Share

บทที่ 3 อายุสั้นนัก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-10 20:32:37

ลี่เหยาเหยาสะดุ้งโหยง พยายามกล่อมใจตัวเองต้องไม่มีอะไรเป็นแน่ อาจเป็นกองถ่ายละครแห่งใดแห่งหนึ่ง ทว่าภายในใจของนางกลับร้องตะโกนเสียงดังระงม 

ลี่เหยาเหยาเธอตายไปนานแล้ว ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่

ลี่เหยาเหยาพยายามสลัดความคิดสับสนมึนงงนั้นทิ้งไป พลางแหงนหน้ามองคนร่างสูงที่ยืนขึงดวงตาสีแดงฉานมองมาที่ตน 

น้ำเสียงที่พยายามเอ่ยออกมาจึงดูกระท่อนกระแท่นอยู่ไม่น้อย "ฉันอยากอาบน้ำ ที่นี่มีห้องน้ำหรือเปล่า" 

"หืม…" 

"อะ…เอ่อ คือว่าตอนนี้ฉันตัวเหม็นจริง ๆ นั่นแหละ ดูเหมือนจะหมดสตินอนไม่รู้สึกตัวหลายวัน แค่ขออาบน้ำแป๊บเดียว หลังจากนั้นนายจะสอบสวน หรือจะฆ่าจะแกงก็ตามใจ"    ลี่เหยาเหยาพยายามอธิบาย และกดข่มความขลาดกลัวพลางกล่าววาจาละมุนละม่อม

แท้จริงแล้วลี่เหยาเหยาอยากรู้ยิ่งนักว่าที่แห่งนี้คือที่ใด อย่างน้อย ๆ หากได้ออกไปสำรวจด้านนอกอาจจะพอหาหนทางหลบหนีออกไปได้

คงไม่ใช่พวกขบวนการค้ามนุษย์หรอกนะ

"มากความเสียจริง แค่นำโลหิตเจ้ามาแล้วไสหัวออกจากเมืองของข้าก็พอ" 

ลี่เหยาเหยาพ่นลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย "แล้วจะกลับยังไง ยังไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน"

นัยน์ตาคมกริบกวาดมองคนบนเตียงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "น่ารำคาญ"

ฝ่ามือกว้างดีดนิ้วหนึ่งเปาะ ประตูบานหนาถูกเปิดออก สตรีสองนางสวมอาภรณ์สีเข้ม ใบหน้าปกคลุมด้วยผ้าแพรสีเดียวกันสาวเท้าเข้ามาด้านในอย่างนอบน้อม ลี่เหยาเหยากะพริบดวงตามองด้วยความฉงน 'หมอนี่เล่นกลเก่งจริง ๆ'

"พานางไปอาบน้ำ"

"เจ้าค่ะนายท่าน"

สตรีทั้งสองนางยอบกายลง พลันสาวเท้าเข้ามาเพื่อช่วยพยุงกายของลี่เหยาเหยาขึ้น นางลอบมองหญิงสาวนงคราญทั้งซ้ายขวาพลางส่งยิ้มแหย "พี่สาวทั้งสอง เดี๋ยวฉันเดินเองก็ได้ค่ะ"

"เจ้าค่ะ"

ขาเรียวเล็กหย่อนลงจากเตียงนอนช้า ๆ นัยน์ตากลมช้อนมองคนตัวสูงที่ยืนสงบนิ่งราวรูปปั้น เมื่อดวงตาสบประสานเข้าด้วยกันอีกหน ลี่เหยาเหยาจึงหลุบเปลือกตาลงทันควัน 'คนประสาท เดี๋ยวแม่จะหนีให้ดู อยู่ ๆ ก็มาร้องเอาเลือดคนอื่นเนี่ยนะ เป็นปีศาจหรือไงกัน'

"เดี๋ยว!"

ทั้งสามชะงักฝีเท้าลง ลี่เหยาเหยาตัวสั่นระริก 'หมอนี่

เล่นกลได้ ซ้ำยังอ่านใจคนได้ด้วยเหรอ ตายแน่เหยาเหยา'

"ข้าให้เวลาไม่เกินหนึ่งก้านธูป" เสียงเย็นชาตอบกลับ

ลี่เหยาเหยาเผลอพ่นลมหายใจราวกับโล่งอกออกมาระลอกหนึ่ง ทว่าเมื่อสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่ล้วนดูแปลกพิกล

ลี่เหยาเหยาจึงกล่าวน้ำเสียงเบาหวิว "อะ…อะไรนะ หนึ่งก้านธูป"

"เจ้าค่ะท่านจอมมาร"

สติของลี่เหยาเหยาขาดผึงลงอีกครั้งเมื่อสตรีสองนางเรียกชายตรงหน้าว่าเช่นไร 'จอมมารอย่างนั้นเหรอ! เหยาเหยานี่แกตายแล้ววิญญาณเร่ร่อนมาที่ไหนกันเนี่ย หรือที่นี่คือกองถ่ายจริง ๆ'

