บทที่ 3 เขินอาย
บ้านใต้เท้าโจ
วันนี้อากาศช่างสดใส ลมพัดเย็นสบายหลิ่งฟู่กับท่านแม่ของนางช่วยกันทำขนมไว้ทานเล่น หลิ่งฟู่นางมักจะทำอาหารอร่อยแม้จะเป็นบุตรสาวของใต้เท้าแต่ท่านแม่ของนางก็มักจะสอนให้นางเก่งทุกอย่างภายในบ้านเพื่อวันหนึ่งนางมีครอบครัวจะได้ไม่ขาดตกบกพร่องเอาได้
“ท่านแม่ ขนมฝีมือท่านแม่อร่อยมากๆ เลยเจ้าค่ะ ข้าชอบมากๆ เมื่อไหร่ที่ท่านแม่ทำ ดูพุงน้อยๆ ของข้าสิเจ้าคะ ตอนนี้บวมเบ่งอย่างกับมีเด็กอยู่ด้านใน ฮาฮ่า” คำพูดคำจาของหลิ่งฟู่ที่ออดอ้อนประจบประแจงแม่ของนางจนทำให้ท่านแม่เอามือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู
“เจ้านี่ก็ช่างพูดเหลือเกินนะหลิ่งฟู่ เอานี่ขนมเอาไปให้ท่านพ่อเจ้าที เห็นว่าวันนี้ท่านจวิ้นอ๋องมาหาที่ห้องทำงานซูฮวาส่วนเจ้าก็เอาน้ำชานี่เดินตามคุณหนูของเจ้าไปด้วย”
หลิ่งฟู่ได้ยินผู้ใดมาเยือนนางรีบลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ดูสะอาดตาและหันไปถามท่านแม่ของตนว่าตอนนี้ใบหน้าของนางดูดีหรือไม่
“ท่านแม่ใบหน้าของข้ามีอันใดติดอยู่หรือไม่ ซูฮวาเจ้าดูเสื้อผ้าให้ข้าทีมีตรงไหนที่หลุดลุ่ยหรือไม่”
ท่านแม่ของนางถึงกับหัวเราะออกมาในความใส่ใจเมื่อเห็นลูกสาวของตนตื่นเต้นดีใจเมื่อจะได้เห็นจวิ้นอ๋องใกล้ๆ ช่างเหมือนนางตอนเป็นสาวยิ่งนัก
“คุณหนูของข้างามมากเจ้าค่ะ แต่คุณหนูต้องสำรวมกิริยานิดหน่อยนะเจ้าคะ”
“แม่ก็ว่าเช่นเดียวกันกับซูฮวานะ ทุกอย่างบนร่างกายของเจ้าดูดีอยู่แล้ว แต่เจ้าต้องสำรวจกิริยาอย่าทำให้ท่านพ่อของเจ้าขายหน้าเชียวล่ะ” ทุกคนต่างพากันหัวเราะชอบใจ หลิ่งฟู่นางมีกริยาที่ต่างจากบุตรสาวบ้านอื่นแม้ว่านางจะทำทุกอย่างเก่งแต่ทว่านางไม่ค่อยความเป็นกุลสตรีสักเท่าไหร่ นางมักจะเป็นคนที่เอาแต่ใจตนเองเพราะถูกเลี้ยงมาอย่างดี
“ท่านแม่ ข้าเองก็รู้ว่าสิ่งไหนข้าควรทำไม่ควรทำ ซูฮวาไปกันเถอะ “หลิ่งฟู่เดินถือถ้วยขนมเข้าไปหาท่านพ่อของนางที่ห้อง นางพยายามสำรวมกิริยาอย่างที่ท่านแม่สอนอย่างดีเพื่อให้จวิ้นอ๋องได้เห็น
“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าหลิ่งฟู่ขอเข้าไปนะเจ้าคะท่านแม่ให้ข้านำขนมมาและน้ำชามาให้ท่านพ่อกับแขกของท่านเจ้าค่ะ”
เมื่อมาถึงหน้าห้องนางจึงบอกท่านพ่อเพื่อให้เป็นมารยาทเพราะท่านพ่ออาจจะคุยเรื่องสำคัญกันอยู่
“หลิ่งฟู่รึ เข้ามาสิพอเลยข้ากำลังจะให้บ่าวรับใช้ไปตามเจ้าพอดี”
หลิ่งฟู่เดินเข้ามาก้มหน้าและวางถ้วยขนมลงบนโต๊ะและหันไปรับน้ำชาจากซูฮวามาวางไว้ข้างๆ กัน
“หลิ่งฟู่ นี่ท่านจวิ้นอ๋อง”
หลิ่งฟู่เงยหน้าขึ้นยิ้มอ่อนๆ อย่างเหนี่ยมอายก่อนจะย่อตัวลงเพื่อเป็นการทักทายกับคนตรงหน้า
“ข้าหลิ่งฟู่คาระวะท่านจวิ้นอ๋องเพคะ”
จวิ้นอ๋องที่เฝ้าคิดถึงนางอยู่แล้วเมื่อมาเห็นนางในฝันใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้เขาหลงรักนางมากกว่าเดิม
“ช่างงดงามยิ่งนักไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือกิริยา สมแล้วที่จะมาเป็นพระชายาของข้า” จวิ้นอ๋องพยุงตัวของหลิ่งฟู่ขึ้นเพื่อไม่ให้นางคำนับต่อเขา
“หลิ่งฟู่ที่ท่านจวิ้นอ๋องมาวันนี้ พ่อเองก็มีเรื่องแจ้งต่อเจ้านี่คือราชโองการของฝ่าบาทให้เจ้าเข้ารับตำแหน่งพระชายาของจวิ้นอ๋อง ในอีก 3วัน”
แม้ในใจหลิ่งฟูอยากตะโกนกรี๊ดออกมาอย่างเต็มอก แต่ตอนนี้นางต้องคุมจิตใจของตนให้นิ่งเข้าไว้
“ข้าหลิ่งฟู่น้อมรับราชโองการเพคะ” หลิ่งฟูยิ้มกริ่มก่อนจะโค้งคำนับราชโองการนั้นอย่างดีใจ
“ข้าเองก็หมดธุระกับท่านจวิ้นอ๋องแล้ว หลิ่งฟู่เจ้าเดินไปส่งท่านจวิ้นอ๋องแทนข้าที” เหมือนท่านพ่อจะรู้ใจของนาง ว่านางอยากใช้เวลาและพูดคุยกับจวิ้นอ๋องเลยพูดเปิดโอกาศให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน
“ได้เจ้าค่ะท่านพ่อ เชิญท่านจวิ้นอ๋องเพคะ”
