แชร์

บทที่ 206

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
เสิ่นหยุนอู้ “...... ใครอยากเพิ่มนายใน WeChatกัน ?”

“งั้นแล้วทำไมล่ะ?”

“ก็ตกลงกันแล้วว่าจะให้ฉันเลี้ยง” เสิ่นหยินอู้หันไปทางโทรศัพท์ของเขา “ไม่ต้องเพิ่ม WeChat หรอก แค่โชว์คิวอาร์โค้ดมาให้ฉันสแกนก็พอ”

พูดจบ มือที่เสิ่นหยินอู้ยื่นออกไปก็ถูกโม่ไป๋ปัดออก “คราวก่อนนายก็แย่งจ่ายเงิน ถ้าคราวนี้ยังให้นายจ่ายอีก ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”

เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ถ้ารู้สึกเกรงใจจริงๆ ก็ลาออกมาอยู่บริษัทโม่สิ”

“......นายนี่เปลี่ยนเรื่องเร็วเกินไปไหม?”

“เปลี่ยนเรื่องเร็วเหรอ?” โม่ไป๋ก้มหน้าครุ่นคิด “แต่ก็ตามที่เธอพูด ผมก็อยากแย่งตัวเธอมาจริงๆนะ”

“คิดจะให้ฉันย้ายงานเพราะอาหารมื้อเดียว นายนี่โลกสวยจริงๆนะ”

พูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็เก็บโทรศัพท์ ไม่ดึงดันที่จะโอนเงินให้เขาอีก

เขาจะเลี้ยงก็ให้เขาเลี้ยงไป ทายาทบริษัทโม่กรุ๊ป เงินแค่นี้คงไม่สะท้านหรอก

ส่วนเงินของเธอ เก็บไว้เลี้ยงลูกดีกว่า

“จริงสิ มื้อเดียวคงไม่พอซื้อใจเธอ ต่อไปคงต้อง ‘เจอโดยบังเอิญ’ หลายๆ ครั้งแล้ว”

เสิ่นหยินอู้สังเกตเห็นว่า เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน โม่ไป๋ดูมีอารมณ์ขันขึ้นมาก

เมื่อก่อนเขาเอาแต่พูดจายั่วโมโห เที
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 207

    ชายหนุ่มสูงผอมจ้องมองเสิ่นหยินอู้ด้วยความสงใส แววตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสวยมาก แต่เขาไม่รู้จักเธอ ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขาก็เช่นกัน เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ ดวงตาของเธอก็แข็งกร้าวขึ้นและจ้องมองอย่างไม่ลดละ “เธอเป็นใคร? เธอคบใครลับหลังฉันอีกแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มสูงผอมรีบอธิบาย “ไม่ใช่นะครับพี่ ผมก็ไม่รู้จักเธอ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆเธอมาพูดกับผม? เธอ เธอเป็นใคร?” ที่จริงแล้วชายหนุ่มร่างผอมสูงอารมณ์ไม่ดีนัก การที่เสิ่นหยินอู้เข้ามาพูดแบบนี้ทำให้เขาอยากจะโกรธ แต่ด้วยความที่เธอสวยเกินไป เขาจึงไม่กล้าว่าเธอ “รู้จักหรือไม่รู้จักมันสำคัญมากเหรอ?” เสิ่นหยินอู้จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา “สิ่งสำคัญคือคำพูดของแก แกบอกว่าชอบผู้หญิงคนนี้ แต่กลับมีลูกกับผู้หญิงอีกคน มันยุติธรรมกับใครบ้าง?” ชายหนุ่มสูงผอมโกรธจนหน้าแดง "มัน มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?" ผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาหน้าเคร่งเครียดขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เสิ่นหยินอู้ยิ้มเยาะ “แค่ทนดูท่าทางเสแสร้งแกไม่ไหวแค่นั้นแหละ” "เธอ! อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ!" คงเพราะถูกคำพูดของเธอจี้ใจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 208

