Share

บทที่ 3 ฮูหยินเพี้ยนไปแล้ว (1/2)

last update Last Updated: 2025-03-07 20:07:20

เป็นเวลาครึ่งค่อนเดือนที่หลิวจือหลินนั้นใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ นางมิได้สนใจหรือใส่ใจเจ้าของเรือนสักนิด กระทั่งอนุที่โหวหนุ่มตบแต่งเข้ามานางก็ยังไม่เคยเห็นหน้า พวกเขาเป็นเพียงภาพเลือนรางในมโนสำนึกของหลิวจือหลินคนเดิมเท่านั้น ทว่าหลิวจือหลินผู้นี้ก็ไม่อยากเห็นคนทั้งสองเท่าใด และไม่อยากรู้ด้วยว่าพวกเขาหน้าตาแบบไหน

เจียงซื่อจวินไม่คิดโผล่หน้ามาพบนางก็นับเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ หลิวจือหลินจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดเพราะนางไม่ใช่ฮูหยินตัวจริงของเขา เรือนที่นี่ใหญ่โตโอ่โถงประหนึ่งราชวังขนาดย่อม แค่เดินไปหอตำราก็กินเวลาเกือบเป็นชั่วยาม [1] หนำซ้ำต่อให้หลิวจือหลินคนเดิมจะน่ารังเกียจเดียดฉันท์ ทว่านางกลับมีเรือนร่างงดงามประหนึ่งโฉมสะคราญ ที่น่าตื่นตะลึงไปกว่านั้น นางเป็นสาวบริสุทธิ์ที่แต่งงานมานานแล้ว พรหมจรรย์ที่หาได้ยากอย่างนี้กลับทำให้หลิวจือหลินจากยุคสองพันดีใจเป็นล้นพ้น

ถึงแม้นางคบหากับแฟนหนุ่มมาหลายปีทว่าหลิวจือหลินในโลกอีกด้านก็ไม่เคยเกินเลยกับเขาสักครั้ง อาจมีจับมือ จุมพิต หรือกอดเป็นเรื่องปกติของคนรักกัน นี่คงเป็นเหตุให้อีกฝ่ายคิดนอกใจหลิวจือหลินไปหาหญิงอื่นที่สามารถมอบความสุขก่อนแต่งให้เขาได้กระมัง ดูไปแล้ว เจียงโหวก็คงนึกแบบเดียวกันกับแฟนของหลิวจือหลินในโลกอีกด้าน จึงรับอนุเข้ามาเพื่อระบายกำหนัดเพียงเพราะไม่อยากต้องกายสตรีร้ายกาจเช่นนาง

ส่วนอนุหม่าที่สาวใช้คนสนิทเคยกล่าวถึง นางคงเกรงกลัวว่าหลิวจือหลินจะควบคุมสติไม่อยู่ อาจวิ่งรี่เข้าถลกหนังศีรษะนาง เลยมิกล้าปรากฏกายให้หลิวจือหลินได้เห็น

ดูเหมือนเรื่องเพลิงไหม้ที่ใครก็กล่าวหาว่าเป็นฝีมือฮูหยินใหญ่เจียงโหว กลับเป็นหนึ่งความทรงจำอันเลือนรางที่หลิวจือหลินมิอาจรู้แจ้ง ตระหนักถึงภาพในโซนสมองบางส่วนแล้วก็น่าขัน ไม่คิดว่าหลิวจือหลินคนเดิมช่างร้ายกาจจนทุกคนขยาดกลัวนางเฉกเช่นหนอนบุ้งตัวหนึ่ง

หลิวจือหลินสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป ยามว่างจึงเข้าห้องตำราหาอะไรอ่านไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งนางพบสูตรโอสถที่ช่วยลดเลือนแผลเป็นและริ้วรอย ในเมื่อยุคนี้ไม่มีโลชันหรือเซรั่มบำรุงผิว เช่นนั้นนางก็ต้องเรียนรู้และปรับทุกอย่างให้เข้ากับยุคสมัย

มือเนียนสวยใช้เครื่องบดยาในสมัยโบราณคลึงไปคลึงมาอยู่หลายหน ส่วนสาวใช้ทั้งสองรอเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง หลิวจือหลินหยิบใบสีเขียวของโม่ลี่ฮวา [2] หย่อนลงไปพอประมาณ เจียวเจียวเห็นดังนั้นจึงขันอาสาเพื่อช่วยเหลือ

"บ่าวช่วยนะเจ้าคะ"

หลิวจือหลินส่งยิ้มผ่านผ้าแพรผืนโปร่ง "ขอบใจมาก"

ส่วนปี้อี๋กำลังง่วนอยู่กับการต้มน้ำอุ่น "ฮูหยิน ใช้ได้หรือยังเจ้าคะ"

ปี้อี๋เหลียวมอง ใบหน้าของนางยามนี้เปื้อนเขรอะไปด้วยเขม่าดินดำ หลิวจือหลินเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะร่วน เจียวเจียวเมียงมองสำทับ พลันหลุดขำพรืดเสียงดัง "ฮ่า ฮ่า อาอี๋ เจ้าทำอย่างไรหน้าดำหมดแล้ว"

ปี้อี๋กะพริบตางุนงง "หา..." นางยกมือขึ้นเพื่อเช็ดหน้าเช็ดตา กระนั้นยิ่งเช็ดก็ยิ่งเกิดรอยดำเป็นปื้น

เสียงหัวเราะร่าจากเจียวเจียวยิ่งสะท้อนก้องไปใหญ่ ร่างระหงลุกเดินเข้าใกล้ปี้อี๋ ริมฝีปากสีกุหลาบประดับรอยยิ้ม จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาบรรจงเช็ดคราบสกปรกให้อีกฝ่ายอย่างไม่ถือตัว ปี้อี๋ผงะแทบหงายหลัง ส่วนเจียวเจียวก็พลอยอ้าปากค้างตื่นตะลึงไปตามกัน

