Share

Chapter2.หลินอวี้เจิน

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-03 09:01:23

 ในบรรดาหลานทั้งหมด หลินเหิงอี้ชื่นชอบหลินอวี้เจินมากที่สุด  นางเรียบร้อยสุภาพอ่อนหวานแต่ซ่อนความดื้อรั้นไว้  เขามักตามใจและเอ็นดูนางมากกว่าผู้ใด

หลินอวี้เจิน มีชายที่หมั้นหมายกันเมื่อราวสองปีก่อน  เป็นการหมั้นหมายอย่างเรียบง่ายเพียงแลกหยกประจำตระกูล  นางหมั้นหมายกับติงกว่างอาน เขาเคยเป็นลูกศิษย์คนโปรดของหลินยี่ห้าน

จนกระทั้งปีนี้สอบจอหงวนฝ่ายบุ๋นได้สำเร็จ  นำความปลื้มปิติมาสู่วงศ์ตระกูลรวมทั้งนางด้วย ทว่านางกลับต้องมาพบความจริงว่าคู่หมั้นของนางนอกใจ  และทำหลินซูซิน ญาติผู้น้องตั้งครรภ์   ติงกว่างอานไม่ต้องการยกเลิกการหมั้นหมายกับนาง แต่ขอแต่งหลินซูซินเข้าบ้านก่อนแล้วอีกครึ่งปีจะแต่งนางเข้าไป

ราวกับฟ้าผ่าทั้งที่แดดเปรี้ยง นางแน่นหน้าอกหายใจแทบไม่ออก  บุรุษผู้หนึ่งมีภรรยามากกว่าหนึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่นางกับเขาเคยพูดคุยกันแล้วว่า  หากแต่งนางเป็นภรรยาแล้วจะมีนางเพียงหนึ่ง  ไม่มีภรรยารองหรือแม้แต่อนุ  นางอาจเป็นหญิงที่เห็นแก่ตัวแต่นางไม่อาจใช้สามีร่วมกับผู้อื่น   นางเห็นมามากแล้ว ครอบครัวที่มีหลายภรรยานั้นวุ่นวายเพียงใด นางไม่มีเรี่ยวแรงพอจะตบแต่งแย่งชิงสามีกับภรรยารองหรืออนุเป็นแน่  นางหวังเพียงสร้างครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่น  เช่นเดียวกับบิดามารดาของนาง

หลินอวี้เจินอาจปวดใจน้อยกว่านี้ ถ้าสตรีที่ติงกว่างอานมีความสัมพันธ์ไม่ใช่ญาติผู้น้องของนางเอง

            ‘เจินเอ๋อร์...เจ้าโกรธเกลียดข้าเถิด แต่อย่าโทษติงกว่างอ่านเลย เป็นข้าที่เข้าไปหาเขาในคืนที่เขาเมามายเอง แต่เจ้าจะให้ลูกของข้าเป็นลูกไม่มีพ่อหรือ? เจ้าทำได้หรือ?’

            หลินอวี้เจินยกมือทาบหน้าอก  ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นเข้ามาจนเจ็บปวดหัวใจไปหมด  แค่คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น ร่างกายนางแทบจะแบกรับความเจ็บปวดไม่ไหว   หญิงสาวสะบัดศีรษะไล่ความคิดที่วิ่งวนในศีรษะ   รับรู้ได้ว่ารถม้าหยุดนิ่งสนิทแล้ว นางจึงก้าวลงจากรถม้าอย่างคล่องแคล่ว แม้นางจะเป็นเพียงสตรี  แต่บิดาสอนเรียนเขียนอ่านด้วยตนเอง

            “ท่านลุงใหญ่” ให้นางดูแลร้านขายผ้า ทำให้นางออกนอกบ้านไปดูกิจการที่ร้านบ่อยๆ  นางไม่ใช่คุณหนูที่ถูกเลี้ยงในห้องหอ  บิดาให้อิสระแก่นาง แต่อยู่ในกรอบจารีตประเพณีอันดีงาม  ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปต่างบ้านต่างเมืองเช่นนี้

            “เจินเอ๋อร์!!”      

            “ท่านลุงใหญ่”   

            หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วเร่งเดินไปหาชายร่างสูงใหญ่กำยำที่ปีนี้อายุสี่สิบปีแล้ว  หลินเหิงอี้เบิกตามองหลานสาวที่ไม่ได้เจอกันปีเศษ   แต่กระนั้นข่าวคราวความเคลื่อนในบ้านเขาย่อมรู้ดีทุกเรื่อง  หลินเหิงอี้ไม่มีบุตร  หลังภรรยารักตายจากเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับกิจการการค้าของตระกูล ในบรรดาหลานๆ ที่เขาพบเจอนั้น  เขาชื่นชอบหลินอวี้เจินมากที่สุด

อาจเพราะนางมีความคิดอ่านแบบผู้ใหญ่และมีความดื้อรั้นเหมือนเด็กน้อย ผิดกับหลานอีกสองคนที่ถูกเลี้ยงอย่างตามอกตามใจจนแทบจะเสียคนอยู่แล้ว      หลินยี่ห้านเป็นน้องชายคนเล็กของเขา มีนิสัยรักสันโดษ ใฝ่รู้ ในครั้งนั้นแม้ครอบครัวยังเป็นเพียงชาวนา แต่บิดาเห็นหลินยี่ห้านหัวดีจึงผลักดันให้ได้รับการศึกษา ต่อมาแม้สอบเป็นบัณทิตเล็กๆ ได้ก็ทำงานราชการตำแหน่งไม่ใหญ่ไม่โต แต่ด้วยความเถรตรงจึงไม่ก้าวหน้า ทำงานอยู่นานหลายปีสุดท้ายก็รวบรวมเงินที่มีอยู่เปิดสำนักศึกษา

