Share

บทที่ 3 ช่วยเหลือ

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2024-12-17 12:15:48

บทที่ 3

ช่วยเหลือ

“คุณลุกขึ้นเดินเองไหวไหม รู้สึกเจ็บปวดตรางไหนหรือไม่” ตงเหวินหมิงเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล เนื่องจากการตกลงมาจากฟ้า ต่อให้หล่นลงมาบนผืนน้ำทว่าร่างกายตรงหน้าก็ยังเป็นมนุษย์ ย่อมต้องมีความรู้สึกเจ็บ ดังนั้นจึงได้เอ่ยถามออกมา

“ฉัน...” หยางเหมยจินเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอนั้นช่างน่าสงสารยิ่งนักบ่งบอกว่าเธอลุกขึ้นไม่ไหวจริง ๆ  

“ขออนุญาตครับ คุณขึ้นหลังผมเถอะ เวลานี้พวกเราน่าจะไม่พบหรือว่าเจอกับชาวบ้านแล้วล่ะ มาเถอะจะได้รีบกลับบ้าน” ชายหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ตอนนี้ก็ค่ำพอสมควร ชาวบ้านก็เข้าบ้านเรือนของตัวเองไปหมดแล้ว ทำให้เขาคลายความกังวลลงเล็กน้อย

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเบา ๆ

เมื่อลุกเดินเองไม่ได้ แม้ว่าการที่จะขึ้นหลังของชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักจะไม่เป็นการเหมาะสมมากนัก แต่ทว่าหยางเหมยจินกลับเลือกที่จะละทิ้งความคิดจากอดีตทั้งหมดไป แล้วยอมให้

ชายหนุ่มพยุงลุกขึ้น ก่อนจะไปอยู่บนหลังของอีกฝ่ายเพื่อให้เขาพากลับที่พัก

ระหว่างทางทั้งสองไม่มีใครพูดอะไร ต่างก็จมอยู่ในความคิดของตนเอง จวบจนตงเหวินหมิงสาวเท้ายาว ๆ มาถึงบ้านหลังหนึ่ง

“พ่อ!!” เด็กชายหญิงสองแฝดวัยสิบขวบร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นพ่อของตนพาใครมาด้วย ต่างจากทุกครั้งที่พ่อจะไปว่ายน้ำและอาบน้ำในยามค่ำคืน แถมการมาครั้งนี้ก็ไม่ปกติ นั่นคือมีการขี่หลังกันมาด้วย คนเป็นพ่อรีบวางหญิงสาวลงเมื่อเห็นสายตาของลูกสาว

“พ่อพาผู้หญิงเข้าบ้านหรือคะ”

เด็กน้อยนามว่าตงฟางลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่พ่อพามาชัด ๆ มือทั้งสองข้างประสานกันตรงกลางอก พร้อมกับยกมุมปากขึ้นน้อย ๆ บ่งบอกว่าเธอไม่พอใจการกระทำของพ่อตนเองอย่างมาก

“เธอคนนี้ชื่อว่าเหมยจิน ลี่ลี่อย่าเพิ่งโวยวายใส่พ่อ เราเข้าไปคุยกันในบ้านก่อน เรื่องนี้อย่าเพิ่งให้คนนอกรู้เรื่อง น้าเขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น และพ่ออยากถามความคิดของเราทั้งสองคนก่อนตัดสินใจอะไรบางอย่าง” ตงเหวินหมิงรีบห้ามลูกสาวตนเองไว้ทันที ก่อนที่เด็กน้อยจะอาละวาดมากกว่านี้ ยิ่งเห็นท่าทางแบบนี้ก็อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้

“ได้ค่ะ แต่พ่อต้องมีคำตอบที่ดีให้กับลี่ลี่นะคะ ส่วนน้าคนนี้ถ้าน่าสงสารจริง เราสองพี่น้องยินดีที่จะทำตามที่พ่อบอก” เด็กน้อยตงฟางลี่เมื่อพูดจบก็เดินนำทุกคนเข้าบ้าน ทิ้งให้พี่ชายที่ยังไม่ทันได้พูดหรือตอบอะไร ยืนเกาหัวตนเองแกรก ๆ ก่อนจะมองหน้าผู้เป็นพ่อ

“เรื่องยากสำหรับเราสองคนแล้วล่ะอาหยวน น้องสาวของเราเป็นเจ้าบ้านแทนพ่อมานานแล้ว”

ผู้เป็นพ่อกล่าวกับลูกชายอีกคนพร้อมรอยยิ้ม เนื่องจากบ้านตงแห่งนี้ คนที่ใหญ่สุดของบ้านไม่ใช่ผู้เป็นพ่อ แต่เป็นน้องเล็กของบ้าน แถมยังเป็นดวงใจของพ่อและพี่ชายอีกด้วย

“นั่นสิครับพ่อ” ตงจี้หยวนก็ตอบพ่อกลับไปอย่างอ่อนใจ

“งั้นเรารีบเข้าบ้านเถอะ ก่อนที่ลี่ลี่จะอารมณ์เสียที่เราชักช้า ไปกันเถอะคุณ” ตงเหวินหมิงเอ่ยบอกกับลูกชายและหันมาชักชวนหญิงสาวที่ตอนนี้ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ  ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

หยางเหมยจินได้แต่ยิ้มขำกับอาการของผู้เป็นพ่อและลูกชายที่ดูจะกลัวเด็กสาวเพียงหนึ่งเดียวของบ้าน ทั้ง ๆ ที่เด็กน้อยคนนั้นอายุไม่เท่าไร ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามทุกคนเข้ามาในบ้าน และหวังว่าตนเองจะผ่านการทดสอบของเด็กน้อยที่มีตำแหน่งไม่ต่างจากเจ้าบ้านหลังนี้

เมื่อทุกคนเข้ามาในบ้านแล้ว ตงเหวินหมิงจึงเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ลูกทั้งสองฟัง แต่ก็เลือกที่จะปิดบังเรื่องที่หญิงสาวตกลงมาจากฟ้า โดยบอกว่าเห็นเธอหมดสติลอยตามน้ำมา ทำให้เด็กน้อยทั้งพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่เพราะตงฟางลี่ยังมีอาการหวงพ่อเลยยังไม่ยินยอมเท่าไร

