Home / รักโบราณ / ชะตารักฮูหยินจำเป็น / ตอนที่ 4 หวงหยางหมิง

Share

ตอนที่ 4 หวงหยางหมิง

Author: Shine-Month
last update Last Updated: 2025-01-14 16:47:26

จวนท่านแม่ทัพหวงหยางหมิง

   หลังจากที่หวงหยางหมิงกลับมาถึงจวนของตัวเอง เขาก็ให้คนไปเตรียมของเพื่อที่จะอาบน้ำชำระร่างกายทันที

   จวนหลังนี้เป็นจวนพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ ตอนที่เขาได้ขึ้นเป็นแม่ทัพพอได้จวนนี้มา หวงหยางหมิงก็ย้ายออกมาจากจวนหลักทันที เพราะเดิมทีหวงหยางหมิงเองก็ไม่ต้องการที่จะอยู่จวนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่ที่มารดาของตัวเองเสียชีวิตไป จวนที่มากไปด้วยเล่ห์อุบายของผู้คนในนั้น หวงหยางหมิงสะอิดสะเอียดเกินทน หากให้เขาทนอยู่ในนั้น หวงหยางหมิงเกรงว่าคงได้ฆ่าคนในจวนนั้นหมดอย่างแน่นอน

   จวนที่ได้รับพระราชทานนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเรือนใหญ่และเรือนเล็กแบ่งเป็นสัดส่วน เรือนที่หวงหยางหมิงพักนั้นมีชื่อว่าเรือนจันทรา เป็นเรือนใหญ่ที่สุดและเขาเองก็ชื่นชอบที่สุดด้วย เพราะด้านหลังเรือนนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เอาไว้ให้เขาได้อาบน้ำชำระร่างกาย สระน้ำนี้ล้อมรอบไปด้วยต้นไผ่เขียวและดอกไม้นานาพรรณ ทำให้สระนี้งดงามเป็นอย่างมาก ที่เด่นชัดเลยในยามค่ำคืน พระจันทร์จะสาดส่องลงมากระทบเป็นเงากับสระน้ำนี้พอดี ทำให้คนที่พบเห็นนั้นเกิดความสบายใจ หวงหยางหมิงเลยตั้งชื่อเรือนจันทรานี้ด้วยตนเอง

  ร่างกำยำค่อย ๆ ปลดเสื้อผ้าและอาภรณ์ต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ในขณะที่ขาแกร่งก้าวเดินไปยังสระน้ำ ไหล่กว้างขยับไปมาเพื่อบรรเทาความปวดเมื่อย ร่างที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทำให้เวลาขยับได้ยินเสียงกระดูกดังลั่นบริเวณที่เขาขยับ ขาของหวงหยางหมิงก้าวลงสระที่มีหมอกจาง ๆ ปกคลุม กล้ามหน้าท้องนูนเป็นรูปเด่นชัด หากไม่มีแผลเป็นด้านข้างที่เกิดขึ้นเพราะเขาถูกพิษในตอนนั้น ย่อมถือได้ว่ากล้ามหน้าท้องของหวงหยางหมิงนั้นงดงามอย่างไม่มีที่ติ หลังจากที่ลงไปนั่งในสระน้ำแล้ว มือขวาก็ยกขึ้นมาเพื่อถอดหน้ากากที่ปิดใบหน้าเอาไว้ ตอนนี้ในสระน้ำสะท้อนใบหน้าบุรุษคนหนึ่งที่เป็นเงาคู่กับพระจันทร์ที่กำลังสาดส่องลงมาพอดี ใบหน้าคมคายรูปงามเกินกว่าบุรุษ กำลังนั่งหลับตาในสระอย่างเงียบ ๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา หวงหยางหมิงก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้

  “ถึงเวลาแล้วสินะ” เสียงทุ้มบ่นกับตัวเอง

   ขณะที่กำลังแช่น้ำอย่างสำราญใจ พ่อบ้านโจวก็เข้ามาหานายตัวเองเงียบ ๆ แต่เดิมพ่อบ้านโจวนั้นเคยรับใช้อยู่ที่จวนหลัก จนกระทั่งหวงหยางหมิงย้ายออกมา เขาก็ขอออกมารับใช้นายของตนเอง

  “คุณชายขอรับ ผิงอี๋เหนียงต้องการเข้ามาปรนนิบัติคุณชายขอรับ”

  “สตรีที่เมียรักของบิดาข้าส่งมาน่ะรึ” ท้ายเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ “ให้นางกลับเรือนไป”

   พ่อบ้านโจวน้อมรับพร้อมกับออกจากห้องนี้ไปเงียบ ๆ เพราะเขานั้นรู้จักนิสัยคุณชายของตัวเองดีว่าเป็นเช่นไร

   ด้านนอกเรือนจันทรามีสตรีทรวดทรงเย้ายวนยืนรออยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวาย เพราะจะบุกเข้าไปก็เข้าไม่ได้เนื่องจากทางเข้าเรือนนั้นมีทหารคอยเฝ้าอยู่ แม้ว่าอยากจะบุกเข้าไปเพียงใด แต่ทหารที่เฝ้านั้นไม่ยอมอ่อนข้อให้นางเลยแม้แต่น้อย

   รอไม่นาน พ่อบ้านโจวก็เดินออกมาหาสตรีที่ยืนรออยู่ด้านนอก ผิงอันเห็นพ่อบ้านโจวออกมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้นทันที

  “พ่อบ้านโจว ท่านแม่ทัพให้ข้าเข้าไปปรนนิบัติได้ใช่หรือไม่”

  “คุณชายแจ้งว่าให้อี๋เหนียงกลับเรือนไปขอรับ”

   ผิงอันได้ยินเช่นนั้นใบหน้างามก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธทันที ก่อนจะหันหลังกระทืบเท้ากลับเรือนของตัวเองไปด้วยความไม่พอใจ พ่อบ้านโจวได้แต่ส่ายหัวให้กับความวุ่นวายนี้ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินหวงคนปัจจุบันส่งอนุมาให้หวงหยางหมิงจวนนี้คงสงบไม่น้อย

    แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณชายของเขาก็ถูกมัดมือชกเช่นกัน เพราะฮูหยินเอกนั้นใช้วิธีสกปรก แต่งอนุมาตอนที่หวงหยางหมิงไปออกรบ โดยให้เหตุผลว่าจะได้มีคนมาช่วยดูแลงานในจวน ซึ่งนายท่านหวงเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย

   ความจริงแล้วฮูหยินเอกคนนั้นต้องการแต่งภรรยาให้หวงหยางหมิงเลยต่างหาก แต่เพราะหวงหยางหมิงนั้นได้เอ่ยคำพูดที่เป็นเหมือนกับคำมั่นสัญญาระหว่างมารดาของเขาที่เสียไปกับท่านพ่อของเขาว่าจะให้หวงหยางหมิงนั้นเลือกฮูหยินด้วยตนเอง หนิงซูหรือว่าฮูหยินเอกประจำตระกูลหวงคนปัจจุบันจึงทำได้เพียงแต่งอนุเท่านั้น

