แชร์

บทที่ 0003

ผู้เขียน: หลินซินเหยียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-01 03:52:00

-เรือนรับรองตำหนักอ๋องหมิง-

"ท่านหมอกู้ เหวินเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมนางจึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก"

อ๋องหมิงนั่งลงข้างเตียงของฝูเหวิน เขาคอยจับมือนางเอาไว้ไม่ห่าง เสียงที่ฟังดูเคร่งเครียดของอ๋องหมิงนั้นทำให้หมอหลวงกู้ถึงกับหน้าซีด

"ร่างกายของนางไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่ก่อนแล้ว แล้วยังมาตกน้ำไปอีก คงต้องรอให้นางฟื้นขึ้นมาเองพะยะค่ะ กระหม่อมทำสุดความสามารถแล้ว"

หมอหลวงกู้หมอบราบอยู่ที่พื้น ตอบคำถามอ๋องหมิงเสียงสั่น

สิ้นเสียงของหมอหลวงกู้ สีหน้าของอ๋องหมิงก็ดำคล้ำขึ้นมาทันที ดวงตาสีเข้มของเขาฉายแววกรุ่นโกรธขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะหยางเพ่ยเพ่ยคนเดียว นางสมควรตายนัก

บรรยากาศในห้องเริ่มอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก ทุกคนรู้สึกกดดันและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสังหารจากตัวอ๋องหมิง หมอหลวงกู้หมอบคลานจนหน้าของเขานั้นแทบจะแนบติดไปกับพื้น หยาดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าทั้งที่อากาศตอนนี้ก็ไม่ได้ร้อนแต่อย่างใด

อ๋องหมิงพยายามสกัดกั้นความโมโหไม่ให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนพิธีส่งตัวเข้าหอ จู่ๆ พ่อบ้านก็วิ่งโร่มาแจ้งแก่เขาว่าฝูเหวินนั้นตกน้ำจนสลบไปไม่ได้สติตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแล้ว

"เหตุใดจึงเพิ่งมาแจ้งแก่ข้า"

"กระหม่อมเพิ่งทราบเรื่องจากแม่นางอิงหลัวพ่ะยะค่ะ"

พ่อบ้านหม่าตอบเสียงสั่น

"แม่นางฝูเข้าไปแสดงความยินดีกับพระชายาที่ห้องเพคะ แต่ไม่ทราบว่าคุยอันใดกัน พอแม่นางฝูออกมาพระชายาก็เดิมตามออกมาจนถึงศาลาริมน้ำ หม่อมฉันเห็นว่าเหมือนทั้งสองคนกำลังทะเลาะกัน หมายจะเข้าไปห้าม แต่ยังไปไม่ถึงก็เห็นแม่นางฝูตกน้ำลงไปแล้วเพคะ"

'อิงหลัว'สาวใช้ในตำหนักที่ได้รับหน้าที่ให้มารับใช้ฝูเหวินไขความกระจ่างให้แก่เขา

"เป็นความผิดของหม่อมฉันเองเพคะที่ไม่ได้ดูแลแม่นางฝูให้ดี ขอทรงลงอาญาด้วยเพคะ"

สิ้นเสียงของนาง ท่านอ๋องที่ขณะนั้นกำลังเมาได้ที่จากฤทธิ์ของสุราที่ถูกเหล่าขุนนางคะยั้นคะยอให้ดื่มนั้นทำให้เขาบบันดาลโทสะ แล้วมุ่งตรงไปที่เรือนของผู้เป็นชายาโดยไม่รั้งรอ

เขาโกรธนางมาก เหตุใดนางจึงอิจฉาริษยาจนต้องทำร้ายกันถึงชีวิตเช่นนี้ เป็นสตรีที่จิตใจคับแคบไม่พอนางยังโหดร้ายกับชีวิตคนอื่นได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ

เมื่อเขามาถึงตำหนักจันทราจากที่เต็มไปด้วยโทสะอยู่แล้วนางยังกล้าทำให้เขายิ่งโมโหมากกว่าเดิม

