“ลองสวมดูสิคะ” อารักษ์ไม่พูดเปล่าแต่กลับก้าวเดินเข้าประชิดตัว จับร่างของมัสยาหันหลังเพื่อรูดซิปชุดเดรสสีมะนาวนั้นออกเพื่อให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น ทว่าเสียงอุทานน้อยๆ ของมัสยาก็ทำให้เขาอยากแกล้ง “อุ้ย! ไม่ต้องค่ะอารักษ์ น้องปลาทำเองได้” มัสยาขืนกายออกห่าง จริงอยู่ว่าเขาจับเธอฝึกงานสุดสยิว โดยการกอดจูบลูบไล้และแลกลิ้น จนจะแทบทั้งตัวอยู่แล้ว แต่จะให้มายืนนิ่งๆ ยอมให้เขาเปลื้องผ้าเธอออกก็คงจะไม่ดีเท่าไร “ทำไมล่ะคะ” อารักษ์ยิ้มแต่ยังขืนร่างเธอให้หันหลังจนได้ เพราะทุกสัมผัสที่แตะต้องลงไปนั้นมัสยากำลังสะท้านไปทั้งตัวจนเขารับรู้ได้ที่ปลายนิ้ว “น้องปลา... เอ่อ... น้องปลาอยากเปลี่ยนเองค่ะ” เธอตอบพลางขืนร่างให้ออกจากร่างแข็งแกร่งที่ซ้อนกายอยู่ด้านหลัง ขนาดใกล้กันแค่นี้เธอยังรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขา แล้วหากเขาจะพานิ้วร้อนๆ นั้นลากไล้ไปตามแผ่นหลังของเธอล่ะ เธอจะไม่เผลอครางกระเส่าให้เขาทำมากกว่านั้นหรอกเหรอ “แล้วน้องปลารู้เหรอว่าเขาใส่กันยังไง” มัสยามองเสื้อผ้าในมือ เกิดคว
แม้เธอจะไม่เคยมีความสัมพันธ์เกินเลยกับใครมาก่อน ทว่าสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรนั้นเธอก็เรียนรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี เธอไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าอาการที่อารักษ์กำลังเป็นอยู่นี้ช่างสะกดเก็บได้ยาก เพราะเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน หรือหากจะต่างนั่นอาจเป็น ‘ความอดทน’ ที่อารักษ์ย่อมทนกับสิ่งเร้าได้มากกว่าเธอแน่ เพราะเขาเรียนรู้จะระงับและตอบสนอง แต่เธอนั้นยังทำไม่ได้ดีทั้งสองอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ‘ระงับ’ หรือ ‘ตอบสนอง’ เธอจึงต้องชั่งใจว่าสิ่งไหนมีอำนาจได้มากกว่ากัน พร้อมกับเป็นบทพิสูจน์ในคำพูดของอารักษ์ไปด้วยว่า เขาจะระงับความพลุ่งพล่านของเธอหรือจะทำให้เธอตอบสนองจนหยุดไม่อยู่ อารักษ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นที่สุด เพราะหน้าอกขนาดใหญ่ที่มองเห็นอยู่ตรงหน้านี้ แม้เขาจะเป็นคนกะขนาดจากสายตาและจากสัมผัส เพื่อระบุไซส์สำหรับการตัดเย็บชุดทำงานให้พอดีสำหรับเรือนร่างงดงามนี้ แต่ในยามที่เขาตั้งใจจะสวมใส่ชุดให้กับเธอ เขากลับประหม่าและสั่นไปทั้งร่าง มัสยาทำให้เขาเสียความมั่นใจในตัวเองอีกแล้ว “เอ่อ... อารักษ์คะ ใส่... ใส่ให้น้องปลาสิคะ” “ใส่... ใส่เหรอคะ อืม...” เส