อยู่ ๆ ฮูหยินที่แสนเกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนแปลงไป คาดไม่ถึงนอกจากนิสัยที่พลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือแล้ว นางยังไม่ถือตัวกับบ่าวไพร่เฉกเช่นกาลก่อนอีกด้วย

เดิมทีพวกนางมักถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวสกปรกเหม็นสาบ ทำงานไม่ได้เรื่องได้ราว ถูกหลิวจือหลินทุบตีอยู่เสมอ

"...ฮูหยิน ไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ เดี๋ยวบ่าวเช็ดเอง" ปี้อี๋เอ่ยตะกุกตะกัก

"อยู่นิ่ง ๆ ข้าเช็ดให้ ดูสิเลอะเทอะหมดแล้ว"

มือเรียวยังบรรจงเช็ดต่อไปจนใบหน้าของปี้อี๋สะอาดเอี่ยม เฉิงซือหานที่เฝ้าจับตามองอยู่ตลอดหลายวันยิ่งเห็นก็ยิ่งประหลาดใจ ฮูหยินคนเดิมหายไปไหน เหตุใดครึ่งเดือนนี้หลิวจือหลินจึงได้ดูสงบเสงี่ยมใจเย็น จากไม่เคยเข้าหอตำราก็เข้าไปหลายชั่วยาม เดิมเป็นคนนั่งผัดหน้าขาวไปวัน ๆ จ้องจะเข้าไปเหยียบเรือนหลักเพื่อพบหน้าเจียงซื่อจวิน ก็แปรผันเป็นแม่บ้านแม่เรือนหางานทำไปเรื่อย ซ้ำยังไม่เคยเอ่ยถึงนายของตนแม้เพียงครึ่งคำ

.

.

"ท่านโหว" เฉิงซือหานประสานฝ่ามือค้อมกายเล็กน้อย

"ว่าอย่างไร นางมิได้ก่อเรื่องใดอีกกระมัง" เจียงซื่อจวินไม่ได้ละสายตาจากม้วนไม้ไผ่ในมือ

เฉิงซือหานเหลียวมองหน้าสหายที่ยืนขนาบข้าง ช่ายจินซินงุนงงต่อท่าทีกระอึกกระอักของอีกฝ่าย จึงเอ่ยสำทับเดี๋ยวนั้น "เป็นอันใดของเจ้า อ้ำอึ้งอยู่ได้"

"คือ...ช่วงนี้ฮูหยินไม่ได้ก่อเรื่องใดเลยขอรับ นอกจากเข้าหอตำรา และทำยาสมานแผล อีกทั้งยังไม่เคยอาละวาดสักครั้ง"

คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างนึกฉงน คนเช่นนางน่ะหรือสนใจอ่านตำรา ซ้ำยังทำยาสมานแผลเอง ของแบบนั้นกระทั่งเฉียดเข้าใกล้นางก็ยังไม่ทำ

เจียงซื่อจวินช้อนสายตาขึ้นแช่มช้า "หมายความว่าอย่างไร"

"คิดว่าตอนเกิดเพลิงไหม้ฮูหยินอาจสมองกระทบกระเทือน ทำให้ยามนี้เปลี่ยนไปดุจคนละคน"

เจียงซื่อจวินแทบไม่อยากเชื่อ ทว่าตลอดหลายวัน เฉิงซือหานไม่เคยรายงานว่าอีกฝ่ายก่อปัญหาเลย ซ้ำนางยังมิปริปากถึงตนอีกด้วย ครั้นจะกล่าวถามเขาก็รู้สึกเก้อกระดากไม่น้อย

โหวหนุ่มกระแอมหนึ่งครั้ง "เรื่องอื่นเล่า"

เฉิงซือหานครุ่นคิด "อ้อ..."

ริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่ว ทว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่อีกฝ่ายกล่าว ใบหน้าหล่อเหลาก็พลันหม่นทะมึนลงเดี๋ยวนั้น

"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหลิวมาเยี่ยมฮูหยิน แต่ทว่าท่านโหวไม่อยู่ก็เลยไม่ได้เข้ามาพบขอรับ" เฉิงซือหานตอบฉะฉาน กระนั้นกลับทำให้เจียงซื่อจวินรู้สึกหงุดหงิดชอบกล

เชิงอรรถ

^หนึ่งชั่วยาม = 2 ชั่วโมง

^โม่ลี่ฮวา หมายถึง ดอกมะลิใบมะลิลา ลดรอยแผลเป็นได้ การนำเอาใบจากต้นมะลิ สัก 2-3 ใบ ล้างให้สะอาด นำมาตำหรือบดพอละเอียด แล้วคั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้น ทาวันละ 2-3 ครั้ง ทำเป็นประจำทุกวัน เพียง 2-3 สัปดาห์ข้อมูลจาก : www.springnews.co.th

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 3 ฮูหยินเพี้ยนไปแล้ว (2/2)

