แชร์

ตอนที่ 5 ราชโองการ

ผู้เขียน: Shine-Month
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 16:48:13

กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีพระราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน

"ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...

เซียวฟู่ซินนั้นดำรงตำแหน่งด้วยความชอบธรรม ทั้งยังสั่งสอนบุตรสาวทั้งสองคนให้รู้จักทำความดี มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้อื่น มีคุณสมบัติครบถ้วนในสิ่งที่สตรีพึงมี ข้าขอมอบสมรสพระราชทานแก่บุตรสาวของตระกูลเซียวกับแม่ทัพหวงหยางหมิงนับจากนี้อีกสามเดือน จบราชโองการ"

   หลังจากที่กงกงอ่านพระราชโองการจบแล้ว เซียวฟู่ซินก็ยื่นมือไปรับพระราชโองการด้วยใบหน้าที่แข็งค้างกับเนื้อหาในพระราชโองการที่องค์ฮ่องเต้มอบให้ตน

  “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

   หลังจากที่กงกงมอบราชโองการให้แล้วเสร็จก็เดินขึ้นรถม้ากลับวังหลวงทันที เพราะภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายมาได้บรรลุเรียบร้อยแล้ว  คล้อยหลังกงกงจากไป เซียวลี่หงทรุดลงกับพื้นทันที ดวงตางามเก็บน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้ยินราชโองการ นางเอื้อมมือไปจับแขนมารดาตัวเองที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ท่าน.... ทะ ท่านแม่” น้ำเสียงสั่นปนสะอื้น

ฟางเหนียงรีบโอบกอดบุตรสาวทันที บุตรสาวที่น่ารักของนางเหตุใดถึงน่าสงสารถึงเพียงนี้

“โถ่...หงเอ๋อร์ของแม่” ฟางเหนียงปลอบบุตรสาวตนเองที่ร้องไห้สะอื้นซบอกนางอยู่

“ท่านแม่...ฮึกก ข้าจะต้องแต่งกับแม่ทัพปีศาจนั่นหรือเจ้าคะ” น้ำเสียงเว้าวอนมารดาตนเอง ฟางเหนียงยิ่งฟังยิ่งปวดใจ บุตรสาวที่บอบบางของนางต้องแต่งงานกับคนที่มีฉายาว่าปีศาจจะมีชีวิตอย่างไร จริงอยู่ที่อีกฝ่ายเป็นถึงแม่ทัพตำแหน่งใหญ่โต แต่ใครบ้างที่จะไม่หวาดกลัวผู้นั้น ฟางเหนียงหันไปถามสามีตนเองที่ยังยืนถือราชโองการแข็งค้างอยู่ที่เดิม

“ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ พระราชโองการนี้ท่านพี่รับรู้มาก่อนหรือไม่ แล้วเหตุใดองค์ฮ่องเต้ถึงได้พระราชทานให้กับบุตรสาวเรา” น้ำเสียงคล้ายน้อยเนื้อต่ำใจสามีตนเอง ยิ่งบุตรสาวของนางร้องไห้ปานขาดใจ คนเป็นแม่ก็ปวดใจไม่ต่างกัน

“ข้า ข้าก็ไม่รู้เรื่องสมรสพระราชทานเหมือนกัน” เซียวฟู่ซินเอ่ยอย่างเหม่อลอย

“ท่านพี่แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี หงเอ๋อร์ของเรา...”

“เข้าไปในเรือนกันก่อนเถิด”

สองสามีภรรยาช่วยกันประคับประคองเซียวลี่หงที่ยังร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่ที่ได้ยินราชโองการ ทั้งสามคนพากันเดินเข้าไปในเรือนใหญ่เพื่อปรึกษาหารือกันต่อไป

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ”

ลี่จินเรียกคุณหนูของตัวเองเบา ๆ เพราะตั้งแต่ที่เดินเข้ามาคุณหนูของนางยังไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว ได้แค่เพียงยืนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าเงียบ ๆ เท่านั้น

เซียวเหม่ยอิงได้ยินเสียงสาวใช้เรียกตนก็หันไปยิ้มให้เล็กน้อย

“ไปเตรียมอาหารเย็นกันเถิด” พูดจบเซียวเหม่ยอิงก็เดินไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ครอบครัวตนเองทานดั่งปกติเช่นทุกวัน

   แม้ว่าที่จวนจะมีแม่ครัวประจำไว้อยู่แล้ว แต่เซียวเหม่ยอิงชอบลงมือทำอาหารให้บิดามารดาตนเองมากกว่า เพราะนางรู้ว่าบิดามารดาของนางนั้นชอบกินอะไร รสชาติแบบไหน อีกอย่างอาหารที่ปรุงขึ้นด้วยความรักและความเอาใจใส่ นั้นดีกว่าคนที่ทำเพียงผ่าน ๆ ไปแต่ละครั้งอย่างแน่นอน

“คุณหนูใหญ่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่บ่าวเถิดนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวบ่าวจะตั้งใจทำให้สุดฝีมือเลยเจ้าค่ะ”

   หัวหน้าแม่ครัวยิ่งเห็นคุณหนูตัวเองทำยิ่งละอายใจ ก่อนที่จะมาอยู่จวนนี้นางก็เคยประจำที่อื่นมาก่อน ทว่านางไม่เคยเห็นคนชั้นสูงคนไหนเข้าครัวบ่อยขนาดนี้ หากจะเข้าครัวก็จะเป็นโอกาสสำคัญ ๆ เสียมากกว่า