ปีแรกๆ มีเด็กมาเรียนแค่สี่ห้าคน  แต่ช่วงนั้นกิจการการค้าของเขาเป็นไปอย่างดี  ได้กำไรค่อนข้างงาม  ฐานะเปลี่ยนไปอย่างมากจนหลายคนไม่เชื่อว่าแต่เดิมครอบครัวนี้เป็นเพียงชาวนายากจนมาก่อน   เขาช่วยเหลือหลินยี่ห้านตั้งแต่เด็ก จะว่าไปก็เลี้ยงน้องจนเหมือนเลี้ยงลูก  เมื่อหลินยี่ห้านเปิดสำนักศึกษา  เขาย่อมให้ความช่วยเหลือ ค่อยแนะนำชักจูงให้บุตรหลานผู้อื่นมาเรียนที่สำนักศึกษาของน้องชายคนเล็ก จากนั้นจึงเริ่มมีนักเรียนเพิ่มขึ้น สำนักศึกษาจึงดีขึ้นตามลำดับ

            “เป็นอย่างไรบ้าง เดินทางมาแรมเดือนลำบากเจ้าแล้ว”

            หญิงสาวส่ายหน้าไปมา  แม้บิดาให้อิสระแก่นาง  แต่นางไม่เคยเดินทางออกนอกเมืองเลยสักครั้ง นี่เป็นการเดินทางไกลครั้งแรก  อาจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บิดาอนุญาตให้นางเดินทางมาหา ‘ท่านลุงใหญ่’  ที่เมืองตันหยางแห่งนี้           

            “ไม่เลยเจ้าค่ะ หลานตื่นเต้นมากกว่า” หญิงสาวยิ้มราวเด็กน้อยที่ได้ออกมาผจญภัย

            “มาที่นี่ ลุงจะพาเที่ยวไม่ให้มีเวลาเหงาเลย”

            “ท่านลุงจะมีเวลาพาหลานเที่ยวหรือคะ” นางหัวเราะออกมา ใครต่อใครรู้ดีว่าหลินเหิงอี้มีงานยุ่งมากเพียงใด

            “เพื่อหลานรัก ลุงย่อมหาเวลาให้ได้อยู่แล้ว”

            ทั้งสองหัวเราะกันอยู่ครู่หนึ่ง  หลินเหิงอี้นึกขึ้นได้เรียกบ่าวรับใช้ให้จัดการย่ามเดินทางให้หลานสาว แต่นางกลับยื้อไว้จะถือเอง

            “มีอะไรสำคัญหรือ?”  หลินเหิงอี้ถามอย่างแปลกใจ

            “แค่...อุปกรณ์วาดรูปเจ้าค่ะ”        

หลินอวี้เจินพูดอย่างเขินอาย นางไม่ห่วงเรื่องเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับใด        แต่อุปกรณ์สำหรับวาดรูปรวมทั้งเครื่องเขียน ล้วนเป็นสิ่งคัญยิ่งสำหรับนาง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นางรู้สึกใจสงบและนิ่งลงได้อย่างประหลาด ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์ใดก็ตาม

“ไม่ต้องกังวลไป คนของลุงจะดูแลอย่างดีดุจเดียวกับ ‘น้ำตาจันทรา’ เชียวละ”  หลินเหิงอี้หัวเราะในลำคอแล้วส่งย่ามของหลานสาวให้คนสนิทถือเดินนำไปที่ห้องพักของหลานรัก  

หลินอวี้เจินเอียงคออย่างสงสัย “น้ำตาจันทราคืออะไรหรือเจ้าคะ”

“ไข่มุกน้ำตาจันทรา”  ชายต่างวัยมองอย่างงุนงงไม่แพ้กัน “นี่หลานไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้เลยหรือ?”

หลินอวี้เจินส่ายหน้าไปมา “หลานไม่ค่อยสนใจเรื่องเหล่านี้”

หญิงสาวตอบไปตามจริง แม้หญิงสาวทั่วไปสนใจเครื่องประดับ หรือแพรพรรณงดงาม แต่สำหรับนางกลับหลงใหลในหนังสือหรือตำรา  อาจเพราะบิดาเพาะบ่มนางด้วยกลิ่นอายของกระดาษ นางจึงชอบการอ่านเป็นอย่างยิ่ง และชื่นชอบพอๆ กับการวาดรูป  นางวาดรูปได้ธรรมดาสามัญ มิอาจอวดอ้างกับผู้ใดได้  แต่การวาดรูปนั้นทำให้นางผ่อนคลายที่สุดและใจสงบที่สุด

 “เอาเถิด อยู่ไปนานๆ ก็คุ้นชินไปเอง”  หลินเหิงอี้แหงนหน้าหัวเราะ “ลุงไม่ให้อยู่ว่างเป็นแน่”

“หากมีสิ่งใดที่หลานทำได้ หลานยินดีทำให้เจ้าค่ะ”   นางหัวเราะคิกคัก แม้ไม่ได้พบกันบ่อยนัก แต่เมื่อครั้งที่ยังเด็ก นางจำได้ว่าหลินเหิงอี้เอ็นดูนางมาก เคยอุ้มนางดูโคมไฟ  ตามใจนางประหนึ่งเป็นลูกในไส้ก็ว่าได้   บิดาไม่ห้ามปรามด้วยเข้าใจว่าหลินเหิงอี้เห็นนางเป็นเหมือนลูกจริงๆ  เพราะหลินเหิงอี้เสียทั้งภรรยาและลูกไปก่อนที่นางจะเกิดแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter3. หวังใจเหลือเกินว่า