    "เรื่องอื่นเล่า หมดเพียงเท่านี้รึ"เฉิงซือหานเริ่มสับสน อย่างอื่นล้วนไม่มีแล้ว หากเป็นเรื่องกิจวัตรประจำวันของหญิงสาวเขาก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว องครักษ์หนุ่มจึงเหลียวมองหน้าสหายที่ยืนสงบนิ่งประหนึ่งหุ่นขี้ผึ้งแกะสลักเพื่อขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายเขม้นสายตาดั่งต้องการบอกว่า เรื่องท่านโหวเล่า มีหรือไม่เฉิงซือหานจึงเข้าใจในบัดดล เพราะเขาเป็นคนตรง ๆ ได้เห็นมาอย่างไรก็กล่าวเช่นนั้น "หากเป็นเรื่องที่ฮูหยินมักเที่ยวมาอาละวาดหน้าเรือนของท่านเช่นเมื่อก่อน ยามนี้ไม่มีแล้วขอรับ ดูเหมือนข้าไม่เคยได้ยินฮูหยินเอ่ยถึงท่านโหวเลยด้วยซ้ำ"จู่ ๆ ช่ายจินซินก็รู้สึกว่ากำลังจะเกิดพายุลูกใหญ่ เขากระทุ้งข้อศอกไปยังหน้าท้องหนั่นแน่นของสหายเพื่อให้รู้สึกตัว"เอ่อ เอ่อ มีเอ่ยถึงตอนที่บอกว่าไม่อยากทราบเรื่องท่านโหวแล้วขอรับ" เฉิงซือหานเหงื่อซึมแผ่นหลังช่ายจินซินได้ฟังแทบอยากกัดลิ้นตนเพื่อลงไปนอนแดดิ้นเสีย ดูเหมือนเฉิงซือหานยังซื่อบื้อไม่แปรเปลี่ยน เขานั้นอยู่กับเจียงซื่อจวินตลอด ทราบดีว่าจิตใจอีกฝ่ายยามนี้กระวนกระวายเพียงใด เพราะเจียงซื่อจวินทำตัวราวกับว่า ไม่ใกล้สูญเสียก็ไม

    Last Updated : 2025-03-08
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (1/2)

    ยามฮ่าย [1] ในคืนเดียวกัน ร่างดำทะมึนขององครักษ์มือซ้ายกระโจนลงจากหลังคาท่ามกลางความอนธการ เขาค้อมศีรษะพลางเอ่ยรายงานนายของตนซึ่งยังง่วนกับกองรายงานม้วนไม้ไผ่แทบไม่ว่างเว้น"ท่านโหว วันพรุ่งฮูหยินบอกว่าจะออกไปข้างนอกขอรับ"สิ่งที่อีกฝ่ายรายงานหาได้สลักสำคัญใด ตั้งแต่เกิดเรื่อง หลิวจือหลินก็ไม่ได้ก้าวออกจากจวนโหวเลย "นางอยากไปก็ไป""แต่...เดิมทีก่อนฮูหยินจะไปที่ใดมักมาแจ้งท่านโหวก่อนเสมอ ครั้งนี้ฮูหยินเอ่ยว่า..." เฉิงซือหานรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางทีเขาอาจคิดผิดที่มารายงานเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้"หืม..." มือหยาบระคายวางพู่กันหางจิ้งจอกลง เขาทำงานจนลืมดูว่ายามนี้ดึกมากแล้ว คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน "เดี๋ยวนี้เจ้ากลายเป็นประเภทเรรวนไปตั้งแต่เมื่อใด""ขออภัยท่านโหว คือ...ฮูหยินกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงานท่านก็ย่อมได้ เพราะท่านโหวคงลืมไปแล้วว่ามีนางอยู่ อีกอย่างฮูหยินเองก็ลืมไปแล้วเช่นกันว่ามีท่านอยู่"ปัง!องครักษ์ซ้ายขวาพร้อมใจสะดุ้งโหยง ช่ายจินซินยกมือกุมขมับ บางทีห

    Last Updated : 2025-03-09
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 4 ลืมไปแล้วว่ามีตัวตน (2/2)

    หลิวจือหลินพิเคราะห์หน้าตาที่มีผ้าแพรปกปิดพลางตบข้างบั้นท้ายตนเปาะหนึ่งเจียวเจียวยกมือทาบอก "…ฮูหยิน ทำเช่นนี้ไม่งามนะเจ้าคะ"หลิวจือหลินเหลียวหน้ามองสาวใช้ พลางหัวเราะขบขัน เปลือกตาบางขยิบหนึ่งฝั่งหยอกล้อ จากนั้นเท้าเรียวเดินบ้างกระโดดบ้างดั่งกระต่ายเริงร่า หลิวจือหลินฮัมเพลงเสียงแผ่ว ไม่ใส่ใจสาวใช้ตนอีกเจียวเจียวแทบเกิดลมจับ เพราะเจียวเจียวมักเคร่งครัดเรื่องความเป็นกุลสตรีเช่นนี้เสมอ ส่วนปี้อี๋ยิ้มขบขันปี้อี๋ "เอาน่าอาเจียว ฮูหยินเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ""แต่…""ไม่ต้องแต่แล้ว เห็นหรือไม่ฮูหยินจะถึงรถม้าแล้ว เจ้าอยากหลังลายรึ"เจียวเจียวพยักหน้าหงึกหงัก พวกนางเร่งถลันกายตามนายหญิงไปทันควันบุรุษร่างสูงผินหน้ามองเรือนตะวันออกด้วยความใคร่รู้ ดูนางไม่แยแสเขาจริงดังว่า คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความฉงน แม้นางอยู่ห่างจากเขาจนเห็นไม่ชัด แต่เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของหญิงสาวที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหางตาของหลิวจือหลินพลันเหลือบเห็นรถม้าอีกคันจอดไว้ไกลลิบ คงมิใช่ทางฝั่งเรือนหลักกระมัง ช่

    Last Updated : 2025-03-10
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (1/2)