ใจอยากจะต่อต้าน คำพูดอยากจะท้วงติงถึงคำสัญญาที่เขาให้ไว้ถูกเก็บกดไว้ที่ปลายลิ้น เมื่อลิ้นน้อยๆ ของเธอกำลังตอบสนองความร้อนรุ่มที่สะบัดพลิ้วไปมา ความหอมหวานที่เกิดจากลิ้นแตะลิ้นเกาะเกี่ยวกันและกันเอาไว้อย่างไม่อยากหนีจาก ยิ่งทำให้มัสยาเหลือสติเลือนรางอยู่ในความหฤหรรษ์แห่งรสจูบ เพราะใจหนึ่งนั้นเธอพอใจที่เขาแตะต้องและสัมผัสตามใจร่ำร้อง แต่อีกใจก็หวั่นไหวเกรงว่าเธออาจเป็นของง่าย ‘สิ่งที่ได้มาง่ายย่อมไม่ควรค่าแก่การรักษา’ สิ่งที่สับสนปนเปจึงแสดงออกด้วยฝ่ามือขยุ้มเสื้อเชิ้ตช่วงอกของอารักษ์ไว้แน่น ทว่าในทันทีที่ริมฝีปากถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ความอัดอั้นจึงระเบิดออกในทันที “อื้อ... อารักษ์ขา... อารักษ์... อารักษ์ขา...” “ขา... น้องปลาหวาน หอม... อืม... น้องปลาขา... น้องปลาของอารักษ์” จมูกโด่งสูดดมความหอมที่พวงแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะซุกซบลงที่ต้นคอหอมกรุ่นชื้นไปด้วยไรเหงื่อแห่งความตื่นเต้น และสิ่งที่เห็นก็กลับทำให้เขาได้สติกลับคืนมา แม้ว่าในขณะนี้มัสยาจะพร้อมสำหรับการโบยบินอย่างไม่มีทางที่จะขัดขืนได้อีก แต่ดีแน่แล้วใช่ไหม เขาควรทำหรือเป
“อา... อารักษ์ขา... อื้อ... อารักษ์... ซี้ด... อารักษ์... โอว... อารักษ์ทำอะไรน้องปลาคะ อื้อ... อารักษ์... อารักษ์ขา...” “อาจะทำให้น้องปลามีความสุขค่ะ น้องปลาของอาหอมเหลือเกิน... หอม... อืม... น้องปลาหอม อืม... หอมที่สุด” จมูกและริมฝีปากเคลื่อนลงมาตามสีข้างทั้งฝ่ามือยังทำหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งเคล้นคลึงเต้าอวบ ทั้งลูบไล้ไปมาที่ต้นขาด้านในก่อนจะทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม เมื่อนิ้วมือร้อนๆ นั้นเกี่ยวตวัดเอาสายบิกินีติดไปด้วย ปลดปล่อยให้ดอกไม้สีชมพูสดสวยลอยเด่นล่อแมลงตัวผู้อย่างเขาให้ลงไปดอมดม “อา... อารักษ์ขา... ไม่นะ... ไม่ได้... อารักษ์... ไม่นะคะ... ไม่ได้” “ได้... หอม... น้องปลาหอมที่สุดและก็สวยที่สุด” อารักษ์พึมพำพร่ำจูบดอกไม้สีสวยคล้ายจะแย้มบานอยู่เล็กน้อย ทว่ากลิ่นหอมนั้นก็ยังกรุ่นและเชิญชวนให้เขาดอมดมพร้อมตวัดปลายลิ้นเพื่อสัมผัสความหวานหยาดเยิ้มที่เอ่อซึมออกมาไม่หยุด “โอว... อารักษ์ขา... อารักษ์... อื้อ... น้องปลาเสียว... อารักษ์ขา... โอว... อารักษ์...” สมองมึนงงสับสนกึ่งฝันกึ่งตื่นเพราะสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่นี้มัน