หึ…ถึงขนาดกล้าใช้ธูปสเน่หากับข้า

แค่เขาได้กลิ่นมันเขาก็รู้แล้ว ชั่วชีวิตนี้เขาโดนสตรีวางยากำหนัดใช้เล่ห์กลใส่มานับไม่ถ้วน สตรีไร้ยางอายมากมายที่หมายจะมาเป็นผู้หญิงของเขา นี่ยังไม่นับรวมเหล่าข้าศึกที่คิดใช้กลยุทธ์สาวงามกับแม่ทัพอย่างเขา

อ๋องหมิงเดินลมปราณสกัดกั้นพิษจากธูปหอม แล้วจับหยางเพ่ยเพ่ยมัดแขนมัดขาเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินจากไปเพื่อดูอาการฝูเหวินโดยไม่หันมาดูดำดูดีนางอีก

ผ่านไปสองชั่วยามสาวใช้ของหยางเพ่ยเพ่ยก็ร้องห่มร้องไห้มาแจ้งเขาว่านางไม่หายใจแล้ว เมื่อเขาเร่งไปดูก็พบว่านางก็ยังสบายดีอยู่เลยนี่ ยังคิดจะใช้แผนอะไรกับเขาอีกหรือจึงให้สาวใช้มาหลอกเขาว่าตัวเองไม่หายใจแล้วเช่นนี้

นางสมควรโดนแล้ว

หากนางไม่มีใจคิดอิจฉาริษยา เหวินเอ๋อก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้

ในขณะที่อารมณ์ของอ๋องหมิงกำลังดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความโกรธแค้นอีกครั้ง อยู่ๆ เขาก็รับรู้ได้ถึงแรงบีบเบาๆ บนฝ่ามือของตัวเอง

"เหวินเอ๋อ เจ้าฟื้นแล้ว"

อ๋องหมิงเอื้อมมืออีกข้างเกลี่ยเส้นผมที่ไล้ลงบนใบหน้างามออก แม้ใบหน้าของนางจะดูซีดเซียว แต่ความงามของนางนั้นยังคงอยู่ไม่จางหาย เขาดีใจนักที่นางฟื้นขึ้นมา

"เจ้าฟื้นเสียที"

"ศิษย์พี่ ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่เล่า เวลานี้ท่านควรอยู่ที่ตำหนักของพระชายามิใช่หรือเจ้าคะ"

แม้ว่าฝูเหวินจะเอ่ยถามเขาด้วยแววตาใสซื่อ แต่ในแววตาและน้ำเสียงของนางนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

"เจ้าหยุดคิดเรื่องอื่นก่อนเถิดเหวินเอ๋อ เจ้าต้องพักผ่อนอย่าให้เรื่องใดมารบกวนจิตใจเจ้าเลย ศิษย์พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่นี่เอง"

เขาจับใบหน้าของนางไว้ในมือหนา ส่งผ่านความอบอุ่นและห่วงใยให้นาง

"ศิษย์พี่ แล้วพระชายาล่ะเพคะ คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ หากศิษย์พี่มาอยู่กับข้าที่นี่ นางจะโกรธเคืองเอาได้นะเจ้าคะ ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ให้อิงหลัวอยู่เป็นเพื่อนข้าก็พอ ท่านไปหานางเถอะเจ้าค่ะ"

นางช้อนตามองเขา ก่อนจะเอื้อนเอ่ยอย่างไร้เดียงสา

"หึ! สตรีมากเล่ห์เช่นนั้นข้าจะทำให้นางรู้ว่าคิดจะแต่งเข้ามาเป็นชายาแก่ข้า นางจะต้องครองตนเป็นหม้ายไปจนกว่านางจะทนทุกข์ไม่ไหวแล้วจากไปเสียเอง"

อ๋องหมิงเอ่ยเสียงเย้ยหยัน เขาไม่มีความคิดจะเข้าหอกับนางเลยสักนิด เขาคิดจะให้นางเป็นเพียงชายาในนามเท่านั้น หากนางรับได้ก็จะได้อยู่กันอย่างสงบ

