บทที่ 6 ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบกอด
รุ่งเช้าของอีกวัน
หลิ่งฟู่ได้ตื่นมาแต่เช้าเตรียมตัวออกไปที่หมู่บ้านทางด้านใต้กับจวิ้นอ๋อง
วันนี้ซูฮวานางไม่ได้เดินทางไปด้วยเพราะท่านอ๋อนจะเดินทางโดยการควบม้าไป ทำให้หลิ่งฟู่ต้องไปกับจวิ้นอ๋องและทหารของเขา
"เจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วรึ" จวิ้นอ๋องที่เดินเข้ามาจากด้านนอกเพราะเขาออกไปสั่งให้บ่าวรับใช้เตรียมม้าไว้ให้
''ข้าเตรียมตัวเสร็จแล้วเพคะ "
"งั้นดีเลย เราออกเดินทางกันเถอะสายมากเดี๋ยวเจ้าจะร้อน"
"ได้เพคะ ซูฮวาเจ้าอยู่ที่จวนอย่าทำเรื่องอันใดให้ข้าเดือดร้อนเข้าใจมั้ย" ก่อนนางจะออกไปจากห้องได้หันกลับไปสั่งสาวใช้อย่างเป็นห่วง
''เข้าใจแล้วเพคะ ขอให้ท่านทั้งสองคนเที่ยวให้สนุกนะเพคะ"
"เดี๋ยวข้าจะแวะซื้อขนมอร่อยๆ มาฝากเจ้านะซูฮวา"
"ขอให้ท่านอ๋องและพระชายาเดินทางปลอดภัยนะเพคะ "
ซูฮวาโบกมือให้กับเจ้านายของตนที่นั่งม้าไปกับท่านอ๋องพร้อมออกเดินทาง หลิ่งฟู่เองก็เช่นกัน
ทั้งสองคนเดินทางมาถึงกลางทางก็ได้พักกินข้าวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว
จวิ้นอ๋องสั่งอาหารมาให้หลิ่งฟู่นั่งกินอยู่ผู้เดียวก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปทำธุระด้านนอกสักครู่ โดยให้ทหารของเขาเฝ้าคออยคุ้มกันนางอยู่ใกล้ๆ
สักพักจวิ้นอ๋องก็กลับมาทั้งคู่ก็ออกเดินทางต่อ จนถึงหมู่บ้านทางใต้ของเมือง ผู้ที่จวิ้นอ๋องมาพบอย่างลับๆ นั้นคือแม่ทัพหยวนเป่า เพื่อนัดหาลือเรื่องกองกำลังทหาร เขาก็ได้เอ่ยทักทายหลิ่งฟู่
"พระชายาของท่านช่างงามสมคำลำลือยิ่งนัก สมแล้วที่ท่านไปอ้อนฝ่าบาทให้ประทานงานแต่งอย่างเร็วที่สุด ก็เพราะเช่นนี้เองสินะ ฮาฮ่า" แม่ทัพหยวนพูดออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรเพราะเขาเป็นคนตรงและซื่อสัตย์ทำให้ท่านอ๋องเองก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจเช่นกัน
"ใช่มั้ยล่ะ ตอนแรกข้าก็คิดว่าข้านั้นบ้าแน่ๆ ที่รักหญิงสาวที่เจอหน้าตั้งแต่แรกเห็น แต่นางงามเช่นนี้ใครบ้างจะอดใจไม่ให้หลุ่มหลงนางได้ "
"ท่านก็พูดเกินไปนะเพคะ ท่านพี่" หลิ่งฟู่ที่นั่งฟังทั้งสองคนชมตนเองจนนางเองก็แทบจะทำอะไรไม่ถูกเพราะความอาย
"พระชายาดูยังเด็กอายุคงเท่าๆ กับบุตรสาวของกระหม่อมเห็นหน้าท่านแล้วกระหม่อมช่างคิดถึงนางเหลือเกินชีวิตของนางน่าเวทนา มีเพียวแค่บิดามารดาของนางได้ตายไปตั้งแต่นางยังเด็ก ถ้ามีโอกาสกระหม่อมจะพาบุตรสาวของกระหม่อมไปเที่ยวหาท่านที่จวนนะพะย่ะค่ะ" สายตาที่บ่งบอกอาการคิดถึงและเป็นห่วงบุตรสาวเพียงผู้เดียวของแม่ทัพทำให้หลิ่งฟู่รีบพูดออกมาปลอบใจเขาทันที
"ได้สิ ข้าจะเตรียมขนมน้ำชาไว้รองรับ บุตรสาวของท่านเองก็คงจะงดงามเช่นกันเพราะมีท่านพ่อที่มีจิตใจดียอมเสียสละตนเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง นางคงไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่มีมารดาหรอก เพราะท่านเองก็คงจะมอบความรักให้นางเพียงพอสำหรับพ่อคนหนึ่งที่ทำให้บุตรสาวของตนได้ นางคงภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่มีบิดากล้าหารเช่นท่าน"
"พระชายาของท่านช่างพูดช่างจาเหลือเกินนะพะย่ะค่ะ งั้นกระหม่อมต้องขอไปที่ทัพก่อนปล่อยไว้นานกระหม่อมก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา" แม่ทัพหยวนโค้งคำนับแล้วเดินจากไป
"ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะทานแม่ทัพหยวนเป่า" หลิ่งฟู่ได้บอกกล่าวเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกไป
"เจ้ารู้สึกเบื่อหรือไม่ ที่ข้าเจ้ามานั่งฟังเรื่องเช่นนี้ด้วยกัน"
"ไม่เลยเพคะ แล้วนี่เราจะไปที่ใดกันอีกหรือเพคะ"
"ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นที่ลำธารที่ข้าเคยบอกกับเจ้าอย่างไรเล่า " พูดจบจวิ้นอ๋องผายมือให้หลิ่งฟู่เดินไปหาม้าที่ผูกไว้
