่ข้าก็หาได้ปักใจเชื่อไม่ว่านางจักเข้มแข็งได้ถึงเพียงนั้น”“แต่โทษครั้งนี้ก็หนักหนาเอาการอยู่ นางคงมิกล้าทำผิดอีกแล้ว”“ข้ามิเคยเชื่อใจผู้ใด คนที่ดีกันเจียนตายยังฆ่ากันได้เมื่อสบโอกาสเหมาะ นางก็คงมิผิดจากพ่อของนาง ข้ามิรู้ว่าคนแคว้นฉีมีแผนอันใดหรือไม่ เราควรต้องระวังตัวตลอดเวลานี่มิใช่หรือ เจ้าคิดเช่นข้าหรือไม่โม่โฉว”“พะย่ะค่ะ...แต่...หม่อมฉันว่าตอนนี้พระองค์ควรคิดเรื่องเตรียมการพิธีสำหรับพระธิดารับตำแหน่งหวางเฟยก่อนเรื่องอื่น”“รอให้แผลของจางลี่หายดีมากกว่านี้ ข้ามิลืมว่าฉีหวนกงส่งนางมาด้วยเหตุผลอันใด...แล้วตอนนี้คนของนางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ตอนนี้ผู้ติดตามของพระธิดาอยู่ในพื้นที่ที่หม่อมฉันจัดเตรียมไว้ให้ แต่ท่าทางราชองครักษ์เจียนเจ้าอยากรู้ว่าองค์ชายาเป็นเยี่ยงไร”“ท่าทางราชองรักษ์ผู้นี้มิธรรมดา เจ้าเห็นดังที่ข้าเห็นหรือไม่โม่โฉว”“หม่อมฉันทราบมาว่าแต่ก่อนเจียนเจ้านั้นเป็นรองแม่ทัพใหญ่ กรำศึกให้แคว้นฉีมากมายหลายสนามรบก่อนเข้ามารับใช้เป็นนายทหารคอยติดตามฉีหวนกง ห

    Last Updated : 2024-11-13

Latest chapter

  • ชายายอดเสน่หา   54

    จางลี่ครางหวิวหวาด หัวใจแทบขาดด้วยความกระสันเสียว นางก็คิดถึงเขาไม่ต่างกัน ระหว่างเขาและนางความอ่อนหวานราวกำซาบเข้าสู่หัวใจทั้งสองดวง เมื่อเขาดูดกลืนความหวานจากยอดบัวจนพอใจร่างอรชรจึงขยับหันหลังให้ หลี่เจี๋ยไล้ปลายลิ้นบนขมับลงมาถึงลำคอ แนบอกกว้างกับแผ่นหลังของนางจนสนิททุกสัดส่วน ความเป็นชายของเขาตื่นตัวและรุกเร้าอยู่บื้องหลังบั้นท้ายงอนงาม มือแกร่งสอดมาด้านหน้ากอบกุมปทุมถันทั้งสอง หลี่เจี๋ยเฟ้นฟอนไปตามไหล่กลมกลึงด้วยปากและปลายจมูกโด่ง“จางลี่...อาส์...พี่ต้องการเจ้า”เสียงแผ่วพร่าดังกว่ากระซิบยิ่งทำให้นางหวิววาบซาบซ่านก่อนที่เขาสอดมือข้างหนึ่งลงไปใต้เข่ายกเรียวขาของนางขึ้นและสอดใส่ความแข็งแกร่งเข้าสู่กลีบเนื้องามจากด้านหลัง“ท่านพี่...อะ...อาส์...อาส์...อืม...อาส์”“จางลี่...อาส์...อาส์”กษัตริย์หนุ่มหายใจหอบเมื่อแก่นเนื้ออวบหนาถูกบีบรัดจากกลีบผการุนแรง หลี่เจี๋ยขยับสะโพกแต่ไม่ลืมผ่อนเบาในบางจังหวะ ไม่ลืมว่าลึกเข้าไปคือชีวิตน้อย ๆ ขององค์รัชทายาทที่หลับใหลอยู่ในนั้น แม้ความปรารถนาถาโถมรุนแรงแต่จังหวะขยับโยกนั้นอ่อนหวานจนจางลี่สยิวซ่านไปทั่วเรือนกาย“ท่านพี่...อาส์...อาส์”นางตวัดแขนเร