สภาพใบหน้าสวยเริ่มแดงไปทั้งหน้าเพราะพยายามสะกดอาการเผ็ดของตัวเองทำให้อารักษ์ต้องบีบกำปั้นตัวเองนิ่ง นี่ก็อีกเรื่องที่เขาลืมเลือนไปได้อย่างไร แค่คิดก็คล้ายว่าความทรงจำต่างๆ เกี่ยวกับเด็กหญิงมัสยาในวัยเยาว์จะย้อนมาให้เขาจดจำ เด็กหญิงตัวอ้วนกลมนั้นไม่ดื่มนมวัว ไม่กินเผ็ด ไม่กินขม แต่เขาไม่คิดว่าจนโตเป็นสาวขนาดนี้มัสยาก็ยังคงความไม่ชอบดังเดิมไว้ “ถ้าไม่ดื่มนมแล้วทำยังไงคุณปลาจะหายเผ็ดล่ะคะ โธ่...” อารักษ์มองมัสยาพร้อมคิดตามที่พนักงานบอก เขาควรจะทำอย่างไรดี แกร๊ก... เสียงประตูปิดลงทำให้มัสยาที่นอนฟุบอยู่บนโซฟารับแขกเพราะพยายามข่มจิตใจตัวเองให้นึกแต่เพียงว่า ‘ไม่เผ็ดๆ’ แหงนหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเบือนหน้าหนีทั้งที่หยาดน้ำตายังคงไหลอาบแก้ม เพราะสิ่งที่เห็นนั้นคืออารักษ์ถือแก้วนมสดเข้ามา เธออยากดื่มนมแก้วนั้นใจจะขาด อยากดื่มน้ำอะไรก็ได้ที่ทำให้หายเผ็ด เพราะตอนนี้ทั้งสมอง ทั้งปาก ทั้งหู ดูจะพร้อมใจกันส่งเสียงอื้ออึงให้เธออยากจะเป็นลมเสียให้ได้ ทว่าเมื่อเจ้าของร่างสูงใหญ่ทรุดร่างลงนั่งด้านข้าง ประสาทสัมผัสทั้งตัวของเธอก็ต้องตื่นโพลงเพราะคาด
“อา... อารักษ์ขา... โอว... ซี้ด... อารักษ์...” “น้องปลา... ลืมตาก่อนค่ะ มองอา น้องปลาคะ” “ค่ะ... อารักษ์” แพขนตาหนางอนงามกะพริบถี่ก่อนจะเปิดกว้างมองดูเขาที่ค้อมกายอยู่เหนือร่างของเธอ แววตาของเขาหวั่นไหว ไม่แน่ใจ และไม่มั่นคงเหมือนในทุกครั้งที่เคยได้สบสายตา “อารักษ์เป็นอะไรหรือคะ” “อา... อาไม่อยากรักษาสัญญา อา...” ดวงตาใสแป๋วของมัสยาทำให้เขาพูดไม่ออก เพราะไม่เคยต้องสะกดกลั้นความรู้สึกนี้เพื่อใคร ไม่เคยต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานเนิ่นนานขนาดนี้ หรือเรียกได้ว่าไม่เคยมีใครปฏิเสธเขาก็ว่าได้ ความทรมานที่ไม่ได้รับการตอบสนองจึงทำให้ทุกครั้งที่เข้าใกล้มัสยา ไม่ต่างกับมีแรงกระตุ้นมหาศาลทำให้เขาต้องการเธอมากถึงมากที่สุด แรกเริ่มเขาคิดว่าความรู้สึกแบบนี้แหละจะทำให้ครั้งแรกระหว่างเขาและเธอมันเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ แต่ไม่ใช่เลย เพราะนั่นอาจทำให้เขาไร้สมรรถภาพไปก่อนก็ได้ หากต้องเคร่งเครียดและหาทางระบายออกไม่ได้ กว่าจะถึงช่วงเวลาได้ใช้งานจริง บางทีท่อนำน้ำเชื้อของเขาอาจฝ่อไปแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้เขารู้ว่ามันกำลังเร่งผลิต