ลี่เหยาเหยายืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาของนางแทบไม่กะพริบ 

"คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ" 

เสียงเล็กดังสะท้อนเข้ามาทำให้สติของลี่เหยาเหยา

หวนกลับ "อะ...อ้อ ว่าไงคะ" 

สตรีสองนางมองหน้ากันหลุกหลิก "ไปกันได้แล้วเจ้าค่ะ ท่านจอมมารหาชอบผู้ที่ไม่ตรงเวลา" 

เพียงแวบเดียวที่ลี่เหยาเหยาลอบมอง จึงทันได้เห็นแววตาดุดันนั้น เท้าเรียวจึงรีบบึ่งออกจากห้องราวไม่คิดชีวิต

ลี่เหยาเหยาพยายามสับเท้าไว ๆ ทว่าบริเวณรอบข้างกลับประดับตกแต่งไปด้วยหินหยกหลากสีละลานตา ซ้ำยังมีชายร่างสูงใบหน้าปกปิดด้วยหน้ากากปีกนกสีทองเต็มไปหมด นัยน์ตาคู่งามเหลือบซ้ายแลขวาเสียจนวิงเวียนศีรษะ

ที่นี่ที่ไหน ทำไมถึงแปลกตาแบบนี้

"คุณหนูเดินระวังด้วยเจ้าค่ะ" 

ลี่เหยาเหยาหูดับไปเสียแล้ว ในสมองตอนนี้เพียงคิดหาทางออกเท่านั้น เมื่อเห็นหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งมีแสงสว่างลอดผ่านเข้ามา เรียวปากกลีบกุหลาบพลันคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีอกดีใจ เท้าเรียวจึงรีบสับไว ๆ แทบเกิดเป็นสะเก็ดไฟ นางหวังพบหนทางสว่าง ทว่าเมื่อลี่เหยาเหยาลองชะโงกหน้าออกไปกลับต้องพบกับความสิ้นหวัง 

ท้องฟ้า เป็นไปได้ยังไง นี่บ้านคนหรือเครื่องบิน

ลี่เหยาเหยายืนแข็งค้าง พยายามรวบรวมสติไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้ 

"คุณหนูเจ้าคะ หอสรงน้ำไปทางนี้ หาใช่ทางนี้" 

ลี่เหยาเหยาเหลียวหน้ามองหญิงสาวตรงข้ามด้วยจิตใจเต้นระรัว "พี่สาวทั้งสอง ฉันขอถามอะไรบางอย่างได้หรือเปล่าคะ" 

"หากเป็นเรื่องที่พวกหม่อมฉันตอบได้ก็ยินดีตอบเจ้าค่ะ" 

"ที่นี่คือที่ไหนเหรอคะ?" 

สตรีสองนางค้อมศีรษะพลางลอบมองหน้ากันหลุกหลิก เหตุใดหญิงสาวผู้นี้จึงกล่าววาจาดูแปลกพิกลนัก ทว่ายังไม่ทันได้คลายข้อสงสัยให้อีกฝ่าย กลับมีเสียงใสกังวานตัดบทพวกนางขึ้น "คฤหาสน์จอมมารวิหคทอง…ทำไมเล่า ก่อนมาที่แห่งนี้ไม่รู้เรื่องใดมาก่อนเลยหรือ" 

หญิงสาวร่างอรชรสาวเท้าเข้ามาใกล้ เรียวมือที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับละลานตาลูบไล้บริเวณกรอบหน้างามเบื้องหน้าด้วยความสนอกสนใจ 

"คุณหนู!" 

"จะพานางไปอาบน้ำหรือ" เสียงใสเอ่ยถามพลางเหลียวมองด้วยหางตา 

"เจ้าค่ะ นายท่านกำชับไว้ว่าไม่เกินหนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ" 

"ออกไป ข้าจัดการเอง" 

"แต่ว่า..." 

"จะไปดี ๆ หรือจะให้ข้าส่งไป" 

"ทราบแล้วเจ้าค่ะ" สตรีสองนางจึงค้อมศีรษะเดินจากไปด้วยความเร่งร้อน 

"งดงามดีนี่ วันนี้ข้ากำลังเบื่อหน่ายพอดี ข้าจะช่วยเจ้าอาบน้ำเอง" ริมฝีปากบางกล่าวกระซิบแนบใบหูลี่เหยาเหยา ลมหายใจของนางเป่ารดเข้ามาเสียจนขนอ่อนในกายของลี่เหยาเหยาลุกซู่ 

"เอ่อ...ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง ฉันอาบน้ำเองได้" ลี่เหยาเหยาพยายามโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน พลางคลี่ยิ้มเหือดแห้ง 