“แต่มันไม่ค่อยดีหรอกค่ะพ่อ ลี่ลี่คิดว่าเรื่องนี้คงต้องคิดและทบทวนอีกหน่อย ตอนนี้ลี่ลี่ยังไม่อยากมีแม่ใหม่”

เด็กน้อยวัยสิบขวบคิ้วขมวด แม้จะสงสารน้าคนนี้มากก็ตามแต่เธอก็ยังไม่อยากไว้ใจ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้หญิงในหมู่บ้านมักทอดสะพานให้พ่อของเธอเสมอ ยิ่งลูกสาวบ้านซูยิ่งแล้วใหญ่ นั่นก็เช้าถึงเย็นถึงจนน่ารำคาญ

พอได้ยินความในใจของเด็กน้อยตรงหน้า หยางเหมยจินก็รีบยกมือขึ้นก่อนจะโบกไปมาเพื่อปฏิเสธ

“ลี่ลี่เข้าใจฉันผิดแล้ว คุณเหวินหมิงเป็นเพียงผู้มีพระคุณของฉันเท่านั้น ฉันไม่ได้คิดจะมาเป็นแม่เลี้ยงของลี่ลี่เลยนะ แต่หากลี่ลี่และทุกคนไม่สบายใจ ฉันจะลองไปขอความช่วยเหลือคนอื่นดู เพราะที่นี่ฉันไม่รู้จักใครเลย” ท้ายประโยคเธอก้มหน้าลงพูดอย่างเศร้าสร้อย

เรื่องนี้เธอคิดว่าตนเองไม่ได้โกหก คนที่ข้ามเวลามาเป็นพันปีอย่างเธอจะมีคนรู้จักที่นี่ได้อย่างไร 

“แล้วทำไมน้าเหมยถึงแต่งตัวเหมือนคนโบราณแบบนี้ล่ะ มันไม่เหมือนที่พวกเราใส่เลยนะคะ”

ไม่รู้เพราะว่าตงฟางลี่ฉลาดเกินไป หรือเพราะเสื้อผ้าที่หยางเหมยจินสวมใส่นั้นสะดุดตาจริง ๆ ทำให้เด็กน้อยอดที่จะถามไม่ได้ แล้วสายตานั้นมองคล้ายกับจะจับผิด จนหยางเหมยจินเลือกที่จะพูดความจริงออกมาเอง

“ข้าไม่ใช่คนที่นี่ และเจ้าไม่ต้องคิดว่าข้าวิปลาส ข้าคือ...”

จากนั้นหยางเหมยจินจึงเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองคนฟังอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังด้วยภาษาของคนยุคนาง และมองท่าทางของเด็กน้อยทั้งสองคนว่าหวาดกลัวเธอหรือไม่ ทว่าสายตาที่เห็นนั้นมีเพียงความสงสารและสงสัยเท่านั้น

“น้าเหมยต้องพูดเหมือนคนที่นี่ หากน้ายังแทนตัวเองว่าข้า น้าจะถูกมองว่าวิปลาสหรือเป็นบ้าจริง ๆ” ตงฟางลี่เอ่ยขึ้นมาหลังจากฟังจนจบ

เวลานี้ในใจของเด็กน้อยนั้นไม่คิดถึงเรื่องหวงพ่ออีกแล้ว คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะช่วยน้าคนนี้ได้ พลัดถิ่นมาจากบ้านเมืองที่รู้จักคงรู้สึกไม่ดี หากเป็นเธอเองเมื่อต้องแยกจากพ่อคงรู้สึกแย่เหมือนกัน

“ขอบใจมากนะลี่ลี่ น้าจะพยายามพูดให้เหมือนคนที่นี่ก็แล้วกัน” หยางเหมยจินตอบกลับมาเป็นภาษาของที่นี่อย่างไม่ยุ่งยากมากนัก เพราะทุกอย่างไหลเข้ามาในหัวของเธอตอนที่ผ่านกาลเวลามา

  หญิงสาวมองเด็กน้อยที่มีอำนาจที่สุดของบ้านด้วยใจที่อบอุ่น แม้ว่าจะพลัดถิ่นข้ามภพมา อย่างน้อยเธอก็เจอคนที่จิตใจดี เพราะหากไปเจอคนชั่วเธออาจจะถูกขายไปเป็นทาสของบ้านไหนสักแห่ง

เมื่อไม่มีใครกล่าวหรือพูดคุยอะไรอีก สามพ่อลูกได้แต่มองตากันคล้ายกับปรึกษา นี่จึงทำให้หยางเหมยจินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย และเตรียมจะเดินไปอีกทางอื่น เพื่อให้สามพ่อลูกได้พูดคุยกัน

“คุณไม่ต้องไปหรอก ผมและลูก ๆ ยินดีที่จะให้คุณอยู่ด้วย ส่วนในฐานะอะไรนั้น ค่อยมาพูดคุยและปรึกษากันอีกครั้ง แต่หากคุณต้องการอยู่ที่นี่จริง ๆ คุณต้องอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปให้ใครเห็นเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”

สุดท้ายแล้วตงเหวินหมิงก็ยินยอมให้หยางเหมยจินอยู่ด้วย แต่ต้องเป็นไปตามข้อตกลงที่เขายื่นเสนอขึ้นมา

“เพราะอะไรคะ” หยางเหมยจินถามออกไปด้วยความสงสัย

“เพราะน้าเหมยยังไม่มีบัตรและเอกสารประจำตัว หากมีการตรวจค้นและไม่รู้ความเป็นมาที่แน่ชัด อาจจะโดนจับไปสอบสวนได้ ลี่ลี่พูดถูกไหมคะพ่อ” ตงฟางลี่เป็นคนตอบกลับมาแทน แม้ว่าอายุเพียงสิบปี ทว่าความคิดและความฉลาดของเด็กน้อยนั้น นับว่าดีเลิศกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน

นั่นทำให้ผู้เป็นพ่อต้องพยักหน้าและยิ้มให้อย่างอ่อนโยนจากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “ใช่แล้วลูก ลี่ลี่ของพ่อนั้นกล่าวมาถูกต้องที่สุดแล้ว”

เมื่อเอ่ยชมลูกสาวของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้หันมาพูดกับหยางเหม่ยจินต่อ