“ข้าไปก่อนนะใตเท้าโจ อีก3วันข้าจะส่งเกี้ยวมารับว่าที่ชายาของข้าอย่างสมเกียรติขอบใจท่านที่มอบบุตรสาวให้แก่ข้า”
“กระหม่อมต่างหากที่ต้องขอบใจท่านที่เลือกบุตรสาวของกระหม่อมเป็นเกียรติของตระกูลของกระหม่อมยิ่งนัก”
เมื่อทั้งคู่พูดลากันเสร็จหลิ่งฟู่ก็เดินมาส่งจวิ้นอ๋องที่หน้าบ้านของตนโดยมีซูฮวาเดินตามหลังอย่างห่างๆ
ระหว่างทางจวิ้นอ๋องได้เอ่ยถามนางเรื่องที่จะไปเป็นฮูหยินของเขา นางเองลำบาคใจหรือไม่
“หลิ่งฟู่เจ้ารู้สึกเช่นไรที่จะไปเป็นชายาของข้า ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลำบาคใจใช่หรือไม่” หลิ่งฟู่ไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองใบหน้าของจวิ้นอ๋องเมื่ออยู่ใกล้กันแค่คืบ
“หม่อมฉันไม่ลำบาคใจเลยเพคะ หม่อมฉันเต็มใจ” นางยืนกุมมือเข้าหากันเพื่อยับยั้งอารมณ์ของตนไว้
“ข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี และจะยกเจ้าเป็นหนึ่งเดียวในใจของข้าตลอดไป”
จวิ้นอ๋องจับมือเรียวสวยของหลิ่งฟู่ทั้งสองข้างมาทาบที่อกด้านซ้ายของตนเองเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นรู้สึกเช่นไรกับนาง หลิ่งฟู่สัมผัสได้ถึงหัวใจของจวิ้นอ๋องเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมือน้อยๆ ของนางสัมผัส นางรีบดึงมือของตนเองออกมา
“ท่านไม่ต้องทำถึงเพียงนี้ก็ได้เพคะ วันนี้ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะเพคะ หม่อมฉันขอมาส่งท่านเพียงเท่านี้” หลิ่งฟู่รีบหันหลังให้จวิ้นอ๋องเพราะตอนนี้หัวใจของนางเองก็จะระเบิดออกมาเพียงแค่มือของจวิ้นอ๋องสัมผัสนางก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนแล้ว ยิ่งเขามาทำเช่นนี้แถมยังให้คำมั่นสัญญานางยิ่งอ่อนระทวยกับคำพูดของเขา จวิ้นอ๋องยืนมองหลิ่งฟู่ที่เดินจากเขาไปเมื่อครู่เขาได้เห็นแววตาของนางและรอยยิมที่เขินอาย ทำให้เขาเองก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ในท่าทางเขินอายของนางนั้นยิ่งทำให้เขาหลงนางและเฝ้ารอวันที่เขาจะมารับนางเข้าที่จวนไม่ไหว แต่เขาก็ทำได้เพียงกลับจวนของตนไปเช่นนั้น
บทที่ 4 ความหอมหวานในคืนเข้าหอหลายวันถัดมาที่บ้านของใต้เท้าโจได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ หลิ่งฟู่อยู่ในชุดมงคลสีแดงใบหน้าก็ถูกคุมด้วยผ้าสีแดงเช่นกันนางนั่งอยู่ภายในห้องเพื่อรอเวลาอย่างใจจดใจจ่อ ซูฮวาสาวใช้ของนางนั่งร้องไห้กระซิกๆ อยู่ข้างกายไม่ห่าง“ข้าแต่งงานใยเจ้าต้องร้องไห้เหมือนข้าจะไปตายเยี่ยงนี้เล่า”“ฮือ ๆ คุณหนูสวยมาก สวยจนข้าร้องไห้เพราะดีใจต่างหากล่ะเจ้าคะ อีกอย่างวันนี้ข้าก็ต้องเข้าไปอยู่ที่จวนของจวิ้นอ๋องพร้อมกับท่าน ข้ากลัวท่านจวิ้นอ๋องนี่เจ้าค่ะ “ซูฮวาเช็ดน้ำตาและซบลงที่ตักของหลิ่งฟู่“เจ้านี่ก็ทำตัวเป็นเด็กไปได้ มีข้าอยู่อย่างไรข้าไม่ให้ใครทำอันใดเจ้าได้”ทั้งคู่พูดคุยกันอยู่ท่านแม่ของหลิ่งฟู่ก็เดินเข้ามาบอกบุตรของตนว่าตอนนี้ขบวนรถเกี้ยวของจวนจวิ้นอ๋องได้มาอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว“หลิ่งฟู่ ตอนนี้ท่านจวิ้นอ๋องมารอรับเจ้าอยู่ที่หน้าบ้านแล้วมากับแม่เถิดแม่จะเดินไปส่งเจ้าเอง.”“ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่” หลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินอย่างสง่าผ่าเผยออกไปพร้อมๆ มารดา ตอนนี้ใต้เท้าโจก็ได้ยืนพูดคุยอยู่กับจวิ้นอ๋อง เมื่อเห็นบุตรของตนเขาจึงจับมือของหลิ่งฟู่ส่งมอบให้แก่จวิ้นอ๋อง“กระหม่อมขอฝากบุตรสาวของก
