Share

บทที่ 5: การเผชิญหน้ากับปีศาจในใจ

หลังจากที่หลงเซิงและหวางหลงออกจากกระท่อมของอาจารย์เฒ่า พวกเขามุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่ทอดยาวไปสู่ทิศตะวันตก เส้นทางนี้นำพวกเขาไปยังภูมิประเทศที่ยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ทิวเขาที่สูงชัน ทะเลทรายที่แห้งแล้ง และป่าทึบที่ปกคลุมไปด้วยเงามืด ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าในการเดินทางเพื่อค้นหาความจริงและชะตากรรมของพวกเขา

ในวันหนึ่งที่ดวงอาทิตย์แผดเผาอยู่กลางท้องฟ้า หลงเซิงและหวางหลงพบว่าตนเองเดินอยู่ในทะเลทรายที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ทรายร้อนระอุใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา และความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่พวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไป โดยเชื่อว่าปลายทางจะนำพวกเขาไปสู่คำตอบที่พวกเขาต้องการ

ในขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ในทะเลทราย หลงเซิงเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นในจิตใจของเขา ความคิดที่เคยชัดเจนกลับเริ่มมืดมัว ความมั่นใจที่เคยมีมากกลับเริ่มสั่นคลอน

"ข้ารู้สึกแปลกๆ เหมือนมีบางอย่างกำลังควบคุมจิตใจของข้า" หลงเซิงพูดพลางมองไปรอบๆ ทะเลทรายที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด

หวางหลงหยุดเดินและหันมามองหลงเซิงด้วยความกังวล "เจ้าเป็นอะไรหรือ? มีอะไรผิดปกติหรือไม่?"

หลงเซิงพยักหน้า "ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง มันเหมือนกับว่าความมืดกำลังแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของข้า ข้ารู้สึกสับสนและไม่แน่ใจในสิ่งที่ข้าทำอยู่"

หวางหลงมองหลงเซิงด้วยความเห็นใจ "บางทีนี่อาจเป็นกับดักทางจิตใจที่เกิดจากพลังมืด เจ้าอาจกำลังเผชิญหน้ากับความกลัวและความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในใจของเจ้าเอง"

หลงเซิงพยักหน้า "ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก แต่ข้าต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะข้ามผ่านความรู้สึกนี้ได้?"

หวางหลงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "ข้าคิดว่าเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกนั้นโดยตรง เจ้าต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเจ้า และเอาชนะมันด้วยความเข้มแข็งของเจ้าเอง"

หลงเซิงฟังคำแนะนำของหวางหลงและรู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่กลับมาอีกครั้ง เขารู้ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับปีศาจในใจของเขาเอง หากเขาต้องการที่จะก้าวต่อไปในการเดินทางนี้

เมื่อพวกเขาเดินต่อไปอีกครู่หนึ่ง พวกเขาพบกับโอเอซิสกลางทะเลทราย ที่นั่นมีต้นไม้สูงและน้ำใสสะอาดที่ผุดขึ้นมาจากแหล่งน้ำใต้ดิน หลงเซิงและหวางหลงตัดสินใจที่จะหยุดพักและเติมน้ำให้กับตนเอง

ขณะที่พวกเขานั่งพักอยู่ที่ริมแหล่งน้ำ หลงเซิงก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติอีกครั้ง เขามองไปที่น้ำใสที่สะท้อนภาพของเขาเอง แต่ภาพนั้นกลับเปลี่ยนไปแทนที่จะเป็นภาพที่คุ้นเคย เขากลับเห็นภาพของตนเองในรูปแบบที่มืดมนและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

"ข้านี่หรือ?" หลงเซิงพูดกับตัวเองเบาๆ พลางจ้องมองภาพที่สะท้อนอยู่ในน้ำ

ภาพในน้ำค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นร่างที่เต็มไปด้วยความมืดและความโกรธเกรี้ยว มันยิ้มเยาะเย้ยและกล่าวขึ้น "เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะความมืดในตัวเจ้าได้หรือ? เจ้าจะทำได้อย่างไรเมื่อเจ้าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความมืดนั้น?"

หลงเซิงรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเขา แต่เขาก็พยายามรักษาความสงบและตอบกลับด้วยเสียงที่มั่นคง "ข้าไม่ใช่ความมืด ข้าเป็นผู้ที่ต้องปกป้องแสงสว่าง ข้าจะไม่ยอมให้ความมืดมิดครอบงำข้า"

ภาพในน้ำยิ้มเยาะเย้ยอีกครั้ง "แสงสว่างหรือ? เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าเข้าใจความหมายที่แท้จริงของแสงสว่าง? บางทีเจ้าก็อาจเป็นเพียงแค่เครื่องมือของความมืดที่แสร้งทำเป็นผู้พิทักษ์แสงสว่างก็ได้"

คำพูดนั้นทำให้หลงเซิงรู้สึกถึงความสงสัยและความไม่มั่นใจที่เคยซ่อนอยู่ในจิตใจของเขา ความคิดที่เคยมั่นคงเริ่มสั่นคลอน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งขึ้นภายในตัวเขา

"ไม่ ข้ารู้ว่าข้าคือใคร ข้าคือผู้ที่ถูกเลือกให้ถือครองดาบแห่งวิญญาณสลาย และข้าจะใช้มันเพื่อปกป้องโลกนี้จากความมืดมิด ข้าจะไม่ยอมแพ้ต่อความมืดในใจของข้าเอง" หลงเซิงกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

ทันใดนั้นเอง ภาพในน้ำก็เริ่มสลายตัวและจางหายไป หลงเซิงรู้สึกถึงความเบาและความสงบที่กลับมาในจิตใจของเขา เขารู้ว่าเขาได้ก้าวผ่านการทดสอบทางจิตใจที่ยากลำบาก แต่เขาก็รู้ว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอุปสรรคและการทดสอบอีกมากมายที่รอเขาอยู่

หวางหลงที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวหลงเซิงก็เดินเข้ามาใกล้และถามด้วยความห่วงใย "เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าได้เผชิญหน้ากับปีศาจในใจของเจ้าหรือ?"

หลงเซิงพยักหน้าและยิ้มให้หวางหลง "ใช่ ข้าได้เผชิญหน้ากับมัน และข้ารู้สึกว่าข้าแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ผ่านมันไป ข้ารู้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่ง่าย แต่ข้าก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน"

หวางหลงยิ้มกลับและตบไหล่หลงเซิงเบาๆ "ข้าดีใจที่เห็นเจ้าแข็งแกร่งขึ้น เราจะต้องผ่านพ้นทุกอุปสรรคไปด้วยกัน"

หลังจากที่พวกเขาพักผ่อนและเติมพลังกลับมาอีกครั้ง หลงเซิงและหวางหลงก็ออกเดินทางต่อไป พวกเขารู้ว่าทะเลทรายนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ทางกายภาพ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ทดสอบจิตใจและความมุ่งมั่นของพวกเขา

เมื่อพวกเขาเดินทางผ่านทะเลทรายไปได้สักพัก พวกเขาก็เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในภูมิประเทศ ทรายที่แห้งแล้งค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่มีหินผาและเนินเขา พืชพรรณเริ่มปรากฏขึ้นมากขึ้น และพวกเขารู้สึกถึงความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้น

ในที่สุด พวกเขาก็พบกับเส้นทางที่นำไปสู่หุบเขาลึก ที่นั่นพวกเขาเห็นวัดโบราณที่สร้างอยู่บนหน้าผาสูง วัดนี้ดูเก่าแก่และเต็มไปด้วยความสงบ แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความลึกลับ

หวางหลงมองวัดโบราณและพูดขึ้น "ข้ารู้สึกว่าที่นั่นอาจมีคำตอบที่เรากำลังตามหาอยู่ วัดนี้อาจมีความลับเกี่ยวกับดาบแห่งวิญญาณสลายและชะตากรรมของเรา"

หลงเซิงพยักหน้าเห็นด้วย "ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น พวกเราไปสำรวจกันเถอะ"

พวกเขาเริ่มเดินขึ้นไปยังวัดโบราณบนหน้าผา เส้นทางที่นำไปสู่วัดเต็มไปด้วยบันไดหินที่แกะสลักลงไปในหินผา บันไดนั้นชันและลื่นจากกาลเวลา แต่พวกเขาก็เดินขึ้นไปอย่างระมัดระวัง

เมื่อพวกเขามาถึงยอดหน้าผา พวกเขาพบกับประตูหินขนาดใหญ่ที่เป็นทางเข้าสู่ตัววัด ประตูนั้นถูกประดับด้วยลวดลายสลักที่ซับซ้อนและสวยงาม หลงเซิงรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แฝงอยู่ภายในวัด และเขารู้ว่าพวกเขากำลังจะได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ยิ่งใหญ่