“ที่นี่ไม่เหมือนกับที่ที่คุณจากมา คุณต้องทำตามกฎของที่นี่เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาได้ ยิ่งเวลานี้หากมีใครรู้ว่าคุณเป็นพวกมีศักดินาก็จะไม่ปลอดภัย เข้าใจที่ผมพูดใช่หรือไม่อาเหมย”

ชายหนุ่มอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็นและเรียกเธออย่างสนิทสนม

หยางเหมยจินได้แต่พยักหน้าด้วยความงุนงง เนื่องจากเธอนั้นไม่ใช่คนในยุคนี้แต่ก็คิดจะทำตามโดยดี

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะทำตามที่ทุกคนบอก แล้วขอบคุณมากนะคะที่ให้ข้า เอ๊ย…ไม่ใช่ ที่ให้ฉันได้มาอาศัยอยู่ด้วย ฉันขอสัญญาว่าจะช่วยงานบ้านทุกอย่าง โดยไม่ให้พวกคุณต้องเดือดร้อนกับการที่ช่วยฉันไว้” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มเต็มใบหน้า

“แต่ผมคิดว่าเราควรจะคิดแผนการล่วงหน้านะครับพ่อ หากเกิดมีใครมาพบน้าเหมยเข้า เราจะบอกคนพวกนั้นอย่างไร” ตงจี้หยวนนั่งเงียบอยู่นานจึงได้เอ่ยขึ้นมา

นี่จึงทำให้ทุกคนต้องหันมามอง พร้อมกับคิดตาม

“ที่อาหยวนพูดมาพ่อเข้าใจนะ แต่เวลานี้เรายังไม่รู้ว่าจะให้เหมยจินอยู่กับพวกเราในฐานะอะไร เพื่อไม่ให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียง” ตงเหวินหมิงพูดขึ้นมาอย่างคิดไม่ตกเช่นกัน

เรื่องนี้ไม่ใช่ตงเหวินหมิงไม่คิด แต่เพราะว่าไม่รู้จะบอกชาวบ้านหรือคนภายนอกอย่างไรต่างหาก ช่วงนี้เขาเลยอยากให้หยางเหมยจินอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปให้คนอื่นพบเห็น จนกว่าเขาจะหาทางออกได้ ส่วนเรื่องเอกสารค่อยว่ากันอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร หากให้พวกใต้ดินจัดหาให้คงจะเสียเงินไม่น้อย และเรื่องเงินคือปัญหาของเขาเหมือนกัน หากเป็นเมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาจะไม่เคร่งเครียดแบบนี้เลย

“ถ้าบอกว่าเป็นญาติเราได้ไหมครับพ่อ” ตงจี้หยวนถามขึ้นมา

“ไม่ได้ เพราะถ้าจะบอกว่าน้าเหมยจินคือญาติเรา คงจะไม่มีใครเชื่อ ในเมื่อพ่อและลูกทั้งสองย้ายมาอยู่หมู่บ้านนี้เป็นสิบปีแล้ว ยังไม่เคยมีญาติมาเยี่ยมเลยสักครั้ง” ตงเหวินหมิงตอบกลับไปทันที

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 4 อยู่ด้วยกัน

    บทที่ 4 อยู่ด้วยกัน“แล้วถ้าบอกว่าฉันเป็นสาวใช้ละคะ ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรใช่หรือไม่ ตอนมาที่นี่ฉันน่าจะมีทรัพย์สินติดตัวมาบ้าง อย่างน้อยเครื่องประดับก็ยังดี”ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนเอง เธอจึงเลือกที่จะเสนอความคิดเห็นออกมา แต่คำพูดของเธอนั้น ทำให้สามพ่อลูกส่ายหน้าหัวแทบหลุด และร้องออกมาอย่างตกใจพร้อมกันว่า“ไม่ได้!!”หยางเหมยจินไม่เข้าใจว่า ‘ไม่ได้’ นี่คือคำพูดไหนของเธอ“เรื่องสาวใช้นั้นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย แล้วคุณไม่ต้องคิดเรื่องนี้ด้วย บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนในเมืองที่จะมีเงินมาจ้างสาวใช้ไว้ดูแล อีกอย่างพวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาทั้งนั้น เรื่องในบ้านต่าง ๆ ล้วนแต่ทำเอง ส่วนเรื่องเครื่องประดับไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะบางอย่างเป็นสิ่งของต้องห้ามของที่นี่” ชายหนุ่มรีบบอกกับเธอให้เข้าใจจากนั้นตงเหวินหมิงก็เลือกที่จะเล่าเรื่องราวของยุคนี้ให้หญิงสาวตรงหน้าฟังอย่างละเอียด โดยมีลูกทั้งสองคนคอยสลับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เช่นกันเมื่อได้ฟังทุกอย่าง หยางเหมยจินก็พยักหน้าเข้าใจ ยุคสมัยนี้แตกต่างจากบ้านเกิดเมืองนอนของเธอไม่น้อย หรืออาจจะเรียกว่าแตกต่างแทบจะทุกอย่างก็ว่าได้“เอาเป็นว่าคุณอา

    Last Updated : 2024-12-19
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 5 ย้อนกลับไปที่เคยจากมา

    บทที่ 5 ย้อนกลับไปที่เคยจากมามื้อเช้านี้ทุกคนมานั่งกินกันอย่างพร้อมเพรียง เด็กน้อยทั้งสองคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย รวมถึงหยางเหมยจินด้วย เธอไม่คิดว่าพ่อม่ายอย่างตงเหวินหมิงจะทำอาหารได้อร่อยอย่างนี้“เป็นอย่างไรบ้างคะน้าเหมย พ่อของลี่ลี่ทำอาหารอร่อยหรือไม่คะ” ตงฟางลี่หันมายิ้มกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวด้วยความภาคภูมิใจ เด็กสาวรู้ดีว่าอาหารที่พ่อของเธอนั้นทำอร่อยแค่ไหน จึงได้หันมาถามเพื่ออวดความสามารถของพ่อตนเอง“อร่อยมาก อร่อยกว่าพ่อครัวบ้านน้าเสียอีก”หยางเหมยจินตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เรื่องนี้เธอพูดไม่ผิดนัก ความสามารถในการทำอาหารของตงเหวินหมิงนั้นเข้าขั้นพ่อครัวใหญ่ได้เลย ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีความสามารถด้านนี้“อย่ามัวแต่พูดกันอยู่เลย จะไม่ทันขึ้นเกวียนไปโรงเรียนนะ” ตงเหวินหมิงคุ้นชินกับอาการของลูกสาวตัวแสบเสียแล้ว จึงได้เร่งให้ทุกคนรีบกินมื้อเช้า ไม่เช่นนั้นคงต้องไปขึ้นเกวียนไม่ทันแล้วจะไปโรงเรียนสายเป็นแน่“ค่ะพ่อ / ครับพ่อ” สองแฝดรับคำแข็งขันก่อนจะรีบกินอาหารเช้าทันทีเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หยางเหมยจินจึงเดินไปหยิบห่อข้าวมาให้เด็กน้อยทั้งสองคน “นี่คือห่อข้าวอาหารกลางวันของทั้งสองคน

