Share

บทที่ 0006

last update Last Updated: 2024-12-01 03:53:00

"เจ้ารู้จักพวกนางหรือ? "

หยางเฟยเอ่ยถามไป๋หลิงฟง เพราะเห็นอยู่ว่าสหายของตนจ้องมองพวกนางไม่วางตา แถมยังยิ้มแปลกๆ ดูมีพิรุจนัก

"เจ้าเรียกสองคนนั้นว่า 'พวกนาง' อย่างนั้นรึ"

ไป๋หลิงฟงถามหยางเฟยเพื่อไขความกระจ่างให้กับการคาดคะเนของตน

"ฮ่าๆ พวกนางเป็นสตรีจริงๆ สินะ ข้าก็ว่าข้ามองไม่ผิดแน่ ใบหน้าเรียวเล็ก รูปร่างก็บอบบางแต่กลับมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ท่าทางการเดินก็มิเหมือนบุรุษเลยสักนิด ดูขัดๆ อย่างไรมิรู้"

"เจ้าจำนางไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกหลิงฟง"

"เจ้าถามเช่นนี้ หมายความว่าข้าเคยรู้จักนางมาก่อนอย่างนั้นรึ ทำไมข้ามิยักจะจำได้ว่าเคยรู้จักสตรีงดงามเช่นนี้เลย"

ไป๋หลิงฟงขมวดคิ้ว พยายามคิดให้ออกว่าตนเคยรู้จักพวกนางด้วยหรือ

"นั่นเพ่ยเพ่ยเจ้าก้อนซาลาเปาที่คอยวิ่งตามติดเจ้าตอนเด็กอย่างไรเล่า ใครจะไปคิดว่าโตขึ้นมาจะงดงามถึงเพียงนี้ใช่ไหมล่ะ"

หยางเฟยพูดจบก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจในความงดงามของน้องสาวตัวเอง

"เพ่ยเพ่ยงั้นหรือ น้องสาวของเจ้าที่เมื่อก่อนตัวกลมๆ แก้มป่องเหมือนซาลาเปาคนนั้นน่ะหรือ"

ไป๋หลิงฟงทำตาโต ทำไมเขาถึงจำนางไม่ได้กันนะ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเอ็นดูนางออกขนาดนั้น ราวกับว่านางเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา

"ถ้าเช่นนั้นนางก็คือหมิงหวางเฟยน่ะสิ? "

หยางเฟยเห็นสีหน้าผิดหวังของไป๋หลิงฟงแล้วก็ให้รู้สึกตะขิดตะขวงในใจ

นี่เจ้าคงไม่ได้นึกชอบน้องข้าหรอกใช่ไหม ช่างน่าเสียดายจริงๆ ทำไมพวกเจ้าถึงไม่เจอกันเร็วกว่านี้นะ

หยางเฟยได้แต่แอบเสียดายอยู่ในใจ เขาอยากได้สหายผู้นี้มาเป็นน้องเขยเขามากกว่าอ๋องหมิงเสียอีก

"คุณหนู บ่าวว่าคุณชายใหญ่ต้องจำพวกเราได้แน่ๆ เลยเจ้าค่ะ"

ชิงชิงเอ่ยเสียงสั่น ก้มหน้างุดไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา

"ชิงชิง เจ้าอย่าเพิ่งแสดงอาการร้อนตัวไป พี่ใหญ่อาจจะแค่สงสัยเฉยๆ ถ้าพี่ใหญ่รู้ว่าเป็นพวกเรา ป่านนี้ก็ต้องเดินเข้ามาแล้วสิ"

เพ่ยเพ่ยเอ่ยยังไม่ทันขาดคำ เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น

"ชิงชิง! เจ้ามานี่"

ชิงชิงสะดุ้งตัวลุกขึ้นยืนในทันที นางเดินตรงไปหาหยางเฟย สั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางก้มหน้าจนแทบจะเดินชนโต๊ะทุกตัวระหว่างทาง ก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่ข้างโต๊ะของหยางเฟย

โอ้ย…ชิงชิง จากแค่สงสัย เจ้าทำร้อนตัวขนาดนี้เขาก็รู้กันหมดแล้วไหม จะขวัญอ่อนอะไรขนาดนั้น

เพ่ยเพ่ยส่ายหัวไปมา นางจนใจกับสาวใช้จอมซื่อของนางจริงๆ สงสัยกลับไปต้องเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่เสียแล้ว