“ไม่เป็นไร เจ้าไปเตรียมของให้ข้าดีกว่า เดี๋ยวตรงนี้ข้าทำเอง” เซียวเหม่ยอิงหันไปพูดกับแม่ครัวด้วยรอยยิ้มแล้วก็หันหน้ามาทำอาหารต่อ

“พวกเจ้าทำอาจจะไม่ถูกปากท่านพ่อท่านแม่ ข้าน่ะรู้ดีว่าพวกท่านทั้งสองคนชอบทานแบบไหน” เซียวเหม่ยอิงพูดไปทำไปอย่างตั้งอกตั้งใจ

   แม่ครัวเหล่านั้นเห็นก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกนางถูกปฏิเสธ คุณหนูของพวกนางลงมือทำเองเสมอ พวกนางนั้นได้เพียงแค่จัดเตรียมวัตถุดิบไว้ให้เท่านั้น

   หลังจากที่เซียวเหม่ยอิงทำอาหารเสร็จแล้ว นางก็ไปชำระร่างกายเพื่อเตรียมทานอาหารกับครอบครัวเพราะตัวนางมีแต่กลิ่นอาหารและควันไฟ ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่สาวใช้ที่จะเป็นคนจัดโต๊ะอาหารเย็น

เซียวเหม่ยอิงนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ไม่นานบิดามารดาก็เดินมาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

“หงเอ๋อร์ยังไม่มาหรือเจ้าคะ”

ฟางเหนียงส่ายหัวเป็นคำตอบ ตั้งแต่ที่ได้ยินราชโองการ เซียวลี่หงก็ร้องไห้ไม่หยุด แม้กลับเข้าเรือนแล้วก็ยังคงร้องไห้พร่ำเพ้อกับนางจนหลับไป ฟางเหนียงสงสารบุตรสาวตัวเองจับใจ บุตรสาวที่เปราะบางของนางคงเสียใจและหวาดกลัวไม่น้อย ที่จู่ ๆ ได้รับราชโองการเช่นนั้น ดรุณีน้อยที่สดใสในอดีตตอนนี้กำลังหม่นหมอง ยิ่งคิดก็อดซับน้ำตาที่หางตาตนเองไม่ได้

“เดี๋ยวข้าให้สาวใช้ยกสำรับไปที่เรือนหงเอ๋อร์ให้นะเจ้าคะ”

เซียวเหม่ยอิงเห็นท่าทางบิดามารดาก็ไม่ได้ซักไซ้ให้มากความ นางนั่งลงทานอาหารกับบิดามารดาเงียบ ๆ ทั้งสามคนทานอาหารกับบรรยากาศที่เงียบสงัด ฟางเหนียงกินได้เพียงคำเดียวก็วางตะเกียบลง

“ข้าขอตัวไปดูลูกก่อนนะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงนาง”

 พูดจบนางก็ลุกขึ้นเดินออกไปยังเรือนที่เซียวลี่หงอยู่ เซียวฟู่ซินเองก็รู้สึกไม่อยากอาหารเช่นกัน พูดกับเซียวเหม่ยอิงสองสามประโยคก็เดินไปห้องหนังสือตนเอง

โต๊ะอาหารตอนนี้จึงเหลือเพียงเซียวเหม่ยอิงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ลุกไปไหน ลี่จินเห็นคุณหนูตนเองกินข้าวคนเดียวก็อดน้ำตาคลอไม่ได้ อาหารยังเหลือเต็มโต๊ะเช่นเดิม ยิ่งเห็นลี่จินยิ่งน้ำตาซึม

สามวันผ่านไป ภายในจวนตระกูลเซียวยังคงเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงหัวเราะใด ๆ ตอนนี้ภายในเมืองข่าวลือเรื่องพระราชโองการสมรสของบุตรสาวตระกูลเซียวและแม่ทัพหวงหยางหมิงกระจายไปทั่วเมืองหลวง แม้ว่าผู้คนจะสงสัยเรื่องราชโองการที่ไม่ระบุตัวเจ้าสาวว่าเป็นผู้ใด แต่ผู้คนคิดว่าเป็นเซียวลี่หงคนน้องอย่างแน่นอน เพราะเซียวเหม่ยอิงคนพี่นั้นมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว

“น่าสงสารคุณหนูเล็กตระกูลเซียวเสียจริง นางเป็นเด็กดีถึงเพียงนี้แต่กลับได้แต่งกับคนผู้นั้น”

“นั่นสิ ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรของนาง ตอนเด็กก็ป่วยไม่สบาย พอหายดี ข้าก็เห็นนางทำบุญทำทานไม่ขาด”

“ใช่ นางสดใสถึงเพียงนี้อีกทั้งยังเปราะบาง แม้ว่าอีกคนจะเป็นถึงแม่ทัพ แต่ผู้ใดบ้างจะไม่รู้ถึงความโหดเหี้ยมของผู้นั้น เฮ้ออ ข้าสงสารคุณหนูเล็กเสียจริง”

   ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างพากันพูดคุยเรื่องนี้ไม่ขาดปาก ใครบ้างจะไม่สงสารเซียวลี่หง ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง เพราะตั้งแต่ได้รับพระราชโองการจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเห็นนางออกจากจวนแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่ยามปกติแล้วเซียวลี่หงมักออกมาทักทายผู้คนด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมทั้งแจกทานให้ผู้ยากไร้ตลอด

   ภายในจวนตระกูลเซียว

   ตอนนี้บรรยากาศภายในกำลังตึงเครียดเพราะจู่ ๆ เซียวลี่หงก็นำปิ่นปักผมมาจี้คอตัวเอง พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ทำให้ตอนนี้ผู้คนในจวนต่างพากันแตกตื่นกับการกระทำของเซียวลี่หงเป็นอย่างมาก

   ย้อนไปก่อนหน้านั้นราวสองเค่อ

   เซียวฟู่ซิน ฟางเหนียง และเซียวเหม่ยอิงทานอาหารเช้ากันปกติ วันนี้ก็เหมือนอย่างเช่นเคยที่เซียวลี่หงยังไม่ออกมาจากเรือนตนเอง ขณะที่ทั้งสามคนกำลังทานอาหารอย่างเงียบ ๆ กันอยู่นั้น เซียวลี่หงก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่อิดโรย ฟางเหนียงเห็นบุตรสาวคนเล็กเดินมาก็รีบลุกไปประคองทันที

   “หงเอ๋อร์ลูกแม่ มานั่งกินข้าวกันก่อนนะ” ฟางเหนียงประคองบุตรสาวตนมานั่งข้าง ๆ ตนเอง

   “กินอันนี้ดูสิ พี่เจ้าตั้งใจทำเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ” ฟางเหนียงตักอาหารให้บุตรสาวตนอย่างเอาอกเอาใจ เพราะไม่อยากให้บุตรสาวตนนั้นคิดมากเกินไป แต่เซียวลี่หงกลับไม่ยอมทานอาหารที่มารดาตนตักให้ นางมองตาผู้เป็นบิดาด้วยแววตาที่เศร้าหมอง

  “ท่านพ่อไปคุยเรื่องราชโองการสมรสพระราชทานกับฝ่าบาทหรือยังเจ้าคะ”

  เซียวฟู่ซินได้ยินคำถามบุตรสาวตัวเองก็ถอนหายใจออกมา พระราชโองการออกมาแล้วจะให้ตนทำอย่างไรได้ มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น ใจจริงเขาไม่ต้องการให้บุตรสาวแต่งกับแม่ทัพปีศาจนั้นแม้แต่น้อย เขาอยากให้แต่งกับพวกที่เป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นเหมือนเขามากกว่า

   แม้ว่าสงสารบุตรสาวขนาดไหนแต่การขัดราชโองการนั้นถือเป็นกบฏแผ่นดิน มีโทษถึงขั้นประหารทั้งตระกูล เซียวฟู่ซินส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ    

   เซียวลี่หงเห็นท่าทางของบิดา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างอดไม่ได้ นางถามบิดากลับด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน

  “ท่านพ่อ...ท่านพ่อช่วยคุยไม่ได้หรือเจ้าคะ ท่านพ่อรับใช้ฝ่ามานาน ฝ่าบาทอาจจะทรงเห็นใจท่านพ่อบ้าง ท่านพ่อ ข้าไม่เคยขอร้องท่านเลยสักครั้ง ท่านพ่อช่วยให้ข้าไม่แต่งกับแม่ทัพนั่นไม่ได้หรือเจ้าคะ ท่านพ่อก็รู้ดีว่าแม่ทัพหวงหยางหมิงโหดเหี้ยมถึงเพียงไหน ท่านพ่อ...ข้าไม่อยากแต่งกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเจ้าค่ะ"

   เซียวลี่หงอ้อนวอนบิดาตนเองอย่างน่าสงสาร นางอาจจะลืมไปแล้วว่าการแต่งงานนั้นส่วนใหญ่จะเป็นบิดามารดาจัดเตรียมเรื่องการออกเรือนให้ และอีกส่วนหนึ่งก็มาจากสมรสพระราชทานที่ไม่อาจขัดได้ เฉกเช่นพี่สาวของนาง ที่บิดามารดาจัดเตรียมคู่หมั้นให้เช่นกัน อาจเป็นเพราะเซียวฟู่ซินและฟางเหนียงนั้นตามใจเซียวลี่หงจนเคยตัว ทำให้นางลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป

“หงเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากช่วยเจ้า แต่ราชโองการออกมาแล้ว พวกเราขัดไม่ได้ เจ้าก็น่าจะรู้ดี ว่าถ้าขัดราชโองการจะมีโทษเช่นไร”

“ทำไม! ไหนท่านพ่อบอกว่ารักข้ามาก! แต่เรื่องแค่นี้ท่านพ่อกลับทำให้ข้าไม่ได้! ข้าเคยขอร้องท่านหรือไม่ตั้งแต่เกิดมา มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ข้าขอร้องท่าน ทำไมท่านถึงทำให้ข้าไม่ได้!” เซียวลี่หงเอ่ยเสียงดังพร้อมทั้งท่าทางที่แข็งกร้าว

   ทุกคนต่างพากันตกใจกับท่าทางของเซียวลี่หงที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ราวกับว่าไม่ใช่คนเดียวกัน ฟางเหนียงจับแขนบุตรสาวพร้อมพูดปลอบอย่างอ่อนโยน

