บทที่ 9 ออกรบอีกครา
สามวันผ่านมาท่านอ๋องได้พาหลิ่งฟู่เดินเล่นแถวตลาดก็ได้ผ่านหน้าบ้านของใต้เท้าท่านหนึ่งและได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของสตรีสองนางที่แย่งชิงดีชิงเด่นจนทำให้ใต้เท้าผู้นั้นปวดหัวกับสตรีทั้งสองนางทำให้เขารีบเดินออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย ท่านอ๋องเห็นภาพตรงหน้าและตระหนักว่าตนเองจะไม่มีทางรับสตรีใดมาเป็นอนุเขาจะมีเพียงหลิ่งฟู่พระชายาเพียงผู้เดียว
"ใยเจ้าต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วย" ท่านอ๋องสังเกตุสีหน้าวิตกกังวลของหลิ่งฟู่ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
"ในภายภาคหน้าข้าคงต้องตบตีชิงดีชิงเด่นเช่นนี้กับพระชายารองไหนจะอนุของท่านพี่สินะ แค่ข้าเห็นภาพเมื่อครู่ข้ายังรู้สึกเหนื่อยใจ หากวันนั้นเกิดขึ้นจริงข้าเองก็ไม่รู้จะเป็นเช่นไร"
"เจ้าคิดไปไกลแล้วชายา ข้าจวิ้นอ๋องไม่คิดจะมีพระชายารอง และจะไม่รับผู้ใดเป็นอนุเพิ่ม ข้าจะมีเพียงชายาเท่านั้นสบายใจได้เลย ดูสิเจ้าคิดมากเสียจนคิ้วจะชนกันอยู่แล้วไปที่ตลาดหาขนมที่เจ้าชอบกินกันเถอะ ข้าจะซื้อทุกอย่างที่ชอบให้ทั้งหมดเลย"
"ท่านพูดเองนะเะคะ ข้าจะพลานเงินท่านพี่ให้หมดเลย" หลิ่งฟู่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อนางถูกตามใจและท่านอ๋องเองก็ช่างรู้ใจว่านางชอบของหวานเพียงใด
เมื่อความสุขเพียงไม่นานก็ได้มีสารมาจากฝ่าบาทให้จวิ้นอ๋องนำทัพไปช่วยรบกับแม่ทัพหยวนเป่าอีกรอบ
"ข้าไม่อยากให้ท่านพี่ไปเลย ท่านพี่ตอบกลับสารไปว่าท่านยังบาดเจ็บไม่ได้หรือเพคะ ข้าไม่อยากเห็นท่านบาดเจ็บอีกใจของข้าเจ็บปวดไปหมดเมื่อเห็นท่านพี่นอนบาดเจ็บไม่ฟื้นอยู่เช่นนั้น" หลิ่งฟู่รีบเดินเข้ามาเมื่อทราบข่าวว่าท่านอ๋องต้องออกไปรบอีกครา
"ชายาข้าทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเองก็รู้หากข้าโกหกต่อฝ่าบาทจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างข้าต้องทำเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ข้าไปรอบนี้ข้าสัญญาว่าจะรักษาตนเองให้ดีจะไม่ให้รับบาดเจ็บกลับมาอีกเจ้าวางใจได้"
"แต่รอบก่อนท่านก็พูดเช่นนี้กับข้านี่เพคะ แต่ท่านก็ยังได้รับบาดเจ็บกลับมาเช่นเดิม"
"แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายเพราะตอนนี้หากเราชนะศึกทุกอย่างจะยุติลง ข้ารับปากจะกลับมาหาชายาของข้าโดยเร็วที่สุด"
จวิ้นอ๋องกอดปลอบเมียรักของเขาเพื่อให้นางสบายใจ
"เช่นนั้นข้าจักทำเช่นไรได้ แต่ท่านรับปากข้าแล้วต้องกลับมาห้ามได้รับบาดเจ็บนะเพคะ"
"ได้ ข้ารับปาก"
วันรุ่งขึ้นจวิ้นอ๋องก็ได้นำทหารออกไปรบอีกครา หลิ่งฟู่ได้มาส่งจวิ้นอ๋องที่ขบวนเดินทางอย่างเป็นห่วงสุดหัวใจ นางมองจนขบวนทหารลับสายตาไป ก่อนจะเดินเข้ามาที่จวนด้วยใจหดเหี่ยว ในความครั้งนี้แม้นางจะเชื่อมั่นในคำสัญญาแต่ทว่าความรู้สึกของนางไม่เหมือนครั้งก่อนนางรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
"พระชายาเราเข้าไปพักที่ห้องกันเถิดเพคะ หากท่านไม่สบายใจเราไปทำขนมกันดีมั้ยเพคะ หรือท่านอยากจะไปเยี่ยมท่านใต้เท้ากับท่านแม่ของท่านหรือไม่"ซูฮวาเปฺ็นห่วงความรู้สึกของพราะชายาเป็นอย่างมากนางไม่อยากให้หลิ่งฟู่คิดมากเป็นกังวลจนเกินไป
"ดีเหมือนกันตั้งแต่ข้ามาอยู่ที่นี่ข้าไม่เคยได้ไปเยี่ยมท่านแม่เลย งั้นเราไปทำขนมไปฝากท่านแม่กันดีกว่า" แม้ในใจยังหว้าวุ่นเป็นห่วงท่านอ๋องแต่ตอนนี้ทางต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักดูแลจวนนางต้องทำจิตใจนิ่งให้มากขึ้น
บ้านของใต้เท้าโจ
ฮูหยินใหญ่กำลังเดินดูสาวใช้ภายในบ้านทำงานก็มีข้ารับใช้เดินกึ่งวิ่งเข้ามาบอกกล่าว
"ฮูหยินขอรับตอนนี้ พระชายาหลิ่งฟู่ได้กลับมาที่นี่ขอรับตอนนี้กำลังรอท่านอยู่ที่ห้อง"
