“เค้กจำป้ายุพินที่อยู่ท้ายซอยหมู่บ้านเราได้ไหม”
“ใช้บ้านหลังสุดท้ายที่เล็กๆ ไหม”
“ใช่บ้านหลังนั้นแหละ”
“ป้ายุพินมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เหรอพี่ครีม”
ป้ายุพินแกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อชลนิภาหรือนิ แล้วนิคนนี้แหละที่เป็นเมียน้อยของคุณไตรภพ”
“อะไรนะ ถ้าเค้กจำไม่ผิดเด็กนั่นน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีเลยนะคะ” เพราะไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทยจึงไม่แน่ใจว่าหลานสาวของป้ายุพินจะอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่เธอจำได้ตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสี่ปีก่อนเด็กคนนั้นยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย
“ใช่ตอนนี้นิกำลังเรียนอยู่ปีสองและแอบคบกับคุณไตรภพแต่ทุกครั้งที่นัดเจอกันก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านของพี่”
“เมียของเขาเลยคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยของเขาใช่ไหมคะ”
“อือก็ประมาณนั้น”
“แล้วทำไมพี่ครีมไม่บอกเขาไปล่ะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อย”
“พี่เคยอธิบายให้เขาฟังหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจสุดท้ายพี่ก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ”
“แล้วจะยอมให้เขาเข้าใจผิดเราไปแบบนี้เหรอคะพี่ครีม”
“เค้กจะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วถ้าพี่ไปบอกเมียเขาว่านิคือเมียน้อยของสามีเขาพี่ก็สงสารเด็กนะตอนนี้ป้ายุพินไม่ได้ทำงานอะไรเลยเพราะแกสุขภาพไม่แข็งแรงแล้วคุณไตรภพก็ช่วยส่งเสียให้นิเรียนและช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านให้ถ้าพี่บอกความจริงไปพี่ก็กลัวว่านิกับป้ายุพินจะลำบาก”
“แต่มันไม่ถูกนะพี่มันเท่ากับพี่ส่งเสริมให้คุณไตรภพเขามีเมียน้อย”
“พี่ไม่ได้ส่งเสริมให้คุณไตรภพเขามีเมียน้อยนะ”
“แต่พี่ก็ไม่ห้ามนี่คะ”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาพี่จะห้ามเขาได้ยังไง เมียเขาเองยังห้ามไม่ได้เลย แล้วเขาก็มีเมียน้อยมาก่อน พี่แค่เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับเมียเขาเท่านั้น เขารวยออกอย่างนั้นแบ่งเงินมาให้นิสักนิดมันก็คงไม่เป็นไรหรอก” เพราะรู้สึกสงสารชลนิภากับป้ายุพินกานต์สิชาเลยไม่บอกกับภรรยาไตรภพว่าภรรยาน้อยของเขาคือใครเธอยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจผิดเพราะคิดว่าตนเองไม่ได้เสียหายอะไรเนื่องจากมันไม่เป็นเรื่องจริงและลูกน้องในร้านของเธอก็รู้ดีว่าใครคือผู้หญิงของคุณไตรภพกันแน่
“แต่เค้กว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ที่เมื่อคืนเขาขับรถตามพี่จนเกิดอุบัติเหตุมันฟังดูน่ากลัว ถ้าเกิดวันหนึ่งเขามาทำอันตรายพี่ที่ร้านขึ้นมาล่ะมันจะเป็นยังไง”
“พี่ว่าคุณเขมิกาเขาคงไม่ทำแบบนั้นหรอกมั้ง”
“ผู้หญิงเวลาโกรธหรือหึงมันน่ากลัวมากนะพี่ครีม เค้กว่าเราบอกความจริงเรื่องนี้กับเขาดีกว่า” กานต์ชิสากลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทำอันตรายพี่สาว
“พี่ก็เคยบอกคุณเขมิกาไปแล้ว แต่เข้าก็ไม่เชื่อสุดท้ายก็เป็นเราที่เหนื่อยเปล่า”
“แต่เค้กว่าเรื่องนี้เราต้องให้คุณไตรภพเขายืนยันด้วยนะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อยของเขาเค้กกลัวว่าเขาจะมาทำอันตรายพี่ที่นี่”
“ไม่มีใครทำอันตรายพี่ได้หรอกที่ร้านพี่ก็มีเด็กเยอะแยะอีกทั้งข้างร้านพี่ก็มีแต่คนรู้จักครีมไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“ก็มันน่าเป็นห่วงนี่ ยิ่งตอนนี้สามีเขาประสบอุบัติเหตุแบบนี้เค้กว่าเขาน่าจะโกรธพี่มากๆ”
