หน้าหลัก / โรแมนติก / คัพ A ที่รัก / บทที่ 3 เสยเนื้อคู่

แชร์

บทที่ 3 เสยเนื้อคู่

หลังจากถูกบอกเลิกตั้งแต่ดินเนอร์ครั้งแรก อาหารอร่อยๆ ที่กินลงไปดูจะแสลงท้อง พะอืดพะอมจนวันเมษาต้องเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน พอจอดรถได้เท่านั้นแหละ เธอก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งแจ้นไปยังห้องน้ำ โก่งคออาเจียนออกมาจนหมดท้อง ก่อนจะกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเสียหน่อย

“เอ้านี่นังหนู ดมยาดมหน่อย แพ้ท้องหนักแบบนี้ผัวเอ็งไปไหนเสียล่ะ”

“หืม…ป้าจ๊ะคือว่า…”

“ดึกๆ ดื่นๆ แทนที่จะให้คนท้องพักผ่อน นี่กระไร”

“เอ่อ…คือหนูไม่ได้…”

“ยาดมนั่นเอาไปเถอะ ป้าให้” พูดจบป้าใจดีที่พูดเองเออเองก็เดินกลับออกไปจากห้องน้ำ 

“เออเนอะ แค่อ้วกแตกเพราะอาหารไม่ย่อย คนอื่นดันคิดว่าเราท้องซะนี่” บ่นจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำเช่นเดียวกัน 

“เฮ้อ! เอาไงดีล่ะทีนี้” วันเมษาที่ตอนนี้กลับมานั่งในรถแล้วกำลังขบคิด ใจหนึ่งก็ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ เมื่อคิดไม่ออกจึงนั่งฟังเพลงลูกทุ่งอยู่ในรถเสียเลย 

‘เอาผัวไปเทิน เอาผัวไปเทิน’ เสียงเพลงที่ได้ยินทำเอาเจ้าตัวถึงกับหัวเราะออกมา เพราะนึกตลกเนื้อเพลงที่กำลังฟัง 

“ยังไม่มีผัว แล้วจะเอาอะไรไปเทิน โฮ้! แต่งเพลงอะไร ไม่สงสารคนไม่มีคู่บ้างเลย หึ๋ย!” คิดแล้วก็หัวเราะอีกครั้ง ตั้งแต่โตมาจนอายุเลยสามสิบเข้าไปแล้ว วันเมษายังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์การมีสามีกับเขาเลยสักครั้ง ตอนเรียนเธอเป็นถึงดาวคณะเชียวนะ แรกๆ ก็มีคนมาขายขนมจีบอยู่หรอก แต่อยู่ๆ คนเหล่านั้นกลับหายจ้อย ไม่เหลือแม้เงา 

ส่วนหนึ่งคงเพราะข่าวลือบ้าๆ ว่าเธอไม่ชอบผู้ชายนั่นเป็นแน่ ไม่รู้ใครมันบ้าสร้างข่าวแบบนั้นออกมา ลือกันอยู่ได้ตั้งหลายปี ลือจนไม่มีคนมาจีบ ลือจนเธอไม่กล้าไปสารภาพรักกับรุ่นพี่ที่หมายปอง จนต้องอกหัก รักคุด เพราะแอบรักอยู่ข้างเดียว เหมือนข้าวเหนียวนึ่ง 

พอกล้าที่จะไปสารภาพรักและแก้ต่างว่าเธอนั้นไม่ได้ชอบผู้หญิงตามข่าวลือ จนรุ่นพี่คนดังกล่าวซึ่งก็คือปรวีณ์เข้าใจ จนได้คบหาในฐานะแฟน แต่สวรรค์ก็ล่ม เมื่อคนที่เธอคิดว่าเขามั่นคงในรัก กลับมาโอนเอนเปลี่ยนใจเมื่อเจอคนที่สวยและหุ่นดีตามสเปคของผู้ชายอย่างเอวา เฮ้อ! คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา 

วันเมษานั่งฟังเพลงในวิทยุอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ เปิดสลับคลื่นนั้นคลื่นนี้ไปเรื่อย เบื่อๆ เซ็งๆ ยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ บางจังหวะก็หวนมาคิดเรื่องตัวเอง สงสัยชาตินี้เธอจะได้อยู่บนคานของจริง รักใครก็อกหักรักคุดไปเสียหมด กระทั่งเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่เบาะหน้ารถดังขึ้น แทบไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าใครกันที่โทรมา

“ว่าไงแก”