    หลินเหิงอี้หัวเราะอารมณ์ดีซึ่งไม่ค่อยมีใครได้เห็นเขาเป็นแบบนี้นัก อาจเป็นเพราะได้อยู่กับหลานรักก็เป็นได้ เขาพานางเดินเข้ามาในบ้านพักของตน เรือนหลังขนาดกำลังดีไม่ใหญ่โตเกินไป มีบ่าวรับใช้อยู่ประมาณยี่สิบคน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่เก็บสินค้าที่ซื้อมาเพื่อนำไปขายต่ออีกเมือง “ท่านปู่ท่านย่าฝากยาสมุนไพรมาให้ท่านลุงไว้บำรุงร่างกายด้วยเจ้าค่ะ” แม้นางจะไม่สนิทสนมกับท่านปูและท่านย่า แต่ก็ไปมาหาสู่กันสม่ำเสมอ “เหตุใดไม่เก็บไว้เองหนอ” หลินเหิงอี้โคลงศีรษะไปมา เขาเป็นลูกชายคนโตแต่ไม่ได้อยู่ดูแลบิดามารดา ต้องให้น้องชายคนรองรับผิดชอบหน้าที่นี้ “ท่านปู่กับท่านย่าเป็นห่วงท่านลุงนี่เจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยน้ำเสียงสดใส “ท่านลุงไม่มีผู้ใดดูแลข้างกาย เอ๊ะ! หรือจะมี?” ด้วยความสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก หลินอวี้เจินจึงกล้าหยอกล้อ ยังไม่ทันที่หลินเหิงอี้จะเอ่ยตอบอะไร หญิงสาววัยประมาณยี่สิบปีก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ “อาหารเตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” หลิวเหิงอี้พยักหน้ารับ “หลานอยากกินข้าวก่อนไหม หรืออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดี”

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-03
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter4.  ภาระหน้าที่

    ทั้งที่ในที่จวนมีบ่าวรับใช้และทหารยามมากมายแต่กลับรู้สึกได้ถึงความเงียบเหงาและวังเวง มันเป็นเช่นนี้ตั้งแต่วันที่ไข่มุกน้ำตาจันทราหายไปจากตระกูลกัว กัวจื่อหรานระบายลมหายใจหนักหน่วง เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เจ็ดปีที่แล้วเขายังไม่ได้นั่งในตำแหน่งนี้ ช่วงนั้นเขาอยู่เมืองหลวง เขาสนิทสนมกับองค์รัชทายาทเพราะเคยเรียนฝึกเพลงกระบี่กับอาจารย์ท่านเดียวกับองค์รัชทายาท ขณะนั้นเขาทราบข่าวเพียงแค่ว่า อนุของบิดาพยายามหลบหนีออกจากออกจากตันหยางพร้อมไข่มุกน้ำตาจันทรา ซึ่งเป็นไข่มุกของตระกูลกัวที่จะมอบให้เฉพาะผู้เป็นภรรยาของประมุขรุ่นปัจจุบัน ตามหลักแล้วไข่มุกน้ำตาจันทราเป็นสิ่งที่มอบให้ภรรยาเอกของตระกูล และมารดาจะส่งมอบให้บุตรชายคนโตเพื่อมอบต่อให้ภรรยาเอก เป็นเช่นนี้สืบทอดมานานยิ่ง แต่มารดาของเขาตายจากไปตั้งแต่เขายังเด็ก ไข่มุกน้ำตาจันทราควรอยู่ในมือบิดา รอจนกว่าเขาจะพบสตรีที่เป็นคู่ชีวิตจึงส่งมอบให้ ‘สะใภ้ของบุตรชายคนโต’ รับดูแลต่อไป แม้บิดาของเขามีภรรยาเอกเพียงคนเดียว แต่อนุนั้นไม่อาจนับได้หวาดไหว เขาเองเมื่ออายุสิบสองถูกส่งตัวไปร่ำเรีย

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-03
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter5.ยกเว้น

    หลินอวี้เจินเดินออกมาจากห้องนอนของตนเองแล้วเดินเล่นในบริเวณบ้าน บ้านหลังนี้ของท่านลุงใหญ่ตบแต่งเรียบง่ายผิดกับบ้านจู้หยางนัก ยิ่งเทียบกับบ้านของท่านลุงรองมิได้เลย แต่กลับคล้ายบ้านของบิดาของนางยิ่ง บิดาของนางเน้นความเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอย โต๊ะไม้เรียบง่ายแต่แข็งแรงคงทน ภาพประดับส่วนใหญ่เป็นฝีมือนางกับบิดาเอง นางชอบศึกษาการค้าขายมากพอๆ กับที่ฝึกฝนตนเองเรื่องการวาดภาพ ท่านลุงใหญ่มิใคร่รู้เรื่องพวกนี้นัก หากแต่ถ้ามีหนังสือดีหรือสมุดภาพน่าสนใจก็มักส่งมาให้นางเสมอ ร้านขายผ้าที่ท่านลุงให้นางดูแลนั้น บางครั้งบางคราว นางวาดลวดลายให้คนนำไปปักเพิ่มมูลค่าให้ผ้าของทางร้านได้อีกด้วย “คุณหนูเจ้าค่ะ” หวังหมิ่นเรียกน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ หญิงสาวหันมาตามเสียงเรียกเห็นท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัวของอีกฝ่ายทั้งที่อายุมากกว่านาง หลินอวี้เจินส่งยิ้มกว้างแล้วเดินไปจับท่อนแขนของอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม “อย่าเรียกข้าคุณหนูเลย เรียกอวี้เจินก็พอแล้ว” “บ่าวมิกล้า” “ท่านลุงใหญ่เข้มงวดมากหรือ?” “ไม่เจ้าค่ะ นายท่านดูแลพวกเราดียิ่ง

