แชร์

บทที่ 208

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
"ยังคิดว่าผมเป็นโรคกลัวความสกปรกอยู่อีกหรือเปล่า?"

เสิ่นหยินอู้ "......"

เมื่อครู่เขาแค่ใช้วิธีนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นโรคกลัวความสกปรกอย่างนั้นหรอ?

ไปต่างประเทศมาห้าปี นิสัยของเขาเปลี่ยนไปมากเกินไปแล้ว

"แค่รู้สึกว่าการไปสัมผัสคนที่ไม่ชัดเจนกับผู้หญิงทั้งสองคนทำให้มือสกปรก"

โม่ไป๋พูดต่อไปด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์

เมื่อได้ยิน สายตาของเสิ่นหยินอู้ก็ตาเศร้าลงเล็กน้อย

เธอคิดถึงฉินเย่ขึ้นมาอีกแล้ว

โม่ไป๋ถอนหายใจเมื่อเห็นเธอเงียบ "แม้ว่าผมไม่ควรพูดมากไป แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉินเย่กับฉูฉู่ คนในวงการต่างก็รู้กันดี ส่วนเรื่องที่เธอแต่งงานกับเขา..."

มาถึงตรงนี้ โม่ไป๋หยุดพูดชั่วครู่ "ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเป็นยังไง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ใช่ไหม ถ้ามันทำให้เธอเจ็บปวด ก็ควรจบมันให้เร็วที่สุดนะ"

แม้จะรู้จักโม่ไป๋มาตั้งแต่เด็ก แต่เสิ่นหยินอู้ก็ยังคงรักษาระยะห่างกับเขา เธอไม่อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟังมากนัก

ดังนั้นหลังจากฟังคำแนะนำของเขา เธอจึงยิ้มและพยักหน้ารับเท่านั้น "อืม ฉันรู้แล้ว"

โม่ไป๋หยุดพูดเรื่องนี้ทันที แล้วไม่พ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 209

    คืนนั้น เสิ่นหยินอู้และฉินเย่ได้นำคำพูดของคุณหมอเฉินที่ได้ยินมาในตอนเช้ามาบอกกับคุณนายฉิน คุณนายฉินในช่วงนี้อารมณ์ดีขึ้นมาก หน้าตาก็เปล่งปลั่งขึ้นกว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาล และสภาพจิตใจก็ดีมากเช่นกัน เมื่อเห็นทั้งสองคนมาบอกเรื่องนี้กับตัวเอง เธอก็ไม่รู้สึกกลัว และยิ้มรับพร้อมพยักหน้า “พรุ่งนี้ไปตรวจหรอ ได้สิ ไม่มีปัญหา”คุณนายฉินตอนนี้อารมณ์ดี น่าจะเพราะชอบบรรยากาศภายนอก จึงอยากทำการผ่าตัดให้เสร็จเร็วๆ จะได้ฟื้นตัวเร็วๆ เสิ่นหยินอู้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจมาก “คุณย่ามีความสุขมากเลยใช่ไหมคะ?” “แน่นอนสิ” คุณนายฉินจับมือเธอ พร้อมกับพูดอย่างเปี่ยมด้วยความรู้สึก "ย่านึกว่าย่าต้องอยู่ในโรงพยาบาลไปตลอด แต่ก่อนที่จะผ่าตัดได้ออกมาดูโลกภายนอกอีกครั้ง ถึงต่อไปจะตายบนเตียงผ่าตัดก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจแล้ว" เสิ่นหยินอู้ที่ตอนแรกดีใจเพราะคำพูดของคุณนายฉิน เมื่อได้ยินประโยคหลัง ก็หน้าซีดไป “คุณย่า พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลยค่ะ”ในสายตาของคุณนายฉินไม่มีความเศร้า แต่กลับมองไปที่ฉินเย่ พร้อมกับเรียกให้เขาเข้ามาใกล้ๆฉินเย่เดินเข้าไปด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณย่า อย่าพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลสิครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 210