    Last Updated : 2024-12-19
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 6 เบื้องหลังของตงเหวินหมิง

    บทที่ 6 เบื้องหลังของตงเหวินหมิงไม่นานหญิงสาวก็เดินมาถึง ในครัวนี้เต็มไปด้วยอาหารมากมาย มีทั้งเนื้อสดและเนื้อตากแห้ง ผักผลไม้ เอาเป็นว่าครัวนี้มีครบทุกอย่างสมกับเป็นครัวของตระกูลหยางที่ยิ่งใหญ่แต่ทว่าในขณะที่กำลังหยิบเนื้อหมูชิ้นโตเตรียมจะทำอะไรกิน กลับได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชายหนุ่มเจ้าของบ้านขึ้นมา“พี่เหวินหมิง พี่อยู่บ้านหรือไม่”ซูหว่านตะโกนเรียกตงเหวินหมิงอยู่หน้าบ้าน เพราะเธอได้ยินว่าหัวหน้าคอมมูนให้เขาไปเอาปุ๋ยและของใช้ที่สำนักงานในเมือง เธอเลยตั้งใจว่าจะขอตามไปด้วย ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเขาแวะมาที่บ้าน เธอเลยรีบตามมาด้วยความตกใจเสียงเรียก หยางเหมยจินจึงนึกถึงบ้านตง จากนั้นแสงที่สร้อยก็ปรากฏขึ้นมาชั่วขณะ และเมื่อแสงสว่างดับลง เธอก็พบตัวเองได้กลับมายังบ้านตงอีกครั้ง พร้อมกับเนื้อหมูชิ้นโตที่หยิบติดมือมาด้วย แม้อยากจะตะโกนร้องถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ หญิงสาวจึงหลบซ่อนอย่างเงียบเชียบเพราะกลัวอีกฝ่ายจะบุกเข้ามา“สงสัยจะเข้าเมืองไปแล้ว พี่เหวินหมิงนะพี่เหวินหมิง จะรอกันหน่อยก็ไม่ได้” ซูหว่านกระทืบเท้าด้วยความขัดใจที่ตามมาไม่ทันชายหนุ่ม ก่อนจะหมุน

    Last Updated : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 7บอกเรื่องมิติ

    บทที่ 7บอกเรื่องมิติตงเหวินหมิงเมื่อออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่แล้ว ชายหนุ่มก็มุ่งหน้ากลับเข้าหมู่บ้านทันที โดยไม่ลืมแวะซื้ออาหารติดมือไปด้วย“เรียบร้อยแล้วครับหัวหน้า ผมขอกลับบ้านสักครู่นะครับ จะขอเอาของที่ซื้อมาจากในเมืองไปเก็บก่อนและจะได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วย” ชายหนุ่มเข้ามารายงานหัวหน้าคอมมูนและขออนุญาตกลับไปที่บ้าน เพราะจะเอาอาหารไปกินพร้อมหญิงสาว เขากลัวว่าเธอจะหิวเพราะนี่ก็บ่ายมากแล้ว“ขอบใจนะ นายไปเถอะ นี่ก็บ่ายคล้อยแล้วรีบกลับไปกินข้าวเที่ยงก่อนเถอะ วันนี้นายจะหยุดงานช่วงบ่ายไปเลยก็ได้นะเพราะอีกไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวฉันลงเวลาให้เต็มเอง” หัวหน้าคอมมูนตอบกลับอย่างมีน้ำใจ โดยให้ตงเหวินหมิงหยุดงานในช่วงบ่ายนี้แทน แต่ก็ยังลงเวลาเต็มวันให้“ขอบคุณครับหัวหน้า แต่อย่าดีกว่าครับ ผมไม่อยากให้ใครมองว่าผมเอาเปรียบ ถ้าผมไม่มาก็ไม่ต้องลงเวลาให้หรอกครับ ลงเท่าที่ผมทำงานก็แล้วกัน”ตงเหวินหมิงตอบกลับทันที เขาไม่ต้องการให้ใครมาตำหนิได้ว่าไม่ทำงานแต่ยังได้รับคะแนนเต็มวัน และเขาตั้งใจแล้วว่าช่วงบ่ายวันนี้จะขอลาหยุดพอดี เมื่อหัวหน้าเปิดโอกาสเขาจึงรีบรับทันที“เช่นนั้นก็ตามใจเถอะ รีบกลับไปกิ

    Last Updated : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 8 มาหาถึงบ้าน