  อนุที่นางแต่งให้กับหวงหยางหมิงมีหน้าที่ช่วยสอดส่องและรายงานเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้นางได้รับรู้

   แต่หนิงซูนั้นคิดตื้นเกินไป นางคิดว่าหวงหยางหมิงจะมีนิสัยใจคอเหมือนกับบิดา เจอสาวงามก็ลุ่มหลงและโปรดปรานดั่งเช่นบิดาของตน แต่เปล่าเลย เพราะตั้งแต่ที่หวงหยางหมิงกลับมา นอกจากจะไม่สนใจนางแล้วแม้แต่จะพูดด้วยสักคำก็ยังไม่เคย ยามเห็นหน้าผิงอันก็มองเห็นแต่ไกล ๆ เวลาจะเข้าใกล้ก็จะมีบ่าวรับใช้คอยกันท่าไม่ให้นางเข้าใกล้ จนนางเองก็อดโมโหไม่ได้ เพราะจนตอนนี้ ผิงอันยังไม่ได้เขียนรายงานนายหญิงของตนเองแม้แต่ฉบับเดียว

   ผิงอันเดินกลับมายังเรือนตนที่อยู่เกือบท้ายจวนด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว มาถึงเรือนตน ผิงอันก็กวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะทันที

  “เจ้าอัปลักษณ์นั่นถือดีอย่างไร ถึงกล้าปฏิเสธข้า!” ผิงอันสบถออกมาอย่างอดไม่ได้

  “อี๋เหนียงเบา ๆ เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวบ่าวคนอื่นได้ยิน จะนำไปฟ้องท่านพ่อบ้านนะเจ้าคะ” สาวใช้ประจำตัวเอ่ยตักเตือนนายของตน ก่อนจะรีบปิดประตูเรือนเพื่อไม่ให้คนข้างนอกได้ยิน

ผิงอันได้ยินอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมสงบแม้แต่น้อย นางหันหน้ามาหาสาวใช้ด้วยแววตาที่แดงก่ำ

“แล้วอย่างไรอยากฟ้องก็ไปฟ้องเลย ข้าก็เบื่อเจ้าอัปลักษณ์นั่นเต็มทนแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ข้าจะรายงานฮูหยินได้อย่างไรกัน!”

ผิงอันครุ่นคิดถึงแผนการ หากทำแผนการไม่สำเร็จ หนิงซูอาจจะส่งคนอื่นมาเป็นอนุอีก ถึงตอนนั้นนางก็จะเป็นตัวไร้ประโยชน์ หนิงซูต้องไม่เก็บนางไว้แน่นอน

“หรือว่าท่านแม่ทัพอายเกินกว่าจะกล้าพบหน้าอี๋เหนียงเจ้าคะ อี๋เหนียงรูปโฉมงดงามปานนี้ ท่านแม่ทัพอาจจะละอายตนเองก็ได้เจ้าค่ะ”

สาวใช้บีบนวดร่างกายผิงอันพร้อมกับพูดปลอบเพื่อไม่ให้นายตนอาละวาดมากไปกว่านี้

“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”

“บ่าวก็แค่สงสัยเจ้าค่ะ หากท่านแม่ทัพไม่ละอายตนเอง หรือว่า...”

“หรือว่าอะไร”

“หรือว่า...ท่านแม่ทัพเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อเจ้าคะ”

ทันทีที่ได้ยินดวงตาผิงอันเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“อาจจะจริงอย่างที่เจ้าว่าก็ได้ แต่ข้าไม่สนใจหรอกนะ ท่านแม่ทัพจะอัปลักษณ์หรือเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ สิ่งเดียวที่ข้าสนใจคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ข้าได้เข้าใกล้แม่ทัพ ไม่อย่างนั้น ข้าก็คงเป็นแค่อนุที่อยู่ท้ายจวนเช่นนี้ และถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ฮูหยินไม่ปล่อยข้าไว้แน่นอน”

ผิงอันกำมือแน่น ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องส่งข่าวคราวให้หนิงซูได้รับรู้และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในจวนนี้

   จริงอยู่ที่หวงหยางหมิงจะแยกจวนออกมา แต่อย่างไรหนิงซูก็ยังไม่ไว้วางใจ เพราะกว่าที่นางจะขึ้นมาเป็นฮูหยินเอกประจำตระกูลหวงได้ นางลงทุนลงแรงไปไม่น้อย อีกอย่างนางไม่ยอมให้บรรดาบุตรของนางต้องด้อยไปกว่าหวงหยางหมิงอย่างแน่นอน

   ระหว่างที่ทั้งคู่สนทนากันอยู่นั้น ไม่ได้รับรู้เลยว่าคำพูดที่พวกนางพูดคุยกันได้ถ่ายทอดให้อีกบุคคลฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่คำเดียว

   หวงหยางหมิงที่สวมเสื้อผ้าไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไรนัก เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ชุดที่มัดไม่เรียบร้อยทำให้ท่อนบนเห็นแผ่นอกที่เปลือยเปล่า ดวงตาเข้มจ้องมองดูพระจันทร์ที่ส่องแสงทั่วนภา มือหนึ่งข้างกำลังถือจอกสุราส่วนอีกข้างก็พาดไว้ที่ขอบเก้าอี้อย่างเกียจคร้านขณะที่กำลังนั่งฟังรายงานจากองครักษ์ของตนเอง

“ท่านแม่ทัพจะทำเช่นไรต่อไปหรือขอรับ” องครักษ์เอ่ยถามนายของตนเองหลังจากที่รายงานเรื่องทุกอย่างให้ฟังเรียบร้อยแล้ว

หวงหยางหมิงหลับตาลงอย่างเกียจคร้าน แม้ว่ามือข้างหนึ่งจะถือจอกสุราอยู่แต่ก็ไม่ยอมปล่อย

“จะฆ่าทิ้งคงจะไวเกินไป อีกอย่างนางก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของบิดาข้า แม้ว่านางจะไม่ชอบข้าแต่นางก็ยังทำหน้าที่ภรรยาและฮูหยินของจวนได้ดี คงรักบุตรชายตนเองมากเกินไปถึงทำเช่นนี้...”

“แล้วท่านแม่ทัพ....”

“ปล่อยไปก่อน ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าสตรีที่นางแต่งมาให้ข้าจะมีความสามารถขนาดไหน อีกอย่างตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ”

มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นอย่างอดมิได้ เมื่อคิดถึงเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องทำในไม่ช้า

หลายวันต่อมา....