“หงเอ๋อร์ ใจเย็น ๆ ก่อน ไม่ใช่บิดาเจ้าไม่อยากช่วย แต่เพราะเป็นพระราชโองการจากองค์ฮ่องเต้ เจ้าก็รู้ว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้”

   เซียวลี่หงได้ยินอย่างนั้นก็สะบัดแขนที่มารดาจับ ทำเอาฟางเหนียงถึงกับตกตะลึงท่าทางที่เปลี่ยนไปของบุตรสาวตนเอง ปีศาจตนไหนเข้าสิงบุตรสาวที่น่ารักของนาง ไม่อย่างนั้นหงเอ๋อร์ถึงมีกิริยาแข็งกร้าวเช่นนี้ได้อย่างไร

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 6 ตัดสินใจ

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราชโองการไม่ได้ระบุว่าเป็นเซียวเหม่ยอิงหรือเซียวลี่หง แต่ผู้ใดต่างก็รู้ดีว่าคนที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงคือเซียวลี่หง เพราะเซียวเหม่ยอิงนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านยอมให้ข้าแต่งกับชายผู้นั้นจริงหรือเจ้าคะ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ หากอัปลักษณ์อย่างที่ผู้อื่นบอก ข้า...ข้า” เซียวลี่หงเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางตัดพ้ออย่างน่าสงสารเหตุการณ์ที่เหมือนจะสงบลง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เซียวลี่หงดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่มวยผมมาจี้คอตัวเองด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว“หากท่านพ่อท่านแม่ให้ข้าไปแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจอัปลักษณ์นั่น ข้าขอฆ่าตัวตายตอนนี้เสียดีกว่า!”เซียวลี่หงตัดสินใจแล้ว หากให้นางออกเรือนกับชายที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 7 จัดเตรียม

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นได้แต่ปลอบสาวใช้ตนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เป็นแบบนี้ดีแล้วลี่จิน...” ใช่... แบบนี้น่ะดีแล้ว นางคิดแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ครอบครัวไม่ต้องโทษข้อหาเป็นกบฏ อีกอย่างแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ความโหดเหี้ยมที่ผู้คนเล่าลือก็มาจากสนามรบทั้งนั้น ที่หวงหยางหมิงทำไปทั้งหมดเพราะต้องปกป้องบ้านเมือง เซียวเหม่ยอิงนั่งหลับตาคิดถึงเรื่องราวตอนที่นางเอ่ยปากขอบิดามารดาแต่งงานด้วยตนเอง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเองเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็พากันตกตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน เซียวเหม่ยอิงจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะว่าหลี่ซื่อหมินได้มาถอนหมั้นกับนางแล้ว ในเมื่อเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 8 แต่งงาน

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อาจรับรู้ได้ว่าจวนของท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรเขาจะดีกับนางเหมือนอย่างที่เขาให้สัญญาในวันนั้นได้หรือไม่'ข้าให้สัญญาในฐานะแม่ทัพ ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า และไม่บังคับจิตใจเจ้าเช่นกัน'คำพูดและสายตาจริงจังในวันนั้น เซียวเหม่ยอิงยังจดจำได้ดีร่างงามเดินออกจากเรือนตนเองไปยังเรือนใหญ่ เพื่อไปหามารดาของตนเอง พอเดินเข้าไปก็เห็นมารดาและน้องสาวของตนนั่งอยู่ด้วยกัน นางคารวะมารดาตนเอง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ“พรุ่งนี้ก็ได้แต่งงานแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่” ฟางเหนียงเอ่ยถามบุตรสาวตนเอง“ไม่เท่าใดเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยกยิ้มเล็กน้อย ต่างจากเซียวลี่หงที่มีสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก“ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบเซียวลี่หงก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที“เฮ้อ สงสัยนางจะทำใจไม่ได้ที่เจ้าแต่งงานแบบนี้” ฟางเหนียงได้แต่ถอนหายใจกับการกระทำขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 9 เข้าหอ (NC18+)

    ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่กล้าสู้หน้าสามีตนเองในตอนนี้เพราะมันน่าอายเกินไป นางทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับร่างกาย เพราะตอนนี้นางรับรู้ได้ว่าบั้นท้ายของนางตอนนี้เหมือนกำลังถูไถกับอะไรบางอย่าง แม้เป็นสตรีในห้องหอ และไม่เคยเห็นภายในร่างกายของบุรุษแต่นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น ที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูไถกับบั้นท้ายของนางอยู่นั้นคือสิ่งใด เพราะตอนแต่งงานแม่สื่อก็ได้มอบหนังสือที่เกี่ยวกับหน้าที่ภรรยามาให้นางหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไรและในนั้นเองก็มีภาพวาดให้ดูเช่นกัน หวงหยางหมิงมองดูใบหูของเซียวเหม่ยอิงที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งไป เขาก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากเอวของนาง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาแขนตนนั้นพาดกับขอบสระแทน ทำให้เซียวเหม่ยอิงลดความเกร็งลงไปได้บ้าง เพราะความอุ่นของน้ำหรือความอุ่นของแผ่นอกที่อยู่หลังของนาง ทำให้เซียวเหม่ยอิงรู้สึกผ่อนคลายจนเอาหัวตัวเองพิงกับอกนั้นคล้ายกับว่าเป็นที่พักพิงอย่างไรอย่างนั้น แต่คนที่ตัวใหญ่กว่าตอนนั้นกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้เพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 10 บรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ยามใกล้รุ่งของวันใหม่เซียวเหม่ยอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากการหลับใหล แม้ว่าเมื่อคืนนางนอนเกือบใกล้ฟ้าสางก็ตาม อาจเป็นเพราะความเคยชินตอนอยู่ที่จวนเดิมทำให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชิน ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่นอนหันหน้ามาทางนาง ลมหายใจที่สม่ำเสมอหมายถึงกำลังหลับใหลอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังกอดนางไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจึงเริ่มพากันจุดคบเพลิงรอบเรือน แสงคบเพลิงที่ส่องสว่างภายนอกเรือนนั้นทำให้มีแสงแทรกเข้ามาภายใน จึงทำให้เซียวเหม่ยอิงได้เห็นใบหน้าที่ไร้หน้ากากปกปิดอีกครั้ง ขนตาที่เป็นแพราวกับสตรี จมูกโด่งสันเข้ากับปากหนา แต่ใบหน้าของนางต้องเห่อร้อนเมื่อเห็นร่องรอยตามร่างกายของสามีนาง คิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้านางยิ่งเห่อร้อนจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะความเขินอาย ทุกอย่างเป็นเพราะหวงหยางหมิงปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ ถึงได้เกิดร่องรอยพวกนี้“ฮูหยินใช้สายตาหลอกกินเต้าหู้กับข้าตั้งแต่รุ่งสางเลยรึ?” น้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งลืมตาตื่น ความจริงหวงหยางหมิงรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่คนในอ้อมกอดขยับร่างกายแล้ว เพราะสัญช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 11 กลับบ้านเดิม

    ยามเช้าที่เซียวเหม่ยอิงลืมตาตื่น นางรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไหร่นักเมื่อเห็นว่ามีบุรุษนอนอยู่ข้างกาย วันแรกที่อ้อมแขนเคยกอดนางไว้อย่างไร วันนี้ก็ยังคงกอดอยู่แบบนั้น แม้ไม่คุ้นชินแต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ขยับร่างกายออกจากอ้อมแขน เพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างกายที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจ วันนี้เป็นวันที่นางและสามีต้องกลับบ้านเดิมเพื่อไปยกน้ำชาให้กับบิดามารดาทำให้นางต้องตื่นมาแต่งตัวเสียก่อน นางพยายามประคับประคองร่างกายตนเองให้ลุกจากเตียงนอน ขณะที่กำลังจะเดินออกไปตามลี่จินให้มาช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวนั้น ร่างของนางกลับถูกรวบขึ้นจากพื้นเสียก่อน“ว้าย! ท่านพี่ ท่านทำอะไรเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าสามีของนางนั้นตื่นตั้งแต่ตอนไหน ซ้ำตอนนี้ยังรวบตัวนางขึ้นมาอีก จนนางต้องเอามือคล้องคอสามีตัวเองไว้เพราะทั้งตกใจและกลัวตก“จะทำอะไรงั้นรึ? ข้าก็จะอาบน้ำให้อิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า” มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นเล็กน้อย“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าให้ลี่จินอาบให้...”เซียวเหม่ยอิงยังพูดไม่จบ ก็โดนสามีที่เอาแต่ใจนั้นพูดแทรกขึ้นก่อน“ให้ผู้อื่นอาบให้ได้อย่างไร ข้าทำให้เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 12 สายใยที่เบาบาง

    เซียวเหม่ยอิงรับรู้ได้ว่าสามีของนางอารมณ์ไม่ดีเท่าใดนักตั้งแต่ที่กลับมาจากบ้านเดิมของนาง แม้ว่าหวงหยางหมิงไม่แสดงอารมณ์นั้นให้นางเห็นแต่ก็พอจะรับรู้ได้ นางเงยหน้ามองดูคนที่กำลังโอบกอดนาง แต่ใบหน้ากลับเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ท่านพี่” หวงหยางหมิงได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานเรียกตนก็ดึงสติตนเองกลับมา เขามองดวงหน้างามที่กำลังสบตากับเขา พลันรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนอดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวไปจูบริมฝีปากที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกจากภวังค์ คนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นได้แต่ทำใจให้ชิน เพราะสามีของนางชอบกินเต้าหู้ไม่เว้นวันเลยจริง ๆ หลังจากที่หวงหยางหมิงจูบจนสมใจอยากแล้ว ก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ มองใบหน้าภรรยาของตนก็เห็นว่ามีดวงหน้าที่แดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ภรรยาตัวน้อยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากจริง ๆ นิ้วยาวลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับตนให้คนเคียงข้างได้ฟัง“เพราะท่านพ่อเป็นขุนนางขั้นสูง ที่จวนข้าจึงมีฮูหยินเอก ฮูหยินรอง อนุและสาวใช้อุ่นเตียงเต็มจวน มีทั้งสตรีที่ได้มาจากราชโองการจากฮ่องเต้อย่างท่านแม่ข้าและความพึงพอใจของตัวท่านพ่อเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 13 ความรู้สึกที่แตกต่าง

