Share

ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

last update Last Updated: 2025-02-15 15:03:50

ตอนที่

[2]

ตระกูลฉี

 

 ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น 

 แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส  เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ 

 แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนนี้เสียหน่อย 

 “อ้ายมี่ เราไปโรงครัวกันเถิด” อ้ายมี่ไม่มีคำถามใด ๆ ไม่ว่าคุณหนูของตนจะอยากทำสิ่งใด ตนก็จะคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ 

 เหล่าพี่น้องคนอื่น ๆ ของฉีจื่อหรานกำลังรวมตัวกันที่ห้องของฉีเยว่อินพี่รองที่ยามนี้ถือว่าเป็นพี่คนโตสุดของบ้าน 

 “พวกเราทำเช่นนี้ต่อไปน้องหกคงไม่กล้ามากินข้าวที่เรือนใหญ่แล้วกระมัง” ฉีเยว่อินเปิดประเด็น 

 “น้องหกไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน วันนี้โดนหักหน้าคงไม่กล้ามาแล้วล่ะ มาก็ไม่มีผู้ใดสนใจ” ฉีเยว่ชิงว่าพลางเชิดหน้า 

 “แต่หากน้องหกยังมาบ่อย ๆ พวกท่านจะหันไปสนใจนางมากขึ้นหรือไม่” ครานี้เป็นฉีเยว่เผิงที่กล่าวขึ้นดวงตาเต็มไปด้วยประกายเศร้าสร้อย 

 “โถ่น้องห้า ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็จะเป็นน้องเล็กสำหรับพวกเราเสมอ ฉีจื่อหรานไม่นับเป็นอันใดสำหรับพวกเรา” ฉีเยว่ซินรีบเอ่ยปลอบโยนน้องสาว ก่อนที่พี่ ๆ คนอื่นจะเข้ามารุมกอดน้องสาวคนเล็กของตนเอาไว้ 

 ฉีเยว่เผิงมีประกายสาสมใจ นั่นสิ ฉีจื่อหรานจะนับเป็นอะไรได้ 

 ที่โรงครัวเหล่าพ่อครัวแม่ครัวต่างก็จัดเตรียมอาหารเพื่อที่จะให้บ่าวของแต่ละเรือนนำไปให้เจ้านายของตน พวกเขาต่างเพิ่มความไม่พอใจไปให้ฉีจื่อหรานที่เป็นตัวต้นเหตุทำให้พวกเขาต้องวุ่นวายมากขึ้นในเช้าวันนี้ 

 แต่แล้วตัวต้นเหตุก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า…. 

 คราแรกตกใจแต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ 

 “คุณหนูหกมาทำอันใดที่นี่เจ้าคะ” เป็นสุ่นเย้าสตรีวัยกลางคนรูปร่างท้วม ที่เป็นหัวหน้าแม่ครัวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคุกรุ่นนอกจากน้ำเสียงแล้ว สีหน้าท่าทางก็ไม่ต่างกัน 

 “ข้าหิวน่ะ แต่บนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีอาหารเลย ข้าเลยต้องมาที่นี่” น้ำเสียงอันไม่ทุกข์ร้อนของฉีจื่อหรานตอบกลับทันทีและไม่สนใจต่อท่าทีกระด้างกระเดื่องของหัวหน้าแม่ครัวเลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าคำตอบของนางนั้นกลับทำให้สุ่นเย้าและคนอื่นส่งสีหน้าดูแคลนออกมา 

 “มิใช่ว่าคุณหนูหกทำอาหารกินเองมาเป็นหลายปีหรือเจ้าคะ เหตุใดวันนี้จึงต้องการกินอาหารของโรงครัวของจวนไปเสียได้” 

 “ข้าทำอาหารกินเองมาจนเบื่อ ยามนี้อยากกินอาหารของเรือนใหญ่บ้างจะไม่ได้หรือ”

 “คงไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ เพราะอาหารแต่ละมื้อถูกจัดเตรียมให้ครบกับเจ้านายทุกคนในจวนนี้แล้ว” สุ่นเย้ากล่าวเน้นคำว่าเจ้านายเป็นพิเศษกล่าวคือฉีจื่อหรานไม่นับรวมกับเจ้านายคนอื่น จึงไม่มีอาหารในส่วนของนาง 

 “แล้วหากข้าอยากกินเล่า” สีหน้าของฉีจื่อหรานยังคงมีแววทะเล้น 

 “เห็นทีคุณหนูต้องกลับไปกินอาหารที่เรือนตนเองเช่นเดิมแล้วเจ้าค่ะ เพราะข้าบอกว่าไม่มีคือไม่มี”

 ทันใดนั้นฉีจื่อหรานก็หันไปเห็นถาดอาหารที่บ่าวผู้หนึ่งกำลังจะยกไปยังทิศทางหนึ่ง นางจึงได้รีบเดินไปดักหน้าบ่าวผู้นั้น ก่อนจะใช้มือหยิบอาหารขึ้นมากิน

 !!!

 “นี่…” บ่าวที่ยกถาดอาหารอยู่ตกใจไม่น้อย หากแต่สุ่นเย้ากลับรีบเดินมาอย่างไม่พอใจ “นั่นเป็นถาดอาหารของคุณหนูสาม มิใช่ของท่าน ท่านไม่มีสิทธิ์กินมัน!!” น้ำเสียงเดือดดาลตวาดลั่น ดวงตาแข็งกร้าวใช้มองไปยังสตรีที่มักจะเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในเรือนด้วยความไม่พอใจ ฉีจื่อหรานไม่เคยมีตัวตนในจวนแห่งนี้ ดังนั้นบ่าวคนอื่น ๆ จึงไม่ได้คิดจะเคารพอันใดนาง เพราะแม้แต่พ่อแม่พี่น้องยังไม่แม้แต่จะสนใจนางเช่นกัน 

 ด้านฉีจื่อหรานไม่ได้ตกใจในเสียงตวาดลั่นและสายตาที่ไม่พอใจนั่นแต่อย่างใด นางหยิบองุ่นลูกสีเขียวลูกใหญ่ขึ้นมากินก่อนจะหันไปมองสุ่นเย้าช้า ๆ 

 รอยยิ้มเย็นเยียบที่ปรากฏขึ้น จู่ ๆ ก็ทำให้สุ่นเย้ารู้สึกหวั่นใจไม่น้อย 

 หลังเคี้ยวองุ่นและกลืนลงไปจนหมดแล้ว หญิงสาวก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาหัวหน้าแม่ครัวช้า ๆ ไม่เร่งร้อนใด ๆ เมื่อเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วจึงได้ยกยิ้มขึ้น ก่อนที่มือจะคว้าหมับเข้าที่ผมของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง 

 !!!

 “ข้าอยากกิน ข้าก็กิน เจ้ามีปัญหานักหรือ” กล่าวจบก็ลากอีกฝ่ายเข้าไปยังจุดหนึ่งในโรงครัวทันที เหล่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้แต่เบิกตากว้างขึ้น

Related chapters

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกต

    Last Updated : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

    Last Updated : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

    ตอนที่[4]ฉีจื่อหราน “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า” “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู” พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐ

    Last Updated : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

    Last Updated : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

    Last Updated : 2025-02-15

Latest chapter

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

    ตอนที่[4]ฉีจื่อหราน “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า” “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู” พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกต

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนน

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status