"นี่ๆพวกมึงได้ดูคลิปยูทูปช่องผีผีจะล่าผีหรือยังวะ คลิปนี้แม่งโคตรดังเลยนะเว้ย เห็นบอกว่าถ่ายติดเงาผีด้วยแถมทีมงานยังเป็นลมนอนอยู่หน้าบ้านอีกอ่ะ" กร ชายรูปร่างสันทัด ผิวสีเข้มเพื่อนผู้ชายในกลุ่มพูดขึ้น ตอนนี้เรากำลังนั่งกินข้าวกลางวันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนข้างๆโรงอาหาร ซึ่งเป็นที่ประจำของพวกเรา
"ผีอะไร ไร้สาระว่ะ มึงก็เชื่อไปได้เนอะไอ้กร" ฉันหันไปพูดกับไอ้กร มันทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจ "นี่...แพรวาแกอย่าพูดอย่างนั้นสิ แกมองไม่เห็นก็ใช่ว่ามันจะไม่มีจริงนะ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" ใบบัวหญิงสาวตุ้ยนุ้ย ใบหน้ากลมใส่แว่น มัดผมหางม้าพูดขึ้น ซึ่งก็ทำให้ฉันได้แต่เบ้ปากด้วยความไม่ชอบใจ งมงายทั้งเพ ไร้สาระมาก "แกๆ พี่กันกำลังเดินมาทางนี้ว่ะ อ๊ายยยย เขาหล่อจัง ฉันชอบ" ใบบัวพูดขึ้นพร้อมบิดตัวด้วยความเขินอายมองร่างสูง178เซนติเมตร ใบหน้าหล่อคมเข้มตามฉบับของผู้ชายสไตล์ไทยๆ ซึ่งกำลังเดินตรงมาทางที่เรานั่งกันอยู่ "นั่งทำอะไรกันอยู่เหรอ" พี่กันพูดยิ้มๆ กวาดสายตามองพวกเราทุกคน ใบบัวที่นั่งอยู่จึงยิ้มออกมาอย่างอายๆแล้วพูดว่า "กำลังกินข้าวค่ะ พี่กันมานั่งกินด้วยกันไหมคะ" "ชวนพี่เองนะ งั้นพี่ไม่เกรงใจแล้ว" พี่กันนั่งลงตรงข้ามฉัน ส่งรอยยิ้มที่คิดว่ามีเสน่ห์ที่สุดให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบตามมารยาท พี่กันเป็นรุ่นพี่ของพวกเรา1ปี พี่เขาเคยดรอปเรียนไว้แล้วมาเรียนต่อ ซึ่งตอนนี้พวกเราเรียนอยู่ปี4เทอม2แล้ว ใกล้จะเรียนจบแล้ว "น้องๆหิวน้ำไหมครับ เดี๋ยวพี่เดินไปซื้อให้"พี่กันถามขึ้นเมื่อมองน้ำในแก้วของฉันที่เหลือแต่น้ำแข็ง "แหม หล่อแล้วยังใจดีอีกนะคะ" ใบบัวพูดและยิ้มกว้างอย่างมีความสุข พี่กันยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "อ่ะ เอาน้ำอะไรก็บอกพี่มาเลยนะคะ" "แหม พวกเราเกรงใจค่ะ แต่ถ้าพี่กันว่าอย่างนั้น พี่กันจะเลี้ยงก็ได้นะคะ " ใบบัวพูดขึ้น ฉันมองหน้าใบบัวแล้วจึงพูดว่า"แพรอิ่มแล้วขอตัวนะคะ"พูดจบฉันจึงเดินออกมาโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ฉันไม่ชอบพี่กัน เขาเป็นพวกเจ้าชู้ ชอบทำตัวเหมือนหมาหยอกไก่ พี่กันชอบทำแบบนี้ใส่สาวๆหลายคน สาวๆสวยๆเกือบค่อนหาลัยเขาฟาดมาหมดแล้ว ฉันคิดว่าอยู่ห่างๆไว้จะดีกว่า "เฮ้ย มึงนี่มันสุดยอดจริงๆ กูนึกว่ามึงจะหลงกลพี่กันด้วยอีกคน กูไม่อยากให้มึงเสียใจ" ไอ้กรมันวิ่งมาพูดแล้วตบบ่าฉันเบาๆและหันไปกวักมือเรียกใบบัว แต่ใบบัวก็ยังคงนั่งคุยกับพี่กันอยู่จึงไม่ตามมา "มึงไปอยู่เป็นเพื่อนใบบัวเถอะ เดี๋ยวกูไปรอที่ห้องสมุดนะ" "เออๆ ตามนั้น" เมื่อพูดจบ กรก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อน ฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องสมุด ซึ่งห้องสมุดนี้อยู่ทางด้านหลังของมหาลัย คนมาใช้ห้องสมุดนี้แทบนับนิ้วได้ เพราะเป็นห้องสมุดเก่า คนที่มาที่นี่แค่ต้องการความเงียบสงบเท่านั้น ห้องสมุดที่นี่กว้างมากและค่อนข้างทึบ บรรยากาศวังเวงพอสมควร ฉันเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆเกือบถึงด้านในสุดจะมีที่นั่งแคบๆระหว่างชั้นหนังสือ ถ้าใครไม่สังเกตก็จะไม่รู้ว่ามีคนนั่งอยู่ "แกท้องเหรอวะ" บทสนทนาของผู้หญิงสองคนดังขึ้น สองคนนั้นมานั่งตรงชั้นหนังสือห่างจากฉันไปไม่กี่ก้าว ฉันเดาว่าสองคนนั้นต้องไม่เห็นฉันแน่ๆ ฉันจึงหยิบมือถือขึ้นมาเล่นโดยไม่สนใจสองคนนั้นอีก แต่บทสนทนาของผู้หญิงสองคนก็ยังลอยเข้าหูฉันเป็นระยะๆ "พ่อของเด็กคือพี่กันคณะxxxใช่ไหม" เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสนใจในทันที ผู้หญิงที่โดนถามจับท้องและร้องไห้ด้วยความเสียใจแล้วพูดขึ้นว่า "ใช่ แต่ฉันไปเอาเด็กออกแล้ว ไอ้เลวนั่นบังคับฉัน ฮือๆๆๆ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว" "เฮ้ย แม่งโคตรเลวเลย!!!!" "ฮึกๆ" "ที่นี่ห้ามใช้เสียงนะคะนักศึกษา" บรรณารักษ์ในห้องสมุดพูดขึ้น เมื่อหนึ่งในสองคนนั้นตะโกนลั่น สองคนนั้นจึงรีบจับมือกันเดินออกจากห้องสมุดทันที ผ่านไปสักพักกรกับใบบัวจึงตามมาสมทบ ใบบัวยิ้มแย้มอย่างมีความสุขและหันมาพูดกับฉันว่า "แก....พี่กันเขาน่ารักมาก เขาหล่อมากเลย นิสัยก็ดี ฉันชอบอ่ะ ฉันจะจีบเขา" " ใบบัว แกระวังเขาไว้นะ ฉันว่าเขาเจ้าชู้อ่ะ" ฉันพูดเตือนใบบัวด้วยสีหน้าจริงจัง "นี่ยัยแพรวา แกหยุดเลยนะ แกอย่ามากันซีน แกก็รู้นี่ว่าฉันชอบพี่เขา" "ก็เพราะรู้ไง ฉันถึงได้เตือน" "เออ แกไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอกน่า ชีวิตฉัน ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันไหมล่ะ" "อ้าว ใบบัวทำไมแกพูดแบบนี้วะ" "พอเถอะไอ้แพร แกอ่ะ เลิกเสแสร้งสักที ที่จริงแกก็ชอบพี่กันใช่ไหม แกแค่เล่นตัวให้พี่เขามาสนใจ" "เอาอะไรคิดวะ ถ้าฉันชอบคนแบบนั้น ฉันเอากับผียังดีกว่าเลย" "เหอะ" ใบบัวลุกขึ้นยืนแล้วกระแทกเท้าเดินจากไปด้วยความโมโห กรมองหน้าฉันแล้วพูดว่า "มึงอย่าคิดมากเลย มันกำลังตาบอดเพราะความรักอ่ะ กูตามมันไปก่อนนะ คนกลางอย่างกูล่ะโคตรลำบากใจ" "เออๆ ไปเถอะ มึงก็เตือนๆมันด้วยแล้วกัน กูกลัวว่าความรู้สึกของมันจะถลำลึกไปกว่านี้ แล้วตัวมันนั่นแหละที่ต้องเสียใจ" กรพยักหน้ารับรู้แล้วตามใบบัวที่เดินออกจากห้องสมุด ฉันได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความเหนื่อยใจ ใบบัวหนอใบบัว ทะเลาะกันทั้งทีดันเป็นเรื่องผู้ชาย ไร้สาระจริงๆเลยณ ผับxxx "แพรวา เดี๋ยวขึ้นไปนั่งที่ห้องวีไอพี2นะ เขารีเควสแกมา" เสียงเจ๊มุก เจ้าของผับพูดกับฉัน ฉันทำงานเป็นเด็กNของที่นี่ มีหน้าที่ชงเหล้า ดูแลลูกค้า ที่ฉันเลือกมาทำงานนี้เพราะได้เงินดี ฉันเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร โดนเอาไปทิ้งในถังขยะแล้วมีมูลนิธิมาช่วยเหลือ ฉันทำงานตั้งแต่สมัยม.ต้น รับจ้างล้างจาน รับจ้างซื้อของ จนกระทั่งเข้ามหาลัยใบบัวเป็นคนชักจูงฉันให้เข้ามาทำงานนี้ "อืมๆ ได้เลยเจ๊ เดี๋ยวแพรขึ้นไปขอเปลี่ยนชุดแป็บนึง" ฉันพูดกับเจ๊มุกแล้วเดินเข้าไปหลังร้าน ซึ่งมีห้องแต่งตัวอยู่ ฉันทักทายทุกคนที่อยู่ในนั้นและเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดเดรสเกาะอกผ้าซาตินสีแดงเล่นดีเทลด้วยกระโปรงด้านข้างทั้งสองข้างเป็นเชือกรูดได้ ฉันมองตัวเองในกระจก ใบหน้าเรียวสวยได้รูป ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวราวกับกินกลูต้าทั้งโรงงาน หุ่นนาฬิกาทราย อืม เติมปากอีกนิดดีกว่าจะได้ดูเซ็กซี่กว่านี้ เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉันจึงหยิบลิปสติกมาเติมปากก็เป็นอันเรียบร้อย ฉันเดินออกจากห้องแต่งตัวและเดินขึ้นบันไดไปยังห้องที่เจ๊มุกบอกไว้ "ก๊อกๆ" ฉันเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องวีไอพี ภายในห้องมีโซฟาตัวยาวสีดำสามตัววางเรียง