บทที่ 5 อาหารยามเช้าของจวิ้นอ๋องรุ่งเช้าของอีกวันเสียงนกกระจิบร้องดังกังวารแต่ก็ไม่สามารถรบกวนการนอนของหลิ่งฟู่ได้ ตอนนี้นางนอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของจวิ้นอ๋องอย่างมีความสุข หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน นางได้นอนก็ใกล้จะสว่างแล้วทำเอานางปวดร้าวไปทั้งตัว นางเริ่มขยับตัวเพราะนอนท่านี้มานาน“อือ ข้ายังไม่ให้เจ้าลุกไปที่ใดนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะนะ” จวิ้นอ๋องรู้ถึงการดิ้นของนางเลยกอดนางไว้แนบอกและไม่ให้นางหนีเขาไปไหน“หม่อมฉันไม่ได้จะลุกเพคะ หม่อมฉันแค่พลิกตัวเปลี่ยนท่าเท่านั้น หม่อมฉันเหนื่อย” นางพูดจบก็นอนบนแขนของจวิ้นอ๋องและหันหลังให้เขา แต่ทว่านางกลับรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ที่ทิ่มแทงขานางอยู่“ท่านพี่ที่นอนของท่านมีไม้ด้วยหรือเพคะ”“ก็ไม่มีนะทำไมเจ้าว่าเช่นนั้นล่ะ นี่ที่นอนของจวิ้นอ๋องนะ”“ก็หม่อมฉันรู้สึกถึงอะไรที่มันกำลังทิ่มแทงอยู่นี่เพคะ”“เจ้าก็ลองจับมันดูสิ” ด้วยความอยากรู้หลิ่งฟู่จึงคว้ามือไปจับแท่งที่นางสงสัยจนความอยากรู้ของนางได้หายไปเมื่อนางสัมผัสถึงเนื้ออุ่นๆ ที่กำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่มือของนางไปสัมผัส ทำให้นางรีบดึงมือออกมาทันทีตอนนี้นางอายหน้าแดงจนถึงใบหู จวิ้นอ๋องที่นอนอ
บทที่ 6 ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบกอดรุ่งเช้าของอีกวันหลิ่งฟู่ได้ตื่นมาแต่เช้าเตรียมตัวออกไปที่หมู่บ้านทางด้านใต้กับจวิ้นอ๋องวันนี้ซูฮวานางไม่ได้เดินทางไปด้วยเพราะท่านอ๋อนจะเดินทางโดยการควบม้าไป ทำให้หลิ่งฟู่ต้องไปกับจวิ้นอ๋องและทหารของเขา"เจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วรึ" จวิ้นอ๋องที่เดินเข้ามาจากด้านนอกเพราะเขาออกไปสั่งให้บ่าวรับใช้เตรียมม้าไว้ให้''ข้าเตรียมตัวเสร็จแล้วเพคะ ""งั้นดีเลย เราออกเดินทางกันเถอะสายมากเดี๋ยวเจ้าจะร้อน""ได้เพคะ ซูฮวาเจ้าอยู่ที่จวนอย่าทำเรื่องอันใดให้ข้าเดือดร้อนเข้าใจมั้ย" ก่อนนางจะออกไปจากห้องได้หันกลับไปสั่งสาวใช้อย่างเป็นห่วง''เข้าใจแล้วเพคะ ขอให้ท่านทั้งสองคนเที่ยวให้สนุกนะเพคะ""เดี๋ยวข้าจะแวะซื้อขนมอร่อยๆ มาฝากเจ้านะซูฮวา""ขอให้ท่านอ๋องและพระชายาเดินทางปลอดภัยนะเพคะ "ซูฮวาโบกมือให้กับเจ้านายของตนที่นั่งม้าไปกับท่านอ๋องพร้อมออกเดินทาง หลิ่งฟู่เองก็เช่นกันทั้งสองคนเดินทางมาถึงกลางทางก็ได้พักกินข้าวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วจวิ้นอ๋องสั่งอาหารมาให้หลิ่งฟู่นั่งกินอยู่ผู้เดียวก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปทำธุระด้านนอกสักครู่ โดยให้ทหารของเขาเฝ้าค
บทที่ 7 ออกรบวันเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนความรักของท่านอ๋องมอบให้หลิ่งฟู่ก็มากเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีวันใดที่ท่านอ๋องจะออกห่างจากหลิ่งฟู่ได้เลยวันนี้หลิ่งฟู่ได้เข้าครัวทำขนมที่ท่านแม่เคยสั่งสอนมาเพื่อนำไปให้ท่านอ๋องได้ชิมก็เกิดทำมีดบาดมือของตนเองเพราะความเหม่อลอย"โอ๊ย!! " หลิ่งฟู่ร้องออกมาด้วยความตกใจปนความเจ็บที่มือ ซูฮวารีบเดินเข้ามาดูนายหญิงของตนด้วยความร้อนรน"เลือด พระชายาเลือดออกทำเช่นไรดี ท่านคงต้องเจ็บน่าดูข้าว่าท่านกลับห้องก่อนเถิดเพคะ ขนมพวกนี้เดี๋ยวหม่อมฉันจะทำให้เองนะเพคะ""โธ่!! ซูฮวาข้าแค่ตกใจเลยร้องออกมา ข้าไม่ได้เจ็บมากเสียหน่อย ข้าทำต่อได้""ไม่ได้เพคะ หม่อมฉันไม่ให้ทำ ท่านไปห้องก่อนเถอะนะเพคะ" ซูฮวาดันตัวของหลิ่งฟู่ออกมาจนนางอ่อนใจเลยทำตามที่ซูฮวาบอกทั้งๆ ที่นางได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย"นี่พวกเจ้าช่วยดูขนมพวกนี้ให้ข้าด้วย เดี๋ยวข้าจะพาพระชายาไปพักที่ห้องก่อนแล้วข้าจะมาทำต่อ" ซูฮวาหันหลังมาบอกคนรับใช้อีก 2-3 คนที่ท่านอ๋องได้ให้พวกนางมาดูแลปรนนิบัติหลิ่งฟู่ช่วยซูอวา"ได้เจ้าค่ะ"นางได้มาส่งหลิ่งฟู่ที่ห้องและทำแผลที่มือเป็นจังหวะเดียวกันที่ท่านอ๋องเดินเข้ามาเห็นพอดี"เก
