Share

บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (1/2)

last update Last Updated: 2025-03-09 12:00:47

ยามฮ่าย [1] ในคืนเดียวกัน ร่างดำทะมึนขององครักษ์มือซ้ายกระโจนลงจากหลังคาท่ามกลางความอนธการ เขาค้อมศีรษะพลางเอ่ยรายงานนายของตนซึ่งยังง่วนกับกองรายงานม้วนไม้ไผ่แทบไม่ว่างเว้น

"ท่านโหว วันพรุ่งฮูหยินบอกว่าจะออกไปข้างนอกขอรับ"

สิ่งที่อีกฝ่ายรายงานหาได้สลักสำคัญใด ตั้งแต่เกิดเรื่อง หลิวจือหลินก็ไม่ได้ก้าวออกจากจวนโหวเลย "นางอยากไปก็ไป"

"แต่...เดิมทีก่อนฮูหยินจะไปที่ใดมักมาแจ้งท่านโหวก่อนเสมอ ครั้งนี้ฮูหยินเอ่ยว่า..." เฉิงซือหานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางทีเขาอาจคิดผิดที่มารายงานเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้

"หืม..." มือหยาบระคายวางพู่กันหางจิ้งจอกลง เขาทำงานจนลืมดูว่ายามนี้ดึกมากแล้ว คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน "เดี๋ยวนี้เจ้ากลายเป็นประเภทเรรวนไปตั้งแต่เมื่อใด"

"ขออภัยท่านโหว คือ...ฮูหยินกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงานท่านก็ย่อมได้ เพราะท่านโหวคงลืมไปแล้วว่ามีนางอยู่ อีกอย่างฮูหยินเองก็ลืมไปแล้วเช่นกันว่ามีท่านอยู่"

ปัง!

องครักษ์ซ้ายขวาพร้อมใจสะดุ้งโหยง ช่ายจินซินยกมือกุมขมับ บางทีหน้าที่นี้เขาควรเป็นฝ่ายทำเสียเอง ไม่เช่นนั้นต้องได้เห็นนายของตนอาละวาดจนกายพวกเขาถูกเผาวอดเข้าสักวัน

"นางกล้าเอ่ยเช่นนี้ได้อย่างไร เดิมทีเห็นวนเวียนเว้าวอนอยากใกล้ชิดข้านัก หรือว่านางกำลัง..." นัยน์ตาคมหรี่ลงอย่างนึกคลางแคลง เขายกมือขึ้นเกาคางขบคิด คำพูดถัดไปที่เก็บงำเขาคิดว่านางจงใจสวมหมวกเขียวให้ตนอยู่

คนที่ติดตามหลิวจือหลินทุกก้าวย่างจะไม่ทราบได้อย่างไรว่าหลิวจือหลินประพฤติตนเช่นไร "ท่านโหว หากเป็นเรื่องนั้นเกรงว่าคงมิใช่ ท่านจะลองไปหาฮูหยินที่เรือนตะวันออกดูหรือไม่ขอรับ"

เจียงซื่อจวินกำลังคิดไปเองเป็นตุเป็นตะ ขณะที่เขาไม่แม้จะเหยียบย่างไปยังเรือนตะวันออกสักเสี้ยว ทว่าเรือนตะวันตกกลับเทียวมาเทียวไปอยู่เสมอ กระนั้นองครักษ์ที่อยู่ข้างกายโหวหนุ่มเช่นช่ายจินซินกลับไม่เคยเห็นเขาค้างอ้างแรมที่นั่นสักครา ซ้ำยังแวบเข้าออกดั่งผีสาง แท้จริงแล้วนายของเขากำลังคิดอ่านเช่นไรพวกตนก็สุดจะรู้

นัยน์ตาคมกริบตวัดมองฉับ ร่างสูงทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ขัดอีกครั้ง "ข้าไม่ไป นี่อาจเป็นอุบายของนางเพื่อเรียกร้องความสนใจจากข้า เช่นนั้นเจ้าก็ติดตามนางไปแล้วกัน พรุ่งนี้ข้ามีนัดกับไท่จื่อ ไม่อาจทำตัวไร้สาระได้"

"ขอรับ"

.

.

ย่ำรุ่งมาถึง หลิวจือหลินแต่งกายด้วยอาภรณ์สีอ่อน ใบหน้าแต่งแต้มสีสันเล็กน้อย ทว่ากลับมิได้ประโคมโบกเฉกเช่นที่เคยทำมาก่อน ส่งผลให้ความอ่อนเยาว์ประหนึ่งดรุณีแรกแย้มเจิดจรัส

เจียวเจียวและปี้อี๋ปากอ้าตาค้าง เดิมทีหากออกไปที่ใดหลิวจือหลินมักผัดหน้าทาปากจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม จะว่างามก็งามอยู่ ทว่าผิวพรรณอันแท้จริงของนาง กลับผุดผาดกว่าการประโคมฉาบเครื่องประทินโฉมเหล่านั้นเป็นไหน ๆ

"ฮูหยิน ท่านงดงามเพียงนี้ เอ่อ...ต่อไปข้าว่าท่านอย่า..." เจียวเจียวรู้สึกประหม่า นางเกรงว่าหลิวจือหลินจะบังเกิดโทสะ

จู่ ๆ เสียงใสก็หลุดหัวเราะเบา หลิวจือหลินรู้ดีว่าเจียวเจียวกำลังคิดอ่านสิ่งใด ใช่นางไม่ทราบว่าหลิวจือหลินคนเดิมมักฉาบหน้าเฉกเช่นไปเล่นละครงิ้ว แต่หลิวจือหลินผู้นี้มิใช่คนรสนิยมย่ำแย่ถึงเพียงนั้นเสียหน่อย

