Share

บทที่ 0008

last update Last Updated: 2024-12-02 04:00:00

ด้วยอารมณ์โกรธอ๋องหมิงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือและกระแทกปิดประตูเสียงดังลั่น พร้อมกับตะโกนสั่งองครักษ์คนสนิท

"อย่าให้ผู้ใดมารบกวน!"

เหลยคังที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงดังโครมคราม เสียงของกระแทกบ้าง เสียงของแตกบ้างดังมาจากข้างในห้องอยู่เป็นระยะ

ท่านอ๋องคงจะระบายอารมณ์อยู่เป็นแน่ ไม่ได้เห็นท่านอ๋องอารมณ์รุนแรงเช่นนี้มานานแล้ว พระชายาทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ถึงเพียงนี้

อ๋องหมิงนั่งกอดอกทำหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน พยายามระงับอารมณ์ของตนเองไม่ให้เดือดดาลไปมากกว่านี้

ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดีหยางเพ่ยเพ่ย

เขาควรทำให้นางทุกข์ทรมานจนไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้ หรือจะอ้างว่านางทำตัวไม่เหมาะสมแล้วขอให้เสด็จพี่ประทานหนังสือหย่าให้นางเสีย เขายอมแต่งงานกับนางตามราชโองการแล้วนี่ ก็มิใช่ว่าเสด็จพี่จะยกเลิกราชโองการไม่ได้ หากเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่านางประพฤติตัวไม่เหมาะสม

หึ...ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าไปเสวยสุข สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าควรได้รับบทเรียน ให้ทนทุกข์อยู่กับข้าเสียที่นี่ให้สาสมเสียก่อน เบื่องั้นรึ ดี! ให้นางทนเบื่ออยู่แต่ในตำหนักอ๋องจนกระอักเลือดตายไปเสีย

อ๋องหมิงโมโหจนไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะไม่ลงมือกับนางอย่างในคืนนั้นอีก

ความจริงแล้วเขาเองก็รู้สึกผิดกับการกระทำครั้งก่อนอยู่ลึกๆ เขาทำร้ายนางด้วยอารมณ์โมโหผสมกับฤทธิ์ของสุราที่เขาดื่มเข้าไปก่อนหน้า ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีใจให้นาง แต่ก็ไม่ได้เกลียดนางถึงเพียงนั้น

แต่จะให้คนอย่างเขาไปขอโทษก็ไม่ใช่เรื่อง นางรนหาที่เอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาสั่งให้องครักษ์เงาคอยเฝ้าดูนางอยู่ตลอด ที่จริงแล้วเขาก็กลัวว่านางจะเป็นอะไรไป จึงได้ให้คนคอยติดตามดูอาการของนางอยู่ห่างๆ

พอเขาทราบว่านางเริ่มหายดีแล้วเขาจึงสั่งให้คนของเขาเลิกติดตามนาง แต่ใครจะรู้ว่าพอเขายกเลิกคำสั่ง นางก็ก่อเรื่องขึ้นมาทันที

เดิมทีเขาอยากให้ต่างคนต่างอยู่กันอย่างสงบและสันติ แต่เห็นทีตั้งแต่วันนี้เขาต้องทำให้นางหลาบจำเสียบ้าง นางเป็นใครถึงได้กล้ามาหยามเขาเช่นนี้

"ท่านอ๋อง แม่นางฝูให้มาเรียนถามว่าท่านจะไปรับสำรับเย็นกับนางหรือไม่พะยะค่ะ"

เหลยคังเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะอารมณ์โกรธเกรี้ยวของผู้เป็นนาย

ใช่แล้ว ไปหาเหวินเอ๋ออาจจะทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นบ้าง

"ไปตอนนี้" พูดจบอ๋องหมิงก็เปิดประตูออกมาจากห้อง

"สั่งคนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อย"

"พะยะค่ะ"