    "โอเคๆ" คุณนายฉินใจอ่อนทันทีและปลอบเสิ่นหยินอู้ไม่หยุด "ย่าสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรไม่เป็นมงคลแล้ว หยุดร้องไห้ได้ไหมจ้ะ?"สุดท้าย คุณนายฉินก็ปลอบเสิ่นหยินอู้จนเธอสงบลง และเสิ่นหยินอู้ก็กลับไปที่ห้องนอนด้วยความพอใจ พร้อมบอกว่าจะมาหาใหม่ในตอนเช้า คุณนายฉินลูบหลังศีรษะของเธอเบาๆ "โอเค ฝันดีนะ รีบไปนอนเถอะ" หลังจากที่เธอไปแล้ว คุณนายฉินก็จ้องไปที่ฉินเย่"ช่วงนี้พวกเธอสองคนทะเลาะกันบ่อยเหรอ?" ได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็ชะงักไป แล้วอธิบายว่า "เธอแค่แกล้งคุณย่าเล่น คุณย่าก็เชื่อเหรอครับ?" "แกคิดว่าย่าแก่จนมองไม่เห็นปัญหาของพวกเธอสองคนจริงๆ เหรอ?" ฉินเย่ตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ ว่า “ปัญหาอะไรเหรอครับ?”"ฮึ่ม" คุณนายฉินแค่นเสียงเย็นๆ "ปัญหาอะไร แกก็รู้ดีอยู่แก่ใจ" “……”"เป็นเพราะเจียงฉูฉู่ใช่ไหม?" ไม่คิดว่าคุณนายฉินจะพูดจี้จุด ทำให้ฉินเย่สีหน้าเปลี่ยนไป "ฉูฉู่เคยช่วยชีวิตแกไว้ เพราะงั้นเธอถึงพิเศษสำหรับแก" เห็นฉินเย่ขยับปากเหมือนจะปฏิเสธ คุณนายฉินจึงพูดต่อว่า "อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ย่าสายตาเฉียบแหลมนะ ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของแกกับหยินอู้ก็ดีอยู่นี่? แล้วทำไมช่วงนี้ถึงมีปัญ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 211

    ค่ำคืนอันหนาวเย็นกู้เหยียนซีเดินฝ่ากลุ่มคนในผับ แล้วเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์คนที่ตามหลังเขาคือจี้ชิงเป่ยดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ทั้งสองคนถูกฉินเย่เรียกออกมาอีกแล้วรอให้พวกเขาไปถึง คิดว่าจะเจอกับฉินเย่ที่เมาเละเทะ แต่ไม่คาดคิดว่าเขากลับแต่งตัวเรียบร้อย นั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ด้วยแววตามีสติครบถ้วนเหล้าที่อยู่ตรงหน้าเขาแก้วนั้น ก็ไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว“เกิดอะไรขึ้น? เรียกเรามาดื่มเหล้าไม่ใช่เหรอ?” กู้เหยียนซีแปลกใจเขาเดินเข้าไปทักทายฉินเย่“เย่ นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย? ถึงตอนนี้ยังไม่แตะเหล้าเข้าปากสักอึก?”เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย ฉินเย่ก็ได้สติ เงยหน้าขึ้นพบว่ากู้เหยียนซีมาพร้อมกับจี้ชิงเป่ยด้วย เขาจึงใช้สายตามองจี้ชิงเป่ยราวกับกำลังถามด้วยสายตาว่า: นายพาเขามาทำไม?จี้ชิงเป่ยที่เห็นสายตาที่ส่งมาของเขาพลันรู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นดูท่าแล้วคืนนี้ฉินเย่จะเรียกเขามาคนเดียวแต่เขาไม่รู้จึงได้เรียกกู้เหยียนซีมาด้วยไหนๆ ก็มาแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ชายทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรต่อกู้เหยียนซีนั่งปุ๊บก็สั่งเครื่องดื่มปั๊บอย่างคนบ้าพลางพูดกับฉินเย่ว่า “นายนี่ก็แปลก คราวก่อนท