    “มานี่” หวงหยางหมิงเอ่ยเรียกฮูหยินของตนเองหลังจากที่กินเกี๊ยวน้ำหมดแล้ว“มีอะไรหรือเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงงุนงงเล็กน้อย นางกับเขานั่งห่างกันเพียงโต๊ะกั้นกลางเท่านั้น ใช่ว่าจะนั่งห่างไกลกันถึงขนาดจะคุยกันไม่รู้เรื่อง“มานี่ มาใกล้ ๆ” หวงหยางหมิงยังคงย้ำคำเดิมทำให้เซียวเหม่ยอิงต้องลุกเดินไปใกล้ ๆ ตามที่เขาต้องการ พอไปใกล้ตัวแล้วกลับเป็นหวงหยางหมิงดึงตัวให้เซียวเหม่ยอิงนั่งลงบนตักแกร่งของเขา แขนข้างหนึ่งของหวงหยางหมิงกอดเอวบางเอาไว้เพื่อไม่ให้คนบนตักร่วงหล่น ส่วนอีกข้างเอื้อมไปหยิบกล่องที่จางชิงนำมาให้ในตอนแรก เขาเปิดให้เซียวเหม่ยอิงเห็นว่าของที่อยู่ในนั้นคือสิ่งใด“นี่มัน...?” สิ่งที่อยู่ในกล่องคือกำไลวงหนึ่งดูประณีตและงดงาม“คราก่อน ข้าตรวจสอบดูกำไลเดิมของอิงเอ๋อร์เห็นว่าพิษที่อยู่ในนั้นเหมือนจะจางหายไปนานแล้ว ข้าเลยสั่งให้คนของข้าทำขึ้นมาให้ใหม่และใช้งานได้ดีกว่าเดิม กดปุ่มตรงนี้แล้วหมุนไปทางซ้ายจะเป็นเข็มพิษ หากหมุนทางขวาจะเป็นเข็มที่ทำให้ตัวชาประมาณครึ่งชั่วยาม” แววตาที่ดูตื่นเต้นราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่ เพราะการที่จะทำอาวุธลับขึ้นมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถทำได้ ต่อให้มีเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15

บทล่าสุด

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 14 ลงโทษ

    หวงหยางหมิงเดินทางมาถึงจวน ก็รีบไปยังศาลากลางสระที่เซียวเหม่ยอิงชอบไปนั่งเป็นประจำ พอไปถึงก็พบว่าฮูหยินของตัวเองหลับทั้ง ๆ ที่ยังนั่ง มือข้างหนึ่งเท้าใบหน้าตนเองไว้ โดยมีลี่จินยืนพัดให้ใกล้ ๆ เพื่อให้คุณหนูตัวเองนั้นหลับพักผ่อนสบายและไม่ร้อนเกินไป ลี่จินเห็นนายของจวนเดินเข้ามาใกล้ก็รีบก้มหัวและกำลังจะเอื้อมมือไปปลุกนายตัวเอง ทว่าหวงหยางหมิงยกมือห้ามเอาไว้ พร้อมกับยื่นมือไปรับพัดจากนางและสะบัดให้ลี่จินไปที่อื่นแทน คนโดนไล่นั้นยื่นพัดให้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง พร้อมกับรีบออกจากตรงที่นายของตนอยู่อย่างรวดเร็ว“ข้านึกว่าจะต้องไปตามเจ้าออกมาเหมือนอย่างเคยเสียแล้ว” น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายราวกับว่าตนต้องทำสิ่งที่เคยทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลี่จินมองดูคนที่ยืนกอดอกที่ทำเสียงเหนื่อยใจกับนางด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย นางนั้นคร้านจะใส่ใจ เลยแสร้งเดินหนีไปทางอื่น เพราะไม่อยากเดินผ่านคนที่ยืนกอดอกด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ ทว่าคนที่ถูกเมินนั้นถึงกับไปต่อไม่ถูก จางชิงรีบเดินไปขวางทางคนที่เดินหนีเขาทันที“เจ้าจะไปไหน?”ลี่จินมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่งุนงง นางไม่เข้าใจว่าจางชิงนั้นต้องการอะไรจากนาง ทั้ง ๆ ที

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 13 ความรู้สึกที่แตกต่าง

    “มานี่” หวงหยางหมิงเอ่ยเรียกฮูหยินของตนเองหลังจากที่กินเกี๊ยวน้ำหมดแล้ว“มีอะไรหรือเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงงุนงงเล็กน้อย นางกับเขานั่งห่างกันเพียงโต๊ะกั้นกลางเท่านั้น ใช่ว่าจะนั่งห่างไกลกันถึงขนาดจะคุยกันไม่รู้เรื่อง“มานี่ มาใกล้ ๆ” หวงหยางหมิงยังคงย้ำคำเดิมทำให้เซียวเหม่ยอิงต้องลุกเดินไปใกล้ ๆ ตามที่เขาต้องการ พอไปใกล้ตัวแล้วกลับเป็นหวงหยางหมิงดึงตัวให้เซียวเหม่ยอิงนั่งลงบนตักแกร่งของเขา แขนข้างหนึ่งของหวงหยางหมิงกอดเอวบางเอาไว้เพื่อไม่ให้คนบนตักร่วงหล่น ส่วนอีกข้างเอื้อมไปหยิบกล่องที่จางชิงนำมาให้ในตอนแรก เขาเปิดให้เซียวเหม่ยอิงเห็นว่าของที่อยู่ในนั้นคือสิ่งใด“นี่มัน...?” สิ่งที่อยู่ในกล่องคือกำไลวงหนึ่งดูประณีตและงดงาม“คราก่อน ข้าตรวจสอบดูกำไลเดิมของอิงเอ๋อร์เห็นว่าพิษที่อยู่ในนั้นเหมือนจะจางหายไปนานแล้ว ข้าเลยสั่งให้คนของข้าทำขึ้นมาให้ใหม่และใช้งานได้ดีกว่าเดิม กดปุ่มตรงนี้แล้วหมุนไปทางซ้ายจะเป็นเข็มพิษ หากหมุนทางขวาจะเป็นเข็มที่ทำให้ตัวชาประมาณครึ่งชั่วยาม” แววตาที่ดูตื่นเต้นราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่ เพราะการที่จะทำอาวุธลับขึ้นมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถทำได้ ต่อให้มีเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 12 สายใยที่เบาบาง