"เจียวเจียว วางใจได้ ข้ารับรองจะไม่กลับไปแต่งหน้าแต่งตาเฉิ่มเชยเช่นนั้นอีก เครื่องสำอางนี่ควรโล๊ะทิ้งไปซะ"

ปี้อี๋งุนงง "ฮูหยินเจ้าคะ คะ...เครื่องอะไรนะเจ้าคะ"

หลิวจือหลินอมยิ้ม "เครื่องสำอาง หมายถึงเครื่องประทินโฉมอย่างไรเล่า ดูไปแล้วของเดิมสีฉูดฉาดไปหน่อย ไว้ข้าค่อยคิดสูตรขึ้นเองดีกว่า เห็นวิธีการทำในหอตำราเยอะเลย"

เอ่ยพลางมือเรียวก็หยิบผ้าแพรสีขาวขึ้นมาคาดครึ่งหน้า

เจียวเจียว "ฮูหยิน รอยไฟไหม้หายแล้ว ไยท่านต้องปกปิดใบหน้าอีกล่ะเจ้าคะ"

"อ้อ...ข้าไม่ชินน่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกไปข้างนอกบางทีปิดไว้อย่างนี้อาจช่วยลดความประหม่าได้บ้าง อีกอย่างคงมีคนคอยซ้ำเติมข้าอยู่ว่าอัปลักษณ์น่าเกลียด ข้าอยากส่งเสริมคนเหล่านั้นให้สมใจสักครา"

"ฮูหยิน ครั้งแรกเมื่อใดกันเจ้าคะ เดิมทีท่านก็เที่ยวพบปะพวกคุณหนูคุณหญิงออกบ่อย ต่อให้ท่าน เอ่อ...นะ..." เจียวเจียวอึกอัก

"น่าเกลียดกว่านี้ ก็มิมีผู้ใดกล้าว่าข้า ใช่หรือไม่"

เจียวเจียวตัวแข็งทื่อ หลิวจือหลินดุจดั่งมานั่งกลางใจนาง

หลิวจือหลินระบายหายใจอ่อน อธิบายเสียงแผ่ว "หญิงสาวเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพวกรอยยิ้มซ่อนมีด ลองให้ข้าไม่ได้แต่งเข้าจวนโหว อีกทั้งบิดาไม่มียศหนาศักดิ์ใหญ่ จะมีผู้ใดกล้าเข้าใกล้หรือคบค้าสมาคมกับสตรีตัวร้ายเช่นข้า เจ้าเชื่อรึว่ามิมีใครว่าข้า ด่าทอข้า จริง ๆ พวกนางกำลังค่อนขอดในใจตนทั้งนั้น พวกเจ้าว่าหรือไม่"

เจียวเจียวกับปี้อี๋มองหน้ากันหลุกหลิก "...ฮูหยิน แต่ยามนี้ท่าน..."

"เอาเถอะ" หลิวจือหลินตัดบท เอ่ยต่อว่า "ไม่ต้องพูดแล้ว ไปกันเถิด ข้าตื่นเต้นอยากเห็นโลกภายนอกเต็มแก่ ดูสิจะเหมือนซีรีส์ย้อนยุคที่เคยดูหรือเปล่า"

ทุกอย่างเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกันนางไม่ชอบสุงสิงกับใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงคบหาเพื่อนน้อยนัก สหายสนิทในชาติก่อนก็มิอยากเอ่ยถึงอีก ร่างระหงยืนขึ้นพลางหมุนกายแย้มยิ้มกับคันฉ่องสีอำพัน

"หลิวจือหลิน เรือนร่างนี้งดงามจริง ๆ ถึงเราจะคล้ายกันแต่หุ่นเจ้านี่เซี๊ยะกว่าข้าอยู่หน่อย หน้าตาก็สวยขึ้นแล้ว เลิกแต่งหน้าอัปลักษณ์เสียทียัยบื้อ"

 

เชิงอรรถ

^ยามฮ่าย - 21:00 - 23:00 เดิมเรียก 人定 (réndìng | คนนิ่ง) ต่อมาเปลี่ยนเป็น 亥时 (haìshí | ยามฮ่าย)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (2/2)

    หลิวจือหลินพิเคราะห์หน้าตาที่มีผ้าแพรปกปิดพลางตบข้างบั้นท้ายตนเปาะหนึ่งเจียวเจียวยกมือทาบอก "…ฮูหยิน ทำเช่นนี้ไม่งามนะเจ้าคะ"หลิวจือหลินเหลียวหน้ามองสาวใช้ พลางหัวเราะขบขัน เปลือกตาบางขยิบหนึ่งฝั่งหยอกล้อ จากนั้นเท้าเรียวเดินบ้างกระโดดบ้างดั่งกระต่ายเริงร่า หลิวจือหลินฮัมเพลงเสียงแผ่ว ไม่ใส่ใจสาวใช้ตนอีกเจียวเจียวแทบเกิดลมจับ เพราะเจียวเจียวมักเคร่งครัดเรื่องความเป็นกุลสตรีเช่นนี้เสมอ ส่วนปี้อี๋ยิ้มขบขันปี้อี๋ "เอาน่าอาเจียว ฮูหยินเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ""แต่…""ไม่ต้องแต่แล้ว เห็นหรือไม่ฮูหยินจะถึงรถม้าแล้ว เจ้าอยากหลังลายรึ"เจียวเจียวพยักหน้าหงึกหงัก พวกนางเร่งถลันกายตามนายหญิงไปทันควันบุรุษร่างสูงผินหน้ามองเรือนตะวันออกด้วยความใคร่รู้ ดูนางไม่แยแสเขาจริงดังว่า คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน แม้นางอยู่ห่างจากเขาจนเห็นไม่ชัด แต่เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของหญิงสาวที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหางตาของหลิวจือหลินพลันเหลือบเห็นรถม้าอีกคันจอดไว้ไกลลิบ คงมิใช่ทางฝั่งเรือนหลักกระมัง ช่