"ไม่ได้! เจ้าสาวบรรณาการของท่านพี่ ข้าจะปล่อยปละละเลยได้อย่างไรเล่า" ริมฝีปากสีชาดฉีกยิ้มอย่างนึกสนุก พลางดึงกายของลี่เหยาเหยาลอยหวือติดมือของตนไปอย่างรวดเร็ว 

"เหวอ..." ลี่เหยาเหยาสาวเท้าตามอีกฝ่ายราวกำลังเดินผ่านทางมรสุม ข้อมือถูกฉุดกระชากลากถูไปตามเส้นทาง เธอกวาดสายตามองหาทางออกซ้ายขวากลับได้มาเพียงความว่างเปล่า ที่แห่งนี้ช่างมิดชิดราวตั้งอยู่ท่ามกลางดินแดนพิศวง

หญิงคนนี้เดินเร็วนัก นางเป็นใคร หรือว่าเป็นแฟนตาทึ่มนั่นเหรอ

บุรุษร่างสูงย่างกรายเข้ามายังโถงขนาดกว้าง พวกเขาทันได้เห็นแผ่นหลังของหญิงสาวทั้งคู่เข้าพอดี พลันเอ่ยขึ้น 

"เอ๋...เถียนชี เมื่อสักครู่เจ้าเห็นเหมือนข้าหรือไม่" เถียนหยาเหลียวมองสหายด้วยความฉงน 

เถียนชีเหลียวหน้าตอบกลับ พยักหน้าหงึกหงัก 

"นะ...นางออกจากห้องนายท่านได้เชียวหรือ แล้วคนที่จูงมือนางคือใคร คุณหนูอวี่หนานหรอกรึ" 

ทั้งสองเหลียวหน้ามองกันพลันกะพริบดวงตาถี่ "เป็นไปได้อย่างไร!!" 

"เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ" เสียงใสเอ่ยถามทว่าดูแฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง เรียวนิ้วเนียนนุ่มลูบไล้ผิวกายขาวผ่องของคน

ในอ่างด้วยความแผ่วเบา 

"เอ่อ...ฉันชื่อ ลี่เหยาเหยาค่ะ" 

"ลี่เหยาเหยา วาจาของเจ้าประหลาดดีแท้ ใบหน้าก็

ชวนมอง น่าเสียดายที่อายุสั้นนัก" 

"หา..." ลี่เหยาเหยากะพริบดวงตาถี่ 

อยู่ ๆ ก็มาสาปแช่งกันเนี่ยนะ!

"เอาเถอะ ข้าอยากปรานีบรรดาสตรีของท่านพี่ดูสักหน ไหน ๆ ก็จะไม่ต้องรับหญิงบรรณาการอีกแล้ว ชำระร่างกายของเจ้าให้สะอาดเสียหน่อย จะปล่อยให้ท่านพี่เชยชมแต่สตรี

เน่าเหม็นพวกนั้นได้อย่างไร" 

"เอ่อ...เธอ ไม่สิ คุณหนูหมายความว่าเช่นไรหรือคะ"

ลี่เหยาเหยาพยายามเรียนรู้วาจาของคนที่นี่ ดั่งคำกล่าวที่ว่า

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม 

"เหตุใดทำหน้าใสซื่อเช่นนั้นเล่า ไม่เข้าใจคำว่าเจ้าสาวบรรณาการของท่านจอมมารหรือ" 

ลี่เหยาเหยาสั่นส่ายศีรษะไปมา 

"เอาเถอะ เรียบร้อยแล้ว ข้าจะแต่งกายให้เจ้า ลุกขึ้นเสีย" 

ลี่เหยาเหยาจึงทำตามที่อีกฝ่ายบอก แม้จะเขินอาย

ไปบ้างแต่คนเบื้องหน้าก็เป็นหญิงเช่นกัน นัยน์ตาเฉี่ยวกวาดมองทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่า พลางกระตุกยิ้มเบาบาง 

"งดงามเพียงนี้ ทว่าเสียดายที่เจ้าคงมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน" 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 4 มีวิธีอื่นหรือไม่