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-03
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 6.แน่วแน่

    “น้องชาย เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ บาดเจ็บที่ใดบ้าง” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถาม เขาอ้าปากแต่ไม่สงเสียง หลินอวี้เจินมีประสบการณ์การดูแลเด็กมาบ้าง เข้าใจในทันทีว่าเด็กชายผู้นี้อาจมีสมองผิดปกติจึงเอ่ยช้าหรือพูดช้ากว่าที่ใจคิด นางจึงอาศัยการอ่านปากและความใจเย็น รอคอยให้เขาพูดเองโดยไม่เร่งรัดแต่อย่างใด “ไม่...ข้าไม่เป็นอะไร” “ดียิ่ง เช่นนั้นลุกขึ้นเถิด ข้าช่วยประคองนะ” นางขยับตัวมานั่งข้างหมายจะประคองเขาขึ้นยืน เป็นจังหวะที่เจ้าของร้านผ่านมาเห็นเข้า รีบเข้ามาประคองเด็กหนุ่มขึ้นยืนด้วยตนเอง “คุณชายกัวบาดเจ็บที่ใดหรือไม่ขอรับ” เด็กหนุ่มไม่ค่อยพอใจนักที่ถูกฉุดแขนให้ลุกขึ้นยืนเช่นนี้ เขาจึงทำหน้าตาบูดบึ้งใส่แล้วไม่ยอมพูดอะไรอีก “คุณชายกัวต้องการสิ่งใดโปรดแจ้งข้าน้อยได้ขอรับ ข้าน้อยจะให้เด็กๆ จัดเตรียมนำส่งจวนทันที” เจ้าของร้านประจบประแจงอย่างเปิดเผย ท่าทางของเขาทำให้หลินอวี้เจนลอบยิ้มขบขัน “กระดาษ ...หมึก” “ขอรับๆ โปรดรอสักครู่ ไม่ทราบว่าคุณชายมากับ...” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ดวงตาของเจ้าของร้

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 7. อยากช่วย

    “รูปที่คุณหนูยืนมองนานๆ รูปนั้นใช่ไหมเจ้าคะ ข้าเองก็ไม่ทราบเพราะไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง แต่ได้ยินว่านอกเมืองมีทัศนียภาพที่งดงามนัก เศรษฐีหรือขุนนางที่ร่ำรวยมักปลูกบ้านพักที่นั้นไว้พักผ่อนหย่อนใจเจ้าค่ะ” หลินอวี้เจินพยักหน้ารับ ไม่นานรถม้ากลับมาถึงบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่หลินเหิงอี้กลับจากเจรจาซื้อขายหนังกวาง เขาไม่ได้ว่ากล่าวอะไร หากหลานสาวจะออกไปนอกบ้านบ้างเพราะหวังหมิ่นติดตามไปด้วย อาจเพราะเติบโตในตระกูลชาวนามาก่อน แม้เป็นผู้หญิงแต่หากไม่ทำอะไรวันๆ เอาแต่เก็บตัวในห้องก็พาลจะอดตายเอาเสียก่อน เขาจึงไม่แปลกใจที่ครั้งนั้นเขาให้หลานสาวดูแลกิจการร้านขายผ้าของเขา โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของน้องชายคนรอง ซึ่งหลินอวี้เจินก็ทำได้ดีแม้นางจะอายุยังน้อย อาจเพราะเป็นร้านขายผ้าเล็กๆ ก็เป็นได้ การดูแลจึงไม่ยุ่งยากอันใดนัก “ท่านลุงใหญ่” นางเอ่ยทักพลางมองเกวียนที่บรรทุกหนังกวางทยอยลำเลียงเข้ามาเก็บในโรงเก็บสินค้า “มีอะไรให้หลานช่วยหรือไม่เจ้าคะ” “ถ้าอยากช่วยค่อยมาช่วยลุงตรวจบัญชีตอนเย็นก็แล้วกัน” หลินเหิงอี้ยิ้มให้หลานสาว กลับมาบ้านแล้วมีคนรอที่บ้าน

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 8. เจ้ามาทำอะไรที่นี่

    หลินอวี้เจินไม่คิดจะอยู่ที่นี่นานนัก อาศัยว่าตนไม่รู้จักใครเป็นพิเศษจึงตั้งใจว่าส่งกล่องของขวัญแล้วจะกลับทันที ชายผู้นั้นนั่งตำแหน่งประธาน เพียงหางตาเห็นนางเดินเข้าไปใบหน้าไร้รอยยิ้มแม้แต่ดวงตายังคมกริบ เห็นได้ชัดว่าเขารังเกียจนาง นางชนน้องชายของเขาและเด็กหนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เหตุใดแววตาของเขาที่จ้องมองราวกับฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ “ข้าน้อยหลินอวี้เจินเป็นตัวแทนร้านค้าตระกูลหลินนำของขวัญมามอบให้ใต้เท้ากัว ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง” แต่เดิมนางนั่งคิดคำอวยพรอยู่บนรถม้ามาตลอดทาง แต่พอเห็นสายตาของเขาแล้วนางจึงไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใด หากเขาโกรธเคืองนางเพียงแค่ชนน้องชายของเขาหกล้มละก็... เขาช่างใจแคบเกินไปแล้ว ‘น้องชาย’ “ใต้เท้ากัว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างนึกได้ “ของสิ่งนี้ข้าน้อยฝากมอบให้คุณชายกัวอี้เซียวเจ้าค่ะ” “ของอี้เซียว?” “เจ้าค่ะ” นางยังสงบนิ่งแม้แววตาของเขาข่มขู่นางอยู่ “แทนคำขอโทษที่ข้าน้อยชนคุณชายกัวหกล้ม” เขาหรี่ตามองนางแล้วขยับปลายนิ้วเรียกคนรับใช้ที่สาวเท้าเข้ามารับค

