เขมณัฏฐ์มาจอดรถรับกานต์ชิสาที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเขามองกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วยอยู่ความสงสัยและเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถแล้วก็อดถามไม่ได้
“ทำไมมีกระเป๋าเป้แค่ใบเดียวล่ะ”
“เดี๋ยวฉันค่อยไปหาซื้อข้างหน้าก็ได้เพราะถ้าฉันเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคนอื่นจะได้สงสัยกันพอดีว่าฉันจะไปไหน”
“แต่จังหวะที่เราจะไปมันไม่มีห้างใหญ่ๆ เหมือนในกรุงเทพบอกนะ ถ้าอยากจะมาซื้อก็ต้องเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่ง”
“ถ้างั้นคุณก็พาฉันแวะซื้อก่อนกลับสิ”
“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกนะ เราออกจากที่นี่บ่ายมากแล้วไปถึงก็น่าจะดึก ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนสักเท่าไหร่”
“ฉันนึกว่าเราจะนั่งเครื่องไป”
“จริงๆ แล้วไปสุโขทัยมันก็มีเที่ยวบินอยู่แล้วแต่บังเอิญว่าผมขับรถมาน่ะคุณก็เลยต้องนั่งรถกลับกับผมหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ผมว่างผมจะพาคุณไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แถวนั้นก็แล้วกันนะ”
“ได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันสั่งออนไลน์เอาก็ได้ คุณช่วยแวะร้านสะดวกซื้อให้ฉันหน่อยสิฉันว่าคงต้องตุนเสบียงแล้วแหละ นั่งรถหลายชั่วโมงแบบนี้”
เขมณัฏฐ์พยักหน้าจากนั้นเขาก็ขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
“คุณจะลงไปกับฉันไหม”
“ไม่ล่ะ ผมให้เวลาคุณ 10 นาทีพอนะ”
“คุณจะเอาอะไรหรือเปล่า”
“ไม่ละคุณซื้อแค่ของคุณก็พอ”
กานต์ชิสาลงจากรถและเลือกซื้อขนมมาอยู่หลายอย่างก่อนจะกลับขึ้นรถมาอีกพร้อมกับส่งกาแฟให้กับชายหนุ่ม
“ฉันซื้อกาแฟมาให้ด้วย คุณต้องขับรถอีกไกลคงง่วงแน่ๆ”
“ขอบใจนะ”
เขาเจอกับกานต์ชิสาสามครั้งและทุกครั้งทั้งสองก็จะดื่มกาแฟด้วยกันละนับว่าเธอเป็นคนช่างสังเกตว่าเขาดื่มกาแฟแบบไหน ปกติแล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบดื่มอเมริกาโน่เย็นแต่สำหรับเขาชอบดื่มคาปูชิโน่เอามากๆ และเธอก็ซื้อมาให้เขาตรงกับสิ่งที่เขาชอบด้วย
เมื่อขับรถออกมาได้สักพักหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หยิบขนมก๊อบแก๊บขึ้นมาทาน เขามองด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่เพราะไม่ชอบให้ใครทานขนมบนรถแบบนี้ เนื่องจากเศษของมันจะตกไว้ตามเบาะและมันจะลำบากในการความสะอาด แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะระยะทางที่จะต้องใช้เดินทางร่วมกันมันหลายชั่วโมงถ้าให้เธอนั่งอยู่เฉยๆ เธอก็น่าจะง่วงและเขาก็อาจจะง่วงตามก็เป็นได้
“กินขนมด้วยกันไหม”
“ไม่ล่ะผมไม่ชอบกินขนมพวกนี้”
“ฉันขอโทษนะ”
“ขอโทษผมทำไมล่ะ”
“ฉันรู้หรอกน่าว่าคุณไม่ชอบให้ใครเอาขนมขึ้นมากินบนรถใช่ไหมล่ะ แต่เดินทางไกลแบบนี้ให้ฉันนั่งอยู่เฉยๆ คงได้ง่วงกันพอดี”
“คุณจะหลับก็ได้เดี๋ยวถึงแล้วผมจะบอก”
“ฉันไม่ชอบหลับเวลานั่งรถหรอกนะโดยเฉพาะการเดินทางไปต่างจังหวัด”
“ทำไมล่ะ”
“ก็เพราะ.....”หญิงสาวเงียบไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ฉันชอบดูวิวสองข้างทางน่ะ” กานต์ชิสาเกือบจะหลุดตอบแล้วว่าเธอไม่เคยไปจังหวัดสุโขทัยมาก่อนก็อยากจะดูวิวและมันก็นานมากๆ แล้วที่เธอไม่ได้เที่ยวในเมืองไทย
เมื่อขับมาถึงจังหวัดอยุธยาเขมณัฏฐ์ก็ชะลอรถและจอดบริเวณข้างทาง
“คุณจะซื้อขนมนั่นเหรอคะ”
“เขาเรียกขนมสายไหมคุณเคยกินหรือเปล่า”
“เคยสิแต่ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะรสชาติมันหวานมากๆไม่คิดเลยว่าผู้ชายอย่างคุณจะชอบกินขนมแบบนี้”