คำพูดของกานต์ชิสาทำให้กานต์สิชาเริ่มคิดตามเพราะครั้งนี้คุณเขมิกาดูจะโกรธและโมโหมากๆ และเธอก็อาจจะมาทำร้ายถึงที่นี่ก็ได้ ที่ผ่านมากานต์สิชาพยายามไม่สนใจเรื่องนี้เพราะภรรยาของคุณไตรภพไม่เคยเข้ามาวุ่นวายแต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะโกรธคุณไตรภพเอามากๆ
“เค้กคิดว่าพี่ควรทำยังไงล่ะ”
“พี่ครีมเค้กว่าเราต้องให้คุณไตรภพบอกความจริง”
“แต่เขายังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล”
“เราก็รอให้เขาฟื้นแล้วค่อยไปเยี่ยมเขาดีไหมเค้กจะไปด้วย”
“เอาแบบนั้นก็ได้แต่ ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าอาการของคุณไตรภพเป็นยังไงบ้าง พี่ว่าเราลองโทรไปถามโรงพยาบาลดีไหม” แฝดคนพี่หยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาจากนั้นก็กดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่เธอได้มาจากเพจของโรงพยาบาลที่คุณไตรภพนอนรักษาตัวอยู่
แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้ข้อมูลกับคุณเจ็บได้เพราะถือว่ามันเป็นสิทธิของผู้ป่วย
“เอายังไงดีล่ะเราไม่รู้อาการของคุณไตรภพเลย”
“เดี๋ยวเค้กไปเยี่ยมเขาให้ก็ได้ พี่ครีมรออยู่ที่นี่เดี๋ยวถ้าได้เรื่องแล้วเค้กจะโทรมาบอก”
“ไม่ต้องรีบไปก็ได้พี่เป็นห่วงร้าน”
“พี่ครีมก็โทรสั่งเด็กที่ร้านซิว่าวันนี้จะให้พวกเขาทำอะไรบ้าง”
“ขอบใจมากนะเค้ก ถ้าเค้กไม่กลับมาพี่คงแย่แน่ เรื่องที่เกิดอุบัติเหตุกับพี่เค้กไม่ต้องบอกพ่อนะพี่ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง”
“ก็ได้ เค้กจะไม่บอกพ่อ”
“แล้วเรื่องงานของเค้กล่ะเป็นยังไงบ้างทางโรงพยาบาลเขาให้ไปเริ่มงานเมื่อไหร่”
“จริงๆ เขาก็อยากให้เค้กเข้าไปเริ่มงานเร็วที่สุดนั่นแหละ แต่เค้กเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยก็เลยขอเวลาเขาอีกหนึ่งเดือน”
“แล้วระหว่างนี้เค้กจะทำอะไรล่ะ”
“เค้กว่าจะกินแล้วก็นอนจากนั้นก็เที่ยวพี่ครีมไปเที่ยวทะเลกันนะ”
“รอให้พี่หายดีก่อนนะ เพราะไปเที่ยวทะเลตอนนี้พี่ก็ลงน้ำไม่ได้ต้องรอให้แผลหายก่อน”
“ไม่เป็นไรช่วงนี้เดี๋ยวเค้กก็ไปเรียนรู้งานที่ร้านของพี่ก่อนก็ได้พี่จะได้พักบ้าง”
“พี่ก็คงพักแค่วันนี้แค่วันเดียวแหละงานที่ร้านไม่ได้หนักหนาอะไรได้ไปเห็นลูกน้องทำงานยังดีกว่านั่งอยู่ที่บ้าน”
“พี่ครีมนี่ขยันจริงๆ เลยนะเคยปิดร้านกับเขาบ้างไหม”
“ปิดสิแต่ไม่บ่อยหรอก” เธอบอกน้องสาวแล้วยิ้ม
กานต์สิชารับช่วงร้านเบเกอรี่มาจากผู้เป็นมารดา โดยย้ายจากร้านเดิมมาอีกที่บริเวณตึกแถวหน้าหมู่บ้านซึ่งจำหน่ายทั้งเบเกอรี่เครื่องดื่มรวมถึงรับจัดเบรคต่างๆ เดิมทีเธอก็ทำคนเดียวแต่พอทำไปสักพักลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นบางคนก็สั่งขนมที่ร้านของเธอไปลงที่ร้านกาแฟของตัวเอง หญิงสาวก็เลยรับลูกน้องเพิ่มมาตอนนี้ในร้านมีพนักงานทั้งหมดสามคนถ้าหากวันไหนเธอไม่ว่างหรือไม่เข้าร้านทั้งสามคนก็สามารถทำงานกันได้มันเลยทำให้กานต์สิชาไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่
เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหนกานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอกเธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”“ค่ะ”“แล้วเ