    บทที่ 8 มาหาถึงบ้าน“ที่นี่คือ…” ตงเหวินหมิงอดที่จะถามไม่ได้ สายตาคมเข้มประดุจเหยี่ยวสำรวจรอบ ๆ ด้วยความสนใจไม่ใช่เพราะที่นี่คือที่ที่เก็บอาหารและสิ่งของมากมาย แต่ที่นี่กลับทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนต่างหาก“ที่นี่คือจวนตระกูลหยาง ก่อนแต่งงานฉันก็อยู่ที่นี่ล่ะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างร่าเริงเมื่อมายังสถานที่ที่คุ้นเคย หยางเหมยจินจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับเล่าถึงคนในครอบครัวให้อีกฝ่ายฟัง ซึ่งเขาก็นั่งฟังอย่างใส่ใจ“จริงสิ ฉันได้ยินว่าคุณมักจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์อยู่เสมอ ในจวนแห่งนี้มีห้องเก็บอาวุธ คุณลองไปดูธนูไหมเผื่อว่าจะได้ที่ถูกใจ จากนั้นเราค่อยไปเลือกผ้าเอามาตัดชุดให้กับทุกคน ฉันไม่กล้าเลือกเองเพราะไม่รู้ว่ายุคของคุณใส่เสื้อผ้าแบบไหน และใส่สีสดใสได้หรือเปล่า”หยางเหมยจินพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตงเหวินเมิงต้องไปล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารให้ลูกๆ เธอจึงเสนอให้เขาไปเลือกอาวุธที่มีมากมายในจวนแห่งนี้ ส่วนเรื่องเสื้อผ้านั้น เท่าที่ดูจากการแต่งกายของสามคนพ่อลูกเธอเห็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดา แม้จะไม่มีรอยปะแต่ก็ไม่ได้ใหม่นัก อีกทั้งยังไม่มีสีสดใสเลย จึงอยากจะตัดเย

    Last Updated : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 9 ออกหน้าช่วยเหลือ

    บทที่ 9 ออกหน้าช่วยเหลือ“แล้วเรื่องนี้ผมควรจะทำอย่างไรดี พูดไปชาวบ้านคงไม่เชื่ออย่างที่คุณบอก” ตงเหวินหมิงเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าบอก เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายและไม่ค่อยสนใจคำครหาของชาวบ้าน แต่ลืมไปว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะกระทบกับลูกทั้งสองคน โดยเฉพาะลูกสาวอย่างตงฟางลี่“เรื่องนี้ฉันจัดการเองถ้าคุณไม่ตำหนิฉันนะ หากไม่เช่นนั้นแล้วผู้หญิงคนนั้นคงไม่หยุดวุ่นวายกับคุณแน่” หยางเหมยจินคล้ายกับจะตัดสินใจบางอย่าง เนื่องจากเธอไม่มีอะไรจะให้เสียหายแล้ว ชื่อเสียงสำหรับเธอเป็นเพียงแค่ของประดับเท่านั้น การที่จะได้ช่วยผู้มีพระคุณทำให้เธอยอมที่จะแลก“อย่าบอกนะว่าคุณจะ...” ตงเหวินหมิงเหมือนจะเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ จึงได้มีสีหน้าตกใจ“ใช่ค่ะ เรื่องอื่นปล่อยไว้ก่อน หากทำแบบนี้อย่างน้อยฉันก็สามารถออกมาจากบ้านของคุณและช่วยงานทุกคนได้ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ ถ้าเมื่อไรที่คุณมีหญิงสาวที่ชอบ ฉันจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอคนนั้นได้รับรู้ด้วยตัวเอง คุณคิดเห็นว่าอย่างไร” หญิงสาวคิดว่าเขารู้แล้วว่าเธอจะทำอะไร จึงบอกเขาไม่ให้กังวลหากเขามีคนรักในภายหลัง“คุณคิดดีแล้วใช่ไหมที่จะทำแบบนี้ แต่คุณจะเส

    Last Updated : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 10 อย่าคิดว่าร้ายไม่เป็น

    บทที่ 10 อย่าคิดว่าร้ายไม่เป็นเมื่อได้ยินเสียงผู้เฒ่าเอ่ยถาม ตงเหวินหมิงที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบ้านหม่าอยู่แล้ว จึงตอบกลับมาตามที่นัดแนะกับหยางเหมยจินไว้ พร้อมกับรู้สึกผิดและขอโทษเธออยู่ในใจที่ทำให้ต้องมาออกหน้าในเรื่องวุ่นวายเช่นนี้“ผู้หญิงคนนี้ชื่อหยางเหมยจินครับปู่หม่า เธอคือคู่หมั้นของผม ส่วนเรื่องที่ผมและอาเหมยหมั้นหมายกันได้อย่างไรและเมื่อไร ผมขอไม่ขยายความนะครับ ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องแต่งงาน เรามองกันว่ากลางปีหน้าจะจัดงานอย่างถูกต้องครับ”“ละ แล้ว ทำไมนังคนนี้ถึงได้มาอาศัยในบ้านของพี่ล่ะ เป็นแค่คู่หมั้นไม่ใช่เมียพี่เสียหน่อย” ซูหว่านเอ่ยถามอีกครั้งด้วยอาการที่จ้องจะจับผิดแต่กลายเป็นหยางเหมยจินที่รั้งแขนของตงเหวินหมิงไว้ และตอบคำถามประโยคนี้ด้วยตัวเอง ใครจะมองว่าเธอเป็นหญิงน่ารังเกียจเธอก็ไม่สนใจแล้วในตอนนี้ ขอแค่ช่วยให้ชายหนุ่มหลุดออกจากมือของผู้หญิงคนนี้ก็พอ“การที่หญิงชายอยู่ด้วยกัน แม้ว่ามันจะไม่เหมาะสมหรือไม่คู่ควร ในเมื่อฉันและพี่หมิงเป็นคู่หมั้นกันแล้ว เรื่องในมุ้งของเราสองคนคงไม่ต้องให้ใครมายุ่งวุ่นวาย อีกทั้งเรื่องนี้อาหยวนกับลี่ลี่ก็รับรู้แล

    Last Updated : 2024-12-22
  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 11 พบเจอคนคุ้นเคย