  • ชายายอดเสน่หา   53

    “ใครหรือเพคะ?”“อำมาตย์ใหญ่อู๋อี้ฝาน และ...พระอาจารย์วั่งซู”จางลี่มีสีหน้าตกใจ นางพยายามลำดับเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อนั้น ดวงตางามเต็มไปด้วยคาวมสับสน“มันจะเป็นไปได้เช่นไร พระอาจารย์วั่งซูคือผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ท่านพี่ และยิ่งกว่านั้นลูกสาวของพระอาจารย์ก็ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นหวางเฟยองค์ใหม่อีกด้วย”“นั่นเป็นแผนที่ถูกวางไว้แล้วทั้งหมด เพราะพี่เองที่โง่งม มิเคยคิดระวังคนใกล้ตัว พี่ไว้วางใจพระอาจารย์ของตัวเอง เพราะเห็นวั่งซูมาแต่เล็กและอยู่ใกล้ชิดฮุยอินมาแต่ยังเยาว์ พี่ถือว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน แต่คนเหล่านั้นมิเคยคิดแยกแยะ มีแต่ความโลภโมโทสัน สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบของตัวเอง”“หม่อมฉันคิดว่าฮุยอินโชคดีแล้วที่ได้รับตำแหน่งหวางเฟยองค์ใหม่ นางคงรอโอกาสนี้มานับแต่ยังเยาว์”“ฮุยอินมิได้รู้เห็นกับการกระทำของพ่อตัวเอง แต่นางยุยงให้พี่เข้าใจผิด ขับเจ้าออกจากวัง และมันก็เข้าแผนของพวกกบฏ”“แล้วพระองค์ทำเช่นไรกับนางหรือเพคะ?”“นางได้รับโทษอย่าสาสมแล้ว ฮุยอินเอาตัวเข้ารับลูกธนูของพวกกบฏแทนพี่ ตอนนี้พระอาจารย์วั่งซูถึงกับสติฟั่นเฟือนที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียว”“นางรักท่านพี่ด้วยหัวใจบริสุทธิ

  • ชายายอดเสน่หา   52

    หลี่เจี๋ยเงียบไป เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้และแรงกระตุกของร่างเล็กในอ้อมแขน ความสำนึกผิดแล่นขึ้นมาจับหัวใจ เขากดศีรษะทุยของนางกับไหล่กว้าง มันเป็นช่วงเวลาที่ยากยิ่งสำหรับเขา แม้เป็นกษัตริย์ปกครองคนมากมาย เป็นเจ้าแห่งรัฐที่มิเคยอ่อนข้อให้ผู้ใดแต่วันนี้เขาขอวางเกียรติและความสูงส่งนั้นเพื่อเอาหัวใจรักของบุรุษผู้หนึ่งไว้แทบเท้าสตรียอดดวงใจในบัดนี้ “จางลี่” เสียงนั้นแผ่วลง “พี่รู้ว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้กับเจ้าบ้าง หากเจ้าจะอภัยให้พี่”“อภัยหรือเพคะ?”จางลี่ขยับห่างเล็กน้อยแต่หลี่เจี๋ยไม่ยอมคลายวงแขนที่ยังกอดไว้แน่น นางยิ้มขื่น“พระองค์เป็นถึงหลู่อ๋อง จะให้หม่อมฉันซึ่งเป็นเพียงหญิงต่ำช้าในสายพระเนตรอภัยให้พระองค์เช่นนั้นหรือเพคะ หม่อมฉันมิกล้า แค่นี้ก็เกรงอาญาเหลือเกินแล้ว”“นิสัยช่างประชดประชันของเจ้าทำอย่างไรก็แก้ไม่หายเสียที แต่...สิ่งนี้มิใช่หรือที่ทำให้พี่รักเจ้ามากจนถอนใจไม่ขึ้น”“พระองค์ต้องการสิ่งใด” นางนิ่วหน้าเหมือนเจ็บปวด “วันก่อนหาว่าหม่อมฉันคบชู้ ขับไล่หม่อมฉันออกจากวัง แล้ววันนี้มาตามหาหม่อมฉัน มีประสงค์อันใดกันแน่”“จางลี่...”“หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าเป็นแค่ธิดาของพระสน