"พวกเจ้ากลับกันไปก่อนไม่ต้องเป็นห่วงข้า " ท่านอ๋องตะโกนบอกทหารที่คอยคุ้มกันเขากับหลิ่งฟู่ เพื่อพวกเขาทั้งสองคนจะได้อยู่กันอย่างลำพัง
"ได้พะย่ะค่ะ ท่านอ๋องโปรดรักษาตัวด้วย"
ท่านอ๋องพาหลิ่งฟู่ขึ้นมาควบมาที่ลำธารเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงน้ำที่ไหลกระทบก้อนหินและเสียงนกที่ประสานเสียงร้องส่งกันไปมา ทำให้หลิ่งฟู่รู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ท่านอ๋องกระโดดลงจากม้าอย่างชำนาญก่อนจะอุ้มหลิ่งฟู่ลงตามมา
"ถึงแล้วลงมาเถิด"
"ที่นี่สวยมากเลยนะเพคะ" หลิ่งฟู่ยิ้มออกมาอย่างพอใจแม้นางจะเป็นบุตรของใต้เท้าก็ใช่ว่านางจะออกไปไหนมาไหนได้อย่างตามใจ เพราะนางต้องถูกทางบ้านอบรมบ่มนิสัยให้เป็นสตรีที่ดี
"มานี่สิข้าจะพาเจ้าเดินไปดูอีกฝั่ง ฝั่งนั้นสวยงามยิ่งกว่าฝั่งอย่างมาก" ท่านอ๋องนำม้ามาผูกกับต้นไม้ก่อนจะพาหลิ่งฟู่เดินข้ามก้อนหินไปอีกฝั่ง หลิ่งฟู่นางไม่ค่อยชำนาญอีกทั้งวันนี้ยังใส่ชุดที่ไม่ทะมัดทะแมงทำให้นางเดินข้ามก้อนหินยากนัก ทำให้นางเกือบล้มตกน้ำ แต่ทว่าท่านอ๋องนั้นช่างรวดเร็วคว้าตัวของนางไว้ได้ก่อนที่จะตกน้ำไป
"เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย"
"ไม่เพคะ เมื่อครู่ข้าลื่นเท่านั้นโชคดีที่ท่านพี่คว้าข้าไว้ทันไม่งั้นข้าคงต้องตกน้ำเปียกทั้งตัวเป็นแน่"
"เยี่ยงนี้ต้องมีรางวัลแล้วสิ" ท่านอ๋องยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะพาหลิ่งฟู่ข้ามไปจนถึงอีกฝั่งอย่างง่ายดาย
"ท่านอยากได้รางวัลอะไรกับข้าหรือท่านพี่"
"ตอนนี้ข้ายังไม่รู้ เมื่อไหร่ที่ข้ารู้จะบอกเจ้าอีกที มานี่เถิด"ท่านอ๋องจูงมือหลิ่งฟู่ให้เดินตามเขาไป ในถ่ำและไปโผล่อีกฝั่งหนึ่ง ภาพเบื้องหน้าทำให้หลิ่งฟู่แทบไม่เชื่อสายตาว่ามีที่เช่นนี้อยู่ด้วย ทุ่งดอกไม้หลากสีที่หล่ายล้อมไปด้วยฝูงแมลงปอและเหล่าผีเสื้อบินกันอยู่เต็มท้องฟ้าราวกับภาพวาด
"ท่านพี่นี่ที่ใดกันเพคะ อย่างกับสวรรค์เลย"
"งดงามมากใช่หรือไม่ เพราะเจ้าเป็นคนพิเศษของข้า ข้าเลยพาเจ้ามาที่พิเศษเช่นนี้ นี่คือสวรรค์ที่อยู่บนดินเวลาที่ข้าไม่สบายใจข้ามักจะมาที่นี่เสมอและนี่ของขวัญจากข้าเมื่อครั้งที่เราแวะกินอาหารข้าเห็นร้านนี่เข้าพอดีมันสวยเหมาะกับเจ้ามากข้าเลยซื้อมาฝาก " ท่านอ๋องมอบปิ่นปักผมที่สวยงามที่สุดเท่าที่หลิ่งฟู่เคยมีมานางรับจากมือของท่านอ๋องก่อนจะปักเข้าที่ผมของตนเองและเอ่ยขอบคุณ
"ข้าชอบมากเลยเพคะ ขอบคุณท่านพี่มากๆ นะเพคะ ว่าแต่สวยเข้ากับข้าจริงหรือ ท่านพี่ช่วยดูให้ข้าที"ท่านอ๋องจับหลิ่งฟู่เอียงซ้ายที ขวาทีก่อนเอ่ยปากชมนาง
"ข้านี่ตาถึงจริงๆ ช่างเหมาะสมกับเจ้ายิ่งนัก" หลิ่งฟู่ยิ้มกริ่มและหันไปชมทิวทัศน์ที่ยากจะได้เห็นอีก ท่านอ๋องโอบกอดหลิ่งฟู่มาจากด้านหลังสอดแขนทั้งสองข้างเข้ามาข้างๆ กายของนาง หลิ่งฟู่พิงอกแกร่งของท่านอ๋องอย่างอบอุ่นใจ
"ท่านพี่รักข้าจริงหรอเพคะ หรือเพียงแค่ท่านหลงในความงามของข้าเท่านั้น"
"เหตุใดเจ้าถึงถามข้าเรื่องนี้เล่า หากข้าไม่รักเจ้าข้าจะแต่งเจ้ามาเป็นชายาของข้าทำไมกัน"
"ก็เพราะว่าท่านยังไม่เคยบอกว่าชอบหรือรักในตัวข้านี่เพคะ ข้าเลยไม่แน่ใจและข้าเองก็อยากรู้หัวใจของท่านเช่นกัน"
"ในใจของข้ามีเพียงเจ้าผู้เดียว ผู้หญิงใดในทั่วหล้าก็มิอาจมาแทนที่เจ้าได้ ข้ารักเจ้าเหลือเกินหลิ่งฟู่ยอดรักของข้า" หลิ่งฟู่เอี้ยวตัวหันหน้ากลับมาหาท่านอ๋อง ทั้งคู่จ้องตาด้วยความลึกซึ้งท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจ ท่านอ๋องอดที่จะเชยชมนางไม่ได้
เขาบดขยี้ริมฝีปากหนาของเขาลงบนริมฝีปากที่เผยอรอสัมผัสของเขาอยู่ หลิ่งฟู่รู้สึกดีเหลือเกินที่ได้รักความรักจากคนที่นางเองก็หลงรักตั้งแต่แรกเจอ นางตวัดลิ้นอุ่นๆ ไปทั่วปากของท่านอ๋องทำให้เขาเองตอนนี้คุมอารมณ์ตนเองไม่ได้อีกต่อไป ท่านอ๋องอุ้มหลิ่งฟู่นอนลงที่ดงดอกไม้ก่อนที่ทั้งสองคนจะร่วมรักเพื่อปลดปล่อยความใคร่ใต้สายตาของเหล่าผีเสื้อแมลงปอเป็นนับพันที่ร่วมเป็นสักขีพยานในรักของพวกเขา