"ว่าอย่างไรนะ หลิ่งฟู่กลับมาหรือ รอช้าอยู่ทำไมรีบไปหาลูกสาวของข้ากันดีกว่า" ฮูหยินรีบเดินไปที่ห้องของตนเมื่อได้ยินว่าบุตรสาสของเขากลับมาเยี่ยม
"ท่านแม่ท่านสบายดีหรือเจ้าคะ ข้าคิดถึงท่านเลยทำขนมฝากเจ้าค่ะ" หลิ่งฟู่รีบลุกขึ้นเดินไปจับแขนของท่านแม่มานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะยกขนมที่ใส่จานไว้แล้วให้ท่านแม่ของนาง
"แม่เองก็คิดถึงพระชายาเช่นกันไปอยู่ที่จวนท่านอ๋องเป็นเช่นไรบ้าง ท่านจวิ้นอ๋องรักและเอ็นดูพระชายาหรือไม่"
"ท่านแม่อย่าเป็นห่วงเลยท่านอ๋องรักและดูแลลูกดีมากเจ้าค่ะ " นางหันซ้ายหันขวาเพื่อมองดูท่านอ๋องแต่ทว่ามองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนหลิ่งฟู่พูดออกมาอย่างรู้ใจ
"ท่านแม่มองหาท่านอ๋องหรือเจ้าคะ "
"ใช่แล้ว "
"ท่านอ๋องไม่ได้มากับข้าด้วยหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านอ๋องได้นำทหารไปข่วยแม่ทัพหยวนเป่า ลูกเลยมาเยี่ยมท่านแม่เพียงผู้เดียว"
"พระชายาคงเหงามากสินะที่สามีของตนเองต้องออกรบอยู่เรื่อย หากพระชายาไม่อยากอยู่เพียงลำพัง เมื่อไหร่ที่ท่านอ๋องนำทัพออกอีกพระชายาก็กลับมาอยู่กับแม่ก็ได้นะเพคะ"
"ข้าไม่เหงาหรอกเจ้าค่ะ ความรู้สึกเดียวที่ข้ามีตอนนี้คือเป็นห่วงท่านอ๋องมากกว่า ครั้งที่แล้วก็บาดเจ็บกลับมาไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้รับบาดเจ็บอีกหรือไม่ ลูกเฝ้าภาวนาขออย่าให้ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บเลย"
"งั้นดีเลย แม่จะพาไปสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระเจ้าเพื่อให้คุ้มครองท่านจวิ้นอ๋องพระชายาจะได้สบายใจ ซูฮวาเตรียมร่มไว้ให้ข้าทีข้าจะพาพระชายาไปที่วัด" ฮูหยินพูดจบก็พากันลุกขึ้นเดินทางไปที่วัดดังกล่าว
หลังกลับมาจากบ้านของท่านแม่หลิ่งฟู่รู้สึกสบายใจมากขึ้น
"พระชายาคืนนี้หม่อมฉันจะนอนที่นี่เป็นเพื่อนท่านนะเพชคะ"
ซูฮวาอุ้มผ้าห่มของนางเข้ามาที่ห้องของหลิ่งฟู่
"ข้านอนผู้เดียวได้ เจ้ากลับไปนอนที่ห้องเจ้าเถอะ"
"ไม่เจ้าคะ หม่อมฉันอุตส่าห์เอาผ้าห่มมาแล้วจะให้เอากลับหม่อมฉันก็อายผู้อื่นสิเพคะ"
"ก็ได้ งั้นก่อนเจ้าจะนอนก็อย่าลืมปิดหน้าต่างดับเทียนให้เรียบร้อย ข้าจะนอนก่อน" หลิ่งฟู่บอกซูฮวาแล้วก็โน้มตัวลงนอนบนที่นอนที่ไร้กายของจวิ้นอ๋องมีเพียงกลิ่นกายที่ทำให้นางเฝ้าถวินหา
ท่ามกลางหมอกควันที่หนาบังตาแทบมองไม่เห็นทางหลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินตามหมอกนั้นไปโดยไม่เห็นหนทางและไม่รู้ว่าตนเองจะไปที่ใด จู่ๆ นางก็พบกับด้านหลังของบุรุษท่านหนึ่งที่นางนั้นจำได้ขึ้นใจ แต่ทว่าต่อให้นางเรียกเท่าไหร่บุรุษผู้นั้นกลับไม่หันหลังมาหานางเลยแม้แต่น้อย
"ท่านพี่ ท่านจะไปที่ใดเพคะ รอข้าด้วยท่านพี่ข้ามองไม่เห็น" หลิ่งฟู่พยายามเดินตามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทันเสียที จนนางเห็นแสงสว่างที่อยู่ต่อหน้า แต่ภาพเบื้องหน้าที่นางเห็นอยู่นั้นกลับเลือนลางและไม่พบท่านอ๋องอีก มีเพียงเลือดที่ไม่รู้มาจากที่ใดไหลนองเต็มพื้นไปหมดและกำลังไหลมาหานางอย่างช้าๆ จนนางขวัญผวาตื่นกลัว ร้องหาคนที่นางรัก
"ท่านพี่อยู่ที่ใดเพคะ ช่วยข้าด้วยข้ากลัวเหลือเกินทุกคนไปไหนกันหมด ซูฮวาเจ้าอยู่ไหน "
"คนอย่างเจ้าสมควรแล้วที่ต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าได้ สตรีน่ารังเกียจเช่นเจ้าแค่เดินผ่านก็ไม่มีผู้ใดเหลียวมอง" หลิ่งฟู่เงยหน้ามองไปหาต้นเสียงกลับพบว่าท่านอ๋องยืนยิ้มแสยะพร้อมหญิงอื่นที่กอดไว้แนบกาย
"ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ท่านรักข้ามิใช่หรือทำไมท่านถึงจะทิ้งข้าไว้เช่นนี้"
"สตรีเลวทรามต่ำช้าเช่นเจ้าไม่มีค่าพอสำหรับความรักของข้า จากนี้ไปถือว่าเราขาดกันและข้าขอไม่รู้จักเจ้าอีกต่อไป"
"ท่านพี่ไปกันเถอะเพคะ หม่อมฉันเหม็นคาวกลิ่นเลือดน่าสะอิดสะเอียนเสียจริง"