บทที่ 8 ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บหลิ่งฟู่วิ่งออกมาจากห้องด้วยความดีใจที่จะได้พบหน้าของสามีที่นางคิดถึงสุดหัวใจ นางเดินกึ่งวิ่งตรงไปที่ทางเข้าจวนก็พบกับท่านอ๋องที่ตอนนี้ถูกทหารแบกตัวของเขาที่ได้รับบาดเจ็บลงจากหลังม้า ใจของหลิ่งฟู่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจากที่ยิ้มร่าออกมาต้องหุบยิ้มในทันทีนางเองแทบไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินเมื่อเห็นคนที่รักได้รับบาดเจ็บเลือดไหลออกมาไม่หยุด"ท่านพี่ท่านได้รับบาดเจ็บ ข้าจะทำเช่นไรดี ซูฮวาเจ้าไปตามหมอมาโดยเร็ว ส่วนพวกเจ้ารีบพาตัวของท่านอ๋องไปที่ห้องของข้า" แม้ว่านางจะทุกข์ใจแต่ทว่าบัดนี้นางต้องตั้งสติช่วยเหลืออาการบาดเจ็บของท่านอ๋องเสียก่อน ใบหน้าผีดเผือกไร้เลือดฝืนยิ้มแห้งให้กับเมียรักของตนและเอ่ยเสียงออกมาอย่างแหบพร่า"ข้าไม่เป็นอะไรมากเสียหน่อย ดูหน้าเจ้าสิทำไมมองเหมือนข้าจะตายจากเจ้าอย่างไรอย่างนั้น " จูบจบท่านอ๋องก็หมดสติลงทันที"ท่านพี่ อย่าพึ่งเป็นอะไรนะเคะ พวกเจ้ารีบพาท่านพี่ไปที่ห้องโดยเร็ว" สีหน้าตื่นตะหนกเมื่อเห็นท่านอ๋องหมดสติไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความเป็นห่วงและตกใจหลิ่งฟู่ฟูมฟายร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายผู้ใดทหารพาตัวท่านอ๋องมานอนบนเตียงหลิ่งฟู่รีบแก้เสื้
บทที่ 9 ออกรบอีกคราสามวันผ่านมาท่านอ๋องได้พาหลิ่งฟู่เดินเล่นแถวตลาดก็ได้ผ่านหน้าบ้านของใต้เท้าท่านหนึ่งและได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสตรีสองนางที่แย่งชิงดีชิงเด่นจนทำให้ใต้เท้าผู้นั้นปวดหัวกับสตรีทั้งสองนางทำให้เขารีบเดินออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย ท่านอ๋องเห็นภาพตรงหน้าและตระหนักว่าตนเองจะไม่มีทางรับสตรีใดมาเป็นอนุเขาจะมีเพียงหลิ่งฟู่พระชายาเพียงผู้เดียว"ใยเจ้าต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วย" ท่านอ๋องสังเกตุสีหน้าวิตกกังวลของหลิ่งฟู่ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน"ในภายภาคหน้าข้าคงต้องตบตีชิงดีชิงเด่นเช่นนี้กับพระชายารองไหนจะอนุของท่านพี่สินะ แค่ข้าเห็นภาพเมื่อครู่ข้ายังรู้สึกเหนื่อยใจ หากวันนั้นเกิดขึ้นจริงข้าเองก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร""เจ้าคิดไปไกลแล้วชายา ข้าจวิ้นอ๋องไม่คิดจะมีพระชายารอง และจะไม่รับผู้ใดเป็นอนุเพิ่ม ข้าจะมีเพียงชายาเท่านั้นสบายใจได้เลย ดูสิเจ้าคิดมากเสียจนคิ้วจะชนกันอยู่แล้วไปที่ตลาดหาขนมที่เจ้าชอบกินกันเถอะ ข้าจะซื้อทุกอย่างที่ชอบให้ทั้งหมดเลย""ท่านพูดเองนะเะคะ ข้าจะพลานเงินท่านพี่ให้หมดเลย" หลิ่งฟู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อนางถูกตามใจและท่านอ๋องเองก็ช่างรู้ใจว่านางชอบของหวานเพียง
บทที่ 10 สตรีในฝัน"กรี๊ด!!! ไม่นะท่านพี่อย่าทิ้งข้าไป " หลิ่งฟู่สะดุ้งตื่นกรีดร้องออกมาเสียงดังทำให้ซูฮวาที่นอนอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงเจ้านายของตนจึงรีบลุกขึ้นมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เกิดอะไรขึ้นเพคะ ทำไมท่านถึงกรีดร้องยามวิการเช่นนี้ หรือว่าท่านโดนแมลงกัดหรือเพคะ ดูสิเหงื่อท่านไหลเต็มตัวไปหมดแถมท่านยังสั่นเทาเช่นนี้ เดี๋ยวหม่อมฉันไปจุดไฟก่อนนะเพคะจะได้หาแมลงที่กัดท่านเจอ"ซูฮวากำลังลุกไปจุดเทียนแต่ถูกหลิ่งฟู่ดึงแขนนางไว้ก่อน"เจ้าอย่าพึ่งไปไหน เมื่อครู่ข้าแค่ฝันร้ายไม่ได้ถูกแมลงกัดต่อยหรอก ""โธ่ หม่อมฉันก็คิดว่าท่านถูกแมลงกัดเสียอีก แล้วท่านฝันว่าอย่างไรหรือเพคะถึงได้กรีดร้องออกมาเช่นนี้ ""ข้าฝันเห็นเลือดและท่านพี่ที่กำลังจะจากข้าไป ข้ากลัวเหลือเกิน""โบราณกล่าวว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี อาจเป็นเพราะท่านคิดมากและเป็นห่วงท่านอ๋อง ท่านเลยฝันเช่นนี้คงไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรอกเพคะ ท่านนอนต่อเถิด อีกตั้งหลายชั่วยามกว่าจะเช้า หากพระชายากลัวหม่อมฉันก็จะนั่งเฝ้าจนกว่าพระชายาจะหลับนะเพคะ""แต่ความฝันมันน่ากลัวจริงๆ นะ ท่านพี่เปลี่ยนไปมาก มากจนข้าเองไม่เคยพบเจอแถมในความฝันท่านพี่ยังเดินจากข้