บทที่ 7 ออกรบวันเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนความรักของท่านอ๋องมอบให้หลิ่งฟู่ก็มากเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีวันใดที่ท่านอ๋องจะออกห่างจากหลิ่งฟู่ได้เลยวันนี้หลิ่งฟู่ได้เข้าครัวทำขนมที่ท่านแม่เคยสั่งสอนมาเพื่อนำไปให้ท่านอ๋องได้ชิมก็เกิดทำมีดบาดมือของตนเองเพราะความเหม่อลอย"โอ๊ย!! " หลิ่งฟู่ร้องออกมาด้วยความตกใจปนความเจ็บที่มือ ซูฮวารีบเดินเข้ามาดูนายหญิงของตนด้วยความร้อนรน"เลือด พระชายาเลือดออกทำเช่นไรดี ท่านคงต้องเจ็บน่าดูข้าว่าท่านกลับห้องก่อนเถิดเพคะ ขนมพวกนี้เดี๋ยวหม่อมฉันจะทำให้เองนะเพคะ""โธ่!! ซูฮวาข้าแค่ตกใจเลยร้องออกมา ข้าไม่ได้เจ็บมากเสียหน่อย ข้าทำต่อได้""ไม่ได้เพคะ หม่อมฉันไม่ให้ทำ ท่านไปห้องก่อนเถอะนะเพคะ" ซูฮวาดันตัวของหลิ่งฟู่ออกมาจนนางอ่อนใจเลยทำตามที่ซูฮวาบอกทั้งๆ ที่นางได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย"นี่พวกเจ้าช่วยดูขนมพวกนี้ให้ข้าด้วย เดี๋ยวข้าจะพาพระชายาไปพักที่ห้องก่อนแล้วข้าจะมาทำต่อ" ซูฮวาหันหลังมาบอกคนรับใช้อีก 2-3 คนที่ท่านอ๋องได้ให้พวกนางมาดูแลปรนนิบัติหลิ่งฟู่ช่วยซูอวา"ได้เจ้าค่ะ"นางได้มาส่งหลิ่งฟู่ที่ห้องและทำแผลที่มือเป็นจังหวะเดียวกันที่ท่านอ๋องเดินเข้ามาเห็นพอดี"เก
บทที่ 8 ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บหลิ่งฟู่วิ่งออกมาจากห้องด้วยความดีใจที่จะได้พบหน้าของสามีที่นางคิดถึงสุดหัวใจ นางเดินกึ่งวิ่งตรงไปที่ทางเข้าจวนก็พบกับท่านอ๋องที่ตอนนี้ถูกทหารแบกตัวของเขาที่ได้รับบาดเจ็บลงจากหลังม้า ใจของหลิ่งฟู่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจากที่ยิ้มร่าออกมาต้องหุบยิ้มในทันทีนางเองแทบไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินเมื่อเห็นคนที่รักได้รับบาดเจ็บเลือดไหลออกมาไม่หยุด"ท่านพี่ท่านได้รับบาดเจ็บ ข้าจะทำเช่นไรดี ซูฮวาเจ้าไปตามหมอมาโดยเร็ว ส่วนพวกเจ้ารีบพาตัวของท่านอ๋องไปที่ห้องของข้า" แม้ว่านางจะทุกข์ใจแต่ทว่าบัดนี้นางต้องตั้งสติช่วยเหลืออาการบาดเจ็บของท่านอ๋องเสียก่อน ใบหน้าผีดเผือกไร้เลือดฝืนยิ้มแห้งให้กับเมียรักของตนและเอ่ยเสียงออกมาอย่างแหบพร่า"ข้าไม่เป็นอะไรมากเสียหน่อย ดูหน้าเจ้าสิทำไมมองเหมือนข้าจะตายจากเจ้าอย่างไรอย่างนั้น " จูบจบท่านอ๋องก็หมดสติลงทันที"ท่านพี่ อย่าพึ่งเป็นอะไรนะเคะ พวกเจ้ารีบพาท่านพี่ไปที่ห้องโดยเร็ว" สีหน้าตื่นตะหนกเมื่อเห็นท่านอ๋องหมดสติไปต่อหน้าต่อตา ด้วยความเป็นห่วงและตกใจหลิ่งฟู่ฟูมฟายร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายผู้ใดทหารพาตัวท่านอ๋องมานอนบนเตียงหลิ่งฟู่รีบแก้เสื้
บทที่ 9 ออกรบอีกคราสามวันผ่านมาท่านอ๋องได้พาหลิ่งฟู่เดินเล่นแถวตลาดก็ได้ผ่านหน้าบ้านของใต้เท้าท่านหนึ่งและได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสตรีสองนางที่แย่งชิงดีชิงเด่นจนทำให้ใต้เท้าผู้นั้นปวดหัวกับสตรีทั้งสองนางทำให้เขารีบเดินออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย ท่านอ๋องเห็นภาพตรงหน้าและตระหนักว่าตนเองจะไม่มีทางรับสตรีใดมาเป็นอนุเขาจะมีเพียงหลิ่งฟู่พระชายาเพียงผู้เดียว"ใยเจ้าต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วย" ท่านอ๋องสังเกตุสีหน้าวิตกกังวลของหลิ่งฟู่ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน"ในภายภาคหน้าข้าคงต้องตบตีชิงดีชิงเด่นเช่นนี้กับพระชายารองไหนจะอนุของท่านพี่สินะ แค่ข้าเห็นภาพเมื่อครู่ข้ายังรู้สึกเหนื่อยใจ หากวันนั้นเกิดขึ้นจริงข้าเองก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร""เจ้าคิดไปไกลแล้วชายา ข้าจวิ้นอ๋องไม่คิดจะมีพระชายารอง และจะไม่รับผู้ใดเป็นอนุเพิ่ม ข้าจะมีเพียงชายาเท่านั้นสบายใจได้เลย ดูสิเจ้าคิดมากเสียจนคิ้วจะชนกันอยู่แล้วไปที่ตลาดหาขนมที่เจ้าชอบกินกันเถอะ ข้าจะซื้อทุกอย่างที่ชอบให้ทั้งหมดเลย""ท่านพูดเองนะเะคะ ข้าจะพลานเงินท่านพี่ให้หมดเลย" หลิ่งฟู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อนางถูกตามใจและท่านอ๋องเองก็ช่างรู้ใจว่านางชอบของหวานเพียง