"ได้สิจร๊ะ เมียรักของข้า" หลิ่งฟู่หมดแรงกำลังทรุดนั่งลงกับพื้นมองภาพที่ทิ่มแทงหัวใจท่านอ๋องที่เคยรักนางนักหนาตอนนี้กลับเดินกอดหญิงอื่นออกไปต่อหน้าต่อตา ปล่อยให้เลือดที่ไหลนองท่วมกายนางเรื่อยๆ
บทที่ 10 สตรีในฝัน"กรี๊ด!!! ไม่นะท่านพี่อย่าทิ้งข้าไป " หลิ่งฟู่สะดุ้งตื่นกรีดร้องออกมาเสียงดังทำให้ซูฮวาที่นอนอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงเจ้านายของตนจึงรีบลุกขึ้นมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เกิดอะไรขึ้นเพคะ ทำไมท่านถึงกรีดร้องยามวิการเช่นนี้ หรือว่าท่านโดนแมลงกัดหรือเพคะ ดูสิเหงื่อท่านไหลเต็มตัวไปหมดแถมท่านยังสั่นเทาเช่นนี้ เดี๋ยวหม่อมฉันไปจุดไฟก่อนนะเพคะจะได้หาแมลงที่กัดท่านเจอ"ซูฮวากำลังลุกไปจุดเทียนแต่ถูกหลิ่งฟู่ดึงแขนนางไว้ก่อน"เจ้าอย่าพึ่งไปไหน เมื่อครู่ข้าแค่ฝันร้ายไม่ได้ถูกแมลงกัดต่อยหรอก ""โธ่ หม่อมฉันก็คิดว่าท่านถูกแมลงกัดเสียอีก แล้วท่านฝันว่าอย่างไรหรือเพคะถึงได้กรีดร้องออกมาเช่นนี้ ""ข้าฝันเห็นเลือดและท่านพี่ที่กำลังจะจากข้าไป ข้ากลัวเหลือเกิน""โบราณกล่าวว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี อาจเป็นเพราะท่านคิดมากและเป็นห่วงท่านอ๋อง ท่านเลยฝันเช่นนี้คงไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรอกเพคะ ท่านนอนต่อเถิด อีกตั้งหลายชั่วยามกว่าจะเช้า หากพระชายากลัวหม่อมฉันก็จะนั่งเฝ้าจนกว่าพระชายาจะหลับนะเพคะ""แต่ความฝันมันน่ากลัวจริงๆ นะ ท่านพี่เปลี่ยนไปมาก มากจนข้าเองไม่เคยพบเจอแถมในความฝันท่านพี่ยังเดินจากข้
บทที่ 11 รักไม่จืดจางมู่เอ๋อร์เข้ามาอยู่ที่จวนจวิ้นอ๋องเป็นเวลาหลายวัน หลังจากที่นางถูกแต่งตั้งให้เป็นพระชายารองของจวิ้นอ๋องและคืนส่งตัวเข้าหอ จวิ้นอ๋องก็ไม่เคยมาหานางอีกเลย ปล่อยให้นางเฝ้ารอคอยท่านอ๋องที่ห้องอยู่เพียงลำพัง โชคดีที่นางมีสาวใช้ที่ติดตามมาตั้งแต่นางยังเด็ก มาคอยรับใช้นางอยู่ที่จวนอ๋องด้วย"พระชายารอง ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นเพคะหรือว่าท่านจะคิดถึงท่านแม่ทัพหยวน โธ่ชีวิตคุณหนูของหม่อมฉัน""ข้าเบื่อนะสิ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ท่านอ๋องก็ไม่เคยมาหาข้าเลย ไม่เคยสนใจใยดีข้าด้วยซ้ำ""ท่านจะรอท่านอ๋องมาหาท่านทำไมเพคะ ท่านก็ไปหาท่านอ๋องเองสิเพคะ"."นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ได้กันนะ เจ้าถือพิณหลิวไปด้วย ข้าจะไปแสดงให้ท่านอ๋องได้ดู ""ได้เพคะ " พิณหลิวเป็นเครื่องดนตรีที่มู่เอ๋อร์ชอบเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก มันเป็นเสน่ห์ที่ติดตัวนางมาไม่ว่าผู้ใดได้ยินเสียงดีดพิณของนางต่างพากันหลงไหลในเสียงพิณนั้นราวกับมีมนตร์สะกดทั้งสองคนก็ได้พากันเดินไปที่ตำหนักของท่านอ๋อง แต่ทว่าเมื่อไปถึงท่านอ๋องกลับไม่อยู่ที่ตำหนัก ชาวใช้ที่ดูแลตำหนักนั้นได้บอกว่าท่านอ๋องไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายาเอก มู่เอ๋อร์จึงเดินไปหาท
บทที่ 12 พระชายาหลิ่งฟู่ตั้งครรภ์"ขอบพระทัยท่านอ๋องนะเพคะ ที่เข้าใจหม่อมฉัน"นางขยับกายเข้ามาใกล้หวังจะเข้ามาสวมกอดท่านอ๋องแต่จู่ๆ เสียงดังเอะอะด้านนอกประตูก็ดังขึ้น"เสียงใครกัน" ท่านอ๋องคิ้วขมวดเข้าหากันสงสัยเสียงท่่ดังอยู่ด้านนอก"เจ้าไปดูสิ ใครมาเอะอะโวยวายยามวิกาลเช่นนี้ "มู่เอ๋อร์สั่งสาวใช้นางให้ออกไปดู แต่ทว่าประตูถูกเปิดเข้ามาก่อน ผู้ที่เอะอะโวยวายนั้นคือซูฮวาสาวใช้ของหลิ่งฟู่"หม่อมฉันขออภัยที่เข้ามารบกวนท่านอ๋องและพระชายารอง แต่ว่าตอนนี้พระชายาหลิ่งฟู่เกิดประชวรท่านอ๋องช่วยไปดูพระชายาด้วยเพคะ " ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นรีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ตำหนักของหลิ่งฟู่ด้วยความกังวลและเป็นห่วงสุดหัวใจ ซูฮวาเองก็วิ่งตามท่านอ๋องมาติดๆ ปล่อยให้มู่เอ๋อร์อารมณ์เสียที่ถูกขัดจังหวะแผนของนางเกือบสำเร็จแล้วถ้าไม่มีมารอย่างสาวใข้ของพระชายาเอกเข้ามาขัดจังหวะ นางได้กรีดร้องโวยวายทำร้ายข้าวของทั่วห้อง"ทำไม ทำไมต้องมาป่วยเวลานี้ด้วย หรือว่าจะเป็นแผนของนางกันนะ นางรู้ว่าท่านอ๋องจะมาหาข้า นางเลยคิดแผนให้ท่านอ๋องไปหานาง นางก็คงสำออยสินะ ข้าไม่ยอม ข้าจะไปดูให้เห็นกับตาว่านางประชวรจริงๆ หรือไม่" มู่เอ๋อร์พูดจบก