  • ชายายอดเสน่หา   51

    “อยู่นิ่ง ๆ ...อย่าแม้แต่ขยับตัว”หลี่เจี๋ยสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำขณะร่างบางที่ยืนตรงหน้าสั่นเทา จางลี่ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อสุนัขป่าค่อย ๆ ย่างเข้ามา มันกำลังดูเชิงและตั้งท่าหมอบลงเล็กน้อย ดวงตาแดงราวเปลวเพลิงคู่นั้นสะท้อนแสงวับวาว“กรี๊ด!!”จางลี่กรีดร้องสุดเสียงเมื่อมันกระโจนเข้าหาแต่ยังไม่ทันถึงตัวกลับถูกคมธนูปักเข้าที่กลางหน้าผากจนหงายหลังล้มฟุบลงกับพื้นเลือดทะลักออกมาแดงฉาน“จางลี่”หลี่เจี๋ยวิ่งเข้าไปประคองร่างบางที่ทรุดลงหมดสติในอ้อมแขนของเขาทั้งที่มือแกร่งอีกข้างกุมคันธนูไว้มั่น“จางลี่...จางลี่”เขาพยายามเรียกแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบ จางลี่หมดสติไปแล้วด้วยความตื่นตกใจ เขากอดนางเอาไว้แนบอกและจูบบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อขณะกระซิบ“น้องสาวของพี่...พี่มาช่วยเจ้าแล้ว และนับแต่นี้จะมิมีวันทอดทิ้งเจ้าไปไหนอีก”จางลี่รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความมึนงง นางค่อย ๆ ลืมตาตื่นและเห็นแสงสว่างสาดส่องไปทั่ว เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่จึงเห็นเพดานคูหาถ้ำและเงาของใครคนหนึ่งวาบไหวไปมาบนนั้น นางค่อย ๆ พลิกตัวและมองเห็นแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้ซึ่งนางคุ้นเคย“องค์ชาย...”เสียงแหบเบาลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผา

  • ชายายอดเสน่หา   50

    จางลี่สะอื้นไห้ คิดถึงชีวิตแสนสุขสบายในวังหลวง นางอยู่แคว้นฉีมีแต่ความรื่นรมย์ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางมายังเมืองหลู่ หากโอรสของพระชายาเอกมิต้องการได้นางเป็นอนุลับ ๆ นางอาจพบใครสักคนและมีชีวิตครอบครัวอยู่บ้านเกิดเมืองนอน แต่เมื่อคิดไปจางลี่กลับยิ่งรู้สึกเสียใจต่อความร้ายกาจของหลู่อ๋อง ก็ในเมื่อนางรักเขามากถึงเพียงนั้นจางลี่ยอมรับกับตัวเองแล้วว่านางรักองค์ชายหลี่เจี๋ย และยิ่งรู้ว่านางกับเขามิได้มีสายเลือดเดียวกันก็ยิ่งทำให้หลุดพ้นจากความคิดติดพันในเรื่องการเป็นญาติใกล้ชิดกัน นางเป็นอิสระที่จะรักเขา แต่แล้วราวสวรรค์แกล้งเมื่อไร้วาสนาได้ครองคู่เพราะความอิจฉาริษยาและยุแยงกลั่นแกล้งจากคนใกล้ตัวหลู่อ๋องชังนางยิ่งกว่าสิ่งใด ชาตินี้ถึงอย่างไรคงคงไร้วาสนาหนำซ้ำหากมิรีบหนีไปตอนนี้ลูกน้อยในครรภ์ก็อาจไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกก็เป็นได้ แต่แล้วจางลี่ก็ต้องระงับความคิดของนางเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังเข้ามาใกล้ เป็นเสียงฝีเท้าม้าดังกุบกับ มีคนเข้ามาที่นี่เช่นนั้นหรือ นางค่อย ๆ ขยับตัวและเยี่ยมหน้าออกไปจากด้านหลังโขดหินใหญ่หากต้องตกใจเมื่อเห็นแสงจากคบไฟใกล้เข้ามา“หล