ฉันยืนมองคฤหาสน์หลังนั้น เอาไงดีวะ จะเข้าหรือไม่เข้าดี "นั่นไง มันยืนอยู่ตรงนั้น"ในขณะที่ฉันยืนลังเลอยู่หน้าคฤหาสน์ก็ได้ยินเสียงไอ้พวกคนชั่วมันพูด ฉันหันไปมองพวกมันทันที พวกเราสบตากัน ฉันจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูคฤหาสน์ทันที"แอ๊ดดดดดดด" ฉันวิ่งเข้าไปในนั้นอย่างไม่คิดชีวิต สายตาเริ่มปรับแสงให้มองเห็นภายในความมืดได้ วูบ~ ฉันรู้สึกเหมือนเห็นเงาคนรางๆ แต่พอเพ่งดูอีกทีก็ไม่มีอะไร สงสัยจะตาฝาด "นายครับ พวกมันเข้ามาอีกแล้วครับ ให้ผมจัดการยังไงดี" นทีผีชายฉกรรจ์หน้าโหดซึ่งเป็นลูกน้องมือขวาของเขาพูดขึ้น "ดูไปก่อน"ผีเจ้านายหนุ่มพูดขึ้นพลางแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว มองไปทางหญิงสาวที่วิ่งทะลุร่างเขาไปบนชั้น2 "น้องแพรวาคนสวย อย่าหนีเลย ยังไงก็หนีพวกพี่ไม่พ้นหรอก" เสียงไอ้สารเลวกันตะโกนพูดที่หน้าบ้าน พร้อมกับเพื่อนสารเลวที่พากันหัวเราะกับคำพูดนั้น ฉันวิ่งไปที่ชั้น2 สายตาเหลือบไปเห็นรูปเก่าๆใบหนึ่งที่แขวนอยู่บนผนัง ต้องเป็นเจ้าของบ้านแน่ๆเลย เอาวะ ลองดูไว้ก็ไม่เสียหาย ถึงจะไม่เชื่อก็เถอะ ฉันกระซิบกับรูปนั้น "เอ่อ เฮียคนหล่อเป็นเจ้าของบ้านใช่ไหมคะ คนสารเลวพวกนั้นมันคิดจะข่มขืนแพร ถ้าผีมีจริง.....เอ่
"พี่บอกแล้ว ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้น" กันพูดพร้อมแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากอย่างหื่นกาม แล้ววิ่งไปจับแขนของแพรวาที่กำลังหันหลังวิ่งขึ้นบันได "น้องแพรคนสวย พวกพี่ทนไม่ไหวแล้วนะ" หนึ่งในกลุ่มชายหื่นพูดขึ้นยิ้มๆ เพื่อนๆคนอื่นจึงหัวเราะอย่างชอบใจ "กูขอก่อน" กันพูดแล้วดึงแพรวามานอนบนพื้นหน้าบันได จากนั้นจึงจับขาแพรวาแยกออกจากกันแล้วมาแทรกตรงกลางตัว รูดซิปกางเกงแล้วควักแท่งเอ็นออกมารูดๆและถกกระโปรงแพรวาขึ้นไปกองที่เอว"ซี๊ดดดดดด" พวกมันส่งเสียงอย่างหื่นกามเมื่อเห็นร่างขาวโพลนผ่านแสงจันทร์ที่เล็ดลอดเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้ พวกมันจ้องกลีบกุหลาบอันอวบอูมของหญิงสาว แพรวาดิ้นรนไม่ให้ไอ้กันสอดใส่แท่งเอ็น เพื่อนๆของมันจึงจับแขนและขาแพรวาขึงไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี"ฮึกๆ ฮือ" เสียงสะอื้นของหญิงสาวดังขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำให้พวกมันคิดจะหยุดการกระทำเลวทรามนี้ได้ "ซี๊ดดดด" กันครางออกมาเมื่อสอดใส่แท่งเอ็นเข้าไปในรูของแพรวา ไอ้กันมันซอยเอวอย่างเมามันส์ เพื่อนที่เหลือก็พากันควักแท่งเอ็นของตัวมารูดๆ เพื่อสร้างอารมณ์ไปด้วย หญิงสาวดิ้นไปดิ้นมาตะเกียกตะกายหนีไอ้คนเลวพวกนั้นแต่ก็สู้แรงพวกมันไม่ได้ พวกมันหมุนเวียนสลับ
ฉันที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างรวมถึงเสียงโหยหวนของผู้หญิงและผู้ชายด้วย ฉันยืนตัวแข็งด้วยความตกใจ ขนลุกซู่กับเสียงที่ฟังเพราะฟังยังไงก็ไม่ใช่เสียงคนแน่ๆ"บ้าน่า เราคงหูฝาดไป" ฉันยืนสะกดจิตตัวเองเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกกลัว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล เมื่อเสียงร้องโหยหวนนั้นยังคงดังก้องเข้ามาในโสตประสาท"ช่วยแล้วนะ" เสียงกระซิบยานๆเย็นๆของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูฉัน "กรี๊ดดดดดดดดดด" ฉันกรีดร้องด้วยความตกใจแล้ววิ่งใส่เกียร์หมาออกจากคฤหาส์หลังนั้นทันที"แฮ่ก แฮ่กๆ" เสียงฉันหอบหายใจเมื่อมายืนอยู่ที่หน้าผับที่ฉันทำงาน คนที่ยืนอยู่ข้างนอก บ้างคุยกันบ้างสูบบุหรี่ หันมามองฉันเป็นตาเดียว ไม่สิ....ไม่ได้มองฉัน แต่มองข้างหลังฉันต่างหาก ฉันหันกลับไปมองก็พบแต่ความว่างเปล่า อะไรของพวกเขาล่ะเนี่ย เมื่อฉันหายเหนื่อย ฉันจึงเข้าไปในผับแล้วทำงาน ชงเหล้า ดูแลลูกค้าปกติ จนกระทั่งเลิกงานฉันก็เดินกลับหอพัก จากผับถึงหอพักไม่ไกลกันมาก ฉันจึงเดินกลับแทนการนั่งรถเพราะประหยัดเงินได้อีกนิดหน่อย ฉันเดินเข้ามาในซอยหอพักที่ฉันเช่าอยู่ จากถนนใหญ่ต้องเข้าเดินมาในซอยประมาณ400เมตร ตอนนี้คน