"ศิษย์พี่ อย่าทำเช่นนี้เลยเพคะ ข้าไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ท่านต้องผิดใจกับฝ่าบาทและองค์ไทเฮา ข้ารู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับข้ามากว่าใคร เท่านี้ข้าก็ดีใจมากแล้วเจ้าค่ะ"

ฝูเหวินพยุงตัวเองให้ลุกนั่ง นางโผเข้ากอดอ๋องหมิงซุกตัวเข้าสู่อ้อมอกของเขาโดยไม่ได้สนใจต่อสายตาของผู้คนที่อยู่ในห้องนี้

"พวกเจ้าออกไปให้หมด นางจะได้พักผ่อนท่านหมอกู้หลังจากท่านจัดการยาของเหวินเอ๋อเรียบร้อยแล้วก็จงไปดูที่ตำหนักพระชายาสักหน่อย"

อ๋องหมิงเริ่มใจเย็นลงแล้วหลังจากที่ฝูเหวินฟื้นขึ้นมาจึงได้สั่งหมอหลวงอย่างขอไปทีพร้อมกับโบกสะบัดมือไล่ให้ทุกคนออกไป

ฝูเหวินส่งสายตาไปยังหมอหลวงกู้ ในขณะที่นางยังซบอกอยู่ในอ้อมกอดของอ๋องหมิง นางจ้องหมอหลวงกู้ ส่วนหมอหลวงกู้เองก็ส่งสายตากลับเป็นสัญญาณว่าเข้าใจที่นางต้องการจะสื่อ โดยหารู้ไม่ว่ากระทำของพวกเขานั้นตกอยู่ในสายตาของเหลยคังตลอดเวลา

เมื่อทุกคนออกจากห้องไปแล้ว ฝูเหวินที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของอ๋องหมิงจึงได้เอ่ยถามขึ้น

"ศิษย์พี่ พระชายาเป็นอะไรไปหรือเพคะ ทำไมท่านต้องให้ท่านหมอไปที่ตำหนักของนางด้วยเจ้าคะ"

"เจ้าอย่าได้ใส่ใจเลย นอนพักผ่อนเถิด ศิษย์พี่จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเจ้า เจ้ามิต้องกังวลเรื่องใด"

พูดจบเขาก็จับตัวนางเอนลงนอน ก่อนที่จะนั่งลงข้างเตียงแล้วกอบกุมมือของนางเอาไว้ มืออีกข้างก็ลูบหัวนางแผ่วเบา ฝูเหวินนอนตะแคงข้างแล้วซุกหน้าไปยังมือข้างนั้นที่เขากอบกุมมันไว้อยู่ นางยกยิ้มมุมปากก่อนที่จะหลับตาลง

หากข้าไม่ได้เป็นชายาเอกของท่านพี่เหยาหมิง ข้าก็จะไม่ยอมให้ใครได้เป็นทั้งนั้น เจ้าอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ไม่นานหรอกหยางเพ่ยเพ่ย

-ตำหนักจันทรา-

"คุณหนูเจ้าคะ ท่านนอนพักผ่อนเถิด บ่าวจะรีบไปต้มยาตามที่ท่านบอกมาให้เจ้าค่ะ"

ชิงชิงกล่าวพร้อมกระชับผ้าห่มในมือแล้วห่มมันให้กับเพ่ยเพ่ยที่ตอนนี้ทำแผลและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยและดูเหมือนว่าคุณหนูของนางนั้นพร้อมจะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว

แม้ชิงชิงจะสงสัยว่าคุณหนูของนางทราบได้อย่างไรว่าต้องใช้สมุนไพรตัวไหนบ้างมาต้มยา อีกทั้งยังรู้วิธีจัดการกับบาดแผลเหล่านั้นอีกด้วย นางแปลกใจยิ่งนัก แต่นางก็สลัดความสงสัยนี้ทิ้งไปและรีบเร่งออกไปต้มยาตามที่คุณหนูสั่งด้วยความเป็นห่วง

แต่ขณะที่เพ่ยเพ่ยกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

"พระชายา กระหม่อมพ่อบ้านประจำจวนอ๋อง ขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ"

โอ้ย…จะอะไรกันนักกันหนาคนพวกนี้ คนจะหลับจะนอนทำไมไม่ปล่อยให้ข้าได้นอนเสียที!