บทที่ 13 โดนรอบทำร้ายบ้านใต้เท้าโจ"แม่ดีใจเหลือเกินต่อจากนี้พระชายาจะได้เป็นแม่คนแล้ว ดูแลตนเองดีๆ นะเพคะพระชายา ""ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านอ๋องก็ดูแลข้าดีเหลือเกินทุกวันนี้ข้าแทบจะเดินไม่เป็นอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านแม่โปรดพูดกับข้าเช่นเคยเถิด ถึงข้าจะเป็นพระชายาของจวิ้นอ๋องแต่เมื่อไหร่ที่ตัวของข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ข้าก็ยังคงเป็นเพียงบุตรสาวของท่านเท่านั้น ""หลิ่งฟู่เอ้ย ตอนนี้เจ้าเป็นทั้งพระชายาของท่านอ๋องและกำลังจะเป็นมารดา พ่อเช่นข้าดีใจกับเจ้ายิ่งนัก" ใต้เท้าโจพูดพร้อมใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่ไหลออกไม่อยากให้บุตรสาวของตนได้เห็น"ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยแล้วอากาศไม่ค่อยร้อนลูกขอตัวกลับจวนอ๋องก่อนนะเจ้าคะ""งั้นเดี๋ยวแม่จะออกไปส่งเจ้าที่เกี้ยวนะ""ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อกับท่านแม่เองก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะเจ้าคะ ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว ร่างกายของท่านเแม่ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ""เจ้าเองก็เช่นกัน ตอนนี้เจ้าเองก็ต้องดูแลตนเองให้ดี จากนี้ไปเจ้าไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียว แต่เจ้ายังมีอีกลมหายใจน้อยๆ ที่กำลังหายใจร่วมกับเจ้าอยู่ ""ลูกลาแล้วนะเจ้าคะ"หลิ่งฟู่และซูฮวานั่งเกี้ยวออกมา
บทที่ 14 ข้าขอเตือนมู่เอ๋อร์ได้ยินถึงกับขาสั่นนั่งพับลงพื้นทันที"พระชายาพูดเรื่องอันใดเพคะหม่อมฉันไม่รู้เรื่องอันใดเลย อีกอย่างหม้อมฉันจะทำเช่นนั้นกับพระชายาที่ใจดีกับหม่อมฉันได้อย่างไร" มู่เอ๋อร์ยังคงหาคำมาโกหกต่อ หลิ่งฟู่ก็รู้ดีว่านางต้องไม่รับแน่ๆ ว่าเป็นฝีมือของนาง"หากไม่ใช่ฝีมือของเจ้าเหตุใดเจ้าต้องตัวสั่นเช่นนี้ แต่ก้ไม่เป็นไรเพราะครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยและเรื่องนี้จะไม่ถึงหูของท่านพี่ แต่หากมีครั้งหน้าข้าบอกไว้เลยข้าไม่ปล่อยไว้แน่ ทำกับข้าข้าไม่ว่าแต่ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์อยู่หากท่านพี่รู้เรื่องนี้เข้าท่านพี่ต้องสืบหาผู้ที่สั่งคนพวกนั้นแน่นอนแล้วคิดดูสิ บุตรคนแรกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของท่านจวินอ๋องถูกทำร้ายจะเกิดอันใดขึ้น ท่านอ๋องก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจที่โหดเหี้มกระหายเลือดอยุ่ด้วย" หลิ่งฟู่ลุกขึ้นเดินจากไปปล่อยให้มู่เอ๋อร์นั่งคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนี้เพราะนางเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ทำให้นางนั่งตัวสั่นเทาเพราะกลัวความผิดและได้ปล่อยน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ"นายหญิงหม่อมฉันขอโทษเพคะ หม่อมฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะไร้ความสามารถถึงเพียงนี้ "สาวใช้เข้ามาจับกายของมู่
