หน้าหลัก / รักโบราณ / ชะตารักฮูหยินจำเป็น / ตอนที่ 2 ช่วยเหลือคนปริศนา

แชร์

ตอนที่ 2 ช่วยเหลือคนปริศนา

ผู้เขียน: Shine-Month
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 15:35:56

   เป็นประจำทุกปีที่เซียวเหม่ยอิงจะขึ้นวัดไปจำศีลภาวนาเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเพื่อระลึกถึงฮูหยินผู้เฒ่าประจำตระกูลเซียวที่ได้เสียไป

   สมัยที่ฮูหยินผู้เฒ่ายังมีชีวิต เซียวเหม่ยอิงจะสนิทสนมกับท่านย่าของตัวเองเป็นอย่างมาก จนบ่อยครั้งที่เซียวลี่หงออกอาการแง่งอนท่านย่าของตัวเองเพราะคิดว่าท่านย่านั้นลำเอียง รักพี่สาวมากกว่าตน เป็นเหตุให้มารดาต้องคอยเอาอกเอาใจเพื่อไม่ให้บุตรสาวคนเล็กนั้นน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะสมัยที่เซียวลี่หงยังเป็นเด็กเล็กนั้น นางมีร่างกายอ่อนแอและล้มป่วยบ่อย เซียวฟู่จินและฟางเหนียงจึงเอาใจใส่เซียวลี่หงเป็นพิเศษ ทำให้เซียวเย่หรือฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนดูแลเซียวเหม่ยอิงมาโดยตลอด เซียวเหม่ยอิงเลยสนิทกับฮูหยินผู้เฒ่ามากกว่าบิดามารดาของตัวเอง

   พอเซียวเหม่ยอิงไปถึงวัดแล้ว ก็สวดมนต์ภาวนาและทำความสะอาดตามปกติอย่างที่เคยทำ จนถึงยามดึกเป็นเวลาเข้านอน เซียวเหม่ยอิงมองดูพระจันทร์ที่กำลังส่องแสงยามค่ำคืน ใบหน้าเรียวงาม จมูกงามเข้ากับใบหน้า ผมดำยาวสลวยที่ปล่อยให้ยาวเต็มแผ่นหลังเพื่อให้ลี่จินหวีผมได้อย่างสะดวก

   ขณะที่กำลังมองดูพระจันทร์อย่างเหม่อลอยอยู่นั้น กลับได้ยินเสียงบางอย่างดังไม่ไกลจากเรือนที่พวกนางพัก

“เสียงอะไร?” พูดจบเซียวเหม่ยอิงก็ลุกขึ้นยืนและรีบเดินออกไปจากห้องทันทีโดยมีลี่จินรีบเดินตามอยู่ไม่ห่าง

“คุณหนูใหญ่ ท่านอย่าไปนะเจ้าคะ”

ลี่จินถือวิสาสะจับแขนเซียวเหม่ยอิงเพื่อไม่ให้คุณหนูของตัวเองออกไปข้างนอกยามนี้ เพราะมันอันตรายเป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อข้า”

“แต่...ว่า”

“ลี่จินเชื่อข้า เจ้าไปหาพวกยาที่อยู่ในเรือนของเราด้วยว่ามีหรือไม่ แล้วเจ้าค่อยตามข้าไป”

   ลี่จินเห็นแววตามุ่งมั่นจากนายของตนก็ได้แต่ยอมทำตามอย่างจำยอมแม้ว่าจะไม่เต็มใจเท่าใดนัก เซียวเหม่ยอิงเดินไปไม่ใกล้ไม่ไกลจากเรือนที่พักของตัวเอง เพื่อยืนรอลี่จินที่กำลังหาของที่ตนสั่ง ยังดีที่วันนี้พระจันทร์เต็มดวงทำให้มองเห็นรอบ ๆ โดยง่าย

   ความจริงแล้วเซียวเหม่ยอิงนั้นเป็นคนมีวรยุทธในระดับหนึ่ง แม้ไม่ถึงขั้นเก่งกาจแต่การได้ยินและเรื่องกลิ่นนั้นค่อนข้างดี เพราะท่านย่าของนางได้ให้คนมาช่วยฝึกฝนสมัยที่นางยังเป็นเด็กเล็ก

   ทว่าเซียวเหม่ยอิงนั้นต้องแอบฝึกวรยุทธ เพราะเกรงว่าหากบิดามารดารับรู้เรื่องนี้คงไม่ยินยอม แล้วต้องให้นางเลิกฝึกวรยุทธเป็นแน่ เพราะยามนั้นเซียวลี่หงเป็นเด็กที่ล้มป่วยบ่อย ร่างกายไม่แข็งแรง แม้แต่เซียวเหม่ยอิงจะไปสำนักเพื่อเล่าเรียนยังไปไม่ได้ เนื่องจากเซียวฟู่จินและฟางเหนียงเกรงว่าบุตรสาวคนเล็กจะตรอมใจที่ไม่แข็งแรงเช่นพี่สาวตน ทำให้ไปไหนมาไหนเช่นคนอื่นไม่ได้ ต้องได้นอนติดเตียงกินยาต้มเป็นหม้อเพื่อรักษาร่างกาย 

