Share

บทที่ 16 ก่อกวน

last update Last Updated: 2025-04-06 08:57:05

ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเร่งไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมในทันที ระหว่างทางนางพบกับฟางเจี๋ยและหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังเดินออกมาจากจวนพอดี ฟางเจี๋ยที่เห็นว่าน้องสาวตนมีท่าทีรีบร้อนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"เมี่ยวเอ๋อร์ จะรีบไปที่ใดกัน เจ้าเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงมิใช่หรือ?"

"พี่ใหญ่ แม่นมหลิ่วบอกว่าที่ร้านเครื่องประทินโฉมเกิดเรื่อง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องใด จึงจะรีบไปดูเสียหน่อย"

"เกิดเรื่องหรือ เช่นนั้นให้พี่ไปด้วยดีกว่า อาเยี่ยน ข้าคงไม่ได้ไปส่งเจ้าที่จวนแล้ว ข้าขอตัวไปจัดการธุระกับเมี่ยวเอ๋อร์ก่อน"

"อืม เจ้ารีบไปเถิด"

ยามนี้ฟางเมี่ยวไม่มีเวลามาใส่ใจหลี่เยี่ยนเฉินเท่าใดนัก นางจึงเร่งรีบเดินทางไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมพร้อมกับฟางเจี๋ยในทันที

เมื่อรถม้าจอดลงที่ด้านหน้าร้าน ฟางเมี่ยวก็รีบก้าวลงมาอย่างรีบร้อน ภาพที่เห็นก็คือ ยามนี้ด้านหน้าร้านของนางมีคนมามุงเต็มไปหมด ผู้ดูแลหลัวก็มีท่าทีกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เมื่อเหลือบมาเห็นฟางเมี่ยว นางก็มีท่าทีดีใจราวกับพระโพธิสัตว์มาโปรดอย่างไรอย่างนั้น

"คุณหนู"

เสียงเรียกของผู้ดูแลหลัว ทำให้ผู้คนที่มุงดูหันมามองฟางเมี่ยวเป็นตาเดียว

"เจ้าเองหรือคือเจ้าของร้านนี้ ดูเอาเถิด บุตรสาวของข้าซื้อยาสระผมของเจ้าไปใช้เพียงวันเดียว ผมกลับร่วงจนบางแทบไม่เหลือ เจ้าจะรับผิดชอบเช่นไร!!!"

ฟางเจี๋ยที่เดินลงมาจากรถม้ามองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น ด้านฟางเมี่ยวนั้นนางหันไปจ้องมองสตรีน้อยที่ผมบางนางนั้นกับมารดาของนางด้วยแววตาที่เรียบเฉย

"เชิญฮูหยินกับบุตรสาวเข้ามาพูดจากันด้านในก่อนเถิด หากได้รับผลข้างเคียงจากยาสระผมที่ร้านของข้าจริง ข้าเองก็ยินดีชดใช้ให้ท่าน"

หญิงวัยกลางคนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่งก่อนจะเอ่ย

"เหอะ!!! พวกเจ้าเห็นว่าข้าไม่ใช่คนที่มีอำนาจ ไม่ได้มาจากตระกูลสูงศักดิ์ใช่หรือไม่ เจ้าจึงไม่ยอมเจรจาที่นี่ แต่กลับเรียกข้าเข้าไปด้านใน หวังที่จะใช้เงินปิดปากข้า ตายแล้ว!! มิใช่ว่าจะให้คนมาทุบตีข้าสองแม่ลูกหรอกหรือ จึงเรียกให้พวกข้าเข้าไป แหม ปากก็พูดว่าค้าขายไม่หวังกำไร อยากให้คนที่ไม่มีเงินได้ใช้ของดีๆ เจ้ามันหลอกลวงชัดๆ คนหลอกลวง เจ้าจะรับผิดชอบเช่นไร บุตรสาวข้าต้องมาอับอายเช่นนี้ ชาตินี้จะแต่งกับบุรุษดีๆ ที่ใดได้อีก"

ฟางเมี่ยวพิจารณามองสองแม่ลูกผู้นั้นคราหนึ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก

"ฮูหยิน สตรีบางคนหัวล้านขึ้นไปถึงหน้าผากนางยังสามารถแต่งสามีได้เลย บุตรสาวท่านผมบางเพียงเท่านี้ คงไม่หนักหนาถึงกับหาสามีไม่ได้กระมัง"

หญิงวัยกลางคนที่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที นางหันไปเอ่ยกับคนที่มามุงดูอย่างโกรธเคือง

"พวกเจ้าเห็นหรือยัง!!! นอกจากจะหวังทุบตีพวกเราสองแม่ลูกแล้ว ปากคอนางยังเราะรายไม่เบาเลย พวกเจ้าดูสิ!!!"

