แชร์

บทที่ 213

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
กู้เหยียนซีจากไปด้วยความโมโห

บริเวณเคาน์เตอร์บาร์จึงเหลืออยู่เพียงสองคน

จี้ชิงเป่ยกวาดมองฉินเย่แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขายังจมอยู่ในความคิดของตนเองอยู่นั้น จึงไม่ได้รีบเอ่ยปากพูดอะไร

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ฉินเย่ถึงได้เอ่ยถามเขานิ่งๆ

“ที่นายพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าอะไร?”

จี้ชิงเป่ยยกมุมปากขึ้น “นายมีคำตอบอยู่ในใจแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาเศร้าโศก

“คำตอบอะไร?”

“ฉินเย่ ฉันจำได้ว่าคราวก่อนฉันก็เคยถามนายที่นี่เหมือนกัน ผ่านไปหลายปีแล้ว นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่?”

ฉินเย่ชะงัก ที่แท้จี้ชิงเป่ยก็เคยถามเขาเช่นกัน

ไม่น่าล่ะ คืนนั้นตอนที่คุณย่าถามเขา เขาถึงได้รู้สึกคุ้นคำถามนี้มาก เพียงแต่ตอนที่จี้ชิงเป่ยพูดคราวก่อน เขาไม่ได้สนใจอะไรนัก และไม่ได้ใส่ใจอะไร

เมื่อเห็นฉินเย่เงียบ จี้ชิงเป่ยพลันถอนหายใจ “นายโตมากับหล่อนตั้งแต่เด็ก รู้ทุกอย่างที่หล่อนชอบหรือไม่ชอบ ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ในสภาพได้ นายก็แทบจะเห็นมาหมดแล้ว ตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ถ้าฉันจำไม่ผิด หลังจากที่ได้รับข่าว นายก็รีบกลับมาเลยไม่ใช่เหรอ?”

“ก็ใช่” เรื่องนี้ฉินเย่ไม่อาจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 214

    ฝันร้ายเหรอ?ฉินเย่ย่อตัวลงข้างเตียง แล้วยื่นมือออกไปจะนวดหว่างคิ้วให้กับเสิ่นหยินอู้โดยสัญชาตญาณ โดยลืมไปแล้วว่าตนอยู่ที่บาร์นานเกินไป และตอนนี้มือยังเย็นอยู่ดังนั้น เมื่อปลายนิ้วมือของเขาสัมผัสลงบนหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ก็สะดุ้งเล็กน้อย และตื่นขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองจึงสบเข้าด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดวงตาของเสิ่นหยินอู้ที่เพิ่งตื่นจากฝันยังคงสะลึมสะลืออยู่ ภายใต้แสงไฟที่กระทบลงในห้องนอน ทำให้สายตาที่เย็นชาดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ทำเอาฉินเย่หัวใจเต้นไหวนิ้วมืออันเย็นยวบของเขายังคงสัมผัสอยู่บริเวณหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ผ่านไปนานพอควร เสิ่นหยินอู้ถึงจะรู้สึกตัว พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอถอยหลังเลี่ยงการสัมผัสจากฉินเย่ แล้วลุกขึ้นนั่งมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง“นายจะทำอะไร?”ท่าทีระแวดระวังตัวของเธอทำให้ฉินเย่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ฉันจะทำอะไรได้? ตอนนี้เธอป้อมกันตัวจากฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้เองก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของตนเมื่อกี้นี้ดูตื่นตระหนกมากไปหน่อยจริงๆเธอทำได้เพียงหันหน้าหลบสายตาจากเขา แล้วพูดว่า “เปล่า”