    "ยังคิดว่าผมเป็นโรคกลัวความสกปรกอยู่อีกหรือเปล่า?" เสิ่นหยินอู้ "......" เมื่อครู่เขาแค่ใช้วิธีนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นโรคกลัวความสกปรกอย่างนั้นหรอ? ไปต่างประเทศมาห้าปี นิสัยของเขาเปลี่ยนไปมากเกินไปแล้ว "แค่รู้สึกว่าการไปสัมผัสคนที่ไม่ชัดเจนกับผู้หญิงทั้งสองคนทำให้มือสกปรก" โม่ไป๋พูดต่อไปด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์เมื่อได้ยิน สายตาของเสิ่นหยินอู้ก็ตาเศร้าลงเล็กน้อย เธอคิดถึงฉินเย่ขึ้นมาอีกแล้ว โม่ไป๋ถอนหายใจเมื่อเห็นเธอเงียบ "แม้ว่าผมไม่ควรพูดมากไป แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉินเย่กับฉูฉู่ คนในวงการต่างก็รู้กันดี ส่วนเรื่องที่เธอแต่งงานกับเขา..."มาถึงตรงนี้ โม่ไป๋หยุดพูดชั่วครู่ "ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเป็นยังไง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ใช่ไหม ถ้ามันทำให้เธอเจ็บปวด ก็ควรจบมันให้เร็วที่สุดนะ" แม้จะรู้จักโม่ไป๋มาตั้งแต่เด็ก แต่เสิ่นหยินอู้ก็ยังคงรักษาระยะห่างกับเขา เธอไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟังมากนักดังนั้นหลังจากฟังคำแนะนำของเขา เธอจึงยิ้มและพยักหน้ารับเท่านั้น "อืม ฉันรู้แล้ว"โม่ไป๋หยุดพูดเรื่องนี้ทันที แล้วไม่พ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 209

    คืนนั้น เสิ่นหยินอู้และฉินเย่ได้นำคำพูดของคุณหมอเฉินที่ได้ยินมาในตอนเช้ามาบอกกับคุณนายฉิน คุณนายฉินในช่วงนี้อารมณ์ดีขึ้นมาก หน้าตาก็เปล่งปลั่งขึ้นกว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาล และสภาพจิตใจก็ดีมากเช่นกัน เมื่อเห็นทั้งสองคนมาบอกเรื่องนี้กับตัวเอง เธอก็ไม่รู้สึกกลัว และยิ้มรับพร้อมพยักหน้า “พรุ่งนี้ไปตรวจหรอ ได้สิ ไม่มีปัญหา”คุณนายฉินตอนนี้อารมณ์ดี น่าจะเพราะชอบบรรยากาศภายนอก จึงอยากทำการผ่าตัดให้เสร็จเร็วๆ จะได้ฟื้นตัวเร็วๆ เสิ่นหยินอู้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจมาก “คุณย่ามีความสุขมากเลยใช่ไหมคะ?” “แน่นอนสิ” คุณนายฉินจับมือเธอ พร้อมกับพูดอย่างเปี่ยมด้วยความรู้สึก "ย่านึกว่าย่าต้องอยู่ในโรงพยาบาลไปตลอด แต่ก่อนที่จะผ่าตัดได้ออกมาดูโลกภายนอกอีกครั้ง ถึงต่อไปจะตายบนเตียงผ่าตัดก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแล้ว" เสิ่นหยินอู้ที่ตอนแรกดีใจเพราะคำพูดของคุณนายฉิน เมื่อได้ยินประโยคหลัง ก็หน้าซีดไป “คุณย่า พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลยค่ะ”ในสายตาของคุณนายฉินไม่มีความเศร้า แต่กลับมองไปที่ฉินเย่ พร้อมกับเรียกให้เขาเข้ามาใกล้ๆฉินเย่เดินเข้าไปด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณย่า อย่าพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลสิครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 210

