Share

บทที่ 3: ความลับในวิหารโบราณ

หลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือดกับกลุ่มคนลึกลับที่มุ่งทำลายหมู่บ้าน หลงเซิงและหวางหลงก็ได้รับการยกย่องจากชาวบ้านในฐานะผู้ปกป้องหมู่บ้าน แม้จะผ่านการเผชิญหน้ากับอันตรายที่น่ากลัว แต่พวกเขาทั้งสองกลับรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากพักฟื้นและทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการต่อสู้ หลงเซิงและหวางหลงก็ตัดสินใจที่จะออกเดินทางต่อไป พวกเขาได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าหมู่บ้านว่าไม่ไกลจากหมู่บ้านนี้มีวิหารโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ที่นั่นอาจมีคำตอบสำหรับคำถามที่พวกเขากำลังค้นหา

เส้นทางที่นำไปสู่วิหารโบราณเต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย ป่าลึกที่พวกเขาต้องข้ามผ่านเต็มไปด้วยพืชพรรณหนาทึบและสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด หลงเซิงและหวางหลงต้องใช้ทักษะการต่อสู้และความชำนาญในการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ทว่าทั้งสองก็ไม่ย่อท้อ พวกเขาเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ แม้ว่าป่าจะดูมืดมนและน่ากลัว แต่พลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในวิหารโบราณก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจพวกเขาอย่างมาก หลงเซิงรู้สึกได้ว่าคำตอบที่เขากำลังตามหาอยู่ใกล้แค่เอื้อม

การเดินทางในป่าลึกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ตลอดทางพวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ตั้งแต่การข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก การปีนเขาสูงชัน ไปจนถึงการหลีกเลี่ยงสัตว์ร้ายที่ดักซุ่มอยู่ในเงามืด แต่ด้วยความร่วมมือกันและทักษะที่พวกเขาได้พัฒนามาจากการฝึกฝน พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ทีละขั้น

ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงหน้าวิหารโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าลึก วิหารแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และพืชพรรณที่เจริญเติบโตอย่างหนาทึบ แต่ถึงแม้จะผ่านการเวลามานานหลายศตวรรษ โครงสร้างของวิหารก็ยังคงสง่างามและเต็มไปด้วยพลังที่ลึกลับ

วิหารถูกสร้างขึ้นด้วยหินสีเทาที่มีลวดลายสลักซับซ้อนประดับประดา ลวดลายเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นอักขระโบราณที่ไม่คุ้นตา หลงเซิงรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากวิหาร มันเป็นพลังที่ลึกลับและทรงพลังอย่างยิ่ง

“ที่นี่คือที่ที่เราตามหา” หลงเซิงกล่าวพลางมองไปรอบๆ “ข้ารู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายในวิหารนี้”

หวางหลงพยักหน้า “ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น วิหารนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปสู่ความจริง แต่เราต้องระวังตัว วิหารโบราณเช่นนี้อาจเต็มไปด้วยกับดักและอันตรายที่ซ่อนอยู่”

หลงเซิงเห็นด้วยและทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะเข้าไปสำรวจวิหาร พวกเขาเดินเข้าไปในวิหารอย่างระมัดระวัง ในขณะที่พวกเขาก้าวผ่านประตูใหญ่ที่ทำจากหินแข็ง ภายในวิหารนั้นเงียบสงัดและมืดมิด มีเพียงแสงสลัวจากรอยแยกของหินที่ส่องลงมาให้พอเห็นทาง

ภายในวิหารนั้นกว้างขวางและเต็มไปด้วยเสาหินที่ตั้งเรียงราย เสาแต่ละต้นถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่ซับซ้อนและสวยงาม บนผนังวิหารมีภาพวาดและอักขระโบราณที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์และตำนานของสถานที่แห่งนี้ หลงเซิงรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เห็น และเขารู้สึกได้ว่าที่นี่มีความสำคัญมากกว่าที่เขาคิด

ในขณะที่พวกเขาสำรวจภายในวิหาร หลงเซิงสังเกตเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ เขาพบทางเดินแคบๆ ที่นำไปสู่ห้องหนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกซ่อนอยู่ภายในกำแพงหิน ห้องนั้นถูกปิดกั้นด้วยประตูหินขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีอักขระโบราณประทับอยู่

“ข้ารู้สึกว่าห้องนี้อาจมีบางสิ่งที่สำคัญ” หลงเซิงกล่าวพลางสำรวจอักขระบนประตู “แต่มันถูกปิดแน่น และข้าไม่แน่ใจว่าจะเปิดมันได้อย่างไร”

หวางหลงเดินเข้ามาดูและพิจารณาอักขระบนประตู “อักขระเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมโบราณ ข้าคิดว่ามันต้องการพลังบางอย่างในการเปิด”

หลังจากพิจารณาอยู่สักพัก หลงเซิงตัดสินใจที่จะใช้ดาบแห่งวิญญาณสลาย เขาชักดาบออกจากฝักและวางปลายดาบลงบนอักขระที่ประทับอยู่บนประตู ทันใดนั้นเอง ประตูหินก็เริ่มสั่นสะเทือนและอักขระบนประตูเริ่มเรืองแสงขึ้นมา

แสงสว่างแผ่กระจายไปทั่วห้องและประตูหินเริ่มเปิดออกอย่างช้าๆ เสียงหินเสียดสีกันดังไปทั่ววิหาร และเมื่อประตูเปิดออกจนสุด หลงเซิงและหวางหลงก็เห็นห้องขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน

ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยสมบัติและวัตถุโบราณที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี มีอาวุธโบราณ เครื่องราง และหนังสือเก่าแก่ที่ถูกจัดเรียงไว้ในชั้นหนังสือ แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของหลงเซิงคือแท่นบูชาที่ตั้งอยู่กลางห้อง