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter9. ท่าทางคุกคาม

    เสียงหวังหมิ่นตะโกนเรียกทำให้บุรุษในชุดดำชะงักไป เขาปล่อยมือจากลกคอของนางแล้วกระโดดหายไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้น นางหอบหายใจแรงจนต้องยกมือขึ้นกุมอก“คุณหนู!” หวังหมิ่นตะโกนแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาเขาประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน “คุณหนูมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ”“เมื่อครู่...” หลินอวี้เจินพูดตะกุกตะกักแต่พอเหลียวมองรอบข้างก็ไม่เห็นชายในชุดดำคนนั้นแล้ว“คุณหนูหลงทางหรือเจ้าคะ” หวังหมิ่นโอบหญิงสาวมากอดและปลอบโยนหลินอวี้เจิงพยายามจะอธิบายแต่นางรู้สึกหวาดกลัวหนักขึ้น “ตัวสั่นเชียว...คุณหนูคงเสียขวัญมากเลย รีบกลับบ้านเถิดเจ้าค่ะ” หวังหมิ่นประคองหญิงสามออกมาจากตรอกเล็กๆ นั่น แต่หลินอวี้เจินอดเหลียวมองไปอีกครั้งไม่ได้ แววตาเมื่อครู่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เรื่องนี้ต้องไม่ใช่ความบังเอิญเป็นแน่ราวกับว่ามีความแค้นที่ยากจะให้อภัยแล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? เรื่องอะไรกัน! ในที่สุดหลินเหิงอี้ก็ล้มป่วยจริงๆ หลินเหิงอี้เป็นคนแข็งแรงแทบไม่เคยล้มป่วยเลย แต่คราวนี้ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ โชคดีที่พ่อบ้านหานตงกลับมาจากไปฝั่งศพมารดาและยังมีหลินอวี้เจินที่คอยด

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04
  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter10. เหนื่อยล้า

    นางคือหลานที่หลินเหิงอี้เอ็นดูที่สุด ถึงขนาดว่าหากเมื่อใดที่นางแต่งงาน ท่านลุงใหญ่จะเป็นคนจัดเตรียมสินเดิมด้วยตนเอง อาจเพราะเหตุนี้ครอบครัวของท่านลุงรองไม่ค่อยพอใจนัก เผลอคิดไปถึงท่านลุงรอง นางจึงอดคิดถึงหลินซูซินญาติผู้น้องที่มีความสัมพันธ์กับคู่หมั้นของนางจนตั้งครรภ์ หลินซูซินเป็นหญิงสาวอ่อนหวาน กิริยาน่ารักน่าเอ็นดู ท่านลุงรองเลี้ยงดูบุตรชายหญิงอย่างดียิ่ง เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนเป็นของดี อาหารการกินเพียบพร้อมสมบูรณ์ แม้ท่านพ่อเปิดสำนักศึกษา แต่ไม่เคยส่งลูกจากภรรยาเอกมาร่ำเรียน เว้นแต่ลูกของอนุจึงได้มาเรียนที่สำนักศึกษาของท่านพ่อ แต่กลับเชิญอาจารย์มาสอนที่บ้าน ใครเลยจะรู้ว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้หลินอวี้เจินกำลังจะหมุนตัวเดินกลับ แต่นางกลับชนกับแจกันที่ตั้งมุมห้อง มือเรียวรีบยื่นมือไปจับไว้ไม่ให้หล่นลงมา ทว่ากลับทำให้กลไกในห้องเปิดออก มีบานประตูซ่อนอยู่ นางยืนนิ่งครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเข้าไปดู ด้านในเป็นเพียงห้องขนาดเล็ก มีชั้นวางของและเตียงเก่าๆ แต่บนชั้นนั้นมีเสื้อผ้าหญิงชาวบ้านพับไว้อย่างเรีบยร้อยสองหรือสามชุด สายตาของนางปะทะกับรูปวาดที่แขวนอยู่ผนังห้อง เป็นรูปหญิงงามสวมเสื้อคล

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-04

Bab terbaru

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 54 จบ

    ค่ำคืนก่อนที่กัวจื่อหรานจะนำไข่มุกน้ำตาจันทรามาถอนพิษร้ายให้หลินอวี้เจิน เขาได้พูดสู่ขอหลินอวี้เจินเป็นภรรยาและสัญญาว่าจะมีนางเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเขา แน่นอนว่าบุรุษด้วยกันย่อมมองออกว่า กัวจื่อหรานจริงใจกับหลินอวี้เจินมากเพียงใด ชีวิตของนางแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งโชคชะตา ทั้งสองยินยอมให้กัวจื่อหรานแต่งงานกับหลินอวี้เจิน กัวจื่อหรานจึงสวมชุดสีแดงเข้าไปพร้อมไข่มุกน้ำตาจันทรา แต่หลังจากที่กัวจื่อหรานปิดบานประตูลง ไม่นาน เสียงที่รอดผ่านบานประตูก็ทำเอาคนที่ยืนเฝ้าด้านนอกทำสีหน้าไม่ถูก เป็นจางหยวนที่ขับไล่บ่าวรับใช้ออกไปจนหมด และเชิญให้บุรุษสกุลหลินพักผ่อนในห้องรับรองก่อน ได้ยินเสียงแว่วครวญหวานจากในห้อง ผู้เป็นพ่อก็แอบร้อนใจ แม้รู้ว่าอีกฝ่ายทำเพื่อกำจัดพิษร้ายแรง แต่ก็เกรงว่าบุตรสาวที่รักปานแก้วตาดวงใจจะบอบช้ำไปเสียก่อน เป็นเหตุผลที่ทำให้พ่อตาอย่างหลินยี่ห้านมีสีหน้ามึนตึงทุกครั้งที่คิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น หนึ่งเดือนให้หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ก็คืองานมงคลอันยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองตันหยาง เล่าลือกันว่าเพราะนางสามารถรักษาอาการป่วยของกัวอี้เซียวได้ แม้การแ