บทที่ 15 ฤทธิ์ของยาเสน่ห์สาวใช้กลับเข้ามาที่จวนเป็นเวลาเดียวกันกับที่ซูฮวาเดินกลับมาจากตลาด เพราะพระชายาอยากกินขนมหวานนางจึงออกมาซื้อให้ นางเดินตามหลังของสาวใช้มู่เอ๋อร์มาเรื่อยๆ เพราะว่านางทำตัวลับๆ ล่อๆ จนนางมาถึงตำหนักของพระชายารองมู่เอ๋อร์ซูฮวายืนแอบฟังอยู่ไกลๆ แต่ทว่านางก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร นางเห็นเพียงสาวใช้ของมู่เอ๋อร์มอบขวดขนาดเล็กให้มู่เอ๋อร์ก่อนจะพากันเดินเข้าไปที่ห้องทั้งคู่อย่างรีบร้อนซูฮวาจึงรีบเดินไปหาหลิ่งฟู่"นี่ซูฮวาทำไมเจ้าถึงไปนานเช่นนี้ ไหนดูสิของที่ข้าให้เจ้าไปซื้อ""นี่เพคะ พระชายา""ในเมื่อซูฮวากลับมาแล้ว ข้าเองก็ไปที่ตำหนักของข้าก่อนนะพระชายาเดี๋ยวคืนนี้ข้าจะกับมานอนที่นี่กับเจ้า" ท่านอ๋องบอกก่อนจะเดินออกไป เมื่อท่านอ๋องไปลับตาซูฮวาก็เข้ามาพูดกับพระชายาอย่างเบาเสียง"พระชายาเพคะ หม่อมฉันออกไปด้านนอกมาเมื่อครู่ขากลับเจอกับสาวใช้ของพระชายารองมู่เอ๋อร์ด้วย แถมนางยังมีท่าทีน่าสงสัยข้าเลยเดินตามไปจนถึงตำหนักของนาง นางหยิบขวดเล็กออกจากเสื้อของนางส่งให้พระชายารองแต่ทว่าหม่อมฉันไม่ได้ยินที่นางพูดคุยกัน แถมทั้งสองคนยังรีบเดินเข้าไปที่ห้องด้วย หม่อมฉันว่าทั้งสองคนต้อง
บทที่ 16 วาจาของท่านพี่ก็ไม่ต่างจากชายใดรุ้งเช้าของอีกวันหลิ่งฟู่ตื่นมาด้วยอารมณ์ไม่สดใสเพราะนางเฝ้าคิดอยู่ทั้งคืนเหตุใดท่านพี่ถึงไม่มาหานาง เช้านี้นางจึงตัดสินใจไปหาท่านอ๋องที่ตำหนักของเขาและพบเข้ากับสาวใช้ที่ตำหนักนั้น"ท่านอ๋องตื่นรึยังไปแจ้งให้ข้าที ว่าข้ามาหา" สาวใช้ก้มโค้งลงเพื่อคำนับพระชายา .."หม่อมฉันคงเข้าไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้หรอกเพคะ ""เพราะเหตุใดเจ้าถึงไปแจ้งท่านอ๋องให้พระชายาไม่ได้ เจ้าอยากโดนเฆี่ยนหรือไง" ซูฮวาโวยวายเมื่อสาวใช้ผู้นี้ขัดใจนาง"ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ เพราะว่าท่านอ๋องไม่ได้กลับมานอนที่ตำหนักตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเพคะ""เอ๊ะเจ้านี่ ท่านอ๋องไม่อยู่ที่นี่จะไปอยู่ที่ไหนได้เพราะว่าเมื่อคืนนี้ท่านอ๋องก็ไม่ได้ไปที่ตำหนักพระชายา"ซูฮวาอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าหลิ่งฟู่อีกด้วยซ้ำ หลิ่งฟู่คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามสาวใช้ไป"แล้วท่านพี่ไปที่ใดได้บอกเจ้าไว้หรือไม่""ไม่ได้บอกเพคะ แต่ว่าตอนหัวค่ำหม่อมฉันเห็นว่าสาวใช้ของพระชายารองขอเข้าพบ ท่านอ๋องน่าจะไปอยู่ที่ตำหนักของพระชายารองนะเพคะ"หลิ่งฟู่ก็ยังคงไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ท่านพี่ที่รักนางมากเสียจนไม่มีเวลาให้ผู้อื่นเหตุใดท่า
บทที่ 17 ห่างเหินหลิ่งฟู่หวังว่าท่านอ๋องจะเดินตามมาอธิบายกับนางสักนิดแต่นางเฝ้ารอมีเพียงแค่ความว่างเปล่า นางปาดน้ำตาและเดินเข้าไปที่ห้องของตน"ข้าจะต้องเข็มแข็ง ขนาดท่านพ่อเป็นเพียงใต้เท้ายังมีฮูหยินรองแล้วทำไมท่านอ๋องจะมีคนอื่นบ้างไม่ได้ ซูฮวาเหตุใดใจของข้าถึงใหญ่ไม่พอที่จะให้ท่านพี่มีคนอื่นเช่นนี้ ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน เจ้าดูสิเมื่อวานท่านพี่ยังรักข้าแต่วันนี้ท่านพี่กลับไปหลงอยู่กับพระชายารอง ""พระชายาเพคะ ท่านอ๋องอาจจะแค่เป็นห่วงพระชายาอีกอย่างท่านอ๋องเป็นบุรุษหากจะเข้านอนกับพระชายาก็เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อบุตรในท้อง หรืออาจจะเป็นอีกอย่างก็ได้นะเพคะเพราะจู่ๆ ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปจากอีกคนไปเป็นอีกคน หรือว่านี่จะเป็นแผนของพระชายารองเพคะ""นั้นสิ ทำไมข้าคิดไม่ถึงกัน คราวที่แล้วนางมาทำร้ายข้า เมื่อทำกับข้าไม่ได้นางจึงเข้าทางท่านพี่ แล้วนางทำเช่นไรให้ท่านพี่หลงรักนางได้ขนาดนั้นกัน" หลิ่งฟู่เริ่มคิดหนักอีกครั้ง ถ้าหากเป็นแผนของมู่เอ๋อร์ก็เปรียบเสมือนว่าท่านอ๋องนั้นไม่ได้คลายรักหลิ่งฟู่เลย นางจึงเดินไปมาภายในห้องเพื่อคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น"นี่ซูฮวาเจ้าไปตามทหารที่ช่วยเราวันนั้นมาให้ข้าที."