เช้าวันต่อมา ฉันตื่นขึ้นมาใส่บาตรและกรวดน้ำให้คุณวาคินคนในรูปนั้น "ไปที่ชอบๆนะคะ" ฉันพูดออกมาเบาๆแล้วเอาน้ำเทใส่ต้นไม้ที่อยู่หน้าหอพัก "ฟิ้ววววว~"จู่ๆก็มีสายลมพัดมาทำให้ฉันขนลุกซู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่อยู่แล้วโว้ย ฉันรีบวิ่งขึ้นหอพักทันที เมื่อฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ฉันก็ใส่ชุดนักศึกษาเดินออกมาจากหอพัก วันนี้มีเรียนตอนสิบโมง แต่ฉันจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นก่อน เมื่อแจ้งความเสร็จฉันจึงออกจากสถานีตำรวจแล้วนั่งรถเมล์ไปมหาลัยฯณ มหาลัยฯ xxx ฉันสังเกตว่ามีแต่คนมองมาที่ฉันตั้งแต่หน้ามหาลัยยันตอนนี้ที่ฉันนั่งโต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำ เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย"เฮ้ย เป็นไงบ้างวะ มึงโอเคไหม"เสียงกรดังขึ้นที่ข้างหลัง มันเดินมาลูบหลังฉันเบาๆ ฉันทำหน้างงๆใส่มัน มันเลยพูดว่า "เรื่องที่มึงทำงานที่ผับไง ไม่รู้ใครปล่อยข่าว แถมบอกว่ามึงเป็นเด็กเสี่ยไม่พอแม่งยังว่ามึงเป็นพวกล่าแต้ม มีคลิปหลุดออกมาด้วยนะ" "ห๊ะ กูเนี่ยนะ" ฉันถามไอ้กรเสียงสูงและรู้สึกโกรธมาก ใครมันทำวะ ทำไปเพื่ออะไร แม่งโคตรเลวเลย "เอาคลิปมาดูดิ๊"ฉันบอกกร มันจึงหยิบมือถือและเปิดคลิปให้ฉันดู ในคลิปมีผู้หญิงคนห
ฉันไขกุญแจเปิดประตูเข้าห้องด้วยความรู้สึกแปลกๆ ฉันเปิดไฟให้สว่างทั่วห้อง เฮ้อ คืนนี้ฉันต้องนอนเปิดไฟอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย แพรวาแกอยู่หอนี้มาตั้งแต่ขึ้นปี1นะเว้ย แกจะมากลัวห้องตัวเองตอนนี้ไม่ได้ ห้องของฉันเป็นห้องโล่งๆ เปิดประตูเข้ามาด้านขวามือเป็นห้องน้ำถัดไปคือตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก มีเตียงขนาด3.5ฟุตที่ตั้งอยู่กลางห้อง ตรงข้ามเตียงมีแอร์อยู่บนผนัง มีตู้เย็นตั้งอยู่และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกเล็กน้อย เช่นเตาไมโครเวฟ กาน้ำร้อน ถัดไปมีระเบียงที่เป็นวิวบ้านคน เวลาฉันซักผ้าก็จะตากผ้าริมระเบียงนี่แหละ ฉันเข้าห้องน้ำมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและขึ้นไปนอนบนเตียงหยิบมือถือขึ้นมาเล่น ก็พบว่ามีสายเรียกเข้าจากเจ๊มุกที่ฉันไม่รับเกือบสิบสายฉันจึงโทรกลับหาเจ๊มุก "ไอ้แพร วันนี้แกไม่ต้องมาทำงานที่ร้านแล้วนะ" เจ๊มุกพูดเมื่อกดรับสาย "เจ๊พูดแบบนี้คือไล่หนูออกเหรอคะ" "ไม่ได้ไล่ออก แต่ว่า.....เฮ้อ ช่วงนี้แกหางานอย่างอื่นทำไปก่อนนะเว้ย เจ๊รู้เรื่องที่เกิดขึ้นหมดแล้ว คนที่แพรมีเรื่องด้วยมันบอกว่าจะสั่งปิดร้านเจ๊น่ะสิ ถ้าเจ๊ปิดคนอื่นๆก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย แพรเข้าใจเจ๊ใช่ไหม ให้เรื่องมันซาก่อนแพรค่อยกลับมาทำงานก
"ไอ้แพรมึงเอาจริงเหรอวะ" กรพูดกับฉัน ตอนนี้เรานั่งอยู่ใต้ตึกหอพักของฉัน ฉันเรียกมันมาก็เพราะว่าฉันอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง "เอาจริง หน้ากูดูเหมือนคนล้อเล่นเหรอไงวะ" ฉันมองหน้ากรแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "มึงจะไปทำอะไรที่คฤหาสน์นั้นวะ ไหนบอกไม่เชื่อเรื่องผีไง แล้วไปตอนกลางวันไม่ได้เหรอไงวะ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว" กรพูดรัวเป็นชุดพลางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "ตอนกลางวันมีผีที่ไหนล่ะ ไปๆอย่าพูดมาก" ฉันพูดจบก็ดึงมือกรให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปยังรถมันที่จอดอยู่ "เปลี่ยนใจยังทันนะ" "ไม่เปลี่ยน ไปดูให้รู้เลยว่าผีมีจริงไหม" ฉันพูดพลางทำสีหน้ามุ่งมั่น "โอ๊ยยย แล้วทำไมต้องเป็นกู ไอ้ใบบัวล่ะอยู่ไหน" "ชวนมันแล้วมันไม่ว่าง" "งั้นกูก็ไม่ว่างด้วย" "ไอ้กรมึงจะใจร้ายใจดำปล่อยให้กูไปที่นั่นคนเดียวเหรอ ฮือๆๆๆ" ฉันพูดแล้วใช้มือมาปิดหน้าตัวเองแกล้งร้องไห้ กรยืนเก้ๆกังๆทำตัวไม่ถูกแล้วพูดว่า "เออๆ ไปก็ไป ไม่ต้องร้องไห้" "อ่ะ มึงรับปากแล้วนะ ไปกันเถอะ อิอิ" ฉันพูดยิ้มๆและเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งเบาะข้างคนขับ "นี่มึงแกล้งร้องไห้เหรอวะ แสดงเก่ง" กรเดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วยื่นมือมาเขกหัวฉันเบาๆแล
นี่ฉันเสน่ห์แรงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ทั้งคนทั้งผีถึงอยากจะนอนกับฉัน ฮือๆ ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เลย เอาไงดีวะ วิ่งหนีเลยดีไหม แต่เขาเป็นผีหายตัวได้นี่หว่า วิ่งไปก็เหนื่อยเปล่า ทำไงดีวะเรา....อ๋อ คิดออกแล้ว ฉันที่ยืนทำตาโตด้วยความตกใจอยู่นั้น จึงแกล้งเป็นลมล้มพับไปนอนที่พื้น ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบ "หึ เป็นคนคิดจะหลอกผีงั้นเหรอ" เขาพูดพลางดึงแขนฉันขึ้นยืน แต่ฉันยังไม่ยอมรับว่าแกล้งทำ จึงแสร้งหลับตาทำตัวโงนเงนอยู่แบบนั้น "สลบงั้นเหรอ ก็ดี ได้อารมณ์อีกแบบ หึหึ" เขาพูดแล้วหัวเราะเสียงเย็นๆยานๆทำฉันขนลุกเกรียว ฮือ พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูจะโดนผีปล้ำแล้ว (TT)ฉันจึงลืมตาขึ้นทันที หน็อยผีก็ผีวะ ขอไอ้แพรด่าสักหน่อยเถอะ "ไอ้ผีบ้า ไอ้ผีทะเล ไอ้ผีลามก ไอ้ผีโรคจิต" ฉันทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่เขา เขาเงียบไม่พูดอะไร ทันใดนั้นเองฉันรู้สึกว่าบรรยากาศมันเย็นเยียบ วังเวงแปลกๆ เสียงหมาข้างนอกเห่าหอนกันระงม ฉันมองหน้าเขาแล้วก็ต้องตกใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาเริ่มซีดขึ้นเรื่อยๆ เขาค่อยๆแสยะยิ้มช้าๆแล้วก้าวเข้ามาก้มใบหน้ามามองฉัน มันใกล้ซะจนฉันเห็นดวงตาที่ไร้แววประกายดั่งเช่นคนที่มีชีวิต....มันคือแววตาของคนตายนั่นเอง
หนึ่งปีต่อมา วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับพี่นที ตอนนี้ฉันเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าพี่แล้วเพราะเขาอายุห่างกับฉัน10ปี โดยเราจัดงานแต่งงานกันที่สวนในคฤหาสน์ของคุณวาคิน โดยจัดเป็นงานเล็กๆ มีคุณวาคินกับแพรเป็นแม่งาน ภายในงานตกแต่งด้วยดอกไม้และมีรูปของฉันกับพี่นทีติดอยู่ทั่วงาน คนร่วมงานมีพี่อิงฟ้า พี่ข้าวสวยและไอ้กัน เซ็ตเดิมเหมือนงานแต่งของไอ้แพรกับคุณวาคินนั่นแหละ "กูดีใจว่ะ ที่มึงกับคุณนทีแต่งงานกัน อย่างที่กูบอกไงเหมือนชาติที่แล้วเป๊ะๆ" แพรยิ้มให้ฉันพร้อมจับมือฉันไปเขย่าด้วยความดีใจ "ไอ้แพรมึงจะพูดเรื่องผีอีกแล้วเหรอวะ กูกลัวนะเว้ย" ไอ้กันพูดขึ้นพร้อมกับลูบแขนตนเองไปมา "คุณนทีคะ ข้าวสวยฝากดูแลน้องสาวด้วยนะคะ" พี่ข้าวสวยพูดกับพี่นทีที่เดินเข้ามาหาฉัน "แน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วงนะ" พี่นทีตอบพี่ข้าวสวยพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบอย่างเขินๆ "สองคนนี้เปลี่ยนแนวเหรอวะ หวานกันเฉย ตอนจีบกันกูเห็นฮาร์ดคอร์กันจะตาย" ไอ้กันหันไปกระซิบกับไอ้แพร ฉันจึงเขกหัวมันเบาๆและพูดว่า "กูได้ยินนะเว้ย" ทุกคนจึงหัวเราะออกมา "อาตมามาทันใช่ไหม ยินดีกับโยมนทีและโยมข้าวหอมด้วยนะ" หลวงปู่เดินเข้าม
