Share

ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-15 15:06:00

ตอนที่

[4]

ฉีจื่อหราน

 “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. 

 ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา 

 “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า”

 “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า 

 “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู”

 พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว 

 หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น 

 บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐานะเท่าเทียมและเหมาะสมกันจึงได้ให้ตบแต่งกลายเป็นครอบครัวเดียวกันในที่สุด บิดาของนางกระหายที่จะได้บุตรชายเพื่อที่จะมีผู้สืบสกุลต่อเป็นอย่างมาก แต่จนแล้วจนรอดความพยายามทั้งหมดตลอดหลายปีก็มักจะล้มเหลว เมื่อบุตรคนที่สี่ออกมาก็ยังคงเป็นสตรี บิดาคิดจะรับอนุอยู่หลายครั้งหากแต่มารดาได้ขอร้องเอาไว้ว่าขอโอกาสให้นางอีกสักครั้ง แต่สุดท้ายแล้วบุตรคนที่ห้าก็ยังคงเป็นบุตรสาว ครานี้บิดาของนางจึงเริ่มคิดที่จะรับอนุอย่างจริงจัง เมื่อถึงตรงนี้มารดาก็ยังคงขอร้องบิดาอีกครั้ง ยื้อยุดกันอยู่นานสุดท้ายบิดาจึงได้ยอมให้โอกาส แต่อนิจจา วันที่ห้องเต็มไปด้วยความวุ่นวายเหล่าหมอตำแยต่างวิ่งวุ่น และความร้อนใจของผู้บิดาที่เดินไปมาหน้าห้องทำคลอด เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น หมอตำแยก็เริ่มออกไปรายงานขุนนางฉีด้วยความรวดเร็วทันที 

 ‘เป็นคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ’ 

 เพียงเท่านั้นฉีหวังก็หันหน้าหมุนกายออกจากเรือนไปไม่แม้แต่จะเข้าไปดูอาการของภรรยาที่เพิ่งคลอดบุตรออกมาอย่างยากลำบากเลยสักนิด และจากนั้นเพียงแค่วันเดียวเขาก็รับอนุเข้าจวนมาถึงห้าคน 

 เรื่องนี้ทำให้ฉีฮูหยินถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ ด้วยร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงหลังจากคลอดบุตรรวมกับอาการทางใจที่สามีรับสตรีอื่นเข้ามาในจวน ทำให้จวนตระกูลฉีไร้ผู้ดูแลเรือนไปพักใหญ่ จนกระทั่งฉีหวังเอ่ยว่าจะให้อนุผู้หนึ่งขึ้นมาดูแลแทน ฉีฮูหยินจึงได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองใหม่ กระนั้นความไม่ยินยอม ความขุ่นข้องหมองใจก็มีอยู่เต็มอก เมื่อไม่สามารถจะไประบายใส่สามีได้ สุดท้ายนางจึงได้เอาสิ่งไม่ดีเหล่านี้ไปใส่บุตรสาวที่เพิ่งเกิดใหม่ ที่แม้จะเกิดมาได้จะเข้าสองเดือนแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดคิดจะตั้งชื่อให้นาง หนำซ้ำผู้เป็นมารดายังไม่คิดจะให้นางดื่มนมจากเต้าเสียด้วยซ้ำ เด็กน้อยถูกผลักไปให้แม่นมเป็นผู้ดูแลโดยสิ้นเชิง

 นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตที่น่าสงสารของฉีจื่อหราน ต่อมาหลังจากนั้นไม่นานบิดาผู้แข็งแรงมาโดยตลอดก็ล้มป่วยและเมื่อท่านหมอมาตรวจก็พบว่าบิดาเป็นโรคบุรุษร้ายแรง ต้องทำการรักษาเป็นการด่วน และการรักษาต้องใช้เวลา เรื่องนี้ต้องปิดเอาไว้เป็นความลับให้ลึกที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่น่าอายและเกี่ยวพันถึงชื่อเสียง

และเรื่องนี้ทำให้การผลิตทายาทที่ต้องการบุตรชายของบิดาจะต้องยืดเวลาออกไป เรื่องนี้คล้ายจะเป็นผลดีต่อมารดาที่บิดาจะไม่ต้องไปหลับนอนกับสตรีอื่น แต่สุดท้ายกลับทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่ลงกว่าเดิม และบิดาผู้นั้นก็มาก่นด่าเด็กน้อยที่ไม่ทันรู้เรื่องราวอันใดว่าเป็นสาเหตุทำให้เขาต้องเป็นโรคบุรุษ หากนางเกิดมาเป็นลูกชายทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นเช่นนี้ 

‘เป็นเพราะเจ้า ตัวซวย!!’ 