บทที่ 10 สตรีในฝัน"กรี๊ด!!! ไม่นะท่านพี่อย่าทิ้งข้าไป " หลิ่งฟู่สะดุ้งตื่นกรีดร้องออกมาเสียงดังทำให้ซูฮวาที่นอนอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงเจ้านายของตนจึงรีบลุกขึ้นมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เกิดอะไรขึ้นเพคะ ทำไมท่านถึงกรีดร้องยามวิการเช่นนี้ หรือว่าท่านโดนแมลงกัดหรือเพคะ ดูสิเหงื่อท่านไหลเต็มตัวไปหมดแถมท่านยังสั่นเทาเช่นนี้ เดี๋ยวหม่อมฉันไปจุดไฟก่อนนะเพคะจะได้หาแมลงที่กัดท่านเจอ"ซูฮวากำลังลุกไปจุดเทียนแต่ถูกหลิ่งฟู่ดึงแขนนางไว้ก่อน"เจ้าอย่าพึ่งไปไหน เมื่อครู่ข้าแค่ฝันร้ายไม่ได้ถูกแมลงกัดต่อยหรอก ""โธ่ หม่อมฉันก็คิดว่าท่านถูกแมลงกัดเสียอีก แล้วท่านฝันว่าอย่างไรหรือเพคะถึงได้กรีดร้องออกมาเช่นนี้ ""ข้าฝันเห็นเลือดและท่านพี่ที่กำลังจะจากข้าไป ข้ากลัวเหลือเกิน""โบราณกล่าวว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี อาจเป็นเพราะท่านคิดมากและเป็นห่วงท่านอ๋อง ท่านเลยฝันเช่นนี้คงไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรอกเพคะ ท่านนอนต่อเถิด อีกตั้งหลายชั่วยามกว่าจะเช้า หากพระชายากลัวหม่อมฉันก็จะนั่งเฝ้าจนกว่าพระชายาจะหลับนะเพคะ""แต่ความฝันมันน่ากลัวจริงๆ นะ ท่านพี่เปลี่ยนไปมาก มากจนข้าเองไม่เคยพบเจอแถมในความฝันท่านพี่ยังเดินจากข้
บทที่ 11 รักไม่จืดจางมู่เอ๋อร์เข้ามาอยู่ที่จวนจวิ้นอ๋องเป็นเวลาหลายวัน หลังจากที่นางถูกแต่งตั้งให้เป็นพระชายารองของจวิ้นอ๋องและคืนส่งตัวเข้าหอ จวิ้นอ๋องก็ไม่เคยมาหานางอีกเลย ปล่อยให้นางเฝ้ารอคอยท่านอ๋องที่ห้องอยู่เพียงลำพัง โชคดีที่นางมีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่นางยังเด็ก มาคอยรับใช้นางอยู่ที่จวนอ๋องด้วย"พระชายารอง ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นเพคะหรือว่าท่านจะคิดถึงท่านแม่ทัพหยวน โธ่ชีวิตคุณหนูของหม่อมฉัน""ข้าเบื่อนะสิ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ท่านอ๋องก็ไม่เคยมาหาข้าเลย ไม่เคยสนใจใยดีข้าด้วยซ้ำ""ท่านจะรอท่านอ๋องมาหาท่านทำไมเพคะ ท่านก็ไปหาท่านอ๋องเองสิเพคะ"."นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ได้กันนะ เจ้าถือพิณหลิวไปด้วย ข้าจะไปแสดงให้ท่านอ๋องได้ดู ""ได้เพคะ " พิณหลิวเป็นเครื่องดนตรีที่มู่เอ๋อร์ชอบเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก มันเป็นเสน่ห์ที่ติดตัวนางมาไม่ว่าผู้ใดได้ยินเสียงดีดพิณของนางต่างพากันหลงไหลในเสียงพิณนั้นราวกับมีมนตร์สะกดทั้งสองคนก็ได้พากันเดินไปที่ตำหนักของท่านอ๋อง แต่ทว่าเมื่อไปถึงท่านอ๋องกลับไม่อยู่ที่ตำหนัก ชาวใช้ที่ดูแลตำหนักนั้นได้บอกว่าท่านอ๋องไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายาเอก มู่เอ๋อร์จึงเดินไปหาท
บทที่ 12 พระชายาหลิ่งฟู่ตั้งครรภ์"ขอบพระทัยท่านอ๋องนะเพคะ ที่เข้าใจหม่อมฉัน"นางขยับกายเข้ามาใกล้หวังจะเข้ามาสวมกอดท่านอ๋องแต่จู่ๆ เสียงดังเอะอะด้านนอกประตูก็ดังขึ้น"เสียงใครกัน" ท่านอ๋องคิ้วขมวดเข้าหากันสงสัยเสียงท่่ดังอยู่ด้านนอก"เจ้าไปดูสิ ใครมาเอะอะโวยวายยามวิกาลเช่นนี้ "มู่เอ๋อร์สั่งสาวใช้นางให้ออกไปดู แต่ทว่าประตูถูกเปิดเข้ามาก่อน ผู้ที่เอะอะโวยวายนั้นคือซูฮวาสาวใช้ของหลิ่งฟู่"หม่อมฉันขออภัยที่เข้ามารบกวนท่านอ๋องและพระชายารอง แต่ว่าตอนนี้พระชายาหลิ่งฟู่เกิดประชวรท่านอ๋องช่วยไปดูพระชายาด้วยเพคะ " ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ด้วยความกังวลและเป็นห่วงสุดหัวใจ ซูฮวาเองก็วิ่งตามท่านอ๋องมาติดๆ ปล่อยให้มู่เอ๋อร์อารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะแผนของนางเกือบสำเร็จแล้วถ้าไม่มีมารอย่างสาวใข้ของพระชายาเอกเข้ามาขัดจังหวะ นางได้กรีดร้องโวยวายทำร้ายข้าวของทั่วห้อง"ทำไม ทำไมต้องมาป่วยเวลานี้ด้วย หรือว่าจะเป็นแผนของนางกันนะ นางรู้ว่าท่านอ๋องจะมาหาข้า นางเลยคิดแผนให้ท่านอ๋องไปหานาง นางก็คงสำออยสินะ ข้าไม่ยอม ข้าจะไปดูให้เห็นกับตาว่านางประชวรจริงๆ หรือไม่" มู่เอ๋อร์พูดจบก