เหล่าชาวบ้านต่างมองฟางเมี่ยวอย่างไม่พอใจ ฟางเจี๋ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยกระซิบกับฟางเมี่ยวอย่างไม่สบายใจ

"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าระวังคำพูดด้วย"

ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจฟางเจี๋ยอีก นางหันไปมองสองแม่ลูกก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ

"ข้ายังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด เพียงบอกว่าให้เข้าไปเจรจากันด้านใน เจ้าก็เอ่ยวาจาไร้สาระหาว่าข้าจะทุบตีพวกเจ้าบ้างละ หาว่าข้าจะไม่รับผิดชอบบ้างละ ข้าได้เอ่ยวาจาเหล่านี้ออกมาหรือไม่ พวกท่านก็เห็นว่ามีแต่นางที่เอ่ยอยู่ผู้เดียว"

"นี่เจ้า!!!"

"ร้านของข้ารับประกันว่านำแต่ของดีมาขาย ผู้อื่นที่ได้ซื้อไปใช้ย่อมไม่มีปัญหา แต่ทว่าบุตรสาวของเจ้ากลับมี เรื่องนั้นข้าไม่ติดใจอันใด แต่ที่ข้าจะเรียกเจ้าไปเจรจา เพราะต้องการที่จะเจรจาชดเชยค่าเสียหาย และมอบเครื่องประทินโฉมอย่างดีเป็นการชดเชย อีกทั้งยังจะมอบน้ำมันบำรุงผมให้บุตรสาวของเจ้าอีกด้วย โดยที่ไม่คิดเงินเลยด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับตีโพยตีพาย ข้าว่าเจ้าตั้งใจมาถึงที่นี่ไม่ได้มาเพื่อเจรจากับข้า แต่มาเพื่อหวังจะทำลายชื่อเสียงของร้านข้าเสียมากกว่า"

"เหลวไหล เจ้าพูดเหลวไหล จะกลับผิดเป็นชอบหรือ!!!"

ฟางเมี่ยวแค่นเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เช่นนั้นข้าขอสินค้าที่พวกเจ้าซื้อไปคืนมาด้วย ข้าจะได้นำมันไปตรวจสอบดูว่าผิดพลาดตรงที่ใด"

สตรีวัยกลางคนยิ้มหยัน ก่อนจะยื่นขวดยาสระผมส่งให้ฟางเมี่ยว ฟางเมี่ยวรับมันมาดู ก่อนจะมองยาสระผมขวดนั้นด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ช่างลอกเลียนแบบได้เหมือนเสียจริง เป็นงานที่ไม่ละเอียดเสียด้วย ดูเหมือนว่าจะรีบร้อนทำขึ้นมาจึงดูไม่ประณีตเท่าใดนัก

"เป็นอย่างไร เห็นหรือยัง ครานี้ก็ชดใช้ค่าเสียหายมา!!!"

"เป็นของปลอม"

"หา!!!"

"ขวดยาสระผมที่ร้านของข้า จะสลักตัวอักษรเมี่ยวซึ่งเป็นชื่อของข้าเอาไว้ที่ด้านล่างของขวด แต่ขวดนี้ไม่มี"

เหอะ รีบร้อนจนพลาดเลยสิท่า

"เจ้าอย่ามาโกหก นี่คือของที่ข้าซื้อมาจากร้านของเจ้า!!!"