"เงยหน้าขึ้นชิงชิง! เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรผิด"

หยางเฟยดุชิงชิงจนตอนนี้นางตัวสั่นเสียยิ่งว่าเดิม

"ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ"

ชิงชิงกล่าวพร้อมทิ้งตัวลงไปนั่งคุกเข่ารอรับโทษ

"ข้าต้องโบยเจ้าสักกี่ไม้ดีชิงชิง เจ้าถึงจะหลาบจำ"

หยางเฟยเอ่ยกับชิงชิง แต่เขากลับหันมาส่งสายตาดุให้น้องสาวตัวแสบของเขา

"พี่ใหญ่ เป็นความผิดข้าเอง ข้าบังคับนางให้พาข้าออกมาเองเจ้าค่ะ ท่านเลิกข่มขู่นางได้แล้ว นางกลัวจนหน้าซีดหมดแล้วท่านไม่เห็นรึ"

เพ่ยเพ่ยเดินไปสมทบที่โต๊ะของหยางเฟยด้วยอีกคน ท่าทางนางเอาเรื่องน่าดูและดูเหมือนว่านางจะไม่พอใจที่เขาข่มขู่คนสนิทของตน

"หึ ทำไมเจ้าถึงทำตัวพิเรนทร์เช่นนี้เพ่ยเพ่ย เจ้าลืมไปแล้วหรือไรว่าตัวเองเพิ่งจะออกเรือนมิใช่เด็กๆ ดังเช่นเมื่อก่อนแล้ว ทำไมจึงออกมาเที่ยวสนุกเช่นนี้ แล้วนี่อะไร ไยต้องแต่งตัวเป็นบุรุษ อย่าบอกข้าเชียวนะว่าเจ้าแอบออกมา"

หยางเฟยชี้พัดไปที่นางตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเอาพัดกลับขึ้นมาเคาะลงบนหัวเพ่ยเพ่ยเบาๆ หนึ่งที

"โอ้ย!…พี่ใหญ่ ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะเจ้าคะ อย่ามาเคาะหัวข้าเช่นนี้"

เพ่ยเพ่ยยืนเถียงเขาตาใส

"ก็ใช่น่ะสิ เจ้ามิใช่เด็กแล้ว ทำไมจึงทำตัวไร้หัวคิดเช่นนี้"

หยางเฟยได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย

"ทำให้เจ้าต้องหัวเราะแล้วหลิงฟง คุณหนูสกุลหยางทำตัวน่าขายหน้าเสียจริง"

หยางเฟยหันไปสนทนากับบุรุษชุดน้ำเงินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

"เจ้าอย่าได้คิดมากไปอาเฟย เพ่ยเพ่ยก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้ขายหน้าเสียหน่อย นางคงจะเบื่อเจ้าอ๋องนั่น ถึงต้องออกมาปลดปล่อยเสียบ้าง"

หลิงฟงกล่าวไม่ไว้หน้าอ๋องหมิงเลยแม้แต่น้อยจนเพ่ยเพ่ยจ้องเขาตาค้าง

"เอ๋ ทำไมท่านถึงรู้ล่ะเจ้าคะว่าเขาน่าเบื่อ"

เพ่ยเพ่ยมองบุรุษรูปงาม พร้อมกับทำหน้าสงสัย

เขาสนิทสนมคุ้นเคยกับอ๋องหมิงอย่างนั้นรึ ไม่ยักรู้ว่าเจ้าอ๋องนั่นจะมีเพื่อนที่ดูน่าคบหากับเขาอยู่เหมือนกัน

"ก็เจ้านั่นมันน่าเบื่อจะตายไป แล้วเหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าห่างเหินเช่นนั้น เรียกพี่หลิงฟงเหมือนแต่ก่อนเถิด"

เพ่ยเพ่ยเริ่มรู้สึกได้ว่านางใจเต้นแรงผิดปกติ

ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ กับบุรุษตรงหน้ากันนะ ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้

ใช่อยู่ว่าเขารูปงาม รอยยิ้มของเขาเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์​แบบหนุ่มขี้เล่น แต่มันเหมือนมีความรู้สึกอะไรลึกๆ บางอย่างที่ทำให้นางละสายตาจากเขาไปไม่ได้ พลันความทรงจำเกี่ยวกับไป๋หลิงฟงก็แวบเข้ามาในหัว