บทที่ 13 โดนรอบทำร้ายบ้านใต้เท้าโจ"แม่ดีใจเหลือเกินต่อจากนี้พระชายาจะได้เป็นแม่คนแล้ว ดูแลตนเองดีๆ นะเพคะพระชายา ""ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านอ๋องก็ดูแลข้าดีเหลือเกินทุกวันนี้ข้าแทบจะเดินไม่เป็นอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านแม่โปรดพูดกับข้าเช่นเคยเถิด ถึงข้าจะเป็นพระชายาของจวิ้นอ๋องแต่เมื่อไหร่ที่ตัวของข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ข้าก็ยังคงเป็นเพียงบุตรสาวของท่านเท่านั้น ""หลิ่งฟู่เอ้ย ตอนนี้เจ้าเป็นทั้งพระชายาของท่านอ๋องและกำลังจะเป็นมารดา พ่อเช่นข้าดีใจกับเจ้ายิ่งนัก" ใต้เท้าโจพูดพร้อมใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่ไหลออกไม่อยากให้บุตรสาวของตนได้เห็น"ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้วอากาศไม่ค่อยร้อนลูกขอตัวกลับจวนอ๋องก่อนนะเจ้าคะ""งั้นเดี๋ยวแม่จะออกไปส่งเจ้าที่เกี้ยวนะ""ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะเจ้าคะ ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ร่างกายของท่านเแม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ""เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าเองก็ต้องดูแลตนเองให้ดี จากนี้ไปเจ้าไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียว แต่เจ้ายังมีอีกลมหายใจน้อยๆ ที่กำลังหายใจร่วมกับเจ้าอยู่ ""ลูกลาแล้วนะเจ้าคะ"หลิ่งฟู่และซูฮวานั่งเกี้ยวออกมา
บทที่ 14 ข้าขอเตือนมู่เอ๋อร์ได้ยินถึงกับขาสั่นนั่งพับลงพื้นทันที"พระชายาพูดเรื่องอันใดเพคะหม่อมฉันไม่รู้เรื่องอันใดเลย อีกอย่างหม้อมฉันจะทำเช่นนั้นกับพระชายาที่ใจดีกับหม่อมฉันได้อย่างไร" มู่เอ๋อร์ยังคงหาคำมาโกหกต่อ หลิ่งฟู่ก็รู้ดีว่านางต้องไม่รับแน่ๆ ว่าเป็นฝีมือของนาง"หากไม่ใช่ฝีมือของเจ้าเหตุใดเจ้าต้องตัวสั่นเช่นนี้ แต่ก้ไม่เป็นไรเพราะครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยและเรื่องนี้จะไม่ถึงหูของท่านพี่ แต่หากมีครั้งหน้าข้าบอกไว้เลยข้าไม่ปล่อยไว้แน่ ทำกับข้าข้าไม่ว่าแต่ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์อยู่หากท่านพี่รู้เรื่องนี้เข้าท่านพี่ต้องสืบหาผู้ที่สั่งคนพวกนั้นแน่นอนแล้วคิดดูสิ บุตรคนแรกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านจวินอ๋องถูกทำร้ายจะเกิดอันใดขึ้น ท่านอ๋องก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจที่โหดเหี้มกระหายเลือดอยุ่ด้วย" หลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินจากไปปล่อยให้มู่เอ๋อร์นั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้เพราะนางเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ทำให้นางนั่งตัวสั่นเทาเพราะกลัวความผิดและได้ปล่อยน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ"นายหญิงหม่อมฉันขอโทษเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะไร้ความสามารถถึงเพียงนี้ "สาวใช้เข้ามาจับกายของมู่
บทที่ 20 เคราะห์ของพระชายาฝั่งด้านหลิ่งฟู่หลังออกมาจากคุกนางก็ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในนตำหนักแะคิดไม่ตกว่านางจะ่วยให้ท่านอ๋องหลุดพ้นจากยาเสน่ห์นั้นได้อย่างงไร"พระชายาเพคะ ท่านกินอาหารอีกสักหน่อยเถิดเพคะช่วงท่านไม่ค่อยกิินอะไรเลย หม่อมฉันเป็นห่วงว่าร่างกายของท่านจะอ่อนแอลง""ซูฮวา ข้าจะทำอย่างไรดีถึงจะแยกท่านพี่ออกจากมู่เอ๋อร์ได้ ""หม่อมฉันได้ยินเหล่าทหารพูดกันว่าวันนี้จะเข้าไปที่วังหลวงหากพระชายาอยากพบท่านอ๋องวันนี้ก็เป็นโอกาศดีเพคะ""งั้นดีเลยเมื่อท่านพี่กลับมาข้าจะไปยืนรอท่านพี่ที่หน้าจวน ก่อนที่ท่านพี่จะไปหามู่เอ๋อร์"หลิ่งฟู่ไม่รู้เลยว่าการสนทนาของนางกับซูฮวานั้นถูกสาวใช้อีกนางหนึ่งแอบฟังอยู่ และรีบวิ่งออกไปที่ตำหนักมู่เอ๋อร์เพื่อทูลเรื่องที่หลิ่งฟู่พูดคุยกันมู่เอ๋อร์จึงให้ยาชนิดหนึ่งกับนางที่ผสมอยู่ในธูปหอมเมื่อนำไปจุดแล้วจะทำให้ผู้ได้กลิ่นนั้นสลบและไม่ได้สติ สาวใช้จึงรีบกลับมาที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ ในตอนแรกนางเองก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนี้แต่เมื่อนางเห็นทางรอดของตนเองหากนางไม่ทำตามคำสั่งของพระชายารอง นางเองก็ไม่รู้ว่าพระชายาเอกจะปกป้องชีวิตนางได้หรือไม่ เพราะทุกวันนี้ท่านอ๋องไม่โปรดปร