    บทที่ 11 พบเจอคนคุ้นเคยเมื่อเข้ามาในบ้านตง ทั้งสามได้แต่มองหน้ากันไปมา แม้แต่เกาซื่อหลินก็เงียบปากสนิท จนตงเหวินหมิงคิดว่าเรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป และคิดให้หญิงสาวทั้งสองคนพูดคุยกันเลยลุกขึ้นยืนและจะเดินเลี่ยงไปทางหลังบ้าน แต่ทว่าหยางเหมยจินกลับรั้งเขาไว้“คุณไม่ต้องไปไหนหรอกค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณเการู้ได้อย่างไรว่าเราไม่ได้เป็นคู่หมั้นกัน ฉันคิดว่าคุณอยู่ฟังด้วยดีกว่าค่ะ”หยางเหมยจินเวลานี้คิดว่าชายหนุ่มคือคนในครอบครัว อย่างไรเธอคิดว่าเขาควรจะอยู่ด้วยเกาซื่อหลินไม่พูดอะไรเมื่อหยางเหมยจินทำแบบนี้ แต่ทว่าใบหน้างามกำลังอาบไปด้วยน้ำตา ไม่คิดว่าสามวันที่เธออยู่ที่นี่อย่างเดียวดาย สุดท้ายแล้วก็เจอเข้ากับหวางเฟยอีกครั้ง เกาซื่อหลินคุกเข่าตรงหน้าหยางเหมยจิน จนทำให้ทั้งสองคนตกใจ ก่อนที่จะยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเธอจะคลานเข้าไปกอดขาหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะเรียกเธอเบาๆ ว่า “หวางเฟยของบ่าว”เมื่อพบว่าอีกฝ่ายใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาและพยายามกลั้นเสียงร้องไห้ไว้ก็ยิ่งตกใจ แม้แต่ตงเหวินหมิงยังแปลกใจกับการกระทำของหญิงสาวจากบ้านเกา“เดี๋ยวก่อนคุณเกานี่คุณกำลังทำอะไร อย่าทำแบบนี้เลย ว่าแต่เมื่อครู่นี้คุณเรี

    Last Updated : 2024-12-22

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวง

    ตอนพิเศษ 4 คุณพ่อจอมหวงวันเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่สองพี่น้องฝาแฝดอย่างตงจี้หยวนและตงฟางลี่ก็เติบโตขึ้นและแม้ว่าทั้งสองคนจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ทั้งสองคนก็ยังคงใช้แซ่ตงเหมือนเดิม ส่วนแซ่เดิมของพ่อแม่นั้นจะเอาไว้ให้ลูก ๆ ในอนาคตเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้จะเรียนจบระดับมหาวิทยาลัยแล้ว คนพี่นั้นเริ่มเข้ามาช่วยดูแลงานในบริษัทของพ่อ และสมบัติที่พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไว้ให้ เลยไม่ค่อยมีเวลาตัวติดกับน้องสาวเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปดูงานที่บริษัท แต่น้องสาวขอไปดูหนังกับเพื่อน“พี่ใหญ่ วันนี้ฉันขอไปดูหนังได้ไหม” ตงฟางลี่เอ่ยขอพี่ชายอย่างออดอ้อน“พี่น่ะให้ไปได้ ว่าแต่เราโทรขออนุญาตพ่อหรือยัง แล้วจะดูหนังรอบไหนกัน นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”ชายหนุ่มตอบกลับน้องสาวอย่างไม่คิดอะไร สำหรับตัวเขานั้นไม่เท่าไร แต่พ่อนี่สิคงไม่ยอมอนุญาตง่ายๆ แน่ เพราะพ่อเป็นคุณพ่อจอมหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน ดูอย่างน้องสาวคนเล็กที่อายุแค่ไม่เท่าไรสิ พ่อยังแทบจะไม่ให้ผู้ชายอุ้มแล้ว ความหวงของพ่อที่มีต่อน้องสาวเกินขอบเขตจริง ๆ และนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงอาอี้ข่ายที่เป็นเหมือนกันราวกับถอดแบบกันมาเลยทีเ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดก

    ตอนพิเศษ 3 คุณพ่อลูกดกหลังจากจบเรื่องตระกูลเกา ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ซึ่งเกาเทียนอี้และเกาซื่อหลินก็ไม่คิดจะกลับไปเหยียบตระกูลเกาอีกเลย และได้ข่าวว่าเกาเสี่ยวจิงถูกคนตระกูลหุ้ยบอกเลิกการหมั้นหมายและไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์ส่วนสองแม่ลูกแม้จะอยู่ตระกูลเกาต่อ แต่สถานะของทั้งสองก็อยู่ยิ่งกว่าสาวใช้ สาเหตุที่ท่านนายพลไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ก็เพราะไม่ต้องการอับอายคนในสังคม และที่สำคัญเขาได้เอาผู้หญิงที่เลี้ยงไว้นอกบ้านเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์และยกเป็นนายหญิงคนใหม่ เลยทำให้เฟ่ยเจียแค้นใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเองได้ก่อไว้พอเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตงเหวินหมิงคิดจะจัดงานเลี้ยงเปิดตัวเองและภรรยารวมถึงทุกคนให้สังคมได้รับรู้ แต่กลับถูกภรรยาห้ามไว้ เพราะเธอกำลังท้องเลยไม่อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นมา โดยได้บอกกับสามีว่าค่อยจัดงานเปิดตัวตอนเธอคลอดลูกแล้วก็ยังไม่สายแต่เมื่อถึงเวลา หยางเหมยจินก็บ่ายเบี่ยงอีก เพราะเธออยากอยู่อย่างสงบกับลูกไม่อยากวุ่นวายกับใคร เพราะการเปิดตัวนั้นคงทำให้มีแต่คนเข้าหาเธอในฐานะนายหญิงตงจนเวลานี้เธอตั้งท้องครั้งที่สามแล้ว เพราะสองท้องที่ผ่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่

    ตอนพิเศษ 2 ทวงคืนสินเดิมของแม่หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น สองแม่ลูกจากตระกูลเกาแทบจะนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าตงเหวินหมิงจะบุกมาพบกับท่านนายพลถึงตระกูลเกา แต่เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองคนกลับมาเชิดหน้าเหมือนเดิม“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เหมือนว่าสัปดาห์ก่อนคุณจะพูดอะไรเหรอ” นายพลเกาเอ่ยถามภรรยาหลังจากสะสางงานตนเองเสร็จแล้ว ตอนนั้นเขากำลังวุ่นกับงานอยู่ เลยไม่ได้ฟังอะไรเธอมากมายนัก“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรื่องไม่สำคัญแล้วล่ะ คุณทำงานของคุณเถอะ จริงสิ ฉันลืมบอกคุณไปว่าต้นเดือนหน้าทางตระกูลหุ้ยจะเข้ามาพูดคุยเรื่องหมั้นหมายระหว่างลูกชายบ้านนั้นกับเสี่ยวจิงของเรานะคะ” เฟ่ยเจียตอบกลับไปอย่างอ่อนหวานและเปลี่ยนเรื่องไปพูดในเรื่องที่เธอมีความยินดีอย่างมากจะว่าไปเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเฟ่ยเจียไม่ใช่เรื่องของตระกูลตงจะเข้ามาที่นี่หรือไม่ แต่เป็นเรื่องการแต่งงานและหมั้นหมายของลูกสาวมากกว่าพอท่านนายพลเกาได้ยินเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็ก ก็อดคิดถึงลูกสาวคนโตที่หายไปจากบ้านหลายปีแล้ว รวมถึงลูกชายที่ไปเป็นทหาร ซึ่งไม่รู้เวลานี้ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพราะขา

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัว

    ตอนพิเศษ 1 หาเรื่องใส่ตัวหลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ปักกิ่ง เกาซื่อหลินก็ยังคงช่วยงานของหยางเหมยจินเหมือนเดิมพร้อมกับดูแลพี่สาวบุญธรรมไปด้วย วันนี้ทั้งสองออกมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเพียงลำพัง เพราะสองแฝดไปเรียนหนังสือ ตงเหวินหมิงกับตู้อี้ข่ายก็ไปทำงาน“นี่เสี่ยวหลิน ไม่ต้องคอยระมัดระวังขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ท้องนะไม่ใช่คนป่วยสักหน่อย” หยางเหมยจินพูดพึมพำออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะตั้งแต่เธอตั้งท้อง ทุกคนก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลย เธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว“พี่เหมยจินก็พูดไป ถ้าเกิดพี่เดินไม่ระวังแล้วสะดุดล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ ต่อให้มีคนของพี่เขยติดตามมาด้วย ใช่ว่าจะมีคนกล้าแตะต้องตัวพี่นะ หน้าที่นี้เป็นของฉัน อย่างไรฉันก็ต้องคอยดูไว้ก่อน” เกาซื่อหลินโต้แย้งกลับทันที เพราะเธอต้องระวังความปลอดภัยให้กับพี่สาวคนนี้ เลยทำให้ต้องดูเหมือนทำเกินจริงไปหน่อย แต่ป้องกันไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ“เอาเถอะ แล้วแต่เธอก็แล้วกัน นั่นร้านขายขนมฝรั่งเปิดใหม่หรือเปล่า เราลองเข้าไปดูกันเถอะ” หยางเหมยจินคร้านจะเถียงกับอีกฝ่าย เมื่อเห็นร้านขนมเปิดใหม่จึงชวนอีกฝ่ายไปดู เนื่องจากขนมพวกนี้เธอกินแล้วติด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการ

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่ต้องการสามปีต่อมา... หลังจากวันนั้นวันที่ตงเหวินหมิงกลับมา นั่นจึงทำให้หยางเหมยจินคลายความกังวลและรู้สึกดีใจที่เขาปลอดภัย โดยที่ตงเหวินหมิงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังเธออย่างละเอียด แล้วยังบอกอีกว่าเวลานี้เขาล้างมลทินให้ตระกูลตงเรียบร้อยแล้ว รวมถึงตระกูลของพี่เขยด้วย ก่อนจะบอกความจริงกับเด็กน้อยทั้งสอง ซึ่งแม้ทั้งสองคนจะรับรู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลาน แต่ทั้งสองก็ยังคงเรียกตงเหวินหมิงว่าพ่อ และเรียกหยางเหมยจินว่าแม่เหมือนเดิมส่วนเรื่องบ้าน ทั้งหมดได้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านที่รู้ความจริงว่าตงเหวินหมิงคือนายท่านหยางก็พากันตกใจ บางคนก็เสียดาย ที่ก่อนหน้านี้พวกตนน่าจะทำดีกับบ้านตงไว้ ส่วนซูหว่านแทบจะเสียสติ ที่ชายที่เธอหมายปองนั้นคือคนที่มีอิทธิพลของเมืองนี้ แถมยังร่ำรวยมากอีกด้วยแต่เพราะทางบ้านซูของเธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านตงและรู้ว่าซูหว่านคงไม่จบเรื่องบ้านตง บ้านซูจึงตัดสินใจหาสามีที่อยู่ต่างเมืองให้เธอทันทีทำให้สามปีที่ผ่านมาไม่มีใครคอยมาวุ่นวายกับสองสามีภรรยามากนัก ทุกวันนี้ตงเหวินหมิงจึงรู้สึกสบายใจอย่างมาก“ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 52 จบสิ้นปัญหา

    บทที่ 52 จบสิ้นปัญหาหลายวันต่อมา...ในหมู่บ้านมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำงานในคอมมูนไม่น้อยเลย แถมหัวหน้าคอมมูนยังให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างที่พักให้ นี่จึงทำให้ใครหลายคนพากันแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าคอมมูนบอกเองว่าทางการยังไม่ได้ส่งคนเข้ามา แต่ทำไมวันนี้กลายเป็นว่ามีคนมากมายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านล่ะ“พวกเราคิดว่ามันแปลกหรือไม่ ที่จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อยเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น“จะขี้สงสัยไปทำไมกัน คนมาทำงานจะคิดมากไปทำไม หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านคงบอกแล้วล่ะ” อีกคนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจการพูดคุยของกลุ่มชาวบ้านแม้ว่าแปลกใจและสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีหน้าที่การงานของตนเองซึ่งเรื่องนี้มีแค่หัวหน้าคอมมูนเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็นคนของใครที่ถูกส่งเข้ามา เขาไม่คิดว่าคนเคยปลอมเป็นชาวบ้านมางานแต่งของตงเหวินหมิงกับหยางเหมยจินจะเป็นถึงนายท่านหลู่ นายท่านผู้ลึกลับแต่ทรงอิทธิพล และเขาก็ไม่คิดว่าท่านจะส่งคนมาบอกเรื่องที่จะให้ คนมาทำงานในคอมมูน โดยปลอมเป็นชาวบ้านที่มาทำงานในคอมมูนที่หมู่บ้านแห่งนี้เพื่อที่จะปกป้องใครบางคน ซึ่งต่อให้ช