ตอนพิเศษเวลาล่วงเลยผ่านมาหลายเดือนสายลมพัดผ่านร่างเล็กที่ยืนมองทอดไปด้านหน้าสายตาจับจ้องไปที่ท้องฟ้ายามนี้บ้านเมืองสงบสุข ความรักของนางก็เช่นกันไม่มีวันใดที่นางไม่เคยได้รับความรักความห่วงใยจากท่านจวิ้นอ๋องเลย“พระชายาเจ้ามายืนอยู่ด้านนอกเช่นนี้ไม่หนาวรึ เข้าไปด้านในกันเถอะ” ท่านอ๋องเดินมาจากด้านหลังสวมกอดร่างเล็ก“ข้าหวนนึกถึงอดีตเพคะ เข้าฤดูหนาวทีไรใจของข้ามักจะเจ็บปวดทุดครั้งเลยเพคะ” หลิ่งฟู่เงยหน้ามองชายที่โอบกอดนางอยู่“ใยเจ้าต้องนึกถึงอดีตอีกเล่าตอนนี้ข้าเองก็ได้แก้ไขทุกอย่างไปหมดสิ้นแล้ว เจ้าทำใจสบายเถิด ซูฮวาเจ้าไปนำชาอุ่นๆ มาให้พระชายาทีร่างกายจะได้อบอุ่น” ท่านอ๋องได้หันไปบอกแก่สาวใช้“เพคะ” ซูฮวาเดินเข้าไปด้านในหลิ่งฟู่เองก็เช่นกันนางได้เดินตามท่านอ๋องเข้ามาในห้อง สักพักฉางอู่ก็ได้เข้ามาหาท่านอ๋อง“ท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ตอนนี้ท่านแม่ทัพหยวนเป่ามาขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ”“งั้นรึ เจ้าพาแม่ทัพหยวนเป่าไปรอที่ห้องรับรองเถิดเดี๋ยวข้ากับพระชายาจะตามไป”“พะย่ะค่ะ” ฉางอู่ได้เดินออกไป“ท่านแม่ทัพมาหาท่านทำไมกันนะเพคะ ช่วงเวลานี้บ้านเมืองก็สุขสงบไม่มีข้าศึกโจมตีแล้วแท้ๆ” หลิ่งฟู่ถามออกมาด้วยคว
บทที่ 33 ครองรักกันอีกครั้งนางได้นั่งรถม้ามาหาท่านจวิ้นอ๋องถึงกองทัพพร้อมกับซูฮวา ยามนั้นนางปากแข็งหากว่าเขาเป็นอะไรหรือหายไปจากชีวิตของนางก็คงดี บัดนี้ท่านจวิ้นอ๋องได้รับบาดเจ็บจริงๆ นางกลับรู้สึกใจหาย และกระวนกระวายอยากไปพบท่านจวิ้นอ๋องด้วยตัวของนางเองเพียงไม่นานรถม้าก็ได้มาหยุดอยู่ที่หน้ากองทัพ ทหารก็ได้เข้ามาถามว่าแม่นางทั้งสองมาหาผู้ใด"ไม่ทราบว่าแม่นางทั้งสองมาหาผู้ใดกันหรือขอรับ ข้าจะได้ไปแจ้งให้แม่ทัพหยวนเป่าได้รู้""ข้าเป็นคนรักของท่านจวิ้นอ๋อง ข้าได้รู้ข่าวว่าท่านจวิ้นอ๋องได้รับบาดเจ็บข้าขอเขาไปพบได้หรือไม่""เดี๋ยวข้าต้องเข้าไปเรียนท่านแม่ทัพแม่นางโปรดรอสักครู่" ทหารผู้นั้นวิ่งเข้าไปที่กองทัพ แม่ทัพหยวนเป่าต่างแปลกใจที่กองทัพเช่นนี้สตรีนางใดก็ไม่กล้าเข้ามาเยือน เขาจึงได้ออกมาพบนาง เมื่อนางเห็นแม่ทัพหยวนเป่าหลิ่งฟู่รีบวิ่งไปหาเขาทันที."แม่ทัพหยวนเป่าท่านจวิ้นอ๋องเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ บาดเจ็บมากน้อยเพียงใด" แม่ทัพถึงกับงงงวยว่าสตรีนางนี้รู้จักชื่อเขาได้อย่างไร สงสัยเป็นเพราะท่านจวิ้นอ๋องคงเล่าเรื่องของเขาให้นางฟัง เขาเลยเชื่อว่าเป็นคนรักของท่านจวิ้นอ๋องจริงๆ"ท่านจวิ้นอ๋อง
บทที่ 32 ลาก่อนหมอกควันหนาเตอะทำให้หลิ่งฟู่มองไม่เห็นหนทางด้านหน้า มือของนางเต็มไปด้วยเลือดที่ไม่รู้ว่าเป็นเลือดของผู้ใด บรรยากาศช่างเยือกเย็น นางหันมองซ้ายมองขวาและเห็นเงาของบุรุษผู้หนึ่งที่กำลังเดินจากนางไป นางจึงรีบเดินตามหลังชายผู้นั้นหวังจะออกมาหมอกควันนี้ไป"นี่เจ้าเป็นผู้ใด รอข้าด้วยให้ข้าออกไปกับเจ้าด้วย" หลิ่งฟู่ตะโกนบอกชายตรงหน้าและเขาก็หันหน้ามามองหลิ่งฟู่ด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานแต่แววตากลับโศกเศร้า"ในที่สุดเจ้าก็เรียกข้าและจะมาพร้อมกับข้าแล้วหรือพระชายา" ทันทีที่ชายผู้นั้นหันกลับมาหลิ่งฟู่ก็จำได้ว่านั้นคือท่านจวิ้นอ๋อง แต่ทว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดขาวริมฝีปากแห้งเกรอะ เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เป็นชุดเกาะที่สวมใส่เพื่อออกรบเต็มไปด้วยเลือด นางมองต่ำลงเรื่อยๆ ก็พบเลือดที่ไหลรินอกมาจากหน้าท้องด้านซ้ายของจวิ้นอ๋องที่ไม่ยอมหยุดเสียที"ท่านเกิดอะไรขึ้นเหตุใดเลือดของท่านถึงไหลออกมามากมายขนาดนี้ " หลิ่งฟู่รีบเดินเข้าไปไกลแต่เหมือนท่านจวิ้นอ๋องนั้นไกลจากนางยิ่งกว่าเดิม"ข้าทำได้แล้วนะ ข้าไม่ต้องรับมู่เอ๋อร์เข้าที่จวนของเราแล้ว แต่ข้าคงไม่มีวาสนาได้เคียงข้างกับเจ้า วันนี้ข้าเลยจะมาลา ได้โปร