“ฉันต่างหากที่ต้องถามแกว่าดินเนอร์ครั้งแรกเป็นยังไงบ้างยะ แล้วเอิ่ม…ได้จูบแรกมาไหม” เฟื่องรัตน์ดูเขินๆ ขณะเอ่ยถามเพื่อนรักผ่านทางโทรศัพท์ที่ตอนนี้เธอเปิดสปีกเกอร์โฟนให้เพื่อนสนิทอย่างเก๋ไก๋ สาวข้ามเพศที่สวยกว่าเธอ ซึ่งนั่งรอฟังอยู่ข้างๆ ให้ได้ยินอีกคน 

“จูบไม่ได้แต่ได้อย่างอื่น”

“ได้อะไรยะหล่อน” เก๋ไก๋เอ่ยถามวันเมษาเสียงดัง สีหน้าดูจะลุ้นกว่าเฟื่องรัตน์เสียอีก 

“ได้รู้ว่าหน้าอกแบนๆ ของฉันแพ้ความดูมๆ”

“แกพูดอะไร ฉันงง ไหนอธิบายซิ” น้ำเสียงของเฟื่องรัตน์แฝงความสงสัยอยู่ในที สีหน้าตอนนี้ก็คิ้วขมวดกันจนยุ่งไปหมด ลางสังหรณ์แปลกๆ ดูจะเกิดขึ้นทันทีว่าเรื่องที่จะได้ยินต่อจากนี้อาจไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่นัก 

“ฉันถูกพี่วีณ์บอกเลิกมา”

“หา…อะไรนะ!” เก๋ไก๋อุทานก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยเฟื่องรัตน์ 

“แกถูกบอกเลิกในดินเนอร์แรกเนี่ยนะ”

“อื้อ” สีหน้าของวันเมษาสลดลงไปนิดหน่อย ในใจยังคงรู้สึกโหวงๆ อยู่บ้าง 

“ทำไมพี่วีณ์ใจร้ายจังวะ ผู้ชายอะไรหล่อเสียเปล่า ใจดำเป็นอีกา”เฟื่องรัตน์ร่ายยาว จากที่รู้สึกดีๆ ด้วย ตอนนี้กลายเป็นว่าเธอนั้นไม่ชอบปรวีณ์เสียแล้ว

“แล้วที่แกบอกว่าแพ้ดูมๆ นี่หมายถึงใคร” สีหน้าของเฟื่องรัตน์นั้นบึ้งตึง ตงิดๆ ว่าจะเป็นคนที่เธออาจรู้จักดี 

“เอวา”

“หา!...ยัยเอวาเหรอ” เก๋ไก๋กับเฟื่องรัตน์อุทานออกมาแทบจะพร้อมกันก็ว่าได้ 

“ใช่…พี่วีณ์บอกเลิกฉันเพราะกำลังคบกับเอวาอยู่”

“ยัยนี่จะตามหลอกตามหลอนแกไปถึงไหนกัน เห็นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ ยังไม่เลิกนิสัยแย่ๆ ชอบแย่งของของแกแบบนี้อีกเหรอ” เฟื่องรัตน์ปรี๊ดแตก เก๋ไก๋ที่ฟังอยู่นานอดรนทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นอีกคน เพราะเธอก็รู้จักเอวาเช่นกัน

“ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ถ้าเอวาเข้ามาเป็นมือที่สามแต่คนของเรารักจริง ต่อให้นางนั่นถอดเสื้อถอดผ้าออกจนหมด ก็คงทำอะไรไม่ได้”

“แต่นี่คนของเราดันเล่นด้วย” วันเมษาเอ่ยนิ่งๆ ก่อนที่เฟื่องรัตน์จะเป็นลูกคู่ 

“ใช่…ผู้ชายเลว ผู้หญิงก็นะ หึ๋ย…สรรหาคำมาสรรเสริญได้ยากจริงๆ”

“ปล่อยผีเน่ากับโลงผุไปเถอะษา อย่าคิดมาก” เก๋ไก๋ส่ายหน้านิดๆ ถ้าเธออยู่ในเหตุการณ์ด้วยนะ จะฉีกอกปรวีณ์เสีย ผู้ชายอะไร คิดว่าตัวเองหล่อเลือกได้หรือไงพ่อคู๊ณณณแต่พอมาคิดๆ ดู ปรวีณ์ก็หล่อน่าลากอยู่ไม่น้อย เอ๊ะ! ยังไง 

“แล้วนี่แกอยู่ไหน” น้ำเสียงห่วงใยของเฟื่องรัตน์ถามขึ้น 

“ปั๊มแถวบ้าน” ขณะตอบก็เปิดประตูลงไปจากรถ เพราะรู้สึกหิวน้ำขึ้นมา ล็อกรถเสร็จก็เดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อ 

“มานอนที่คอนโดฉันไหม เดี๋ยวฉันอาสาเอาอกแบนๆ ซับน้ำตาให้”

“ไม่มีหรอกน้ำตาน่ะ” มือเล็กๆ เอื้อมไปหยิบขวดน้ำมากอดไว้หนึ่งขวด ก่อนจะเดินมาจ่ายเงิน ซึ่งขณะนั้นก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย

“หูย…สาวแกร่งแห่งปี” เฟื่องรัตน์เอ่ยเย้า นั่นเพราะไม่อยากให้วันเมษาเสียน้ำตาให้ผู้ชายอย่างปรวีณ์เช่นกัน 

“ทีแรกก็คิดว่าอาจจะมีร้องไห้ฟูมฟาย แต่แปลก น้ำตากลับไม่มีสักหยด” 

“อย่าไปเสียใจให้ผู้ชายห่วยๆ แบบนั้นเลยแก ต่อให้ผู้ชายไม่รักแต่ชายไม่จริงหญิงไม่แท้อย่างฉันก็รักแกนะเพื่อน” คำบอกรักของเก๋ไก๋ทำเอาคนฟังยิ้ม เฟื่องรัตน์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนข้างๆ เช่นกัน 

“ฉันก็รักแกนะษา”

“อื้อ…ต่อให้อกหักรักคุด แต่อย่างน้อยๆ ฉันก็ยังมีรักแท้จากพวกแกอยู่” 

“โอ๊ย! อย่ามาทำซึ้งตอนนี้ เดี๋ยวฉันร้องไห้ตาปูดตาบวม พรุ่งนี้ไปงานแต่งงาน พานจะไม่สวยกันพอดี” เก๋ไก๋แสร้งโวยวาย เพราะไม่อยากทำให้บรรยากาศเศร้าหมอง นองน้ำตา คนฟังจึงตอบรับอย่างหมั่นไส้กลับมา 

“ย่ะ! นี่พวกแก วันหยุดยาวนี้ เราไปเที่ยวทะเลกันไหม” คนพึ่งอกหักมาหมาดๆ เอ่ยชวน เพราะอยากไปผ่อนคลายสมองเสียหน่อย นี่ก็ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมองหน้าปรวีณ์ยังไงเหมือนกัน แต่จะว่าไปคนที่ต้องมองหน้าเธอไม่ติดต้องเป็นเขากับเอวาไม่ใช่เหรอ 

“ไปสิ ที่ไหนดี” เฟื่องรัตน์เอ่ยเห็นด้วย 

“ปราณบุรีแล้วกัน ทะเลสวยหน่อย”

“เดี๋ยวฉันจองที่พักให้” เก๋ไก๋อาสาเรื่องที่เธอถนัด เพราะชอบเที่ยวที่สวยๆ อยู่แล้ว เธอเป็นสมาชิกเว็บไซต์ที่มีส่วนลดของโรงแรมและรีสอร์ตเกือบทั่วประเทศก็ว่าได้ 

“งั้นเรื่องที่พัก ฝากแกด้วยนะเก๋ไก๋”

“ไม่มีปัญหา” เก๋ไก๋เอ่ยรับคำ ก่อนจะได้ยินเสียงปิดประตูแว่วๆ นั่นเพราะวันเมษากลับมาขึ้นรถแล้วนั่นเอง 

“ฉันขับรถกลับบ้านก่อนแล้วกัน ถึงแล้วเดี๋ยวไลน์บอก” 

“จัดไป” เก๋ไก๋เอ่ยจบ เฟื่องรัตน์ก็เอ่ยต่อทันที 

“ขับรถดีๆ แก”

“อื้อ”

“ขอให้เสยเนื้อคู่” ประโยคนี้ของเฟื่องรัตน์ทำเอาคนฟังย่นจมูกให้ เธอเป็นคนนะไม่ใช่รถ 

“บ้า แค่นี้นะ จะขับรถแล้ว” พูดจบวันเมษาก็กดวางสายทันที แต่จังหวะที่เธอกำลังถอยรถออกจากที่จอดอยู่นั้น เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น 

โครม!!!

“งานงอก!!” วันเมษาเอ่ยกับตัวเอง ก่อนจะรีบเปิดประตูรถลงไปดู ว่าเธอนั้นถอยรถไปชนเข้ากับรถของใครเข้า

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status