กานต์ชิสากลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายซึ่งตอนนี้กานต์สิชาแฝดคนเป็นพี่ก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน“เป็นยังไงบ้างเค้กคุณไตรภพฟื้นหรือยัง”“ยังเลย เค้กไปเจอเมียเขาด้วยนคะ เขาคิดว่าเค้กคือพี่”“อะไรนะ แล้วเขาว่าอะไรเค้กหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่เขาบอกว่าห้ามเราไปเยี่ยม ถ้าหากเราไม่เชื่อและยังไปเยี่ยมสามีเขาอีก เขาอาจจะส่งคนมาพังร้านก็ได้ ทำไมคุณเขมิกาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะพี่ครีม”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติเขาก็ไม่เคยมาวุ่นวายเลย”“หรือเป็นเพราะอาการสามีเขาก็ค่อนข้างหนัก”“หนักเหรอแต่เมื่อวานพยาบาลบอกว่ามีแค่ขาหักเองนะ”“อือ เค้กก็ได้ยินแบบนั้น แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องไอซียู เมียเขาบอกว่าเขามีเลือดออกในสมองด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นมาตอนไหนแล้วจะจำอะไรได้หรือเปล่า”“พี่ไม่คิดเลยว่าอาการเขาจะหนักขนาดนั้น”“เค้กก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเกิดสามีเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆเค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ เขายิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพี่อยู่”“จะว่าเป็นความผิดของพี่ยังไง เขาเองแหละที่ขับรถไล่เบียดจนคุณไตรภพต้องขับรถหนี”“แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อล่ะ ถ้าคุณไตรภพเขาไม่ฟื้นและมาบอกความจริงกับเมียของเขา เค้กว่าพี่ครีมแย่แน
เขมณัฏฐ์งัวเงียเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อน้องสาวขึ้นมาปลุกตั้งแต่เช้า“มีอะไรแต่เช้าหรือว่านายไตรฟื้นแล้ว”“ไม่ใช่ค่ะ พี่ไตรยังไม่ฟื้นแต่เมื่อกี้พยาบาลที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่ามีผู้หญิงจะพยายามเข้าไปเยี่ยมพี่ไตร เขมว่าพี่เข้มต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เขมนะคะ ถ้าเธอยังไปวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนั้นมันไม่ดีเลย”“เดี๋ยววันนี้พี่จะเรียกเธอมาคุยอีกที จะพูดกับเธอดีๆ”“ผู้หญิงแบบนี้พูดดีๆ ด้วยไม่ได้หรอกค่ะ พี่ต้องพาเธอไปอยู่สุโขทัย”“ถ้าพี่กลับไปอยู่สุโขทัยแล้วเขมจะอยู่คนเดียวยังไงยิ่งช่วงนี้ท้องอยู่ด้วยนะ”“เขมอยู่คนเดียวที่ไหนที่บ้านก็มีเด็กรับใช้อยู่”“แต่พี่เป็นห่วงนะ”“ถ้าพี่เป็นห่วงเขมจริงๆ พี่ก็ต้องทำให้เขมสบายใจ นะคะพี่เข้มช่วยเขม ช่วยกันเธอออกไปจากชีวิตของพี่ไตรช่วงนี้ก่อนได้ไหมคะ เขมไม่อยากเครียด แค่เรื่องที่พี่ไตรยังไม่ฟื้นเขมก็เครียดมากอยู่แล้ว ถ้ายังจะต้องมาสู้รบตบมือกับเมียน้อยของพี่ไตรอีกเขมคงแย่แน่ๆ” เขมิกาพยายามโน้มน้าวพี่ชายอย่างเพราะเธอไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้กับไตรภพโดยเฉพาะช่วงที่เขากำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเจอผู้หญิงคนอื่นก่
“ผมคงไม่หลงกลคุณเหมือนนายไตรหรอก ที่จะจ้างให้คุณไปอยู่ด้วยก็แค่ชั่วคราวพอนายไตรฟื้นเมื่อไหร่ก็เลิกจ้างตกลงไหมล่ะ”“ฉันว่าคุณกับน้องของคุณระแวงเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวมองว่ามันไร้สาระมากเลยแกล้งเรียกเงินเขาไปมากถึงห้าหมื่น“อะไรที่ทำแล้วน้องผมสบายใจผมก็จะทำตกลงคุณจะไปกับผมไหมล่ะ”“ถ้าคุณให้ฉันห้าหมื่นฉันก็ตกลง”ที่กานต์ชิสายอมรับข้อเสนอของเขมณัฏฐ์ไปเพราะกลัวว่าชายหนุ่มและน้องสาวจะไปยุ่งวุ่นวายกับกานต์สิชาที่ร้านเบเกอรี่ แต่ถ้าหากหญิงสาวยอมไปกับผู้ชายคนนี้พี่สาวของเธอก็จะได้เปิดร้านตามปกติและตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรการไปอยู่กับเขาระหว่างที่รอให้ไตรภพฟื้นมันก็คงไม่น่าเสียหายเท่าไหร่อีกอย่างกานต์ชิสาก็รู้สึกว่าเขาจะเป็นรักแรกพบสำหรับเธอจังหวัดที่เขาบอกน่าจะอยู่ทางภาคเหนือซึ่งถือเธอจะรู้มาว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างเยอะมาก เธอคงสนุกมากแน่ๆ ถ้าจะได้ไปอยู่ที่นั่นก็จะได้ไปเที่ยวโดยมีเงินเดือนใช้ด้วย“อย่าคิดช้านะคะ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ” หญิงสาวสาวพูดกระตุ้นเพราะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นต่อ“ตกลงก็ได้ห้าหมื่นพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณที่ร้านเบเกอรี่” เขารีบตกลงเพราะกลัวว่า