    Last Updated : 2025-03-10
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (1/2)

    รถม้าขับเคลื่อนไปเบื้องหน้าอย่างเรียบเรื่อย เสียงจ้อกแจ้กจอแจบ่งบอกว่าพวกนางเดินทางมาถึงตลาดกลางเมืองแล้ว หลิวจือหลินดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่มิด สาวใช้ทั้งสองเห็นท่าทีประดุจเด็กสามขวบของนายหญิงก็อดยิ้มเป็นมิได้มือเรียวเลิกผ้าคลุมหน้าต่างขึ้นพลางสอดส่ายสายตาเมียงมองร้านรวงสองข้างทาง นางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร บรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้หลิวจือหลินเคยสัมผัสเพียงในซีรีส์เท่านั้น คาดไม่ถึงว่านางได้เข้ามาเยือนดินแดนยุคโบราณอย่างแท้จริง อันเป็นเหตุให้สามารถหลงลืมความทุกข์ระทมที่ตนถูกหักอกไปเสียสนิทใจเกิดใหม่ในร่างโฉมสะคราญ ถึงแม้มีสามีก็เพียงสามีในนามมิใช่หรือ เช่นนั้นหลิวจือหลินควรใช้เรือนร่างสะโอดสะองให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น สวมใส่เสื้อผ้างดงามที่ตัดเย็บด้วยตนเอง ผสานกลิ่นอายการออกแบบในยุคสมัยที่จากมาลงไปด้วย ต้องดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน ตรึกตรองดูแล้วเรื่องวาดฝันเพื่อทำการค้าของหลิวจือหลินก็ดูไม่เลวทีเดียวหากนางสามารถออกมาจากเรือนโอ่อ่าทว่าชวนอึดอัดนั้นได้จริง ต่อให้ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงหม้ายก็ช่างปะไร ในเมื่อหลิวจือหลินมิสนใจธรรมเนียมคร่ำครึนั่นเสียอย่

    Last Updated : 2025-03-11
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (2/2)

    "ขออภัยพี่หญิง ข้ามิได้จงใจแย่งชิงผืนนี้กับท่าน" เสียงใสเอ่ยด้วยความพินอบพิเทา แววตาไหวระริกคล้ายกลัวนางเสียเต็มประดาเดิมทีหม่าลี่เจี่ยพิเคราะห์อยู่นานว่าอีกฝ่ายคือฮูหยินเจียงโหวหรือไม่ เพราะการแต่งกายของนางเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซ้ำหลิวจือหลินยังปกปิดใบหน้า แต่ทว่านางจำสาวใช้ข้างกายทั้งสองได้ ดูเหมือนใบหน้าที่ถูกปิดบังคงซ่อนความอัปลักษณ์เอาไว้แน่แท้สายตาของคนในร้านนับสิบคู่เริ่มเมียงมองมาที่พวกนางด้วยความใคร่รู้หลิวจือหลินกระซิบแผ่วกับสาวใช้ "นะ...นางคือใคร"เจียวเจียวกะพริบตาถี่ เหลียวมองหน้ากับปี้อี๋เจียวเจียวกระซิบตอบ "ฮูหยิน นี่อนุหม่าอย่างไรเจ้าคะ"ดุจกระแสอสนีบาตฟาดกลางกระหม่อม ร่างระหงแทบล้มทั้งยืน ไฉนใบหน้าของหม่าลี่เจี่ยจึงคล้ายเพื่อนสนิทที่รวมหัวกับแฟนหนุ่มเพื่อหักหลังนางได้ถึงเพียงนี้"พี่หญิงเป็นอันใดไปเจ้าคะ" อีกฝ่ายยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อมไร้เดียงสาหลิวจือหลินตั้งสติ ร่างระหงยืดกายตรงแน่ว โลกคงไม่เหวี่ยงคนบัดซบมาให้เจอซ้ำ ๆ กระมัง อาจเป็นคนที่หน้าเหมือนกันในชาตินี้ นางเองยังมีรูปร่างหน้าตาละม้ายเจ้าของร่างเดิ

    Last Updated : 2025-03-12
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (1/2)