    สตรีใบหน้าหวานสวมเครื่องแต่งกายของเจ้าสาว แดนมาร กลิ่นกายหอมกรุ่นล่องลอยเข้ามาแตะโพรงจมูกผู้ที่นั่งเคร่งขรึมอยู่มุมห้อง เขาจึงแหงนเงยใบหน้าของตนขึ้นเชื่องช้า เพียงแวบเดียวที่ความรู้สึกภายในใจราวเต้นกระหน่ำ ทว่าครู่ถัดมาอาการเช่นนั้นพลันมลายหายไป ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าเชื่องช้า ดวงตาดุดันเพ่งมองหญิงสาวด้วยความเกรี้ยวกราด"แต่งกายเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าคงไม่คิดว่า ข้าจะรับเป็นชายาจริง ๆ ใช่หรือไม่" เสียงทุ้มกล่าวลอดไรฟัน ฝ่ามือกว้างคว้าหมับไปยังลำคอระหงลี่เหยาเหยากระอักไอออกมาเสียจนใบหน้าแดงก่ำ ร่างบอบบางถูกอีกฝ่ายยกขึ้นเหนือพื้น หญิงสาวพยายามดีดแข้งดีดขาของตนเพื่อเอาตัวรอด สีหน้าของนางตอนนี้เริ่มไม่สู้ดีนัก ฝ่ามือน้อย ๆ ยกขึ้นตบตี ตะปบแกะให้อีกฝ่ายผ่อนปรนแรงลงราว ลูกแมวขาดอากาศหายใจ"ปะ...ปล่อยนะ"ประมุขแดนมารเห็นว่าลี่เหยาเหยาเริ่มไม่ไหว เขาจึงเหวี่ยงกายคนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวลงบนเตียงนอน อย่างไม่สนใจไยดี พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง "เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงหยิบชุดนี้ขึ้นมาใส่""ฉัน.

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 5 พันธผูกจิต

    "เป็นเช่นไรเล่าเถียนชี นางอยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วยาม เจ้าแพ้แล้ว" เถียนหยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดิมพันกับเถียนชีแล้วเป็นฝ่ายชนะ คาดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้สามารถอยู่กับจอมมารฮวาเทียนจิ้งนานกว่าสตรีนางอื่น เดิมทีหากเจ้าสาวบรรณาการใดถูกส่งเข้ามา แทบไม่ถึงหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำพวกนางก็ถูกส่งตัวกลับ เถียนหยาเกรงว่าคุณหนูลี่เหยาเหยาผู้นี้คงมีสิ่งน่าสนใจไม่มากก็น้อยเป็นแน่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นว่าผู้เป็นนายเก็บสตรีนางใดไว้ข้างกายสักราย"แพ้ก็แพ้สิ เอาไปผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น"เถียนหยาเอื้อมมือเข้ารับของวิเศษจากสหายด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง "ขอบใจ"เถียนชี "นายท่านให้เจ้าเป็นฝ่ายส่งนาง อีกเดี๋ยวข้าจะตามนายท่านไปยังหอฝึกปราณ นางฟื้นแล้วก็เร่งพานางออกไปเล่า"เถียนหยา "ข้ารู้แล้วนา เดี๋ยวนี้เจ้าช่างขี้บ่นอย่างกับมารดาของข้า""ชิ เจ้ามารปากดี"เถียนชีจึงหมุนกายพลันหายวับออกจากหอนอนชั่วพริบตา"อื้อ...ปวดหัวจัง" เสียงเล็กเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังเบาหวิว&n

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-12
  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 6 ลงเรือลำเดียวกัน

    "อ้าว เถียนชีนี่เจ้าจะไปที่ใดเล่า" เถียนหยาเพิ่งกลับมาถึงเห็นว่าเถียนชีเร่งร้อนเดินดุ่ม ๆ ออกจากหอฝึกปราณจึงเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง"มาก็ดี เจ้าเอาคุณหนูลี่เหยาเหยาคนนั้นไปส่งไว้ที่ใดกันเล่า""ข้าก็ส่งนางไว้ที่เดิมนั่นแหละ เจ้าจะโวยวายเพื่อสิ่งใด""นายท่านเผลอไปทำพันธผูกจิตกับนางตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ยามนี้นางคงได้รับบาดเจ็บ รีบออกไปตามหานางเร็วเข้า!""ห้ะ!! มิน่าเล่า ปกติข้าไม่เคยเห็นนายท่านสัมผัสร่างกายผู้ใดเลย แต่เมื่อสักครู่ข้าเห็น เอ่อ..." เถียนหยากล่าวกระอักกระอ่วน"เห็นอะไรเล่า ไยมัวอมพะนำ" เถียนชีเอ่ยด้วยความหงุดหงิด"ก็รอยที่คอของนาง...""อย่างนี้นี่เอง แต่โดยปกติหากไม่มีอาคมร่วมด้วย หากเพียงแค่สัมผัสต้นคอเท่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน คุณหนูผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันเล่า"บุรุษทั้งสองสนทนากันอย่างพะว้าพะวัง พลันหายวับออกจากคฤหาสน์วิหคทองด้วยความเร่งร้อนลี่เหยาเหยาถูกแบกขึ้นบ่า ภาพเบื้องหน้าของนางกลับด้านเสียจนน่าเวียนศีรษะ จาก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-13
  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 7 มารยาร้อยเล่มเกวียน

