Share

8

จางลี่เองก็หาได้พักผ่อนไม่ นางเป็นกังวลต่อการหลบหนีออกไปจากตำหนักร้อยไหมของหลินเจินในห้วงเวลาของความโกลาหล เฝ้าคอยมองว่านางกำนัลคนสนิทจะกลับเข้ามาเมื่อใดหลังทุกอย่างสงบลงแล้ว ปริวิตกว่านางจะได้พบราชองครักษ์เจียนเจ้าดังที่หวังหรือไม่เพราะจวบจนแสงโคมทองอาบไปทั่วบึงน้ำใหญ่รอบตำหนักก็ยังไม่เห็นเงาของหลินเจินว่านางจะกลับมา จางลี่นั่งคอยรอจนเกือบผลอยหลับหากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้นางสะดุ้งตื่นจากภวังค์ใกล้นิทรา

“หลินเจิน...เจ้าคงกลับมาแล้วสินะ”

จางลี่รำพึงกับตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนวิ่งไปเปิดประตูหากแต่ต้องผงะเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ที่นั่น

“องค์ชาย!”

ร่างน้อยชะงักและถอยหลัง ใบหน้าสวยซึ้งเปลี่ยนเป็นซีดลงเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่งามสง่าขององค์ชายหลี่เจี๋ยภายใต้พระภูษาน่าเกรงขามยืนนิ่งและจ้องมองมายังร่างเล็กบอบบางของพระธิดาที่ฝืนยิ้มให้

“องค์ชาย...ไหนพระองค์ตรัสว่าจะกลับมาที่ตำหนักร้อยไหมในอีก...”

“สามราตรี”

หลี่เจี๋ยแทรกด้วยน้ำเสียงกังวานก้อง ใบหน้าคมคายของอ๋องแคว้นหลู่ดูเหมือนเคียดขึ้งหากรอยยิ้มเหยียดผุดบนมุมปากหยัก ปาอ๋องหรี่นัยน์ตาดำยาวรี

“สามราตรีนั้นดูจะมากไป ข้าอยากพบพระธิดาจางลี่ของข้าหัวใจแทบขาด แล้วเจ้าเล่า...จางลี่...เจ้านึกถึงข้าเช่นกันใช่หรือไม่”

“เพคะ...”

“เมื่อคืนเกิดเหตุไฟไหม้ในตำหนักร้อยไหม ข้าเป็นห่วงเจ้ามากรู้หรือไม่”

“ขอบพระทัยเพคะ”

“ถ้าอยากให้ข้ารีบมาหาเจ้าก็ไม่เห็นต้องวางแผน ใช้ให้นางกำนัลของเจ้าวางเพลิงให้เกิดความวุ่นวายเช่นนี้เลยองค์ชายาของข้า!”

“องค์ชาย...อ๊ะ!...หลินเจิน!”

จางลี่ตาเบิกค้างเมื่อนางสนมต้นห้องก้าวเข้ามาพร้อมทั้งคุกเข่าลงโดยมีทหารสองนายขนาบข้าง หลินเจนใบหน้าซีดเซียวและร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความหวาดกลัว

“ท่านหญิง...หลินเจิน...หลินเจินขออภัยด้วยเจ้าค่ะ”

“องค์ชาย...ท่านทำอะไรคนของหม่อมฉัน”

จางลี่หันไปถามร่างสูงใหญ่ที่เหยียดมุมปากออกและจ้องมองพระธิดาด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม

“ถามตัวเจ้าก่อนดีไหม พระธิดาจางลี่ ว่าเจ้าใช้คนของเจ้าให้ล่วงละเมิดคำสั่งของข้าออกไปจากตำหนักร้อยไหมด้วยเหตุอันใด”

“อ่า...เอ้อ...หม่อมฉัน...”

“ที่ตอบข้าไม่ได้เพราะทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนวางแผนการณ์ไว้ พระธิดาจางลี่...

“ข้าขอรับผิดต่อเรื่องทั้งหมดนี้เจ้าค่ะ”

หลินเจินหมอบกรานลงกับพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้นยังความตระหนกแก่จางลี่อย่างยิ่ง นางไม่กล้าแม้แต่จะสบนัยน์ตาเหี้ยมของอ๋องแคว้นหลู่ ใบหน้าขององค์ชายตอนนี้เคียดขึ้งและจ้องมองนางราวกับว่าอยากแยกร่างบอบบางออกเป็นหมื่นชิ้น หลี่เจี๋ยเหยียดปากออกอย่างเยียบเย็น

“โม่โฉว นายทหารเอกของข้าเป็นคนไปพบนางกำนัลของเจ้ากำลังจะหลบหนีออกไปจากตำหนักร้อยไหม นางคงจะออกไปหาเหล่าทหารผู้ติดตามตามคำสั่งของพระธิดาและยังได้สารภาพกับข้าว่านางคือคนวางเพลิงตำหนักร้อยไหมจนเกือบวอด…หึ! เจ้าควรรู้ว่าการขัดคำสั่งของเจ้าผู้ครองแคว้นสุดท้ายแล้วโทษจะเป็นเยี่ยงไร แม้เจ้ามารับตำแหน่งองค์ชายาของข้าแต่หากคนของเจ้ากระทำการละเมิดก็จะต้องได้รับโทษสถานหนักเท่านั้น!”

“อย่าเพคะ!”

จางลี่ถลาเข้าไปขวางหน้าหลินเจินเมื่อหลี่เจี๋ยชักดาบเล่มใหญ่ออกจากฝักที่ติดบั้นเอวของราชองครักษ์โม่โฉวซึ่งยืนนิ่งราวกับศิลากหลักก่อนจ่อลงไปจนปลายดาบคมทิ่มทะลุลงไปบนบ่าของจางลี่ หลินเจินเห็นธารโลหิตแดงเถือกบนบ่านายหญิงก็ร้องลั่น

“ท่านหญิง! ท่านหญิงเจ้าคะ!”

“มิเป็นไรดอก” จางลี่กัดฟันแม้เจ็บปวด “ถึงอย่างไรข้าก็ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น...ใช่เพคะองค์ชาย หม่อมฉันเองที่เป็นคนวางแผนให้นางกำนังเผาตำหนักเพื่อจะได้ออกไปพบคนของหม่อมฉันในวังของพระองค์ หลินเจินมิมีความผิด หากจะลงทัณฑ์หม่อมฉันก็ขอรับผิดทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว”

“ได้! หากเจ้าต้องการเช่นนั้น...ทหาร! จับพระธิดาลงไปขังรับโทษโบยร้อยครั้งในคุกหลวงชั้นในสุด!”

อ๋องหลี่เจี๋ยดึงดาบเล่มใหญ่กลับและส่งให้โม่โฉวก่อนทหารอีกสองนายเข้าไปหยุดตรงหน้าจางลี่และคุกเข่าลง หนึ่งในนั้นกล่าวว่า

“ขอเชิญพระธิดาจางลี่...พะย่ะค่ะ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status