ให้ตายเถอะ บุรุษผู้นี้เขาเป็นรักแรกของแม่นางหยางนี่

มิน่าเล่า นางถึงใจเต้นแบบนี้ ไม่นะ ทำไมข้าถึงรู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้า อย่าบอกเชียวนะว่าข้าหน้าแดง เป็นไปได้ว่าความรู้สึกนี่มาจากจิตใต้สำนึกของแม่นางหยางหรือเปล่า หากเป็นตัวนาง นางคงไม่ออกอาการเขินอายเขาง่ายดายเช่นนี้

ย้อนไปยามที่หยางเพ่ยเพ่ยอายุได้เพียงแปดหนาว นางจำได้ว่า ไป๋หลิงฟงเป็นสหายรักของหยางเฟย เขามักมาหาพี่ใหญ่ที่จวนอยู่เป็นประจำ นางแอบชอบเขามานานแล้ว เขาเองก็มักจะใจดีกับนางเสมอ

ยามที่พี่ใหญ่กับพี่รองล้อเลียนนาง ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่ไม่เล่นตามน้ำไปกับพวกพี่ชายจอมเกเรของนาง แต่กลับคอยปลอบใจนางทุกครั้งที่โดนพี่ชายแกล้ง

สมัยเด็กหยางเพ่ยเพ่ยนั้นถือว่าเป็นเด็กที่จ้ำม่ำมีเนื้อหนังเกินเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่สักหน่อย มีเพียงพี่หลิงฟงที่คอยพูดปลอบนางเสมอไม่ให้นางคิดว่าเรื่องนี้เป็นปมด้อยแล้วคิดมาก

"ข้าเห็นว่านางก็น่ารักดีออกอาเฟย" "จริงไหมเพ่ยเพ่ย"

เขามักจะหันมาส่งยิ้มอบอุ่นให้นางแล้วกล่าวชื่นชมนางเสมอเวลาที่นางร้องไห้เพราะโดนพี่ชายของนางล้อเลียนเรื่องรูปร่าง

จากนั้นมานางก็แอบชอบเขามาโดยตลอด แต่แล้วอยู่ๆ วันหนึ่งพี่หลิงฟงของนางก็จากไป ตอนนั้นเขาอายุได้สิบห้าหนาวก็โดนท่านแม่ทัพไป๋บิดาของเขาส่งไปร่ำเรียนวิทยายุทธ์ที่เขาหลิงซาน เขาหายไปถึงสี่ปีเต็ม

เมื่อเขาสำเร็จวิชาความรู้กลับมายังเมืองหลวง เพ่ยเพ่ยยังไม่ทันจะได้พบเจอเขาเลยด้วยซ้ำเขาก็เข้ารับการทดสอบและอาสาไปเป็นทหารออกทัพจับศึกยังชายแดนเสียแล้ว

เจ็ดปีแล้วที่นางไม่ได้พบเขาเลย จนภาพของเขาค่อยๆ เลือนรางไปจากใจของนางทีละนิด ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยอู๋เหยาหมิงเมื่อไม่นานมานี้

"ท่านพี่หลิงฟงเองหรือเจ้าคะ เพ่ยเพ่ยต้องขออภัยที่ข้าจำท่านพี่หลิงฟงมิได้"

เพ่ยเพ่ยกล่าวทักทายเขาอย่างขัดเขิน

"ข้าไม่ติดใจหรอกเพ่ยเพ่ยเจ้ายังเด็กนักยามนั้นจะจำข้ามิได้ก็มิแปลก ข้าเองก็จำเจ้ามิได้เช่นกัน แต่เจ้ายังน่ารักเหมือนตอนเด็กไม่เปลี่ยนเลยนะ"

เขาเอ่ยอย่างเอ็นดู พร้อมกับส่งยิ้มหวานจริงใจให้นาง

บ้า…มาชมกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้ จะไม่ให้เขินได้อย่างไรกันเล่า

ฮือ…ดาเมจรุนแรงมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแม่นางหยางถึงได้ชอบเขา ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นโรแมนติกสุดๆ

เพ่ยเพ่ยยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งงง แม่นางหยางไปชอบอีตาอ๋องโหดนั่นที่ตรงไหนกันนะ นอกจากหน้าตาแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีเลยสักนิด คิดแล้วเพ่ยเพ่ยก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

ทำไมเจ้าบ่าวของข้าถึงไม่ใช่คนนี้ล่ะ…เฮ้อ!