เมื่อเหลยคังมองเข้าไปในห้องหนังสือเขาถึงกับส่ายหน้าไปมา นึกสงสารคนเก็บกวาดยิ่งนัก

-โถงกลางตำหนักใหญ่-

"ศิษย์พี่มาแล้ว นั่งก่อนสิเจ้าคะ"

"อืม"

"ข้าได้ยินมาว่าศิษย์พี่หลิงฟงมา แล้วเหตุใดพี่หลิงฟงกับพระชายาถึงได้กลับมาพร้อมกันได้ล่ะเจ้าคะ"

อู๋เหยาหมิง ยังคงโมโหอยู่แต่ก็ยังตอบกลับฝูเหวิน

"อืม หลิงฟงเพียงแค่มาส่งนาง นางออกไปพบกับพี่ชายของนางที่เป็นสหายกับหลิงฟง"

ฝูเหวินลอบมองดูอาการของอ๋องหมิง นางดูออกว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

"พระชายาก็มิไว้หน้าศิษย์พี่บ้างเลย ได้ข่าวว่าเมามายกลับมา ศิษย์พี่คงจะขุ่นเคืองใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ"

"อืม ยังดีที่นางปลอมตัวเป็นบุรุษ มิเช่นนั้นคนคงได้เอาไปพูดกันสนุกว่าหมิงหวางเฟยเพิ่งจะแต่งเข้ามายังไม่ทันไรก็สวมหมวกเขียวให้ข้าเสียแล้ว"

นึกแล้วก็โมโห นางเป็นสตรีของเขาแม้ว่าจะแค่ในนามก็ตาม แต่นางก็มิควรจะใกล้ชิดบุรุษที่ไม่ใช่ญาติหรือสามีเช่นนี้ หลิงฟงก็อีกคน คงไม่ได้ชอบนางจิ้งจอกนี่เข้าหรอกนะ

อ๋องหมิงกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น

"ศิษย์พี่อิ่มแล้วหรือเจ้าคะ ท่านทานไปแค่นิดเดียวเอง อาหารมิถูกปากหรือเจ้าคะ ให้ข้าสั่งคนครัวให้จัดสำรับใหม่ดีไหม"

"ไม่ต้องหรอก ข้ามิค่อยหิวเท่าไหร่ ยังมีงานค้างอยู่อีกมาก พรุ่งนี้ยังต้องเข้าเฝ้าเสด็จพี่แต่เช้า"

หน้าตาของอ๋องหมิงเริ่มแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าอย่างมาก

"ศิษย์พี่อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะเจ้าคะ"

ฝูเหวินรินน้ำชาให้อ๋องหมิง และคอลอบมองดูสีหน้าท่าทางของเขาอยู่ตลอด นางต้องแน่ใจว่าเขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมาเพราะหึงหวงหยางเพ่ยเพ่ย

เมื่อรับสำรับเย็นเสร็จอ๋องหมิงก็กลับมาทำงานต่อที่ห้องหนังสือ

"ท่านอ๋อง องค์ไทเฮาทรงให้กงกงในวังมาแจ้งพระประสงค์ว่าหากพระชายาหายป่วยไข้แล้ว ให้ท่านอ๋องและพระชายาเข้าเฝ้าพร้อมกันในวันพรุ่งนี้พะยะค่ะ"

เหลยคังรีบเข้ามารายงาน

"อืม ส่งคนไปแจ้งนางด้วย"

"พะย่ะค่ะ" แม้จะรับคำแต่ในใจเหลยคังนั้นกลับวิตกแทนหยางเพ่ยเพ่ยอยู่ไม่น้อย

สภาพเช่นนั้น…พระชายาจะตื่นไหวงั้นรึ

อ๋องหมิงก้มหน้าก้มตากลับมาจัดการกับกองงานตรงหน้าต่อ กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ล่วงเลยไปถึงปลายยามจื่อ*

"เหลยคัง เจ้าไปแจ้งพระชายาเรียบร้อยแล้วหรือยัง"