บทที่ 11 รักไม่จืดจางมู่เอ๋อร์เข้ามาอยู่ที่จวนจวิ้นอ๋องเป็นเวลาหลายวัน หลังจากที่นางถูกแต่งตั้งให้เป็นพระชายารองของจวิ้นอ๋องและคืนส่งตัวเข้าหอ จวิ้นอ๋องก็ไม่เคยมาหานางอีกเลย ปล่อยให้นางเฝ้ารอคอยท่านอ๋องที่ห้องอยู่เพียงลำพัง โชคดีที่นางมีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่นางยังเด็ก มาคอยรับใช้นางอยู่ที่จวนอ๋องด้วย"พระชายารอง ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นเพคะหรือว่าท่านจะคิดถึงท่านแม่ทัพหยวน โธ่ชีวิตคุณหนูของหม่อมฉัน""ข้าเบื่อนะสิ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ท่านอ๋องก็ไม่เคยมาหาข้าเลย ไม่เคยสนใจใยดีข้าด้วยซ้ำ""ท่านจะรอท่านอ๋องมาหาท่านทำไมเพคะ ท่านก็ไปหาท่านอ๋องเองสิเพคะ"."นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ได้กันนะ เจ้าถือพิณหลิวไปด้วย ข้าจะไปแสดงให้ท่านอ๋องได้ดู ""ได้เพคะ " พิณหลิวเป็นเครื่องดนตรีที่มู่เอ๋อร์ชอบเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก มันเป็นเสน่ห์ที่ติดตัวนางมาไม่ว่าผู้ใดได้ยินเสียงดีดพิณของนางต่างพากันหลงไหลในเสียงพิณนั้นราวกับมีมนตร์สะกดทั้งสองคนก็ได้พากันเดินไปที่ตำหนักของท่านอ๋อง แต่ทว่าเมื่อไปถึงท่านอ๋องกลับไม่อยู่ที่ตำหนัก ชาวใช้ที่ดูแลตำหนักนั้นได้บอกว่าท่านอ๋องไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายาเอก มู่เอ๋อร์จึงเดินไปหาท
บทที่ 20 เคราะห์ของพระชายาฝั่งด้านหลิ่งฟู่หลังออกมาจากคุกนางก็ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในนตำหนักแะคิดไม่ตกว่านางจะ่วยให้ท่านอ๋องหลุดพ้นจากยาเสน่ห์นั้นได้อย่างงไร"พระชายาเพคะ ท่านกินอาหารอีกสักหน่อยเถิดเพคะช่วงท่านไม่ค่อยกิินอะไรเลย หม่อมฉันเป็นห่วงว่าร่างกายของท่านจะอ่อนแอลง""ซูฮวา ข้าจะทำอย่างไรดีถึงจะแยกท่านพี่ออกจากมู่เอ๋อร์ได้ ""หม่อมฉันได้ยินเหล่าทหารพูดกันว่าวันนี้จะเข้าไปที่วังหลวงหากพระชายาอยากพบท่านอ๋องวันนี้ก็เป็นโอกาศดีเพคะ""งั้นดีเลยเมื่อท่านพี่กลับมาข้าจะไปยืนรอท่านพี่ที่หน้าจวน ก่อนที่ท่านพี่จะไปหามู่เอ๋อร์"หลิ่งฟู่ไม่รู้เลยว่าการสนทนาของนางกับซูฮวานั้นถูกสาวใช้อีกนางหนึ่งแอบฟังอยู่ และรีบวิ่งออกไปที่ตำหนักมู่เอ๋อร์เพื่อทูลเรื่องที่หลิ่งฟู่พูดคุยกันมู่เอ๋อร์จึงให้ยาชนิดหนึ่งกับนางที่ผสมอยู่ในธูปหอมเมื่อนำไปจุดแล้วจะทำให้ผู้ได้กลิ่นนั้นสลบและไม่ได้สติ สาวใช้จึงรีบกลับมาที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ ในตอนแรกนางเองก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนี้แต่เมื่อนางเห็นทางรอดของตนเองหากนางไม่ทำตามคำสั่งของพระชายารอง นางเองก็ไม่รู้ว่าพระชายาเอกจะปกป้องชีวิตนางได้หรือไม่ เพราะทุกวันนี้ท่านอ๋องไม่โปรดปร