เพ่ยเพ่ยได้แต่สบถอยู่ในใจ

ตั้งแต่ไอ้อ๋องบ้านั่นแล้ว มาสาดน้ำใส่หน้านาง พอตอนนี้นางจะนอนพวกเขาก็ไม่ยอมให้นอนสักที ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ มันจะอะไรกันนักกันหนาเนี่ย เพ่ยเพ่ยตาขวาง หงุดหงิดอย่างถึงที่สุดจึงตอบกลับไปเสียงแข็ง

"เข้ามาได้!"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0004

    หลังจากที่พ่อบ้านพาหมอหลวงกู้เข้ามาตรวจดูอาการของเพ่ยเพ่ยแล้ว หมอหลวงกู้ก็ต้องประหลาดใจที่แผลของพระชายานั้นถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว แผลถูกพันไว้อย่างดีจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของคนทั่วไปที่ไม่ใช่หมอ หรือผู้ช่วยหมอ เขาจึงทำเพียงเขียนใบสั่งยาให้ชิงชิงและยังจัดยาทาแผลบางส่วนเอาไว้ให้นางด้วย เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0005

    เวลาล่วงเลยมาเดือนกว่าแล้วที่เพ่ยเพ่ยได้เข้ามาอยู่ในร่างใหม่นี้ ยามนี้ร่างกายเธอกลับมาแข็งแรงดีแล้ว มีเพียงรอยแผลตรงข้อมือและข้อเท้าที่ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่ารอยแผลจะไม่ปรากฏหรือบางทีอาจจะมีรอยจางๆ ให้เห็นไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ ตอนนี้เพ่ยเพ่ยเริ่มชินกับสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตประจำวันที่นี่ รวมถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0006

    "เจ้ารู้จักพวกนางหรือ? " หยางเฟยเอ่ยถามไป๋หลิงฟง เพราะเห็นอยู่ว่าสหายของตนจ้องมองพวกนางไม่วางตา แถมยังยิ้มแปลกๆ ดูมีพิรุจนัก "เจ้าเรียกสองคนนั้นว่า 'พวกนาง' อย่างนั้นรึ" ไป๋หลิงฟงถามหยางเฟยเพื่อไขความกระจ่างให้กับการคาดคะเนของตน "ฮ่าๆ พวกนางเป็นสตรีจริงๆ สินะ ข้าก็ว่าข้ามองไม่ผิดแน่ ใบหน้าเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0007

    "พ่อบ้านหม่า เดี๋ยวข้าจะเดินไปส่งพระชายาที่ตำหนักของนางก่อนแล้วจึงจะไปพบท่านอ๋อง เจ้าแจ้งท่านอ๋องด้วยแล้วกันว่าข้ากำลังจะไปหา หากท่านอ๋องไม่ถามก็ไม่ต้องพูดเรื่องของพระชายาจะดีกว่า" "ขอรับท่านรองแม่ทัพ" พ่อบ้านรับคำแล้วจึงเดินเบี่ยงออกไปอีกทางเพื่อแจ้งแก่ผู้เป็นนาย แม้ในใจจะรู้สึกสงสัยอยู่ไม่น้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0008

    ด้วยอารมณ์โกรธอ๋องหมิงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือและกระแทกปิดประตูเสียงดังลั่น พร้อมกับตะโกนสั่งองครักษ์คนสนิท "อย่าให้ผู้ใดมารบกวน!" เหลยคังที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยินเสียงดังโครมคราม เสียงของกระแทกบ้าง เสียงของแตกบ้างดังมาจากข้างในห้องอยู่เป็นระยะ ท่านอ๋องคงจะระบายอารมณ์อยู่เป็นแน่ ไม่ได้เห็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0009