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 51 เดินทางไปปักกิ่ง

    บทที่ 51 เดินทางไปปักกิ่งเมื่อมีคนมาจี้ใจดำตัวเอง ซูหว่านจึงมีท่าทีฟึดฟัดขึ้นมา ก่อนจะพูดเสียงดัง “แล้วยังไง ฉันยังหวังและเชื่อว่าฉันจะแต่งเข้าบ้านตงได้แน่นอน รอจังหวะก่อนเถอะ”ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ส่ายหน้าอย่างระอา เพราะเวลานี้ตงเหวินหมิงได้จัดพิธีแต่งงานกับหยางเหมยจินแล้ว ดูแล้วเขายังรักภรรยาคนนี้มากอีกด้วย แล้วแบบนี้คนอย่างซูหว่านจะเข้าไปแทรกกลางได้อย่างไรกัน“พี่ใหญ่ ดูเหมือนพ่อจะมีเรื่องกลุ้มใจนะ พี่คิดว่าอย่างนั้นไหม” ตงฟางลี่พูดขึ้นเพราะรู้ว่าพ่อนั้นทำงานหนัก เพราะต้องทำงานทั้งในตำแหน่งนายท่านหยาง และยังต้องทำงานในคอมมูนเพื่อต้องการปิดบังฐานะที่แท้จริงต่อคนภายนอก เธอเห็นแล้วสงสารพ่อเหลือเกิน“เรื่องนี้พี่เองก็คิดเหมือนกัน พี่เลยต้องตั้งใจเรียนอย่างไรละ เมื่อไรที่พี่โตขึ้น พี่จะทำงานและเลี้ยงพ่อกับแม่เอง รวมถึงลี่ลี่ด้วย” เด็กชายที่อยู่ในช่วงจะเข้าวัยเด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“คุยอะไรกันจ๊ะเด็ก ๆ รีบมากินมื้อเที่ยงได้แล้ว วันนี้แม่ทำบะหมี่เนื้อตุ๋นให้กินนะ มาเร็ว ๆ” หยางเหมยจินโผล่หน้ามาจากครัว ก่อนจะตะโกนเรียกลูกทั้งสองคน ทำให้สองพี่น้องรีบวิ่งมาทันทีเพราะอาหารที่แม่ของ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 50 สถานการณ์คับขัน

    บทที่ 50 สถานการณ์คับขันหลายวันต่อมา...ท่านนายพลกุ้ยเอ่ยขอพบกับนายท่านหยางเพื่อขอซื้ออาหารเพิ่มและต้องการอาวุธที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าในมิติของหยางเหมยจินจะไม่มีอาวุธเหล่านั้น แต่เส้นสายของนายท่านหลู่กลับมี ซึ่งเป็นอาวุธคุณภาพดีจากต่างประเทศ แต่ตงเหวินหมิงยังไม่อยากให้ขาย เพราะไม่แน่ว่าคนของเขาและนายท่านหลู่อาจจะต้องใช้ และถ้าใครรับรู้ว่านายท่านหลู่ค้าอาวุธแบบผิดกฎหมาย คนพวกนั้นอาจจะเอาเรื่องนี้มาเล่นงานกลับก็ได้“เรื่องจัดหาอาหารนั้นผมไม่มีปัญหา แต่เรื่องอาวุธเห็นทีจะไม่ได้ เส้นสายของท่านน่าจะมี ย่อมต้องรู้ว่าผมมีเพียงอาหารเท่านั้น” ตงเหวินหมิงตอบกลับนายพลกุ้ยด้วยแววตาที่จริงจัง เขารู้ดีว่านายพลคนนี้มาหาด้วยเรื่องอะไร การขอซื้ออาวุธอาจจะเป็นแผนลวงก็เป็นได้“ไม่สามารถหาได้เลยอย่างนั้นเหรอ” นายพลกุ้ยถามย้ำอีกครั้ง เพราะคราวนี้เขาได้รับคำสั่งมาเพื่อให้ซื้ออาวุธกับอีกฝ่าย แต่กลายเป็นว่านายท่านหยางคนนี้กลับไม่โอนอ่อนเพื่อที่จะจัดหาอาวุธให้ทางฝ่ายเขาและแบบนี้เขาจะกลับไปตอบนายใหญ่ได้อย่างไร สีหน้าในตอนที่ถามออกมาจึงกังวลไม่น้อย“ครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้นายพลกุ้ยลองไปสอบถามพ่อค้าคนอื่นดูเถอะ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาชาวบ้าน (ยุค70)   บทที่ 49 ต่างมอบความรักให้กัน

    บทที่ 49 ต่างมอบความรักให้กันย้อนกลับมาที่หมู่บ้าน เวลานี้ซ่านหลิงเดินทางมาหยางเหมยจินด้วยตนเอง เพราะรู้ดีว่าสามีของน้องสาวคนสนิทนั้นมีความรู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยาง เลยตัดสินใจเดินทางมาหาด้วยตนเอง นั่นก็เผื่อว่าน้องสาวคนนี้จะบอกสามีให้แจ้งนายท่านหยางเพื่อที่จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น“อย่างไรฉันจะบอกพี่หมิงให้ก็แล้วกันนะคะพี่ซ่านหลิง เรื่องนี้ใหญ่เกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเรา แล้วอีกอย่างเรื่องนี้อยู่ที่การตัดสินใจของนายท่านหยาง พี่หมิงทำได้เพียงส่งข่าวของพี่ให้นายท่านรู้เท่านั้น”หยางเหมยจินหลบเลี่ยงที่จะตอบตรง ๆ แม้ว่าจะสนิทกันอย่างไร เรื่องที่สามีของเธอคือนายท่านหยางนั้น เธอก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกพี่สาวคนนี้ จึงทำเพียงพูดว่าสามีของเธอมีความรู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยางเท่านั้น“เรื่องนี้ฉันเข้าใจ เธอรู้ใช่ไหมว่าใครต่อใครต่างก็อยากให้นายท่านหยางเข้าร่วมด้วย”ซ่านหลิงเองก็ไม่อยากบังคับน้องสาวคนสนิท เพราะเรื่องนี้เธอกลัวว่าตงเหวินหมิงที่รู้จักมักคุ้นกับนายท่านหยางจะโดนร่างแหไปด้วยหากเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงหยางเหมยจินจะเจอเรื่องเลวร้ายด้วยเหมือนกัน“ฉันเข้าใจ และขอบคุณพี่มากที่มาส่งข่าวเร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status