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 53.  รู้สึกเป็นหนึ่งเดียว

    เมื่อได้กอดเขาแล้ว นางกลับรู้สึกว่าตนเองได้ครอบครองช่วงเวลาอันแสนอัศจรรย์ นุ่มนวลและเร่าร้อนราวกับจะหลอมละลายคนสองคนให้เป็นหนึ่งเดียวนางรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับเขาเขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับนาง “เจ็บหรือไม่” เขากระซิบถามให้ช่องทางคับแน่นและฉ่ำร้อนของนางปรับตัวรับกับแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขา“ไม่...ไม่เจ็บแล้ว” นางตอบด้วยท่าทีเขินอาย ร่างกายเหมือนหิวกระหายในสิ่งที่นางไม่รู้จัก“ท่าน...ช่วย...ได้หรือไม่ ...”แต่เขาชื่นชอบความซื่อตรงของนาง นางไม่เคยปิดบังความรู้สึกตนเอง ตั้งแต่พบกันครั้งแรก นางเป็นอย่างนี้เสมอมา และเมื่ออยู่ร่วมเตียง นางไม่ปกปิดอารมณ์ของตน ซึ่งปลุกเร้าความปรารถนาให้แผดเผาเขาจนต้องทำตามความต้องการของนางและเป็นความต้องการเดียวของเขาเช่นนั้นนางอ้อนวอนอย่างไม่รู้ว่าสิ่งที่ร้องขอนั้นคือสิ่งใด นางต้องการเขา ต้องการมากกว่านี้ นางบดเบียดเรือนร่างเข้าหา เชื้อเชิญให้เขาดื่มกินนางอีกครั้ง เขาขยับสะโพกช้าๆ ทว่าลึกล้ำ ดอกไม้งามเย้ายวนจนเขาไม่อาจฝืนกลั้น ความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าทำให้เขาใช้สองมือจับเอวคอดกิ่วไว้มั่นแล้วเริ่มแรงควบทะยาน ความซ่านเสียวทำให้หญิงสาวไปแตะข

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 52 เจ้าไม่อยากได้ข้าเป็นสามีหรือไร

    นางงุนงง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมให้สมองของนางคิดเรื่องอื่นใด เขาขมเม้มริมฝีปากของนางอีกครั้ง เรียกร้องและเว้าวอนจนนางครางในลำคอ คราแรกนางผลักไสเขาแต่เพราะร่างกายของเขาใหญ่โตเกินไป มือนางนั้นก็ไร้เรี่ยวแรง หรือเพราะแผ่นอกกำยำนั้นเย้ายวนนาง ฝ่ามือของนางอ้อยอิ่งอยู่ที่สาบเสื้อของเขา ดวงตาของเขาที่จ้องมองนางนั้นแสนร้อนแรงจนนางต้องหลับตาลง และโดยไม่รู้ตัวนิ้วมือของเขาบีบกรามของนางเบาๆ เพื่อให้นางเปิดปากแล้ว ‘บางสิ่ง’ ก็เข้ามาในโพลงปากของนาง นางลืมตาขึ้นอย่างตกใจแต่เขาไม่ยอมให้นางดื้อดึง ปลายลิ้นอุกอาจดุนดัน ‘บางสิ่ง’ ให้อยู่บนลิ้นของนาง‘บางสิ่ง’ นั้นเป็นทรงกลม ให้ความรู้สึกอุ่นและเรียบลื่นหรือนี่จะเป็น‘ไข่มุกน้ำตาจันทรา’เมื่อรู้ว่านางกำลัง ‘อม’ ไข่มุกล้ำค่าของตระกูลกัวอยู่ นางขยับตัวขัดขืน นางไม่รู้ว่าเขาได้ ‘สิ่งนี้’ กลับคืนมาได้อย่างไร แต่เขาไม่ควรนำมาใช้กับนาง นางมิใช่สะใภ้เอกสกุลกัว นางไม่ได้เป็นภรรยาของเขาภรรยา…แววตาของนางที่จ้องมองเขานั้นทึมทือและสับสน ฝ่ามือของเขาเลื่อนผ่านเรือนร่างอรชรของหญิงสาว เขาไม่เคยเห็นนางสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสเลยสักครั้งครา นางเหมาะกับสีแดงเช่นนี้นัก

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 51 ลงอาญาใด

    “พี่ใหญ่ ท่านใช้สิ่งนี้รักษาแม่นางหลินเถิด ที่นางตั้งเงื่อนไขให้พี่ใหญ่แต่งนางเป็นภรรยาก็เพื่อนำไข่มุกจากข้าไปมอบให้ท่าน บีบบังคับทั้งข้าและพี่ใหญ่ สตรีร้ายกาจเช่นนี้ใครได้นางเป็นภรรยาชีวิตต้องพบกับคามหายนะเป็นแน่” “เจ้า! เจ้าเด็กปัญญาอ่อน!” “พูดได้ดี พูดได้ดี” ปี่จื้อหัวเราะออกมา “สตรีร้ายกาจเช่นนี้ใครได้ไปก็พบแต่หายนะ!” “ทำเป็นปากดี เจ้าคิดว่าตนเองจะรอดรึ!” เฉียนอิ๋นอิ๋นกรีดร้องเมื่อจางหยวนสั่งคนมาลากนางออกไป “ข้าไม่มีอะไรให้เป็นกังวลอีกแล้ว เชิญใต้เท้ากัวลงอาญาข้าได้” กัวจื่อหรานที่ตกตะลึงที่ได้ไข่มุกน้ำจันทรากลับคืนมาสู่มือเพิ่งได้สติ เขามองนายทหารหนุ่มแล้วแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ลงอาญาใดรึ นายกองจง” กัวจื่อหรานกำไข่มุกน้ำตาจันทราแน่นแล้วรีบหมุนตัวเดินออกไป ไม่สนใจสีหน้าประหลาดใจของปี่จื้อ หลันเอ๋อร์บีบไหล่ของกัวอี้เซียวแล้วหันไปส่งยิ้มเล็กน้อยให้ปี่จื่อ ประคองกัวอี้เซียวเดินออกมา ด้านนอกมีหลินเหิงอี้รอด้วยใจกระวนกระวาย เมื่อเห็นนางออกมาอย่างปลอดภัยก็ยิ้มโล่งอก นับจากนี