    เซียวเหม่ยอิงรับรู้ได้ว่าสามีของนางอารมณ์ไม่ดีเท่าใดนักตั้งแต่ที่กลับมาจากบ้านเดิมของนาง แม้ว่าหวงหยางหมิงไม่แสดงอารมณ์นั้นให้นางเห็นแต่ก็พอจะรับรู้ได้ นางเงยหน้ามองดูคนที่กำลังโอบกอดนาง แต่ใบหน้ากลับเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ท่านพี่” หวงหยางหมิงได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานเรียกตนก็ดึงสติตนเองกลับมา เขามองดวงหน้างามที่กำลังสบตากับเขา พลันรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนอดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวไปจูบริมฝีปากที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกจากภวังค์ คนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นได้แต่ทำใจให้ชิน เพราะสามีของนางชอบกินเต้าหู้ไม่เว้นวันเลยจริง ๆ หลังจากที่หวงหยางหมิงจูบจนสมใจอยากแล้ว ก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ มองใบหน้าภรรยาของตนก็เห็นว่ามีดวงหน้าที่แดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ภรรยาตัวน้อยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากจริง ๆ นิ้วยาวลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับตนให้คนเคียงข้างได้ฟัง“เพราะท่านพ่อเป็นขุนนางขั้นสูง ที่จวนข้าจึงมีฮูหยินเอก ฮูหยินรอง อนุและสาวใช้อุ่นเตียงเต็มจวน มีทั้งสตรีที่ได้มาจากราชโองการจากฮ่องเต้อย่างท่านแม่ข้าและความพึงพอใจของตัวท่านพ่อเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 11 กลับบ้านเดิม

    ยามเช้าที่เซียวเหม่ยอิงลืมตาตื่น นางรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไหร่นักเมื่อเห็นว่ามีบุรุษนอนอยู่ข้างกาย วันแรกที่อ้อมแขนเคยกอดนางไว้อย่างไร วันนี้ก็ยังคงกอดอยู่แบบนั้น แม้ไม่คุ้นชินแต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ขยับร่างกายออกจากอ้อมแขน เพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างกายที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจ วันนี้เป็นวันที่นางและสามีต้องกลับบ้านเดิมเพื่อไปยกน้ำชาให้กับบิดามารดาทำให้นางต้องตื่นมาแต่งตัวเสียก่อน นางพยายามประคับประคองร่างกายตนเองให้ลุกจากเตียงนอน ขณะที่กำลังจะเดินออกไปตามลี่จินให้มาช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวนั้น ร่างของนางกลับถูกรวบขึ้นจากพื้นเสียก่อน“ว้าย! ท่านพี่ ท่านทำอะไรเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าสามีของนางนั้นตื่นตั้งแต่ตอนไหน ซ้ำตอนนี้ยังรวบตัวนางขึ้นมาอีก จนนางต้องเอามือคล้องคอสามีตัวเองไว้เพราะทั้งตกใจและกลัวตก“จะทำอะไรงั้นรึ? ข้าก็จะอาบน้ำให้อิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า” มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นเล็กน้อย“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าให้ลี่จินอาบให้...”เซียวเหม่ยอิงยังพูดไม่จบ ก็โดนสามีที่เอาแต่ใจนั้นพูดแทรกขึ้นก่อน“ให้ผู้อื่นอาบให้ได้อย่างไร ข้าทำให้เจ้า

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 10 บรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ยามใกล้รุ่งของวันใหม่เซียวเหม่ยอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากการหลับใหล แม้ว่าเมื่อคืนนางนอนเกือบใกล้ฟ้าสางก็ตาม อาจเป็นเพราะความเคยชินตอนอยู่ที่จวนเดิมทำให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชิน ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่นอนหันหน้ามาทางนาง ลมหายใจที่สม่ำเสมอหมายถึงกำลังหลับใหลอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังกอดนางไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจึงเริ่มพากันจุดคบเพลิงรอบเรือน แสงคบเพลิงที่ส่องสว่างภายนอกเรือนนั้นทำให้มีแสงแทรกเข้ามาภายใน จึงทำให้เซียวเหม่ยอิงได้เห็นใบหน้าที่ไร้หน้ากากปกปิดอีกครั้ง ขนตาที่เป็นแพราวกับสตรี จมูกโด่งสันเข้ากับปากหนา แต่ใบหน้าของนางต้องเห่อร้อนเมื่อเห็นร่องรอยตามร่างกายของสามีนาง คิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้านางยิ่งเห่อร้อนจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะความเขินอาย ทุกอย่างเป็นเพราะหวงหยางหมิงปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ ถึงได้เกิดร่องรอยพวกนี้“ฮูหยินใช้สายตาหลอกกินเต้าหู้กับข้าตั้งแต่รุ่งสางเลยรึ?” น้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งลืมตาตื่น ความจริงหวงหยางหมิงรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่คนในอ้อมกอดขยับร่างกายแล้ว เพราะสัญช