“ผมก็ไม่ได้ชอบหรอกแต่จะซื้อไปฝากคนอื่นน่ะ รออยู่ในรถแล้วกันนะ” ชายหนุ่มลงไปซื้อขนมสายไหมจากนั้นก็เอาใส่ไว้ในหลังรถก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเจ็ดที่นั่งมุ่งหน้าสู่ปลายทางอีกครั้ง
เขามาถึงจังหวัดชัยนาทในเวลาเย็นพอดี
“คุณหิวไหมผมว่าจะจอดรถกินข้าวแถวชัยนาท ตรงนี้มีร้านอาหารเยอะเลย”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันไม่เคยมากินอาหารแถวนี้เลยส่วนใหญ่ก็จะอยู่แต่ในกรุงเทพ”
“คุณกินได้ทุกอย่างหรือเปล่า”
“ค่ะ”
เขาจอดรถที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเวลากลับจากกรุงเทพก็มักจะมาทานอาหารที่นี่ทุกครั้ง
“อยากกินอะไรก็สั่งเลย”
“คุณสั่งให้ฉันก็แล้วกันนะ ฉันกินได้ทุกอย่างแต่ขอเผ็ดกลางได้ไหม เผ็ดมากฉันไม่ไหวน่ะ มันจะปวดท้องเอา”
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วทั้งสองก็กลับมาขึ้นรถและมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุโขทัยอีกครั้ง
“คุณจะเข้าห้องน้ำหน่อยไหม เดี๋ยวจะถึงปั๊มข้างหน้าแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ”
ชายหนุ่มจอดรถเติมน้ำมันจากนั้นก็ขับไปจอดบริเวณหน้าห้องน้ำเขาให้เวลาเธอยืดเส้นยืดสายอยู่พักใหญ่ก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถหญิงสาวส่งผ้าเย็นที่เข้าไปซื้อในร้านสะดวกซื้อให้กับเขา”
“ขอบใจนะ” เขารับผ้าเย็นมาจากนั้นก็เช็ดในบริเวณใบหน้าและต้นคอมันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ออกจากกรุงเทพมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเอาใจใส่และเทคแคร์เขาดีเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้น้องเขยของเขาปันใจไปให้เธอ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็รักกันดีกับเขมิกา
แต่สำหรับเขาไม่มีทางหลงมารยาผู้หญิงคนนี้อย่างเด็ดขาดทุกอย่างที่ทำก็เพื่อความสบายใจของน้องสาวเท่านั้น
เขมิกาเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและรักษาอยู่นานกว่าหมอจะให้หยุดทานยาเขมณัฏฐ์เลยไม่อยากให้น้องสาวของตนเองเครียด อีกทั้งตอนนี้เธอก็ยังตังครรภ์อยู่ด้วย เขากลัวว่าถ้าน้องสาวเครียดมากๆ อาการซึมเศร้าจะกลับมาอีกและมันคงจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องแน่ๆ
“คุณง่วงไหม” หญิงสาวถามเมื่อเขาขับรถออกมาได้พักใหญ่
“ไม่หรอกแต่ถ้าคุณง่วงก็นอนเลยนะ ถนนเส้นนี้ผมขับเป็นประจำอีกอย่างมันก็มืดแล้วมองสองข้างทางไปก็ไม่เห็นอะไรหรอก”
“ฉันไม่ง่วงหรอกกินผลไม้ไหม เมื่อกี้ฉันซื้อฝรั่งมาด้วยนะ”หญิงส่งฝั่งให้กับชายหนุ่มปกติแล้วเขมณัฏฐ์ไม่ค่อยทานอะไรเวลาขับรถแต่ก็ไม่อยากให้เธอเสียน้ำใจจึงรับฝรั่งมาทาน
เมื่อเขาทานไปหมดชิ้นแรกหญิงสาวก็ส่งชิ้นที่สองให้จากนั้นชิ้นที่สามและชิ้นที่สี่ก็ตาม,k
“พอแล้วคุณ” เขารีบพูดเมื่อเห็นเธอจะหยิบชิ้นที่ห้าส่งให้กับเขา
“ตอนนี้เราถึงจังหวัดอะไรแล้วคะ” หญิงสาวถามเพราะรู้สึกว่าถนนที่เขาขับมันจะแปลกๆ ต่างจากเส้นที่ผ่านมา
“แสดงว่าคุณไม่เคยมาแถวจังหวัดนี้”
“ค่ะ ฉันไม่เคยมาเลยแล้วมันใกล้ถึงแล้วหรือยังคะ”
“ยังหรอกเดี๋ยวเราต้องผ่านอีกหลายจังหวัด แต่ถนนเส้นนี้มันจะขรุขระแบบนี้แหละมันถือว่าเป็นเอกลักษณ์” เขาพูดแล้วหัวเราะจากนั้นก็ขับรถต่อไป
เขมณัฏฐ์รู้สึกว่ามีคนนั่งมาด้วยแบบและชวนคุยแบบนี้มันทำให้เขาให้ไม่รู้สึกง่วงเลย
