ตึก ตัก ตึกๆ ตักๆ ตึกๆๆ ตักๆๆๆ!!! เสียงเต้นของหัวใจที่ดังถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้าของหัวใจที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสยีนส์คอปกแบบแขนกุด เพิ่มความหวานของชุดด้วยการตัดต่อผ้าชีฟองสีขาวเป็นกระโปรง มีเข็มขัดเล็กๆ คาดตรงเอวที่หัวเข็มขัดออกแบบคล้ายกับกระดุมหน้าของตัวเสื้อ ส่งให้คนสวมใส่ยิ่งดูเอวบางขึ้นไปอีกแต่เพราะอุณหภูมิในร้านอาหารที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศหรือเพราะจากชายหนุ่มที่นั่งหล่ออยู่ตรงหน้ากันแน่ ถึงทำให้เธอเริ่มจะนั่งไม่ติดที่ มือที่กุมกันอยู่ตอนนี้เย็นเฉียบ คอเริ่มแห้งแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย“หนาวหรือครับน้องษา” เสียงทุ้มน่าฟังของชายที่เอ่ยเรียกชื่อเล่นของวันเมษา ดังขึ้น เจ้าของชื่อจึงเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะที่เอาแต่มอง เพื่อสบตาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้จะมีแว่นสายตาของชายหนุ่มเป็นเกราะกำบังอีกชั้นก็ตามที “นิดหน่อยน่ะค่ะ” ได้ยินเช่นนี้ ปรวีณ์ จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกมาคลุมไหล่มนของวันเมษาอย่างอ่อนโยน การกระทำของเขายิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะมากยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่วันเมษาจะมองใบหน้าของปรวีณ์ด้วยสายตาของ
ชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้เอ่ยอะไร เขาหยุดนิ่งๆ เพื่อให้วันเมษาขยับตัวก่อน จะได้เลี่ยงไปคนละทางกับเธอ “ขอบคุณ” คนที่พึ่งอกหักเอ่ยขอบคุณทั้งๆ ที่ยังคงก้มหน้าอยู่ ก่อนจะก้าวไปยังประตูห้องน้ำตรงหน้า และความที่ชุลมุนกันอยู่นานสองนาน ทำให้วันเมษาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองป้ายห้องน้ำให้ดี“คุณ! เดี๋ยว” เสียงของชายหนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยทักขึ้น แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะว่าตอนนี้วันเมษามายืนซึมกะทือ ก้มหน้าก้มตามองอ่างล้างมืออยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นห้องน้ำหญิงเรียบร้อย ส่วนผู้ชายที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่ด้านหลัง ด้านข้างก็ต่างพากันยืนสงบนิ่ง ราวกับกำลังยืนเคารพธงชาติก็ไม่ปาน นั่นเพราะตอนนี้มีสุภาพสตรีผู้ไม่ได้รับเชิญยืนอยู่นั่นเอง ธาวิน คือคนที่เอ่ยเรียกวันเมษาเมื่อครู่ แทนที่ชายหนุ่มจะเข้าไปตามเธอให้ออกมาจากห้องน้ำชาย แต่กลับยืนอมยิ้ม กอดอกรออยู่หน้าห้องน้ำเสียเฉยๆ ซะอย่างนั้น รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเธอเล่น รวมทั้งอยากเห็นหน้าของเธอเมื่อรู้ว่าเข้าห้องน้ำผิด จะเป็นยังไง ตอนนี้ภายในห้องน้ำชายดูจะเงียบผิดปรกติ กระทั่งเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น เพราะเขาทนยืนนิ่งๆ ต่อไปไม่ไหวแล้ว