เขาเอาความผิดทั้งหมดมาโทษที่นาง หากไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ต้องไปรับอนุที่ผู้หนึ่งเป็นคณิกาจากหอนางโลมมา ว่ากันว่าสาเหตุของโรคมาจากสตรีผู้นั้น

 หึ นางอยากจะขำเสียเหลือเกิน เป็นเพราะนางหรือเป็นเพราะบิดามักมาก จนอยากได้คณิกาอันดับหนึ่งของหอโคมเขียวในยามนั้นมาร่วมหลับนอนด้วยเป็นแน่ ถึงขั้นทุ่มเงินจากการขายที่ดินผืนหนึ่งแถวนอกเมืองเพื่อไปไถ่ตัวนางมา 

 สุดท้ายเมื่อเห็นว่าบิดาเกลียดชังและไม่ชอบใจในบุตรสาวคนเล็ก ผู้เป็นมารดาก็ยิ่งพลอยไม่ชอบใจบุตรสาวเข้าไปด้วย รวมถึงพี่น้องคนอื่น ๆที่เริ่มห่างเหิน สุดท้ายพวกเขาก็คงจะลืมไปแล้วว่านางเป็นน้องสาวคนสุดท้องของพวกนาง แต่ที่จริงที่เหล่าพี่สาวไม่ชอบนางนั้นก็มีสาเหตุอื่นอยู่ ในตอนเด็กนางไม่รู้แต่ยิ่งโตมากลับมองได้ชัดขึ้น

Bab terkait

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนน

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกต

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-15
  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-15

Bab terbaru

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 6 : ฉีจื่อหราน 1/1

    ตอนที่[4]ฉีจื่อหราน “คุณหนูทำเช่นนี้จะเป็นการดีหรือเจ้าคะ” อ้ายมี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงเรือน นางไม่ได้เอ่ยถามสักครั้งว่าแผนการของคุณหนูมีแผนอย่างไรบ้าง แต่เพราะหากคุณหนูยังทำเช่นนี้ต่อไป เห็นทีต่อไปจะอยู่จวนตระกูลฉีได้อย่างลำบาก เอ๊ะหรือว่า…. ฉีจื่อหรานเห็นสาวใช้คนสนิทคล้ายจะตกผลึกบางอย่างได้จึงได้แย้มยิ้มออกมา “ข้ามิคิดจะอยู่ที่นี่ จึงได้หาทางที่จะออกจากที่นี่ตามแบบฉบับของข้า” “เป็นเช่นนี้เอง” อ้ายมี่พยักหน้า “แล้วพวกเราจะไปจากที่นี่อย่างไรหรือเมื่อใดเจ้าคะ” ทันใดนั้นดวงตาของผู้เป็นนายก็เข้มขึ้น “เร็ว ๆ นี้ ส่วนวิธีการเจ้าก็ค่อยรอดู” พอเสียทีกับชีวิตของสตรีนามว่าฉีจื่อหราน สตรีอาภัพที่ไม่มีผู้ใดต้องการ เดิมทีการเป็นบุตรสาวคนเล็กควรจะเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะบุตรคนเล็กจะอายุน้อยและมักจะดูน่าเอ็นดูกว่าใครเสมอ ทั้งในสายตาบิดามารดาและผู้อื่นที่ได้พบเห็น หากแต่กับนางนั้นมิใช่ นางเป็นคนที่บิดามารดาเกลียดชังและผลักไสให้มีชีวิตอย่างโดดเดี่ยว หากจะย้อนไปยังจุดเริ่มต้น บิดากับมารดาของนางแต่งงานกันด้วยความรักที่มีให้กัน ณ ขณะนั้น และผู้ใหญ่ต่างก็เห็นว่าทั้งคู่มีฐ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 5 : บ้าไปเสียแล้ว 1/2