เขมณัฏฐ์มาจอดรถรับกานต์ชิสาที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเขามองกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วยอยู่ความสงสัยและเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถแล้วก็อดถามไม่ได้“ทำไมมีกระเป๋าเป้แค่ใบเดียวล่ะ”“เดี๋ยวฉันค่อยไปหาซื้อข้างหน้าก็ได้เพราะถ้าฉันเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคนอื่นจะได้สงสัยกันพอดีว่าฉันจะไปไหน”“แต่จังหวะที่เราจะไปมันไม่มีห้างใหญ่ๆ เหมือนในกรุงเทพบอกนะ ถ้าอยากจะมาซื้อก็ต้องเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่ง”“ถ้างั้นคุณก็พาฉันแวะซื้อก่อนกลับสิ”“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกนะ เราออกจากที่นี่บ่ายมากแล้วไปถึงก็น่าจะดึก ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนสักเท่าไหร่”“ฉันนึกว่าเราจะนั่งเครื่องไป”“จริงๆ แล้วไปสุโขทัยมันก็มีเที่ยวบินอยู่แล้วแต่บังเอิญว่าผมขับรถมาน่ะคุณก็เลยต้องนั่งรถกลับกับผมหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ผมว่างผมจะพาคุณไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แถวนั้นก็แล้วกันนะ”“ได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันสั่งออนไลน์เอาก็ได้ คุณช่วยแวะร้านสะดวกซื้อให้ฉันหน่อยสิฉันว่าคงต้องตุนเสบียงแล้วแหละ นั่งรถหลายชั่วโมงแบบนี้”เขมณัฏฐ์พยักหน้าจากนั้นเขาก็ขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง“คุณจะลงไปกับฉันไหม”“ไม่ล่ะ ผมให้เวลาคุณ 10 นาที
เพราะเขมณัฏฐ์ขับรถมาด้วยความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนดอีกทั้งยังแวะทานอาหารและเข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมาสุโขทัยก็เลยใช้เวลานานกว่าปกติเกือบ 2 ชั่วโมงเขาพากานต์ชิสามาถึงบ้านของตนเองในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งตอนนี้ทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิทแต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ ไฟทุกดวงก็สว่างจ้าเพราะเขาทำระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติบ้านของชายหนุ่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นหญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก บริเวณห้องรับแขกถูกจะเอาไว้อย่างเรียบร้อย ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องครัวที่มีโต๊ะสำหรับทานอาหารขนาดใหญ่อยู่กลางห้องพื้นอีกด้านยกสูงขึ้นไปบริเวณจากบริเวณห้องรับแขกซึ่งตอนนี้เขมณัฏฐ์พาเธอเดินขึ้นบันไดมาเพียงห้าขั้นก็ถึงห้องนอน“เธอนอนห้องนี้ไปก่อนนะ ฉันให้คนมาทำความสะอาดแล้วหวังว่าคงอยู่ได้” เขาเปิดประตูห้องนอนห้องหนึ่งให้กับหญิงสาว“ฉันกินง่ายอยู่ง่ายไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตอนนี้มันดึกมากแล้วหญิงสาวรีบอาบน้ำและล้มตัวลงนอนแต่ก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักเพราะห้องที่เขาให้เธออยู่นี้มันเป็นห้องที่มีแค่พัดลมถึงแม้อากาศทางภาคเหนือจะไม่ได้ร้อนมา