ฟางเมี่ยวไม่เอ่ยสิ่งใด นางให้ผู้ดูแลร้านนำยาสระผมของทางร้านมาให้นางหนึ่งขวด ก่อนที่นางจะหันด้านล่างขวดให้ผู้คนได้เห็นว่าขวดของนางมีอักษรเมี่ยวซึ่งเป็นชื่อสลักเอาไว้จริงๆ ส่วนขวดที่สองแม่ลูกนำมาแอบอ้างนั้นไม่มีตัวอักษรชื่อของนางสลักเอาไว้เลยแม้แต่น้อย

ผู้คนต่างหันไปมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่แปลกประหลาด ฟางเมี่ยวไม่รอช้า นางนำภาชนะมาสองใบ ก่อนจะเทยาสระผมลงในภาชนะทั้งสองใบ ปรากฏว่ากลิ่นของยาสระผมทั้งสองขวดนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

"แม้จะมีสีที่คล้ายกัน แต่กลิ่นกลับต่างกัน สินค้าของข้าจะมีกลิ่นหอมของสมุนไพรธรรมชาติเข้มข้น ไม่เหมือนกับที่อื่น ส่วนที่สองแม่ลูกนี่นำมาแอบอ้างเป็นของปลอมที่ลอกเลียนแบบขึ้นมา เพื่อทำให้ร้านของข้าเสียชื่อเสียงเจ้าค่ะ"

สองแม่ลูกทำสิ่งใดไม่ถูกจึงลนลานวิ่งหนีกระเจิงจากไปอย่างไม่คิดชีวิต ฟางเมี่ยวถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ผู้ใดกันที่วางแผนทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา หรือว่าจะเป็นคู่แข่งร้านอื่น!!!

ฟางเจี๋ยหันมามองฟางเมี่ยวก่อนจะเอ่ย

"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าเติบโตแล้วจริงๆ"

"ข้าก็โตมาตั้งนานแล้ว พี่ใหญ่เพิ่งรู้หรือ"

"เช่นนั้นก็เริ่มเรียนคัดอักษรบทต่อไปได้แล้วสินะ"

"โอ๊ย!!! อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเวียนหัวเหลือเกิน ข้าจะกลับไปนอนที่จวนต่อแล้ว"

"เมี่ยวเอ๋อร์!!! เมี่ยวเอ๋อร์!!!"

ฟางเมี่ยวแกล้งทำเป็นยกมือขึ้นกุมศีรษะและเดินหนีไปที่รถม้าทันที หลี่เยี่ยนเฉินจ้องมองฟางเมี่ยวอยู่ในมุมหนึ่ง ก่อนจะละสายตาไปจากนาง

คล้ายว่านางจะเป็นคนที่เขาคาดเดาไม่ได้เสียแล้ว!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 17 เป้าหมายใหม่

    "แผนการล้มเหลวขอรับนายท่าน""เก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าให้สาวมาถึงตัวข้า แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ย่อมปล่อยผ่านไปไม่ได้ ไว้ค่อยส่งคนไปสั่งสอนนางใหม่อีกครา""ขอรับนายท่าน"บุรุษชุดดำพยักหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องลับไป เมื่อออกมาจากห้องลับเขาก็หาที่ลับตาคนเปลี่ยนอาภรณ์ของตนออก เป็นชาวเมืองต้าอู๋ทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตปะปนแฝงอยู่กับผู้คน ยามนี้ต้องนำเงินมอบให้สองแม่ลูกนั้นตามคำสั่งของนายท่าน และให้พวกนางย้ายไปนอกเมืองเสีย หลีกเลี่ยงที่จะเกิดปัญหามาถึงนายท่านของเขาหลี่เยี่ยนเฉินเพิ่งกลับจากค่ายทหารก็มุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลฟางเพื่อพบกับสหายสนิทอีกคนอย่างฟางเจี๋ยในทันที ได้ยินว่าฟางเมี่ยวไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางคงจะไม่อยู่ที่จวน แต่ทว่าเขากลับคาดเดาผิดไปหมด นางกลับมารวดเร็วยิ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่เหนือความคิดของเขา ชาติก่อนฟางเมี่ยวไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางเลย เพราะนางไม่ชอบใจจางเสวี่ยฮุ่ย แต่ทว่าในชาตินี้นางกลับได้ไปร่วมงานเลี้ยง อีกทั้งยังกลายเป็นสหายของจางเสวี่ยฮุ่ยอีกด้วยเดิมทีเขาก็ไม่ชอบไปงานเลี้ยงตามจวนต่างๆ อยู่แล้วหากไม่จำเป็น ส่วนท่านพ่อนั้นมีงานด่วนต้องสะสาง