  • ชายายอดเสน่หา   49

    “มิเกี่ยวกับท่านดอก หวังหย่ง...ทำใจให้สบายเถิด ทำตามหน้าที่ของท่านนนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว”โม่โฉวกล่าวจบก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหลู่อ๋องก้าวออกมาจากศาลเจ้าด้วยใบหน้าเคียดขึ้ง ทุกคนต้องรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง“หวังหย่ง...ใยข้าจึงมิเห็นผู้ใดอยู่ในศาลเจ้า”“เป็นไปมิได้ดอกพะย่ะค่ะ หวางเฟยเพิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก่อนหน้าที่พระองค์เสด็จมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น”“ท่านหญิง...ท่านหญิงมิได้อยู่ในศาลเจ้าหรอกหรือเพคะ”หลินเจินหน้าตื่น นางลุกขึ้นและรีบวิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก็เห็นแต่แท่นบูชาต่อหน้าเทพเจ้าที่มีเพียงร่องรอยธูปหลายอันปักในแจกันหากแต่เป็นธูปเก่าที่ไหม้จนหมดดอก มิมีอันใหม่ดังที่เข้าใจว่าพระธิดาจางลี่จะเข้ามาบูชาเทพเจ้าดังที่บอกไว้ เมื่อเห็นดังนั้นนางสนมก็ถึงกับหลั่งน้ำตา“พระธิดา...ไม่จริงหรอกนะเจ้าคะ...ท่านคงมิทำเช่นนั้น”“จางลี่อยู่ที่ไหน!”เสียงทรงอำนาจที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้หลินเจินหันกลับไป นางทรุดลงนั่งและร้องไห้ออกมา“ฝ่าบาท...ฝ่าบาทเพคะ...พระธิดาของหม่อมฉันมิได้อยู่ที่นี่ พระธิดา...อาจจะหนีไปแล้วเพคะ”“ว่าอย่างไรนะ!”18วอนรักนั้นกลับคืนหลี่เจี๋ยชะงักงัน นัยน์ตาดำยาวรีสะท้อนความเจ็บปวด

  • ชายายอดเสน่หา   48

    “น่าจะเป็นเรื่องดีนะเจ้าคะ เช่นนั้นท่านหญิงก็ควรพักผ่อนให้มาก เตรียมตัวเพื่อรุ่งขึ้นจะได้ออกเดินทางไปยังอารามเทพเจ้า”“หลินเจิน”“เจ้าคะท่านหญิง”“ข้ามิรู้ว่าหลู่อ๋องนั้นมีแผนใดมากไปกว่าการกักกันตัวข้าไว้ที่ตำหนักแห่งนี้ ข้ามิรู้ว่าชีวิตของข้าจะยืนยาวไปสักเพียงไหน แต่จำไว้เถิดว่าข้าจะมิมีวันลืมความดีของเจ้าเลย”“ท่านหญิง”หลินเจินน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวหากนางก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่บกพร่อง จัดสำรับและโอสถให้พระธิดาจางลี่ ส่งนางบรรทมและเฝ้าคอยดูความเรียบร้อยทุกอย่างดังที่เคยทำมาวันรุ่งขึ้น เก้าลี้จากตำหนักต้องห้ามในหุบเขาหนีซานอันเงียบสงบ หวังหย่ง หัวหน้าองครักษ์ผู้ดูแลตำหนักได้จัดเตรียมรถม้าเพื่อนำหวางเฟยไปยังอารามเก่าแก่บนเขาหนีซานโดยมีทหารติดตามไปเกือบสิบคน กระทั่งไปถึงสถานที่สักการะเทพเจ้า เมื่อจางลี่ลงจากรถม้านางจึงเห็นว่ามีอารามเก่าท่ามกลางหุบเขาอันสงบเงียบ มีไม้ใหญ่ขึ้นรกเรื้อหากนางก็จำได้ว่าเส้นทางจากนตำหนักมายังที่แห่งนี้มิได้ทุลักทุเลดังคิด จางลี่เก็บอาการเหนื่อยล้าไว้ภายใน นางสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่เพื่อปกปิดหน้าท้องที่ยื่นออกมาจนเริ่มสังเกตได้ ส่วนหลินเจินก็ยังคง