เพราะเขมณัฏฐ์ขับรถมาด้วยความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนดอีกทั้งยังแวะทานอาหารและเข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมาสุโขทัยก็เลยใช้เวลานานกว่าปกติเกือบ 2 ชั่วโมงเขาพากานต์ชิสามาถึงบ้านของตนเองในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งตอนนี้ทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิทแต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ ไฟทุกดวงก็สว่างจ้าเพราะเขาทำระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติบ้านของชายหนุ่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นหญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก บริเวณห้องรับแขกถูกจะเอาไว้อย่างเรียบร้อย ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องครัวที่มีโต๊ะสำหรับทานอาหารขนาดใหญ่อยู่กลางห้องพื้นอีกด้านยกสูงขึ้นไปบริเวณจากบริเวณห้องรับแขกซึ่งตอนนี้เขมณัฏฐ์พาเธอเดินขึ้นบันไดมาเพียงห้าขั้นก็ถึงห้องนอน“เธอนอนห้องนี้ไปก่อนนะ ฉันให้คนมาทำความสะอาดแล้วหวังว่าคงอยู่ได้” เขาเปิดประตูห้องนอนห้องหนึ่งให้กับหญิงสาว“ฉันกินง่ายอยู่ง่ายไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตอนนี้มันดึกมากแล้วหญิงสาวรีบอาบน้ำและล้มตัวลงนอนแต่ก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักเพราะห้องที่เขาให้เธออยู่นี้มันเป็นห้องที่มีแค่พัดลมถึงแม้อากาศทางภาคเหนือจะไม่ได้ร้อนมา
กานต์ชิสาเดินตามเขมณัฏฐ์มายังท่าข้าวและโรงสีที่อยู่ติดกับรั้วบ้านซึ่งตอนนี้มีรถบรรทุกข้าวเปลือกมารออยู่หลายสิบคัน คนงานหลายคนมองมาที่หญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน“ข้าวเปลือกพวกนั้นคุณจะเอาไปทำอะไรต่อคะ”“เอาไปสีเป็นข้าวสารจากนั้นก็บรรจุใส่กระสอบแล้วส่งขาย หรือบางครั้งก็ส่งไปให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีหนึ่ง”“แล้วคนที่เขาเอามาขายเป็นชาวนาเหรอคะ”“บางครั้งก็ชาวนาเอามาขายโดยตรงแต่บางครั้งก็เป็นตัวแทนที่เขาจะรวมกลุ่มกันเอามาขายให้” เขมณัฏฐ์อธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาเธอเข้ายังห้องกระจกที่อยู่ด้านข้างซึ่งเขามักเรียกที่นี่ว่าออฟฟิศ“เข้ามาสิผมจะแนะนำให้รู้จักพนักงานที่อยู่ในออฟฟิศ”ชายหนุ่มเปิดประตูห้องกระจกออกแล้วในนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนด้วยกัน เขมณัฏฐ์แนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีชื่อศิริรัตน์หรือพี่รัตน์และผู้ช่วยของเธออีกสองคนคือสายพินหรือหญิง ส่วนคนสุดท้ายที่ดูดเด็กกว่าคนอื่นชื่อกุ้งหรือรัตนาหลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับทั้งสามคนแล้วเขาก็ขอตัวออกไปทำงานด้านนอก กานต์ชิสาขอตามออกไปดูการทำงานของเขาด้วยระหว่างที่นี้หญิงสา
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนรถยนต์สองคันขับเบียดกันมาบนถนนเส้นหนึ่งก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางรถที่ขับเบียดมานั้นไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่ขับเลยไปแล้ววนกลับมาอีกครั้งคนในรถรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุกับกู้ภัยและรอจนกระทั่งได้ยินเสียงไซเรนก็รีบขับออกไปจากจุดเกิดเหตุเสียงโทรศัพท์ของกานต์ชิสาหญิงสาววัย 24 ปีดังขึ้นในเวลา 02.15 นาฬิกา เจ้าของโทรศัพท์กวาดมือไปบนเตียงนอนเพื่อหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ตรงไหนบนเตียงนอนกว้าง“ใครโทรมาเวลานี้นะ” หญิงสาวเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงไม่ยอมหยุด ถ้าปลายสายที่โทรมาไม่มีเรื่องสำคัญละก็ได้เห็นดีกันแน่“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีใช่เบอร์ของคุณกานต์ชิสาไหมคะ”“ใช่ค่ะ”“ดิฉันเป็นพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินจากโรงพยาบาล xxx ค่ะ”“โรงพยาบาลเหรอคะ” กานต์ชิสามองนาฬิกาดิจิทัลที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ดึกขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะโทรมาหาเธอทำไมกันหรือว่าจะมีใครเป็นอะไร“ใช่ค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้คุณกานต์สิชาได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วเธอให้เราโทรมาแจ้งคุณค่ะ”“แล้วพี่สาวของฉันเป็นอะไร