   เซียวเหม่ยอิงออกมาตรวจกิจการของตระกูลตนเอง ปกติแล้วนางจะมีหลงจู๊ที่ไว้วางใจช่วยดูแลกิจการต่าง ๆ ของนางได้เป็นอย่างดี ทำให้นางไม่ต้องคอยออกมาตรวจเท่าใดนัก มีเพียงครั้งคราวเท่านั้นหรือหากรู้สึกเบื่อหน่ายเซียวเหม่ยอิงถึงจะมา

   ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในร้านอาหารของตนเอง ก็พบกับน้องสาวของนางที่กำลังพากันทานอาหารกันอยู่กับเหล่าบรรดาสหาย เซียวเหม่ยอิงถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้

   น้องสาวของนางเป็นคนจิตใจดีชาวบ้านชาวเมืองนั้นรับรู้ได้ เพราะเซียวลี่หงชอบนำอาหารที่ร้านไปแจกทานแก่คนจนคนจรโดยมีบรรดาสหายของนางไปร่วมด้วย ครั้งนี้เองก็เช่นกัน นางกับบรรดาสหายคงเพิ่งกลับมาจากแจกทาน ถึงได้พาสหายมานั่งทานอาหารเช่นนี้

หลงจู๊เห็นเซียวเหม่ยอิงมาที่ร้านก็มีสีหน้าหนักใจ รีบเดินเข้ามาหาเซียวเหม่ยอิงทันที

“คุณหนูใหญ่ขอรับ เอ่อ...คุณหนูเล็ก...”

“ไม่เป็นไรท่านลุงฉี ให้หงเอ๋อร์กับสหายทานอาหารเหมือนเช่นเคยเถิดเจ้าค่ะ”

ฉีห่าวอี้หรือหลงจู๊ประจำร้านแห่งนี้ เขาทำหน้าที่ของตนได้อย่างขยันขันแข็งไม่ขาดตกบกพร่อง เขียนรายงานและสรุปยอดขายที่เกี่ยวกับร้านไม่ตกหล่นรวมถึงเรื่องที่เซียวลี่หงทำ ฉีห่าวอี้ก็เขียนลงบัญชีด้วยเช่นกันแม้ว่าตระกูลเซียวจะร่ำรวยแต่เซียวเหม่ยอิงก็ไม่ปล่อยปละละเลยเรื่องเงินทองในส่วนที่ควรเป็นกำไรของตระกูล กำไรจากการค้ากิจการนั้นจะเข้าคลังกองกลาง ทำให้บ่อยครั้งที่เซียวเหม่ยอิงต้องยอมควักเงินตำลึงของตัวเองที่ได้จากเบี้ยหวัด ใส่เข้าไปในกองกลางแทนกำไรที่ขาดหายไปจากการกระทำของเซียวลี่หงน้องสาวของตนเอง

   หลังจากดูความเรียบร้อยภายในร้านแล้ว เซียวเหม่ยอิงก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเพื่อไปตรวจบัญชีที่หลงจู๊ได้ทำไว้ ขณะที่นางกำลังจะเดินขึ้นบันได ก็มีเสียงที่คุ้นเคยทักนางเสียก่อน

“พี่ใหญ่... ท่านมาถึงนานหรือยังเจ้าคะ” เป็นเซียวลี่หงที่เอ่ยทัก นางยืนอยู่ตรงกลางบรรดาสหายของตน

“ข้าเพิ่งมาถึง ว่าจะขึ้นไปตรวจบัญชีเสียหน่อย” เซียวเหม่ยอิงยิ้มให้น้องสาวของตนเอง กำลังจะก้าวขึ้นบันได ทว่าโดนมือน้องสาวตัวเองฉุดดึงไว้เสียก่อน

“ท่านพี่ ท่านอย่าตำหนิข้าเลยนะ ที่ข้าพาสหายมาที่ร้านของเรา เพราะพวกนางช่วยข้าแจกทานแก่ผู้ยากไร้ ข้าเลยอยากเลี้ยงอาหารพวกนางเพื่อเป็นการขอบคุณ”

   บรรดาคนที่ได้ยินต่างพากันรู้สึกเห็นใจเซียวลี่หง เพราะน้ำเสียงของนางไม่สู้ดีเท่าใดนัก ต่างจากเซียวเหม่ยอิงที่ถอนหายใจรอบแล้วรอบเล่ากับคำพูดน้องสาวตนเอง คำพูดนางช่างดึงดูดให้คนสงสารเก่งเสียจริง

   เซียวเหม่ยอิงเห็นว่าพวกนางเริ่มเป็นจุดสนใจของคนในร้าน นางก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองทันที โดยไม่ได้สนใจกลุ่มน้องสาวตนเลยแม้แต่น้อย เพราะนางคิดว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องราวให้คนอื่นฟัง

   นี่ฮวานั้นเป็นคนรักสหาย นางรู้สึกว่าเซี่ยวลี่หงกำลังหวาดกลัวก็เข้าไปกุมมือเป็นการปลอบพร้อมกับเอ่ยคำปลอบโยนสหายตนเอง

“หงเอ๋อร์พวกข้าขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้าต้องโดนพี่สาวเจ้าตำหนิ เป็นเพราะพวกข้าแท้ ๆ เลย”

เซียวลี่หงยิ้มบางให้สหายของตนเอง “ไม่ใช่ความผิดพวกเจ้าเสียหน่อย อีกอย่างท่านพี่ยังไม่ได้ตำหนิข้า พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”

“เจ้ายังปกป้องพี่สาวเจ้าอยู่อีกรึ ข้าว่าพี่สาวเจ้ากำลังไม่พอใจเจ้าอยู่เป็นแน่ ถึงได้เดินหนีไปเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าพอเจ้ากลับไปถึงจวนแล้วโดนพี่สาวเจ้าเรียกไปตำหนินะ”

เซียวลี่หงได้แต่มองไปยังชั้นสอง ชั้นที่พี่สาวนางเดินขึ้นไป ก่อนจะหันมาคุยกับสหายของตัวเอง

“ไปเดินเล่นกันเถิด”

   ทุกคนยอมตามเซียวลี่หงไปแต่โดยดี ไม่ได้พูดหรือเอ่ยถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้ว หากเซียวลี่หงไม่อยากเอ่ยให้ฟัง พวกนางก็ไม่ซักไซ้ถามต่อเช่นกัน เพราะไม่อยากให้เซียวลี่หงรู้สึกไม่ดีจนเกินไป

   ตั้งแต่ที่ไปตรวจร้านค้าในวันนั้น ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์ที่เซียวเหม่ยอิงไม่ได้ออกไปไหน นางยังคงนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาเช่นเคย

   ขณะที่เซียวเหม่ยอิงกำลังนั่งจิบชาเพื่อฆ่าเวลา เพราะอีกไม่กี่ชั่วยาม นางต้องไปเตรียมมื้อเย็นให้บิดามารดาของตัวเอง เซียวเหม่ยอิงกำลังจิบชาเพลิน ๆ อยู่นั้น ลี่จินก็วิ่งมาหาคุณหนูของตนด้วยสีหน้าที่แตกตื่น

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูมีราชโองการมาเจ้าค่ะ” ลี่จินที่วิ่งมาหายใจด้วยความลำบาก

เซียวเหม่ยอิงได้ยินว่ามีราชโองการมายังจวนก็รีบเดินไปยังเรือนรับรองทันที เดินมาถึงก็เห็นว่าบิดามารดาและน้องสาวตนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว พร้อมกับมีรถม้าของพระราชวังจอดอยู่หน้าจวน เซียวเหม่ยอิงก็เดินเข้าไปใกล้ ๆ บิดามารดาทันที

กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน

“ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...”