    รถม้าขับเคลื่อนไปเบื้องหน้าอย่างเรียบเรื่อย เสียงจ้อกแจ้กจอแจบ่งบอกว่าพวกนางเดินทางมาถึงตลาดกลางเมืองแล้ว หลิวจือหลินดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่มิด สาวใช้ทั้งสองเห็นท่าทีประดุจเด็กสามขวบของนายหญิงก็อดยิ้มเป็นมิได้มือเรียวเลิกผ้าคลุมหน้าต่างขึ้นพลางสอดส่ายสายตาเมียงมองร้านรวงสองข้างทาง นางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร บรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้หลิวจือหลินเคยสัมผัสเพียงในซีรีส์เท่านั้น คาดไม่ถึงว่านางได้เข้ามาเยือนดินแดนยุคโบราณอย่างแท้จริง อันเป็นเหตุให้สามารถหลงลืมความทุกข์ระทมที่ตนถูกหักอกไปเสียสนิทใจเกิดใหม่ในร่างโฉมสะคราญ ถึงแม้มีสามีก็เพียงสามีในนามมิใช่หรือ เช่นนั้นหลิวจือหลินควรใช้เรือนร่างสะโอดสะองให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น สวมใส่เสื้อผ้างดงามที่ตัดเย็บด้วยตนเอง ผสานกลิ่นอายการออกแบบในยุคสมัยที่จากมาลงไปด้วย ต้องดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน ตรึกตรองดูแล้วเรื่องวาดฝันเพื่อทำการค้าของหลิวจือหลินก็ดูไม่เลวทีเดียวหากนางสามารถออกมาจากเรือนโอ่อ่าทว่าชวนอึดอัดนั้นได้จริง ต่อให้ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงหม้ายก็ช่างปะไร ในเมื่อหลิวจือหลินมิสนใจธรรมเนียมคร่ำครึนั่นเสียอย่

    Last Updated : 2025-03-11
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (2/2)

    "ขออภัยพี่หญิง ข้ามิได้จงใจแย่งชิงผืนนี้กับท่าน" เสียงใสเอ่ยด้วยความพินอบพิเทา แววตาไหวระริกคล้ายกลัวนางเสียเต็มประดาเดิมทีหม่าลี่เจี่ยพิเคราะห์อยู่นานว่าอีกฝ่ายคือฮูหยินเจียงโหวหรือไม่ เพราะการแต่งกายของนางเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซ้ำหลิวจือหลินยังปกปิดใบหน้า แต่ทว่านางจำสาวใช้ข้างกายทั้งสองได้ ดูเหมือนใบหน้าที่ถูกปิดบังคงซ่อนความอัปลักษณ์เอาไว้แน่แท้สายตาของคนในร้านนับสิบคู่เริ่มเมียงมองมาที่พวกนางด้วยความใคร่รู้หลิวจือหลินกระซิบแผ่วกับสาวใช้ "นะ...นางคือใคร"เจียวเจียวกะพริบตาถี่ เหลียวมองหน้ากับปี้อี๋เจียวเจียวกระซิบตอบ "ฮูหยิน นี่อนุหม่าอย่างไรเจ้าคะ"ดุจกระแสอสนีบาตฟาดกลางกระหม่อม ร่างระหงแทบล้มทั้งยืน ไฉนใบหน้าของหม่าลี่เจี่ยจึงคล้ายเพื่อนสนิทที่รวมหัวกับแฟนหนุ่มเพื่อหักหลังนางได้ถึงเพียงนี้"พี่หญิงเป็นอันใดไปเจ้าคะ" อีกฝ่ายยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อมไร้เดียงสาหลิวจือหลินตั้งสติ ร่างระหงยืดกายตรงแน่ว โลกคงไม่เหวี่ยงคนบัดซบมาให้เจอซ้ำ ๆ กระมัง อาจเป็นคนที่หน้าเหมือนกันในชาตินี้ นางเองยังมีรูปร่างหน้าตาละม้ายเจ้าของร่างเดิ

    Last Updated : 2025-03-12
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (1/2)

    หลิวจือหลินครุ่นคิดถึงความเหมาะสม นัยน์ตากลมโตเหลียวมองสาวใช้ข้างกาย ยามนี้พวกนางมีทีท่าเป็นกังวลอย่างยิ่งยวด ปี้อี๋และเจียวเจียวพร้อมใจส่ายศีรษะ ทว่าเมื่อเหลือบมองบุรุษฝั่งตรงข้ามอีกหนอย่างนึกลังเล ชายหนุ่มก็ยังส่งยิ้มละไมให้นางราวกำลังกดดัน นัยน์ตาคมจดจ้องเพราะคาดหวังในคำตอบนางเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว การไปทานข้าวกับบุรุษซึ่งมิใช่สามีจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ เมื่อตรึกตรองถึงเรื่องก่อตั้งกิจการในอนาคต หลิวจือหลินจึงเห็นทางสว่างอยู่รำไร หากทำความรู้จักกับเขา ผู้เป็นถึงเจ้าของร้านผ้าอันใหญ่โตโอ่โถง ก็นับว่าได้ประโยชน์ไม่น้อยมิใช่หรือ"ฮูหยินดูลังเลเพียงนี้ คงเป็นกังวลว่าท่านโหวจะโกรธเคืองงั้นหรือ"หลิวจือหลินส่งยิ้มแห้งขอด นางยกมือขึ้นโบกไปมาพัลวัน "เปล่า เปล่า เจ้าค่ะ เดิมทีข้าและท่านโหวไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันและกันอยู่แล้ว"เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มกว้าง "เช่นนั้นฮูหยินคงไม่ถือสา ถึงอย่างไรทั้งท่านและข้าล้วนแต่มีผู้ติดตาม หาได้ไปเพียงลำพัง ถือเสียว่าเป็นการทักทายจากสหายที่เพิ่งพานพบ ท่านว่าดีหรือไม่"สาวใช้ทั้งสองหน้าเจื่อน แต่หลิวจือห