“พี่ครีมบอกเค้กมานะว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน” กานต์ชิสาคาดคั้นพี่สาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน“เค้กพี่ยืนยันอีกครั้งว่าพี่ได้เป็นเมียน้อยเขาอย่างที่เค้กคิดหรอกนะ พรุ่งนี้พี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม”“ก็ได้ แต่เค้กว่าพี่อาบน้ำก่อนดีไหม แล้วพี่มียาที่ต้องกินหรือเปล่า”“เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้”เมื่อพี่สาวเข้าห้องนอนไปแล้วกานต์ชิสาก็กลับมาห้องนอนของตนเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีห้าแล้วหญิงสาวเลยไม่นอนต่อ หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นกับเสื้อกล้ามเพื่อจะออกไปวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านปกติแล้วตอนอยู่ที่อังกฤษกานต์ชิสาจะออกกำลังกายทุกเช้าแต่กลับมาเมืองไทยได้หนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่มีโอกาสออกกำลังกายสักที ในเมื่อวันนี้ยังไงก็นอนไม่หลับเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปออกกำลังกายหลังจากวิ่งจนเหงื่อชุ่มก็กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เธอกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปตลาดหน้าหมู่บ้านซื้อโจ๊กมาให้พี่สาวเพราะเธออาจจะต้องมียาทานหลังอาหารส่วนตัวเองนั้นกลับมาชงกาแฟทานกับขนมปังที่อยู่ในตู้เธอดื่มกาแฟและทานขนมจนกระทั่งแปดโมงครึ่งพี่สาวก็ยังไม่ออกมาซึ่
“เค้กจำป้ายุพินที่อยู่ท้ายซอยหมู่บ้านเราได้ไหม”“ใช้บ้านหลังสุดท้ายที่เล็กๆ ไหม”“ใช่บ้านหลังนั้นแหละ”“ป้ายุพินมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เหรอพี่ครีม”ป้ายุพินแกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อชลนิภาหรือนิ แล้วนิคนนี้แหละที่เป็นเมียน้อยของคุณไตรภพ”“อะไรนะ ถ้าเค้กจำไม่ผิดเด็กนั่นน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีเลยนะคะ” เพราะไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทยจึงไม่แน่ใจว่าหลานสาวของป้ายุพินจะอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่เธอจำได้ตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสี่ปีก่อนเด็กคนนั้นยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย“ใช่ตอนนี้นิกำลังเรียนอยู่ปีสองและแอบคบกับคุณไตรภพแต่ทุกครั้งที่นัดเจอกันก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านของพี่”“เมียของเขาเลยคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยของเขาใช่ไหมคะ”“อือก็ประมาณนั้น”“แล้วทำไมพี่ครีมไม่บอกเขาไปล่ะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อย”“พี่เคยอธิบายให้เขาฟังหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจสุดท้ายพี่ก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ”“แล้วจะยอมให้เขาเข้าใจผิดเราไปแบบนี้เหรอคะพี่ครีม”“เค้กจะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วถ้าพี่ไปบอกเมียเขาว่านิคือเมียน้อยของสามีเขาพี่ก็สงสารเด็กนะตอนนี้ป้ายุพินไม่ได้ทำงานอะไรเล
เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหนกานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอกเธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”“ค่ะ”“แล้วเ