หลังจากได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เพ่ยเพ่ยก็ลืมเวลาไปเสียสนิท กระดกเหล้าชนแก้วกับพี่ชายไปหลายจอก นางคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ได้กินเยอะอะไรมากมาย แต่ตอนนี้นางเริ่มรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน

อื้อหือ เหล้าของคนสมัยโบราณนี่มันแรงมากจริงๆ

"พี่ใหญ่ ข้าว่าข้าเริ่มจะมึนๆ หัวแล้วล่ะเจ้าค่ะ ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน"

"เจ้าเพิ่งจะเริ่มมึนหรอ ข้านึกว่าเจ้าจะเมาไปตั้งแต่จอกแรกเสียอีก"

หยางเฟยอดทึ่งในน้องสาวของตนไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะดื่มเหล้าเก่งถึงเพียงนี้แล้ว ครั้งหลังสุดที่ดื่มด้วยกันที่จวนตอนงานวันเกิดท่านพ่อ นางดื่มได้ไม่เกินหนึ่งจอกก็หน้าแดงเดินไม่ตรงทางเสียแล้ว แล้วนี่อะไร วันนี้นางดื่มไปพอๆ กับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ

เพ่ยเพ่ยลุกขึ้นยืน แต่ดูโงนเงนอย่างไรชอบกล

"คุณหนูเดินไหวไหมเจ้าคะ ระยะทางยังอีกไกลนะเจ้าคะ"

ชิงชิงรีบเข้าไปประคองเพ่ยเพ่ยเอาไว้ก่อนที่นางจะล้มไปเสียก่อน

"ทำไมถึงบอกว่าเดินไกล นี่พวกเจ้าไม่ได้นั่งรถม้ามารึ"

"ข้ากับคุณหนูเดินมาเจ้าค่ะคุณชายใหญ่ คุณหนูแอบออกมาเจ้าค่ะเลยไม่มีรถม้าคอยรับส่ง"

"เพ่ยเพ่ย ข้าว่าให้ข้าเอารถม้าไปส่งเจ้าที่ตำหนักอ๋องจะดีกว่า ท่านอ๋องจะได้ไม่ตำหนิเจ้าด้วยหากเห็นเจ้ากลับไปสภาพนี้ หากเขาต่อว่าพี่จะได้ช่วยพูดให้ว่าเรามิได้พบหน้ากันนานจึงอยู่สนทนากันนานเสียหน่อย"

"ดีเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเดินกลับไหว ระยะทางมิใกล้เลยจริงๆ "

เพ่ยเพ่ยเห็นด้วยกับหยางเฟยอย่างยิ่งนางลืมเสียสนิทว่านางแอบหนีออกมา และตอนนี้นางก็รู้สึกง่วงนอนมาก อยากจะไปให้ถึงเตียงเสียไวๆ

"เช่นนั้นข้าขอติดรถม้าเจ้าไปด้วยคนนะอาเฟย" หลิงฟงกล่าวถามสหาย

"เชิญ"

-ตำหนักอ๋องหมิง-

"ถึงแล้วขอรับ" เสียงคนขับรถม้าเอ่ยบอกผู้เป็นนายข้างในเมื่อมาถึงที่หมาย

"คุณหนูเจ้าคะ ตื่นเถิดเจ้าค่ะ ถึงตำหนักอ๋องแล้วเจ้าค่ะ"

ชิงชิงพยายามปลุกเพ่ยเพ่ยเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวนอ๋องแล้ว

เพ่ยเพ่ยค่อยๆ ลืมตาและลงจากรถม้าอย่างทุลักทุเลโดยมีชิงชิงและไป๋หลิงฟงคอยช่วยประคองคนละข้าง

ชิงชิงตกใจเมื่อเห็นว่าคนขับรถม้าพาพวกนางมาส่งที่ประตูใหญ่หน้าตำหนักอ๋องหมิง

แย่แล้ว…ข้าลืมบอกคนบังคับม้าให้ไปส่งที่ประตูหลัง

ชิงชิงแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างปิดไม่มิด แต่ยามนี้ก็คงจะเปลี่ยนอะไรไม่ทันเสียแล้ว

พ่อบ้านเปิดประตูตำหนักออกเพื่อมาดูว่าใครกันที่มาเยือนตำหนักอ๋องในยามวิกาลเช่นนี้

"ท่านรองแม่ทัพไป๋เองหรอกหรือขอรับ เชิญท่านเข้ามาก่อน เดี๋ยวข้าน้อยจะไปเรียนท่านอ๋องให้ว่าท่านมาขอรับ"