"กระหม่อมไปที่ตำหนักพระชายาแต่พระชายาทรงเข้าบรรทมไปตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว กระหม่อมจึงฝากเรื่องไว้กับสาวใช้ของพระชายาแทนพะยะค่ะ"

"จะได้เรื่องงั้นรึ เจ้าควรแจ้งนางให้นางรับทราบด้วยตัวเอง หากพรุ่งนี้นางไม่ตื่นข้าก็ต้องหาเหตุผลไปผัดผ่อนเสด็จแม่อีก"

"กระหม่อมจะกลับไปแจ้งพระชายาอีกครั้งพะยะค่ะ"

"ไม่ต้อง...ไปตำหนักพระชายา!"

อ๋องหมิงออกคำสั่งแล้วลุกขึ้นเดิมนำไปในทันที

ทำไมต้องไปแจ้งเองหรือท่านอ๋องจะหาเรื่องไปพบหน้าพระชายากันแน่

เหลยคังรับรู้ได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง ก่อนจะรีบเดินตามอ๋องหมิงไป

เมื่อไปถึงยังหน้าตำหนักจันทรา อู๋เหยาหมิงเอาแต่ยืนจ้องเข้าไปในตำหนักไม่ทำอะไรเสียทีจนเหลยคังต้องเอ่ยเตือน

"ให้กระหม่อมไปตามสาวใช้ให้มาปลุกพระชายาดีไหมพะยะค่ะ"

"ไม่ต้อง! ข้าจะเข้าไปเอง เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่ก็พอ"

พูดจบเขาก็เปิดประตูก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในตำหนักที่บัดนี้มืดสนิทเพราะคนในตำหนักเข้านอนกันไปหมดแล้ว

เฮ้อ! หากข้าไม่กล่าวกระตุ้น ท่านอ๋องคงจะยืนเฝ้าอยู่หน้าตำหนักจันทราทั้งคืนเป็นแน่

ท่านอ๋องของเขาทรงเป็นอะไรไปหรือว่ามีอะไรบางอย่างที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปกันแน่ หากเป็นเช่นนั้นได้ก็ย่อมดีแท้แน่นอน อย่างไรเขาก็อยากเห็นท่านอ๋องปรองดองกับพระชายามากกว่าทะเลาะกันดังเช่นเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

อ๋องหมิงเดินเข้ามาหยุดยืนจ้องมองเพ่ยเพ่ยอยู่ข้างเตียงนอนของนาง ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงนั้นหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ขาและแขนของนางก่ายไปบนหมอนข้างใบใหญ่ ผ้าห่มก็ร่นลงไปกองอยู่ปลายเท้า

หึ...ช่างดูไม่สมกับเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย

อู๋เหยาหมิงเอื้อมมือไปกระตุกที่แขนเสื้อของนางเบาๆ แล้วเรียกนางให้ตื่น

"หยางเพ่ยเพ่ย"

แม้เขาจะเรียกนางเสียงค่อนข้างดังแต่กลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับจากร่างเล็กที่นอนหลับใหลอยู่ เขาจึงออกแรงกระตุกไปที่ชายแขนเสื้อและเรียกนางเสียงดังขึ้นอีก

"หยางเพ่ยเพ่ย!"

เพ่ยเพ่ยพลิกหมุนตัวมาทางเขาแล้วฟาดแขนกลับมา แม้ว่าตายังคงปิดสนิทอยู่

"อะไร จะเรียกทำไมเนี่ย! "

"ตื่นแล้วลุกขึ้นมาคุยกับข้า!" เขากล่าวเสียงดังขึ้นอีก

เพ่ยเพ่ยค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาตามเสียงเรียกของเขา นางเห็นเพียงภาพเลือนรางในความมืด นางกำลังฝันถึงกงยูพระเอกในดวงใจของนางอยู่ ในความฝันเพ่ยเพ่ยสวมบทเป็นนางเอก

