แชร์

9

จางลี่กัดฟันแน่น มิได้นึกเจ็บปวดต่อบาดแผลแรกที่อ๋องแคว้นหลู่บากมันไว้บนไหล่แต่เจ็บใจที่นางนึกไม่ถึงว่าพระญาติผู้พี่จะมีจิตใจอำมหิตถึงเพียงนี้ ก่อนนางขยับตัวหลินเจินจับมือเรียวบางไว้แน่นและเอ่ยทั้งน้ำตา

“ท่านหญิง...เป็นเพราะข้าท่านถึงต้องมาตกที่นั่งลำบากเยี่ยงนี้ อภัยให้ข้าด้วย”

“แค่โบยร้อยครั้ง...ก็แค่ตาย”

จางลี่กัดฟันพลางเหลือบมองญาติผู้พี่ของนางที่ยืนอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน นางแสดงความเข้มแข็งด้วยการลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องนั้น ราชองครักษ์โม่โฉวเก็บดาบลงฝักพลางเอ่ยขึ้น

“ท่านอ๋อง...จะให้ผู้คุมเป็นผู้โบยองค์ชายาหรือไม่พะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง...เดี๋ยวข้าจะไปที่คุกหลวงและเป็นคนลงแส้นางเอง!”

หลี่เจี๋ยหันหลังกลับและก้าวออกจากห้องนั้น ยังเหลือหลินเจินที่นั่งตาเบิกค้างเมื่อได้ยินบัฐชาของผู้ครองแคว้นหลู่ และก่อนที่โม่โฉวจะเดินตามออกไปหลินเจินก็ร้องออกมาว่า

“มินึกเลยว่าคนแคว้นหลู่จะใจดำอำมหิตเช่นนี้ พระธิดาจางลี่เป็นองค์ชายามิใช่กบฏแผ่นดินแม้แต่น้อย”

“แต่นางกระทำผิดอย่างร้ายแรง” ราชองครักษ์ตอบเสียงหนักแน่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตำหนักร้อยไหมมีความสำคัญต่อท่านอ๋องเยี่ยงไร”

“สำคัญเยี่ยงไรเล่า ตำหนักนี้ช่างน่ากลัวนัก หรือท่านมิรู้หรือว่าใต้ตำหนักมีจระเข้อยู่เต็มไปหมด”

“นั่นคือความเจ็บปวดที่ท่านอ๋องต้องสูญเสียพระบิดาและเจ้ากับองค์ชายาก็มิมีวันเข้าใจ ข้ามิมีเวลาพูดกับเจ้ามากนัก”

“ท่านโม่โฉว ข้ารู้ว่าท่านเป็นองรักษ์เอกของหลู่อ๋อง แต่...ท่านก็เห็นว่าพระธิดาเป็นเพียงหญิงตัวเล็กที่ไม่มีวันต่อกรกับเหล่าทหารและอ๋องแคว้นหลู่ได้เลย ทำเยี่ยงไรถึงจะช่วยเบาโทษให้นางได้"

“บัญชาของหลู่อ๋องนั้นเทียบเท่าชีวิต พระองค์คือผู้อยู่เหนือสิ่งใด และข้าก็มิอาจขัดพระประสงค์ของพระองค์ได้”

“ได้โปรด...ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ ทัณฑ์ลงแส้ถึงร้อยครั้ง แม้แต่ชายอกสามศอกก็ยังมิทานไหว แล้วพระธิดาจะทนได้หรือเจ้าคะ และหากว่า...นางเป็นอะไรไปต้องเกิดศึกใหญ่ระหว่างแคว้นอย่างแน่นอน”

ถึงนางร้องขอหากโม่โฉวก็ยังมิแสดงท่าทีใด ๆ ออกมา ราชองครักษ์เอกก้าวออกจากห้องนั้นอย่างเยือกเย็นทิ้งไว้แต่หลินเจินที่ร้องไห้คร่ำครวญเบื้องหลัง

“พระธิดา...อภัยให้ข้าด้วย หลินเจินผิดเอง หลินเจินผิดเอง”