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 18 ประทับตรา

    ฟางเมี่ยวลุกขึ้นยืนก่อนจะทำความเคารพเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเช่นเคย เย่จิ้นหยางที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยทักทายนาง"คุณหนูฟางนี่เอง ข้าก็คิดว่าสตรีที่ใดกันที่อาเยี่ยนพามาที่นี่ด้วย ดีเลยวันนี้เจ้าอยู่พอดี แนะนำอาหารที่อร่อยให้ข้าด้วยเถิด ได้ยินว่าภัตตาคารแห่งนี้เป็นของมารดาเจ้า ที่ตกทอดมาถึงเจ้า อีกทั้งเจ้ายังคิดที่จะขายอาหารในราคาที่จับต้องได้ให้ราษฎรระดับล่างอีกด้วย ช่างมีจิตใจที่ดีงามยิ่งนัก"เย่จิ้นหยางเอ่ยชมฟางเมี่ยวจากใจจริง ฟางเมี่ยวเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้นเหอะ!! ชาติก่อนเขาด่านางราวกับนางไม่ใช่คน นางยังจำได้ดี คืนนั้นที่นางวางยาปลุกกำหนัดเขา และยามรุ่งสางที่เขาตื่นขึ้นมาพบว่าได้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับนางไปเสียแล้ว"ฟางเมี่ยว สตรีหน้าไม่อาย แพศยา ต่ำช้า เจ้าวางยาข้าหรือ""ท่านอ๋อง เมี่ยวเอ๋อร์รักพระองค์นะเพคะ""แต่ข้าเกลียดเจ้า เกลียดจนแทบอยากจะอาเจียน ข้าเกลียดเจ้าได้ยินหรือไม่!!! ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาลากนางไปขังเอาไว้ที่เรือนเล็กท้ายจวน ห้ามให้อาหารนางจนกว่าข้าจะสั่ง!!!""ท่านอ๋อง!!!"นางถูกเขาสั่งขังในเรือนโกโรโกโส ไม่มีอาหารกิน นางหิวจนปวดแสบท้องไปห

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 19 ปรับทุกข์

    ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยในยามนี้นั้น นางกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ภายในห้อง ตั้งแต่ได้รับราชโองการให้นางได้แต่งเข้าจวนอ๋อง เหล่าฮูหยินรองและบรรดาอนุของท่านพ่อก็ไม่กล้ามาสร้างความลำบากใจให้นางและท่านแม่อีก เห็นจะมีแต่จางลี่อิงที่แสดงท่าทีไม่พอใจเพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่กล้าหาเรื่องนางเท่าแต่ก่อน"คุณหนูเจ้าคะ นายท่านเรียกให้ท่านไปพบที่ห้องตำราเจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยละสายตาจากตำราตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้าให้หลิงหลิง สาวใช้คนสนิทของนางคราหนึ่ง แล้วจึงมุ่งหน้าไปพบบิดาของตนที่ห้องตำราในทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าท่านพ่อกำลังรอนางอยู่ จางเสวี่ยฮุ่ยทำความเคารพบิดาตนคราหนึ่ง จางหยวนจ้องมองบุตรสาวคนโตด้วยแววตาที่เรียบเฉยก่อนจะเอ่ย"นั่งลงเถิด""เจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย จางหยวนที่เห็นเช่นนั้น จึงเอ่ยกับบุตรสาวตนด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย"เรื่องที่พ่อสั่งสอนเจ้าเอาไว้ เจ้าจำได้หรือไม่?"จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าไปมองบิดาของตนทันที ใบหน้าสวยหวานของนางซีดเผือดขึ้นมา ก่อนจะละล่ำละลักเอ่ย"ท่านพ่อ คือว่า..."เพียะ!!ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยตอบ จางหยวนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงเข้ามาตบนางจนนางเซล้มลงตกจากเก้า