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นฉีจื่อหรานก็ถูกบ่าวจากเรือนใหญ่ถูกตามตัวให้ไปพบ สองขาเดินอย่างไม่รีบร้อน พลางชมธรรมชาติไปเรื่อยเปื่อย บ่าวผู้นั้นถึงกับไม่พอใจที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้ พลางดูถูกในการแต่งกายของฉีจื่อหราน งดงามเสียเปล่าหากแต่แต่งตัวซอมซ่อยิ่งกว่าบ่าวในจวนเช่นตนเสียอีก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนใหญ่ที่เป็นห้องโถงหลักจนได้ ฉีจื่อหรานใช้สายตากวาดมองทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น แหมอยู่กันครบเลยนะ ทีเมื่อเช้าล่ะหายกันไปหมด “ฉีจื่อหรานเจ้าได้ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่!” เสียงของบิดาที่ไม่ได้เอ่ยเรียกนางมาเนิ่นนานดังขึ้น ทั้งยังเรียกแบบเต็มยศเสียด้วย ดูท่าจะไม่พอใจ “หืม มีอันใดหรือเจ้าคะ” กล่าวแล้วปั้นสีหน้าไร้เดียงสาก่อนจะหันไปมองเหล่าคนครัวด้วยความตกใจ เหล่าคนครัวยามนี้ล้วนแต่มีใบหน้าปูดบวม นางเกือบจะขำออกมา หากแต่ต้องรักษากิริยาเอาไว้ “นี่เกิดอะไรขึ้นเหตุใดใบหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” “เจ้าอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากไม่มีผู้ใดทำ พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร” ครานี้ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ “ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ เจ้าค่ะ

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 4 : บ้าไปเสียแล้ว 1/1

    ตอนที่[3]บ้าไปเสียแล้ว ฉีจื่อหรานลากศีรษะของหัวหน้าแม่ครัวไปจุ่มกับถาดน้ำมันที่เหมือนจะจัดเตรียมไว้ทอดบางอย่างจนเปียกชุ่ม ผมของสุ่นเย้ายามนี้จึงมีแต่ความมันเยิ้มรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดูเหนอะหนะยิ่ง ผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เห็นดังนั้นจึงไม่อาจที่จะปล่อยให้ฉีจื่อหรานกระทำการได้ตามใจ จึงได้พากันกรูเข้าไปหาหญิงสาวคิดหวังจะช่วยเหลือหัวหน้าแม่ครัว อ้ายมี่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงของตนเองขัดขวางไว้แต่คนเดียวหรือจะสู้กำลังหลายคนที่มีทั้งหญิงและชาย เมื่อผลักอ้ายมี่ไปยังทิศทางหนึ่งสำเร็จ พวกเขาก็รีบเข้าไปหาฉีจื่อหราน หากแต่ยังช้าไป หญิงสาวกำผมของสุ่นเย้าไว้แน่นก่อนจะลากไปที่หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ที่สุมถ่านไม้มีไฟลุกโชติช่วงอยู่ข้างใต้ ในนั้นมีไก่ตุ๋นอยู่หลายตัว ใบหน้าของสุ่นเย้าห่างจากน้ำที่กำลังเดือดพล่านเพียงแค่ไม่กี่ชุ่น เหล่าผู้คนที่คิดจะเข้ามาช่วยเหลือสุ่นเย้าจึงได้ชะงักฝีเท้าของตนลงแล้วสูดหายใจเข้าด้วยความลุ้นระทึก “นั่น…. คุณหนูหกกำลังคิดจะฆ่าหัวหน้าแม่ครัวหรือ!!” คนผู้หนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบปลีกตัวออกไปรายงานเจ้านายที่เรือนใหญ่ “ทำไมไม่เข้ามากันแล้วเล่า” เมื่อครู่ฉีจื่อหรานเห็นคนที่ปลีกต