"พี่ข้าวสวย ทำไมต้องพาอีตาบ้านี่มาด้วย" ฉันดึงแขนพี่ข้าวสวยมาใกล้และกระซิบถามเมื่อเห็นพี่ข้าวสวย พี่อิงฟ้าและอีตาบ้านทีเดินเข้ามาในร้านด้วยกันซึ่งฉันนั่งรอที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่กันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่เป็นร้านชิลๆมีดนตรีสดและมีดีเจคอยเปิดเพลง บางโต๊ะก็ลุกขึ้นมาเต้นอย่างสนุกสนาน ภายในร้านมี1ชั้นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง "ข้าวหอมน้องรักอย่าบ่นไปเลยน่า คนยิ่งเยอะยิ่งสนุก"พี่ข้าวสวยกระซิบตอบแล้วนั่งลงข้างฉัน พี่อิงฟ้าจึงนั่งตรงข้ามกับพี่ข้าวสวย "ชิ"ฉันเบะปากและส่งเสียงออกมาเบาๆเพราะคนที่นั่งตรงข้ามกับฉันก็คืออีตาบ้านทีน่ะสิ "เส้นกระตุกเหรอครับ?" เขาถามฉันพร้อมเหยียดยิ้มที่มุมปาก กวนประสาทสุดๆเลยคนสวยอารมณ์เสีย"ไม่ต้องมายุ่ง" ฉันตอบเขาและหันไปคุยกับพี่ข้าวสวยกับพี่อิงฟ้าว่าจะเอาเมนูอาหารอะไรเพิ่มเติมเพราะฉันสั่งของกินเล่นมากินก่อนแล้ว "คุณนทีอยากกินอะไรคะ?"พี่ข้าวสวยหันไปถามเขาที่นั่งเยื้องกันอยู่ฝั่งตรงข้าม "ผมเหรอ อยากกิน...ข้าวหอม" เขาตอบแล้วมองหน้าฉันก่อนจะยักคิ้วอย่างกวนๆให้หนึ่งข้าง "ข้าวหอมบ้าบออะไรล่ะ อยากโดนต่อยป่ะ" ฉันหันไปพูดกับเขาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์และกำหมั
เดือนต่อมา ประจำเดือนของฉันไม่มาฉันจึงไปหาหมอก็พบว่าฉันตั้งครรภ์ได้สามสัปดาห์แล้ว เฮียดีใจจนแทบจะวิ่งรอบโรงพยาบาล เมื่อกลับมาถึงบ้านก็บอกข่าวดีกับพี่ข้าวสวย คุณนที คุณเอิงฟ้าและลูกน้องของเฮีย พวกเขาแสดงความยินดีและดีใจที่จะมีเด็กๆมาเพิ่มสีสันให้กับคฤหาสน์หลังนี้ฉันโทรบอกไอ้กรและไอ้ข้าวหอมพวกมันสองคนก็ตื่นเต้นและก็พากันทายว่าหลานจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจะหน้าตาเหมือนใคร ส่วนเฮียวาคินก็คิดว่าจะให้ลูกนอนห้องไหน เรียนที่โรงเรียนอะไร เอ่อ ลูกยังเป็นวุ้นอยู่เลยจ้ะ=_= "แพร....เฮียบอกว่าให้อยู่เฉยๆไง" เฮียทำหน้าดุใส่ฉันเมื่อฉันเดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็นมาดื่ม "เฮียคะ แพรแค่ท้องนะคะ" ฉันหันไปมองหน้าเฮียแล้วยื่นปากใส่เขา"นั่นแหละ ถ้าแพรหกล้มขึ้นมาล่ะจะว่ายังไง มานี่เลยนะ" เฮียพูดจบก็เดินมาอุ้มฉันไปวางบนเตียงอย่างทะนุถนอม "เฮียคะ เฮียจะให้แพรนอนเฉยๆอย่างเดียวไม่ได้นะคะ แพรเบื่อ" ฉันงอแงใส่เขา"แพรอยากทำอะไรล่ะครับ" "แพรอยากไปเดินห้าง อยากกินชาบู" "ก็ได้ครับ เดี๋ยวเฮียพาไป" เฮียพูดจบก็เดินมาพยุงฉันให้ลุกจากเตียงและเดินจับมือฉันเดินลงมาข้างล่างเพื่อเดินไปลานจอดรถและเปิดประตูให้ฉันขึ้นไปนั่ง
สองอาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับเฮียวาคินก่อนหน้านี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว เฮียอยากมีรูปสวยๆไว้เก็บเป็นความทรงจำ เราจึงจัดงานแต่งในสวนภายในคฤหาสน์ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีและจะขาดไปไม่ได้เลยก็คือดอกฟอร์เก็ตมีน็อตนั่นเอง ภายในงานมีรูปภาพฉันกับเฮียวาคินที่ถ่ายรูปกันในสตูดิโอวางไว้ด้านหน้างานโดยคนมาร่วมงานก็เป็นแค่คนสนิทเท่านั้น พิธีการยังคงเนินไปเรื่อยๆจนถึงช่วงเวลาที่ต้องกล่าวคำสาบาน"ผมว่าคิน....