    Last Updated : 2025-03-13
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 6 บุรุษที่ไม่อยากเจอ (2/2)

    ชายหนุ่มอมยิ้ม เขามองตามสายตาดุจแมวน้อยหิวโซของหลิวจือหลิน นางยังคงลังเลว่าควรลองชิมอาหารจานใดก่อนตะเกียบในมือชายหนุ่มถูกหยิบขึ้น ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารวางลงในถ้วยกระเบื้องเคลือบของหลิวจือหลิน "ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ท่านลองชิมว่าชอบหรือไม่"หลิวจือหลินแหงนมองอีกฝ่าย เขาช่างดูเอาใจใส่สหายที่เพิ่งรู้จักกันอยู่ไม่น้อย หากสตรีนางใดเป็นฮูหยินของเขา คงโชคดีมากทีเดียว หลิวจือหลินละเลียดชิมอย่างเกรงใจ เมื่อหมูชิ้นแรกถูกส่งเข้าปาก ความนุ่มละมุนลิ้นผสานรสเปรี้ยวหวานอันเข้ากันอย่างลงตัว เป็นเหตุให้หลิวจือหลินตื่นตาอย่างยิ่ง"อื้อฮือ...อร่อยมากเจ้าค่ะ" มือเรียวยกขึ้นชูนิ้วโป้งม่านตาเบิกกว้างชอบใจริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มจาง ๆ "หากไม่พอข้าจะสั่งเพิ่มให้"หลิวจือหลินส่ายศีรษะจนเส้นผมแตกกระเจิง "พอแล้วเจ้าค่ะ มากมายเพียงนี้ ทานเพียงสองคนไม่หมดแน่ สิ้นเปลืองเสียเปล่า"ฟ่านเทียนเผยคีบอาหารอีกหลายอย่างส่งไปยังถ้วยอาหารของหลิวจือหลิน นางก็มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด อาหารสูตรโบราณเหล่านี้อร่อยล้ำถูกปากจริง ๆ หลิวจือหลินนอนป่วยอยู่ในจวนโหวตั

    Last Updated : 2025-03-14
  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 7 มัจจุราชหน้าขรึม (1/2)

    รถม้าจวนโหวเคลื่อนตัวออกจากเหลาอาหาร ฟ่านเทียนเผยยืนสงบนิ่งมองจนลับตา จากการสังเกตเจียงซื่อจวินก็มิได้ดูรังเกียจเดียดฉันท์ฮูหยินตนเองเช่นข่าวโคมลอย แต่ทว่าสองสามีภรรยาที่เผชิญหน้ากันเมื่อครู่ เหตุใดจึงทำราวกับเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกฮูหยินเจียงโหวยิ้มเดียวล่มเมือง เป็นที่น่าสนใจของเขาเสียด้วยดูเหมือนฟ่านเทียนเผยพบเรื่องราวน่าสนุกเข้าให้แล้วริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่ว วันนี้เรื่องที่หมายเจรจายังไม่ลุล่วง นั่นย่อมเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้พบหน้าฮูหยินเจียงโหวอีกครั้ง ร่างสูงหมุนกายกลับเข้าด้านใน มือทั้งสองไพล่หลังพร้อมสีหน้าสบายอารมณ์หลิวจือหลินก้มหน้างุดอยู่ในรถม้า สาวใช้ทั้งสองมิได้อยู่ด้วยเช่นขามา ยามนี้นางกำลังประสบปัญหาขั้นวิกฤติอยู่เพียงลำพังกับมัจจุราชหน้าขรึม ดูเอาเถิดดวงตาของเขาคมเข้มราวมีดดาบ ซ้ำยังจ้องนางเขม็งราวกระหายโลหิตคนไร้มารยาท ปีศาจกลับชาติมาเกิด กะจ้องข้าให้พรุนเลยหรือไงครั้นอยากหายใจหลิวจือหลินยังรู้สึกลำบาก ทว่าสิ่งที่ชวนอึดอัดมากกว่าอื่นใด ไฉนเขาจึงมีใบหน้

    Last Updated : 2025-03-15

Latest chapter

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 25 เจียงโหวคนถ่อย (2/2)

    "โอ๊ย! ท่านโหว เป็นไบโพล่ารึ!" หลิวจือหลินหน้างอ เมื่ออีกฝ่ายโยนนางลงเตียงนอนหนานุ่มโดยไร้เหตุผลเจียงซื่อจวินมิได้ปล่อยนางเป็นอิสระนานนัก เขารวบจับแขนทั้งสองไว้เหนือศีรษะพลางกดกายระหงแนบลู่ลงบนที่นอน หลิวจือหลินตื่นตระหนก ม่านตาขยายกว้างเมื่อถูกบุรุษกายกำยำคร่อมอยู่บนเรือนร่างของตนรวดเร็วดุจสายอสนี"ทะ...ทำอะไรของท่าน ปล่อยข้านะ"ต่อให้นางดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ แรงของเขาเฉกเช่นม้าศึกคึกคะนอง"หลิวจือหลิน เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงสนิทสนมกับชายอื่น""ห๊ะ!..."นี่เขากำลังหึงหวงข้าหรือ"เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่อยู่ด้วยจะทำอันใดตามใจตนเองก็ได้ อย่าลืมสถานะของเจ้าว่าคือใคร หากจำไม่ได้ข้าจะช่วยทบทวนความจำให้ดีหรือไม่ หืม..."ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงหมายรังแกสตรีเบื้องล่าง จู่ ๆ หลิวจือหลินก็ร้องไห้โฮไม่มีปี่มีขลุ่ย"ฮึก ฮื่อ...คนบ้า ปล่อยข้านะ ข้าเจ็บ" แขนเล็กขยับไปมาเพื่อให้เขาผ่อนแรงลง หลิวจือหลินรู้สึกว่าข้อมือของตนใกล้หักอยู่รอมร่อ ยามนี้นางทราบถึงจุดอ่อนหนึ่งของเขา เจียงโหวแพ้น้ำตาสตรี นางจะแสร้งงอแงจนกว่าเขาน