   เวลาที่เซียวเหม่ยอิงไปข้างนอกนั้น เซียวลี่หงจะร้องไห้ฟูมฟาย น้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง เซียวฟู่จินและฟางเหนียงจึงตัดสินใจให้เซียวเหม่ยอิงยังไม่ต้องไปเล่าเรียนที่สำนักหรือเรียนรู้งานเย็บปักถักร้อยเช่นบุตรคนอื่น

   แต่โชคก็ยังเข้าข้างเซียวเหม่ยอิง เพราะตอนที่บิดามารดาเอาใจใส่เซียวลี่หงนั้น ได้ปล่อยปละละเลยนาง ฮูหยินผู้เฒ่าได้ดูแลเซียวเหม่ยอิงแทน และได้แอบให้คนมาสอนวรยุทธต่าง ๆ ให้ พร้อมทั้งช่วยปิดบังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

   ตอนที่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองดูพระจันทร์นั้น นางได้ยินเสียงคนต่อสู้กันดังแว่วมาตามสายลมแล้ว แต่นางไม่ได้สนใจอะไรเพราะเสียงนั้นค่อนข้างอยู่ไกลจากที่พักของนาง แต่เหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะเสียงต่อสู้กันเหมือนจะใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เซียวเหม่ยอิงฟังเสียงนั้นอย่างตั้งใจจนกระทั่งเสียงต่อสู้นั้นได้เงียบไป

หลังจากที่ลี่จินเข้าไปหาของตามที่คุณหนูของตัวเองสั่ง ก็ได้รีบเดินตามมาทันที

“มีหรือไม่”

“พอมีเจ้าค่ะ” ลี่จินนำของที่หามาได้เผยให้เห็น

  ยาที่ลี่จินนำมานั้นเป็นยาที่มีอยู่ในเรือนที่พวกนางพักปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว จึงเป็นยาที่ใช้สำหรับรักษาตัวเองเบื้องต้นยามเจ็บไข้ได้ป่วยกะทันหัน เซียวเหม่ยอิงกวาดตามองก็พยักหน้าอย่างพอใจ

“แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

ทั้งสองคนพากันเดินไปยังบริเวณป่าที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าใดนัก สายตาของเซียวเหม่ยอิงสอดส่องดูรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

“ตรงนี้แหละ” เซียวเหม่ยอิงที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา

“ลี่จิน ข้าขอห่อยาหน่อย”

ได้ยินอย่างนั้นลี่จินก็รีบยื่นห่อยาให้คุณหนูตัวเองทันที หลังจากที่เซียวเหม่ยอิงได้รับห่อยาแล้ว นางก็โยนห่อยาเข้าไปในป่าในความมืดมิด

“กลับกันเถิด”

ลี่จินได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรในตอนนี้เพราะค่อนข้างดึกแล้ว นางได้แต่รีบตามเซียวเหม่ยอิงกลับที่พักของตนเอง พอกลับถึงที่พักแล้ว ลี่จินก็รีบปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนาแล้วรีบมายืนใกล้ ๆ กับคุณหนูของตัวเอง หลังรู้สึกว่าปลอดภัยดีแล้วจึงได้เอ่ยถามคุณหนูของนาง

“คุณหนูใหญ่ โยนห่อยาให้ใครหรือเจ้าคะ”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”

"..."

 ลี่จินถึงกับกุมขมับ คุณหนูตัวเองถึงกับเสี่ยงอันตรายออกไปข้างนอกยามดึกดื่น เพียงแค่ต้องการโยนห่อยาให้คนที่ไม่รู้จักแค่นั้นหรอกหรือ

“คุณหนูใหญ่ หากคนนั้นเป็นคนไม่ดีเล่าเจ้าคะ พวกเราจะเป็นอย่างไร”

“ก็แค่ตาย แต่ถ้าหากโชคดีหน่อย เราก็บาดเจ็บแค่นั้น”

   เซียวเหม่ยอิงพูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนทันที ทิ้งไว้เพียงแต่ลี่จินที่ยังขนลุกกับคำพูดที่ไม่ยี่หระกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เหตุใดคุณหนูของนางถึงได้เอ่ยวาจาที่น่ากลัวด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยเช่นนี้กัน!

   หลังจากที่เข้านอนกันแล้ว เซียวเหม่ยอิงได้ครุ่นคิดกับสิ่งที่ตนทำไป จริงอย่างที่ลี่จินพูด หากคนนั้นเป็นอันตรายต่อพวกนางจริง เขาก็คงทำร้ายตั้งแต่ที่พวกนางเดินเข้าไปใกล้แล้ว

แต่จะให้นางทนดมกลิ่นเลือดที่ลอยมาตามสายลมก็ไม่ได้ อย่างน้อย ๆ นำยาไปให้ก็คงจะบรรเทากลิ่นเลือดไม่มากก็น้อย

   อีกอย่างเซียวเหม่ยอิงเองนางก็ไม่ได้ประมาทแต่อย่างใด หากเกิดอันตรายขึ้นจริง นางก็มีของที่ใช้สำหรับป้องกันตัวติดกายอยู่เสมอนั่นก็คือ กำไลที่นางสวมใส่ตลอดเวลา ของสิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงกำไลธรรมดาเท่านั้น เพราะเป็นกำไลที่มีกลไกพิเศษ หากนางกดปุ่มเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ จะมีเข็มพิษออกมาจากกำไล ของชิ้นนี้เป็นของขวัญจากอาจารย์ที่ฝึกวรยุทธให้กับนางเพื่อเอาไว้ให้นางป้องกันตัวนั่นเอง