ด้วยความเมาและยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเพ่ยเพ่ยจึงคิดเอาว่าตนนั้นยังคงอยู่ในความฝันและตอนนี้ก็ฝันว่าอ้ปป้ากงยูมาอยู่ตรงหน้าแล้ว

"อ้ปป้ามาจริงๆ หรอเนี่ย ฝันดีชะมัด"

เพ่ยเพ่ยยกยิ้ม ส่งสายตาหวานเยิ้มให้อ๋องหมิง ก่อนจะลุกขึ้นใช้สองมือเล็กดึงสาบเสื้อของอ๋องหมิงให้โน้มตัวเข้ามาหา จนตอนนี้ใบหน้าของนางและเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น

"อ้ปป้าจริงๆ ด้วย"

เพ่ยเพ่ยวางนิ้วเรียวยาวลงบนใบหน้าคม ก่อนจะลากนิ้วลูบไล้ไปบนแก้มเรื่อยมาจนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหนาของเขา

"อุ๊ย! นุ่มอ่ะ ได้จูบอ้ปป้าสักครั้ง เพ่ยเพ่ยสัญญาเลยว่าจะตั้งใจทำงาน"

อ๋องหมิงจ้องหน้าเพ่ยเพ่ยเขม็ง ตะลึงค้างกับการกระทำอันอุกอาจของนาง

ทำสายตาหวานหยาดเยิ้มราวกับจะยั่วยวนข้า

แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ นางกำลังคิดว่าเขาคือชายชื่อ 'อ้ปป้า' นั่นต่างหากเล่า

อ๋องหมิงเอื้อมมือมากำข้อมือของเพ่ยเพ่ยไว้เพื่อหยุดการกระทำนั้น เขาออกแรงกำมือเพ่ยเพ่ยแน่นจนนางรู้สึกเจ็บ

"โอ้ย! เจ็บนะ"

เมื่อความเจ็บเริ่มจู่โจม เพ่ยเพ่ยจึงค่อยๆ ได้สติ เธอลืมตาขึ้นในความมืดแล้วเพ่งมองบุรุษตรงหน้า ด้วยแสงรำไรจากโคมไฟบนโต๊ะกลางห้องจึงทำให้นางเห็นเขาได้ถนัดตายิ่งขึ้น

"มาได้ไงวะ?"

เพ่ยเพ่ยถึงกับสบถออกมาอย่างลืมตัว

"โอ้ย!…ท่านอ๋องหม่อมฉันเจ็บนะเพคะ ปล่อยหม่อมฉันนะ"

เพ่ยเพ่ยที่รู้ตัวแล้วพยายามอย่างสุดแรงที่จะดึงมือของตนให้หลุดพ้นจากมือแกร่งของเขา

"หึ! สตรีไร้ยางอาย กลางวันออกไปนั่งดื่มสุรากับบุรุษ เมามายจนต้องหอบหิ้วกันกลับมา แม้ยามหลับก็ยังพร่ำเพ้อถึงชายอื่น ต้องให้ข้าเตือนความจำหรือไม่ว่าเจ้าแต่งงานแล้วและเป็นถึงหมิงหวางเฟย"

"..."

"หากไม่คิดจะไว้หน้าข้าก็ควรไว้หน้าตระกูลหยางของเจ้าบ้าง"

อะไรของเขาวะ? มาถึงก็ด่าเอาๆ

นางกำลังฝันดีอยู่เลย ทำไมเขาต้องมาขัดจังหวะนางกับอ้ปป้าด้วยเนี่ย มาถึงก็ด่านางชุดใหญ่ไฟกะพริบขนาดนี้

เป็นอะไรมากป่ะเนี่ย

"ท่านพูดเรื่องอะไรของท่านกัน ท่านกำลังป่วยใช่หรือไม่เพคะ ปกติท่านอ๋องก็ไม่เคยสนใจไยดีสตรีอื่นนอกจากแม่นางฝูของท่านอยู่แล้วมิใช่หรือ แล้วท่านจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับข้ากันเล่า มิใช่ว่าท่านควรจะดีใจหรอกหรือที่ข้าไปสนใจชายอื่น"