กานต์ชิสาเดินตามเขมณัฏฐ์มายังท่าข้าวและโรงสีที่อยู่ติดกับรั้วบ้านซึ่งตอนนี้มีรถบรรทุกข้าวเปลือกมารออยู่หลายสิบคัน คนงานหลายคนมองมาที่หญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน“ข้าวเปลือกพวกนั้นคุณจะเอาไปทำอะไรต่อคะ”“เอาไปสีเป็นข้าวสารจากนั้นก็บรรจุใส่กระสอบแล้วส่งขาย หรือบางครั้งก็ส่งไปให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีหนึ่ง”“แล้วคนที่เขาเอามาขายเป็นชาวนาเหรอคะ”“บางครั้งก็ชาวนาเอามาขายโดยตรงแต่บางครั้งก็เป็นตัวแทนที่เขาจะรวมกลุ่มกันเอามาขายให้” เขมณัฏฐ์อธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาเธอเข้ายังห้องกระจกที่อยู่ด้านข้างซึ่งเขามักเรียกที่นี่ว่าออฟฟิศ“เข้ามาสิผมจะแนะนำให้รู้จักพนักงานที่อยู่ในออฟฟิศ”ชายหนุ่มเปิดประตูห้องกระจกออกแล้วในนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนด้วยกัน เขมณัฏฐ์แนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีชื่อศิริรัตน์หรือพี่รัตน์และผู้ช่วยของเธออีกสองคนคือสายพินหรือหญิง ส่วนคนสุดท้ายที่ดูดเด็กกว่าคนอื่นชื่อกุ้งหรือรัตนาหลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับทั้งสามคนแล้วเขาก็ขอตัวออกไปทำงานด้านนอก กานต์ชิสาขอตามออกไปดูการทำงานของเขาด้วยระหว่างที่นี้หญิงสา
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนรถยนต์สองคันขับเบียดกันมาบนถนนเส้นหนึ่งก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางรถที่ขับเบียดมานั้นไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่ขับเลยไปแล้ววนกลับมาอีกครั้งคนในรถรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุกับกู้ภัยและรอจนกระทั่งได้ยินเสียงไซเรนก็รีบขับออกไปจากจุดเกิดเหตุเสียงโทรศัพท์ของกานต์ชิสาหญิงสาววัย 24 ปีดังขึ้นในเวลา 02.15 นาฬิกา เจ้าของโทรศัพท์กวาดมือไปบนเตียงนอนเพื่อหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ตรงไหนบนเตียงนอนกว้าง“ใครโทรมาเวลานี้นะ” หญิงสาวเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงไม่ยอมหยุด ถ้าปลายสายที่โทรมาไม่มีเรื่องสำคัญละก็ได้เห็นดีกันแน่“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีใช่เบอร์ของคุณกานต์ชิสาไหมคะ”“ใช่ค่ะ”“ดิฉันเป็นพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินจากโรงพยาบาล xxx ค่ะ”“โรงพยาบาลเหรอคะ” กานต์ชิสามองนาฬิกาดิจิทัลที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ดึกขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะโทรมาหาเธอทำไมกันหรือว่าจะมีใครเป็นอะไร“ใช่ค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้คุณกานต์สิชาได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วเธอให้เราโทรมาแจ้งคุณค่ะ”“แล้วพี่สาวของฉันเป็นอะไร
กานต์ชิสาเดินตามเขมณัฏฐ์มายังท่าข้าวและโรงสีที่อยู่ติดกับรั้วบ้านซึ่งตอนนี้มีรถบรรทุกข้าวเปลือกมารออยู่หลายสิบคัน คนงานหลายคนมองมาที่หญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน“ข้าวเปลือกพวกนั้นคุณจะเอาไปทำอะไรต่อคะ”“เอาไปสีเป็นข้าวสารจากนั้นก็บรรจุใส่กระสอบแล้วส่งขาย หรือบางครั้งก็ส่งไปให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีหนึ่ง”“แล้วคนที่เขาเอามาขายเป็นชาวนาเหรอคะ”“บางครั้งก็ชาวนาเอามาขายโดยตรงแต่บางครั้งก็เป็นตัวแทนที่เขาจะรวมกลุ่มกันเอามาขายให้” เขมณัฏฐ์อธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาเธอเข้ายังห้องกระจกที่อยู่ด้านข้างซึ่งเขามักเรียกที่นี่ว่าออฟฟิศ“เข้ามาสิผมจะแนะนำให้รู้จักพนักงานที่อยู่ในออฟฟิศ”ชายหนุ่มเปิดประตูห้องกระจกออกแล้วในนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนด้วยกัน เขมณัฏฐ์แนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีชื่อศิริรัตน์หรือพี่รัตน์และผู้ช่วยของเธออีกสองคนคือสายพินหรือหญิง ส่วนคนสุดท้ายที่ดูดเด็กกว่าคนอื่นชื่อกุ้งหรือรัตนาหลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับทั้งสามคนแล้วเขาก็ขอตัวออกไปทำงานด้านนอก กานต์ชิสาขอตามออกไปดูการทำงานของเขาด้วยระหว่างที่นี้หญิงสา