บทที่ 19 เป่าหูฝั่งด้านหลิ่งฟู่กับซูฮวาตอนนี้ทั้งคู่ถูกขังที่คุกตำหนักหลัง แต่ทว่าด้วยความที่ทหารและเหล่าข้ารับใช้ต่างพากันเคารพนางจึงได้หาผ้ามาปูให้พระยาชานั่งอย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งบนพื้นที่เยือกเย็นเพราะช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูหนาว ซูฮวาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หลิ่งฟู่ต้องบอกให้นางอยู่นิ่งเพราะกว่าจะถึงสามวันไม่รู้ว่าร่างกายของนางจะไหวหรือไม่"ซูฮวาเจ้าอยู่นิ่งๆ เสียที เดี๋ยวแรงเจ้าก็ได้หมดก่อนจะถึงสามวันเสียหรอก""ก็หม่อมฉันโมโหนี่เพคะ ท่านอ๋องไม่ไม่ฟังคำพูดของพวกเราเลย หม่อมฉันสงสารพระชายากับบุตรในท้องเหลือเกินหากข้ารู้ว่าจะถูกขังเช่นนี้ข้าจะให้พระชายาใส่เสื้อที่หนากว่านี้และจะหยิบข้าวปั้นติดไม้ติดมือมาเสียหน่อย อย่างน้อยให้ท่านได้กินอะไรบ้างก็ยังดี ท่านอ๋องใจร้ายอำมหิตเช่นดังคำเล่าลือจริงๆ""อย่าโทษท่านพี่เลย ที่ท่านพี่เป็นเช่นนี้เพราะโดนยาเสน่ห์ต่างหาก""พระชายาใจดีเกินไปแล้วนะเพคะตั้งแต่ที่พระชายารองมู่เอ๋อร์เข้ามาอยู่ที่จวนไม่มีวันใดที่พระชายาไม่เคยทุกข์ใจเลย หม่อมฉันล่ะเกลียดพระชายารองเหลือเกิน""เจ้าหยุดพูดเถิดเก็บแรงของเจ้าเอาไว้ให้อยู่รอดถึงสามวันเถิดนะ หากเจ้าพูดเรื่อ
บทที่ 18 ปวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจมู่เอ๋อร์เดินออกมาส่งหลิ่งฟู่ที่หน้าตำหนักอย่างที่พูดเอาไว้ ฟลิ่งฟู่นางอดไม่ได้ที่จะถามเาื่องราวทั้งหมด นางจึงได้ถามเพราะอยากรู้ความจริงจากปากของมู่เอ๋อร์"ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าคิดทำเรื่องชั่วร้ายอันใดอีก เหตุใดเจ้าไม่จำ" มู่เอ๋อร์เมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วตีหน้าซื่อแสร้งเป็นไม่รู้เรื่อง"พระชายาพูดถึงเรื่องอันใดหรือเพคะ เหตุใดถึงมาว่ามู่เอ๋อร์เช่นนี้""ต่อหน้าท่านพี่เจ้าแกล้งแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอันใด แต่ข้ารู้เรื่องที่ท่านพี่เปลี่ยนไปเพราะนี่เป็นแผนของเจ้า เจ้าต้องการอันใดถึงทำเช่นนี้"."พระชายาหรือว่าท่านจะอิจฉาหม่อมฉันที่ทุกวันนี้ท่านพี่ไม่เคยไปหาท่านที่ตำหนักท่านเลยหาเรื่องมากลั่นแกล้งต่อว่าหม่อมฉันเช่นนี้"คำพูดที่ออกมาจากปากของมู่เอ๋อร์ทำให้หลิ่งฟู่รู้สึกโกรธ นางใช้มือจับไปที่แขนของมู่เอ๋อร์และบีบข้อแขนของนางด้วยแรงทั้งหมด."เจ้านี่ช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอาย อย่างข้าไม่เคยคิดอิจฉาเจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าที่ท่านพี่เปลี่ยนไปเพราะเจ้าใช้ายาเสน่ห์ "มู่เอ๋อร์หน้าซีดขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าพระชายาหลิ่งฟู่จะรู้เรื่องนี้ด้วย"ท่านอย่ากล่าว
บทที่ 17 ห่างเหินหลิ่งฟู่หวังว่าท่านอ๋องจะเดินตามมาอธิบายกับนางสักนิดแต่นางเฝ้ารอมีเพียงแค่ความว่างเปล่า นางปาดน้ำตาและเดินเข้าไปที่ห้องของตน"ข้าจะต้องเข็มแข็ง ขนาดท่านพ่อเป็นเพียงใต้เท้ายังมีฮูหยินรองแล้วทำไมท่านอ๋องจะมีคนอื่นบ้างไม่ได้ ซูฮวาเหตุใดใจของข้าถึงใหญ่ไม่พอที่จะให้ท่านพี่มีคนอื่นเช่นนี้ ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน เจ้าดูสิเมื่อวานท่านพี่ยังรักข้าแต่วันนี้ท่านพี่กลับไปหลงอยู่กับพระชายารอง ""พระชายาเพคะ ท่านอ๋องอาจจะแค่เป็นห่วงพระชายาอีกอย่างท่านอ๋องเป็นบุรุษหากจะเข้านอนกับพระชายาก็เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อบุตรในท้อง หรืออาจจะเป็นอีกอย่างก็ได้นะเพคะเพราะจู่ๆ ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปจากอีกคนไปเป็นอีกคน หรือว่านี่จะเป็นแผนของพระชายารองเพคะ""นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ถึงกัน คราวที่แล้วนางมาทำร้ายข้า เมื่อทำกับข้าไม่ได้นางจึงเข้าทางท่านพี่ แล้วนางทำเช่นไรให้ท่านพี่หลงรักนางได้ขนาดนั้นกัน" หลิ่งฟู่เริ่มคิดหนักอีกครั้ง ถ้าหากเป็นแผนของมู่เอ๋อร์ก็เปรียบเสมือนว่าท่านอ๋องนั้นไม่ได้คลายรักหลิ่งฟู่เลย นางจึงเดินไปมาภายในห้องเพื่อคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น"นี่ซูฮวาเจ้าไปตามทหารที่ช่วยเราวันนั้นมาให้ข้าที."
บทที่ 16 วาจาของท่านพี่ก็ไม่ต่างจากชายใดรุ้งเช้าของอีกวันหลิ่งฟู่ตื่นมาด้วยอารมณ์ไม่สดใสเพราะนางเฝ้าคิดอยู่ทั้งคืนเหตุใดท่านพี่ถึงไม่มาหานาง เช้านี้นางจึงตัดสินใจไปหาท่านอ๋องที่ตำหนักของเขาและพบเข้ากับสาวใช้ที่ตำหนักนั้น"ท่านอ๋องตื่นรึยังไปแจ้งให้ข้าที ว่าข้ามาหา" สาวใช้ก้มโค้งลงเพื่อคำนับพระชายา .."หม่อมฉันคงเข้าไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้หรอกเพคะ ""เพราะเหตุใดเจ้าถึงไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้ เจ้าอยากโดนเฆี่ยนหรือไง" ซูฮวาโวยวายเมื่อสาวใช้ผู้นี้ขัดใจนาง"ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ เพราะว่าท่านอ๋องไม่ได้กลับมานอนที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพคะ""เอ๊ะเจ้านี่ ท่านอ๋องไม่อยู่ที่นี่จะไปอยู่ที่ไหนได้เพราะว่าเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องก็ไม่ได้ไปที่ตำหนักพระชายา"ซูฮวาอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าหลิ่งฟู่อีกด้วยซ้ำ หลิ่งฟู่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามสาวใช้ไป"แล้วท่านพี่ไปที่ใดได้บอกเจ้าไว้หรือไม่""ไม่ได้บอกเพคะ แต่ว่าตอนหัวค่ำหม่อมฉันเห็นว่าสาวใช้ของพระชายารองขอเข้าพบ ท่านอ๋องน่าจะไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายารองนะเพคะ"หลิ่งฟู่ก็ยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ท่านพี่ที่รักนางมากเสียจนไม่มีเวลาให้ผู้อื่นเหตุใดท่า
บทที่ 15 ฤทธิ์ของยาเสน่ห์สาวใช้กลับเข้ามาที่จวนเป็นเวลาเดียวกันกับที่ซูฮวาเดินกลับมาจากตลาด เพราะพระชายาอยากกินขนมหวานนางจึงออกมาซื้อให้ นางเดินตามหลังของสาวใช้มู่เอ๋อร์มาเรื่อยๆ เพราะว่านางทำตัวลับๆ ล่อๆ จนนางมาถึงตำหนักของพระชายารองมู่เอ๋อร์ซูฮวายืนแอบฟังอยู่ไกลๆ แต่ทว่านางก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร นางเห็นเพียงสาวใช้ของมู่เอ๋อร์มอบขวดขนาดเล็กให้มู่เอ๋อร์ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่ห้องทั้งคู่อย่างรีบร้อนซูฮวาจึงรีบเดินไปหาหลิ่งฟู่"นี่ซูฮวาทำไมเจ้าถึงไปนานเช่นนี้ ไหนดูสิของที่ข้าให้เจ้าไปซื้อ""นี่เพคะ พระชายา""ในเมื่อซูฮวากลับมาแล้ว ข้าเองก็ไปที่ตำหนักของข้าก่อนนะพระชายาเดี๋ยวคืนนี้ข้าจะกับมานอนที่นี่กับเจ้า" ท่านอ๋องบอกก่อนจะเดินออกไป เมื่อท่านอ๋องไปลับตาซูฮวาก็เข้ามาพูดกับพระชายาอย่างเบาเสียง"พระชายาเพคะ หม่อมฉันออกไปด้านนอกมาเมื่อครู่ขากลับเจอกับสาวใช้ของพระชายารองมู่เอ๋อร์ด้วย แถมนางยังมีท่าทีน่าสงสัยข้าเลยเดินตามไปจนถึงตำหนักของนาง นางหยิบขวดเล็กออกจากเสื้อของนางส่งให้พระชายารองแต่ทว่าหม่อมฉันไม่ได้ยินที่นางพูดคุยกัน แถมทั้งสองคนยังรีบเดินเข้าไปที่ห้องด้วย หม่อมฉันว่าทั้งสองคนต้อง