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 212

    จี้ชิงเป่ยแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง ไม่ได้ตอบว่าเจียงฉูฉู่ล้มเอง เพียงแค่บอกว่า “ฉันถามนายหน่อย นายบอกว่าเสิ่นหยินอู้เป็นคนผลักเจียงฉูฉู่ นายตัดสินจากอะไร? เพราะว่าหล่อนอยู่ใกล้เจียงฉูฉู่ที่สุดงั้นเหรอ?”“เหตุผลหนึ่งคืออยู่ใกล้ฉูฉู่ แต่อีกเหตุผลหนึ่งคือ ทุกคนเขาพูดกันแบบนี้” กู้เหยียนซีตอบ“ทุกคนเขาพูดกันแบบนี้ แล้วความจริงก็ต้องเป็นแบบนั้นเหรอ?”“ก็…ทุกคนเขาก็พูดกันแบบนี้แล้ว ถ้านี่ไม่ใช่ความจริง แล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง?”กู้เหยียนซีมองจี้ชิงเป่ยด้วยสีหน้าหมดคำพูด“จี้ชิงเป่ย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมทุกครั้งที่เกิดเรื่อง นายต้องเข้าข้างเสิ่นหยินอู้ตลอด?”“เพราะฉันเข้าข้างหล่อน หรือเพราะนายเชื่อฉูฉู่มากเกินไปกันแน่?”ทันใดนั้น เด็กเสิร์ฟก็ยกเหล้าเข้ามา จี้ชิงเป่ยหยิบมาหนึ่งแก้ว แล้วแกว่งเบาๆ เหล้าที่ผสมขึ้นมาโดยเฉพาะ เมื่ออยู่ใต้แสงเคาน์เตอร์บาร์แล้วดูสดใสและไม่ชัดเจน“ความคิดของมนุษย์น่ะ ถ้าถูกความคิดเพียงอย่างเดียวครอบงำแล้ว ก็ง่ายที่จะเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้อื่นๆ”ฉินเย่ที่เงียบไม่พูดอะไรได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงแต่กู้เหยียนซีกลับจ้องจี้ชิงเป่ยด้วยสีหน้าแปลกใจ“อะไรเนี่ย ตอนนี

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 213

    กู้เหยียนซีจากไปด้วยความโมโหบริเวณเคาน์เตอร์บาร์จึงเหลืออยู่เพียงสองคนจี้ชิงเป่ยกวาดมองฉินเย่แวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขายังจมอยู่ในความคิดของตนเองอยู่นั้น จึงไม่ได้รีบเอ่ยปากพูดอะไรหลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ฉินเย่ถึงได้เอ่ยถามเขานิ่งๆ“ที่นายพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าอะไร?”จี้ชิงเป่ยยกมุมปากขึ้น “นายมีคำตอบอยู่ในใจแล้วไม่ใช่เหรอ?”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาเศร้าโศก“คำตอบอะไร?”“ฉินเย่ ฉันจำได้ว่าคราวก่อนฉันก็เคยถามนายที่นี่เหมือนกัน ผ่านไปหลายปีแล้ว นายยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่?”ฉินเย่ชะงัก ที่แท้จี้ชิงเป่ยก็เคยถามเขาเช่นกันไม่น่าล่ะ คืนนั้นตอนที่คุณย่าถามเขา เขาถึงได้รู้สึกคุ้นคำถามนี้มาก เพียงแต่ตอนที่จี้ชิงเป่ยพูดคราวก่อน เขาไม่ได้สนใจอะไรนัก และไม่ได้ใส่ใจอะไรเมื่อเห็นฉินเย่เงียบ จี้ชิงเป่ยพลันถอนหายใจ “นายโตมากับหล่อนตั้งแต่เด็ก รู้ทุกอย่างที่หล่อนชอบหรือไม่ชอบ ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ในสภาพได้ นายก็แทบจะเห็นมาหมดแล้ว ตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ถ้าฉันจำไม่ผิด หลังจากที่ได้รับข่าว นายก็รีบกลับมาเลยไม่ใช่เหรอ?”“ก็ใช่” เรื่องนี้ฉินเย่ไม่อาจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 214

    ฝันร้ายเหรอ?ฉินเย่ย่อตัวลงข้างเตียง แล้วยื่นมือออกไปจะนวดหว่างคิ้วให้กับเสิ่นหยินอู้โดยสัญชาตญาณ โดยลืมไปแล้วว่าตนอยู่ที่บาร์นานเกินไป และตอนนี้มือยังเย็นอยู่ดังนั้น เมื่อปลายนิ้วมือของเขาสัมผัสลงบนหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ก็สะดุ้งเล็กน้อย และตื่นขึ้นมาทันทีสายตาของทั้งสองจึงสบเข้าด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดวงตาของเสิ่นหยินอู้ที่เพิ่งตื่นจากฝันยังคงสะลึมสะลืออยู่ ภายใต้แสงไฟที่กระทบลงในห้องนอน ทำให้สายตาที่เย็นชาดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ทำเอาฉินเย่หัวใจเต้นไหวนิ้วมืออันเย็นยวบของเขายังคงสัมผัสอยู่บริเวณหว่างคิ้วของเสิ่นหยินอู้ผ่านไปนานพอควร เสิ่นหยินอู้ถึงจะรู้สึกตัว พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอถอยหลังเลี่ยงการสัมผัสจากฉินเย่ แล้วลุกขึ้นนั่งมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง“นายจะทำอะไร?”ท่าทีระแวดระวังตัวของเธอทำให้ฉินเย่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ฉันจะทำอะไรได้? ตอนนี้เธอป้อมกันตัวจากฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้เองก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของตนเมื่อกี้นี้ดูตื่นตระหนกมากไปหน่อยจริงๆเธอทำได้เพียงหันหน้าหลบสายตาจากเขา แล้วพูดว่า “เปล่า”