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 215

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะเยาะ แล้วเงยหน้ามองเขาอย่างเย็นชา"นายมีความต้องการทางเพศ ก็ไปหาเจียงฉูฉู่ของนายสิ"ได้ยินดังนั้น แววตาของฉินเย่ก็มึดลงอย่างสิ้นเชิง เขากัดฟันแล้วพูดว่า "ฉันจะหาแค่เธอ ไม่หาใครทั้งนั้น"พูดจบ เขาก็โน้มตัวไปหาริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่กลับโดนเสิ่นหยินอู้ตบหน้า"ออกไป!""ไสหัวไปหาเจียงฉูฉู่ของนายไป อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!""ออกไป!"เสิ่นหยินอู้โกรธจนตัวสั่น รู้สึกว่าตบหน้าเขาแค่ครั้งเดียวไม่พอยังอยากตบอีกฉินเย่จับข้อมือของเธอและพูดว่า "โกรธเหรอ? ช่วงนี้เธอแสดงบทบาทเป็นศรีภรรยาได้ดีเลยไม่ใช่เหรอ? ทําไมถึงไม่แสดงต่อแล้วล่ะ? "พอเสิ่นหยินอู้คิดว่าเขาคิดจะใช้ตนเป็นเครื่องจัดการความต้องการทางเพศทีไร ก็เสียสติทันที ไม่อยากตอบฉินเย่เข้าไปใหญ่ เพียงแค่ออกแรงขัดขืนเท่านั้นเมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้เช่นนี้ ฉินแย่ก็รู้สึกโกรธกว่าเดิม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อนึกถึงคำพูดที่จี้ชิงเป่ยและคุณย่าพูดกับตัวเองไว้ ฉินเย่ก็ยิ่งกำข้อมือของเธอแน่น“คำพูดพวกนี้เธอเป็นคนพูดเอง แล้วทำไมตอนนี้ถึงต้องโกรธด้วย? เสิ่นนั่วนั่ว เธอโกรธอะไร?”ฉินเย่จ้องเธอเขม็งขณะที่ถามคำถามน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 216

    “แล้วก็เมื่อวาน เธอออกไปกับเขาด้วย”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล“ฉินเย่ นายแอบตามฉันเหรอ?”ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกตื่นตระหนกด้วยเพราะช่วงนี้เธอยังไปโรงพยาบาลด้วย ถึงแม้จะไปพร้อมกับโจวซวงซวง แต่ถ้าฉินเย่เกิดอยากสืบขึ้นมา ก็ไม่เจออะไรอยู่ดี“จำเป็นด้วยเหรอ?” ฉินเย่ย้อนถามไม่จำเป็น? ถ้างั้นเขาคงไม่ได้ส่งคนแอบตามตนสินะ?“แล้วนายรู้ได้ยังไง?”วันที่เจียงฉูฉู่ได้รับบาดเจ็บ ถึงเขาจะรู้ก็ช่างเถอะ เพราะบางทีฉินเย่อาจจะเห็นตอนที่โม่ไป๋ไปส่งเธอที่หน้าประตูวิลล่าก็ได้แต่เรื่องออกไปกินข้าวเมื่อวาน แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่คิดว่าจะเจอโม่ไป๋ที่นั่น แล้วฉินเย่รู้ได้ยังไง?ตอนกลับมา เธอยังนั่งรถแท็กซี่กลับมาด้วยซ้ำ“เธอลนลานมากนะ?” ฉินเย่หัวเราะแห้ง “เสิ่นนั่วนั่ว เธอเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม? เรื่องชั่วๆ ที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏในสักวัน”เสิ่นหยินอู้ “…”เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ สายตาของฉินเย่ก็เคลื่อนลงมาสำรวจมองชุดนอนของเธอ “แล้วก็สไตล์การแต่งตัวของเธอช่วงนี้ ทำเพื่อความชอบของพวกมันใช่ไหมล่ะ?”เสิ่นหยินอู้ “?”“นายพูดจาเหลวไหลอะไรกันแน่? เข้าฤดูหนาวแล้ว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 217

    หลังจากนอนหลับไปแล้ว ลมหายใจของเสิ่นหยินอู้ก็ค่อยๆ คงที่สมดุลกันฉินเย่เดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่ง พบว่าเสิ่นหยินอู้นอนหลับแล้วจริงๆไม่เพียงแต่นอนหลับเท่านั้น แต่ยังหลับสนิทด้วยเขายกมือจับใบหน้าที่ถูกตบของตน สติเลือนราง หากไม่ใช่เพราะบริเวณแก้มยังรู้สึกเจ็บเล็กน้อยล่ะก็ เขาคงคิดว่าการทะเลาะเมื่อกี้นี้เป็นแค่ภาพลวงตาแน่ๆเพราะคงไม่มีใครที่วินาทีก่อนหน้ายังโกรธอยู่ วินาทีต่อมาก็หลับปุ๋ยไปแล้วช่วงนี้เธอเปลี่ยนไปมาก มากเสียจนฉินเย่ไม่รู้จักเธอแล้วด้วยซ้ำเขารู้สึกไม่สบายใจ เรื่องบางเรื่องไม่สามารถหาที่ระบายได้ แต่เมื่อมองดูเธอนอนหลับสบายใจในตอนนี้ เขากลับพูดอะไรไม่ออกมิหนำซ้ำ ตอนที่ฉินเย่เดินออกจากห้อง เขายังเดินเบาลงด้วยสุดท้ายฉินเย่ก็นั่งลงบนโซฟาข้างนอกทั้งๆ ที่ดึกแล้ว แต่ในหัวของเขากลับยังตื่นอยู่ และคิดถึงแต่คำพูดที่จี้ชิงเป่ยพูดกับตนก่อนที่จะแยกจากกันตอนที่ทั้งสองออกจากบาร์ จี้ชิงเป่ยเรียกเขาเอาไว้“ถ้านายคิดไม่ออกจริงๆ ถ้างั้นฉันขอถามนายอีกอย่าง”หัวใจของฉินเย่สับสนมาก เมื่อได้ยินดังนั้นจึงมองเขาแวบหนึ่ง ถึงแม้ความรู้สึกและสายตาจะดูไม่สบอารมณ์ แต่เขากลับไม่ก้าวเท้าออกไป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 218