    หลิวจือหลินครุ่นคิดถึงความเหมาะสม นัยน์ตากลมโตเหลียวมองสาวใช้ข้างกาย ยามนี้พวกนางมีทีท่าเป็นกังวลอย่างยิ่งยวด ปี้อี๋และเจียวเจียวพร้อมใจส่ายศีรษะ ทว่าเมื่อเหลือบมองบุรุษฝั่งตรงข้ามอีกหนอย่างนึกลังเล ชายหนุ่มก็ยังส่งยิ้มละไมให้นางราวกำลังกดดัน นัยน์ตาคมจดจ้องเพราะคาดหวังในคำตอบนางเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว การไปทานข้าวกับบุรุษซึ่งมิใช่สามีจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เมื่อตรึกตรองถึงเรื่องก่อตั้งกิจการในอนาคต หลิวจือหลินจึงเห็นทางสว่างอยู่รำไร หากทำความรู้จักกับเขา ผู้เป็นถึงเจ้าของร้านผ้าอันใหญ่โตโอ่โถง ก็นับว่าได้ประโยชน์ไม่น้อยมิใช่หรือ"ฮูหยินดูลังเลเพียงนี้ คงเป็นกังวลว่าท่านโหวจะโกรธเคืองงั้นหรือ"หลิวจือหลินส่งยิ้มแห้งขอด นางยกมือขึ้นโบกไปมาพัลวัน "เปล่า เปล่า เจ้าค่ะ เดิมทีข้าและท่านโหวไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันและกันอยู่แล้ว"เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มกว้าง "เช่นนั้นฮูหยินคงไม่ถือสา ถึงอย่างไรทั้งท่านและข้าล้วนแต่มีผู้ติดตาม หาได้ไปเพียงลำพัง ถือเสียว่าเป็นการทักทายจากสหายที่เพิ่งพานพบ ท่านว่าดีหรือไม่"สาวใช้ทั้งสองหน้าเจื่อน แต่หลิวจือห

    Last Updated : 2025-03-13
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (2/2)

    ชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองตามสายตาดุจแมวน้อยหิวโซของหลิวจือหลิน นางยังคงลังเลว่าควรลองชิมอาหารจานใดก่อนตะเกียบในมือชายหนุ่มถูกหยิบขึ้น ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารวางลงในถ้วยกระเบื้องเคลือบของหลิวจือหลิน "ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ท่านลองชิมว่าชอบหรือไม่"หลิวจือหลินแหงนมองอีกฝ่าย เขาช่างดูเอาใจใส่สหายที่เพิ่งรู้จักกันอยู่ไม่น้อย หากสตรีนางใดเป็นฮูหยินของเขา คงโชคดีมากทีเดียว หลิวจือหลินละเลียดชิมอย่างเกรงใจ เมื่อหมูชิ้นแรกถูกส่งเข้าปาก ความนุ่มละมุนลิ้นผสานรสเปรี้ยวหวานอันเข้ากันอย่างลงตัว เป็นเหตุให้หลิวจือหลินตื่นตาอย่างยิ่ง"อื้อฮือ...อร่อยมากเจ้าค่ะ" มือเรียวยกขึ้นชูนิ้วโป้งม่านตาเบิกกว้างชอบใจริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มจาง ๆ "หากไม่พอข้าจะสั่งเพิ่มให้"หลิวจือหลินส่ายศีรษะจนเส้นผมแตกกระเจิง "พอแล้วเจ้าค่ะ มากมายเพียงนี้ ทานเพียงสองคนไม่หมดแน่ สิ้นเปลืองเสียเปล่า"ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารอีกหลายอย่างส่งไปยังถ้วยอาหารของหลิวจือหลิน นางก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด อาหารสูตรโบราณเหล่านี้อร่อยล้ำถูกปากจริง ๆ หลิวจือหลินนอนป่วยอยู่ในจวนโหวตั

    Last Updated : 2025-03-14
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 7 มัจจุราชหน้าขรึม (1/2)

    รถม้าจวนโหวเคลื่อนตัวออกจากเหลาอาหาร ฟ่านเทียนเผยยืนสงบนิ่งมองจนลับตา จากการสังเกตเจียงซื่อจวินก็มิได้ดูรังเกียจเดียดฉันท์ฮูหยินตนเองเช่นข่าวโคมลอย แต่ทว่าสองสามีภรรยาที่เผชิญหน้ากันเมื่อครู่ เหตุใดจึงทำราวกับเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกฮูหยินเจียงโหวยิ้มเดียวล่มเมือง เป็นที่น่าสนใจของเขาเสียด้วยดูเหมือนฟ่านเทียนเผยพบเรื่องราวน่าสนุกเข้าให้แล้วริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่ว วันนี้เรื่องที่หมายเจรจายังไม่ลุล่วง นั่นย่อมเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้พบหน้าฮูหยินเจียงโหวอีกครั้ง ร่างสูงหมุนกายกลับเข้าด้านใน มือทั้งสองไพล่หลังพร้อมสีหน้าสบายอารมณ์หลิวจือหลินก้มหน้างุดอยู่ในรถม้า สาวใช้ทั้งสองมิได้อยู่ด้วยเช่นขามา ยามนี้นางกำลังประสบปัญหาขั้นวิกฤติอยู่เพียงลำพังกับมัจจุราชหน้าขรึม ดูเอาเถิดดวงตาของเขาคมเข้มราวมีดดาบ ซ้ำยังจ้องนางเขม็งราวกระหายโลหิตคนไร้มารยาท ปีศาจกลับชาติมาเกิด กะจ้องข้าให้พรุนเลยหรือไงครั้นอยากหายใจหลิวจือหลินยังรู้สึกลำบาก ทว่าสิ่งที่ชวนอึดอัดมากกว่าอื่นใด ไฉนเขาจึงมีใบหน้

    Last Updated : 2025-03-15
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 7 มัจจุราชหน้าขรึม (2/2)