พ่อบ้านกล่าวทักทายพร้อมกับผายมือให้ไป๋หลิงฟงตามเขาเข้าไปข้างใน ไป๋หลิงฟงเป็นสหายและยังเป็นลูกน้องคนสนิทของอ๋องหมิงจึงเข้านอกออกในตำหนักอ๋องอยู่บ่อยๆ

"ส่งข้าที่นี่แหล่ะอาเฟย"

"ถ้าอย่างนั้นข้าฝากเพ่ยเพ่ยด้วยก็แล้วกัน ข้าคงต้องขอตัวก่อน แล้วพบกันใหม่"

ยามนี้หยางเฟยไม่ห่วงเพ่ยเพ่ยแล้ว หลิงฟงน่าจะช่วยเพ่ยเพ่ยหาข้อแก้ตัวได้ อย่างไรเสียเขาก็เป็นสหายและศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันกับท่านอ๋องนี่

พ่อบ้านลอบมองดูหน้าบุรุษหนุ่มที่รองแม่ทัพไป๋พยุงเดินเข้ามาสลับกับมองหน้าบุรุษชุดขาวที่นั่งอยู่บนรถม้า

ดูเหมือนบุรุษในชุดสีขาวนั่นจะเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหยาง

เขาจำได้ว่าบุรุษผู้นี้คือพี่ชายของเจ้าสาวในพิธีแต่งงานของนายเหนือหัวที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน

คุณชายหยางเรียกบุรุษหนุ่มน้อยหน้าหวานที่ท่านรองแม่ทัพพามาว่าเพ่ยเพ่ย…หรือว่าจะเป็นหมิงหวางเฟย มีส่วนคล้ายอยู่มากทีเดียว...แต่ทำไมพระชายาถึงได้อยู่ในสภาพนี้ได้ หากท่านอ๋องรู้เข้าจะต้องเป็นเรื่องแน่!

เพียงแค่คิดพ่อบ้านหม่าก็ขนลุกขนชันแล้ว

Related chapters

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0007

    "พ่อบ้านหม่า เดี๋ยวข้าจะเดินไปส่งพระชายาที่ตำหนักของนางก่อนแล้วจึงจะไปพบท่านอ๋อง เจ้าแจ้งท่านอ๋องด้วยแล้วกันว่าข้ากำลังจะไปหา หากท่านอ๋องไม่ถามก็ไม่ต้องพูดเรื่องของพระชายาจะดีกว่า" "ขอรับท่านรองแม่ทัพ" พ่อบ้านรับคำแล้วจึงเดินเบี่ยงออกไปอีกทางเพื่อแจ้งแก่ผู้เป็นนาย แม้ในใจจะรู้สึกสงสัยอยู่ไม่น้อย

    Last Updated : 2024-12-01
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0008

    ด้วยอารมณ์โกรธอ๋องหมิงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือและกระแทกปิดประตูเสียงดังลั่น พร้อมกับตะโกนสั่งองครักษ์คนสนิท "อย่าให้ผู้ใดมารบกวน!" เหลยคังที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงดังโครมคราม เสียงของกระแทกบ้าง เสียงของแตกบ้างดังมาจากข้างในห้องอยู่เป็นระยะ ท่านอ๋องคงจะระบายอารมณ์อยู่เป็นแน่ ไม่ได้เห็น

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0009

    เพ่ยเพ่ยตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวจากฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไปเมื่อวาน นางยังคงนั่งหลับตาอยู่บนเตียงด้วยความง่วงเต็มเปี่ยม เพ่ยเพ่ยตื่นได้สักพักแล้วเพราะชิงชิงเข้ามาปลุกก่อนหน้านี้ หากปล่อยให้นางตื่นเองอย่างไรก็คงไม่มีมีทางเป็นไปได้แน่ "คุณหนูรับน้ำชาสักหน่อยไหมเจ้าคะ จะได้สดชื่นขึ้นเจ้าค่ะ" ชิงชิ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0010