   คล้อยหลังที่เซียวเหม่ยอิงและลี่จินเดินจากไป ในมุมมืดจุดที่เซียวเหม่ยอิงได้โยนห่อยาไปนั้น ก็ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งที่เดินออกมาแล้วก้มลงไปหยิบห่อยานั้น แล้วมองไปยังจุดที่เซียวเหม่ยอิงเดินจากไปด้วยสายตาที่ล้ำลึก

“วันเวลาเปลี่ยนแต่เหตุใดนางถึงยังกระทำการโง่งมไม่เคยเปลี่ยน”

แต่ยังไม่ทันไรก็มีกลุ่มลึกลับกลุ่มหนึ่งมาคุกเข่าต่อหน้าชายผู้นั้น

“ขออภัยนายท่าน เป็นเพราะพวกเราประมาทเกินไปทำให้นายท่านต้องได้รับบาดเจ็บเช่นนี้”

“เป็นเช่นไร” ชายที่บาดเจ็บเอ่ยถามคนที่เพิ่งมาถึง

“พวกข้าจับตัวไม่ทัน พวกนั้นชิงกินยาพิษไปเสียก่อนขอรับ”

   พวกเขากล้าพูดได้เลยว่า พวกนั้นเป็นนักฆ่าฝีมือดี เพราะชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ กลุ่มคนเหล่านั้นต้องพากันตกใจ เพราะคนที่พวกเขาเรียกว่านายท่านกำลังกระอักเลือดออกมา

“นายท่านโดนพิษ!”

“รีบพานายท่านกลับไปเดี๋ยวนี้!”

   คนกลุ่มนั้นรีบพากันประคองตัวนายท่านเพื่อไปรักษาตัวอย่างเร่งด่วน เพราะนายท่านของพวกเขานั้นโดนพิษ ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพิษที่โดนนั้นอันตรายมากน้อยเพียงใด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือยาถอนพิษนั้นจะมีหรือไม่ เพราะหากเป็นพิษร้ายคงยากที่จะแก้ จากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง แต่ใครจะไปรู้ว่าเซียวเหม่ยอิงนั้นได้ช่วยชีวิตคนที่จะเปลี่ยนชะตากรรมชีวิตของนางไว้เรียบร้อยแล้ว

   ตั้งแต่ที่เซียวเหม่ยอิงกลับมาจากวัดก็เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์แล้ว หลี่ซื่อหมินก็ไม่มาหานางอย่างเช่นเคย เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะการหมั้นหมายของพวกเขาทั้งสองคนนั้นเป็นเพราะผู้ใหญ่จัดการเองทั้งสองฝ่าย

“ช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องของคุณหนูใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ”

ลี่จินเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังรินชาให้คุณหนูของตัวเอง

“คนในตลาดพูดกันว่าคุณชายหลี่ชื่นชอบคุณหนูเล็ก พวกเขาเห็นทั้งสองคนหยอกล้อกันดูท่าทางสนิทสนม ตอนที่ไปเดินซื้อของในตลาด”

“ใคร ๆ ก็เอ็นดูน้องสาวข้าอยู่แล้ว นางช่างพูดช่างเจรจา”

“แต่ว่า...คุณชายหลี่เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับคุณหนูใหญ่นะเจ้าคะ”

“ช่างเถิดลี่จิน ผู้คนย่อมชื่นชอบข่าวลือกันอยู่แล้ว เจ้าเอาเครื่องประดับที่พ่อค้าส่งมาวันนั้น นำมาให้ข้าดูดีกว่า ข้าจะได้เลือกใส่ไปงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้”

ลี่จินพยักหน้ารับคำสั่ง จากนั้นก็ปลีกตัวไปหยิบเครื่องประดับที่เพิ่งได้มาให้เซียวเหม่ยอิงเลือกใส่ในงานเลี้ยงพรุ่งนี้

   ขณะที่เซียวเหม่ยอิงกำลังเลือกเครื่องประดับ ใจก็คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น หลังจากผ่านคืนนั้นมา ตอนเช้าเซียวเหม่ยอิงก็ได้เดินกลับไปในจุดเดิม ก็พบกับรอยเลือดแห้งกรังบนใบไม้แต่ไม่พบตัวคนบาดเจ็บหรือศพอยู่บริเวณนั้น แสดงว่าคงไม่เป็นอะไรมาก นางก็พอจะเบาใจได้ว่าอย่างน้อยคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นไม่ถึงขั้นเสียชีวิต

เช้าวันใหม่ จวนตระกูลเซียว

   ตอนนี้ทั้งสามคนกำลังนั่งรอใครบางคนที่กำลังแต่งตัวอยู่ด้วยท่าทีสงบ ไม่กี่อึดใจก็ปรากฏสตรีที่มาในชุดสีชมพูอ่อนทำให้คนที่ใส่ดูบริสุทธิ์และอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิม

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ” เสียงไพเราะราวดนตรีเอ่ยทักคนที่นั่งจิบชารอตน

“หงเอ๋อร์ของแม่ วันนี้เจ้างดงามมากจริง ๆ” ฟางเหนียงชมบุตรสาวคนเล็กของตัวเองที่เพิ่งมาถึงด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ไม่ต่างจากคนที่ถูกชมที่ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

"วันนี้ท่านแม่เองก็งดงามมากเจ้าค่ะ"