เพราะเขมณัฏฐ์ขับรถมาด้วยความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนดอีกทั้งยังแวะทานอาหารและเข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมาสุโขทัยก็เลยใช้เวลานานกว่าปกติเกือบ 2 ชั่วโมงเขาพากานต์ชิสามาถึงบ้านของตนเองในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งตอนนี้ทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิทแต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ ไฟทุกดวงก็สว่างจ้าเพราะเขาทำระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติบ้านของชายหนุ่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นหญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก บริเวณห้องรับแขกถูกจะเอาไว้อย่างเรียบร้อย ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องครัวที่มีโต๊ะสำหรับทานอาหารขนาดใหญ่อยู่กลางห้องพื้นอีกด้านยกสูงขึ้นไปบริเวณจากบริเวณห้องรับแขกซึ่งตอนนี้เขมณัฏฐ์พาเธอเดินขึ้นบันไดมาเพียงห้าขั้นก็ถึงห้องนอน“เธอนอนห้องนี้ไปก่อนนะ ฉันให้คนมาทำความสะอาดแล้วหวังว่าคงอยู่ได้” เขาเปิดประตูห้องนอนห้องหนึ่งให้กับหญิงสาว“ฉันกินง่ายอยู่ง่ายไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตอนนี้มันดึกมากแล้วหญิงสาวรีบอาบน้ำและล้มตัวลงนอนแต่ก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักเพราะห้องที่เขาให้เธออยู่นี้มันเป็นห้องที่มีแค่พัดลมถึงแม้อากาศทางภาคเหนือจะไม่ได้ร้อนมา
เขมณัฏฐ์มาจอดรถรับกานต์ชิสาที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเขามองกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วยอยู่ความสงสัยและเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถแล้วก็อดถามไม่ได้“ทำไมมีกระเป๋าเป้แค่ใบเดียวล่ะ”“เดี๋ยวฉันค่อยไปหาซื้อข้างหน้าก็ได้เพราะถ้าฉันเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคนอื่นจะได้สงสัยกันพอดีว่าฉันจะไปไหน”“แต่จังหวะที่เราจะไปมันไม่มีห้างใหญ่ๆ เหมือนในกรุงเทพบอกนะ ถ้าอยากจะมาซื้อก็ต้องเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่ง”“ถ้างั้นคุณก็พาฉันแวะซื้อก่อนกลับสิ”“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกนะ เราออกจากที่นี่บ่ายมากแล้วไปถึงก็น่าจะดึก ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนสักเท่าไหร่”“ฉันนึกว่าเราจะนั่งเครื่องไป”“จริงๆ แล้วไปสุโขทัยมันก็มีเที่ยวบินอยู่แล้วแต่บังเอิญว่าผมขับรถมาน่ะคุณก็เลยต้องนั่งรถกลับกับผมหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ผมว่างผมจะพาคุณไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แถวนั้นก็แล้วกันนะ”“ได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันสั่งออนไลน์เอาก็ได้ คุณช่วยแวะร้านสะดวกซื้อให้ฉันหน่อยสิฉันว่าคงต้องตุนเสบียงแล้วแหละ นั่งรถหลายชั่วโมงแบบนี้”เขมณัฏฐ์พยักหน้าจากนั้นเขาก็ขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง“คุณจะลงไปกับฉันไหม”“ไม่ล่ะ ผมให้เวลาคุณ 10 นาที