ท่อนแขนบอบบางกอดรัดรอบเอวเขาจนทำให้เต้าอวบอิ่มดันชิดติดแผ่นหลังไม่ได้ทำให้เขามีอารมณ์จนหักห้ามใจไม่ได้ นั่นเพราะเขาพิสูจน์แล้วว่าอยากให้เธอเก็บของล้ำค่าไว้เพื่อวันสำคัญ มากกว่าจะต้องสูญเสียไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ดูว่าถ้าไม่พูดกันให้เข้าใจ มัสยาคงไม่พ้นจะรั้งเขาไว้ให้ทำตามใจเธอแน่ “อาอยากให้น้องปลาคิดให้มากกว่านี้ สิ่งที่เสียไปมันจะไม่สามารถเรียกคืนได้อีกตลอดชีวิต อาเป็นผู้ชายอามีที่ระบายมากมาย อารอน้องปลาได้เสมอ แต่น้องปลาสิ ถ้าเสียไปมันจะเรียกคืนไม่ได้แล้วนะ และอาก็ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนทำลายน้องปลาด้วยตัวเอง เข้าใจอานะ” “อารักษ์ไม่ได้ทำลายน้องปลาค่ะ สิ่งที่มีค่านั้นน้องปลาเก็บไว้ให้คนที่คู่ควร และคนนั้นก็คืออารักษ์ อย่าปล่อยให้น้องปลาเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายที่ร่ำร้องให้ผู้ชาย... แต่เขาก็ไม่เอา” น้ำเสียงกลั้วไปด้วยแรงสะอื้นนั้นทำให้เขาหมดหนทาง กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสัน พยายามไม่ฟัง พยายามไม่รับรู้ว่าใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตานั้นกำลังสะอื้นฮึกฮักอยู่กับแผ่นหลังของเขา พยายามไม่สนใจว่ามัสยาจะรู้สึกเช่นไร ทว่าความพยายามของเขาไม่มากพอ เขาแพ้แล้ว
มัสยาตกใจเสียงหลง เมื่อเรือนร่างอ่อนระโหยของเธอถูกอารักษ์จับให้คร่อมทับเรือนร่างของเขา จนดอกไม้ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำสัมผัสกับแผงอกที่มีเส้นขนสีน้ำตาลทองขึ้นอยู่รำไร และสิ่งที่เสียดสีกันและกันอยู่ทำให้มัสยาต้องโหย่งสะโพกของเธอขึ้นในทันที เพราะแม้จะเสียวอย่างสุดๆ แต่คงน่าละอายนักที่แม้แต่เส้นขนบนแผงอกของเขาทำให้เธอเสียวจนแทบลืมหายใจ ทว่าเมื่อฝ่ามือแกร่งกระชับสะโพกผายพลางรั้งให้แนบชิดกับใบหน้าหล่อเหลา มัสยาต้องเบิกดวงตากว้างเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับอะไรแบบนี้ “โอว... อารักษ์ขา... โอว... ซี้ด... โอว... อารักษ์ขา... โอว... น้องปลาเสียว... อารักษ์ขา... โอว... ซี้ด... ซี้ด... โอว... เสียว... เสียวที่สุด... โอว...” ความเสียวที่ได้รับทำให้ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวเต็มที่ เพราะเธอกำลังส่ายร่อนสะโพกผายอยู่บนปลายลิ้นของเขา ให้เรียวลิ้นชอนไชได้ลึกมากยิ่งขึ้น ทั้งเลียไล้ ทั้งตวัดขึ้นลง เข้าไปในโพรงฉ่ำน้ำที่ผลิตน้ำหวานหยาดเยิ้มออกมาไม่หยุด จนมัสยาอดไม่ไหวต้องกรีดร้องเสียงยาวพร้อมส่ายอัดเกสรดอกไม้แนบปลายลิ้นร้อนๆ ของอารักษ์อย่างรุนแรง ร่างอ่อนระโหยของมัสย