ทั้งสองคนแม่ลูกปิดปากหัวเราะกันอย่างชอบใจ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นพี่สาวของตนเองที่นั่งจิบชาอยู่เงียบ ๆ

“เอ๊ะ! พี่ใหญ่ ท่านใส่เครื่องประดับหรูหราเกินไปหรือไม่เจ้าคะ พวกเราไปแค่งานเลี้ยงฉลองชนะศึกเอง เหตุใดท่านถึงได้สวมเครื่องประดับหรูหราถึงเพียงนี้”  คิ้วงามของเซียวลี่หงขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยกับการแต่งการของพี่สาวตัวเอง ทว่าเซียวเหม่ยอิงยกยิ้มมุมปากเท่านั้นไม่ได้คำถามของน้องสาวตนเองแต่อย่างใด

“ไปกันเถิดประเดี๋ยวจะไปงานเลี้ยงสาย” เซียวฟู่ซินลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำหน้าทุกคนไป ทำให้คนอื่นๆต้องเดินตามหลังประมุขของตระกูลไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 3 ฉลองชัยชนะ

    ณ พระราชวัง รถม้าตระกูลเซียวสองคันที่ตามกันมาติด ๆ เซียวฟู่ซินกับฟางเหนียงนั่งรถม้าไปด้วยกัน ส่วนอีกคันก็จะเป็นเซียวเหม่ยอิงและเซียวลี่หงนั่งคู่กันมา ทันทีที่รถม้าทั้งสองคันจอด สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมองดูบุคคลที่กำลังจะก้าวลงมาจากรถม้าของตระกูลเซียว คันแรกเป็นเซียวฟู่ซินและฮูหยินของตัวเองที่ลงมาก่อน หลายสายตาจึงจ้องมองดูคันที่สองทันที เพราะเป็นคันที่ได้ขึ้นชื่อว่าสตรีงดงามที่สุดในเมืองหลวงนั่งมา คนแรกก้าวลงมาโดยมีสาวใช้ประคองรอรับอยู่ด้านนอก สายตาบุรุษหลายคนก็พร่ามัวด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มเขินอาย ทำให้ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องน่าทะนุถนอม ยิ่งใส่ชุดสีชมพูอ่อนยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของนางดูใสซื่อยิ่งขึ้นไปอีก เซียวลี่หงหลบสายตาหลายคนที่มองมาด้วยใบหน้าที่เขินอายแล้วค่อย ๆ เดินไปหาบิดามารดาที่ยืนรอนางอยู่ แต่สายตาในงานที่จ้องมองดูเซียวลี่หงกลับต้องพากันเปลี่ยนจุดมองเมื่อมีอีกคนกำลังก้าวลงมาจากรถม้าของตระกูลเซียว ทำเอาเหล่าบุรุษแทบพากันหยุดหายใจ หากเซียวลี่หงงดงามดั่งบุปผาที่น่าทะนุถนอมแล้ว แต่คนที่กำลังก้าวลงมานั้นงดงามอย่างหาได้ยากยิ่ง ดรุณีที่อยู่ในชุดสีขาวปักด้วยด้วยดอกไม้สีน้ำเงินยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 4 หวงหยางหมิง

    จวนท่านแม่ทัพหวงหยางหมิง หลังจากที่หวงหยางหมิงกลับมาถึงจวนของตัวเอง เขาก็ให้คนไปเตรียมของเพื่อที่จะอาบน้ำชำระร่างกายทันที จวนหลังนี้เป็นจวนพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ ตอนที่เขาได้ขึ้นเป็นแม่ทัพพอได้จวนนี้มา หวงหยางหมิงก็ย้ายออกมาจากจวนหลักทันที เพราะเดิมทีหวงหยางหมิงเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่จวนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่ที่มารดาของตัวเองเสียชีวิตไป จวนที่มากไปด้วยเล่ห์อุบายของผู้คนในนั้น หวงหยางหมิงสะอิดสะเอียดเกินทน หากให้เขาทนอยู่ในนั้น หวงหยางหมิงเกรงว่าคงได้ฆ่าคนในจวนนั้นหมดอย่างแน่นอน จวนที่ได้รับพระราชทานนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเรือนใหญ่และเรือนเล็กแบ่งเป็นสัดส่วน เรือนที่หวงหยางหมิงพักนั้นมีชื่อว่าเรือนจันทรา เป็นเรือนใหญ่ที่สุดและเขาเองก็ชื่นชอบที่สุดด้วย เพราะด้านหลังเรือนนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เอาไว้ให้เขาได้อาบน้ำชำระร่างกาย สระน้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นไผ่เขียวและดอกไม้นานาพรรณ ทำให้สระนี้งดงามเป็นอย่างมาก ที่เด่นชัดเลยในยามค่ำคืน พระจันทร์จะสาดส่องลงมากระทบเป็นเงากับสระน้ำนี้พอดี ทำให้คนที่พบเห็นนั้นเกิดความสบายใจ หวงหยางหมิงเลยตั้งชื่อเรือนจันทรานี้ด้วยตนเอง ร่างกำยำค่อย ๆ ปลดเสื้อผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 5 ราชโองการ

    กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีพระราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน"ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...เซียวฟู่ซินนั้นดำรงตำแหน่งด้วยความชอบธรรม ทั้งยังสั่งสอนบุตรสาวทั้งสองคนให้รู้จักทำความดี มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้อื่น มีคุณสมบัติครบถ้วนในสิ่งที่สตรีพึงมี ข้าขอมอบสมรสพระราชทานแก่บุตรสาวของตระกูลเซียวกับแม่ทัพหวงหยางหมิงนับจากนี้อีกสามเดือน จบราชโองการ" หลังจากที่กงกงอ่านพระราชโองการจบแล้ว เซียวฟู่ซินก็ยื่นมือไปรับพระราชโองการด้วยใบหน้าที่แข็งค้างกับเนื้อหาในพระราชโองการที่องค์ฮ่องเต้มอบให้ตน “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี” หลังจากที่กงกงมอบราชโองการให้แล้วเสร็จก็เดินขึ้นรถม้ากลับวังหลวงทันที เพราะภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายมาได้บรรลุเรียบร้อยแล้ว คล้อยหลังกงกงจากไป เซียวลี่หงทรุดลงกับพื้นทันที ดวงตางามเก็บน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้ยินราชโองการ นางเอื้อมมือไปจับแขนมารดาตัวเองที่ยืนอยู่ข้างๆ“ท่าน.... ทะ ท่านแม่” น้ำเสียงสั่นปนสะอื้นฟางเหนียงรีบโอบกอดบุตรสาวทันที บุตรสาวที่น่ารักของนางเหตุใดถึงน่าสงสารถึงเพียงนี้“โถ่...ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 6 ตัดสินใจ

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราชโองการไม่ได้ระบุว่าเป็นเซียวเหม่ยอิงหรือเซียวลี่หง แต่ผู้ใดต่างก็รู้ดีว่าคนที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงคือเซียวลี่หง เพราะเซียวเหม่ยอิงนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านยอมให้ข้าแต่งกับชายผู้นั้นจริงหรือเจ้าคะ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ หากอัปลักษณ์อย่างที่ผู้อื่นบอก ข้า...ข้า” เซียวลี่หงเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางตัดพ้ออย่างน่าสงสารเหตุการณ์ที่เหมือนจะสงบลง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เซียวลี่หงดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่มวยผมมาจี้คอตัวเองด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว“หากท่านพ่อท่านแม่ให้ข้าไปแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจอัปลักษณ์นั่น ข้าขอฆ่าตัวตายตอนนี้เสียดีกว่า!”เซียวลี่หงตัดสินใจแล้ว หากให้นางออกเรือนกับชายที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 7 จัดเตรียม

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นได้แต่ปลอบสาวใช้ตนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เป็นแบบนี้ดีแล้วลี่จิน...” ใช่... แบบนี้น่ะดีแล้ว นางคิดแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ครอบครัวไม่ต้องโทษข้อหาเป็นกบฏ อีกอย่างแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ความโหดเหี้ยมที่ผู้คนเล่าลือก็มาจากสนามรบทั้งนั้น ที่หวงหยางหมิงทำไปทั้งหมดเพราะต้องปกป้องบ้านเมือง เซียวเหม่ยอิงนั่งหลับตาคิดถึงเรื่องราวตอนที่นางเอ่ยปากขอบิดามารดาแต่งงานด้วยตนเอง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเองเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็พากันตกตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน เซียวเหม่ยอิงจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะว่าหลี่ซื่อหมินได้มาถอนหมั้นกับนางแล้ว ในเมื่อเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 8 แต่งงาน

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อาจรับรู้ได้ว่าจวนของท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรเขาจะดีกับนางเหมือนอย่างที่เขาให้สัญญาในวันนั้นได้หรือไม่'ข้าให้สัญญาในฐานะแม่ทัพ ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า และไม่บังคับจิตใจเจ้าเช่นกัน'คำพูดและสายตาจริงจังในวันนั้น เซียวเหม่ยอิงยังจดจำได้ดีร่างงามเดินออกจากเรือนตนเองไปยังเรือนใหญ่ เพื่อไปหามารดาของตนเอง พอเดินเข้าไปก็เห็นมารดาและน้องสาวของตนนั่งอยู่ด้วยกัน นางคารวะมารดาตนเอง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ“พรุ่งนี้ก็ได้แต่งงานแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่” ฟางเหนียงเอ่ยถามบุตรสาวตนเอง“ไม่เท่าใดเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยกยิ้มเล็กน้อย ต่างจากเซียวลี่หงที่มีสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก“ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบเซียวลี่หงก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที“เฮ้อ สงสัยนางจะทำใจไม่ได้ที่เจ้าแต่งงานแบบนี้” ฟางเหนียงได้แต่ถอนหายใจกับการกระทำขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 9 เข้าหอ (NC18+)

    ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่กล้าสู้หน้าสามีตนเองในตอนนี้เพราะมันน่าอายเกินไป นางทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับร่างกาย เพราะตอนนี้นางรับรู้ได้ว่าบั้นท้ายของนางตอนนี้เหมือนกำลังถูไถกับอะไรบางอย่าง แม้เป็นสตรีในห้องหอ และไม่เคยเห็นภายในร่างกายของบุรุษแต่นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น ที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูไถกับบั้นท้ายของนางอยู่นั้นคือสิ่งใด เพราะตอนแต่งงานแม่สื่อก็ได้มอบหนังสือที่เกี่ยวกับหน้าที่ภรรยามาให้นางหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไรและในนั้นเองก็มีภาพวาดให้ดูเช่นกัน หวงหยางหมิงมองดูใบหูของเซียวเหม่ยอิงที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งไป เขาก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากเอวของนาง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาแขนตนนั้นพาดกับขอบสระแทน ทำให้เซียวเหม่ยอิงลดความเกร็งลงไปได้บ้าง เพราะความอุ่นของน้ำหรือความอุ่นของแผ่นอกที่อยู่หลังของนาง ทำให้เซียวเหม่ยอิงรู้สึกผ่อนคลายจนเอาหัวตัวเองพิงกับอกนั้นคล้ายกับว่าเป็นที่พักพิงอย่างไรอย่างนั้น แต่คนที่ตัวใหญ่กว่าตอนนั้นกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้เพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 10 บรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ยามใกล้รุ่งของวันใหม่เซียวเหม่ยอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากการหลับใหล แม้ว่าเมื่อคืนนางนอนเกือบใกล้ฟ้าสางก็ตาม อาจเป็นเพราะความเคยชินตอนอยู่ที่จวนเดิมทำให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชิน ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่นอนหันหน้ามาทางนาง ลมหายใจที่สม่ำเสมอหมายถึงกำลังหลับใหลอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังกอดนางไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจึงเริ่มพากันจุดคบเพลิงรอบเรือน แสงคบเพลิงที่ส่องสว่างภายนอกเรือนนั้นทำให้มีแสงแทรกเข้ามาภายใน จึงทำให้เซียวเหม่ยอิงได้เห็นใบหน้าที่ไร้หน้ากากปกปิดอีกครั้ง ขนตาที่เป็นแพราวกับสตรี จมูกโด่งสันเข้ากับปากหนา แต่ใบหน้าของนางต้องเห่อร้อนเมื่อเห็นร่องรอยตามร่างกายของสามีนาง คิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้านางยิ่งเห่อร้อนจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะความเขินอาย ทุกอย่างเป็นเพราะหวงหยางหมิงปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ ถึงได้เกิดร่องรอยพวกนี้“ฮูหยินใช้สายตาหลอกกินเต้าหู้กับข้าตั้งแต่รุ่งสางเลยรึ?” น้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งลืมตาตื่น ความจริงหวงหยางหมิงรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่คนในอ้อมกอดขยับร่างกายแล้ว เพราะสัญช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15

บทล่าสุด

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 14 ลงโทษ

    หวงหยางหมิงเดินทางมาถึงจวน ก็รีบไปยังศาลากลางสระที่เซียวเหม่ยอิงชอบไปนั่งเป็นประจำ พอไปถึงก็พบว่าฮูหยินของตัวเองหลับทั้ง ๆ ที่ยังนั่ง มือข้างหนึ่งเท้าใบหน้าตนเองไว้ โดยมีลี่จินยืนพัดให้ใกล้ ๆ เพื่อให้คุณหนูตัวเองนั้นหลับพักผ่อนสบายและไม่ร้อนเกินไป ลี่จินเห็นนายของจวนเดินเข้ามาใกล้ก็รีบก้มหัวและกำลังจะเอื้อมมือไปปลุกนายตัวเอง ทว่าหวงหยางหมิงยกมือห้ามเอาไว้ พร้อมกับยื่นมือไปรับพัดจากนางและสะบัดให้ลี่จินไปที่อื่นแทน คนโดนไล่นั้นยื่นพัดให้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง พร้อมกับรีบออกจากตรงที่นายของตนอยู่อย่างรวดเร็ว“ข้านึกว่าจะต้องไปตามเจ้าออกมาเหมือนอย่างเคยเสียแล้ว” น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายราวกับว่าตนต้องทำสิ่งที่เคยทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลี่จินมองดูคนที่ยืนกอดอกที่ทำเสียงเหนื่อยใจกับนางด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย นางนั้นคร้านจะใส่ใจ เลยแสร้งเดินหนีไปทางอื่น เพราะไม่อยากเดินผ่านคนที่ยืนกอดอกด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ ทว่าคนที่ถูกเมินนั้นถึงกับไปต่อไม่ถูก จางชิงรีบเดินไปขวางทางคนที่เดินหนีเขาทันที“เจ้าจะไปไหน?”ลี่จินมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่งุนงง นางไม่เข้าใจว่าจางชิงนั้นต้องการอะไรจากนาง ทั้ง ๆ ที