    "โอเคๆ" คุณนายฉินใจอ่อนทันทีและปลอบเสิ่นหยินอู้ไม่หยุด "ย่าสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรไม่เป็นมงคลแล้ว หยุดร้องไห้ได้ไหมจ้ะ?"สุดท้าย คุณนายฉินก็ปลอบเสิ่นหยินอู้จนเธอสงบลง และเสิ่นหยินอู้ก็กลับไปที่ห้องนอนด้วยความพอใจ พร้อมบอกว่าจะมาหาใหม่ในตอนเช้า คุณนายฉินลูบหลังศีรษะของเธอเบาๆ "โอเค ฝันดีนะ รีบไปนอนเถอะ" หลังจากที่เธอไปแล้ว คุณนายฉินก็จ้องไปที่ฉินเย่"ช่วงนี้พวกเธอสองคนทะเลาะกันบ่อยเหรอ?" ได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็ชะงักไป แล้วอธิบายว่า "เธอแค่แกล้งคุณย่าเล่น คุณย่าก็เชื่อเหรอครับ?" "แกคิดว่าย่าแก่จนมองไม่เห็นปัญหาของพวกเธอสองคนจริงๆ เหรอ?" ฉินเย่ตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ ว่า “ปัญหาอะไรเหรอครับ?”"ฮึ่ม" คุณนายฉินแค่นเสียงเย็นๆ "ปัญหาอะไร แกก็รู้ดีอยู่แก่ใจ" “……”"เป็นเพราะเจียงฉูฉู่ใช่ไหม?" ไม่คิดว่าคุณนายฉินจะพูดจี้จุด ทำให้ฉินเย่สีหน้าเปลี่ยนไป "ฉูฉู่เคยช่วยชีวิตแกไว้ เพราะงั้นเธอถึงพิเศษสำหรับแก" เห็นฉินเย่ขยับปากเหมือนจะปฏิเสธ คุณนายฉินจึงพูดต่อว่า "อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ย่าสายตาเฉียบแหลมนะ ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของแกกับหยินอู้ก็ดีอยู่นี่? แล้วทำไมช่วงนี้ถึงมีปัญ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 211

    ค่ำคืนอันหนาวเย็นกู้เหยียนซีเดินฝ่ากลุ่มคนในผับ แล้วเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์คนที่ตามหลังเขาคือจี้ชิงเป่ยดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ทั้งสองคนถูกฉินเย่เรียกออกมาอีกแล้วรอให้พวกเขาไปถึง คิดว่าจะเจอกับฉินเย่ที่เมาเละเทะ แต่ไม่คาดคิดว่าเขากลับแต่งตัวเรียบร้อย นั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ด้วยแววตามีสติครบถ้วนเหล้าที่อยู่ตรงหน้าเขาแก้วนั้น ก็ไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว“เกิดอะไรขึ้น? เรียกเรามาดื่มเหล้าไม่ใช่เหรอ?” กู้เหยียนซีแปลกใจเขาเดินเข้าไปทักทายฉินเย่“เย่ นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย? ถึงตอนนี้ยังไม่แตะเหล้าเข้าปากสักอึก?”เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ฉินเย่ก็ได้สติ เงยหน้าขึ้นพบว่ากู้เหยียนซีมาพร้อมกับจี้ชิงเป่ยด้วย เขาจึงใช้สายตามองจี้ชิงเป่ยราวกับกำลังถามด้วยสายตาว่า: นายพาเขามาทำไม?จี้ชิงเป่ยที่เห็นสายตาที่ส่งมาของเขาพลันรู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นดูท่าแล้วคืนนี้ฉินเย่จะเรียกเขามาคนเดียวแต่เขาไม่รู้จึงได้เรียกกู้เหยียนซีมาด้วยไหนๆ ก็มาแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ชายทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรต่อกู้เหยียนซีนั่งปุ๊บก็สั่งเครื่องดื่มปั๊บอย่างคนบ้าพลางพูดกับฉินเย่ว่า “นายนี่ก็แปลก คราวก่อนท

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 212

    จี้ชิงเป่ยแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบว่าเจียงฉูฉู่ล้มเอง เพียงแค่บอกว่า “ฉันถามนายหน่อย นายบอกว่าเสิ่นหยินอู้เป็นคนผลักเจียงฉูฉู่ นายตัดสินจากอะไร? เพราะว่าหล่อนอยู่ใกล้เจียงฉูฉู่ที่สุดงั้นเหรอ?”“เหตุผลหนึ่งคืออยู่ใกล้ฉูฉู่ แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือ ทุกคนเขาพูดกันแบบนี้” กู้เหยียนซีตอบ“ทุกคนเขาพูดกันแบบนี้ แล้วความจริงก็ต้องเป็นแบบนั้นเหรอ?”“ก็…ทุกคนเขาก็พูดกันแบบนี้แล้ว ถ้านี่ไม่ใช่ความจริง แล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง?”กู้เหยียนซีมองจี้ชิงเป่ยด้วยสีหน้าหมดคำพูด“จี้ชิงเป่ย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมทุกครั้งที่เกิดเรื่อง นายต้องเข้าข้างเสิ่นหยินอู้ตลอด?”“เพราะฉันเข้าข้างหล่อน หรือเพราะนายเชื่อฉูฉู่มากเกินไปกันแน่?”ทันใดนั้น เด็กเสิร์ฟก็ยกเหล้าเข้ามา จี้ชิงเป่ยหยิบมาหนึ่งแก้ว แล้วแกว่งเบาๆ เหล้าที่ผสมขึ้นมาโดยเฉพาะ เมื่ออยู่ใต้แสงเคาน์เตอร์บาร์แล้วดูสดใสและไม่ชัดเจน“ความคิดของมนุษย์น่ะ ถ้าถูกความคิดเพียงอย่างเดียวครอบงำแล้ว ก็ง่ายที่จะเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้อื่นๆ”ฉินเย่ที่เงียบไม่พูดอะไรได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงแต่กู้เหยียนซีกลับจ้องจี้ชิงเป่ยด้วยสีหน้าแปลกใจ“อะไรเนี่ย ตอนนี