กานต์ชิสากลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายซึ่งตอนนี้กานต์สิชาแฝดคนเป็นพี่ก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน“เป็นยังไงบ้างเค้กคุณไตรภพฟื้นหรือยัง”“ยังเลย เค้กไปเจอเมียเขาด้วยนคะ เขาคิดว่าเค้กคือพี่”“อะไรนะ แล้วเขาว่าอะไรเค้กหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่เขาบอกว่าห้ามเราไปเยี่ยม ถ้าหากเราไม่เชื่อและยังไปเยี่ยมสามีเขาอีก เขาอาจจะส่งคนมาพังร้านก็ได้ ทำไมคุณเขมิกาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะพี่ครีม”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติเขาก็ไม่เคยมาวุ่นวายเลย”“หรือเป็นเพราะอาการสามีเขาก็ค่อนข้างหนัก”“หนักเหรอแต่เมื่อวานพยาบาลบอกว่ามีแค่ขาหักเองนะ”“อือ เค้กก็ได้ยินแบบนั้น แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องไอซียู เมียเขาบอกว่าเขามีเลือดออกในสมองด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นมาตอนไหนแล้วจะจำอะไรได้หรือเปล่า”“พี่ไม่คิดเลยว่าอาการเขาจะหนักขนาดนั้น”“เค้กก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเกิดสามีเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆเค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ เขายิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพี่อยู่”“จะว่าเป็นความผิดของพี่ยังไง เขาเองแหละที่ขับรถไล่เบียดจนคุณไตรภพต้องขับรถหนี”“แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อล่ะ ถ้าคุณไตรภพเขาไม่ฟื้นและมาบอกความจริงกับเมียของเขา เค้กว่าพี่ครีมแย่แน
เขมณัฏฐ์งัวเงียเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อน้องสาวขึ้นมาปลุกตั้งแต่เช้า“มีอะไรแต่เช้าหรือว่านายไตรฟื้นแล้ว”“ไม่ใช่ค่ะ พี่ไตรยังไม่ฟื้นแต่เมื่อกี้พยาบาลที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่ามีผู้หญิงจะพยายามเข้าไปเยี่ยมพี่ไตร เขมว่าพี่เข้มต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เขมนะคะ ถ้าเธอยังไปวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนั้นมันไม่ดีเลย”“เดี๋ยววันนี้พี่จะเรียกเธอมาคุยอีกที จะพูดกับเธอดีๆ”“ผู้หญิงแบบนี้พูดดีๆ ด้วยไม่ได้หรอกค่ะ พี่ต้องพาเธอไปอยู่สุโขทัย”“ถ้าพี่กลับไปอยู่สุโขทัยแล้วเขมจะอยู่คนเดียวยังไงยิ่งช่วงนี้ท้องอยู่ด้วยนะ”“เขมอยู่คนเดียวที่ไหนที่บ้านก็มีเด็กรับใช้อยู่”“แต่พี่เป็นห่วงนะ”“ถ้าพี่เป็นห่วงเขมจริงๆ พี่ก็ต้องทำให้เขมสบายใจ นะคะพี่เข้มช่วยเขม ช่วยกันเธอออกไปจากชีวิตของพี่ไตรช่วงนี้ก่อนได้ไหมคะ เขมไม่อยากเครียด แค่เรื่องที่พี่ไตรยังไม่ฟื้นเขมก็เครียดมากอยู่แล้ว ถ้ายังจะต้องมาสู้รบตบมือกับเมียน้อยของพี่ไตรอีกเขมคงแย่แน่ๆ” เขมิกาพยายามโน้มน้าวพี่ชายอย่างเพราะเธอไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้กับไตรภพโดยเฉพาะช่วงที่เขากำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเจอผู้หญิงคนอื่นก่
กานต์ชิสาเดินตามเขมณัฏฐ์มายังท่าข้าวและโรงสีที่อยู่ติดกับรั้วบ้านซึ่งตอนนี้มีรถบรรทุกข้าวเปลือกมารออยู่หลายสิบคัน คนงานหลายคนมองมาที่หญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน“ข้าวเปลือกพวกนั้นคุณจะเอาไปทำอะไรต่อคะ”“เอาไปสีเป็นข้าวสารจากนั้นก็บรรจุใส่กระสอบแล้วส่งขาย หรือบางครั้งก็ส่งไปให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีหนึ่ง”“แล้วคนที่เขาเอามาขายเป็นชาวนาเหรอคะ”“บางครั้งก็ชาวนาเอามาขายโดยตรงแต่บางครั้งก็เป็นตัวแทนที่เขาจะรวมกลุ่มกันเอามาขายให้” เขมณัฏฐ์อธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาเธอเข้ายังห้องกระจกที่อยู่ด้านข้างซึ่งเขามักเรียกที่นี่ว่าออฟฟิศ“เข้ามาสิผมจะแนะนำให้รู้จักพนักงานที่อยู่ในออฟฟิศ”ชายหนุ่มเปิดประตูห้องกระจกออกแล้วในนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนด้วยกัน เขมณัฏฐ์แนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีชื่อศิริรัตน์หรือพี่รัตน์และผู้ช่วยของเธออีกสองคนคือสายพินหรือหญิง ส่วนคนสุดท้ายที่ดูดเด็กกว่าคนอื่นชื่อกุ้งหรือรัตนาหลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับทั้งสามคนแล้วเขาก็ขอตัวออกไปทำงานด้านนอก กานต์ชิสาขอตามออกไปดูการทำงานของเขาด้วยระหว่างที่นี้หญิงสา