Related chapters

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 5 ราชโองการ

    กงกงท่านหนึ่งเดินมาพร้อมกับพานที่มีพระราชโองการมาด้วย กงกงกางราชโองการนั้นออกมาพร้อมกับอ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน"ตระกูลเซียวรับพระราชโองการ...เซียวฟู่ซินนั้นดำรงตำแหน่งด้วยความชอบธรรม ทั้งยังสั่งสอนบุตรสาวทั้งสองคนให้รู้จักทำความดี มีคุณธรรม เมตตาต่อผู้อื่น มีคุณสมบัติครบถ้วนในสิ่งที่สตรีพึงมี ข้าขอมอบสมรสพระราชทานแก่บุตรสาวของตระกูลเซียวกับแม่ทัพหวงหยางหมิงนับจากนี้อีกสามเดือน จบราชโองการ" หลังจากที่กงกงอ่านพระราชโองการจบแล้ว เซียวฟู่ซินก็ยื่นมือไปรับพระราชโองการด้วยใบหน้าที่แข็งค้างกับเนื้อหาในพระราชโองการที่องค์ฮ่องเต้มอบให้ตน “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปี” หลังจากที่กงกงมอบราชโองการให้แล้วเสร็จก็เดินขึ้นรถม้ากลับวังหลวงทันที เพราะภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายมาได้บรรลุเรียบร้อยแล้ว คล้อยหลังกงกงจากไป เซียวลี่หงทรุดลงกับพื้นทันที ดวงตางามเก็บน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้ยินราชโองการ นางเอื้อมมือไปจับแขนมารดาตัวเองที่ยืนอยู่ข้างๆ“ท่าน.... ทะ ท่านแม่” น้ำเสียงสั่นปนสะอื้นฟางเหนียงรีบโอบกอดบุตรสาวทันที บุตรสาวที่น่ารักของนางเหตุใดถึงน่าสงสารถึงเพียงนี้“โถ่...ห

    Last Updated : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 6 ตัดสินใจ

    “หงเอ๋อร์เจ้าอย่าทำตัวเป็นเด็ก นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทำตามอำเภอใจได้! เจ้าเตรียมตัวเตรียมใจออกเรือนในอีกสามเดือนเสีย!” เซียวฟู่ซินเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เซียวลี่หงถูกตามใจจนเคยตัวถึงได้มีกิริยาเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจจะตามใจบุตรสาวอย่างที่เคยทำ เพราะหากขัดก็ถือว่าเป็นกบฏแผ่นดิน ถึงแม้ว่าในพระราชโองการไม่ได้ระบุว่าเป็นเซียวเหม่ยอิงหรือเซียวลี่หง แต่ผู้ใดต่างก็รู้ดีว่าคนที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงคือเซียวลี่หง เพราะเซียวเหม่ยอิงนั้นมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านยอมให้ข้าแต่งกับชายผู้นั้นจริงหรือเจ้าคะ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นเช่นไรก็ไม่มีผู้ใดรู้ หากอัปลักษณ์อย่างที่ผู้อื่นบอก ข้า...ข้า” เซียวลี่หงเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางตัดพ้ออย่างน่าสงสารเหตุการณ์ที่เหมือนจะสงบลง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ เซียวลี่หงดึงปิ่นปักผมที่ปักอยู่มวยผมมาจี้คอตัวเองด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว“หากท่านพ่อท่านแม่ให้ข้าไปแต่งงานกับแม่ทัพปีศาจอัปลักษณ์นั่น ข้าขอฆ่าตัวตายตอนนี้เสียดีกว่า!”เซียวลี่หงตัดสินใจแล้ว หากให้นางออกเรือนกับชายที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากจ

    Last Updated : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 7 จัดเตรียม

    หลังจากเกิดความวุ่นวายมาหลายวัน ความสงบสุขก็กลับมาสู่จวนตระกูลเซียวอีกครั้ง “อิงเอ๋อร์ ขอบใจเจ้ามากที่เจ้าเห็นแก่ตระกูลและน้องของเจ้า หาไม่แล้ว” ทุกครั้งยามหลับตา เซียวเหม่ยอิงยังได้ยินคำพูดในวันนั้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ กลับมาถึงเรือนลี่จินเองร้องไห้ไม่หยุด เพราะสงสารคุณหนูตัวเอง เซียวเหม่ยอิงนั้นได้แต่ปลอบสาวใช้ตนพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เป็นแบบนี้ดีแล้วลี่จิน...” ใช่... แบบนี้น่ะดีแล้ว นางคิดแล้วว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ครอบครัวไม่ต้องโทษข้อหาเป็นกบฏ อีกอย่างแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ความโหดเหี้ยมที่ผู้คนเล่าลือก็มาจากสนามรบทั้งนั้น ที่หวงหยางหมิงทำไปทั้งหมดเพราะต้องปกป้องบ้านเมือง เซียวเหม่ยอิงนั่งหลับตาคิดถึงเรื่องราวตอนที่นางเอ่ยปากขอบิดามารดาแต่งงานด้วยตนเอง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าขอแต่งงานกับแม่ทัพหวงหยางหมิงเองเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็พากันตกตะลึงและตกใจไปตาม ๆ กัน เซียวเหม่ยอิงจึงได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะว่าหลี่ซื่อหมินได้มาถอนหมั้นกับนางแล้ว ในเมื่อเ

    Last Updated : 2025-01-14
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 8 แต่งงาน

    พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดที่ต้องออกเรือน ตอนนี้จวนตระกูลเซียวกำลังยุ่งอยู่กับเตรียมสินเดิมให้กับคุณหนูใหญ่เซียวเหม่ยอิงนั่งมองชุดแต่งงานสีแดงที่วางอยู่บนเตียงนอนด้วยความรู้สึกที่หลากหลายพรุ่งนี้แล้วที่นางจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วที่นางจะต้องได้ออกจากจวนนี้พรุ่งนี้แล้วที่นางจะเป็นฮูหยินเอกเซียวเหม่ยอิงไม่อาจรับรู้ได้ว่าจวนของท่านแม่ทัพจะเป็นเช่นไรเขาจะดีกับนางเหมือนอย่างที่เขาให้สัญญาในวันนั้นได้หรือไม่'ข้าให้สัญญาในฐานะแม่ทัพ ข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า และไม่บังคับจิตใจเจ้าเช่นกัน'คำพูดและสายตาจริงจังในวันนั้น เซียวเหม่ยอิงยังจดจำได้ดีร่างงามเดินออกจากเรือนตนเองไปยังเรือนใหญ่ เพื่อไปหามารดาของตนเอง พอเดินเข้าไปก็เห็นมารดาและน้องสาวของตนนั่งอยู่ด้วยกัน นางคารวะมารดาตนเอง ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ“พรุ่งนี้ก็ได้แต่งงานแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่” ฟางเหนียงเอ่ยถามบุตรสาวตนเอง“ไม่เท่าใดเจ้าค่ะ” ใบหน้างามยกยิ้มเล็กน้อย ต่างจากเซียวลี่หงที่มีสีหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก“ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” พูดจบเซียวลี่หงก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที“เฮ้อ สงสัยนางจะทำใจไม่ได้ที่เจ้าแต่งงานแบบนี้” ฟางเหนียงได้แต่ถอนหายใจกับการกระทำขอ

    Last Updated : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 9 เข้าหอ (NC18+)

    ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เซียวเหม่ยอิงเองก็ไม่กล้าสู้หน้าสามีตนเองในตอนนี้เพราะมันน่าอายเกินไป นางทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าขยับร่างกาย เพราะตอนนี้นางรับรู้ได้ว่าบั้นท้ายของนางตอนนี้เหมือนกำลังถูไถกับอะไรบางอย่าง แม้เป็นสตรีในห้องหอ และไม่เคยเห็นภายในร่างกายของบุรุษแต่นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น ที่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูไถกับบั้นท้ายของนางอยู่นั้นคือสิ่งใด เพราะตอนแต่งงานแม่สื่อก็ได้มอบหนังสือที่เกี่ยวกับหน้าที่ภรรยามาให้นางหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือว่าต้องปรนนิบัติสามีอย่างไรและในนั้นเองก็มีภาพวาดให้ดูเช่นกัน หวงหยางหมิงมองดูใบหูของเซียวเหม่ยอิงที่ตอนนี้กำลังแดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งไป เขาก็ค่อย ๆ คลายมือออกจากเอวของนาง แล้วเปลี่ยนเป็นเอาแขนตนนั้นพาดกับขอบสระแทน ทำให้เซียวเหม่ยอิงลดความเกร็งลงไปได้บ้าง เพราะความอุ่นของน้ำหรือความอุ่นของแผ่นอกที่อยู่หลังของนาง ทำให้เซียวเหม่ยอิงรู้สึกผ่อนคลายจนเอาหัวตัวเองพิงกับอกนั้นคล้ายกับว่าเป็นที่พักพิงอย่างไรอย่างนั้น แต่คนที่ตัวใหญ่กว่าตอนนั้นกำลังอดกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้เพราะ

    Last Updated : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   บทที่ 10 บรรยากาศที่เปลี่ยนไป

    ยามใกล้รุ่งของวันใหม่เซียวเหม่ยอิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากการหลับใหล แม้ว่าเมื่อคืนนางนอนเกือบใกล้ฟ้าสางก็ตาม อาจเป็นเพราะความเคยชินตอนอยู่ที่จวนเดิมทำให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชิน ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่นอนหันหน้ามาทางนาง ลมหายใจที่สม่ำเสมอหมายถึงกำลังหลับใหลอยู่ แต่ถึงกระนั้นก็ยังกอดนางไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้เช้าแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนจึงเริ่มพากันจุดคบเพลิงรอบเรือน แสงคบเพลิงที่ส่องสว่างภายนอกเรือนนั้นทำให้มีแสงแทรกเข้ามาภายใน จึงทำให้เซียวเหม่ยอิงได้เห็นใบหน้าที่ไร้หน้ากากปกปิดอีกครั้ง ขนตาที่เป็นแพราวกับสตรี จมูกโด่งสันเข้ากับปากหนา แต่ใบหน้าของนางต้องเห่อร้อนเมื่อเห็นร่องรอยตามร่างกายของสามีนาง คิดถึงค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้านางยิ่งเห่อร้อนจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะความเขินอาย ทุกอย่างเป็นเพราะหวงหยางหมิงปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ ถึงได้เกิดร่องรอยพวกนี้“ฮูหยินใช้สายตาหลอกกินเต้าหู้กับข้าตั้งแต่รุ่งสางเลยรึ?” น้ำเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งลืมตาตื่น ความจริงหวงหยางหมิงรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่คนในอ้อมกอดขยับร่างกายแล้ว เพราะสัญช

    Last Updated : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 11 กลับบ้านเดิม

    ยามเช้าที่เซียวเหม่ยอิงลืมตาตื่น นางรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไหร่นักเมื่อเห็นว่ามีบุรุษนอนอยู่ข้างกาย วันแรกที่อ้อมแขนเคยกอดนางไว้อย่างไร วันนี้ก็ยังคงกอดอยู่แบบนั้น แม้ไม่คุ้นชินแต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ขยับร่างกายออกจากอ้อมแขน เพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างกายที่ยังนอนหลับอย่างสบายใจ วันนี้เป็นวันที่นางและสามีต้องกลับบ้านเดิมเพื่อไปยกน้ำชาให้กับบิดามารดาทำให้นางต้องตื่นมาแต่งตัวเสียก่อน นางพยายามประคับประคองร่างกายตนเองให้ลุกจากเตียงนอน ขณะที่กำลังจะเดินออกไปตามลี่จินให้มาช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวนั้น ร่างของนางกลับถูกรวบขึ้นจากพื้นเสียก่อน“ว้าย! ท่านพี่ ท่านทำอะไรเจ้าคะ”เซียวเหม่ยอิงตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าสามีของนางนั้นตื่นตั้งแต่ตอนไหน ซ้ำตอนนี้ยังรวบตัวนางขึ้นมาอีก จนนางต้องเอามือคล้องคอสามีตัวเองไว้เพราะทั้งตกใจและกลัวตก“จะทำอะไรงั้นรึ? ข้าก็จะอาบน้ำให้อิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า” มุมปากหวงหยางหมิงยกขึ้นเล็กน้อย“ไม่...ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าให้ลี่จินอาบให้...”เซียวเหม่ยอิงยังพูดไม่จบ ก็โดนสามีที่เอาแต่ใจนั้นพูดแทรกขึ้นก่อน“ให้ผู้อื่นอาบให้ได้อย่างไร ข้าทำให้เจ้า