บทที่ 14 ข้าขอเตือนมู่เอ๋อร์ได้ยินถึงกับขาสั่นนั่งพับลงพื้นทันที"พระชายาพูดเรื่องอันใดเพคะหม่อมฉันไม่รู้เรื่องอันใดเลย อีกอย่างหม้อมฉันจะทำเช่นนั้นกับพระชายาที่ใจดีกับหม่อมฉันได้อย่างไร" มู่เอ๋อร์ยังคงหาคำมาโกหกต่อ หลิ่งฟู่ก็รู้ดีว่านางต้องไม่รับแน่ๆ ว่าเป็นฝีมือของนาง"หากไม่ใช่ฝีมือของเจ้าเหตุใดเจ้าต้องตัวสั่นเช่นนี้ แต่ก้ไม่เป็นไรเพราะครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยและเรื่องนี้จะไม่ถึงหูของท่านพี่ แต่หากมีครั้งหน้าข้าบอกไว้เลยข้าไม่ปล่อยไว้แน่ ทำกับข้าข้าไม่ว่าแต่ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์อยู่หากท่านพี่รู้เรื่องนี้เข้าท่านพี่ต้องสืบหาผู้ที่สั่งคนพวกนั้นแน่นอนแล้วคิดดูสิ บุตรคนแรกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านจวินอ๋องถูกทำร้ายจะเกิดอันใดขึ้น ท่านอ๋องก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจที่โหดเหี้มกระหายเลือดอยุ่ด้วย" หลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินจากไปปล่อยให้มู่เอ๋อร์นั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้เพราะนางเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ทำให้นางนั่งตัวสั่นเทาเพราะกลัวความผิดและได้ปล่อยน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ"นายหญิงหม่อมฉันขอโทษเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะไร้ความสามารถถึงเพียงนี้ "สาวใช้เข้ามาจับกายของมู่
บทที่ 13 โดนรอบทำร้ายบ้านใต้เท้าโจ"แม่ดีใจเหลือเกินต่อจากนี้พระชายาจะได้เป็นแม่คนแล้ว ดูแลตนเองดีๆ นะเพคะพระชายา ""ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านอ๋องก็ดูแลข้าดีเหลือเกินทุกวันนี้ข้าแทบจะเดินไม่เป็นอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านแม่โปรดพูดกับข้าเช่นเคยเถิด ถึงข้าจะเป็นพระชายาของจวิ้นอ๋องแต่เมื่อไหร่ที่ตัวของข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ข้าก็ยังคงเป็นเพียงบุตรสาวของท่านเท่านั้น ""หลิ่งฟู่เอ้ย ตอนนี้เจ้าเป็นทั้งพระชายาของท่านอ๋องและกำลังจะเป็นมารดา พ่อเช่นข้าดีใจกับเจ้ายิ่งนัก" ใต้เท้าโจพูดพร้อมใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่ไหลออกไม่อยากให้บุตรสาวของตนได้เห็น"ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้วอากาศไม่ค่อยร้อนลูกขอตัวกลับจวนอ๋องก่อนนะเจ้าคะ""งั้นเดี๋ยวแม่จะออกไปส่งเจ้าที่เกี้ยวนะ""ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะเจ้าคะ ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ร่างกายของท่านเแม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ""เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าเองก็ต้องดูแลตนเองให้ดี จากนี้ไปเจ้าไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียว แต่เจ้ายังมีอีกลมหายใจน้อยๆ ที่กำลังหายใจร่วมกับเจ้าอยู่ ""ลูกลาแล้วนะเจ้าคะ"หลิ่งฟู่และซูฮวานั่งเกี้ยวออกมา
บทที่ 12 พระชายาหลิ่งฟู่ตั้งครรภ์"ขอบพระทัยท่านอ๋องนะเพคะ ที่เข้าใจหม่อมฉัน"นางขยับกายเข้ามาใกล้หวังจะเข้ามาสวมกอดท่านอ๋องแต่จู่ๆ เสียงดังเอะอะด้านนอกประตูก็ดังขึ้น"เสียงใครกัน" ท่านอ๋องคิ้วขมวดเข้าหากันสงสัยเสียงท่่ดังอยู่ด้านนอก"เจ้าไปดูสิ ใครมาเอะอะโวยวายยามวิกาลเช่นนี้ "มู่เอ๋อร์สั่งสาวใช้นางให้ออกไปดู แต่ทว่าประตูถูกเปิดเข้ามาก่อน ผู้ที่เอะอะโวยวายนั้นคือซูฮวาสาวใช้ของหลิ่งฟู่"หม่อมฉันขออภัยที่เข้ามารบกวนท่านอ๋องและพระชายารอง แต่ว่าตอนนี้พระชายาหลิ่งฟู่เกิดประชวรท่านอ๋องช่วยไปดูพระชายาด้วยเพคะ " ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ด้วยความกังวลและเป็นห่วงสุดหัวใจ ซูฮวาเองก็วิ่งตามท่านอ๋องมาติดๆ ปล่อยให้มู่เอ๋อร์อารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะแผนของนางเกือบสำเร็จแล้วถ้าไม่มีมารอย่างสาวใข้ของพระชายาเอกเข้ามาขัดจังหวะ นางได้กรีดร้องโวยวายทำร้ายข้าวของทั่วห้อง"ทำไม ทำไมต้องมาป่วยเวลานี้ด้วย หรือว่าจะเป็นแผนของนางกันนะ นางรู้ว่าท่านอ๋องจะมาหาข้า นางเลยคิดแผนให้ท่านอ๋องไปหานาง นางก็คงสำออยสินะ ข้าไม่ยอม ข้าจะไปดูให้เห็นกับตาว่านางประชวรจริงๆ หรือไม่" มู่เอ๋อร์พูดจบก