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 25 เจียงโหวคนถ่อย (1/2)

    การเดินทางกลับเรือนครั้งนี้ก็ยังเหมือนยามปกติ หลิวจือหลินอมยิ้มพลางส่ายศีรษะ ดูเหมือนฟ่านเทียนเผยกังวลใจมากเกินไปแล้วหลิวจือหลินจึงเร่งชำระร่างกายอันเหนอะหนะเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่ตนพบเจอตลอดทั้งวัน ดูเหมือนวันนี้เจียงซื่อจวินก็กลับดึกไม่ต่างกันเดิมทีหลิวจือหลินมักเห็นเขานั่งปั้นหน้าถมึงทึงรออยู่โต๊ะทำงานที่ประจำเพื่อจ้องจับผิดนางร่ำไป เมื่อสาแก่ใจเขาก็สะบัดกายกลับเรือนหลัก โดยไม่คิดเหลือบแลนางอีกเวลาล่วงเลยจนถึงยามฮ่าย [1] หลิวจือหลินจึงได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนย่างกรายใกล้เข้ามาทุกขณะ เจียงโหวมักปรากฏกายอนึ่งผีสางเช่นนี้เสมอ นางเองก็ชินเสียแล้ว"...ท่านโหว ยามวิกาลเช่นนี้ หากท่านจะมาก็ช่วยส่งเสียงหน่อยมิได้หรือเจ้าคะ ทำราวกับผีสางผู้อื่นจะได้ตกใจแตกตื่นกันหมด"หลิวจือหลินเอ่ยทั้งที่ตนยังวุ่นกับงานอันล้นมือโดยไม่ละสายตา จู่ ๆ ลมหายใจอุ่น ๆ ก็เป่าปะทะบริเวณใบหูเสียจนขนลุกเกรียว"วันนี้เจ้าทำอะไรมางั้นหรือ"หลิวจือหลินผงะ "ก็ทำงานอย่างไรเจ้าคะ พูดปกติไม่ได้หรือ เหตุใดต้

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 24 ลางสังหรณ์ (2/2)

    "คุณชายฟ่าน""...""คุณชายฟ่านเจ้าคะ""..."เมื่อไร้เสียงตอบรับ มือเรียวจึงโบกสะบัดขึ้นลงผ่านหน้าชายหนุ่มเพื่อเรียกสติ เจียวเจียวและปี้อี๋เบิกตากว้างตื่นตระหนกเมื่อนายหญิงใกล้สิงร่างบุรุษตัวสูงให้แล้วหลิวจือหลินเป็นสตรีที่มีจิตวิญญาณตื่นรู้จากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ใจของนางคิดเพียงว่าฟ่านเทียนเผยเป็นสหาย ซ้ำยังเป็นสหายที่ดีอีกด้วย นางจึงมิได้คำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมใด"ฮูหยิน...ทำอะไรของท่าน"นัยน์ตาคมลดมองร่างระหงที่ยืนเขย่งปลายเท้าพลางแหงนสบตาเขาปริบ ๆ สีหน้าของชายหนุ่มแดงซ่านราวลูกตำลึงสุก เพราะยามนี้พวกเขาห่างกันเพียงลมหายใจกั้นหลิวจือหลินผละห่าง แขนเรียวเท้าเอวเอียงคอมองตอบ "ท่านได้สติแล้วหรือ ข้าเรียกอยู่ตั้งนาน เอ...หรือกำลังมองสาวงามกันน้า..."หลิวจือหลินหมุนตัวขวับ เมียงมองไปยังเส้นทางที่ฟ่านเทียนเผยจดจ้องเพื่อเย้าแหย่ กระนั้นกลับพบเพียงความว่างเปล่า มือเรียวยกขึ้นเกาศีรษะเกาแก้มด้วยความงุนงง"อ้าว นี่ท่านมองอะไรกันแน่""ไม่มีอะไร ข้าเพียงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฮูหยินอย่าได้ใส่ใจเลย""โอเคเจ้

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 24 ลางสังหรณ์ (1/2)

    ยามนี้หลิวจือหลินแทบหายจากอาการบาดเจ็บเป็นปลิดทิ้ง เพราะมีใครบางคนเฝ้าจับตามองนางให้ทานยาและพักผ่อนอยู่ไม่ห่าง งานราษฎร์งานหลวงอันยุ่งเหยิงของเขา เจียงโหวยังสู้อุตส่าห์กระเตงหอบมาทำที่เรือนตะวันออกทั้งหมดด้วยเหตุนี้หม่าลี่เจี่ยทราบเรื่องจึงรู้สึกเคืองขุ่นเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจบุ่มบ่ามทำสิ่งใดได้ กระนั้นนางทราบมาว่าหลิวจือหลินได้รับหน้าที่ตัดเย็บฉลองพระองค์ให้ฮองเฮาในวันคล้ายวันประสูติที่จะถึงในอีกไม่ช้า"อีกกี่วันนางจะส่งฉลองพระองค์ไปที่วังหลวง"สาวใช้กระซิบตอบ "อีกสองสัปดาห์เจ้าค่ะ"หม่าลี่เจี่ยขบคิด หากหลิวจือหลินทำทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ นางก็ไม่ต่างจากคนใช้ที่ถูกเจียงโหวเก็บมาเลี้ยง กว่านางจะอ้อนวอนปู่เพื่อเกลี้ยกล่อมเจียงซื่อจวินให้รับตนเป็นอนุได้มิใช่เรื่องง่ายดายคาดไม่ถึงต่อให้เจียงซื่อจวินในเมื่อก่อนไม่ชมชอบฮูหยินตนอย่างไร เขาก็ไม่คิดแตะต้องนางเช่นกัน ความมาดมั่นจะถูกโหวหนุ่มยกยอให้เป็นใหญ่ในภายภาคหน้ากำลังพังครืนไม่เป็นท่าเสียแล้ว..ณ ร้านฟ่านอิน"ฮูหยิน ท่านมาได้เสียที อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างหรือ"