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 50. คงได้ยินหมดแล้ว

    “อี้เซียว อย่าไปฟังนางนะ” เฉียนอิ๋นอิ๋นได้สติรีบปรับน้ำเสียงพูดจาหว่านล้อมเด็กหนุ่มตรงหน้า “เจ้ามีข้าเป็นญาติเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ใดรักเจ้าเท่าข้าอีกแล้ว” กัวอี้เซียวกลอกตาไปมา คนเหล่านี้แย่งกันพูดจนเขาฟังไม่รู้เรื่องแล้วยกมือขึ้นปิดหู ไม่ต้องการได้ยินเสียงใครอีก พลันเขานึกรอยยิ้มจริงใจของหลินอวี้เจิน นางใส่ใจเขา เล่นเป็นเพื่อนเขา ไม่เคยดูแคลนเขาในสภาพนี้ และไม่คิดเปิดโปงเรื่องของเขาใช่! เขารู้ความลับของตนเองดียิ่ง“พอแล้ว!”กัวอี้เซียวตวาดเสียงดัง น้ำเสียงแข็งกร้าวสั่นเล็กน้อย แต่มิใช่น้ำเสียงของเด็กหนุ่มอ่อนแอที่มีสติของเด็กเจ็ดขวบอีกแล้วท่าทางของเขาทำให้คนทั้งหมดตื่นตะลึงไร้ถ้อยคำ มีเพียงความเงียบงันในห้องคุมขังอันหนาวเหน็บ!“พอเสียที!” เด็กหนุ่มจ้องมองเฉียนอิ๋นอิ๋น “เลิกใช้ข้าเป็นเครื่องมือของเจ้าเสียที!”“อี้เซียว” หญิงสาวละลำละลัก เหตุใดเขาไม่เป็นเด็กปัญญาอ่อนแล้ว ยามนี้สายตาของเขาดุดันจนแทบจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ “ข้าทำเพื่อเจ้า เจ้าอย่าลืมซิ ว่าข้าคือญาติคนเดียวของเจ้า”“ญาติ! เจ้ายังกล้าใช้คำนี้อีกเรอะ!” กัวอี้เซียวตัวสั่นด้วยความโกรธ “สำหรับเจ้า ข้าก็คือเด็กปัญญาอ่อน

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 49.  แค่รู้สึกผิด

    “หากท่านแค่รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น...ไม่จำเป็น หากท่านแค่ต้องการรับผิดชอบเรื่องที่ผ่านมา...ไม่จำเป็น หากท่านเพียงสงสารเห็นใจข้า...ไม่จำเป็น ท่านไม่จำเป็นต้องแต่งข้าเป็นภรรยาเพื่อชดเชยความผิดใด เรื่องที่ผ่านมาล้วนมีเหตุผลในตัวเอง ข้าและท่านลุงใหญ่มิได้ขโมยไข่มุกน้ำตาจันทราไป ขอเพียงท่านเชื่อใจเรื่องนี้ข้าก็ยินดีมากแล้ว” สิ้นถ้อยคำของนางแล้ว กลับกลายเป็นเขาที่พูดไม่ออก คล้ายมีบางสิ่งจุกอยู่ในอก เขาต้องพูดออกไป พูดความจริงใจต่อนาง แต่คนอย่างเขาผู้ถูกเลี้ยงดูให้เป็นประมุขสกุลกัว เขาคือกัวจื่อหรานที่ก้มหัวให้ใครไม่เป็น ไม่เคยแพ้พ่ายแต่ยามนี้....เขากลายเป็นคนโง่งมที่สุดในใต้หล้าแล้ว “หากท่านต้องการทำเพื่อข้า ข้าอยากขอร้องท่านเรื่องเดียว” “เรื่องใด” “ข้าขอให้ท่านดูแลกัวอี้เซียวเช่นนี้ตลอดไป” “เขาเป็นน้องชายข้า แม้เป็นน้องชายต่างบิดา เป็นลูกอนุ แต่เขาก็เป็นคนสกุลกัว” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ทำให้อีกฝ่ายขมวดคิ้ว นางเผลอหัวเราะเบาๆ ยื่นมือออกจากผ้าห่มไปคลึงหัวคิ้วของเขาพลางเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “ขอ