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 215

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หัวเราะเยาะ แล้วเงยหน้ามองเขาอย่างเย็นชา"นายมีความต้องการทางเพศ ก็ไปหาเจียงฉูฉู่ของนายสิ"ได้ยินดังนั้น แววตาของฉินเย่ก็มึดลงอย่างสิ้นเชิง เขากัดฟันแล้วพูดว่า "ฉันจะหาแค่เธอ ไม่หาใครทั้งนั้น"พูดจบ เขาก็โน้มตัวไปหาริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่กลับโดนเสิ่นหยินอู้ตบหน้า"ออกไป!""ไสหัวไปหาเจียงฉูฉู่ของนายไป อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!""ออกไป!"เสิ่นหยินอู้โกรธจนตัวสั่น รู้สึกว่าตบหน้าเขาแค่ครั้งเดียวไม่พอยังอยากตบอีกฉินเย่จับข้อมือของเธอและพูดว่า "โกรธเหรอ? ช่วงนี้เธอแสดงบทบาทเป็นศรีภรรยาได้ดีเลยไม่ใช่เหรอ? ทําไมถึงไม่แสดงต่อแล้วล่ะ? "พอเสิ่นหยินอู้คิดว่าเขาคิดจะใช้ตนเป็นเครื่องจัดการความต้องการทางเพศทีไร ก็เสียสติทันที ไม่อยากตอบฉินเย่เข้าไปใหญ่ เพียงแค่ออกแรงขัดขืนเท่านั้นเมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้เช่นนี้ ฉินแย่ก็รู้สึกโกรธกว่าเดิม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อนึกถึงคำพูดที่จี้ชิงเป่ยและคุณย่าพูดกับตัวเองไว้ ฉินเย่ก็ยิ่งกำข้อมือของเธอแน่น“คำพูดพวกนี้เธอเป็นคนพูดเอง แล้วทำไมตอนนี้ถึงต้องโกรธด้วย? เสิ่นนั่วนั่ว เธอโกรธอะไร?”ฉินเย่จ้องเธอเขม็งขณะที่ถามคำถามน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 216

    “แล้วก็เมื่อวาน เธอออกไปกับเขาด้วย”เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล“ฉินเย่ นายแอบตามฉันเหรอ?”ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกตื่นตระหนกด้วยเพราะช่วงนี้เธอยังไปโรงพยาบาลด้วย ถึงแม้จะไปพร้อมกับโจวซวงซวง แต่ถ้าฉินเย่เกิดอยากสืบขึ้นมา ก็ไม่เจออะไรอยู่ดี“จำเป็นด้วยเหรอ?” ฉินเย่ย้อนถามไม่จำเป็น? ถ้างั้นเขาคงไม่ได้ส่งคนแอบตามตนสินะ?“แล้วนายรู้ได้ยังไง?”วันที่เจียงฉูฉู่ได้รับบาดเจ็บ ถึงเขาจะรู้ก็ช่างเถอะ เพราะบางทีฉินเย่อาจจะเห็นตอนที่โม่ไป๋ไปส่งเธอที่หน้าประตูวิลล่าก็ได้แต่เรื่องออกไปกินข้าวเมื่อวาน แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่คิดว่าจะเจอโม่ไป๋ที่นั่น แล้วฉินเย่รู้ได้ยังไง?ตอนกลับมา เธอยังนั่งรถแท็กซี่กลับมาด้วยซ้ำ“เธอลนลานมากนะ?” ฉินเย่หัวเราะแห้ง “เสิ่นนั่วนั่ว เธอเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม? เรื่องชั่วๆ ที่เคยทำไว้ ยังไงก็ต้องปรากฏในสักวัน”เสิ่นหยินอู้ “…”เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ สายตาของฉินเย่ก็เคลื่อนลงมาสำรวจมองชุดนอนของเธอ “แล้วก็สไตล์การแต่งตัวของเธอช่วงนี้ ทำเพื่อความชอบของพวกมันใช่ไหมล่ะ?”เสิ่นหยินอู้ “?”“นายพูดจาเหลวไหลอะไรกันแน่? เข้าฤดูหนาวแล้ว

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status