เพราะเขมณัฏฐ์ขับรถมาด้วยความเร็วไม่เกินกฎหมายกำหนดอีกทั้งยังแวะทานอาหารและเข้าห้องน้ำเกือบตลอดทางทำให้การเดินทางจากกรุงเทพมาสุโขทัยก็เลยใช้เวลานานกว่าปกติเกือบ 2 ชั่วโมงเขาพากานต์ชิสามาถึงบ้านของตนเองในเวลาเกือบจะเที่ยงคืนซึ่งตอนนี้ทั้งบ้านปิดไฟมืดสนิทแต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ ไฟทุกดวงก็สว่างจ้าเพราะเขาทำระบบไฟฟ้าที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติบ้านของชายหนุ่มเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นหญิงสาวเดินตามเขาเข้าไปในบ้านหลังไม่ใหญ่มาก บริเวณห้องรับแขกถูกจะเอาไว้อย่างเรียบร้อย ด้านซ้ายมือเป็นส่วนของห้องครัวที่มีโต๊ะสำหรับทานอาหารขนาดใหญ่อยู่กลางห้องพื้นอีกด้านยกสูงขึ้นไปบริเวณจากบริเวณห้องรับแขกซึ่งตอนนี้เขมณัฏฐ์พาเธอเดินขึ้นบันไดมาเพียงห้าขั้นก็ถึงห้องนอน“เธอนอนห้องนี้ไปก่อนนะ ฉันให้คนมาทำความสะอาดแล้วหวังว่าคงอยู่ได้” เขาเปิดประตูห้องนอนห้องหนึ่งให้กับหญิงสาว“ฉันกินง่ายอยู่ง่ายไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตอนนี้มันดึกมากแล้วหญิงสาวรีบอาบน้ำและล้มตัวลงนอนแต่ก็ต้องถอนหายใจอย่างหนักเพราะห้องที่เขาให้เธออยู่นี้มันเป็นห้องที่มีแค่พัดลมถึงแม้อากาศทางภาคเหนือจะไม่ได้ร้อนมา
เขมณัฏฐ์มาจอดรถรับกานต์ชิสาที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเขามองกระเป๋าเป้ที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วยอยู่ความสงสัยและเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถแล้วก็อดถามไม่ได้“ทำไมมีกระเป๋าเป้แค่ใบเดียวล่ะ”“เดี๋ยวฉันค่อยไปหาซื้อข้างหน้าก็ได้เพราะถ้าฉันเอากระเป๋าใบใหญ่ไปคนอื่นจะได้สงสัยกันพอดีว่าฉันจะไปไหน”“แต่จังหวะที่เราจะไปมันไม่มีห้างใหญ่ๆ เหมือนในกรุงเทพบอกนะ ถ้าอยากจะมาซื้อก็ต้องเข้ามาอีกจังหวัดหนึ่ง”“ถ้างั้นคุณก็พาฉันแวะซื้อก่อนกลับสิ”“ผมไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกนะ เราออกจากที่นี่บ่ายมากแล้วไปถึงก็น่าจะดึก ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนสักเท่าไหร่”“ฉันนึกว่าเราจะนั่งเครื่องไป”“จริงๆ แล้วไปสุโขทัยมันก็มีเที่ยวบินอยู่แล้วแต่บังเอิญว่าผมขับรถมาน่ะคุณก็เลยต้องนั่งรถกลับกับผมหลายชั่วโมง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ผมว่างผมจะพาคุณไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แถวนั้นก็แล้วกันนะ”“ได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันสั่งออนไลน์เอาก็ได้ คุณช่วยแวะร้านสะดวกซื้อให้ฉันหน่อยสิฉันว่าคงต้องตุนเสบียงแล้วแหละ นั่งรถหลายชั่วโมงแบบนี้”เขมณัฏฐ์พยักหน้าจากนั้นเขาก็ขับไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง“คุณจะลงไปกับฉันไหม”“ไม่ล่ะ ผมให้เวลาคุณ 10 นาที