    Last Updated : 2025-01-15
  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 12 สายใยที่เบาบาง

    เซียวเหม่ยอิงรับรู้ได้ว่าสามีของนางอารมณ์ไม่ดีเท่าใดนักตั้งแต่ที่กลับมาจากบ้านเดิมของนาง แม้ว่าหวงหยางหมิงไม่แสดงอารมณ์นั้นให้นางเห็นแต่ก็พอจะรับรู้ได้ นางเงยหน้ามองดูคนที่กำลังโอบกอดนาง แต่ใบหน้ากลับเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง“ท่านพี่” หวงหยางหมิงได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานเรียกตนก็ดึงสติตนเองกลับมา เขามองดวงหน้างามที่กำลังสบตากับเขา พลันรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนอดใจไม่ไหวที่จะโน้มตัวไปจูบริมฝีปากที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกจากภวังค์ คนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นได้แต่ทำใจให้ชิน เพราะสามีของนางชอบกินเต้าหู้ไม่เว้นวันเลยจริง ๆ หลังจากที่หวงหยางหมิงจูบจนสมใจอยากแล้ว ก็ถอนริมฝีปากออกอย่างช้า ๆ มองใบหน้าภรรยาของตนก็เห็นว่ามีดวงหน้าที่แดงระเรื่อ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ภรรยาตัวน้อยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากจริง ๆ นิ้วยาวลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเล่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับตนให้คนเคียงข้างได้ฟัง“เพราะท่านพ่อเป็นขุนนางขั้นสูง ที่จวนข้าจึงมีฮูหยินเอก ฮูหยินรอง อนุและสาวใช้อุ่นเตียงเต็มจวน มีทั้งสตรีที่ได้มาจากราชโองการจากฮ่องเต้อย่างท่านแม่ข้าและความพึงพอใจของตัวท่านพ่อเ

    Last Updated : 2025-01-15

Latest chapter

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนพิเศษ

    “เจ้าคิดจะมีลูกกี่คนกัน?” องค์รัชทายาทเหลียงซินเผงอดถามสหายตนเองไม่ได้ เพราะหลังจากที่เซียวเหม่ยอิงคลอดบุตรคนแรกไปไม่ทันไร ตอนนี้สหายตัวดีของเขากำลังมีบุตรคนที่สองแล้ว “กระหม่อมเองก็ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้กระหม่อมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ กระหม่อมเพียงทำตามความต้องการฮูหยินตนเองเท่านั้น” คำตอบยียวนชวนโมโหทำเอาเหลียงซินเผิงมุมปากกระตุก มองดูคนที่กำลังทำสีหน้าภูมิใจอยู่ในตอนนี้ มุมปากของเขายิ่งกระตุกกว่าเดิม ความจริงเหลียงซินเผิงเองก็กำลังจะมีบุตรเป็นของตนเองเช่นกัน หลังจากที่ได้เข้าอภิเษกสมรสกับองค์หญิงถังซูลี่ไปเมื่อตอนปีที่แล้ว ซึ่งเดือนหน้าก็ครบกำหนดคลอดแล้ว เขาแค่รู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้าเท่านั้น ทั้งสองอ่านรายงานจากกองทัพต่าง ๆ ที่ส่งรายงานถึงความสงบเรียบร้อยตามที่ได้รับมอบหมาย เหลียงซินเผิงที่กำลังอ่านรายงานก็นึกอะไรบางอย่างออก“ไม่กี่วันก่อนข้าได้รับรายงาน ว่าน้องสาวของฮูหยินเจ้ามีชีวิตไม่สู้ดีเท่าใดนัก นางเย่อหยิ่งในตนเอง อีกทั้งไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งน้องสะใภ้ จึงถูกไล่ไปอยู่ท้ายตำหนัก เลวร้ายถึงขนาดแอบถูกวางยาขับเลือดทำให้นางต้องแท้งบุตรตนเอง”“แล้วท่านอ๋องเล่าพ่ะย่ะค่ะ”

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 30 โชคชะตา

    หลังจากเหตุการณ์ในตอนนั้นเซียวลี่หงได้แต่งเข้าไปในฐานะอนุภรรยาของท่านอ๋องสาม เพราะนางใช้แผนสกปรก อีกทั้งชื่อเสียงของนางไม่มีดีเลยแม้แต่น้อย ชาวบ้านต่างพูดเรื่องนี้ราวกับว่าเป็นนิทานเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ พระชายาจึงให้นางเข้ามาในฐานะอนุภรรยาเท่านั้น และหลังจากที่จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านอ๋องสามและพระชายาก็ได้ออกเดินทางไปยังเมืองอู่ตามพระบัญชาขององค์ฮ่องเต้ รวมทั้งเซียวลี่หงเองก็ต้องเดินทางไปด้วยเช่นกัน เพราะการไปเมืองอู่ในครั้งนี้เป็นการไปแบบถาวรไม่มีวันกลับมา จวนแม่ทัพหวงหยางหมิง เซียวฟู่ซินและฟางเหนียงเดินทางมาหาบุตรสาวของตนเองอีกครั้ง เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้าพวกเขาก็จะไปจากเมืองหลวงแล้ว ฟางเหนียงได้ยื่นสมุดหลายเล่มให้บุตรสาวตนเอง“นี่คือร้านค้าที่เหลืออยู่ แม่ฝากเจ้าดูแลต่อด้วยนะอิงเอ๋อร์” ตอนนี้เซียวลี่หงแต่งออกไป สินเดิมของนางมีแค่พวกสิ่งของและเงินทอง ฟางเหนียงไม่ได้ใส่ร้านค้าพวกนี้ไปเป็นสินเดิมให้นางด้วย เพราะอย่างไรเซียวลี่หงก็ไม่สามารถดูแลพวกนี้ได้ เซียวฟู่ซินและฟางเหนียงนั้นตัดสินใจกันแล้วว่ากิจการเหล่านี้ควรมอบให้เซียวเหม่ยอิง บุตรสาวที่พวกเขาไว้ใจว่านางจ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 29 ตลบหลัง