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 20 ทุบตีคน

    "คุณหนูฟาง วันนี้ข้าแวะมาฟังบทละครที่โรงน้ำชาของเจ้า มิสู้เจ้ามานั่งเป็นเพื่อนข้าดีหรือไม่?""ขออภัยคุณชายมู่หรง ข้าไม่ว่างเจ้าค่ะ ขอตัวก่อน""อย่าเล่นตัวเลยน่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า เจ้ายังส่งสายตายั่วยวนให้ข้าอยู่เลยนะฟางเมี่ยว""ตอนนั้นข้าตาบอด แต่ตอนนี้ตาข้าสว่างแล้ว"ฟางเมี่ยวกำลังจะเดินจากไป แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับยื่นมือมาจับแขนของนางเอาไว้ ฟางเมี่ยวหันไปมองมู่หรงฟังด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ปล่อยข้านะมู่หรงฟัง""ไม่ปล่อย ฟางเมี่ยวคนงาม พวกเราไปที่โรงพนันกันเถิด ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก""มู่หรงฟัง ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้าแล้วนะ""ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด โอ๊ย!!!"มู่หรงฟังแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกฟางเมี่ยวยกขาเตะเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มแรง นางยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"อย่ามายุ่งกับข้า!!!"ฟางเมี่ยวปรายตามองมู่หรงฟังคราหนึ่ง ก่อนจะเดินหนีเขาไป นางรำคาญยิ่งนักที่ต้องมาเจอคนเช่นนี้ แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับไม่ยอมปล่อยนางไป"ไปกับข้า ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด""มู่หรงฟัง!!""ไปเถิด หากวันนี้เจ้าทำเงินได้มากกว่าข้า ข้าจะเลิกยุ่งกับเจ้า ข้าสัญญา"ฟางเมี่

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 21 งานแต่ง

    ข่าวที่ฟางเมี่ยวทุบตีมู่หรงฟังแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะไม่มีคนติฉินนินทาฟางเมี่ยวแล้ว มู่หรงฟังยังถูกผู้คนโจษจันว่าเป็นบุรุษเฮงซวยอีกด้วย ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงเพียงแค่ทั้งสองฝ่ายยอมความกัน ด้วยเพราะทั้งสองตระกูลต่างก็รู้จักกันมานาน เสนาบดีมู่หรงรู้จักนิสัยบุตรชายของตนดี นอกจากจะไม่เข้าข้างบุตรชายของตนแล้ว ยังส่งของกำนัลมาที่จวนตระกูลฟางเพื่อเป็นการไถ่โทษอีกด้วย ฟางเมี่ยวไม่ได้สนในสิ่งของเหล่านี้มากนัก เพียงเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของเพียงเท่านั้นอีกไม่กี่วันก็จะถึงงานมงคลระหว่างเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ยแล้ว ฟางเมี่ยวได้รับเทียบเชิญให้ไปงานแต่งที่จวนอ๋องเช่นเดียวกัน นางสั่งให้คนเตรียมของขวัญเอาไว้ นางจะนำไปมอบให้จางเสวี่ยฮุ่ยในงานแต่งงานหลี่เยี่ยนเฉินในยามนี้นั้นเขากำลังกลับจากค่ายทหารและกำลังมุ่งหน้ามาที่จวนของตน ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงบุรุษผู้นั้นที่เขาเห็นว่าเป็นนักฆ่าในชาติก่อน เขาส่งคนไปสืบอย่างลับๆ แต่ทว่ากลับไร้วี่แววอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ยังไม่ยอมละความพยายาม ยังคงให้คนสืบค้นต่อไปเมื่อกลับมาถึงจวนเขาก็พบว่ามีรถม้าจอดอยู่ที่ด้านหน้าจวน เขามองเพียงครู่เดียวก็ร

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 22 พบเจอ

    นางเดินมาได้ครู่หนึ่ง ก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาหันมามองเมื่อเห็นว่าเป็นนางดวงตาคมก็ฉายแวววูบไหวครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเดินเข้าไปหาหลี่เยี่ยนเฉิน พลางมองสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จนคนถูกมองรู้สึกปะหม่า"ฟางเมี่ยว เจ้าจะมองข้าอีกนานหรือไม่?""ก็เจ้าหล่อนี่ ข้าจึงชอบมอง ไม่ได้หรือ?"หลี่เยี่ยนเฉินหมดคำจะกล่าวแล้ว เขาเถียงนางไปก็เท่านั้น เขาจึงเปลี่ยนมาลอบสังเกตท่าทีของนาง ก็พบว่าในแววตาของนางไม่ได้มีแววเสียใจหรือเศร้าโศกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ความริษยาก็ไม่มีให้เห็นหลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกดีใจอย่างแปลกประหลาดที่เห็นว่าฟางเมี่ยวไม่รู้สึกอันใดกับการแต่งงานของเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ย ไม่ทันรู้ตัวก็พบว่ายามนี้ฟางเมี่ยวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเสียแล้ว เขาลนลานคิดจะหนีกลับพบว่าแผ่นหลังของตนยามนี้ชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ไร้หนทางหลีกหนีจากนางเสียแล้วฟางเมี่ยวเอียงคอมองหลี่เยี่ยนเฉิน ก่อนจะเอ่ย"อยากแต่งงานหรือไม่?""ฮะ?"หลี่เยี่ยนเฉินมีท่าทีตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ยามที่เข้าใกล้ฟางเมี่ยวเขาคล้ายกับสูญเสียการควบคุมอย่