อิตาอ๋อง แกต้องเป็นไบโพล่าแน่ๆ

ไม่ชอบนางแต่ตามเข้ามาด่าถึงห้อง ย่องเข้ามาเงียบๆ อย่างกับพวกแอบถ้ำมอง แล้วนี่อะไรกัน โมโหราวกับว่าหึงหวงอย่างนั้นแหละ ย้อนแย้งอย่างไรไม่รู้

"เจ้าอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าที่ข้าโมโหเช่นนี้เพราะข้ามีใจต่อสตรีมากเล่ห์เช่นเจ้า ข้าเพียงไม่ชอบให้ใครมาหยามเกียรติของข้าก็เท่านั้น"

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามพร้อมกับออกแรงบีบข้อมือของนางแรงขึ้นอีก

"โอ้ย! หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ"

เพ่ยเพ่ยร้องขึ้นอีกครั้ง เขาไม่เพียงไม่ปล่อยมือนางแต่กลับเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ

อ๊ะ! อีตาอ๋องนี่ อารมณ์รุนแรงเกินไปแล้ว

"แล้วท่านอ๋องเข้ามาในห้องนอนของหม่อมฉันทำไมกันเล่า ดึกดื่นเช่นนี้หากว่าไม่ต้องการให้หม่อมฉันคิดเข้าข้างตัวเอง ท่านอ๋องก็ควรรีบนำพาตัวเองออกไปซะ"

"ข้าก็ไม่ได้อยากจะรั้งอยู่ที่นี่นานนักหรอก เหวินเอ๋อยังรอข้าอยู่ ข้าเพียงมาบอกเจ้าเท่านั้น เจ้าต้องเข้าวังไปพบเสด็จแม่กับข้าพรุ่งนี้เช้า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วอย่าให้ข้าต้องรอ ทำตัวดีดีเวลาอยู่ต่อหน้าเสด็จแม่และเสด็จพี่ อย่าทำให้ข้าหมดความอดทนกับเจ้า"

พูดจบเขาก็ผลักนางออกอย่างแรงจนหลังของเพ่ยเพ่ยกระแทกกับเบาะนอน

"โอ้ย! ผลักมาได้" เพ่ยเพ่ยเม้มปากแน่น

"หม่อมฉันรับทราบเพคะ หากหมดธุระแล้วก็ เชิญ!...เพคะ!"

ไอ้เจ้าอ๋องซาดิสม์ ไอ้อ๋องไบโพล่า พูดอย่างกับว่าหึงหวงเรา ทำเป็นเอ่ยอ้างถึงแม่นางฝู ขี้อวดอ่ะ ใครเขาอยากรู้กัน

เพ่ยเพ่ยได้แต่ก่นด่าเขาในใจ สายตาก็จ้องตอบกลับอ๋องหมิงอย่างไม่เกรงกลัว

"แล้วอย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้าอ้ปป้านั่นมันเป็นผู้ใด"

พูดเสร็จเขาก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรงก่อนจะหันหลังเดินจากไปทันที

"เอ่อ ทำไมเขาถึงรู้จักอ้ปป้าได้ล่ะเนี้ย นี่มันเมืองจีนไม่ใช่หรอ จะเป็นไปได้ยังไง เอ๊ะ! หรือว่า..."

"เพ่ยเพ่ยเอ้ย! นี่แกละเมอเรียกอ้ปป้าอีกแล้วหรอวะเนี่ย"

เพ่ยเพ่ยได้แต่นึกตลกตัวเอง เวลานางดื่มเหล้าเมาทีไร นางจะต้องละเมอหาอ้ปป้าทุกครั้งไป เรื่องที่นางเมาแล้วชอบละเมอ เพื่อนๆ ของนางหลายคนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเรื่องจริง

อ๋องหมิงเมื่อเดินออกมาจากตำหนักจันทราแล้วจึงหันไปเอ่ยกับคนสนิทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

"เหลยคัง!"