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 13 ความรู้สึกที่แตกต่าง

    “มานี่” หวงหยางหมิงเอ่ยเรียกฮูหยินของตนเองหลังจากที่กินเกี๊ยวน้ำหมดแล้ว“มีอะไรหรือเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงงุนงงเล็กน้อย นางกับเขานั่งห่างกันเพียงโต๊ะกั้นกลางเท่านั้น ใช่ว่าจะนั่งห่างไกลกันถึงขนาดจะคุยกันไม่รู้เรื่อง“มานี่ มาใกล้ ๆ” หวงหยางหมิงยังคงย้ำคำเดิมทำให้เซียวเหม่ยอิงต้องลุกเดินไปใกล้ ๆ ตามที่เขาต้องการ พอไปใกล้ตัวแล้วกลับเป็นหวงหยางหมิงดึงตัวให้เซียวเหม่ยอิงนั่งลงบนตักแกร่งของเขา แขนข้างหนึ่งของหวงหยางหมิงกอดเอวบางเอาไว้เพื่อไม่ให้คนบนตักร่วงหล่น ส่วนอีกข้างเอื้อมไปหยิบกล่องที่จางชิงนำมาให้ในตอนแรก เขาเปิดให้เซียวเหม่ยอิงเห็นว่าของที่อยู่ในนั้นคือสิ่งใด“นี่มัน...?” สิ่งที่อยู่ในกล่องคือกำไลวงหนึ่งดูประณีตและงดงาม“คราก่อน ข้าตรวจสอบดูกำไลเดิมของอิงเอ๋อร์เห็นว่าพิษที่อยู่ในนั้นเหมือนจะจางหายไปนานแล้ว ข้าเลยสั่งให้คนของข้าทำขึ้นมาให้ใหม่และใช้งานได้ดีกว่าเดิม กดปุ่มตรงนี้แล้วหมุนไปทางซ้ายจะเป็นเข็มพิษ หากหมุนทางขวาจะเป็นเข็มที่ทำให้ตัวชาประมาณครึ่งชั่วยาม” แววตาที่ดูตื่นเต้นราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่ เพราะการที่จะทำอาวุธลับขึ้นมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถทำได้ ต่อให้มีเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 12 สายใยที่เบาบาง

    เซียวเหม่ยอิงรับรู้ได้ว่าสามีของนางอารมณ์ไม่ดีเท่าใดนักตั้งแต่ที่กลับมาจากบ้านเดิมของนาง แม้ว่าหวงหยางหมิงไม่แสดงอารมณ์นั้นให้นางเห็นแต่ก็พอจะรับรู้ได้ นางเงยหน้ามองดูคนที่กำลังโอบกอดนาง แต่ใบหน้ากลับเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ท่านพี่” หวงหยางหมิงได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานเรียกตนก็ดึงสติตนเองกลับมา เขามองดวงหน้างามที่กำลังสบตากับเขา พลันรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนอดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวไปจูบริมฝีปากที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกจากภวังค์ คนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นได้แต่ทำใจให้ชิน เพราะสามีของนางชอบกินเต้าหู้ไม่เว้นวันเลยจริง ๆ หลังจากที่หวงหยางหมิงจูบจนสมใจอยากแล้ว ก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ มองใบหน้าภรรยาของตนก็เห็นว่ามีดวงหน้าที่แดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ภรรยาตัวน้อยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากจริง ๆ นิ้วยาวลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับตนให้คนเคียงข้างได้ฟัง“เพราะท่านพ่อเป็นขุนนางขั้นสูง ที่จวนข้าจึงมีฮูหยินเอก ฮูหยินรอง อนุและสาวใช้อุ่นเตียงเต็มจวน มีทั้งสตรีที่ได้มาจากราชโองการจากฮ่องเต้อย่างท่านแม่ข้าและความพึงพอใจของตัวท่านพ่อเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 11 กลับบ้านเดิม

    ยามเช้าที่เซียวเหม่ยอิงลืมตาตื่น นางรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไหร่นักเมื่อเห็นว่ามีบุรุษนอนอยู่ข้างกาย วันแรกที่อ้อมแขนเคยกอดนางไว้อย่างไร วันนี้ก็ยังคงกอดอยู่แบบนั้น แม้ไม่คุ้นชินแต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ขยับร่างกายออกจากอ้อมแขน เพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างกายที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจ วันนี้เป็นวันที่นางและสามีต้องกลับบ้านเดิมเพื่อไปยกน้ำชาให้กับบิดามารดาทำให้นางต้องตื่นมาแต่งตัวเสียก่อน นางพยายามประคับประคองร่างกายตนเองให้ลุกจากเตียงนอน ขณะที่กำลังจะเดินออกไปตามลี่จินให้มาช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวนั้น ร่างของนางกลับถูกรวบขึ้นจากพื้นเสียก่อน“ว้าย! ท่านพี่ ท่านทำอะไรเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าสามีของนางนั้นตื่นตั้งแต่ตอนไหน ซ้ำตอนนี้ยังรวบตัวนางขึ้นมาอีก จนนางต้องเอามือคล้องคอสามีตัวเองไว้เพราะทั้งตกใจและกลัวตก“จะทำอะไรงั้นรึ? ข้าก็จะอาบน้ำให้อิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า” มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นเล็กน้อย“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าให้ลี่จินอาบให้...”เซียวเหม่ยอิงยังพูดไม่จบ ก็โดนสามีที่เอาแต่ใจนั้นพูดแทรกขึ้นก่อน“ให้ผู้อื่นอาบให้ได้อย่างไร ข้าทำให้เจ้า

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 10 บรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ยามใกล้รุ่งของวันใหม่เซียวเหม่ยอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากการหลับใหล แม้ว่าเมื่อคืนนางนอนเกือบใกล้ฟ้าสางก็ตาม อาจเป็นเพราะความเคยชินตอนอยู่ที่จวนเดิมทำให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชิน ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่นอนหันหน้ามาทางนาง ลมหายใจที่สม่ำเสมอหมายถึงกำลังหลับใหลอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังกอดนางไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจึงเริ่มพากันจุดคบเพลิงรอบเรือน แสงคบเพลิงที่ส่องสว่างภายนอกเรือนนั้นทำให้มีแสงแทรกเข้ามาภายใน จึงทำให้เซียวเหม่ยอิงได้เห็นใบหน้าที่ไร้หน้ากากปกปิดอีกครั้ง ขนตาที่เป็นแพราวกับสตรี จมูกโด่งสันเข้ากับปากหนา แต่ใบหน้าของนางต้องเห่อร้อนเมื่อเห็นร่องรอยตามร่างกายของสามีนาง คิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้านางยิ่งเห่อร้อนจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะความเขินอาย ทุกอย่างเป็นเพราะหวงหยางหมิงปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ ถึงได้เกิดร่องรอยพวกนี้“ฮูหยินใช้สายตาหลอกกินเต้าหู้กับข้าตั้งแต่รุ่งสางเลยรึ?” น้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งลืมตาตื่น ความจริงหวงหยางหมิงรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่คนในอ้อมกอดขยับร่างกายแล้ว เพราะสัญช

