Share

2

จางลี่ค่อย ๆ ก้าวลงเบื้องล่าง นับเป็นการเหยียบพื้นแผ่นดินแคว้นหลู่ครั้งแรก หากทว่านางก็ต้องพบความประหลาดใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามิได้มีเหล่าข้าราชบริพารมาต้อนรับอุนหนาฝาคั่งดั่งที่คิดหมาย มิมีเสียงแซ่ซ้องต่อการเดินทางมาของว่าที่องค์ชายาผู้เป็นถึงพระธิดาแห่งอ๋องผู้เป็นใหญ่จากแดนไกลอย่างแคว้นฉี หากมินับทหารและองครักษ์ยืนเวรยามหน้าประตูเมืองก็มีเพียงชายวัยกลางคนหนวดเคราขาวโพลนในชุดข้าราชการระดับสูงพร้อมด้วยนายทหารชั้นมหาดเล็กผู้ติดตามอีกสองสามคน และถัดไปเป็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับนางในชุดงดงามบอกสถานะว่าควรเป็นนางในวังมากกว่าชาวบ้านธรรมดาทั่วไป สักครู่ชายวัยกลางคนผู้นั้นค้อมศีรษะลงคล้ายถวายคำนับพร้อมเอ่ยว่า

“ขอต้อนรับพระธิดาจางลี่ ข้านี้มีนามว่าวั่งซู เป็นพระอาจารย์ของหลู่อ๋อง และนี่คือฮุยอิน เป็นธิดาของข้าที่ได้รับพระบัญชาจากองค์ชายหลี่เจี๋ยให้มาคอยต้อนรับพระธิดาในวันนี้”

ทั้งวั่งซูและธิดาของเขาต่างถวายคำนับพร้อมกันอีกครั้ง จางลี่เห็นว่าฮุยอินนั้นน่าจะอายุพอ ๆ กันกับนาง เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามแต่แววตาของนางเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ หากจางลี่ก็ไม่อยากคิดอะไรมากนักในเวลานี้

“แล้วตอนนี้องค์ชายหลี่เจี๋ยมิได้ประทับในพระราชวังดอกหรือ?”

เจียนเจ้า ราชองครักษ์ในวัยสี่สิบต้นผู้รับบัญชาจากฉีหวนกงให้ติดตามพระธิดามายังแคว้นหลู่เป็นผู้ถามขึ้นขณะหลินเจิน นางต้นห้องก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ วั่งซูปรายยิ้มอย่างเป็นมิตรและเอ่ยตอบว่า

“ขณะนี้หลู่อ๋องติดภารกิจออกว่าความเรื่องบ้านเมืองกับเหล่าเสนาบดีจึงมิได้ออกมาต้อนรับพระธิดาจางลี่ ข้าต้องขออภัยต่อพระธิดาด้วย”

“ข้านึกว่าการเดินทางไกลของว่าที่องค์ชายาจากแคว้นฉีจักได้รับการต้อนรับอย่างเอิกเกริกจากเหล่าพสกนิกรและข้าราชบริพารขององค์ชายหลี่เจี๋ย”

“มิเป็นไรดอกท่านเจียนเจ้า”

จางลี่ปรามราชองครักษ์ที่เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ นางยิ้มตอบให้พระอาจารย์ของหลู่อ๋องแม้ใจเริ่มไม่สงบสุข

“องค์ชายคงติดภารกิจหนักหน่วงด้วยเป็นเรื่องบ้านเมือง ท่านเป็นพระอาจารย์ของพระองค์ออกมาต้อนรับข้าเช่นนี้ก็น่าดีใจมากแล้ว”

“ข้าต้องขออภัยต่อพระธิดาเป็นอย่างยิ่งที่หลู่อ๋องมิอาจมาต้อนรับพระชายาได้ด้วยตนเอง แต่ก็ได้ให้ข้ามาคอยดูแลองค์ชายา ข้าจักพาพระธิดาไปยังตำหนักร้อยไหมซึ่งเป็นตำหนักที่สวยงามมากอยู่ทางทิศตะวันออกของวังหลวง...อ้อ...เพียงพระธิดาจางลี่และนางกำนัลผู้ติดตามเท่านั้น”

วั่งซูหันไปบอกเจียนเจ้าและนายทหารอีกกว่าสิบนายพร้อมด้วยข้าราชบริพารอีกไม่กี่คน ราชองครักษ์ชะงักในทันใด วั่งซูยังยิ้มใจเย็น

“มิต้องกังวลไปดอกราชองครักษ์ จักมิมีภยันตรายใดต่อองค์ชายาของท่านอ๋อง ในเมื่อนางก็ได้มาอยู่บนผืนแผ่นดินหลู่ซึ่งนับได้ว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับแคว้นฉีและในบัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นก็ยิ่งแนบแน่นมากขึ้นไปอีก นี่เป็นพระประสงค์ของหลู่อ๋องที่จะให้พระธิดาได้พักในตำหนักอันถือว่าวิจิตรงดงามยิ่ง พระองค์จะทรงมอบตำหนักร้อยไหมเป็นของขวัญอันล้ำค่าแก่องค์ชายา พระธิดาของฉีหวนกง พระปิตุลาขององค์ชายนั่นอย่างไร”

“แล้วเหล่าทหารกับข้าราชบริภารของพระธิดาเล่า พวกท่านจะให้เราอยู่ที่ใด” เจียนเจ้าถาม

“ข้าได้จัดที่พักไว้สำหรับพวกท่าน มิต้องเป็นกังวลอันใด แคว้นหลู่ยินดีต้อนรับคนจากแคว้นฉีเสมอ”

ราชองค์รักษ์จำต้องทำตามที่วั่งซูบอก ปล่อยให้คนขององค์ชายหลี่เจี๋ยนำพระธิดาจางลี่และนางกำนัลคนสนิทขึ้นเกี้ยวที่ได้เตรียมไว้ไปยังตำหนักร้อยไหมซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของวังหลวง ขณะนั้นหลินเจินซึ่งเดินตามขบวนไปไม่ห่างก็ให้เกิดความพะวักพะวงอย่างประหลาด ทุกอย่างดูไม่เหมาะเจาะแม้แต่น้อย

องค์ชายหลี่เจี๋ยรู้ว่าวันนี้องค์ชายาจะเดินทางมาถึงแต่กลับไม่ออกมาต้อนรับอ้างว่ามีภารกิจสำคัญทั้งที่เรื่องนี้ควรสำคัญกว่าเรื่องทั้งปวง แม้จางลี่จะเป็นธิดาของสนมปลายแถวแต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นพระธิดาของฉีหวนกง ผู้ปกครองแคว้นฉีที่ใครต่างยำเกรง หากแต่นางก็พยายามสงบปากคำเอาไว้กระทั่งไปถึงวังน้ำขนาดใหญ่กว้างขวางสุดลูกตา มีสะพานทอดยาวไปยังตำหนักหินอ่อนอาบแสงแดดเป็นประกายระยับตรงกลางวังน้ำ เพียงวั่งซูและบุตรสาวเดินนำพระธิดาจางลี่และหลินเจินกระทั่งไปถึงตำหนัก หลินเจินถึงกับอ้าปากค้าง

“โอ...ท่านหญิง...ที่นี่ช่างงดงามยิ่งนัก ข้ามิเคยเห็นตำหนักใดงดงามเช่นที่นี้มาก่อน”

“ข้าดีใจที่พวกท่านคิดเช่นนั้น”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status