แชร์

ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-15 15:04:31

ตอนที่

[3]

บ้าไปเสียแล้ว

 ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย 

เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก 

 “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ 

 “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกตัวออกไป แต่นางไม่สนใจเพราะจะรีบจัดการสถานการณ์ตรงหน้า 

 “คุณหนูหก รีบปล่อยหัวหน้าแม่ครัวก่อนเถิด หากใบหน้าของสุ่นเย้าโดนน้ำร้อนนั่นเห็นทีจะไม่เป็นการดี” หนึ่งในหัวหน้าพ่อครัวผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นพยายามเกลี้ยกล่อม

 “ไม่ดีแล้วอย่างไรเกี่ยวกันอะไรกับข้า”

 “…..” 

 พ่อครัวผู้นั้นถึงกับกล่าวอันใดไม่ออก 

 “ชีวิตทุกคนล้วนมีค่าคุณหนูหกอย่าทำเช่นนั้นเลย” แต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม

 “เช่นนั้นหรือ…...” ฉีจื่อหรานลากเสียง 

“แต่คนที่ไม่เคารพเจ้านายควรให้ค่าด้วยหรือ” ใบหน้าของฉีจื่อหรานแม้จะงดงามราวกับเทพเซียนหากแต่ท่าทางและแววตาในยามนี้ราวกับมัจจุราชที่กำลังจะพรากลมหายใจของผู้คนก็ไม่ปาน เพียงแค่ได้สบสายตาเหล่าคนครัวต่างก็ถอยหลังออกไปอย่างไม่รู้ตัว ด้านสุ่นเย้าที่ถูกจับกุมอยู่นั้น หากเทียบรูปร่างนางนั้นเหนือกว่าฉีจื่อหรานหลายขุม แต่เหตุใดตนไม่สามารถพาร่างกายตนเองออกจากอีกฝ่ายได้เลย คุณหนูหกผู้นี้ไปมีพละกำลังที่มากเช่นนี้มาจากที่ใด 

 “เฮ้ยยย”

 ระหว่างที่สุ่นเย้ากำลังครุ่นคิดสับสน ฉีจื่อหรานก็ทำท่าจะจุ่มศีรษะของนางลงในน้ำอันเดือดพล่านจริง ๆ เสียงของผู้คนต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่อ้ายมี่ที่ดูอยู่ นางไม่เคยเห็นคุณหนูของตนในท่าทางเช่นนี้ แต่ไม่ว่าคุณหนูจะทำเช่นไร นางก็จะอยู่เคียงข้างคุณหนูไม่เปลี่ยนแปลง 

 ฉีจื่อหรานเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของผู้คนในเหตุการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวออกห่างหม้อตุ๋นร้อน ๆ นั่น

 จากนั้นจึงผลักอีกฝ่ายลงกับพื้น ไม่พอยังใช้แรงตบไปที่ใบหน้าของสุ่นเย้าจนเต็มแรง

 เพียะ!

 “ข้าก็แค่หิวข้าว คราวหน้าก็อย่ามีปัญหาเช่นนี้อีกเลยนะ” รอยยิ้มอันสดใสกลับมาอีกครั้ง หากแต่ช่างดูยียวนเหลือเกินในสายตาของคนที่พบเห็น หนำซ้ำมือเรียวขาวยังตบเบา ๆ ไปที่ใบหน้าของหัวหน้าแม่ครัวซ้ำ ๆ อีก สุ่นเย้าทำอันใดไม่ได้เพราะเมื่อครู่ที่โดนผลักร่างกายก็เจ็บจุกมากเหลือเกิน 

เหล่าคนครัวเมื่อเห็นว่าหัวหน้าแม่ครัวปลอดภัยจากสถานการณ์สุ่มเสี่ยงแล้ว จึงได้คิดจะเอาคืนแทนนาง อย่างไรคุณหนูหกก็ไม่มีผู้ใดสนใจอยู่แล้ว ถึงพวกตนทำอันใดไป นายท่านและฮูหยินก็คงไม่ว่าอันใด คิดแล้วจึงได้กำหมัดแล้วหันไปมองหน้ากัน จากนั้นจึงเข้าไปหาฉีจื่อหรานในคราเดียว อ้ายมี่พยายามจะลุกขึ้นไปห้ามปรามก็ไม่ทันเสียแล้ว 

 ด้านฉีหรานใช้สายตาคมกริบสาดมองไปยังผู้คนที่กำลังกรูเข้ามาพลางยิ้มเยาะ 

 “สิ่งที่เกิดกับหัวหน้าแม่ครัวเมื่อครู่พวกเจ้าคงไม่เข้าใจสินะ ดี!” กล่าวเพียงเท่านั้นแล้วก็ยกมือขึ้นมาหักกระดูกจนเกิดเสียงดังกร็อบแกร็บ 

 หมับ! 

 มือขาวจับเข้าที่ต้นคอของผู้ที่เข้ามาคนแรกก่อนจะจับเขาหมุนและใช้เท้าถีบออกไปเต็มแรงส่งผลให้ชายผู้นั้นใบหน้าคว่ำกระแทกพื้นทันที ผู้อื่นที่เห็นเช่นนั้นจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงหันไปมองหน้ากันด้วยความสับสนว่าจะเอาอย่างไรดี ฉีจื่อหรานไม่ปล่อยให้พวกเขาคิดนาน นางใช้ฝีเท้าเหยียบไปที่ร่างของชายคนก่อนหน้า ก่อนจะใช้ฝ่ามือไล่ตบไปที่ใบหน้าของแต่ละคนอย่างเต็มแรง ไม่ทันตั้งตัวมุมปากของแต่ละคนก็มีเลือดไหลซึมออกมาเสียแล้ว บางคนถึงขั้นฟันหลุดออกจากปาก 

 “โอ้ ฟันข้า!!” 

 “หากพวกเจ้ายังไม่เคารพข้าอีก คงมิใช่แค่ฟันที่จะหลุดออกมา” ก่อนจะใช้มือทำท่ากรีดไปที่ลำคอของตน เพียงเท่านั้นพวกเขาก็ถดกายหนีอย่างหวาดกลัว คุณหนูหกบ้าไปแล้ว!! 

 ฉีจื่อหรานเห็นท่าทางเหล่านั้นก็ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ก่อนจะรีบเข้าไปช้อนร่างของอ้ายมี่ขึ้นมาแล้วใช้ฝีเท้ากระโดดออกจากโรงครัวกลับไปที่เรือนของตนอย่างรวดเร็ว 

 นางต้องรีบไปก่อนที่คนเรือนใหญ่จะมา 

 ต้องไปเตรียมตัวรอความสนุกสักหน่อย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

    ตอนที่[4]ฉีจื่อหราน “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า” “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู” พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15

บทล่าสุด

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

    ตอนที่[4]ฉีจื่อหราน “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า” “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู” พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกต

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนน

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status