สัญญาว่าจะรักและดูแลแพรตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่" เฮียพูดด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมจับมือฉัน ฉันจึงส่งยิ้มให้เฮียแล้วพูดประโยคเดียวกัน "แพรก็สัญญาค่ะ ว่าจะรักและดูแลเฮียวาคินตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่" "จูบเลยๆๆๆๆ" ข้าวหอมตะโกนและส่งเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ "ไม่ต้องบอกก็จะจูบอยู่แล้ว หึหึ" เฮียวาคินบอกข้าวหอมจึงทำให้ข้าวหอม คุณนที พี่ข้าวสวย คุณอิงฟ้า ไอ้กรและบรรดาลูกน้องของเฮียส่งเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจ เฮียดึงรั้งท้ายทอยของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงมาจูบอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ฉันจึงจูบเขาตอบเช่นกัน ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงแล้วสินะ รอคอยมาตั้งหลายชาติได้อยู่ด้วยกันจริงๆสักที ฉันรู้สึกอิ่มเ
"แพรรักเฮียนะ" "แพรก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเฮียค่ะ" "เฮีย...ต่อไปนี้เรามาใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างมีความสุขกันเถอะค่ะ" "เฮียรักแพรไหมคะ" "โอ๊ยยยยย ฝันอีกแล้วเหรอวะเนี่ย" ร่างสูงบ่นแล้วทำหน้าตาหงุดหงิดตื่นขึ้นมาบนเตียง เขาฝันถึงผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยจนตอนนี้เขาอายุ30ก็ยังคงฝันอยู่ ทุกเรื่องราวทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาจำได้ทั้งหมดแต่ที่เขาหงุดหงิดก็คือเขาไม่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นต่างหาก "แพรวา....เธอเป็นใครกันแน่" ร่างสูงขมวดคิ้วแล้วพึมพำกับตัวเอง ณ ผับxxx "ไอ้แพรมึงระวังโต๊ะนั้นไว้ให้ดี ดูแล้วแม่งจะเล่นมึงว่ะเห็นมองมาทางมึงเป็นพันรอบแล้วมั้ง" ข้าวหอมเพื่อนสาวสุดที่รักของฉันพูดขึ้นพลางใช้มือชี้ที่ห้องวีไอพีห้องหนึ่ง ฉันกับข้าวหอมมาเที่ยวผับด้วยกันเพื่อฉลองวันเกิดของฉัน วันนี้ฉันอายุครบ22ปีแล้ว "มึงด้วยแหละไอ้ข้าวหอม มึงดูสายตาของพวกมันดิโคตรหื่น" ฉันบอกข้าวหอม "รู้แบบนี้น่าจะชวนไอ้กันมา" ข้าวหอมคร่ำครวญ "แล้วทำไมไม่ชวนมาล่ะ" "ก็มึงชอบเล่าเรื่องความฝันเพี้ยนๆของมึงอ่ะ ที่บอกว่ามีแฟนเป็นผีที่ชื่อวาคินอะไรนั่นน่ะ ไอ้กันมันก็กลัวน่ะสิแถมมึงเล่าเรื่องนี้ตั้งแต่ปีหนึ
สามเดือนต่อมาฉันเดินทางไปคฤหาสน์โดยรถของกรซึ่งฉันตัดสินใจกับคุณวาคินว่าฉันกับเขาจะใช้ชีวิตคู่กันที่นี่ โดยเราจะรีโนเวทแค่ภายในคฤหาสน์บางส่วนโดยที่ภายนอกเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของผู้คนถึงแม้ว่าจะไม่มีค่อยมีคนกล้ามาก็เถอะ โดยจ้างกรและผีในคฤหาสน์เนี่ยแหละให้ช่วยๆกัน กรได้เงิน บรรดาผีทั้งหลายได้ส่วนบุญ "อยู่ที่นี่ไม่มีพวกขโมยใช่ไหม กูเป็นห่วงว่ะผู้หญิงตัวคนเดียว" กรพูดกับฉันด้วยความห่วงใย "ตัวคนเดียวบ้าอะไร ผัวมันก็อยู่ มึงคิดว่าคุณวาคินจะให้แพรมีอันตรายเหรอ" ข้าวหอมพูดแล้วชี้นิ้วไปทางคุณวาคินที่นั่งสมาธิอยู่กับบรรดาผีทั้งหลาย "นั่นสิ ไม่ต้องห่วงหรอกมึง เวลามีคนอื่นบุกรุกก็เจอผีบริวารของเฮียจัดการก่อนเลย วิ่งป่าราบกันทุกราย" ฉันพูดแล้วยิ้มให้กร "บรื๊อ~ คิดแล้วกูก็สยอง" กรทำท่าขนลุกซู่ ยังคงไม่ชินกับผีสักเท่าไหร่ "นี่มึงยังกลัวผีอยู่เหรอ" ข้าวหอมถามกร กรมันจึงพยักหน้ารับ "ไม่ลองมีแฟนเป็นผีบ้างล่ะ แบบกูกับข้าวหอมไง" ฉันแกล้งถามมัน มันส่ายหน้ารัวๆ "ไม่ไหวว่ะ ทุกวันนี้แค่เจอผีคุณอิงฟ้ากับผีพี่ข้าวสวยกูก็จะเป็นลมแล้ว ขยันแกล้งกูกันเหลือเกิน" มันพูดแล้วทำหน้าซีดลงเล็กน้อย "