"พะยะค่ะ"

"เจ้าเคยได้ยินชื่อ 'อ้ปป้า' หรือไม่ ชื่อประหลาดนัก มันเป็นภาษาของแคว้นใด"

"กระหม่อมไม่เคยได้ยินชื่อแปลกเช่นนี้มาก่อนเลยพะยะค่ะ"

"ส่งคนไปสืบมาให้ข้า"

อ๋องหมิงสั่งเหลยคังเสียงเรียบ สีหน้าราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

Related chapters

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0009

    เพ่ยเพ่ยตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวจากฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไปเมื่อวาน นางยังคงนั่งหลับตาอยู่บนเตียงด้วยความง่วงเต็มเปี่ยม เพ่ยเพ่ยตื่นได้สักพักแล้วเพราะชิงชิงเข้ามาปลุกก่อนหน้านี้ หากปล่อยให้นางตื่นเองอย่างไรก็คงไม่มีมีทางเป็นไปได้แน่ "คุณหนูรับน้ำชาสักหน่อยไหมเจ้าคะ จะได้สดชื่นขึ้นเจ้าค่ะ" ชิงชิ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0010

    อ๋องหมิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮ่องเต้ฟังอย่างไม่ปิดบังใดๆ ฮ่องเต้โมโหเป็นอย่างมากพาลไม่ชอบฝูเหวินมากขึ้นไปอีก "จะอย่างไรเจิ้นก็ไม่มีทางยอมให้ฝูเหวินขึ้นเป็นพระชายาเอกของเจ้าแน่นอน ถึงแม้จะไม่มีคุณหนูหยาง เจิ้นก็จะหาชายาใหม่มาแต่งให้เจ้า เจ้าอย่าได้คิดยกฝูเหวินขึ้นมาแทนที่นาง เจิ้นไม่เห็นความเหมาะสมใ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0011

    เพ่ยเพ่ยได้หนังสือแพทย์ที่น่าสนใจมาสี่ห้าเล่มและเข็มเงินอีกหนึ่งชุด นางเคยศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์แพทย์แผนจีนและการฝังเข็มมาบ้างในชาติที่แล้ว ชาตินี้นางคงต้องรื้อฟื้นความจำ ปัดฝุ่นความรู้เก่าและศึกษาเพิ่มเติมสักเล็กน้อย เพ่ยเพ่ยรีบพาชิงชิงแอบกลับเข้าตำหนักทางประตูด้านหลัง ครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้ใครจับไ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0012

    อ๋องหมิงประกบปากจูบดูดดึงริมฝีปากบางของเพ่ยเพ่ยอย่างเร่าร้อนและรุนแรง มือแกร่งของเขารวบข้อมือเล็กสองข้างของนางแล้วยึดมันไปไว้เหนือศรีษะด้วยมือเพียงข้างเดียว มืออีกข้างหนึ่งล้วงเข้ามาในสาบเสื้อของนางก่อนที่มือใหญ่จะขยำอกอวบเกินวัยของนางจนแทบแหลกคามือของเขา "อ๊ะ อย่านะ...อื้อ" เพ่ยเพ่ยอ้าปากร้อง แ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0013

    "..." เพ่ยเพ่ยเม้มปากแน่นไม่ได้เอ่ยคำใด มีเพียงใบหน้าสวยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อชวนมองที่ทำให้เขานั้นแทบคลั่ง เพ่ยเพ่ยเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทที่เขามอบให้ จนลืมสิ้นไปเสียทุกอย่างแล้ว นางยิ่งเป็นพวกจุดติดง่ายเสียด้วย นางเกลียดตัวเองนัก อ๋องหมิงจับมือนุ่มของนางให้ลูบลงต่ำอยู่ตรงหน้าท้องของเขา ก่อนที่จะ