    อ๋องหมิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮ่องเต้ฟังอย่างไม่ปิดบังใดๆ ฮ่องเต้โมโหเป็นอย่างมากพาลไม่ชอบฝูเหวินมากขึ้นไปอีก "จะอย่างไรเจิ้นก็ไม่มีทางยอมให้ฝูเหวินขึ้นเป็นพระชายาเอกของเจ้าแน่นอน ถึงแม้จะไม่มีคุณหนูหยาง เจิ้นก็จะหาชายาใหม่มาแต่งให้เจ้า เจ้าอย่าได้คิดยกฝูเหวินขึ้นมาแทนที่นาง เจิ้นไม่เห็นความเหมาะสมใ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0011

    เพ่ยเพ่ยได้หนังสือแพทย์ที่น่าสนใจมาสี่ห้าเล่มและเข็มเงินอีกหนึ่งชุด นางเคยศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์แพทย์แผนจีนและการฝังเข็มมาบ้างในชาติที่แล้ว ชาตินี้นางคงต้องรื้อฟื้นความจำ ปัดฝุ่นความรู้เก่าและศึกษาเพิ่มเติมสักเล็กน้อย เพ่ยเพ่ยรีบพาชิงชิงแอบกลับเข้าตำหนักทางประตูด้านหลัง ครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้ใครจับไ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0012

    อ๋องหมิงประกบปากจูบดูดดึงริมฝีปากบางของเพ่ยเพ่ยอย่างเร่าร้อนและรุนแรง มือแกร่งของเขารวบข้อมือเล็กสองข้างของนางแล้วยึดมันไปไว้เหนือศรีษะด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งล้วงเข้ามาในสาบเสื้อของนางก่อนที่มือใหญ่จะขยำอกอวบเกินวัยของนางจนแทบแหลกคามือของเขา "อ๊ะ อย่านะ...อื้อ" เพ่ยเพ่ยอ้าปากร้อง แ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0013

    "..." เพ่ยเพ่ยเม้มปากแน่นไม่ได้เอ่ยคำใด มีเพียงใบหน้าสวยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อชวนมองที่ทำให้เขานั้นแทบคลั่ง เพ่ยเพ่ยเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทที่เขามอบให้ จนลืมสิ้นไปเสียทุกอย่างแล้ว นางยิ่งเป็นพวกจุดติดง่ายเสียด้วย นางเกลียดตัวเองนัก อ๋องหมิงจับมือนุ่มของนางให้ลูบลงต่ำอยู่ตรงหน้าท้องของเขา ก่อนที่จะ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0014

    ฝูเหวินตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนล้า นางหลับไม่ค่อยสนิทในคืนที่ผ่านมา เพราะมัวแต่คอยจัดแจงให้อิงหลัวไปสืบดูว่าอ๋องหมิงกลับถึงตำหนักใหญ่แล้วหรือยังเมื่อวานนางรอให้อ๋องหมิงมารับสำรับเย็นด้วยกันจนมืดค่ำแต่เขาก็ยังไม่กลับมา นางรอข่าวจากอิงหลัวไม่ไหวจึงหลับไปเสียก่อนฝูเหวินค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงที่หัว

    Last Updated : 2024-12-05

Latest chapter

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0111

    -จวนตระกูลหยาง- "มากันแล้ว มากันแล้วขอรับ!" เสียงพ่อบ้านทั้งวิ่งทั้งตะโกนเรียกทุกคนในเรือนไปพร้อมๆ กัน ทุกคนวางมือจากงานที่ทำอยู่อย่างลนลานก่อนจะรีบไปรวมตัวกันที่หน้าประตูจวนเพื่อนต้อนรับอ๋องหมิงและพระชายา ระหว่างเดินทางอ๋องหมิงให้ม้าเร็วมาแจ้งตระกูลหยางล่วงหน้าแล้วว่าเขากำลังพาเพ่ยเพ่ยกลับมาชางห

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0110

    เพ่ยเพ่ยมองทั้งสามและพิจารณาถึงสิ่งที่อี้ซินบอก ใช่แล้ว คนเคร่งขรึมหน้าตาไร้อารมณ์เช่นเขาความจริงแล้วไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนอยากเล่นด้วยเลยต่างหาก อาจเป็นเพราะสัมพันธ์พ่อลูกที่ตัดอย่างไรก็ไม่ขาดกระมัง เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลารับสำรับเย็น ไม่น่าเชื่อว่า อาหารพื้นๆ ในเรือนหลังไม่ใหญ่แต่อาหารมื้อนี้สำหรับ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0109