    เพ่ยเพ่ยตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวจากฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไปเมื่อวาน นางยังคงนั่งหลับตาอยู่บนเตียงด้วยความง่วงเต็มเปี่ยม เพ่ยเพ่ยตื่นได้สักพักแล้วเพราะชิงชิงเข้ามาปลุกก่อนหน้านี้ หากปล่อยให้นางตื่นเองอย่างไรก็คงไม่มีมีทางเป็นไปได้แน่ "คุณหนูรับน้ำชาสักหน่อยไหมเจ้าคะ จะได้สดชื่นขึ้นเจ้าค่ะ" ชิงชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0010

    อ๋องหมิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮ่องเต้ฟังอย่างไม่ปิดบังใดๆ ฮ่องเต้โมโหเป็นอย่างมากพาลไม่ชอบฝูเหวินมากขึ้นไปอีก "จะอย่างไรเจิ้นก็ไม่มีทางยอมให้ฝูเหวินขึ้นเป็นพระชายาเอกของเจ้าแน่นอน ถึงแม้จะไม่มีคุณหนูหยาง เจิ้นก็จะหาชายาใหม่มาแต่งให้เจ้า เจ้าอย่าได้คิดยกฝูเหวินขึ้นมาแทนที่นาง เจิ้นไม่เห็นความเหมาะสมใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0011

    เพ่ยเพ่ยได้หนังสือแพทย์ที่น่าสนใจมาสี่ห้าเล่มและเข็มเงินอีกหนึ่งชุด นางเคยศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์แพทย์แผนจีนและการฝังเข็มมาบ้างในชาติที่แล้ว ชาตินี้นางคงต้องรื้อฟื้นความจำ ปัดฝุ่นความรู้เก่าและศึกษาเพิ่มเติมสักเล็กน้อย เพ่ยเพ่ยรีบพาชิงชิงแอบกลับเข้าตำหนักทางประตูด้านหลัง ครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้ใครจับไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0111

    -จวนตระกูลหยาง- "มากันแล้ว มากันแล้วขอรับ!" เสียงพ่อบ้านทั้งวิ่งทั้งตะโกนเรียกทุกคนในเรือนไปพร้อมๆ กัน ทุกคนวางมือจากงานที่ทำอยู่อย่างลนลานก่อนจะรีบไปรวมตัวกันที่หน้าประตูจวนเพื่อนต้อนรับอ๋องหมิงและพระชายา ระหว่างเดินทางอ๋องหมิงให้ม้าเร็วมาแจ้งตระกูลหยางล่วงหน้าแล้วว่าเขากำลังพาเพ่ยเพ่ยกลับมาชางห

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0110

    เพ่ยเพ่ยมองทั้งสามและพิจารณาถึงสิ่งที่อี้ซินบอก ใช่แล้ว คนเคร่งขรึมหน้าตาไร้อารมณ์เช่นเขาความจริงแล้วไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนอยากเล่นด้วยเลยต่างหาก อาจเป็นเพราะสัมพันธ์พ่อลูกที่ตัดอย่างไรก็ไม่ขาดกระมัง เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลารับสำรับเย็น ไม่น่าเชื่อว่า อาหารพื้นๆ ในเรือนหลังไม่ใหญ่แต่อาหารมื้อนี้สำหรับ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0109

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ เมื่อไหร่จะตื่นเสียที พวกเรารอตั้งนานแล้วนะ" เด็กทั้งสองเคาะประตูอยู่หน้าห้องไม่หยุด อี้ซินมีสีหน้าซีดเผือด นางพยายามห้ามนายน้อยและคุณหนูอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สองแฝดผู้เอาแต่ใจก็หาได้ฟังใครไม่ หลังจากที่รอบิดากับมารดามาตั้งแต่เช้า กระทั่งพวกเขารับสำรับเช้าเสร็จแล้วแต่ท่านพ่อท่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0108