    นัยน์ตาคู่งามเปิดปรือขึ้นท่ามกลางความสลัว ลี่เหยาเหยารู้สึกว่ากายของตนปวดหนึบไปเสียหมดที่ไหนนะ เราตายอีกรอบแล้วหรือเปล่า"ฟื้นแล้วอย่างนั้นหรือ"ลี่เหยาเหยาพยายามกวาดสายตามองไปยังต้นเสียงที่เอ่ยขึ้น นางกะพริบดวงตาถี่เอ๋...หมอนี่อีกแล้วเหรอ"ฟื้นแล้วก็ลุกขึ้นมา อย่ามัวนอนกินบ้านกินเมือง""นะ...น้ำ" เสียงเล็กพยายามร้องขอ ลี่เหยาเหยารู้สึกว่าตอนนี้ลำคอช่างแห้งผากเหลือเกินฮวาเทียนจิ้งจึงลุกขึ้น และหยิบป้านชาลายวิจิตรพลางรินน้ำชาอุ่น ๆ ลงไปอย่างไม่เร่งร้อน "ข้าจะถามเจ้าเพียงหนึ่งคำถาม"เอาอีกแล้ว เจอหน้าทีไรเป็นต้องมีเรื่องโน่นนี่ลี่เหยาเหยาเอื้อมมือเพื่อรับจอกน้ำชาด้วยอาการสั่นเทา เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่านางไร้เรี่ยวแรงเช่นนั้น จึงยอบกายลงเชื่องช้า และพยุงร่างของสตรีด้วยความจำใจ ถึงอย่างไรนางก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของเขา แม้จะแตะเนื้อต้องตัวกัน หรืออยู่ในห้องเพียงลำพังคงไม่เกิดความเสียหายใดแก่นางมากไปกว่านี้หรอกกระมัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-14
  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย

    เพราะบุตรสาวของอนุผู้นี้ช่างใจกล้าเหนือสตรี ซ้ำยังชอบแต่งกายผิดจารีตประเพณีไม่เคารพกฎเกณฑ์ นางจึงถูกส่งไปสำนึกตนยังชานเมืองทุรกันดาร เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบ้านเดิมที่หญิงสาวถูกส่งตัวไปเป็นเผ่าบูชาจอมมารวิหคทอง ทุก ๆ สิบปีจะต้องมีการส่งตัวเจ้าสาวบรรณาการให้แก่จอมมารในดินแดนลึกลับ คาดไม่ถึงว่าชะตาเกิดของนางจะขึ้นตรงกับเนตรหายนะของปีที่สิบนี้เข้าอย่างพอดี ทั้งหมู่บ้านล้วนร่ำลือว่า บุตรีเสนาบดีใหญ่และอนุที่สิ้นใจไปแล้วล้วนเป็นที่ชิงชัง แม้นางหายตัวไปคงไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญ ในคืนที่เกิดพายุลมฝนกรรโชกอย่างหนัก ร่างบอบบางกลับนอนขดกายอยู่บนแคร่ไม้เก่าในห้องเก็บฟืน นางเป็นคุณหนูรองลูกของเสนาบดีก็จริงอยู่ ทว่าเมื่อถูกส่งเข้ามาเพื่อสำนึกตนยังสถานที่แห่งนี้ กลับไม่มีผู้ใดสนใจไยดี ซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งจากบ่าวไพร่สารพัด ผู้คนเหล่านี้หาได้เกรงกลัวคุณหนูรองเช่นนาง ซ้ำยังประณามว่านางคือ บุตรีนอกคอกผู้ที่บิดาแสนเกลียดชัง การที่ถูกส่งมายังสถานที่เช่นนั้นหมายถึงว่านางได้โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ปัง! เสียงบานประตูถูกกระแทกจนเปิดออก นัยน์ตาคู่งามเปิดกว้างมองผ่านความมืดสลัว นางชินและชากับเหตุการณ์เช่นนี้เสีย

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10
  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 2 เจ้าสาวบรรณาการ

    "เอ๋…นี่มันที่ไหนนะ" ลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นท่ามกลางความสลัว ใบหูของเธอคล้ายได้ยินเสียงคลื่นกำลังซัดสาด ร่างกายแข็งทื่อเสียจนไม่อาจขยับ"เราตายแล้วอย่างนั้นเหรอ หรือว่านี่คือโรงพยาบาล" ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ทว่ากลับยังคงมองไม่เห็นสิ่งใด เพียงรู้สึกคล้ายใบหน้าของตนมีบางสิ่งมาบดบังเสียจนน่าอึดอัด "อะไรเนี่ย? เสี่ยวผิง""…""เสี่ยวผิง""…"มีเพียงเสียงเงียบสงัดตอบรับกลับมา ลี่เหยาเหยาจึงถอดใจ พลางพ่นลมหายใจออกเชื่องช้า หลับดวงตาลงอีกหน"สงสัยเรากำลังฝันแหง ปวดหัวจัง นอนต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวตื่นขึ้นอีกทีก็เช้าแล้ว ช่างเถอะ" ด้วยความเหนื่อยล้าและรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ลี่เหยาเหยาจึงผล็อยหลับลงในที่สุด เรือลำเล็กเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความอนธการโดยรอบ ร่างหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ด้านใน ลมหายใจของนางเข้าออกสม่ำเสมอ ห่างออกไปไม่กี่ลี้[1] มีสายตาสองคู่กำลังกวาดมองมายังตัวเรือที่ลอยแล่นอยู่บนผิวน้ำด้วยความสนอกสนใจ "เถียนชีเจ้าเห็นแล้วหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปยังเบื้องหน้าท้องน้ำอันไกลโพ้น "ข้าเห็นแล้ว สายตาของเจ้าช่างไม่ได้เรื่องยิ่งนัก เราไปรับพระชายา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-10