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 23 ล่าสัตว์

    ใช้เวลาเดินทางราวสามชั่วยามขบวนล่าสัตว์ก็เดินทางมาถึงยังที่หมาย ซึ่งเป็นเขาที่ใช้ล่าสัตว์ในทุกๆ ปี เขาแห่งนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และเขียวชอุ่ม เนื่องจากมีฝนตกและอากาศเย็นตลอดทั้งปี บนใบไม้ยังคงมีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ให้ได้เห็นประปรายฟางเมี่ยวสั่งให้ลู่ชิงนำสัมภาระและข้าวของมาเก็บที่กระโจมที่พักของตน เมื่อมาถึงนางจึงได้รู้ว่านางพักอยู่ใกล้ๆ กับหลิวจือ ส่วนกระโจมถัดไปเป็นกระโจมของจางลี่อิง น้องสาวของจางเสวี่ยฮุ่ย ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยนั้น นางแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังเป็นคนของเชื้อพระวงศ์ จึงได้พักที่กระโจมใกล้ๆ กับเชื้อพระวงศ์ซึ่งนับว่าเป็นเครือญาติกันหลิวจือนั้นเบ้ปากให้ฟางเมี่ยวแต่ไม่กล้าทำสิ่งใด ส่วนจางลี่อิงนั้นก็ปรายตามองฟางเมี่ยวด้วยความไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน การมาล่าสัตว์ในครานี้ มีคุณหนูในห้องหอไม่น้อยที่ได้มีโอกาสออกมาเปิดหูเปิดตา แต่ทว่านางกลับไม่พบกับสวีเซียวเหยา หรือว่านางจะไม่ได้ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วยฮ่องเต้เย่หมิงหล่างเป็นฮ่องเต้ที่ค่อนข้างมีเมตตา อีกทั้งยังสนับสนุนให้สตรีในแคว้นต้าอู๋ขี่ม้าจับดาบได้อย่างเสรีอีกด้วย นับว่าเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ความเท่าเทียมของบุรุษและสตรีอย่างหา

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 24 ที่แห่งเดิม

    "ช่วยข้าด้วย!!! ข้ายังไม่อยากตาย!!!"ฟางเมี่ยวหันไปมองมืออีกข้างของตนที่ยามนี้ถูกหลิวจือคว้าจับเอาไว้ หลิวจือหน้าซีดตัวสั่นจนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ฟางเมี่ยวหันไปมองก็พบกับสาวใช้ของหลิวจือและจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้ถูกฆ่าตายไปแล้วก็หวาดหวั่นไม่น้อยนับว่ายังโชคดีที่นางไม่ได้ให้ลู่ชิงสาวใช้ซื่อบื้อของนางติดตามมาด้วย!!!แม้ลู่ชิงจะเป็นสาวใช้ที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็อยู่กับนางมานาน"ฮือ!!!""เงียบนะหลิวจือ!!! ไป!!! ไปกับข้า หาที่ซ่อนเร็ว!!"ฟางเมี่ยวจับมือจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะต้องตื่นตระหนกที่นี่คือสถานที่โล่ง ที่ซ่อนตัวล้วนมีไม่มาก!!เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่ายามนี้มีเหล่าสตรีที่ติดตามมากับการล่าสัตว์ในครั้งนี้ถูกสังหารไปไม่น้อย ฟางเมี่ยวรอช้าไม่ได้แล้ว นางลากจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือมาหลบที่พุ่มไม้ด้านหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้ากลัว!!!"จางเสวี่ยฮุ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ฟางเมี่ยวยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว"แม้ปากจะปลอบสหาย แต่ทว่านางกลับใจเสียไม่ต่างกัน ยามนี้บนตัวนางมี

    Last Updated : 2025-04-06

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status