    Last Updated : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0014

    ฝูเหวินตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนล้า นางหลับไม่ค่อยสนิทในคืนที่ผ่านมา เพราะมัวแต่คอยจัดแจงให้อิงหลัวไปสืบดูว่าอ๋องหมิงกลับถึงตำหนักใหญ่แล้วหรือยังเมื่อวานนางรอให้อ๋องหมิงมารับสำรับเย็นด้วยกันจนมืดค่ำแต่เขาก็ยังไม่กลับมา นางรอข่าวจากอิงหลัวไม่ไหวจึงหลับไปเสียก่อนฝูเหวินค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงที่หัว

    Last Updated : 2024-12-05
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0015

    อ๋องหมิงยื่นมือไปสัมผัสกับแก้มขาวเนียนของเพ่ยเพ่ยอย่างไม่รู้ตัว ทำไมเพียงแค่ได้นอนดูนางหลับก็ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวได้ บางอย่างในตัวของนางช่างเย้ายวนใจนัก พอคิดเช่นนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกปวดแก่นกายขึ้นมา"อื้อ"ร่างบางส่งเสียงไม่พอใจที่ถูกรบกวนให้ตื่น เพ่ยเพ่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนที่นางจะสบสายตาเข้ากับสา

    Last Updated : 2024-12-05
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0016

    หลังจากที่เข้าหออย่างจับพลัดจับผลูในคืนนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันแล้วที่เพ่ยเพ่ยไม่เห็นแม้แต่เงาของอ๋องหมิงเลย แต่นางก็หาได้สนใจไม่นางเอาแต่ศึกษาตำราแพทย์ในสมัยนี้ เพื่อหาความเชื่อมโยงของการแพทย์สมัยก่อนและสมัยปัจจุบันเข้าด้วยกัน นางทบทวนวิชาการฝังเข็มบ้างและพบว่าความรู้ส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน เพราะการฝ

    Last Updated : 2024-12-06

Latest chapter

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0111

    -จวนตระกูลหยาง- "มากันแล้ว มากันแล้วขอรับ!" เสียงพ่อบ้านทั้งวิ่งทั้งตะโกนเรียกทุกคนในเรือนไปพร้อมๆ กัน ทุกคนวางมือจากงานที่ทำอยู่อย่างลนลานก่อนจะรีบไปรวมตัวกันที่หน้าประตูจวนเพื่อนต้อนรับอ๋องหมิงและพระชายา ระหว่างเดินทางอ๋องหมิงให้ม้าเร็วมาแจ้งตระกูลหยางล่วงหน้าแล้วว่าเขากำลังพาเพ่ยเพ่ยกลับมาชางห

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0110

    เพ่ยเพ่ยมองทั้งสามและพิจารณาถึงสิ่งที่อี้ซินบอก ใช่แล้ว คนเคร่งขรึมหน้าตาไร้อารมณ์เช่นเขาความจริงแล้วไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนอยากเล่นด้วยเลยต่างหาก อาจเป็นเพราะสัมพันธ์พ่อลูกที่ตัดอย่างไรก็ไม่ขาดกระมัง เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลารับสำรับเย็น ไม่น่าเชื่อว่า อาหารพื้นๆ ในเรือนหลังไม่ใหญ่แต่อาหารมื้อนี้สำหรับ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0109

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ เมื่อไหร่จะตื่นเสียที พวกเรารอตั้งนานแล้วนะ" เด็กทั้งสองเคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่หยุด อี้ซินมีสีหน้าซีดเผือด นางพยายามห้ามนายน้อยและคุณหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สองแฝดผู้เอาแต่ใจก็หาได้ฟังใครไม่ หลังจากที่รอบิดากับมารดามาตั้งแต่เช้า กระทั่งพวกเขารับสำรับเช้าเสร็จแล้วแต่ท่านพ่อท่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0108