Bab terbaru

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 7 มารยาร้อยเล่มเกวียน

    นัยน์ตาคู่งามเปิดปรือขึ้นท่ามกลางความสลัว ลี่เหยาเหยารู้สึกว่ากายของตนปวดหนึบไปเสียหมดที่ไหนนะ เราตายอีกรอบแล้วหรือเปล่า"ฟื้นแล้วอย่างนั้นหรือ"ลี่เหยาเหยาพยายามกวาดสายตามองไปยังต้นเสียงที่เอ่ยขึ้น นางกะพริบดวงตาถี่เอ๋...หมอนี่อีกแล้วเหรอ"ฟื้นแล้วก็ลุกขึ้นมา อย่ามัวนอนกินบ้านกินเมือง""นะ...น้ำ" เสียงเล็กพยายามร้องขอ ลี่เหยาเหยารู้สึกว่าตอนนี้ลำคอช่างแห้งผากเหลือเกินฮวาเทียนจิ้งจึงลุกขึ้น และหยิบป้านชาลายวิจิตรพลางรินน้ำชาอุ่น ๆ ลงไปอย่างไม่เร่งร้อน "ข้าจะถามเจ้าเพียงหนึ่งคำถาม"เอาอีกแล้ว เจอหน้าทีไรเป็นต้องมีเรื่องโน่นนี่ลี่เหยาเหยาเอื้อมมือเพื่อรับจอกน้ำชาด้วยอาการสั่นเทา เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่านางไร้เรี่ยวแรงเช่นนั้น จึงยอบกายลงเชื่องช้า และพยุงร่างของสตรีด้วยความจำใจ ถึงอย่างไรนางก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของเขา แม้จะแตะเนื้อต้องตัวกัน หรืออยู่ในห้องเพียงลำพังคงไม่เกิดความเสียหายใดแก่นางมากไปกว่านี้หรอกกระมัง

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 6 ลงเรือลำเดียวกัน

    "อ้าว เถียนชีนี่เจ้าจะไปที่ใดเล่า" เถียนหยาเพิ่งกลับมาถึงเห็นว่าเถียนชีเร่งร้อนเดินดุ่ม ๆ ออกจากหอฝึกปราณจึงเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง"มาก็ดี เจ้าเอาคุณหนูลี่เหยาเหยาคนนั้นไปส่งไว้ที่ใดกันเล่า""ข้าก็ส่งนางไว้ที่เดิมนั่นแหละ เจ้าจะโวยวายเพื่อสิ่งใด""นายท่านเผลอไปทำพันธผูกจิตกับนางตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ยามนี้นางคงได้รับบาดเจ็บ รีบออกไปตามหานางเร็วเข้า!""ห้ะ!! มิน่าเล่า ปกติข้าไม่เคยเห็นนายท่านสัมผัสร่างกายผู้ใดเลย แต่เมื่อสักครู่ข้าเห็น เอ่อ..." เถียนหยากล่าวกระอักกระอ่วน"เห็นอะไรเล่า ไยมัวอมพะนำ" เถียนชีเอ่ยด้วยความหงุดหงิด"ก็รอยที่คอของนาง...""อย่างนี้นี่เอง แต่โดยปกติหากไม่มีอาคมร่วมด้วย หากเพียงแค่สัมผัสต้นคอเท่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน คุณหนูผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันเล่า"บุรุษทั้งสองสนทนากันอย่างพะว้าพะวัง พลันหายวับออกจากคฤหาสน์วิหคทองด้วยความเร่งร้อนลี่เหยาเหยาถูกแบกขึ้นบ่า ภาพเบื้องหน้าของนางกลับด้านเสียจนน่าเวียนศีรษะ จาก