    "...ท่าน นี่ท่านยังยิ้มหรือเจ้าคะ ไม่ช่วยแล้วยังกล้ายิ้มเยาะผู้อื่นงั้นหรือ คนไร้มโนธรรม" ไม่รู้หลิวจือหลินกินดีหมีหัวใจเสือมาจากที่ใด อาจเพราะเหลืออดกับท่าทีโอหังซ้ำยังเยาะยิ้มของเขาอยู่ตลอดจึงทำให้สติของนางขาดผึงจู่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับยิ้มก็หุบฉับ มือแกร่งคว้าหมับไปยังท้ายทอยสตรีฝั่งตรงข้ามเดี๋ยวนั้น ลมอุ่น ๆ ถูกเป่าออกมาพรูดหนึ่ง หลิวจือหลินตะลึงงันตัวแข็งค้างไปชั่วขณะ กระทั่งใบหน้าซับสีแดงเรื่อเกือบเท่าหน้าผาก"เป็นเช่นไรหายเจ็บแล้วหรือไม่"นัยน์ตากลมโตกะพริบถี่ ประจวบเหมาะกับล้อเลื่อนนั้นหยุดเคลื่อนที่แล้ว หลิวจือหลินไม่ทันเอ่ยสิ่งใด ร่างสูงก็ชิ่งกลับลงไปเสียก่อน ครั้นได้สติ หลิวจือหลินจึงสลัดศีรษะพัลวัน"...ทำบ้าอะไรของท่าน ท่านโหว คนฉวยโอกาส"เสียงใสตะโกนไล่หลังดังลอดจากด้านใน เจียงซื่อจวินลงมาก่อนแล้วยังไม่ทันสาวเท้าออกไปก็พลอยหน้ากระตุก นางเป็นฮูหยินของเขา แต่กลับกล่าวหาสามีว่าฉวยโอกาส เมื่อครู่เขาแทบมิได้แตะถูกใบหน้านางเลยด้วยซ้ำวันนี้เจียงซื่อจวินได้เปิดหูเปิดตาครั้งแรกช่างสนุกยิ่งนัก แท้จริงฮูหยินของเขาเป็นสตรีเช่นไรกันแน

    Last Updated : 2025-03-16
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 8 ท่านโหวรังแกฮูหยิน (1/2)

    หลิวจือหลินพยายามดันกายกำยำออกห่างจากตน แต่ดูเหมือนเปรียบดั่งมดตัวจ้อยขย่มต้นไม้ใหญ่ เจียงซื่อจวินไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด นางจึงส่งค้อนวงใหญ่ให้เขาไปหนึ่งครา"ท่านโหว นี่ท่านเป็นคนเช่นไรเจ้าคะ จึงบุกเข้าห้องสตรียามวิกาล"เจียงซื่อจวินงุนงง ตกลงแล้วเขาเป็นฝ่ายผิดที่เข้าห้องภรรยาตนเองงั้นหรือ "พูดอะไรของเจ้า""ก็ดูท่าน...ท่านเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงหนำซ้ำยังจงใจลวนลามข้า"เจียงซื่อจวินขำพรืด เขาเคยเดียดฉันท์เรือนร่างนี้ก็จริง ทว่าเมื่อช่วงกลางวันกลับทำให้ความคิดหนึ่งของเขาผุดขึ้น นั่นคือรังแกอีกฝ่ายให้สาแก่ใจดูสักหน่อย เมื่อก่อนยังร้องหาเพียงอ้อมกอดของเขา ยามนี้เขายินดีประเคนให้นาง นางกลับหลีกหนีและกล่าวหาสามีซึ่งตบแต่งอย่างถูกต้องตามประเพณีว่าลวนลามภรรยาตนเองงั้นหรือ"ฮูหยิน เจ้าใช้คำพูดไม่ถูกต้องเอาเสียเลย ขอข้าดูหน่อยว่าอุบายที่เจ้าว่าคืออะไร"หลิวจือหลินตัวแข็งทื่อดุจหุ่นขี้ผึ้ง มือหยาบระคายหนึ่งด้านยื้อแย่งกระดาษในมือของนางออกไปหน้าตาเฉย ส่วนอีกฝั่งยังคงรัดเอวคอดไว้แน่น"เอ๊ะ! กำลังทำอะไรน่ะ เอาคืนมานะเจ้าคะ" ร่างระหงกระโดดโหยงในอ้อ

    Last Updated : 2025-03-17

Latest chapter

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 25 เจียงโหวคนถ่อย (2/2)

    "โอ๊ย! ท่านโหว เป็นไบโพล่ารึ!" หลิวจือหลินหน้างอ เมื่ออีกฝ่ายโยนนางลงเตียงนอนหนานุ่มโดยไร้เหตุผลเจียงซื่อจวินมิได้ปล่อยนางเป็นอิสระนานนัก เขารวบจับแขนทั้งสองไว้เหนือศีรษะพลางกดกายระหงแนบลู่ลงบนที่นอน หลิวจือหลินตื่นตระหนก ม่านตาขยายกว้างเมื่อถูกบุรุษกายกำยำคร่อมอยู่บนเรือนร่างของตนรวดเร็วดุจสายอสนี"ทะ...ทำอะไรของท่าน ปล่อยข้านะ"ต่อให้นางดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ แรงของเขาเฉกเช่นม้าศึกคึกคะนอง"หลิวจือหลิน เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงสนิทสนมกับชายอื่น""ห๊ะ!..."นี่เขากำลังหึงหวงข้าหรือ"เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่อยู่ด้วยจะทำอันใดตามใจตนเองก็ได้ อย่าลืมสถานะของเจ้าว่าคือใคร หากจำไม่ได้ข้าจะช่วยทบทวนความจำให้ดีหรือไม่ หืม..."ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงหมายรังแกสตรีเบื้องล่าง จู่ ๆ หลิวจือหลินก็ร้องไห้โฮไม่มีปี่มีขลุ่ย"ฮึก ฮื่อ...คนบ้า ปล่อยข้านะ ข้าเจ็บ" แขนเล็กขยับไปมาเพื่อให้เขาผ่อนแรงลง หลิวจือหลินรู้สึกว่าข้อมือของตนใกล้หักอยู่รอมร่อ ยามนี้นางทราบถึงจุดอ่อนหนึ่งของเขา เจียงโหวแพ้น้ำตาสตรี นางจะแสร้งงอแงจนกว่าเขาน