คุกหลวง ชั้นในสุด

เหล่าทหารและผู้คุมต่างถวายความเคารพเมื่ออ๋องหลี่เจี๋ยและนายทหารคู่พระทัยก้าวผ่านลงไปตามเส้นทางคดเคี้ยวและซับซ้อนของคุกหลวงกระทั่งถึงชั้นในสุด ภายในนั้นมืดและอับทึบ มีเพียงแสงสว่างจากคบเพลิงสาดส่องผนังหินแข็งแกร่ง เมื่อไปถึงที่นั่นเขาก็เห็นว่าพระธิดาจางลี่นั่งติดอยู่ตรงลางห้อง มือเรียวบางของนางถูกพันธนาการด้วยผ้าเนื้อหยาบมัดติดอยู่กับเสาต้นใหญ่ มันคือลานที่มีไว้ลงทัณฑ์นักโทษ รอบห้องนั้นเต็มไปด้วยเครื่องมือทรมานที่เห็นแล้วน่าหดหู่ มิรู้ว่ามีนักโทษต้องตายมาแล้วสักกี่ชีวิตและนางอาจเป็นคนต่อไป

ขณะนั้นหลี่เจี๋ยย่างเท้าเข้าไปหยุดตรงหน้าพระญาติผู้น้อง นางมิยอมเงยหน้าขึ้นมองทั้งที่รู้ว่าผู้ใดเข้ามาขณะที่ราชองรักษ์โม่โฉวยืนมองอยู่ห่างๆ ร่างสูงงามสง่าจ้องมองใบหน้าสวยซึ้งของจางลี่นั้นปราศจากความหวาดหวั่นแม้บนไหล่ข้างหนึ่งของนางจะเต็มไปด้วยคราบเลือดจากการเอาตัวเข้ารับปลายดาบคมแทนนางสนมคนสนิท หลี่เจี๋ยหยัดมุมปากขึ้น

“จางลี่...ข้าจะลงทันฑ์โทษฐานที่เจ้าขัดคำสั่งข้า”

“เพคะ”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าแท้แล้วผู้ก่อเหตุร้ายแรงวางเพลิงไม่ว่าจะเป็นที่ใดในเขตพระราชฐานนั้นโทษตายสถานเดียว เจ้ามิเกรงกลัวถึงได้กล้าขัดคำสั่งและกล้าทำสิ่งร้ายแรง”

“สำหรับหม่อมฉันสิ่งใดจะน่าหวาดหวั่นเท่าความความชิงชังที่พระองค์มีต่อคนแคว้นฉี ถึงหม่อมฉันไม่ทำเยี่ยงนี้วันหนึ่งก็อาจตายทั้งที่มิได้กระทำความผิด มันแตกต่างกันหรือเพคะหากพระองค์มิเคยพอพระทัยไม่ว่าหม่อมฉันจะทำเยี่ยงไร”

“ข้าทำตามกฎต่างหาก และเห็นชัดแล้วบัดนี้ว่าธิดาของฉีอ๋องทั้งดื้อรั้นและอวดดีแค่ไหน ทหาร! นำแส้มาให้ข้า”

เสียงบัญชากึกก้องในห้องนั้น ทหารร่างใหญ่ผู้คุมเวรยามในคุกหลวงก้าวเข้ามาแล้วคุกเข่าลงเพื่อถวายแส้เส้นใหญ่แก่ปาอ๋อง หลี่เจี๋ยรับมันมากุมไว้ในมือมั่น มือของเขาเย็นเฉียบกว่าทุกครั้งที่รู้สึก น่าประหลาดที่ครานี้หัวใจของเขามิได้เต้นด้วยจังหวะมั่นคงดั่งทุกครั้งที่ลงทัณฑ์คนผิด เคยทรมานนักโทษให้ถึงตายหากก็มิเคยหวั่นไหวต่อความเหี้ยมหาญของตัวเองแม้เพียงสักครั้ง จางลี่กัดฟันตัวเองแน่น มือทั้งสองที่ถูกมัดไว้กับเสาต้นใหญ่กำหมัดจนปลายเล็บจิกลงในอุ้งมือเลือดไหลซิบ นางเชิดคางขึ้นและสบนัยน์ตาดำยาวรีของหลี่เจี๋ยราวไม่เกรงกลัว

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status