บทที่ 19 เป่าหูฝั่งด้านหลิ่งฟู่กับซูฮวาตอนนี้ทั้งคู่ถูกขังที่คุกตำหนักหลัง แต่ทว่าด้วยความที่ทหารและเหล่าข้ารับใช้ต่างพากันเคารพนางจึงได้หาผ้ามาปูให้พระยาชานั่งอย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งบนพื้นที่เยือกเย็นเพราะช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูหนาว ซูฮวาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หลิ่งฟู่ต้องบอกให้นางอยู่นิ่งเพราะกว่าจะถึงสามวันไม่รู้ว่าร่างกายของนางจะไหวหรือไม่"ซูฮวาเจ้าอยู่นิ่งๆ เสียที เดี๋ยวแรงเจ้าก็ได้หมดก่อนจะถึงสามวันเสียหรอก""ก็หม่อมฉันโมโหนี่เพคะ ท่านอ๋องไม่ไม่ฟังคำพูดของพวกเราเลย หม่อมฉันสงสารพระชายากับบุตรในท้องเหลือเกินหากข้ารู้ว่าจะถูกขังเช่นนี้ข้าจะให้พระชายาใส่เสื้อที่หนากว่านี้และจะหยิบข้าวปั้นติดไม้ติดมือมาเสียหน่อย อย่างน้อยให้ท่านได้กินอะไรบ้างก็ยังดี ท่านอ๋องใจร้ายอำมหิตเช่นดังคำเล่าลือจริงๆ""อย่าโทษท่านพี่เลย ที่ท่านพี่เป็นเช่นนี้เพราะโดนยาเสน่ห์ต่างหาก""พระชายาใจดีเกินไปแล้วนะเพคะตั้งแต่ที่พระชายารองมู่เอ๋อร์เข้ามาอยู่ที่จวนไม่มีวันใดที่พระชายาไม่เคยทุกข์ใจเลย หม่อมฉันล่ะเกลียดพระชายารองเหลือเกิน""เจ้าหยุดพูดเถิดเก็บแรงของเจ้าเอาไว้ให้อยู่รอดถึงสามวันเถิดนะ หากเจ้าพูดเรื่อ
บทที่ 18 ปวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจมู่เอ๋อร์เดินออกมาส่งหลิ่งฟู่ที่หน้าตำหนักอย่างที่พูดเอาไว้ ฟลิ่งฟู่นางอดไม่ได้ที่จะถามเาื่องราวทั้งหมด นางจึงได้ถามเพราะอยากรู้ความจริงจากปากของมู่เอ๋อร์"ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าคิดทำเรื่องชั่วร้ายอันใดอีก เหตุใดเจ้าไม่จำ" มู่เอ๋อร์เมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วตีหน้าซื่อแสร้งเป็นไม่รู้เรื่อง"พระชายาพูดถึงเรื่องอันใดหรือเพคะ เหตุใดถึงมาว่ามู่เอ๋อร์เช่นนี้""ต่อหน้าท่านพี่เจ้าแกล้งแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอันใด แต่ข้ารู้เรื่องที่ท่านพี่เปลี่ยนไปเพราะนี่เป็นแผนของเจ้า เจ้าต้องการอันใดถึงทำเช่นนี้"."พระชายาหรือว่าท่านจะอิจฉาหม่อมฉันที่ทุกวันนี้ท่านพี่ไม่เคยไปหาท่านที่ตำหนักท่านเลยหาเรื่องมากลั่นแกล้งต่อว่าหม่อมฉันเช่นนี้"คำพูดที่ออกมาจากปากของมู่เอ๋อร์ทำให้หลิ่งฟู่รู้สึกโกรธ นางใช้มือจับไปที่แขนของมู่เอ๋อร์และบีบข้อแขนของนางด้วยแรงทั้งหมด."เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอาย อย่างข้าไม่เคยคิดอิจฉาเจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าที่ท่านพี่เปลี่ยนไปเพราะเจ้าใช้ายาเสน่ห์ "มู่เอ๋อร์หน้าซีดขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าพระชายาหลิ่งฟู่จะรู้เรื่องนี้ด้วย"ท่านอย่ากล่าว
บทที่ 17 ห่างเหินหลิ่งฟู่หวังว่าท่านอ๋องจะเดินตามมาอธิบายกับนางสักนิดแต่นางเฝ้ารอมีเพียงแค่ความว่างเปล่า นางปาดน้ำตาและเดินเข้าไปที่ห้องของตน"ข้าจะต้องเข็มแข็ง ขนาดท่านพ่อเป็นเพียงใต้เท้ายังมีฮูหยินรองแล้วทำไมท่านอ๋องจะมีคนอื่นบ้างไม่ได้ ซูฮวาเหตุใดใจของข้าถึงใหญ่ไม่พอที่จะให้ท่านพี่มีคนอื่นเช่นนี้ ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน เจ้าดูสิเมื่อวานท่านพี่ยังรักข้าแต่วันนี้ท่านพี่กลับไปหลงอยู่กับพระชายารอง ""พระชายาเพคะ ท่านอ๋องอาจจะแค่เป็นห่วงพระชายาอีกอย่างท่านอ๋องเป็นบุรุษหากจะเข้านอนกับพระชายาก็เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อบุตรในท้อง หรืออาจจะเป็นอีกอย่างก็ได้นะเพคะเพราะจู่ๆ ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปจากอีกคนไปเป็นอีกคน หรือว่านี่จะเป็นแผนของพระชายารองเพคะ""นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ถึงกัน คราวที่แล้วนางมาทำร้ายข้า เมื่อทำกับข้าไม่ได้นางจึงเข้าทางท่านพี่ แล้วนางทำเช่นไรให้ท่านพี่หลงรักนางได้ขนาดนั้นกัน" หลิ่งฟู่เริ่มคิดหนักอีกครั้ง ถ้าหากเป็นแผนของมู่เอ๋อร์ก็เปรียบเสมือนว่าท่านอ๋องนั้นไม่ได้คลายรักหลิ่งฟู่เลย นางจึงเดินไปมาภายในห้องเพื่อคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น"นี่ซูฮวาเจ้าไปตามทหารที่ช่วยเราวันนั้นมาให้ข้าที."