    “เกิดเหตุอันใดรึ?” เซียวฟู่ซินเพิ่งมาถึงจวนของหวงหยางหมิง เนื่องจากตนต้องไปรายงานงานราชการกับฮ่องเต้ทำให้ไม่ได้มาร่วมงานด้วยตั้งแต่แรก แต่พอเดินทางมาถึงจวน ก็ได้พบเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย“จะอะไรอีก ก็บุตรสาวคนรองของท่านพลอดรักกับท่านอ๋องสามที่เรือนรับรองแขกน่ะสิ”เซียวฟู่ซินได้ยินแบบนั้นถึงกับแข็งค้างไปต่อไม่ถูก เพราะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน“ท่าน...ท่านว่าอะไร!” เซียวฟู่ซินถามย้ำอีกครั้ง บุตรสาวคนรองของเขาหมายถึงเซียวลี่หงน่ะรึ แต่คนอย่างเซียวลี่หงนั้นหรือจะไปคลุกคลีหรือชอบพอกับอ๋องสาม ผู้ใดบ้างที่ไม่รู้จักนิสัยใจคอของอ๋องคนนี้ว่าเป็นอย่างไร อีกทั้งพระชายาของท่านอ๋องสามเองก็ปากคอเราะรายยิ่งนัก วาจาของนางนั้นไม่เคยไว้หน้าผู้ใดและนิสัยใจคอของนางเองก็ร้ายกาจไม่ต่างกัน “ไปดูให้เห็นกับตาเถิด แต่ข้าว่าท่านรีบไปจะดีกว่าตอนนี้พระชายาของอ๋องสามก็อยู่ด้วยเช่นกัน” เซียวฟู่ซินได้ยินอย่างนั้นก็ไม่รอช้า เขารีบวิ่งตามคนในงานไปยังจุดเกิดเหตุทันที พอไปถึงก็พบกันผู้คนมากมายที่ยืนเรียงรายเต็มเรือนเพี้ยะ!“เลว! กล้าใช้วิธีนี้กับท่านอ๋อง เจ้าเป็นสตรีนิสัยต่ำทรามยิ่งนัก!”

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 28 แผนการ

    เหลียงซินเผิงมองคนที่กำลังทำสีหน้าที่น่ากลัวถึงกับต้องเอ่ยปากถาม“เหตุใดเจ้าถึงได้ยิ้มได้น่ากลัวเช่นนี้ แล้วกำลังมองอะไรอยู่รึ?” เหลียงซินเผิงมองตามหวงหยางหมิง ก็เห็นเป็นบุรุษคนหนึ่งที่กำลังมึนเมา“อ๋องสาม? อ๋องสามทำอะไรเจ้างั้นรึ” เหลียงซินเผิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ “กระหม่อมน่ะรึจะกล้าไปขัดใจเชื้อพระวงศ์ พระองค์กล่าวหนักเกินไปแล้ว” ใบหน้าเหลียงซินเผิงไม่มีความเชื่อในคำพูดของหวงหยางหมิงเลยแม้แต่น้อย คนอย่างเจ้านี่น่ะรึจะเกรงกลัวผู้ใด ต่อให้คนนั้นเป็นอ๋อง หากทำผิดกฎแล้ว เจ้ารายงานเสด็จพ่ออย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ครั้งหนึ่งเคยมีน้องร่วมบิดาของเขาไปอาละวาดที่โรงเตี้ยมแล้วใช้อำนาจข่มคนในนั้น หวงหยางหมิงกำลังนั่งดื่มน้ำชาซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ก็จัดการตามกฎทันที จนทำให้น้องของเขาวิ่งมาฟ้องเสด็จพ่อว่าถูกรังแก เสด็จพ่อก็ได้ให้คนไปเรียกหวงหยางหมิงเพื่อสอบถามความจริงที่เกิดขึ้น เหมือนหวงหยางหมิงจะรู้ว่าถูกเรียกมาพบเพราะสาเหตุอะไร ก็ได้พาพยานที่โรงเตี้ยมมาด้วย เมื่อเสด็จพ่อได้รู้ความจริงจากปากหวงหยางหมิงแล้ว ก็ได้สั่งโบยพระโอรสของตนเองที่ทำเรื่องน่าอับอายอีกทั้งยังใช้อำนาจข่มขู่ประชาชนใ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 27 เทียบเชิญ

    จวนแม่ทัพหวงหยางหมิง“พวกนั้นกำลังเคลื่อนไหวขอรับ” จางชิงรายงานถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ให้นายของตนได้ฟัง หลังจากที่ทุกจวนได้รับเทียบเชิญร่วมแสดงความยินดีจากจวนแม่ทัพหวงหยางหมิง แล้วก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ นิ้วชี้หวงหยางหมิงเคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด สายตาของเขาจ้องไปทางหน้าต่าง เพราะข้างนอกนั้นเซียวเหม่ยอิงกำลังดื่มของบำรุงร่างกายกับองค์หญิงถังซูลี่อย่างมีความสุข“ข้าคงต้องกำจัดขยะให้หมดเสียตอนนี้ จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำอะไรกับเมียและลูกของข้า” หวงหยางหมิงพูดขึ้นแต่นิ้วยังเคาะโต๊ะทำงานอยู่เช่นเดิม“แต่ข้าไม่ต้องการให้จวนข้าเปื้อนเลือด ลูกข้าที่กำลังจะเกิดมาต้องมีแต่สิ่งบริสุทธิ์รอบตัว...จางชินเข้าใจที่ข้าพูดใช่หรือไม่?” แม้ว่าใบหน้าจะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ส่งให้กับฮูหยิน ทว่าน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร จางชินได้แต่ก้มหน้าน้อมรับคำสั่งจากนายตนเองอย่างเชื่อฟัง ภายในใจเขานั้นได้แต่ไว้อาลัยให้คนเหล่านั้นที่รนหาเรื่องใส่ตนเอง ทางด้านผิงอัน อนุของแม่ทัพหวงหยางหมิงกำลังอ่านจดหมายที่นางได้รับการตอบกลับมา“อี๋เหนียงเจ้าคะ อี๋เหนียงจะยอมร่วมมือกับคุณหนูเซียวจริงหรือเจ้าคะ” สา

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 26 อาการบางอย่าง

    หวงหยางหมิงเป็นพวกไม่คิดจะรักษาหรือเสียเวลาพูดหว่านล้อมกับคนที่มาทำนิสัยไร้มารยาทกับเขาอยู่แล้ว ทั้งคู่เดินจากไปโดยไม่ได้สนใจคนที่ผู้คนที่ยืนมองดูเหตุการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย เซียวลี่หงรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จ้องมาที่นาง สายตาหลายคู่ที่มองมานั้นเต็มไปด้วยสายตาตำหนิให้กับการกระทำของนาง ร่างงามถึงกับทรุดลงกับพื้นดินเพราะรับความอับอายนี้ไม่ไหว เพียงแค่พริบตาเดียว ไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะกลายเป็นเช่นนี้ ครั้งหนึ่งเคยมีความคิดว่าต้องการอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาท เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้าฝัน มันใกล้เคียงอำนาจที่สุดแล้ว ทว่าตำแหน่งพระชายานั้นไม่ได้เว้นว่างไว้ เพราะถูกกำหนดไว้แล้วด้วยองค์หญิงต่างแคว้น ตัวเซียวลี่หงนั้นต้องการเป็นที่หนึ่ง นางจึงต้องถอยออกมาใหม่ แต่พอได้ยินเรื่องบุรุษปริศนาจากสหาย จุดนั้นทำให้นางสนใจ และพอได้มาเห็นใบหน้าจริง ๆ นางก็เฝ้าคอยและภาวนามาโดยตลอด มันเป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกหัวใจเต้นแรงให้กับบุรุษที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามหรือชาติตระกูล ตอนที่เห็นใบหน้าแท้จริงของหวงหยาง หมิงนั้น ภายในใจก่อเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้ว บุรุษผ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 25 ขึ้นทำการแสดง