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 3 : ตระกูลฉี 1/2

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี ในค่ำคืนนั้นพี่น้องตระกูลฉีต่างพูดคุยกันว่าเหตุใดฉีจื่อหรานจึงทำเช่นนี้ เหตุใดคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่นมาเกือบสิบปี กินข้าวก็กินที่เรือนตนเองจึงได้ลุกมาร่วมกินข้าวที่เรือนใหญ่เช่นนี้ แต่คิดไปแล้วก็ไร้คำตอบ ได้แต่รอดูท่าทีของอีกฝ่ายอีกสักนิด สุดท้ายจึงได้แยกย้ายกันไปเช่นนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อในยามเช้าก็พบว่าฉีจื่อหรานกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรอยยิ้มสดใส เมื่อผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นเช่นนั้น จึงได้ชะงักก่อนจะพากันเดินสะบัดหน้าหนีไปเฉกเช่นเมื่อวาน หากแต่ฉีจื่อหรานกลับคล้ายไม่กระทบกระเทือนอันใด นางยังคงกินอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยความเอร็ดอร่อย อีกทั้งตลอดมื้ออาหารทั้งสามมื้อนางก็มากินที่เรือนใหญ่ทั้งสามมื้อไม่ขาดแม้แต่มื้อเดียว จนในเช้าวันต่อมาบนโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่กลับไม่มีผู้ใดมาเลยแม้แต่คนเดียว กระทั่งอาหารก็ไม่มีเช่นกัน เห็นทีคงจะสุดทนกับนางแล้วกระมังแม้แต่กินอาหารร่วมกันก็ไม่อาจทำได้ แต่นางก็ยังคงเป็นนายผู้หนึ่งของจวนนี้มิใช่หรือ เหตุใดถึงผู้อื่นไม่มาแล้วอาหารในส่วนของนางก็ไม่มาเช่นกัน แม้นางจะรู้คำตอบ แต่ก็อยากจะสร้างความปั่นป่วนให้กับจวนน

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 2 : ตระกูลฉี 1/1

    ตอนที่[2]ตระกูลฉี สมาชิกทุกคนต่างคาดไม่ถึงว่าผู้ที่มาใหม่นี้จะเป็นคนที่พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่าในจวนตระกูลฉีมีคนผู้นี้อยู่ จะว่าลืมก็มิใช่แต่พวกเขาไม่ได้สนใจมากกว่า “เหตุใดเพียงแค่พบข้าจะต้องตกใจกันถึงเพียงนั้นเจ้าคะ” และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะกลายเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นเดียวกัน ฉีจื่อหรานยกยิ้มขึ้นพลางมองไปที่สมาชิกของตระกูลฉีแต่ละคนที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ต่างกัน ยามนี้บนโต๊ะอาหารมีคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ทั้งหมดหกคนประกอบด้วย ฉีหวัง บิดาผู้เป็นขุนนางกรมราชวงศ์ เสิ่นเจียงหรือฉีฮูหยินผู้เป็นมารดา ถัดมาจากมารดานั้นคือฉีเยว่อิน พี่รองของนาง ถัดมานั้นคือพี่สาม ฉีเยว่ชิง ตรงข้ามกันกับพี่สามนั้นคือพี่สี่นามฉีเยว่ซิน ถัดจากพี่สี่คือพี่ห้า ฉีเยว่เผิง เดิมทีบนโต๊ะควรจะมีพี่ใหญ่นามฉีเยว่สืออยู่ด้วย หากแต่นางออกเรือนไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้จึงเหลือสมาชิกทั้งหมดหกคน จะเห็นได้ว่าชื่อพวกนางล้วนแต่คล้ายกันทั้งหมด มีก็เพียงแต่นาง ที่ไม่เหมือนผู้ใด มีใช่เพราะว่าพิเศษ แต่เป็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่สิ อาจจะเพราะเกลียดชังด้วยกระมังจึงไม่อยากให้นางเหมือนผู้ใดในครอบครัวนี้ “น้องหกเหตุใดจึง

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

    ตอนที่[1]ชีวิตที่เลือกไม่ได้ ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรร

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status