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 23 ยารสขมปนหวาน (2/2)

    หลิวจือหลินมองตามพลางจิ๊ปาก "เอ๊ะ ท่านโหว ข้าต้องทำงานนะเจ้าคะ ไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับท่านได้หรอกนะ เอามาเจ้าค่ะ"หลิวจือหลินเอื้อมมือคว้าพู่กันจากเขา แต่อีกฝ่ายก็เบี่ยงหลบ "ไม่ได้ หากไม่กินยาข้าจะง้างปากเจ้าให้ดู""ข้าไม่กิน เอามานะเจ้าคะ" หลิวจือหลินไม่ยอมฟังเสียงของเขา ร่างระหงลุกพรึบหมายช่วงชิงพู่กันจากชายหนุ่มให้ได้เจียงซื่อจวินหยัดกายกำยำยืนเต็มความสูง แขนยาวชูของในมือขึ้นจนสุด ร่างเล็กกระโดดโหยงราวกับกระต่ายขาเดียว ไม่ว่าพยายามอย่างไรก็มิสามารถเอื้อมถึง "ท่านโหว รังแกข้าสนุกนักหรือ เอามานะ!"นัยน์ตาคมลดมองสตรีตัวจ้อยที่พยายามยื้อแย่งเอาเป็นเอาตาย "บอกว่ากินยาก่อน""ข้าไม่กิน" หลิวจือหลินยังพยายามควานมือขึ้นสูงต่อไป ในเมื่อนางกระโดดไม่ถึงเช่นนั้นก็ต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายเสียแล้วดูเหมือนเจียงซื่อจวินรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของนางเข้าแล้ว ริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มหนึ่งฝั่ง ร่างระหงตั้งท่ากระโดดเกาะเอวเขาดั่งลูกลิง ไม่ทันสมใจหวังกลับถูกแขนแกร่งคว้าเข้าบริเวณเอวคอดประหนึ่งอสรพิษร้าย นางถูกเขาพันธนาการเอาไว้เสียจนไม่อาจขยับไหว"อ๊ะ! ปล่อยน

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 23 ยารสขมปนหวาน (1/2)

    หลังกลับจากราชวังหลิวจือหลินก็ต้องพักผ่อนราวสองสามวัน เจียงซื่อจวินเป็นฝ่ายจัดการส่งคนไปแจ้งทางร้านฟ่านอินว่านางไม่สบายมิอาจทำงานได้ ฟ่านเทียนเผยทราบข่าวจึงอยากมาเยี่ยมเยียนนาง ทว่ากลับถูกเจียงซื่อจวินดักคอไว้เสียได้ฮ่องเต้ไม่ร้อนใจ ขันทีร้อนใจแทน [1] ริมฝีปากได้รูปกระตุกแผ่วเมื่อเห็นข้อความบนกระดาษแผ่นเล็กที่องครักษ์ของอีกฝ่ายยื่นให้ตนเป็นคราที่สอง ดูเอาเถิดเขาเป็นหุ้นส่วนฮูหยินเจียงโหวโดยแท้ กระทั่งอยากเยี่ยมเยียนนางในฐานะสหาย ยังถูกกีดขวางจากสามีของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไหน้ำส้มเจียงซื่อจวินใหญ่โตเท่าใดกันหรือนี่"ฮูหยิน ลุกขึ้นมาทำอะไรเจ้าคะ" เจียวเจียวถือถ้วยกระเบื้องเคลือบอันเต็มไปด้วยของเหลวสีขุ่นเข้ามาในห้อง นางเร่งวางลงจากนั้นถลาเข้าดูอาการนายหญิงด้วยสีหน้าร้อนใจหลิวจือหลินนั่งอยู่บริเวณหน้าโต๊ะไม้สัก มือทั้งสองข้างถูกพันด้วยผ้าสีขาวประหนึ่งมัมมี่หมื่นปีกำลังจับพู่กันตวัดซ้ายตวัดขวาลงบนกระดาษ หลิวจือหลินละสายตาจากการกระทำของตน พลางแหงนหน้าขึ้น"เจียวเจียว ข้า

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 22 อย่ามารังแกฮูหยินของข้าอีก (2/2)