    "เมื่อกี้เจ้าจูบข้าก่อน" อ๋องหมิงมองเพ่ยเพ่ยพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้น หัวใจกระตุกเพราะนางไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ทุกครั้งมีเพียงเขาที่เป็นฝ่ายจูบนางก่อนและเกือบทุกครั้งคือการบังคับให้นางต้องรับจูบจากเขา "ใช่เพคะ มิได้หรือ" "ทำไมจะมิได้ เปิ่นหวางชอบ" เพ่ยเพ่ยมอบจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากของเขาอีกครั

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0107

    "แล้วหม่อมฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าหม่อมฉันพูดอันใดไปบ้าง ท่านอ๋องก็บอกหม่อมฉันสิเพคะ" "เจ้าจับหน้าเปิ่นหวาง เรียกข้าว่าอ้ปป้าแล้วยังบอกว่าหากได้จูบอ้ปป้าสักครั้งจะตั้งใจทำงาน" "หา! หม่อมฉันเนี่ยนะเพคะกล่าวเช่นนั้นออกมา" แต่ภาษาวัยรุ่นแบบนั้น ไม่ใช่แกแล้วเขาจะคิดเองได้หรือไงเล่ายัยบ้า เมื่อคิดได้เช่

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0106

    "เจ้าพูดอะไรของเจ้า ยิ่งฟังเจ้าข้าก็ยิ่งงง ท่านอ๋องเคยไปรังแกเจ้าด้วยรึ" "หึ เจ้าอยากโดนรุมซ้อมดูบ้างไหมล่ะ คนของเขาเท้าหนักๆ กันทั้งนั้น เพราะอารมณ์หึงหวงอย่างมิมีเหตุผลของเขาอย่างไรล่ะ" อย่าให้เขาบรรยายเลย บุรุษยุคนี้ หน้าใหญ่ใจโต ถือว่าตนมีอำนาจก็ไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น กดทุกคนให้อยู่ต่ำหมดไม่ว่า

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0105

    อ๋องหมิงได้ยินดังนั้นก็หันขวับไปจ้องหน้าเพ่ยเพ่ย แขนแกร่งทั้งสองข้างจับข้อมือเล็กของนางแน่น แล้วดึงมือนางที่จับกุมใบหน้าของตนออก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธแต่กลับแอบแฝงความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ เขายังจำได้ เมื่อครั้งที่เห็นนางเมาในคราแรกแล้วเพ้อถึงแต่อ้ปป้านั่น แค่คิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาเขาก็แ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0104

    อันที่จริงเรือนเหมยฮวาก็ไม่ได้ไกลอะไร แต่เพ่ยเพ่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธนายหญิงหลิว เพราะหากไม่รับปากนาง นางก็จะคะยั้นคะยอไม่เลิก เพ่ยเพ่ยเองก็ชินกับนิสัยนายหญิงหลิวแล้ว นางชอบเวลาที่ลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อ๋องหมิงต้องยอมรับว่าเหล้าโซจูที่หลินเฟิงอี้นำมานั้นค่อนข้างแรง ดื่มไปเพียงนิดก็แสบไปทั้งลำคอ

  • ชายาข้ามภพ   บทที่ 0103

    "เฟิงอี้ หวังว่าเจ้าคงจะไม่ลืมที่เคยสัญญาเอาไว้เมื่อคราวก่อน" "ย่อมไม่ลืม" หลินเฟิงอี้กระดิกนิ้วเรียกให้บ่าวคนสนิทนำไหเหล้าเข้ามา "ตามที่ขอ ข้าหมักเองกับมือ นี่โซจูตามสูตรที่ได้มาจากโชซอนเลยนะ" "ว๊าว อ้ปป้า เยี่ยมสุดๆ ไปเลย ข้าขอคารวะ หากรู้มาก่อนว่าเจ้าจะมาวันนี้ ข้าคงทำกิมจิไว้รอแล้ว" เพ่ยเพ่

DMCA.com Protection Status