บทที่ 31 โหยหาวันคืนไม่ย้อนกลับวันเวลาแห่งความสุขไปสิ้นหายไปตั้งแต่คืนนั้นมาหลิ่งฟู่เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ที่ห้องของตนเองไม่ออกไปพบเจอผู้ใด ไม่ว่าใต้เท้าโจและท่านแม่ของนางจะเข้ามาหาเพื่อถามถึงเหตุุที่บุตรสาวของตนเองเปลี่ยนไปก็ไม่รู้แจ้งซูฮวานางรู้สึกสงสารที่คุณหนูของนางเอาแต่เม่อลอย นางไม่รู้เลยว่าคุณหนูของนางกับท่านจวิ้นอ๋องโกรธเคืองเรื่องใดกันถึงทำให้คุณหนูหลิ่งฟู่ถึงเอาแต่เหม่อลอยอยู่ทุกคืนวัน"คุณหนูเจ้าคะ ช่วงนี้ก็หมดฤดูฝนแล้วเราออกไปเดินเล่นที่ตลาดกันดีมั้ยเจ้าคะ ""ข้าเหนื่อย ไม่อยากออกไปที่ใดเลย ""คุณหนูรู้มั้ยเจ้าคะ ที่คุณหนูเป็นอยู่เช่นนี้ทุกคนต่างก็เป็นห่วงข้าไม่รู้หรอกนะเจ้าคะว่าคุณหนูกับท่านจวิ้นอ๋องเกิดเรื่องอันใดขึ้น และข้าก็รู้ว่าคุณหนูเองก็ชอบท่านอ๋องทำไมท่านต้องคอยไล่ให้ท่านอ๋องไปไกลๆ จากชีวิตท่านด้วยละเจ้าคะ ""ข้าไม่ได้ชอบท่านจวิ้นอ๋องเสียหน่อย" หากแต่ว่านางดันรักเขาหมดหัวใจ"หากท่านไม่ได้ชอบแล้วท่านจะมานั่งเศร้าโศกเสียใจในวันที่ท่านอ๋องไม่มาหาท่านอย่างนี้ทำไมเจ้าคะ ท่านต้องดีใจมิใช่หรือ ชีวิตของคนเรานั้นมันสั้นนักนะเจ้าคะ ข้าไม่อยากให้คุณนูของข้าต้องมานั่งเสียใจภ
บทที่ 30 ข้ารักเจ้าท่านจวิ้นอ๋องเองก็เฝ้าคิดทั้งคืนวันเขาเป็นห่วงนางเหลือเกินแต่ก็ออกตามนางไปไม่ได้ หากเขาตามนางไปจะคอยทำให้นางเสียใจมากกว่าเดิม จนรุ่งเช้าท่านอ๋องก็ยังคงเป็นห่วงนาง ท่านอ๋องจึงตัดสินใจไปหานางที่บ้านเมื่อมาถึงท่านอ๋องก็ได้เข้าไปพบกับใต้เท้าโจก่อนจะขอมาหาบุตรสาวของเขาและรู้ว่าหลิ่งฟู่ไม่สบายเป็นไข้หวัด"ซูฮวาคุณหนูของเจ้าอยู่ด้านในหรือไม่" ท่านอ๋องเดินมาที่หน้าห้องของหลิ่งฟู่เห็นซูฮวากำลังนำน้ำไปเช็ดตัวเขาเลยนอ่ยถามนาง"คาระวะท่านจวิ้นอ๋อง วันนี้คุณหนูของหม่อมฉันไม่สบายนอนที่ในห้องเพคะ""นางป่วยหนักเลยรึ ข้าขอเข้าไปพบนางได้หรือไม่""หม่อมฉันขอเข้าไปถามคุณหนูก่อนนะเพคะ ท่านจวิ้นอ๋องโปรดรอสักครู่"ซูฮวาเดินเข้าไปหาฟลิ่งฟู่ที่ห้องนอนเพื่อถามว่าจะออกไปพบท่านจวิ้นอ๋องหรือไม่"คุณหนูเจ้าคะ เมื่อครู่นี้ก่อนที่ข้าจะเข้ามาท่านจวิ้นอ๋องขอเข้ามาพบท่าน ท่านจะอกไปพบท่ายจวิ้นอ๋องมั้ยเจ้าคะ" หลิ่งฟู่ที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นทันที"ไม่ ข้าไม่ต้องการพบบุรุษผู้นี้เจ้าจงไปบอกท่านจวิ้นอ๋องว่าชาตินี้ไม่ต้องมาหาข้าอีก ""ได้เจ้าค่ะ " ซูฮวาก็ได้รู้ทันทีว่าที่คุณหนูของนางร้องไห้เมื่อวานต้องเกิดมาจ
บทที่ 29 อย่าได้พบเจอกันอีกเลยข้าไม่อยากมีชะตาเช่นดังอดีตเมื่อใกล้แจ้งนางจึงรีบไปหาท่านจวิ้นอ๋องที่จวนของเขา และนางจำได้ดีว่าทางไปที่จวนของท่านจวิ้นอ๋องนั้นไปทางใด แม้ตอนนี้นางฝนยังคงตกอยู่ไม่รู้จักหยุดแต่ก็ไม่ได้ทำให้นางหวนกลับบ้านของตน วันนี้นางต้องไปพบเจอท่านจวิ้นอ๋องให้ได้ นางไม่ลืมที่จะคว้านำปิ่นที่เขานำมาให้นางกลับไปให้เขาดังเดิม และถือร่มเดินตากฝนไปที่จวนของงท่านจวิ้นอ๋องโดยไร้ความกลัวใดๆเมื่อนางมาถึงที่จวนของจวิ้นอ๋องก็ได้บอกให้ทหารแจ้งต่อท่านอ๋อง เมื่อเขารู้ว่านางมาหาเขาถึงที่จวน เขาดีใจอย่างมากและเป็นเห่วงนางซะเหลือเกินที่เดินผ่าฝนมาทหารได้พาหลิ่งฟู่ไปพบท่านจวิ้นอ๋องที่ตำหนักของเขา ทันทีที่เห็นหน้าหลิ่งฟู่ท่านจวิ้นอ๋องยิ้มในนางด้วยความดีใจแต่ทว่าเมื่อหลิ่งฟู่เข้ามาถึงนางก็โยนปิ่นอันนั้นใส่หน้าของท่านจวิ้นอ๋องอย่างแรง"ที่ท่านนำปิ่นมาให้ข้าเพราะว่าจะให้ข้าได้รับรู้ว่าปิ่นอันนี้ข้าใช้ปลิดชีพตนเองหรือไร ไม่ว่าเมื่อใดท่านก็ยังคงใจร้ายเช่นเคย" นางเปล่งเสียงออกมาอย่างติดขัดเพราะตอนนี้น้ำตาของนางกำลังไหลรินออกมาด้วยความคับแค้นใจและเจ็บปวดเจียนตายจวิ้นอ๋องหุบยิ้มทันที เขาไม่เข้า