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 25 เจียงโหวคนถ่อย (1/2)

    การเดินทางกลับเรือนครั้งนี้ก็ยังเหมือนยามปกติ หลิวจือหลินอมยิ้มพลางส่ายศีรษะ ดูเหมือนฟ่านเทียนเผยกังวลใจมากเกินไปแล้วหลิวจือหลินจึงเร่งชำระร่างกายอันเหนอะหนะเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่ตนพบเจอตลอดทั้งวัน ดูเหมือนวันนี้เจียงซื่อจวินก็กลับดึกไม่ต่างกันเดิมทีหลิวจือหลินมักเห็นเขานั่งปั้นหน้าถมึงทึงรออยู่โต๊ะทำงานที่ประจำเพื่อจ้องจับผิดนางร่ำไป เมื่อสาแก่ใจเขาก็สะบัดกายกลับเรือนหลัก โดยไม่คิดเหลือบแลนางอีกเวลาล่วงเลยจนถึงยามฮ่าย [1] หลิวจือหลินจึงได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนย่างกรายใกล้เข้ามาทุกขณะ เจียงโหวมักปรากฏกายอนึ่งผีสางเช่นนี้เสมอ นางเองก็ชินเสียแล้ว"...ท่านโหว ยามวิกาลเช่นนี้ หากท่านจะมาก็ช่วยส่งเสียงหน่อยมิได้หรือเจ้าคะ ทำราวกับผีสางผู้อื่นจะได้ตกใจแตกตื่นกันหมด"หลิวจือหลินเอ่ยทั้งที่ตนยังวุ่นกับงานอันล้นมือโดยไม่ละสายตา จู่ ๆ ลมหายใจอุ่น ๆ ก็เป่าปะทะบริเวณใบหูเสียจนขนลุกเกรียว"วันนี้เจ้าทำอะไรมางั้นหรือ"หลิวจือหลินผงะ "ก็ทำงานอย่างไรเจ้าคะ พูดปกติไม่ได้หรือ เหตุใดต้

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 24 ลางสังหรณ์ (2/2)

    "คุณชายฟ่าน""...""คุณชายฟ่านเจ้าคะ""..."เมื่อไร้เสียงตอบรับ มือเรียวจึงโบกสะบัดขึ้นลงผ่านหน้าชายหนุ่มเพื่อเรียกสติ เจียวเจียวและปี้อี๋เบิกตากว้างตื่นตระหนกเมื่อนายหญิงใกล้สิงร่างบุรุษตัวสูงให้แล้วหลิวจือหลินเป็นสตรีที่มีจิตวิญญาณตื่นรู้จากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ใจของนางคิดเพียงว่าฟ่านเทียนเผยเป็นสหาย ซ้ำยังเป็นสหายที่ดีอีกด้วย นางจึงมิได้คำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมใด"ฮูหยิน...ทำอะไรของท่าน"นัยน์ตาคมลดมองร่างระหงที่ยืนเขย่งปลายเท้าพลางแหงนสบตาเขาปริบ ๆ สีหน้าของชายหนุ่มแดงซ่านราวลูกตำลึงสุก เพราะยามนี้พวกเขาห่างกันเพียงลมหายใจกั้นหลิวจือหลินผละห่าง แขนเรียวเท้าเอวเอียงคอมองตอบ "ท่านได้สติแล้วหรือ ข้าเรียกอยู่ตั้งนาน เอ...หรือกำลังมองสาวงามกันน้า..."หลิวจือหลินหมุนตัวขวับ เมียงมองไปยังเส้นทางที่ฟ่านเทียนเผยจดจ้องเพื่อเย้าแหย่ กระนั้นกลับพบเพียงความว่างเปล่า มือเรียวยกขึ้นเกาศีรษะเกาแก้มด้วยความงุนงง"อ้าว นี่ท่านมองอะไรกันแน่""ไม่มีอะไร ข้าเพียงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฮูหยินอย่าได้ใส่ใจเลย""โอเคเจ้

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 24 ลางสังหรณ์ (1/2)

    ยามนี้หลิวจือหลินแทบหายจากอาการบาดเจ็บเป็นปลิดทิ้ง เพราะมีใครบางคนเฝ้าจับตามองนางให้ทานยาและพักผ่อนอยู่ไม่ห่าง งานราษฎร์งานหลวงอันยุ่งเหยิงของเขา เจียงโหวยังสู้อุตส่าห์กระเตงหอบมาทำที่เรือนตะวันออกทั้งหมดด้วยเหตุนี้หม่าลี่เจี่ยทราบเรื่องจึงรู้สึกเคืองขุ่นเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจบุ่มบ่ามทำสิ่งใดได้ กระนั้นนางทราบมาว่าหลิวจือหลินได้รับหน้าที่ตัดเย็บฉลองพระองค์ให้ฮองเฮาในวันคล้ายวันประสูติที่จะถึงในอีกไม่ช้า"อีกกี่วันนางจะส่งฉลองพระองค์ไปที่วังหลวง"สาวใช้กระซิบตอบ "อีกสองสัปดาห์เจ้าค่ะ"หม่าลี่เจี่ยขบคิด หากหลิวจือหลินทำทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ นางก็ไม่ต่างจากคนใช้ที่ถูกเจียงโหวเก็บมาเลี้ยง กว่านางจะอ้อนวอนปู่เพื่อเกลี้ยกล่อมเจียงซื่อจวินให้รับตนเป็นอนุได้มิใช่เรื่องง่ายดายคาดไม่ถึงต่อให้เจียงซื่อจวินในเมื่อก่อนไม่ชมชอบฮูหยินตนอย่างไร เขาก็ไม่คิดแตะต้องนางเช่นกัน ความมาดมั่นจะถูกโหวหนุ่มยกยอให้เป็นใหญ่ในภายภาคหน้ากำลังพังครืนไม่เป็นท่าเสียแล้ว..ณ ร้านฟ่านอิน"ฮูหยิน ท่านมาได้เสียที อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างหรือ"