บทที่ 16 วาจาของท่านพี่ก็ไม่ต่างจากชายใดรุ้งเช้าของอีกวันหลิ่งฟู่ตื่นมาด้วยอารมณ์ไม่สดใสเพราะนางเฝ้าคิดอยู่ทั้งคืนเหตุใดท่านพี่ถึงไม่มาหานาง เช้านี้นางจึงตัดสินใจไปหาท่านอ๋องที่ตำหนักของเขาและพบเข้ากับสาวใช้ที่ตำหนักนั้น"ท่านอ๋องตื่นรึยังไปแจ้งให้ข้าที ว่าข้ามาหา" สาวใช้ก้มโค้งลงเพื่อคำนับพระชายา .."หม่อมฉันคงเข้าไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้หรอกเพคะ ""เพราะเหตุใดเจ้าถึงไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้ เจ้าอยากโดนเฆี่ยนหรือไง" ซูฮวาโวยวายเมื่อสาวใช้ผู้นี้ขัดใจนาง"ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ เพราะว่าท่านอ๋องไม่ได้กลับมานอนที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพคะ""เอ๊ะเจ้านี่ ท่านอ๋องไม่อยู่ที่นี่จะไปอยู่ที่ไหนได้เพราะว่าเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องก็ไม่ได้ไปที่ตำหนักพระชายา"ซูฮวาอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าหลิ่งฟู่อีกด้วยซ้ำ หลิ่งฟู่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามสาวใช้ไป"แล้วท่านพี่ไปที่ใดได้บอกเจ้าไว้หรือไม่""ไม่ได้บอกเพคะ แต่ว่าตอนหัวค่ำหม่อมฉันเห็นว่าสาวใช้ของพระชายารองขอเข้าพบ ท่านอ๋องน่าจะไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายารองนะเพคะ"หลิ่งฟู่ก็ยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ท่านพี่ที่รักนางมากเสียจนไม่มีเวลาให้ผู้อื่นเหตุใดท่า
บทที่ 15 ฤทธิ์ของยาเสน่ห์สาวใช้กลับเข้ามาที่จวนเป็นเวลาเดียวกันกับที่ซูฮวาเดินกลับมาจากตลาด เพราะพระชายาอยากกินขนมหวานนางจึงออกมาซื้อให้ นางเดินตามหลังของสาวใช้มู่เอ๋อร์มาเรื่อยๆ เพราะว่านางทำตัวลับๆ ล่อๆ จนนางมาถึงตำหนักของพระชายารองมู่เอ๋อร์ซูฮวายืนแอบฟังอยู่ไกลๆ แต่ทว่านางก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร นางเห็นเพียงสาวใช้ของมู่เอ๋อร์มอบขวดขนาดเล็กให้มู่เอ๋อร์ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่ห้องทั้งคู่อย่างรีบร้อนซูฮวาจึงรีบเดินไปหาหลิ่งฟู่"นี่ซูฮวาทำไมเจ้าถึงไปนานเช่นนี้ ไหนดูสิของที่ข้าให้เจ้าไปซื้อ""นี่เพคะ พระชายา""ในเมื่อซูฮวากลับมาแล้ว ข้าเองก็ไปที่ตำหนักของข้าก่อนนะพระชายาเดี๋ยวคืนนี้ข้าจะกับมานอนที่นี่กับเจ้า" ท่านอ๋องบอกก่อนจะเดินออกไป เมื่อท่านอ๋องไปลับตาซูฮวาก็เข้ามาพูดกับพระชายาอย่างเบาเสียง"พระชายาเพคะ หม่อมฉันออกไปด้านนอกมาเมื่อครู่ขากลับเจอกับสาวใช้ของพระชายารองมู่เอ๋อร์ด้วย แถมนางยังมีท่าทีน่าสงสัยข้าเลยเดินตามไปจนถึงตำหนักของนาง นางหยิบขวดเล็กออกจากเสื้อของนางส่งให้พระชายารองแต่ทว่าหม่อมฉันไม่ได้ยินที่นางพูดคุยกัน แถมทั้งสองคนยังรีบเดินเข้าไปที่ห้องด้วย หม่อมฉันว่าทั้งสองคนต้อง
บทที่ 14 ข้าขอเตือนมู่เอ๋อร์ได้ยินถึงกับขาสั่นนั่งพับลงพื้นทันที"พระชายาพูดเรื่องอันใดเพคะหม่อมฉันไม่รู้เรื่องอันใดเลย อีกอย่างหม้อมฉันจะทำเช่นนั้นกับพระชายาที่ใจดีกับหม่อมฉันได้อย่างไร" มู่เอ๋อร์ยังคงหาคำมาโกหกต่อ หลิ่งฟู่ก็รู้ดีว่านางต้องไม่รับแน่ๆ ว่าเป็นฝีมือของนาง"หากไม่ใช่ฝีมือของเจ้าเหตุใดเจ้าต้องตัวสั่นเช่นนี้ แต่ก้ไม่เป็นไรเพราะครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยและเรื่องนี้จะไม่ถึงหูของท่านพี่ แต่หากมีครั้งหน้าข้าบอกไว้เลยข้าไม่ปล่อยไว้แน่ ทำกับข้าข้าไม่ว่าแต่ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์อยู่หากท่านพี่รู้เรื่องนี้เข้าท่านพี่ต้องสืบหาผู้ที่สั่งคนพวกนั้นแน่นอนแล้วคิดดูสิ บุตรคนแรกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านจวินอ๋องถูกทำร้ายจะเกิดอันใดขึ้น ท่านอ๋องก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจที่โหดเหี้มกระหายเลือดอยุ่ด้วย" หลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินจากไปปล่อยให้มู่เอ๋อร์นั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้เพราะนางเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ทำให้นางนั่งตัวสั่นเทาเพราะกลัวความผิดและได้ปล่อยน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ"นายหญิงหม่อมฉันขอโทษเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะไร้ความสามารถถึงเพียงนี้ "สาวใช้เข้ามาจับกายของมู่
บทที่ 13 โดนรอบทำร้ายบ้านใต้เท้าโจ"แม่ดีใจเหลือเกินต่อจากนี้พระชายาจะได้เป็นแม่คนแล้ว ดูแลตนเองดีๆ นะเพคะพระชายา ""ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านอ๋องก็ดูแลข้าดีเหลือเกินทุกวันนี้ข้าแทบจะเดินไม่เป็นอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านแม่โปรดพูดกับข้าเช่นเคยเถิด ถึงข้าจะเป็นพระชายาของจวิ้นอ๋องแต่เมื่อไหร่ที่ตัวของข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ข้าก็ยังคงเป็นเพียงบุตรสาวของท่านเท่านั้น ""หลิ่งฟู่เอ้ย ตอนนี้เจ้าเป็นทั้งพระชายาของท่านอ๋องและกำลังจะเป็นมารดา พ่อเช่นข้าดีใจกับเจ้ายิ่งนัก" ใต้เท้าโจพูดพร้อมใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่ไหลออกไม่อยากให้บุตรสาวของตนได้เห็น"ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้วอากาศไม่ค่อยร้อนลูกขอตัวกลับจวนอ๋องก่อนนะเจ้าคะ""งั้นเดี๋ยวแม่จะออกไปส่งเจ้าที่เกี้ยวนะ""ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะเจ้าคะ ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ร่างกายของท่านเแม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ""เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าเองก็ต้องดูแลตนเองให้ดี จากนี้ไปเจ้าไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียว แต่เจ้ายังมีอีกลมหายใจน้อยๆ ที่กำลังหายใจร่วมกับเจ้าอยู่ ""ลูกลาแล้วนะเจ้าคะ"หลิ่งฟู่และซูฮวานั่งเกี้ยวออกมา
บทที่ 12 พระชายาหลิ่งฟู่ตั้งครรภ์"ขอบพระทัยท่านอ๋องนะเพคะ ที่เข้าใจหม่อมฉัน"นางขยับกายเข้ามาใกล้หวังจะเข้ามาสวมกอดท่านอ๋องแต่จู่ๆ เสียงดังเอะอะด้านนอกประตูก็ดังขึ้น"เสียงใครกัน" ท่านอ๋องคิ้วขมวดเข้าหากันสงสัยเสียงท่่ดังอยู่ด้านนอก"เจ้าไปดูสิ ใครมาเอะอะโวยวายยามวิกาลเช่นนี้ "มู่เอ๋อร์สั่งสาวใช้นางให้ออกไปดู แต่ทว่าประตูถูกเปิดเข้ามาก่อน ผู้ที่เอะอะโวยวายนั้นคือซูฮวาสาวใช้ของหลิ่งฟู่"หม่อมฉันขออภัยที่เข้ามารบกวนท่านอ๋องและพระชายารอง แต่ว่าตอนนี้พระชายาหลิ่งฟู่เกิดประชวรท่านอ๋องช่วยไปดูพระชายาด้วยเพคะ " ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ด้วยความกังวลและเป็นห่วงสุดหัวใจ ซูฮวาเองก็วิ่งตามท่านอ๋องมาติดๆ ปล่อยให้มู่เอ๋อร์อารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะแผนของนางเกือบสำเร็จแล้วถ้าไม่มีมารอย่างสาวใข้ของพระชายาเอกเข้ามาขัดจังหวะ นางได้กรีดร้องโวยวายทำร้ายข้าวของทั่วห้อง"ทำไม ทำไมต้องมาป่วยเวลานี้ด้วย หรือว่าจะเป็นแผนของนางกันนะ นางรู้ว่าท่านอ๋องจะมาหาข้า นางเลยคิดแผนให้ท่านอ๋องไปหานาง นางก็คงสำออยสินะ ข้าไม่ยอม ข้าจะไปดูให้เห็นกับตาว่านางประชวรจริงๆ หรือไม่" มู่เอ๋อร์พูดจบก