“ผมคงไม่หลงกลคุณเหมือนนายไตรหรอก ที่จะจ้างให้คุณไปอยู่ด้วยก็แค่ชั่วคราวพอนายไตรฟื้นเมื่อไหร่ก็เลิกจ้างตกลงไหมล่ะ”“ฉันว่าคุณกับน้องของคุณระแวงเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวมองว่ามันไร้สาระมากเลยแกล้งเรียกเงินเขาไปมากถึงห้าหมื่น“อะไรที่ทำแล้วน้องผมสบายใจผมก็จะทำตกลงคุณจะไปกับผมไหมล่ะ”“ถ้าคุณให้ฉันห้าหมื่นฉันก็ตกลง”ที่กานต์ชิสายอมรับข้อเสนอของเขมณัฏฐ์ไปเพราะกลัวว่าชายหนุ่มและน้องสาวจะไปยุ่งวุ่นวายกับกานต์สิชาที่ร้านเบเกอรี่ แต่ถ้าหากหญิงสาวยอมไปกับผู้ชายคนนี้พี่สาวของเธอก็จะได้เปิดร้านตามปกติและตอนนี้เธอเองก็ไม่ได้ทำงานอะไรการไปอยู่กับเขาระหว่างที่รอให้ไตรภพฟื้นมันก็คงไม่น่าเสียหายเท่าไหร่อีกอย่างกานต์ชิสาก็รู้สึกว่าเขาจะเป็นรักแรกพบสำหรับเธอจังหวัดที่เขาบอกน่าจะอยู่ทางภาคเหนือซึ่งถือเธอจะรู้มาว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ค่อนข้างเยอะมาก เธอคงสนุกมากแน่ๆ ถ้าจะได้ไปอยู่ที่นั่นก็จะได้ไปเที่ยวโดยมีเงินเดือนใช้ด้วย“อย่าคิดช้านะคะ ฉันอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ” หญิงสาวสาวพูดกระตุ้นเพราะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นต่อ“ตกลงก็ได้ห้าหมื่นพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณที่ร้านเบเกอรี่” เขารีบตกลงเพราะกลัวว่า
เขมณัฏฐ์งัวเงียเดินมาเปิดประตูห้องเมื่อน้องสาวขึ้นมาปลุกตั้งแต่เช้า“มีอะไรแต่เช้าหรือว่านายไตรฟื้นแล้ว”“ไม่ใช่ค่ะ พี่ไตรยังไม่ฟื้นแต่เมื่อกี้พยาบาลที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่ามีผู้หญิงจะพยายามเข้าไปเยี่ยมพี่ไตร เขมว่าพี่เข้มต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เขมนะคะ ถ้าเธอยังไปวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนั้นมันไม่ดีเลย”“เดี๋ยววันนี้พี่จะเรียกเธอมาคุยอีกที จะพูดกับเธอดีๆ”“ผู้หญิงแบบนี้พูดดีๆ ด้วยไม่ได้หรอกค่ะ พี่ต้องพาเธอไปอยู่สุโขทัย”“ถ้าพี่กลับไปอยู่สุโขทัยแล้วเขมจะอยู่คนเดียวยังไงยิ่งช่วงนี้ท้องอยู่ด้วยนะ”“เขมอยู่คนเดียวที่ไหนที่บ้านก็มีเด็กรับใช้อยู่”“แต่พี่เป็นห่วงนะ”“ถ้าพี่เป็นห่วงเขมจริงๆ พี่ก็ต้องทำให้เขมสบายใจ นะคะพี่เข้มช่วยเขม ช่วยกันเธอออกไปจากชีวิตของพี่ไตรช่วงนี้ก่อนได้ไหมคะ เขมไม่อยากเครียด แค่เรื่องที่พี่ไตรยังไม่ฟื้นเขมก็เครียดมากอยู่แล้ว ถ้ายังจะต้องมาสู้รบตบมือกับเมียน้อยของพี่ไตรอีกเขมคงแย่แน่ๆ” เขมิกาพยายามโน้มน้าวพี่ชายอย่างเพราะเธอไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้กับไตรภพโดยเฉพาะช่วงที่เขากำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเจอผู้หญิงคนอื่นก่
กานต์ชิสากลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายซึ่งตอนนี้กานต์สิชาแฝดคนเป็นพี่ก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน“เป็นยังไงบ้างเค้กคุณไตรภพฟื้นหรือยัง”“ยังเลย เค้กไปเจอเมียเขาด้วยนคะ เขาคิดว่าเค้กคือพี่”“อะไรนะ แล้วเขาว่าอะไรเค้กหรือเปล่า”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่เขาบอกว่าห้ามเราไปเยี่ยม ถ้าหากเราไม่เชื่อและยังไปเยี่ยมสามีเขาอีก เขาอาจจะส่งคนมาพังร้านก็ได้ ทำไมคุณเขมิกาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะพี่ครีม”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติเขาก็ไม่เคยมาวุ่นวายเลย”“หรือเป็นเพราะอาการสามีเขาก็ค่อนข้างหนัก”“หนักเหรอแต่เมื่อวานพยาบาลบอกว่ามีแค่ขาหักเองนะ”“อือ เค้กก็ได้ยินแบบนั้น แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องไอซียู เมียเขาบอกว่าเขามีเลือดออกในสมองด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นมาตอนไหนแล้วจะจำอะไรได้หรือเปล่า”“พี่ไม่คิดเลยว่าอาการเขาจะหนักขนาดนั้น”“เค้กก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเกิดสามีเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆเค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ เขายิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพี่อยู่”“จะว่าเป็นความผิดของพี่ยังไง เขาเองแหละที่ขับรถไล่เบียดจนคุณไตรภพต้องขับรถหนี”“แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อล่ะ ถ้าคุณไตรภพเขาไม่ฟื้นและมาบอกความจริงกับเมียของเขา เค้กว่าพี่ครีมแย่แน
เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหนกานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอกเธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”“ค่ะ”“แล้วเ
“เค้กจำป้ายุพินที่อยู่ท้ายซอยหมู่บ้านเราได้ไหม”“ใช้บ้านหลังสุดท้ายที่เล็กๆ ไหม”“ใช่บ้านหลังนั้นแหละ”“ป้ายุพินมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เหรอพี่ครีม”ป้ายุพินแกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อชลนิภาหรือนิ แล้วนิคนนี้แหละที่เป็นเมียน้อยของคุณไตรภพ”“อะไรนะ ถ้าเค้กจำไม่ผิดเด็กนั่นน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีเลยนะคะ” เพราะไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทยจึงไม่แน่ใจว่าหลานสาวของป้ายุพินจะอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่เธอจำได้ตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสี่ปีก่อนเด็กคนนั้นยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย“ใช่ตอนนี้นิกำลังเรียนอยู่ปีสองและแอบคบกับคุณไตรภพแต่ทุกครั้งที่นัดเจอกันก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านของพี่”“เมียของเขาเลยคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยของเขาใช่ไหมคะ”“อือก็ประมาณนั้น”“แล้วทำไมพี่ครีมไม่บอกเขาไปล่ะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อย”“พี่เคยอธิบายให้เขาฟังหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจสุดท้ายพี่ก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ”“แล้วจะยอมให้เขาเข้าใจผิดเราไปแบบนี้เหรอคะพี่ครีม”“เค้กจะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วถ้าพี่ไปบอกเมียเขาว่านิคือเมียน้อยของสามีเขาพี่ก็สงสารเด็กนะตอนนี้ป้ายุพินไม่ได้ทำงานอะไรเล
“พี่ครีมบอกเค้กมานะว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน” กานต์ชิสาคาดคั้นพี่สาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน“เค้กพี่ยืนยันอีกครั้งว่าพี่ได้เป็นเมียน้อยเขาอย่างที่เค้กคิดหรอกนะ พรุ่งนี้พี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม”“ก็ได้ แต่เค้กว่าพี่อาบน้ำก่อนดีไหม แล้วพี่มียาที่ต้องกินหรือเปล่า”“เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้”เมื่อพี่สาวเข้าห้องนอนไปแล้วกานต์ชิสาก็กลับมาห้องนอนของตนเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีห้าแล้วหญิงสาวเลยไม่นอนต่อ หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นกับเสื้อกล้ามเพื่อจะออกไปวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้านปกติแล้วตอนอยู่ที่อังกฤษกานต์ชิสาจะออกกำลังกายทุกเช้าแต่กลับมาเมืองไทยได้หนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่มีโอกาสออกกำลังกายสักที ในเมื่อวันนี้ยังไงก็นอนไม่หลับเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปออกกำลังกายหลังจากวิ่งจนเหงื่อชุ่มก็กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เธอกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปตลาดหน้าหมู่บ้านซื้อโจ๊กมาให้พี่สาวเพราะเธออาจจะต้องมียาทานหลังอาหารส่วนตัวเองนั้นกลับมาชงกาแฟทานกับขนมปังที่อยู่ในตู้เธอดื่มกาแฟและทานขนมจนกระทั่งแปดโมงครึ่งพี่สาวก็ยังไม่ออกมาซึ่