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 23 ยารสขมปนหวาน (2/2)

    หลิวจือหลินมองตามพลางจิ๊ปาก "เอ๊ะ ท่านโหว ข้าต้องทำงานนะเจ้าคะ ไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับท่านได้หรอกนะ เอามาเจ้าค่ะ"หลิวจือหลินเอื้อมมือคว้าพู่กันจากเขา แต่อีกฝ่ายก็เบี่ยงหลบ "ไม่ได้ หากไม่กินยาข้าจะง้างปากเจ้าให้ดู""ข้าไม่กิน เอามานะเจ้าคะ" หลิวจือหลินไม่ยอมฟังเสียงของเขา ร่างระหงลุกพรึบหมายช่วงชิงพู่กันจากชายหนุ่มให้ได้เจียงซื่อจวินหยัดกายกำยำยืนเต็มความสูง แขนยาวชูของในมือขึ้นจนสุด ร่างเล็กกระโดดโหยงราวกับกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าพยายามอย่างไรก็มิสามารถเอื้อมถึง "ท่านโหว รังแกข้าสนุกนักหรือ เอามานะ!"นัยน์ตาคมลดมองสตรีตัวจ้อยที่พยายามยื้อแย่งเอาเป็นเอาตาย "บอกว่ากินยาก่อน""ข้าไม่กิน" หลิวจือหลินยังพยายามควานมือขึ้นสูงต่อไป ในเมื่อนางกระโดดไม่ถึงเช่นนั้นก็ต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายเสียแล้วดูเหมือนเจียงซื่อจวินรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของนางเข้าแล้ว ริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มหนึ่งฝั่ง ร่างระหงตั้งท่ากระโดดเกาะเอวเขาดั่งลูกลิง ไม่ทันสมใจหวังกลับถูกแขนแกร่งคว้าเข้าบริเวณเอวคอดประหนึ่งอสรพิษร้าย นางถูกเขาพันธนาการเอาไว้เสียจนไม่อาจขยับไหว"อ๊ะ! ปล่อยน

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 23 ยารสขมปนหวาน (1/2)

    หลังกลับจากราชวังหลิวจือหลินก็ต้องพักผ่อนราวสองสามวัน เจียงซื่อจวินเป็นฝ่ายจัดการส่งคนไปแจ้งทางร้านฟ่านอินว่านางไม่สบายมิอาจทำงานได้ ฟ่านเทียนเผยทราบข่าวจึงอยากมาเยี่ยมเยียนนาง ทว่ากลับถูกเจียงซื่อจวินดักคอไว้เสียได้ฮ่องเต้ไม่ร้อนใจ ขันทีร้อนใจแทน [1] ริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่วเมื่อเห็นข้อความบนกระดาษแผ่นเล็กที่องครักษ์ของอีกฝ่ายยื่นให้ตนเป็นคราที่สอง ดูเอาเถิดเขาเป็นหุ้นส่วนฮูหยินเจียงโหวโดยแท้ กระทั่งอยากเยี่ยมเยียนนางในฐานะสหาย ยังถูกกีดขวางจากสามีของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไหน้ำส้มเจียงซื่อจวินใหญ่โตเท่าใดกันหรือนี่"ฮูหยิน ลุกขึ้นมาทำอะไรเจ้าคะ" เจียวเจียวถือถ้วยกระเบื้องเคลือบอันเต็มไปด้วยของเหลวสีขุ่นเข้ามาในห้อง นางเร่งวางลงจากนั้นถลาเข้าดูอาการนายหญิงด้วยสีหน้าร้อนใจหลิวจือหลินนั่งอยู่บริเวณหน้าโต๊ะไม้สัก มือทั้งสองข้างถูกพันด้วยผ้าสีขาวประหนึ่งมัมมี่หมื่นปีกำลังจับพู่กันตวัดซ้ายตวัดขวาลงบนกระดาษ หลิวจือหลินละสายตาจากการกระทำของตน พลางแหงนหน้าขึ้น"เจียวเจียว ข้า

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 22 อย่ามารังแกฮูหยินของข้าอีก (2/2)