หลังจากถูกบอกเลิกตั้งแต่ดินเนอร์ครั้งแรก อาหารอร่อยๆ ที่กินลงไปดูจะแสลงท้อง พะอืดพะอมจนวันเมษาต้องเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน พอจอดรถได้เท่านั้นแหละ เธอก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งแจ้นไปยังห้องน้ำ โก่งคออาเจียนออกมาจนหมดท้อง ก่อนจะกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเสียหน่อย“เอ้านี่นังหนู ดมยาดมหน่อย แพ้ท้องหนักแบบนี้ผัวเอ็งไปไหนเสียล่ะ”“หืม…ป้าจ๊ะคือว่า…”“ดึกๆ ดื่นๆ แทนที่จะให้คนท้องพักผ่อน นี่กระไร”“เอ่อ…คือหนูไม่ได้…”“ยาดมนั่นเอาไปเถอะ ป้าให้” พูดจบป้าใจดีที่พูดเองเออเองก็เดินกลับออกไปจากห้องน้ำ “เออเนอะ แค่อ้วกแตกเพราะอาหารไม่ย่อย คนอื่นดันคิดว่าเราท้องซะนี่” บ่นจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำเช่นเดียวกัน “เฮ้อ! เอาไงดีล่ะทีนี้” วันเมษาที่ตอนนี้กลับมานั่งในรถแล้วกำลังขบคิด ใจหนึ่งก็ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ เมื่อคิดไม่ออกจึงนั่งฟังเพลงลูกทุ่งอยู่ในรถเสียเลย ‘เอาผัวไปเทิน เอาผัวไปเทิน’ เสียงเพลงที่ได้ยินทำเอาเจ้าตัวถึงกับหัวเราะออกมา เพราะนึกตลกเนื้อเพลงที่กำลังฟัง “ยังไม่มีผัว แล้วจะเอาอะไรไปเทิน โฮ้! แต่งเพลงอะไร ไม่สงสารคนไม่มีคู่บ้างเลย หึ๋ย!” คิดแล้วก็หัวเราะอีกครั้ง ตั้งแต่โตมาจนอายุเล
ที่มาของเสียงโครมใหญ่เมื่อครู่ คือรถสองคันเกิดชนกันขึ้น ก่อนที่ผู้เสียหายจะเปิดประตูรถลงมามองหน้ารถตัวเองที่ตอนนี้ไฟหน้าแตกเป็นที่เรียบร้อย ไหนจะรอยบุ๋มขนาดใหญ่อีกหนึ่งรอยที่ฝากไว้เป็นที่ระลึกบนรถยุโรปคันสวย ส่วนผู้ก่อเหตุที่ขับรถอีโก้คาร์คันเล็กสีเขียวตอง ตอนนี้ก็กำลังก้าวลงมาดูเช่นเดียวกัน น่าแปลกที่รถเธอนั้นแทบไม่มีร่องรอยของความเสียหายเลยแม้แต่น้อย “ขอโทษนะคะ พอดีตะกี้ฉันมองไม่เห็นรถของคุณ ก็เลยชนเข้าไป”วันเมษาส่งยิ้มแห้งๆ ทักทายไปก่อน แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอ ธาวินถึงกับลอบยิ้มให้กับคำว่าโลกกลม“เรียกประกันมาเคลมสิคุณ”“อ้อค่ะๆ” เพราะตนเป็นคนผิดที่ถอยรถมาชนรถของชายหนุ่มเข้าวันเมษาจึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ประกันให้มาดูแล แต่ที่ไม่ชอบใจคือประโยคคำสั่งของผู้เสียหายนี่แหละ ดูวางอำนาจชอบกล แต่ก็ช่างเถอะ เรียกประกันจะได้จบๆ วันเมษาหายไปหยิบโทรศัพท์ในรถ ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ประกันภัยให้มาดูแล เมื่อแจ้งข้อมูลเสร็จเธอก็กลับมาหาผู้เสียหาย ที่ยืนกอดอกมองรถตัวเองตาละห้อย “นี่รถยุโรปเซินเจิ้นหรือเปล่า ทำไมไฟแตก กันชนยุบได้ง่ายแท้” คำพูดของวันเมษาทำเอาคนฟังกลั้นเสียงหัวเราะไว้ เธอคิดได้ยั
หลังจากถูกบอกเลิกตั้งแต่ดินเนอร์ครั้งแรก อาหารอร่อยๆ ที่กินลงไปดูจะแสลงท้อง พะอืดพะอมจนวันเมษาต้องเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน พอจอดรถได้เท่านั้นแหละ เธอก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งแจ้นไปยังห้องน้ำ โก่งคออาเจียนออกมาจนหมดท้อง ก่อนจะกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเสียหน่อย“เอ้านี่นังหนู ดมยาดมหน่อย แพ้ท้องหนักแบบนี้ผัวเอ็งไปไหนเสียล่ะ”“หืม…ป้าจ๊ะคือว่า…”“ดึกๆ ดื่นๆ แทนที่จะให้คนท้องพักผ่อน นี่กระไร”“เอ่อ…คือหนูไม่ได้…”“ยาดมนั่นเอาไปเถอะ ป้าให้” พูดจบป้าใจดีที่พูดเองเออเองก็เดินกลับออกไปจากห้องน้ำ “เออเนอะ แค่อ้วกแตกเพราะอาหารไม่ย่อย คนอื่นดันคิดว่าเราท้องซะนี่” บ่นจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำเช่นเดียวกัน “เฮ้อ! เอาไงดีล่ะทีนี้” วันเมษาที่ตอนนี้กลับมานั่งในรถแล้วกำลังขบคิด ใจหนึ่งก็ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ เมื่อคิดไม่ออกจึงนั่งฟังเพลงลูกทุ่งอยู่ในรถเสียเลย ‘เอาผัวไปเทิน เอาผัวไปเทิน’ เสียงเพลงที่ได้ยินทำเอาเจ้าตัวถึงกับหัวเราะออกมา เพราะนึกตลกเนื้อเพลงที่กำลังฟัง “ยังไม่มีผัว แล้วจะเอาอะไรไปเทิน โฮ้! แต่งเพลงอะไร ไม่สงสารคนไม่มีคู่บ้างเลย หึ๋ย!” คิดแล้วก็หัวเราะอีกครั้ง ตั้งแต่โตมาจนอายุเล
ชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้เอ่ยอะไร เขาหยุดนิ่งๆ เพื่อให้วันเมษาขยับตัวก่อน จะได้เลี่ยงไปคนละทางกับเธอ “ขอบคุณ” คนที่พึ่งอกหักเอ่ยขอบคุณทั้งๆ ที่ยังคงก้มหน้าอยู่ ก่อนจะก้าวไปยังประตูห้องน้ำตรงหน้า และความที่ชุลมุนกันอยู่นานสองนาน ทำให้วันเมษาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองป้ายห้องน้ำให้ดี“คุณ! เดี๋ยว” เสียงของชายหนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยทักขึ้น แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะว่าตอนนี้วันเมษามายืนซึมกะทือ ก้มหน้าก้มตามองอ่างล้างมืออยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นห้องน้ำหญิงเรียบร้อย ส่วนผู้ชายที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่ด้านหลัง ด้านข้างก็ต่างพากันยืนสงบนิ่ง ราวกับกำลังยืนเคารพธงชาติก็ไม่ปาน นั่นเพราะตอนนี้มีสุภาพสตรีผู้ไม่ได้รับเชิญยืนอยู่นั่นเอง ธาวิน คือคนที่เอ่ยเรียกวันเมษาเมื่อครู่ แทนที่ชายหนุ่มจะเข้าไปตามเธอให้ออกมาจากห้องน้ำชาย แต่กลับยืนอมยิ้ม กอดอกรออยู่หน้าห้องน้ำเสียเฉยๆ ซะอย่างนั้น รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเธอเล่น รวมทั้งอยากเห็นหน้าของเธอเมื่อรู้ว่าเข้าห้องน้ำผิด จะเป็นยังไง ตอนนี้ภายในห้องน้ำชายดูจะเงียบผิดปรกติ กระทั่งเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น เพราะเขาทนยืนนิ่งๆ ต่อไปไม่ไหวแล้ว
ตึก ตัก ตึกๆ ตักๆ ตึกๆๆ ตักๆๆๆ!!! เสียงเต้นของหัวใจที่ดังถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้าของหัวใจที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสยีนส์คอปกแบบแขนกุด เพิ่มความหวานของชุดด้วยการตัดต่อผ้าชีฟองสีขาวเป็นกระโปรง มีเข็มขัดเล็กๆ คาดตรงเอวที่หัวเข็มขัดออกแบบคล้ายกับกระดุมหน้าของตัวเสื้อ ส่งให้คนสวมใส่ยิ่งดูเอวบางขึ้นไปอีกแต่เพราะอุณหภูมิในร้านอาหารที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศหรือเพราะจากชายหนุ่มที่นั่งหล่ออยู่ตรงหน้ากันแน่ ถึงทำให้เธอเริ่มจะนั่งไม่ติดที่ มือที่กุมกันอยู่ตอนนี้เย็นเฉียบ คอเริ่มแห้งแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย“หนาวหรือครับน้องษา” เสียงทุ้มน่าฟังของชายที่เอ่ยเรียกชื่อเล่นของวันเมษา ดังขึ้น เจ้าของชื่อจึงเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะที่เอาแต่มอง เพื่อสบตาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้จะมีแว่นสายตาของชายหนุ่มเป็นเกราะกำบังอีกชั้นก็ตามที “นิดหน่อยน่ะค่ะ” ได้ยินเช่นนี้ ปรวีณ์ จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกมาคลุมไหล่มนของวันเมษาอย่างอ่อนโยน การกระทำของเขายิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะมากยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนที่วันเมษาจะมองใบหน้าของปรวีณ์ด้วยสายตาของ