    ถานจาวหรงถอยหลังกรูด ม่านตาเบิกกว้างด้วยอาการตื่นตระหนก พลางเหลือบมองสาวใช้ซ้ายขวาซึ่งถูกหินก้อนเล็กจ้อยเล่นงานอย่างน่าอับอายจนร่างกระเด็นไปคนละทิศ"ท่านพี่ซื่อจวิน มะ...มาได้อย่างไรเจ้าคะ""ข้าต้องถามองค์หญิงมากกว่าว่ามาได้อย่างไร องค์หญิงกำลังจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮางั้นหรือ""เอ่อ...เอ่อ..." ถานจาวหรงหลุกหลิก ทว่านางเป็นถึงองค์หญิง จะให้อีกฝ่ายกำเริบกับตนโดยใช่เหตุได้อย่างไร "หึ! ข้าจะไปที่ไหนก็ได้นี่เจ้าคะ ราชวังแห่งนี้คือพื้นที่ของข้า"นัยน์ตาคมหรี่ลง "งั้นหรือ" นัยน์ตาคมกริบลดมองสตรีบนอ้อมแขนของตน ซึ่งยามนี้ตัวแข็งค้างกลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งไม้แกะสลักไปแล้ว "องค์หญิงผ่านทางมา หรือจงใจมุ่งหน้ามากันแน่"เจียงซื่อจวินเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รวมถึงถ้อยคำทุกประโยคที่หลิวจือหลินเอ่ยออกมาเขาก็จดจำได้ไม่มีลืม"นางเดินไม่ระวังก่อน""นางก็เดินมาตามเส้นทางของนาง องค์หญิงเป็นฝ่ายย่างกรายเข้าใกล้นางมิใช่หรือ"ถานจาวหรงศีรษะชาวาบ "ละ...แล้วอย่างไรเจ้าคะ ก็ข้าจะเดินทางนี้แต่นางดันมาขวางเอง ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุช่วยไม่ได้""อ่า...อุบัติเหตุสิ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 22 อย่ามารังแกฮูหยินของข้าอีก (1/2)

    หลิวจือหลินออกจากตำหนักส่วนตัวของฮองเฮาแล้ว เพราะนางมัวแต่ครุ่นคิดถึงวาจาที่อีกฝ่ายทิ้งปริศนาเอาไว้ซ้ำไปซ้ำมาจึงไม่ทันระวังตัว"โอ๊ย!"ร่างระหงล้มก้นจ้ำเบ้า ส่วนอีกฝ่ายเซถลาไปเบื้องหลัง ทว่าบรรดานางกำนัลรับคู่กรณีไว้ได้ ส่วนหลิวจือหลินยังร้องโอดโอยอยู่บนพื้นเย็นเยียบ"นี่เจ้า! ไม่มีตาหรือ อยากหัวขาดรึ" เสียงแหลมตวาดแหวหลิวจือหลินหยัดกายลุกขึ้นทั้งที่บั้นท้ายร้าวระบม เมื่อพบว่าสตรีตรงหน้าเป็นผู้ใดนางจึงค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อให้เกียรติอีกฝ่าย "เอ่อ...ขออภัยด้วย ข้ามิทันระวัง"นางกำนัลผู้หนึ่งสาวเท้าออกมา "บังอาจ นี่คือองค์หญิงเจ็ด ไฉนจึงไม่นอบน้อม"หลิวจือหลินเลิกคิ้วฉงน เมื่อครู่นางก็ขอโทษแล้วมิใช่หรือ ซ้ำยังมิได้ทำกิริยาหยาบกระด้างใด "เมื่อครู่ข้าขออภัยองค์หญิงไปแล้ว มีตรงใดที่เรียกว่าไม่นอบน้อมงั้นหรือ"ถานจาวหรงกระฟัดกระเฟียด "เจ้าแสร้งเมินข้าหรือ กำเริบเสียจริง คิดว่าเป็นฮูหยินท่านพี่ซื่อจวินแล้วข้าไม่กล้าลงโทษงั้นรึ สตรีไร้ยางอายเช่นเจ้าข้าอยากจะสั่งสอนให้รู้เข็ดหลาบนัก"ถานจาวหรงผลักหลิวจือหลินล้มลงโดยที่นางไม่ทันระวัง เพ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 21 เจียงโหวฮูหยินที่ไม่ถูกชมชอบ (2/2)

    หลิวจือหลินสะดุ้งเฮือก "...ทำอะไรเจ้าคะ""เจ้ามือเย็นหมดแล้ว ยามปกติข้าเห็นเจ้ามั่นใจฉะฉาน กล่าววาจาประหนึ่งน้ำตก ซ้ำยังโฉ่งฉ่างใช่ย่อย ยามนี้สงบเสงี่ยมเกินไปหน่อยแล้ว มันน่าแปลก" เจียงซื่อจวินเอ่ยทั้งที่เขายังกุมมือของนางอยู่เช่นนั้นหลิวจือหลินค้อนควัก "ก็ข้าตื่นเต้นนี่เจ้าคะ"หลิวจือหลินลอบดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาอย่างแนบเนียน หากเขายิ่งทำเช่นนี้ เกรงว่าหัวใจของนางต้องหลุดกระดอนมาดิ้นแด่วบนพื้นให้ต้องอับอายแน่แท้ฮองเฮาเอ่ยขึ้น "เจียงโหวฮูหยิน ข้าชมชอบอาภรณ์ที่เจ้าออกแบบยิ่งนัก อีกไม่นานราชวังจะมีงานเฉลิมฉลองใหญ่ เช่นนั้นข้าอยากให้เจ้าช่วยตัดเย็บเสื้อผ้าให้ข้าเสียหน่อยสะดวกหรือไม่"หลิวจือหลินอึกอัก นี่คือสตรีสูงศักดิ์ของใต้หล้าเชียว นางต้องตัดเย็บเสื้อผ้าให้จริงหรือ กดดันเกินไปหน่อยแล้ว "เอ่อ...งานอะไรหรือเพคะ"ไท่จื่ออมยิ้ม โพล่งตอบแทนมารดา "อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะเป็นวันคล้ายวันประสูติของเสด็จแม่ เช่นนั้นเจียงโหวฮูหยิน สามารถออกแบบอาภรณ์ที่เหมาะสมและมิมีผู้ใดเหมือนให้แก่เสด็จแม่ได้หรือไม่"หลิวจือหลินคลี่ยิ้มละไม นางค่อย ๆ ร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status