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 5 พันธผูกจิต

    "เป็นเช่นไรเล่าเถียนชี นางอยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วยาม เจ้าแพ้แล้ว" เถียนหยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดิมพันกับเถียนชีแล้วเป็นฝ่ายชนะ คาดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้สามารถอยู่กับจอมมารฮวาเทียนจิ้งนานกว่าสตรีนางอื่น เดิมทีหากเจ้าสาวบรรณาการใดถูกส่งเข้ามา แทบไม่ถึงหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำพวกนางก็ถูกส่งตัวกลับ เถียนหยาเกรงว่าคุณหนูลี่เหยาเหยาผู้นี้คงมีสิ่งน่าสนใจไม่มากก็น้อยเป็นแน่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นว่าผู้เป็นนายเก็บสตรีนางใดไว้ข้างกายสักราย"แพ้ก็แพ้สิ เอาไปผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น"เถียนหยาเอื้อมมือเข้ารับของวิเศษจากสหายด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง "ขอบใจ"เถียนชี "นายท่านให้เจ้าเป็นฝ่ายส่งนาง อีกเดี๋ยวข้าจะตามนายท่านไปยังหอฝึกปราณ นางฟื้นแล้วก็เร่งพานางออกไปเล่า"เถียนหยา "ข้ารู้แล้วนา เดี๋ยวนี้เจ้าช่างขี้บ่นอย่างกับมารดาของข้า""ชิ เจ้ามารปากดี"เถียนชีจึงหมุนกายพลันหายวับออกจากหอนอนชั่วพริบตา"อื้อ...ปวดหัวจัง" เสียงเล็กเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังเบาหวิว&n

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 4 มีวิธีอื่นหรือไม่

    สตรีใบหน้าหวานสวมเครื่องแต่งกายของเจ้าสาว แดนมาร กลิ่นกายหอมกรุ่นล่องลอยเข้ามาแตะโพรงจมูกผู้ที่นั่งเคร่งขรึมอยู่มุมห้อง เขาจึงแหงนเงยใบหน้าของตนขึ้นเชื่องช้า เพียงแวบเดียวที่ความรู้สึกภายในใจราวเต้นกระหน่ำ ทว่าครู่ถัดมาอาการเช่นนั้นพลันมลายหายไป ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าเชื่องช้า ดวงตาดุดันเพ่งมองหญิงสาวด้วยความเกรี้ยวกราด"แต่งกายเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าคงไม่คิดว่า ข้าจะรับเป็นชายาจริง ๆ ใช่หรือไม่" เสียงทุ้มกล่าวลอดไรฟัน ฝ่ามือกว้างคว้าหมับไปยังลำคอระหงลี่เหยาเหยากระอักไอออกมาเสียจนใบหน้าแดงก่ำ ร่างบอบบางถูกอีกฝ่ายยกขึ้นเหนือพื้น หญิงสาวพยายามดีดแข้งดีดขาของตนเพื่อเอาตัวรอด สีหน้าของนางตอนนี้เริ่มไม่สู้ดีนัก ฝ่ามือน้อย ๆ ยกขึ้นตบตี ตะปบแกะให้อีกฝ่ายผ่อนปรนแรงลงราว ลูกแมวขาดอากาศหายใจ"ปะ...ปล่อยนะ"ประมุขแดนมารเห็นว่าลี่เหยาเหยาเริ่มไม่ไหว เขาจึงเหวี่ยงกายคนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวลงบนเตียงนอน อย่างไม่สนใจไยดี พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง "เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงหยิบชุดนี้ขึ้นมาใส่""ฉัน.

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 3 อายุสั้นนัก

    ลี่เหยาเหยาสะดุ้งโหยง พยายามกล่อมใจตัวเองต้องไม่มีอะไรเป็นแน่ อาจเป็นกองถ่ายละครแห่งใดแห่งหนึ่ง ทว่าภายในใจของนางกลับร้องตะโกนเสียงดังระงม ลี่เหยาเหยาเธอตายไปนานแล้ว ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่ลี่เหยาเหยาพยายามสลัดความคิดสับสนมึนงงนั้นทิ้งไป พลางแหงนหน้ามองคนร่างสูงที่ยืนขึงดวงตาสีแดงฉานมองมาที่ตน น้ำเสียงที่พยายามเอ่ยออกมาจึงดูกระท่อนกระแท่นอยู่ไม่น้อย "ฉันอยากอาบน้ำ ที่นี่มีห้องน้ำหรือเปล่า" "หืม…" "อะ…เอ่อ คือว่าตอนนี้ฉันตัวเหม็นจริง ๆ นั่นแหละ ดูเหมือนจะหมดสตินอนไม่รู้สึกตัวหลายวัน แค่ขออาบน้ำแป๊บเดียว หลังจากนั้นนายจะสอบสวน หรือจะฆ่าจะแกงก็ตามใจ" ลี่เหยาเหยาพยายามอธิบาย และกดข่มความขลาดกลัวพลางกล่าววาจาละมุนละม่อมแท้จริงแล้วลี่เหยาเหยาอยากรู้ยิ่งนักว่าที่แห่งนี้คือที่ใด อย่างน้อย ๆ หากได้ออกไปสำรวจด้านนอกอาจจะพอหาหนทางหลบหนีออกไปได้คงไม่ใช่พวกขบวนการค้ามนุษย์หรอกนะ"มากความเสียจริง แค่นำโลหิตเจ้ามาแล้วไสหัวออกจากเมืองของข้าก็พอ" ลี่เหยาเหยาพ่นลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย "แล้วจะกลับยังไง ยังไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน"นัยน์ตาคมกริบกวาดมองคนบนเตียงด้วยสีหน้าเคร่งขร