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 9 เข้าหอ (NC18+)

    ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่กล้าสู้หน้าสามีตนเองในตอนนี้เพราะมันน่าอายเกินไป นางทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับร่างกาย เพราะตอนนี้นางรับรู้ได้ว่าบั้นท้ายของนางตอนนี้เหมือนกำลังถูไถกับอะไรบางอย่าง แม้เป็นสตรีในห้องหอ และไม่เคยเห็นภายในร่างกายของบุรุษแต่นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น ที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูไถกับบั้นท้ายของนางอยู่นั้นคือสิ่งใด เพราะตอนแต่งงานแม่สื่อก็ได้มอบหนังสือที่เกี่ยวกับหน้าที่ภรรยามาให้นางหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไรและในนั้นเองก็มีภาพวาดให้ดูเช่นกัน หวงหยางหมิงมองดูใบหูของเซียวเหม่ยอิงที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งไป เขาก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากเอวของนาง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาแขนตนนั้นพาดกับขอบสระแทน ทำให้เซียวเหม่ยอิงลดความเกร็งลงไปได้บ้าง เพราะความอุ่นของน้ำหรือความอุ่นของแผ่นอกที่อยู่หลังของนาง ทำให้เซียวเหม่ยอิงรู้สึกผ่อนคลายจนเอาหัวตัวเองพิงกับอกนั้นคล้ายกับว่าเป็นที่พักพิงอย่างไรอย่างนั้น แต่คนที่ตัวใหญ่กว่าตอนนั้นกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้เพราะ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 8 แต่งงาน

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อาจรับรู้ได้ว่าจวนของท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรเขาจะดีกับนางเหมือนอย่างที่เขาให้สัญญาในวันนั้นได้หรือไม่'ข้าให้สัญญาในฐานะแม่ทัพ ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า และไม่บังคับจิตใจเจ้าเช่นกัน'คำพูดและสายตาจริงจังในวันนั้น เซียวเหม่ยอิงยังจดจำได้ดีร่างงามเดินออกจากเรือนตนเองไปยังเรือนใหญ่ เพื่อไปหามารดาของตนเอง พอเดินเข้าไปก็เห็นมารดาและน้องสาวของตนนั่งอยู่ด้วยกัน นางคารวะมารดาตนเอง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ“พรุ่งนี้ก็ได้แต่งงานแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่” ฟางเหนียงเอ่ยถามบุตรสาวตนเอง“ไม่เท่าใดเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยกยิ้มเล็กน้อย ต่างจากเซียวลี่หงที่มีสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก“ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบเซียวลี่หงก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที“เฮ้อ สงสัยนางจะทำใจไม่ได้ที่เจ้าแต่งงานแบบนี้” ฟางเหนียงได้แต่ถอนหายใจกับการกระทำขอ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 7 จัดเตรียม

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นได้แต่ปลอบสาวใช้ตนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เป็นแบบนี้ดีแล้วลี่จิน...” ใช่... แบบนี้น่ะดีแล้ว นางคิดแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ครอบครัวไม่ต้องโทษข้อหาเป็นกบฏ อีกอย่างแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ความโหดเหี้ยมที่ผู้คนเล่าลือก็มาจากสนามรบทั้งนั้น ที่หวงหยางหมิงทำไปทั้งหมดเพราะต้องปกป้องบ้านเมือง เซียวเหม่ยอิงนั่งหลับตาคิดถึงเรื่องราวตอนที่นางเอ่ยปากขอบิดามารดาแต่งงานด้วยตนเอง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเองเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็พากันตกตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน เซียวเหม่ยอิงจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะว่าหลี่ซื่อหมินได้มาถอนหมั้นกับนางแล้ว ในเมื่อเ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 6 ตัดสินใจ

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราชโองการไม่ได้ระบุว่าเป็นเซียวเหม่ยอิงหรือเซียวลี่หง แต่ผู้ใดต่างก็รู้ดีว่าคนที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงคือเซียวลี่หง เพราะเซียวเหม่ยอิงนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านยอมให้ข้าแต่งกับชายผู้นั้นจริงหรือเจ้าคะ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ หากอัปลักษณ์อย่างที่ผู้อื่นบอก ข้า...ข้า” เซียวลี่หงเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางตัดพ้ออย่างน่าสงสารเหตุการณ์ที่เหมือนจะสงบลง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เซียวลี่หงดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่มวยผมมาจี้คอตัวเองด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว“หากท่านพ่อท่านแม่ให้ข้าไปแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจอัปลักษณ์นั่น ข้าขอฆ่าตัวตายตอนนี้เสียดีกว่า!”เซียวลี่หงตัดสินใจแล้ว หากให้นางออกเรือนกับชายที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status