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 213

    กู้เหยียนซีจากไปด้วยความโมโหบริเวณเคาน์เตอร์บาร์จึงเหลืออยู่เพียงสองคนจี้ชิงเป่ยกวาดมองฉินเย่แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขายังจมอยู่ในความคิดของตนเองอยู่นั้น จึงไม่ได้รีบเอ่ยปากพูดอะไรหลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ฉินเย่ถึงได้เอ่ยถามเขานิ่งๆ“ที่นายพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าอะไร?”จี้ชิงเป่ยยกมุมปากขึ้น “นายมีคำตอบอยู่ในใจแล้วไม่ใช่เหรอ?”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาเศร้าโศก“คำตอบอะไร?”“ฉินเย่ ฉันจำได้ว่าคราวก่อนฉันก็เคยถามนายที่นี่เหมือนกัน ผ่านไปหลายปีแล้ว นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่?”ฉินเย่ชะงัก ที่แท้จี้ชิงเป่ยก็เคยถามเขาเช่นกันไม่น่าล่ะ คืนนั้นตอนที่คุณย่าถามเขา เขาถึงได้รู้สึกคุ้นคำถามนี้มาก เพียงแต่ตอนที่จี้ชิงเป่ยพูดคราวก่อน เขาไม่ได้สนใจอะไรนัก และไม่ได้ใส่ใจอะไรเมื่อเห็นฉินเย่เงียบ จี้ชิงเป่ยพลันถอนหายใจ “นายโตมากับหล่อนตั้งแต่เด็ก รู้ทุกอย่างที่หล่อนชอบหรือไม่ชอบ ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ในสภาพได้ นายก็แทบจะเห็นมาหมดแล้ว ตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ถ้าฉันจำไม่ผิด หลังจากที่ได้รับข่าว นายก็รีบกลับมาเลยไม่ใช่เหรอ?”“ก็ใช่” เรื่องนี้ฉินเย่ไม่อาจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 214

    ฝันร้ายเหรอ?ฉินเย่ย่อตัวลงข้างเตียง แล้วยื่นมือออกไปจะนวดหว่างคิ้วให้กับเสิ่นหยินอู้โดยสัญชาตญาณ โดยลืมไปแล้วว่าตนอยู่ที่บาร์นานเกินไป และตอนนี้มือยังเย็นอยู่ดังนั้น เมื่อปลายนิ้วมือของเขาสัมผัสลงบนหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ก็สะดุ้งเล็กน้อย และตื่นขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองจึงสบเข้าด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดวงตาของเสิ่นหยินอู้ที่เพิ่งตื่นจากฝันยังคงสะลึมสะลืออยู่ ภายใต้แสงไฟที่กระทบลงในห้องนอน ทำให้สายตาที่เย็นชาดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ทำเอาฉินเย่หัวใจเต้นไหวนิ้วมืออันเย็นยวบของเขายังคงสัมผัสอยู่บริเวณหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ผ่านไปนานพอควร เสิ่นหยินอู้ถึงจะรู้สึกตัว พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอถอยหลังเลี่ยงการสัมผัสจากฉินเย่ แล้วลุกขึ้นนั่งมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง“นายจะทำอะไร?”ท่าทีระแวดระวังตัวของเธอทำให้ฉินเย่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ฉันจะทำอะไรได้? ตอนนี้เธอป้อมกันตัวจากฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้เองก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของตนเมื่อกี้นี้ดูตื่นตระหนกมากไปหน่อยจริงๆเธอทำได้เพียงหันหน้าหลบสายตาจากเขา แล้วพูดว่า “เปล่า”

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status