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 2 เจ้าสาวบรรณาการ

    "เอ๋…นี่มันที่ไหนนะ" ลี่เหยาเหยาลืมตาขึ้นท่ามกลางความสลัว ใบหูของเธอคล้ายได้ยินเสียงคลื่นกำลังซัดสาด ร่างกายแข็งทื่อเสียจนไม่อาจขยับ"เราตายแล้วอย่างนั้นเหรอ หรือว่านี่คือโรงพยาบาล" ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ทว่ากลับยังคงมองไม่เห็นสิ่งใด เพียงรู้สึกคล้ายใบหน้าของตนมีบางสิ่งมาบดบังเสียจนน่าอึดอัด "อะไรเนี่ย? เสี่ยวผิง""…""เสี่ยวผิง""…"มีเพียงเสียงเงียบสงัดตอบรับกลับมา ลี่เหยาเหยาจึงถอดใจ พลางพ่นลมหายใจออกเชื่องช้า หลับดวงตาลงอีกหน"สงสัยเรากำลังฝันแหง ปวดหัวจัง นอนต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวตื่นขึ้นอีกทีก็เช้าแล้ว ช่างเถอะ" ด้วยความเหนื่อยล้าและรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ลี่เหยาเหยาจึงผล็อยหลับลงในที่สุด เรือลำเล็กเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางความอนธการโดยรอบ ร่างหญิงสาวนอนทอดกายอยู่ด้านใน ลมหายใจของนางเข้าออกสม่ำเสมอ ห่างออกไปไม่กี่ลี้[1] มีสายตาสองคู่กำลังกวาดมองมายังตัวเรือที่ลอยแล่นอยู่บนผิวน้ำด้วยความสนอกสนใจ "เถียนชีเจ้าเห็นแล้วหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยพลางเพ่งสายตามองไปยังเบื้องหน้าท้องน้ำอันไกลโพ้น "ข้าเห็นแล้ว สายตาของเจ้าช่างไม่ได้เรื่องยิ่งนัก เราไปรับพระชายา

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 1 ลมหายใจสุดท้าย

    เพราะบุตรสาวของอนุผู้นี้ช่างใจกล้าเหนือสตรี ซ้ำยังชอบแต่งกายผิดจารีตประเพณีไม่เคารพกฎเกณฑ์ นางจึงถูกส่งไปสำนึกตนยังชานเมืองทุรกันดาร เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อบ้านเดิมที่หญิงสาวถูกส่งตัวไปเป็นเผ่าบูชาจอมมารวิหคทอง ทุก ๆ สิบปีจะต้องมีการส่งตัวเจ้าสาวบรรณาการให้แก่จอมมารในดินแดนลึกลับ คาดไม่ถึงว่าชะตาเกิดของนางจะขึ้นตรงกับเนตรหายนะของปีที่สิบนี้เข้าอย่างพอดี ทั้งหมู่บ้านล้วนร่ำลือว่า บุตรีเสนาบดีใหญ่และอนุที่สิ้นใจไปแล้วล้วนเป็นที่ชิงชัง แม้นางหายตัวไปคงไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญ ในคืนที่เกิดพายุลมฝนกรรโชกอย่างหนัก ร่างบอบบางกลับนอนขดกายอยู่บนแคร่ไม้เก่าในห้องเก็บฟืน นางเป็นคุณหนูรองลูกของเสนาบดีก็จริงอยู่ ทว่าเมื่อถูกส่งเข้ามาเพื่อสำนึกตนยังสถานที่แห่งนี้ กลับไม่มีผู้ใดสนใจไยดี ซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งจากบ่าวไพร่สารพัด ผู้คนเหล่านี้หาได้เกรงกลัวคุณหนูรองเช่นนาง ซ้ำยังประณามว่านางคือ บุตรีนอกคอกผู้ที่บิดาแสนเกลียดชัง การที่ถูกส่งมายังสถานที่เช่นนั้นหมายถึงว่านางได้โดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ปัง! เสียงบานประตูถูกกระแทกจนเปิดออก นัยน์ตาคู่งามเปิดกว้างมองผ่านความมืดสลัว นางชินและชากับเหตุการณ์เช่นนี้เสีย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status