    แม่ทัพหวงหยางหมิงและเซียวเหม่ยอิงนั้นไม่ได้สนใจสายตาหรือคำพูดที่แว่วมาให้พวกเขาได้ยินเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเหล่าเชื้อพระวงศ์เข้ามาในงาน“ขอฮ่องเต้ทรงพระเจริญ หมื่นปีหมื่นหมื่นปี”“ขอฮองเฮาทรงพระเจริญ พันปีพันพันปี”“ตามสบายเถิด”“ขอบพระทัยฝ่าบาท”หลังจากที่ทุกคนทำความเคารพเรียบร้อยแล้ว งานเลี้ยงก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ เหล่านักดนตรีและนางรำของวังหลวงต่างพากันออกมาแสดงผู้คนได้ชื่นชม“อาอิง”เซียวเหม่ยอิงกันไปหาคนที่เรียกนาง ก็เห็นเป็นองค์หญิงถังซูลี่ที่กำลังเดินมาหา“องค์หญิง” เซียวเหม่ยอิงยิ้มให้คนที่กำลังเดินมา ถังซูลี่นั้นไม่รอช้า นางรีบเดินเข้าไปกุมมือสหายของตนด้วยความคิดถึงทันที เพราะตั้งแต่มาที่นี่ นางและเซียวเหม่ยอิงก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันอย่างเคย เพราะถังซูลี่นั้นวุ่นวายกับตำหนักของตนเองต้องจัดเตรียมอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้พวกนางนั้นไม่ได้ไปมาหาสู่กันเหมือนอย่างที่อยู่แคว้นมู่ การสนิทสนมของทั้งคู่ยิ่งทำให้เป็นที่จับตามองของผู้คนในงาน ผู้ใดบ้างจะไม่รู้ว่าองค์หญิงถังซูลี่เป็นพระคู่หมั้นขององค์รัชทายาทเหลียงซินเผิง และอีกไม่นานก็จะอภิเษกสมรสกันตามธรรมเนียม หรือก็คือองค์หญิงแคว้นมู่

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 24 ใบหน้าที่แท้จริง

    “ท่านพี่จะถอดหน้ากากจริง ๆ หรือเจ้าคะ” เซียวเหม่ยอิงถามหวง หยางหมิงขณะที่กำลังแต่งตัวให้สามี“ทำไมรึ? หรือว่าเจ้าหึงหวงข้า?”“ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นเจ้าค่ะ”“แค่อิงเอ๋อร์บอกว่าหึงหวงข้า ข้าก็พร้อมที่จะกลับไปใส่หน้ากากเช่นเดิมแล้ว” เซียวเหม่ยอิงมองดูใบหน้าที่ยียวนกวนประสาทนาง ฝ่ามือถึงกับกระตุกฟาดลงที่ท่อนแขนหนาอย่างอดไม่ได้เพี้ยะ!“โอ๊ย! ยอมแล้ว ๆ”หวงหยางหมิงถึงกับร้องเสียงหลงเพราะถูกฮูหยิน ของตนนั้นฟาดเข้าที่ท่อนแขนอย่างจัง ความจริงแล้วหวงหยางหมิงนั้นไม่รู้สึกเจ็บเท่าใดนัก แต่ที่ร้องออกไปเพื่อไม่ให้เซียวเหม่ยอิงตีซ้ำเป็นรอบที่สอง เพราะเขากลัวว่ามืองาม ๆ ของนางนั้นจะบอบช้ำต่างหาก หวงหยางหมิงนั้นไม่พูดเปล่า เขาดึงตัวเซียวเหม่ยอิงมากอด พร้อมกับอธิบายถึงเหตุผลที่ตนนั้นจะไม่ใส่หน้ากากอีกต่อไป“ข้าแค่คิดว่าแต่นี้ต่อไป คงไม่จำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอีกต่อไปแล้ว...” หวงหยางหมิงเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของฮูหยินตนเองพร้อมกับพูดต่อ“อิงเอ๋อร์อย่ากังวลไปเลย อย่าลืมว่าข้าได้พระราชโองการนั้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครสามารถบังคับข้าได้ แม้แต่ฝ่าบาทเองก็เช่นกัน” เซียวเหม่ยอิงเข้าใจ

  • ชะตารักฮูหยินจำเป็น   ตอนที่ 23 กลับเมืองหลวง

    “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องทำได้เพราะอาอิงของข้าเก่งขนาดนี้” องค์หญิงถังซูลี่กล่าวด้วยความดีใจปนเอ็นดู ทันทีที่ถังซูลี่ได้รับรายงานจากคนรับใช้ที่นางให้ไปช่วยเหลือเซียวเหม่ยอิง ว่าสหายของนางนั้นหาทางแก้พิษได้สำเร็จแล้วก็รีบเดินทางมาพร้อมเหลียงซินเผิงที่เรือนรับรองของทั้งคู่ทันที“องค์หญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ อิงเอ๋อร์ของกระหม่อมเก่งมากจริง ๆ " เหลียงซินเผิงถึงกับหลุดหัวเราะออกมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดจากปากสหายตนเอง เพราะแต่ละฝ่ายต่างพากันแย่งชิงในตัวเซียวเหม่ยอิงทั้งนั้นหวงหยางหมิงเจ้าหึงหวงภรรยาเจ้าเกินไปแล้ว“ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะความเมตตาจากองค์หญิงเพคะ” ที่เซียวเหม่ยอิงพูดนั้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย หากไม่ได้องค์หญิงถังซูลี่สอนทางด้านพิษและสมุนไพรยาต่าง ๆ ที่ถังซูลี่หามาให้ นางและสามีคงไม่มีวันนี้อย่างแน่นอน ถังซูลี่ได้ยินอย่างนั้น นางก็กุมมือเซียวเหม่ยอิงอย่างอ่อนโยน“เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว ข้าเคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เป็นสหายกันอย่าได้ถือเป็นบุญคุณเลย” เซียวเหม่ยอิงมองถังซูลี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ เกิดมาจนป่านนี้เพิ่งรู้คำว่า 'สหาย' ที่แท้จริงเป็นอย่า

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status