พวกเขาผลักประตูหินเปิดและเดินเข้าไปในวัด ภายในวัดนั้นกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสลัวจากคบเพลิงที่ประดับอยู่ตามผนัง ผนังวัดถูกประดับด้วยภาพวาดและอักขระโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวและตำนานของสถานที่นี้

ในขณะที่พวกเขาสำรวจวัด พวกเขาพบกับห้องโถงใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางวัด ห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยแท่นบูชาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง บนแท่นบูชามีวัตถุบางอย่างที่เปล่งแสงสีทองออกมา

หลงเซิงและหวางหลงเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชา พวกเขาพบว่าบนแท่นนั้นมีแผ่นหินที่ถูกแกะสลักด้วยอักขระโบราณ และวัตถุที่เปล่งแสงสีทองนั้นคือดาบเล่มหนึ่งที่ดูเก่าแก่และทรงพลัง

"นี่คือดาบอะไร?" หวางหลงถามพลางมองดาบด้วยความสงสัย

หลงเซิงพิจารณาดาบและอักขระบนแผ่นหิน เขาพบว่าอักขระเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวของดาบเล่มนี้ มันคือดาบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการต่อสู้กับพลังมืดที่แฝงอยู่ในโลก ดาบนี้ถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณของนักรบผู้กล้าหาญที่สละชีวิตของตนเพื่อปกป้องแสงสว่าง

แต่ในขณะเดียวกัน ดาบนี้ก็ถูกสาปให้กลายเป็นดาบที่ทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า หากมันถูกใช้โดยผู้ที่ถูกครอบงำด้วยความมืด

หลงเซิงรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างดาบนี้กับดาบแห่งวิญญาณสลาย เขารู้ว่าดาบนี้อาจมีความสำคัญในการต่อสู้กับพลังมืดที่กำลังคุกคามโลก

"ดาบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับความมืดมิด" หลงเซิงกล่าวพลางมองไปที่หวางหลง "ข้าคิดว่าเราควรนำมันไปด้วย"

หวางหลงพยักหน้าเห็นด้วย "ข้าก็คิดเช่นนั้น ดาบนี้อาจช่วยเราในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะมาถึง"

พวกเขาตัดสินใจที่จะนำดาบนี้ไปด้วยในการเดินทางต่อไป หลงเซิงรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งขึ้น

เมื่อพวกเขาออกจากวัดโบราณ พวกเขาก็พบว่าท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม และพายุที่ทรงพลังเริ่มก่อตัวขึ้น พวกเขารู้ว่าการเดินทางของพวกเขายังอีกยาวไกล และอุปสรรคที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ายังมีอีกมากมาย

แต่พวกเขาก็ไม่หวาดกลัว พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะก้าวผ่านทุกอุปสรรค และใช้พลังที่พวกเขามีในการปกป้องโลกจากพลังมืดที่กำลังคุกคาม

ในค่ำคืนนั้น พวกเขาตัดสินใจที่จะตั้งค่ายพักแรมใกล้ๆ กับวัดโบราณ เพื่อพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับการเดินทางต่อไป

ขณะที่พวกเขานั่งรอบกองไฟ หลงเซิงก็หันมามองหวางหลงและพูดขึ้น "เจ้าคิดว่าเราจะสามารถเอาชนะความมืดมิดที่กำลังคุกคามโลกนี้ได้หรือไม่?"

หวางหลงยิ้มและตอบ "ข้ารู้ว่าเราจะต้องเจอความยากลำบากมากมาย แต่ข้าเชื่อว่าเรามีความแข็งแกร่งและความกล้าหาญที่จะแข็งแกร่งพอ ข้าเชื่อว่าเราจะสามารถปกป้องโลกนี้ได้"

หลงเซิงพยักหน้าและยิ้มกลับ "ข้าก็เชื่อเช่นนั้น เราจะต้องทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อปกป้องสิ่งที่เรารัก"

ทั้งสองคนต่างนั่งเงียบฟังเสียงลมที่พัดผ่านป่า และเสียงของพายุที่กำลังก่อตัวอยู่ไกลๆ พวกเขารู้ว่าการเดินทางของพวกเขายังไม่สิ้นสุด และพวกเขายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมาย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status