  • ชายายอดเสน่หา   47

    “หลินเจิน...แล้วเจ้าได้ข่าวคราวอันใดจากวังหลวงบ้างหรือไม่?”หลินเจินส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจ“เปล่าเลยท่านหญิง...ข้าพยายามถามพวกนายทหารที่มาคอยเฝ้าเวรยามก็มิเห็นมีผู้ใดรู้เรื่องในราชสำนักแคว้นหลู่ ข้าเองก็มิสบายใจเลยเจ้าค่ะ”“ป่านนี้ท่านองครักษ์เจียนเจ้าจะเป็นเช่นไรบ้างก็มิรู้ แล้วยังมีผู้ติดตามข้ามาอีกหลายสิบชีวิต ข้าท้อใจเหลือเกิน ใยองค์ชายหลี่เจี๋ยจึงมิลงทัณฑ์ข้าให้ตายไปเสียแต่วันนั้น หากข้าตายแล้วคนของข้าปลอดภัยกลับไปยังแผ่นดินฉีข้ายอม”“ข้าคิดว่าที่หลู่อ๋องมิยอมลงดาบท่านหญิงก็เพราะว่า...พระองค์รักท่านหญิงมากนะเจ้าคะ”“หากเขารักข้าใยจึงมิฟังเหตุผล”“ท่านหญิงมิเคยได้ยินหรอกหรือเจ้าคะ รักมากก็แค้นมาก”“เขาชังข้าเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้วต่างหาก”“อย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ ดูแลร่างกายของท่านให้แข็งแรงเพื่องค์รัชทายาทจะได้แข็งแรง”จางลี่ก้มลงมองหน้าท้องของตัวเองที่ยื่นออกมาเล็กน้อย บ่อยครั้งรู้สึกถึงแรงตอดจากอีกชีพจรภายใน แม้ทุกข์เพียงใดหากเมื่อรู้สึกถึงพลังของอีกชีวิตนางก็อบอุ่นและเกิดแรงกำลังใจอย่างมาก หลินเจินถอนใจอีกครั้ง“ก่อนข้าจะเดินทางมาที่นี่พร้อมท่านหญิง ข้าได้ไปพบท่านโม่โฉว แต่ก็มิเห

  • ชายายอดเสน่หา   46

    “จับพวกกบฏแผ่นดินไปขังในคุกหลวง รอพระบัญชาจากหลู่อ๋อง ส่วนคนของพวกมันที่จับได้ โยนลงไปใต้ตำหนักให้เป็นอาหารจระเข้อย่าให้เหลือ!”“ช้าก่อนโม่โฉว”“พะย่ะค่ะ”โม่โฉวคุกเข่าลงเมื่อหลี่เจี๋ยปรามเขาหลังทหารคุมตัวอำมาตย์และพระอาจารย์ชั่วรวมทั้งร่างไร้วิญญาณของฮุยอินที่หลู่อ๋องมองตามด้วยความเวทนาออกจากตำหนัก จากนั้นจึงออกคำสั่งต่อราชองครักษ์ประจำพระองค์ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“ขอบใจเจ้ามากโม่โฉวที่มาช่วยข้าทันเวลา แต่พวกกบฏที่จับได้จงนำไปขังไว้ก่อน อย่าให้มีคนต้องตายมากไปกว่านี้เลย”“รับพระบัญชาพะย่ะค่ะ”โม่โฉวรับคำ หากแต่ขณะนั้นสายตาของหลู่อ๋องมองเลยเขาไปยังองครักษ์เจียนเจ้าที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลัง แววตาของหลี่เจี๋ยเปลี่ยนไปในทันที เขาเอ่ยขึ้น“ราชองครักษ์โม่โฉว แม้เจ้าจะมีความดีความชอบช่วยข้ากอบกู้บ้านเมืองในยามคับขัน หากแต่ความดีของเจ้านั้นมิอาจนำมาแลกกับการอภัยโทษให้ผู้กระทำผิดร้ายแรงได้ไม่”เมื่อได้ยินเช่นนั้นโม่โฉวรู้ได้ในทันทีว่าหลู่อ๋องหมายถึงสิ่งใด เขาหันกลับไปมองหน้าองครักษ์เจียนเจ้าชั่วอึดใจก่อนหันกลับมายังเจ้าผู้ครองแคว้น โม่โฉวค้อมตัวลง“กระหม่อมทราบดีพะย่ะค่ะว่าได้กระทำการอันอาจเป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status