บทที่ 28 ปิ่นปักผมแทนใจเช้าวันนี้ฝนหยุดตกท่านอ๋องเมื่อไม่เจอหน้าของงหลิ่งฟู่หลายวันก็เกิดความคิดถึง เขาจึงไปหานางที่บ้านเขาได้ควบม้าผ่านตลาดและผ่านร้านปิ่นปักผมสายตาของเขาก็ไปสะดุดตาก็ปิ่นอันที่เขาเคยซื้อให้กับหลิ่งฟู่เมื่อชาติที่แล้ว เขารีบกระโดดลงจากหลังม้าและไปซื้อปิ่นนั้นไปให้หลิ่งฟู่ทันทีบ้านเจ้าเท้าโจ"ท่านเอามาให้ข้าทำไมกันเพคะ""ข้าผ่านตลาดมาเห็นว่ามันสวยดีน่าจะเหมาะกับสตรีที่งามเช่นเจ้าเลยซื้อมาให้เจ้าเป็นของกำนัล"ทันทีที่หลิ่งฟู่เห็นปิ่นปักผมอันนั้นนางก็จำได้ทันที นี่มันอันเดียวกับที่นางเห็นในความฝันไม่ผิดเพี้ยนแต่ว่าหากปิ่นอันนี้เป็นอันเดียวกันและท่านจวิ้นอ๋องเป็นผู้ซื้อให้นางแล้วเหตุใดนางต้องปลิดชีพตนเองหรือนี่จะเป็นเหตุบอกล่วงหหน้าความสงสัยมากมายในหัวของนางเริ่มปะทุอีกครั้ง ทำไมนางต้องฝันเห็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นภายภาคหน้า หลิ่งฟู่นางเป็นคนที่ไม่ยอมที่จะเก็บไปคิดนานๆ เมื่อนางใคร่อยากรู้นางจึงถามท่านอ๋องไปตามตรง"ปิ่นนี่ข้ารู้สึกว่าเคยเห็นมันจากที่ใดสักที่" ท่านอ๋องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันเพราะเขาเองไม่คิดว่าหลิ่งฟู่จะจำมันได้"เจ้าอาจจะเคยเ
บทที่ 27 ฝันร้าย"รอยยิ้มของเจ้าก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม ข้าคิดว่าข้าจะไม่ได้พบเห็นมันอีกแล้ว" ท่านจวิ้นอ๋องเผลอหลุดปากพูดออกมา"ท่านว่าอย่างไรนะเพคะ ข้าไม่ค่อยได้ยิน"เสียพลุที่ดังสนั่นทำให้หลิ่งฟู่พออ่านปากท่านจวิ้นออกแต่ทว่านางก็ไม่แน่ใจว่าเขาพูดเช่นที่นางอ่านปากเขาออกหรือไม่ นางจึงได้ถามเขาออกไป ท่านจวิ้นอ๋องเอียงกายมาใกล้ๆ ตัวนางและกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่ทุ่มและเยือกเย็นทำให้หลิ่งฟู่ได้ยินถึงกลับยิ้มกริ่มออกมา นางปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้นางรู้สึกดีเมื่อมีท่านจวิ้นอ๋องเข้ามาในชีวิตของนาง"รอยยิ้มเจ้าช่างสวยงามยิ่งนัก ข้าชอบที่เจ้ายิ้มมากกว่าร้องไห้เสียอีก โปรดยิ้มอย่างนี้ให้ข้าตลอดไปเถอะนะ"หลิ่งฟู่เขินอายจนหน้าแดงระเรื่อและหันไปด้านอื่นเพราะไม่อยากให้ท่านจวิ้นอ๋องได้เห็นใบหน้าของนางตอนนี้"ข้าไม่ได้ยิ้มให้ท่านเสียหน่อย " นางเดินหนีท่านจวิ้นอ๋องอย่างเร็ว"ข้าแค่ชมแค่นี้เจ้าอย่าเดินหนีข้าสิ เดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้านเสียก่อน"หลังจากนั้นท่านจวิ้นอ๋องก็ได้เดินไปส่งหลิ่งฟู่ที่หน้าบ้านของนาง คืนนั้นทั้งคืนทำให้หลิ่งฟู่นอนแทบไม่ได้เมื่อนึกถึงถ้อยคำหวานๆ ของท่านจวิ้นอ๋อง ไม่รู้ว่าเมื
บทที่ 26 เคยมาแต่หายไปหลายวันต่อมาหลิ่งฟู่ก็เฝ้ามองไปที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่วันที่นางใช้ท่านจวิ้นอ๋องซักผ้าเขาก็ไม่เคยย่างกายมาให้นางเห็นหน้าอีกเลย แม้ใจหนึ่งก็ดีใจที่ไม่มีเขามาตามตื้อให้รำคาญใจแต่อีกใจก็รู้สึกคนึงหาเพราะความเคยชิน และไม่มีผู้ใดมากวนใจทำให้หลิ่งฟู่เองก็นั่งเหงาจนซูฮวาสังเกตุได้และทักทวงนาง"คุณหนูคิดถึงท่านจวิ้นอ๋องหรือเจ้าคะ ท่านมองทางอยู่ตั้งนานไม่ปวดคอบ้างหรือไง พอเขามาหาท่านก็ไล่ตะเพิดพอท่านจวิ้นอ๋องไม่มาท่านก็มาชะเง้อคอย""ใครบอกเจ้าว่าข้ามาเฝ้าคอยท่านจวิ้นอ๋อง ข้าก็แค่มองดูชาวบ้านเดินไปมาเท่านั้น" หลิ่งฟู่รีบตอบกลับไปเพื่อแย้งความคิดของซูฮวา"ข้าเชื่อท่านก็ได้เจ้าค่ะ ข้าว่าปานนี้ท่านจวิ้นอ๋องคงไปอยู่กับสตรีบ้านอื่นแล้วแน่นอนเลยนะเจ้าค่ะ เพราะสตรีเช่นคุณหนูข้าว่าคงขายไม่ออกแน่ๆ ต่อจากนี้คุณหนูของข้าคงจะดีใจน่าดูที่ไม่มีผู้ใดมากวนใจได้อีก" ซูฮวายังคงไม่เลิกแกล้งหลิ่งฟู่นางรู้ดีว่าเจ้านายของนางนั้นเริ่มมีใจแก่ท่านจวิ้นอ๋องบ้างแล้ว"ก็ดีนะสิ ข้าจะได้ไม่ต้องหาคำมาด่าหรือหาข้ออ้างเมื่อท่านจวิ้นอ๋องมาใกล้ข้า "นางพูดไปเช่นนั้นแต่ในใจก็คิดเป็นห่วงท่านจวิ้นอ๋องที่น