    จากนั้นเขาก็เดินผ่านเธอไปยังห้องน้ำเสิ่นหยินอู้ “…”ช่างเถอะ ไหนๆ ก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว อดทนต่ออีกหน่อยแล้วกันเพราะนอนหลับดี รอบดวงตาไม่ดำ ทำให้วันนี้เสิ่นหยินอู้ไม่ต้องเสียเวลาแต่งหน้า เพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ลงไปข้างล่างตึกแล้วเมื่อเธอลงมาถึงข้างล่าง ถึงจะพบว่าพ่อฉินแม่ฉินก็มาด้วย ทั้งสองกำลังพูดคุยกับคุณนายฉินที่นั่งอยู่บนรถเข็นอยู่ในห้องรับแขกเห็นพวกเขา เสิ่นหยินอู้ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะเมื่อคืนพวกเขาก็คุยกันแล้วว่าวันนี้จะมาหาตอนที่ผ่าตัดคราวก่อน ทั้งสองก็มาไม่ทันเพราะปัญหาเรื่องการบิน ถึงแม้วันนั้นคุณนายฉินจะไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดเลย แต่ทั้งสองก็รู้สึกผิดต่อเรื่องนี้มาก ดังนั้นครั้งนี้ทั้งสองจึงมากลับมาก่อนล่วงหน้ามาถึงตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องผ่าตัดไหมเสิ่นหยินอู้เพิ่งลงมาถึงข้างล่าง ก็ได้ยินคุณนายฉินพูดจาแปลกกับต่อลูกชายและลูกสะใภ้ของตนว่า “ธุรกิจพวกเธอยุ่งขนาดนี้ ถ้าไม่ว่างจริงๆ ก็ไม่ต้องมาก็ได้ คนแก่อย่างฉันถึงจะตายคาเตียงผ่าตัด ก็คงไม่มีใครสนใจหรอก”ตอนที่ยังไม่ได้ยินคำพูดข้างหลัง เสิ่นหยินอู้ยังคิดว่าคุณย่าพูดจริง แต่เมื่อฟังจบแล้วถึ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 219

    บนตัวแม่ฉินมีกลิ่นหอมจางๆ จากเลม่อน หอมสดชื่นมากขณะที่กอดเธอ เสิ่นหยินอู้รู้สึกแค่ว่าโล่งใจมาก จึงได้กอดเธอกลับผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิงมักจะทำให้เสิ่นหยินอู้ชอบมากเป็นพิเศษแม่ฉินเองก็สัมผัสได้เช่นกัน จึงอดไม่ได้ยื่นมือออกไปดีดจมูกเสิ่นหยินอู้เบาๆ “คิดถึงแม่ใช่ไหม?”คำว่าแม่นี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ตะลึงไปชั่วขณะ ผ่านไปนานกว่าจะพยักหน้าตอบ“อืม คิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากเลยค่ะ”“จึ ยัยเด็กน้อย พวกเราก็คิดถึงหนูเหมือนกัน” กล่าวจบ แม่ฉินก็บีบแก้มเธอเบาๆ พลันรู้สึกว่าผิวพรรณของเธอดีมากจึงอดไม่ได้ที่จะบีบอีกสองสามที แล้วหันไปพูดกับพ่อฉินว่า “ของขวัญที่เตรียมให้หยินอู้ล่ะ เอามาด้วยไหม?”ได้ยินดังนั้น พ่อฉินก็ควานหาในถุงสองที แล้วหยิบกล่องออกมาสองกล่อง“เอามาสิ”แม่ฉินหันกลับไปรับของ แล้วยื่นให้กับเสิ่นหยินอู้“อะ นี่เป็นของขวัญจากพ่อกับแม่”จริงๆ ไม่ใช่แค่ตอนนี้เท่านั้น แต่ก่อนตอนที่เธอยังไม่แต่งงานกับฉินเย่ ขอแค่เจอหน้าเธอทุกครั้ง พ่อฉินและแม่ฉินก็จะเอาของขวัญให้เธอเสมอ แถมยังเป็นของแพงด้วยถ้าเธอไม่รับไว้ แม่ฉินก็จะพูดกล่อมจนเธอรับเอาไว้ดังนั้นเมื่อได้รับของขวัญ เสิ่นหยินอู้จะเผยรอยยิ้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 220

    “เหมือนตอนที่แม่ไล่จีบพ่อน่ะเหรอ?”แม่ฉินกำลังสอนวิธีคืนดีให้ลูกชายอย่างสบายใจ แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องของตัวเธอเอง“พูดอะไรน่ะ? เป็นพ่อแกต่างหากที่ตามตื้อจีบฉันไม่หยุด ฉันกับพ่อแกถึงได้มีวันนี้ เข้าใจไหม”ฉินเย่ส่งเสียงจึ้ ไม่ได้อยากจะเถียงกับเธออีกต่อไปเพราะถึงแม้ว่าจะเป็นแม่ของเขาที่ตามจีบพ่อในตอนแรก แต่เวลาผ่านไปนานมากแล้วและพ่อของเขารักแม่ของเขามาก ตอนนี้ต้องกลับหนังคนละม้วน มาบอกว่าพ่อตามจีบแม่อย่างแน่นอนเรื่องแบบนี้น่ะ เขาเห็นมาบ่อยแล้ว“แกจึ้ปากทำไม? นี่แกไม่เชื่อแม่เหรอ?” แม่ฉินพูดอย่างไม่พอใจ “ไม่เชื่อก็ไปถามพ่อแกดูสิ”“โอเคๆ” ฉินเย่พูดด้วยสีหน้าสงบ “ขึ้นรถเถอะครับ เราต้องไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลอีกนะ”พูดจบ เขาไม่สนใจว่าแม่ฉินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ฉินเย่ก็สาวเท้าก้าวไปข้างหน้าแล้วแม่ฉินยืนอยู่กับที่ แทบจะโกรธจนควันออกหู และในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงทะเลาะกับเสิ่นหยินอู้ได้นิสัยของลูกชายของเธอเหมือนกับของพ่อของเขาทุกประการ น่าเบื่อหน่าย คนอื่นๆ เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็ง แต่ลูกชายของเธอกลับทื่อเหมือนท่อนไม้ถ้าหยินอู้นิสัยไม่เหมือนตนล่ะก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 221

    เมื่อเทียบกับอารมณ์ที่ไม่สงบของเขาแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็สงบกว่ามาก “รีบขับสิ อย่าทำให้เวลาตรวจของคุณช้าต้องล่าช้า” เนื่องจากไม่มีคนนอกอยู่ เสิ่นหยินอู้จึงไม่แสดงแล้ว น้ำเสียงและการแสดงออกของเธอแตกต่างไปจากปกติ หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็พบว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากที่ข้างๆเธอเลยแม้แต่น้อย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทีเธอไม่ได้ต้องการจบความสัมพันธ์กับฉินเย่เร็วขนาดนี้ แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นทำให้เธอโกรธ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะ... วันนี้คุณย่าไปตรวจสุขภาพและไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร เธอค่อนข้างกระสับกระส่าย เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หายใจเข้าลึกๆ ขณะที่กำลังจะหันกลับมาพูดอะไรกับฉินเย่พอดี รถก็เร่งความเร็วออกไปอย่างรวดเร็ว เธอตกใจ เธอหันไปมองฉินเย่และเห็นเขาขับรถด้วยสีหน้าอึมครึม ออร่าความโกรธแผ่ออกมาจากตัวเขาอย่างรุนแรง จู่ๆเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกแสบจมูกอย่างอธิบายไม่ถูก ความน้อยใจที่มากมายแพร่กระจายออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ อะไรกัน…… แน่นอนว่า...เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมเธอต้องมาทนกับอะไรแบบนี้? ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจียงฉูฉู่เป็นอย่างไร มันเกี่ยวอะไรกับเธอ? คนที

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status