“ผมคงไม่หลงกลคุณเหมือนนายไตรหรอก ที่จะจ้างให้คุณไปอยู่ด้วยก็แค่ชั่วคราวพอนายไตรฟื้นเมื่อไหร่ก็เลิกจ้างตกลงไหมล่ะ”“ฉันว่าคุณกับน้องของคุณระแวงเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวมองว่ามันไร้สาระมากเลยแกล้งเรียกเงินเขาไปมากถึงห้าหมื่น“อะไรที่ทำแล้วน้องผมสบายใจผมก็จะทำตกลงคุณจะไปกับผมไหมล่ะ”“ถ้าคุณให้ฉันห้าหมื่นฉันก็ตกลง”ที่กานต์ชิสายอมรับข้อเสนอของเขมณัฏฐ์ไปเพราะกลัวว่าชายหนุ่มและน้องสาวจะไปยุ่งวุ่นวายกับกานต์สิชาที่ร้านเบเกอรี่ แต่ถ้าหากหญิงสาวยอมไปกับผู้ชายคนนี้พี่สาวของเธอก็จะได้เปิดร้านตามปกติและตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรการไปอยู่กับเขาระหว่างที่รอให้ไตรภพฟื้นมันก็คงไม่น่าเสียหายเท่าไหร่อีกอย่างกานต์ชิสาก็รู้สึกว่าเขาจะเป็นรักแรกพบสำหรับเธอจังหวัดที่เขาบอกน่าจะอยู่ทางภาคเหนือซึ่งถือเธอจะรู้มาว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างเยอะมาก เธอคงสนุกมากแน่ๆ ถ้าจะได้ไปอยู่ที่นั่นก็จะได้ไปเที่ยวโดยมีเงินเดือนใช้ด้วย“อย่าคิดช้านะคะ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ” หญิงสาวสาวพูดกระตุ้นเพราะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นต่อ“ตกลงก็ได้ห้าหมื่นพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณที่ร้านเบเกอรี่” เขารีบตกลงเพราะกลัวว่า
เขมณัฏฐ์งัวเงียเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อน้องสาวขึ้นมาปลุกตั้งแต่เช้า“มีอะไรแต่เช้าหรือว่านายไตรฟื้นแล้ว”“ไม่ใช่ค่ะ พี่ไตรยังไม่ฟื้นแต่เมื่อกี้พยาบาลที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่ามีผู้หญิงจะพยายามเข้าไปเยี่ยมพี่ไตร เขมว่าพี่เข้มต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เขมนะคะ ถ้าเธอยังไปวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนั้นมันไม่ดีเลย”“เดี๋ยววันนี้พี่จะเรียกเธอมาคุยอีกที จะพูดกับเธอดีๆ”“ผู้หญิงแบบนี้พูดดีๆ ด้วยไม่ได้หรอกค่ะ พี่ต้องพาเธอไปอยู่สุโขทัย”“ถ้าพี่กลับไปอยู่สุโขทัยแล้วเขมจะอยู่คนเดียวยังไงยิ่งช่วงนี้ท้องอยู่ด้วยนะ”“เขมอยู่คนเดียวที่ไหนที่บ้านก็มีเด็กรับใช้อยู่”“แต่พี่เป็นห่วงนะ”“ถ้าพี่เป็นห่วงเขมจริงๆ พี่ก็ต้องทำให้เขมสบายใจ นะคะพี่เข้มช่วยเขม ช่วยกันเธอออกไปจากชีวิตของพี่ไตรช่วงนี้ก่อนได้ไหมคะ เขมไม่อยากเครียด แค่เรื่องที่พี่ไตรยังไม่ฟื้นเขมก็เครียดมากอยู่แล้ว ถ้ายังจะต้องมาสู้รบตบมือกับเมียน้อยของพี่ไตรอีกเขมคงแย่แน่ๆ” เขมิกาพยายามโน้มน้าวพี่ชายอย่างเพราะเธอไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้กับไตรภพโดยเฉพาะช่วงที่เขากำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเจอผู้หญิงคนอื่นก่
กานต์ชิสากลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายซึ่งตอนนี้กานต์สิชาแฝดคนเป็นพี่ก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน“เป็นยังไงบ้างเค้กคุณไตรภพฟื้นหรือยัง”“ยังเลย เค้กไปเจอเมียเขาด้วยนคะ เขาคิดว่าเค้กคือพี่”“อะไรนะ แล้วเขาว่าอะไรเค้กหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่เขาบอกว่าห้ามเราไปเยี่ยม ถ้าหากเราไม่เชื่อและยังไปเยี่ยมสามีเขาอีก เขาอาจจะส่งคนมาพังร้านก็ได้ ทำไมคุณเขมิกาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะพี่ครีม”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติเขาก็ไม่เคยมาวุ่นวายเลย”“หรือเป็นเพราะอาการสามีเขาก็ค่อนข้างหนัก”“หนักเหรอแต่เมื่อวานพยาบาลบอกว่ามีแค่ขาหักเองนะ”“อือ เค้กก็ได้ยินแบบนั้น แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องไอซียู เมียเขาบอกว่าเขามีเลือดออกในสมองด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นมาตอนไหนแล้วจะจำอะไรได้หรือเปล่า”“พี่ไม่คิดเลยว่าอาการเขาจะหนักขนาดนั้น”“เค้กก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเกิดสามีเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆเค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ เขายิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพี่อยู่”“จะว่าเป็นความผิดของพี่ยังไง เขาเองแหละที่ขับรถไล่เบียดจนคุณไตรภพต้องขับรถหนี”“แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อล่ะ ถ้าคุณไตรภพเขาไม่ฟื้นและมาบอกความจริงกับเมียของเขา เค้กว่าพี่ครีมแย่แน
เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหนกานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอกเธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”“ค่ะ”“แล้วเ
“เค้กจำป้ายุพินที่อยู่ท้ายซอยหมู่บ้านเราได้ไหม”“ใช้บ้านหลังสุดท้ายที่เล็กๆ ไหม”“ใช่บ้านหลังนั้นแหละ”“ป้ายุพินมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เหรอพี่ครีม”ป้ายุพินแกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อชลนิภาหรือนิ แล้วนิคนนี้แหละที่เป็นเมียน้อยของคุณไตรภพ”“อะไรนะ ถ้าเค้กจำไม่ผิดเด็กนั่นน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีเลยนะคะ” เพราะไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทยจึงไม่แน่ใจว่าหลานสาวของป้ายุพินจะอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่เธอจำได้ตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสี่ปีก่อนเด็กคนนั้นยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย“ใช่ตอนนี้นิกำลังเรียนอยู่ปีสองและแอบคบกับคุณไตรภพแต่ทุกครั้งที่นัดเจอกันก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านของพี่”“เมียของเขาเลยคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยของเขาใช่ไหมคะ”“อือก็ประมาณนั้น”“แล้วทำไมพี่ครีมไม่บอกเขาไปล่ะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อย”“พี่เคยอธิบายให้เขาฟังหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจสุดท้ายพี่ก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ”“แล้วจะยอมให้เขาเข้าใจผิดเราไปแบบนี้เหรอคะพี่ครีม”“เค้กจะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วถ้าพี่ไปบอกเมียเขาว่านิคือเมียน้อยของสามีเขาพี่ก็สงสารเด็กนะตอนนี้ป้ายุพินไม่ได้ทำงานอะไรเล
“พี่ครีมบอกเค้กมานะว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน” กานต์ชิสาคาดคั้นพี่สาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน“เค้กพี่ยืนยันอีกครั้งว่าพี่ได้เป็นเมียน้อยเขาอย่างที่เค้กคิดหรอกนะ พรุ่งนี้พี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม”“ก็ได้ แต่เค้กว่าพี่อาบน้ำก่อนดีไหม แล้วพี่มียาที่ต้องกินหรือเปล่า”“เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้”เมื่อพี่สาวเข้าห้องนอนไปแล้วกานต์ชิสาก็กลับมาห้องนอนของตนเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีห้าแล้วหญิงสาวเลยไม่นอนต่อ หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นกับเสื้อกล้ามเพื่อจะออกไปวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านปกติแล้วตอนอยู่ที่อังกฤษกานต์ชิสาจะออกกำลังกายทุกเช้าแต่กลับมาเมืองไทยได้หนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่มีโอกาสออกกำลังกายสักที ในเมื่อวันนี้ยังไงก็นอนไม่หลับเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปออกกำลังกายหลังจากวิ่งจนเหงื่อชุ่มก็กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เธอกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปตลาดหน้าหมู่บ้านซื้อโจ๊กมาให้พี่สาวเพราะเธออาจจะต้องมียาทานหลังอาหารส่วนตัวเองนั้นกลับมาชงกาแฟทานกับขนมปังที่อยู่ในตู้เธอดื่มกาแฟและทานขนมจนกระทั่งแปดโมงครึ่งพี่สาวก็ยังไม่ออกมาซึ่