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 48  ท่านแกล้งข้า

    ความอ่อนล้ากดทับที่สองบ่า เขาโน้มหน้าลงต่ำจนหน้าผากของตนจรดหน้าผากของนาง ดวงตาของชายหนุ่มเห็นมุมปากของหญิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ แล้วดวงตาสุกใสของนางก็จ้องมองเขาอยู่ อยู่ใกล้จนสัมผัสลมหายใจอุ่นร้อน แต่นางกลับไร้ความเขินอาย ซ้ำยังหัวเราะออกมาเบาๆ หลิวอวี้เจินเห็นแววความหม่นล้าฉาบเต็มดวงตาและใบหน้าของเขา แม้ควรรักษาระยะห่างไม่ใกล้ชิดกันเกินไป แต่ในยามนี้ที่ความตายใกล้เข้ามาทุกขณะ นางกลับปล่อยวางเรื่องจารีตต่างๆ นั้นเสีย “เจ้าหัวเราะเรื่องใด” “ท่านเดินเข้ามาทางประตู” “หือ?”เขาเลิกคิ้วฉงนกับถ้อยคำของนาง ขยับตัวออกห่างเพื่อประคองนางขึ้นนั่ง หยิบหมอนรองแผ่นหลังให้นางได้เอนหลังพิงหัวเตียง “ปกติท่านมาพบข้ายามดึกเข้าทางหน้าต่างมิใช่หรือ?”นางย่นจมูกใส่แล้วยื่นมือไปเกี่ยวเส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้าของเขาออก เขาคงวิ่งวุ่นทั้งวันจนแทบไม่มีเวลาดูสภาพตนเองเลยสินะ นางคุ้นชินกับภาพกัวจื่อหรานผู้หยิ่งยโส เอาแต่ใจ มิใช่บุรุษที่อมทุกข์เช่นนี้ นางไม่ต้องการเห็นทุกข์ใจจึงชวนเขาพูดคุยด้วยเรื่องอื่น “ที่นี่บ้านข

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter47  เป็นห่วงเป็นไย

    “ข้า...ข้าจะไปตามท่านหมอ” เมื่อมีผู้อื่นอยู่ เขากลับไปเป็นเด็กเจ็ดขวบอีกครั้ง“ไม่... ไม่ต้อง... อี้เซียว” นางส่งเสียงห้ามแต่ไม่ทันการ เด็กหนุ่มรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วหลินยี่ห้านใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของบุตรสาว เมื่อเห็นว่านางหยุดไอแน่แล้วจึงลุกขึ้นไปรินน้ำดื่มมาให้นางล้างคอ สายตามองหากระโถนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลเตียงนัก เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเพื่อให้ลูกสาวได้กลั้วปาก “ข้าทำให้ท่านพ่อต้องลำบากแล้ว” นางไม่อยากรบกวนบิดาเลย รู้สึกละอายแก่ใจแต่ยังไม่มีแรงพอจะหยิบจับทำอะไรได้เอง ทว่าบิดากลับหัวเราะเบาๆ ไม่สนใจว่าเวลานี้ตนต้องเป็นฝ่ายดูแลลูกสาว“เจ้าเป็นลูกของพ่อ พ่อไม่ดูแลเจ้าแล้วจะให้ผู้อื่นทำหรือไร” หลินยี่ห้านซับคราบน้ำที่ริมฝีปากของบุตรสาวอีกครั้ง “เมื่อยามที่เจ้ายังเล็ก ป่วยไข้ไม่สบาย พ่อยังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เจ้าเลย”“แต่ลูกโตแล้ว ควรเป็นลูกที่ปรนนิบัติดูแลท่านพ่อ” เห็นบิดายิ้มบางๆ แต่นางรู้ว่าหัวใจของบิดาทุกข์ระทมไม่น้อย “ท่านพ่อไม่อยากถามอะไรลูกหรือ?”หลินยี่ห้านได้แต่ยิ้ม ภรรยาของเขาเป็นสตรีอ่อนโยนไม่ค่อยพูดจา หลินอวี้เจินมีความอ่อนหวานที่ถอดแบบมารดามาทั้งหมด ย

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter46  เงื่อนไข

    “ท่านคงรู้แล้ว แม้ไม่มียาถอนพิษแต่หนทางรักษาแม่นางหลินนั้นยังพอมี” เฉียนออิ๋นอิ๋นยกมือลูบลำคอของตนเอง “ท่านยอมสละไข่มุกน้ำตาจันทราเพื่อนางหรือ?”“ข้าย่อมทำได้!” คำตอบที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วนั้น กลับกลายเป็นคมมีดกรีดหัวใจเฉียนอิ๋นอิ๋น แต่กระนั้นนางยังคงคลี่ยิ้มอ่อนหวาน เป็นรอยยิ้มที่นางฝึกฝนมานานเพียงเพื่อได้เคียงข้างบุรุษที่นางทุมเทใจให้ แต่กลับได้เพียงความว่างเปล่า เย็นชา“เช่นนั้นท่านจะรีดเค้นเอายาถอนพิษกับข้าทำไม? เหตุใดไม่นำไข่มุกน้ำตาจันทราไปรักษานางเสีย” ดวงตาของหญิงสาวจ้องมองอีกฝ่าย การเงียบงันคือคำตอบของเขาและทำให้นางหัวเราะเบาๆ ออกมา “นั้นเพราะท่านไม่มีไข่มุกน้ำตาจันทราใช่หรือไม่”“เจ้า!” กัวจื่อหรานกำมือแน่น สะกดโทสะของตนเองไว้จนร่างกายเกร็งไปหมดทุกส่วน เขาอยากบีบคอหญิงต่ำช้าผู้นี้นัก“ข้าอยู่ที่จวนสกุลกัวมานาน รับใช้พี่สาวมาหลายปี เรื่องแค่นี้เหตุใดข้าจะไม่รู้” นางยังคงเผยรอยยิ้มที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกขยะแขยงออกมา “หากท่านยอมรับเงื่อนไขของข้า ข้ายินดีมอบไข่มุกน้ำตาจันทราให้”“เงื่อนไขใด” “แต่งข้าเป็นภรรยาเอกของท่าน” น้ำเสียงของนางราบเรียบและมั่นคง ยืนยันความคิดตั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status