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 9 เข้าหอ (NC18+)

    ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่กล้าสู้หน้าสามีตนเองในตอนนี้เพราะมันน่าอายเกินไป นางทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับร่างกาย เพราะตอนนี้นางรับรู้ได้ว่าบั้นท้ายของนางตอนนี้เหมือนกำลังถูไถกับอะไรบางอย่าง แม้เป็นสตรีในห้องหอ และไม่เคยเห็นภายในร่างกายของบุรุษแต่นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น ที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูไถกับบั้นท้ายของนางอยู่นั้นคือสิ่งใด เพราะตอนแต่งงานแม่สื่อก็ได้มอบหนังสือที่เกี่ยวกับหน้าที่ภรรยามาให้นางหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไรและในนั้นเองก็มีภาพวาดให้ดูเช่นกัน หวงหยางหมิงมองดูใบหูของเซียวเหม่ยอิงที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งไป เขาก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากเอวของนาง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาแขนตนนั้นพาดกับขอบสระแทน ทำให้เซียวเหม่ยอิงลดความเกร็งลงไปได้บ้าง เพราะความอุ่นของน้ำหรือความอุ่นของแผ่นอกที่อยู่หลังของนาง ทำให้เซียวเหม่ยอิงรู้สึกผ่อนคลายจนเอาหัวตัวเองพิงกับอกนั้นคล้ายกับว่าเป็นที่พักพิงอย่างไรอย่างนั้น แต่คนที่ตัวใหญ่กว่าตอนนั้นกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้เพราะ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 8 แต่งงาน

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อาจรับรู้ได้ว่าจวนของท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรเขาจะดีกับนางเหมือนอย่างที่เขาให้สัญญาในวันนั้นได้หรือไม่'ข้าให้สัญญาในฐานะแม่ทัพ ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า และไม่บังคับจิตใจเจ้าเช่นกัน'คำพูดและสายตาจริงจังในวันนั้น เซียวเหม่ยอิงยังจดจำได้ดีร่างงามเดินออกจากเรือนตนเองไปยังเรือนใหญ่ เพื่อไปหามารดาของตนเอง พอเดินเข้าไปก็เห็นมารดาและน้องสาวของตนนั่งอยู่ด้วยกัน นางคารวะมารดาตนเอง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ“พรุ่งนี้ก็ได้แต่งงานแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่” ฟางเหนียงเอ่ยถามบุตรสาวตนเอง“ไม่เท่าใดเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยกยิ้มเล็กน้อย ต่างจากเซียวลี่หงที่มีสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก“ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบเซียวลี่หงก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที“เฮ้อ สงสัยนางจะทำใจไม่ได้ที่เจ้าแต่งงานแบบนี้” ฟางเหนียงได้แต่ถอนหายใจกับการกระทำขอ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 7 จัดเตรียม

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นได้แต่ปลอบสาวใช้ตนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เป็นแบบนี้ดีแล้วลี่จิน...” ใช่... แบบนี้น่ะดีแล้ว นางคิดแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ครอบครัวไม่ต้องโทษข้อหาเป็นกบฏ อีกอย่างแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ความโหดเหี้ยมที่ผู้คนเล่าลือก็มาจากสนามรบทั้งนั้น ที่หวงหยางหมิงทำไปทั้งหมดเพราะต้องปกป้องบ้านเมือง เซียวเหม่ยอิงนั่งหลับตาคิดถึงเรื่องราวตอนที่นางเอ่ยปากขอบิดามารดาแต่งงานด้วยตนเอง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเองเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็พากันตกตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน เซียวเหม่ยอิงจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะว่าหลี่ซื่อหมินได้มาถอนหมั้นกับนางแล้ว ในเมื่อเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 6 ตัดสินใจ

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราชโองการไม่ได้ระบุว่าเป็นเซียวเหม่ยอิงหรือเซียวลี่หง แต่ผู้ใดต่างก็รู้ดีว่าคนที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงคือเซียวลี่หง เพราะเซียวเหม่ยอิงนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านยอมให้ข้าแต่งกับชายผู้นั้นจริงหรือเจ้าคะ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ หากอัปลักษณ์อย่างที่ผู้อื่นบอก ข้า...ข้า” เซียวลี่หงเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางตัดพ้ออย่างน่าสงสารเหตุการณ์ที่เหมือนจะสงบลง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เซียวลี่หงดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่มวยผมมาจี้คอตัวเองด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว“หากท่านพ่อท่านแม่ให้ข้าไปแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจอัปลักษณ์นั่น ข้าขอฆ่าตัวตายตอนนี้เสียดีกว่า!”เซียวลี่หงตัดสินใจแล้ว หากให้นางออกเรือนกับชายที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status