    "เมื่อกี้เจ้าจูบข้าก่อน" อ๋องหมิงมองเพ่ยเพ่ยพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้น หัวใจกระตุกเพราะนางไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ทุกครั้งมีเพียงเขาที่เป็นฝ่ายจูบนางก่อนและเกือบทุกครั้งคือการบังคับให้นางต้องรับจูบจากเขา "ใช่เพคะ มิได้หรือ" "ทำไมจะมิได้ เปิ่นหวางชอบ" เพ่ยเพ่ยมอบจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากของเขาอีกครั

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0107

    "แล้วหม่อมฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าหม่อมฉันพูดอันใดไปบ้าง ท่านอ๋องก็บอกหม่อมฉันสิเพคะ" "เจ้าจับหน้าเปิ่นหวาง เรียกข้าว่าอ้ปป้าแล้วยังบอกว่าหากได้จูบอ้ปป้าสักครั้งจะตั้งใจทำงาน" "หา! หม่อมฉันเนี่ยนะเพคะกล่าวเช่นนั้นออกมา" แต่ภาษาวัยรุ่นแบบนั้น ไม่ใช่แกแล้วเขาจะคิดเองได้หรือไงเล่ายัยบ้า เมื่อคิดได้เช่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0106

    "เจ้าพูดอะไรของเจ้า ยิ่งฟังเจ้าข้าก็ยิ่งงง ท่านอ๋องเคยไปรังแกเจ้าด้วยรึ" "หึ เจ้าอยากโดนรุมซ้อมดูบ้างไหมล่ะ คนของเขาเท้าหนักๆ กันทั้งนั้น เพราะอารมณ์หึงหวงอย่างมิมีเหตุผลของเขาอย่างไรล่ะ" อย่าให้เขาบรรยายเลย บุรุษยุคนี้ หน้าใหญ่ใจโต ถือว่าตนมีอำนาจก็ไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น กดทุกคนให้อยู่ต่ำหมดไม่ว่า

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0105

    อ๋องหมิงได้ยินดังนั้นก็หันขวับไปจ้องหน้าเพ่ยเพ่ย แขนแกร่งทั้งสองข้างจับข้อมือเล็กของนางแน่น แล้วดึงมือนางที่จับกุมใบหน้าของตนออก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธแต่กลับแอบแฝงความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ เขายังจำได้ เมื่อครั้งที่เห็นนางเมาในคราแรกแล้วเพ้อถึงแต่อ้ปป้านั่น แค่คิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาเขาก็แ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0104

    อันที่จริงเรือนเหมยฮวาก็ไม่ได้ไกลอะไร แต่เพ่ยเพ่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธนายหญิงหลิว เพราะหากไม่รับปากนาง นางก็จะคะยั้นคะยอไม่เลิก เพ่ยเพ่ยเองก็ชินกับนิสัยนายหญิงหลิวแล้ว นางชอบเวลาที่ลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อ๋องหมิงต้องยอมรับว่าเหล้าโซจูที่หลินเฟิงอี้นำมานั้นค่อนข้างแรง ดื่มไปเพียงนิดก็แสบไปทั้งลำคอ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0103

    "เฟิงอี้ หวังว่าเจ้าคงจะไม่ลืมที่เคยสัญญาเอาไว้เมื่อคราวก่อน" "ย่อมไม่ลืม" หลินเฟิงอี้กระดิกนิ้วเรียกให้บ่าวคนสนิทนำไหเหล้าเข้ามา "ตามที่ขอ ข้าหมักเองกับมือ นี่โซจูตามสูตรที่ได้มาจากโชซอนเลยนะ" "ว๊าว อ้ปป้า เยี่ยมสุดๆ ไปเลย ข้าขอคารวะ หากรู้มาก่อนว่าเจ้าจะมาวันนี้ ข้าคงทำกิมจิไว้รอแล้ว" เพ่ยเพ่

DMCA.com Protection Status