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ เมื่อไหร่จะตื่นเสียที พวกเรารอตั้งนานแล้วนะ" เด็กทั้งสองเคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่หยุด อี้ซินมีสีหน้าซีดเผือด นางพยายามห้ามนายน้อยและคุณหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สองแฝดผู้เอาแต่ใจก็หาได้ฟังใครไม่ หลังจากที่รอบิดากับมารดามาตั้งแต่เช้า กระทั่งพวกเขารับสำรับเช้าเสร็จแล้วแต่ท่านพ่อท่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0108

    "เมื่อกี้เจ้าจูบข้าก่อน" อ๋องหมิงมองเพ่ยเพ่ยพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้น หัวใจกระตุกเพราะนางไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ทุกครั้งมีเพียงเขาที่เป็นฝ่ายจูบนางก่อนและเกือบทุกครั้งคือการบังคับให้นางต้องรับจูบจากเขา "ใช่เพคะ มิได้หรือ" "ทำไมจะมิได้ เปิ่นหวางชอบ" เพ่ยเพ่ยมอบจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากของเขาอีกครั

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0107

    "แล้วหม่อมฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าหม่อมฉันพูดอันใดไปบ้าง ท่านอ๋องก็บอกหม่อมฉันสิเพคะ" "เจ้าจับหน้าเปิ่นหวาง เรียกข้าว่าอ้ปป้าแล้วยังบอกว่าหากได้จูบอ้ปป้าสักครั้งจะตั้งใจทำงาน" "หา! หม่อมฉันเนี่ยนะเพคะกล่าวเช่นนั้นออกมา" แต่ภาษาวัยรุ่นแบบนั้น ไม่ใช่แกแล้วเขาจะคิดเองได้หรือไงเล่ายัยบ้า เมื่อคิดได้เช่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0106

    "เจ้าพูดอะไรของเจ้า ยิ่งฟังเจ้าข้าก็ยิ่งงง ท่านอ๋องเคยไปรังแกเจ้าด้วยรึ" "หึ เจ้าอยากโดนรุมซ้อมดูบ้างไหมล่ะ คนของเขาเท้าหนักๆ กันทั้งนั้น เพราะอารมณ์หึงหวงอย่างมิมีเหตุผลของเขาอย่างไรล่ะ" อย่าให้เขาบรรยายเลย บุรุษยุคนี้ หน้าใหญ่ใจโต ถือว่าตนมีอำนาจก็ไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น กดทุกคนให้อยู่ต่ำหมดไม่ว่า

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0105

    อ๋องหมิงได้ยินดังนั้นก็หันขวับไปจ้องหน้าเพ่ยเพ่ย แขนแกร่งทั้งสองข้างจับข้อมือเล็กของนางแน่น แล้วดึงมือนางที่จับกุมใบหน้าของตนออก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธแต่กลับแอบแฝงความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ เขายังจำได้ เมื่อครั้งที่เห็นนางเมาในคราแรกแล้วเพ้อถึงแต่อ้ปป้านั่น แค่คิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาเขาก็แ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0104

    อันที่จริงเรือนเหมยฮวาก็ไม่ได้ไกลอะไร แต่เพ่ยเพ่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธนายหญิงหลิว เพราะหากไม่รับปากนาง นางก็จะคะยั้นคะยอไม่เลิก เพ่ยเพ่ยเองก็ชินกับนิสัยนายหญิงหลิวแล้ว นางชอบเวลาที่ลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อ๋องหมิงต้องยอมรับว่าเหล้าโซจูที่หลินเฟิงอี้นำมานั้นค่อนข้างแรง ดื่มไปเพียงนิดก็แสบไปทั้งลำคอ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0103

    "เฟิงอี้ หวังว่าเจ้าคงจะไม่ลืมที่เคยสัญญาเอาไว้เมื่อคราวก่อน" "ย่อมไม่ลืม" หลินเฟิงอี้กระดิกนิ้วเรียกให้บ่าวคนสนิทนำไหเหล้าเข้ามา "ตามที่ขอ ข้าหมักเองกับมือ นี่โซจูตามสูตรที่ได้มาจากโชซอนเลยนะ" "ว๊าว อ้ปป้า เยี่ยมสุดๆ ไปเลย ข้าขอคารวะ หากรู้มาก่อนว่าเจ้าจะมาวันนี้ ข้าคงทำกิมจิไว้รอแล้ว" เพ่ยเพ่

DMCA.com Protection Status