บนแท่นบูชานั้นมีวัตถุที่ดูเหมือนจะเป็นลูกแก้วสีดำมันวาว ลูกแก้วนั้นดูเหมือนจะมีชีวิต เพราะมันเปล่งแสงสลัวๆ ออกมา และพลังที่แผ่ออกมาจากลูกแก้วนั้นทำให้หลงเซิงรู้สึกได้ถึงความมืดมิดที่ลึกลับ

“นั่นคืออะไร?” หวางหลงถามพลางมองลูกแก้วด้วยความสงสัย

“ข้าไม่แน่ใจ แต่มันต้องมีความสำคัญบางอย่างแน่นอน” หลงเซิงตอบขณะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชา “พลังที่มันแผ่ออกมาไม่ใช่พลังธรรมดา มันเต็มไปด้วยความมืดมิดและลึกลับ”

เมื่อหลงเซิงเข้าใกล้ลูกแก้ว เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ซ่านเข้ามาในตัวเขา มันเป็นความรู้สึกที่เยือกเย็นและน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นพลังที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เขายื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสลูกแก้ว แต่ทันใดนั้นเอง ลูกแก้วก็เริ่มเปล่งแสงสว่างวาบ และภาพในหัวของหลงเซิงก็เปลี่ยนไป

ภาพที่ปรากฏในจิตใจของเขาเป็นภาพของการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างกองทัพแห่งแสงสว่างและกองทัพแห่งความมืด สงครามที่รุนแรงและทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า หลงเซิงเห็นภาพของนักรบที่ถือดาบแห่งวิญญาณสลายต่อสู้กับศัตรูที่ทรงพลัง และภาพของลูกแก้วสีดำที่ถูกใช้เป็นอาวุธทำลายล้าง

ทันใดนั้นเอง ภาพในหัวของหลงเซิงก็หายไป เขาถอยหลังออกมาจากลูกแก้วด้วยความตกใจ พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากลูกแก้วนั้นทำให้เขารู้สึกถึงความหวาดกลัวและความกังวล

“มันไม่ใช่สิ่งที่เราควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว” หลงเซิงกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “ลูกแก้วนี้มีพลังที่มืดมนและอันตราย มันไม่ควรถูกปลดปล่อยออกมา”

หวางหลงมองลูกแก้วด้วยความกังวล “ถ้าเช่นนั้น เราควรทำอย่างไรกับมัน?”

“ข้าคิดว่าเราควรจะหาทางผนึกพลังของมันไว้ในวิหารนี้” หลงเซิงตอบ “มันจะไม่ถูกปลดปล่อยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อโลกอีก”

ทั้งสองคนเริ่มสำรวจห้องเพื่อหาทางที่จะผนึกพลังของลูกแก้วไว้ พวกเขาพบว่าบนผนังห้องมีอักขระโบราณที่บ่งบอกถึงวิธีการผนึกพลังโบราณ หลงเซิงและหวางหลงตัดสินใจที่จะใช้ความรู้และพลังที่พวกเขามีในการผนึกพลังของลูกแก้วสีดำ

การผนึกพลังนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องการความระมัดระวัง พวกเขาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในอักขระโบราณอย่างเคร่งครัด หลงเซิงใช้ดาบแห่งวิญญาณสลายในการเรียกพลังบริสุทธิ์เพื่อผนึกพลังของลูกแก้ว ขณะที่หวางหลงใช้พลังของตนเองในการเสริมสร้างอักขระที่ผนึกไว้บนผนังห้อง

กระบวนการผนึกพลังดำเนินไปอย่างช้าๆ แสงจากลูกแก้วสีดำค่อยๆ จางลง และพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากลูกแก้วก็เริ่มอ่อนแอลง แต่ในขณะเดียวกัน แสงสว่างจากดาบแห่งวิญญาณสลายก็เริ่มเปล่งประกายมากขึ้น

หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง พวกเขาก็สามารถผนึกพลังของลูกแก้วสีดำไว้ในห้องได้สำเร็จ ลูกแก้วถูกปิดผนึกอยู่ภายในแท่นบูชา และพลังที่เคยแผ่ซ่านออกมาจากมันก็ถูกกักเก็บไว้อย่างแน่นหนา

หลงเซิงและหวางหลงถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารู้สึกได้ว่าภารกิจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญและอันตราย แต่พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นมันไปได้ด้วยความร่วมมือและความมุ่งมั่น

หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย พวกเขาตัดสินใจที่จะออกจากวิหารโบราณและเดินทางต่อไป แต่ก่อนที่จะออกจากวิหาร หลงเซิงหันกลับมามองวิหารอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าพลังที่ซ่อนอยู่ในวิหารนี้ยังคงเป็นความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผยทั้งหมด

“ข้ารู้สึกว่ายังมีบางสิ่งที่เรายังไม่ค้นพบในวิหารนี้” หลงเซิงกล่าวพลางมองไปที่วิหาร “แต่เราคงต้องปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้น ข้าไม่อยากเสี่ยงที่จะปลดปล่อยพลังที่เราไม่เข้าใจออกมา”

หวางหลงพยักหน้าเห็นด้วย “ข้าเองก็คิดเช่นนั้น เราได้ทำสิ่งที่เราต้องทำแล้ว และเราควรเดินหน้าต่อไป”

ทั้งสองคนเดินออกจากวิหารโบราณและมุ่งหน้าต่อไปในป่าลึก เส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความท้าทายและอันตรายที่รอคอยพวกเขาอยู่ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเอง

การเดินทางของพวกเขายังอีกยาวไกล และพวกเขารู้ว่าการค้นหาความจริงและการปกป้องโลกนี้จากภัยอันตรายจะเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status