    ถานจาวหรงถอยหลังกรูด ม่านตาเบิกกว้างด้วยอาการตื่นตระหนก พลางเหลือบมองสาวใช้ซ้ายขวาซึ่งถูกหินก้อนเล็กจ้อยเล่นงานอย่างน่าอับอายจนร่างกระเด็นไปคนละทิศ"ท่านพี่ซื่อจวิน มะ...มาได้อย่างไรเจ้าคะ""ข้าต้องถามองค์หญิงมากกว่าว่ามาได้อย่างไร องค์หญิงกำลังจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮางั้นหรือ""เอ่อ...เอ่อ..." ถานจาวหรงหลุกหลิก ทว่านางเป็นถึงองค์หญิง จะให้อีกฝ่ายกำเริบกับตนโดยใช่เหตุได้อย่างไร "หึ! ข้าจะไปที่ไหนก็ได้นี่เจ้าคะ ราชวังแห่งนี้คือพื้นที่ของข้า"นัยน์ตาคมหรี่ลง "งั้นหรือ" นัยน์ตาคมกริบลดมองสตรีบนอ้อมแขนของตน ซึ่งยามนี้ตัวแข็งค้างกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งไม้แกะสลักไปแล้ว "องค์หญิงผ่านทางมา หรือจงใจมุ่งหน้ามากันแน่"เจียงซื่อจวินเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงถ้อยคำทุกประโยคที่หลิวจือหลินเอ่ยออกมาเขาก็จดจำได้ไม่มีลืม"นางเดินไม่ระวังก่อน""นางก็เดินมาตามเส้นทางของนาง องค์หญิงเป็นฝ่ายย่างกรายเข้าใกล้นางมิใช่หรือ"ถานจาวหรงศีรษะชาวาบ "ละ...แล้วอย่างไรเจ้าคะ ก็ข้าจะเดินทางนี้แต่นางดันมาขวางเอง ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุช่วยไม่ได้""อ่า...อุบัติเหตุสิ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 22 อย่ามารังแกฮูหยินของข้าอีก (1/2)

    หลิวจือหลินออกจากตำหนักส่วนตัวของฮองเฮาแล้ว เพราะนางมัวแต่ครุ่นคิดถึงวาจาที่อีกฝ่ายทิ้งปริศนาเอาไว้ซ้ำไปซ้ำมาจึงไม่ทันระวังตัว"โอ๊ย!"ร่างระหงล้มก้นจ้ำเบ้า ส่วนอีกฝ่ายเซถลาไปเบื้องหลัง ทว่าบรรดานางกำนัลรับคู่กรณีไว้ได้ ส่วนหลิวจือหลินยังร้องโอดโอยอยู่บนพื้นเย็นเยียบ"นี่เจ้า! ไม่มีตาหรือ อยากหัวขาดรึ" เสียงแหลมตวาดแหวหลิวจือหลินหยัดกายลุกขึ้นทั้งที่บั้นท้ายร้าวระบม เมื่อพบว่าสตรีตรงหน้าเป็นผู้ใดนางจึงค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อให้เกียรติอีกฝ่าย "เอ่อ...ขออภัยด้วย ข้ามิทันระวัง"นางกำนัลผู้หนึ่งสาวเท้าออกมา "บังอาจ นี่คือองค์หญิงเจ็ด ไฉนจึงไม่นอบน้อม"หลิวจือหลินเลิกคิ้วฉงน เมื่อครู่นางก็ขอโทษแล้วมิใช่หรือ ซ้ำยังมิได้ทำกิริยาหยาบกระด้างใด "เมื่อครู่ข้าขออภัยองค์หญิงไปแล้ว มีตรงใดที่เรียกว่าไม่นอบน้อมงั้นหรือ"ถานจาวหรงกระฟัดกระเฟียด "เจ้าแสร้งเมินข้าหรือ กำเริบเสียจริง คิดว่าเป็นฮูหยินท่านพี่ซื่อจวินแล้วข้าไม่กล้าลงโทษงั้นรึ สตรีไร้ยางอายเช่นเจ้าข้าอยากจะสั่งสอนให้รู้เข็ดหลาบนัก"ถานจาวหรงผลักหลิวจือหลินล้มลงโดยที่นางไม่ทันระวัง เพ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 21 เจียงโหวฮูหยินที่ไม่ถูกชมชอบ (2/2)

    หลิวจือหลินสะดุ้งเฮือก "...ทำอะไรเจ้าคะ""เจ้ามือเย็นหมดแล้ว ยามปกติข้าเห็นเจ้ามั่นใจฉะฉาน กล่าววาจาประหนึ่งน้ำตก ซ้ำยังโฉ่งฉ่างใช่ย่อย ยามนี้สงบเสงี่ยมเกินไปหน่อยแล้ว มันน่าแปลก" เจียงซื่อจวินเอ่ยทั้งที่เขายังกุมมือของนางอยู่เช่นนั้นหลิวจือหลินค้อนควัก "ก็ข้าตื่นเต้นนี่เจ้าคะ"หลิวจือหลินลอบดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาอย่างแนบเนียน หากเขายิ่งทำเช่นนี้ เกรงว่าหัวใจของนางต้องหลุดกระดอนมาดิ้นแด่วบนพื้นให้ต้องอับอายแน่แท้ฮองเฮาเอ่ยขึ้น "เจียงโหวฮูหยิน ข้าชมชอบอาภรณ์ที่เจ้าออกแบบยิ่งนัก อีกไม่นานราชวังจะมีงานเฉลิมฉลองใหญ่ เช่นนั้นข้าอยากให้เจ้าช่วยตัดเย็บเสื้อผ้าให้ข้าเสียหน่อยสะดวกหรือไม่"หลิวจือหลินอึกอัก นี่คือสตรีสูงศักดิ์ของใต้หล้าเชียว นางต้องตัดเย็บเสื้อผ้าให้จริงหรือ กดดันเกินไปหน่อยแล้ว "เอ่อ...งานอะไรหรือเพคะ"ไท่จื่ออมยิ้ม โพล่งตอบแทนมารดา "อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะเป็นวันคล้ายวันประสูติของเสด็จแม่ เช่นนั้นเจียงโหวฮูหยิน สามารถออกแบบอาภรณ์ที่เหมาะสมและมิมีผู้ใดเหมือนให้แก่เสด็จแม่ได้หรือไม่"หลิวจือหลินคลี่ยิ้มละไม นางค่อย ๆ ร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status