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา "เรื่องวุ่นๆจบสักทีนะเฮีย" ฉันหันมาพูดกับเขา ตอนนี้ฉันกับเขากำลังแต่งตัวออกไปเที่ยวด้วยกัน เราจะไปเที่ยวสวนน้ำที่เปิดใหม่ที่ฉันเห็นในโซเชียล"ใช่ พวกเราจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขสักทีไม่มีพวกคนบ้าๆมายุ่งอีกแล้ว" เขาตอบแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มฉัน พวกเราใส่เสื้อคู่เป็นเสื้อยืดสีดำที่ปักลายหัวใจสีชมพูตรงกลาง ของฉันหัวใจครึ่งซ้ายของเขาหัวใจครึ่งขวาพอมายืนด้วยกันก็จะต่อกันเป็นรูปหัวใจพอดี "ไปกันเถอะ" ฉันพูดแล้วเดินออกจากห้องแต่เขาจับฉันไว้ก่อน "ขอดูชุดก่อน" "ก็ชุดธรรมดาเนี่ยแหละค่ะ" ฉันตอบแล้วดึงแขนเขาออกจากห้อง พวกเราขึ้นแท็กซี่ไปสวนน้ำราวๆครึ่งชั่วโมงก็มาถึง ดีนะที่เป็นช่วงสายคนเลยไม่ค่อยเยอะมาก ฉันเดินไปซื้อตั๋วสองใบ ใบละ900บาทจากนั้นจึงไปหยอดตู้ล็อกเกอร์แล้วเอาของใส่ไว้ "จะหายไหมเนี่ย" ฉันบ่นเบาๆ "ไม่หายหรอก เดี๋ยวเฮียฝากผีแถวนี้เฝ้าไว้แลกกับการแบ่งส่วนบุญให้" เขาตอบแล้วเดินไปหาผู้ชายที่ยืนอยู่แถวๆนั้น บรื้อ~ ฉันยังไม่ชินสักที ฉันขนลุกซู่แล้วรีบไปเปลี่ยนชุด ฉันใส่เสื้อคู่เหมือนเดิมแต่ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสั้นขาบานเล็กน้อยใส่แล้วเย็นสบายสุดๆ จากนั้นเขาก็ตา
ช่วงสายวันต่อมา "โอ๊ยยยยยยย" ฉันร้องคร่ำครวญพลางลุกจากที่นอน คุณวาคินจึงมาประคองฉันไว้และถามว่า"เป็นอะไรเนี่ย ไม่สบายเหรอ" "ใช่ แพรไม่สบาย ไม่สบายสุดๆเลยด้วย" ฉันตอบพร้อมทำหน้างอง้ำใส่เขาและเดินกระเผลกเข้าห้องน้ำ เมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็มมาก คลั่งแบบไม่ไหว สภาพฉันถึงเป็นแบบนี้(TT) "เฮียขอโทษ ก็เฮียคิดถึงแพรนี่ครับ" เขาเดินมากอดจากทางด้านหลังและอุ้มฉันเข้าห้องน้ำและอาบน้ำให้ จากนั้นฉันก็แต่งตัวแล้วออกไปทำงานที่ร้านกาแฟของข้าวหอมส่วนคุณวาคินก็ไปนั่งเฝ้าฉันเหมือนเดิมวันนี้เป็นวันก่อนเทศกาลปีใหม่ทางร้านจึงตกแต่งอย่างสวยงาม ฉันกับข้าวหอมใส่มงกุฎและชุดกระโปรงสีขาวดูเหมือนนางฟ้าและแจกลูกอม คุ๊กกี้และขนมอีกหลายอย่างเป็นของสมนาคุณให้แก่ลูกค้าที่หน้าร้าน"เดี๋ยวมานะ ไปเข้าห้องน้ำแป็บนึง" ข้าวหอมพูดแล้วรีบวิ่งเข้าไปในร้าน"น้องแพร วันนี้สวยจังเลยนะครับ" เสียงไอ้กันทักฉันขึ้นแล้วทำหน้าตาหื่นๆ คุณวาคินจึงรีบลอยมาประกบข้างฉันทันทีแต่เขาไม่ได้ปรากฏกาย"มีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีรบกวนหลบทางลูกค้าหน่อยค่ะมันเกะกะ" ฉันพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจเล็กน้อย ไอ้บ้านี่ก็หน้าด้านจริงๆ ยังมาทำลอยหน้าลอยตาอยู
หนึ่งเดือนต่อมา ฉันยังคงไปที่คฤหาสน์และซอยที่มีทางผีผ่าน ไปคนเดียวบ้าง ไปกับกรบ้าง ไปกับข้าวหอมบ้างเพราะฉันยังคงหวังว่าสักวันจะเจอเขา ส่วนดอกไม้ที่เขาส่งให้ฉันทุกวันฉันก็ไม่ได้รับมันอีกเลย เวลามีคนมาเคาะประตูฉันจะตื่นเต้นและคาดหวังว่าจะเป็นเขาฉันยังคงไปทำงานที่ร้านกาแฟของข้าวหอมอยู่ เพิ่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองเพราะก่อนหน้านั้นสภาพฉันเละเทะมาก ข้าวหอมจึงให้ฉันคงสถานะการเป็นพนักงานไว้แล้วแบ่งเงินฉันไปให้สามคนที่เหลือแทนซึ่งฉันก็ตกลงเพราะยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ฉัน ข้าวหอม กร เรียบจบแล้ว พวกเราจึงนัดกันมาถ่ายรูปชุดครุยที่มหาลัย "มีคนฝากน้ำให้ครับ" พนักงานในร้านน้ำที่โรงอาหารยื่นนมชมพูมาให้ฉัน ฉันรับมาแต่ไม่กินเพราะเข็ด ไม่มีเฮียอยู่ด้วยฉันไม่กล้าเสี่ยง "มีคนจีบมึงเหรอวะไอ้แพร ร้ายนะมึง" ไอ้กรพูดแล้วมองหน้าฉันอย่างหยอกล้อ "ไม่รู้ไม่สนใจ" ฉันตอบพลางทำหน้าเซ็ง "มึงไม่เปิดใจรับคนใหม่บ้างล่ะ คุณวาคินเขา.....โอ๊ยยยยย" กรพูดไม่ทันจบประโยคก็ลูบหัวตัวเองป้อยๆ "สมน้ำหน้า" ฉันพูดแล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูปเล่น "ผมลืมครับ เขาฝากอันนี้ให้พี่ด้วย" พนักงานร้านน้ำวิ่งกลับมาแล้วยื่นดอกไม้ให้ฉัน ฉันมอ