Share

เสิ่นจื่อหลาง 1-2

last update Last Updated: 2025-04-07 23:37:23

วังหลวง

ท้องพระโรง

ยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนัก

บุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋

พระนามเสิ่นจื่อหลาง

เจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!

เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นาง

ส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษ

สตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย

    บทที่ 1 ฟางเมี่ยวสตรีนิสัยเสีย"ไม่เจ้าค่ะ!! ลูกจะแต่งเข้าจวนอ๋องให้ได้ ต่อให้ต้องเป็นชายารองลูกก็จะแต่ง ท่านพ่ออย่ามาห้ามลูกเสียให้ยาก!!!"ฟางเมี่ยวจ้องมองผู้เป็นบิดาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดื้อรั้น ไม่ยินยอม จนผู้เป็นบิดาถึงกับถอนหายใจออกมาเขามีนามว่าฟางเหลียน มีบุตรชายนามว่าฟางเจี๋ยและบุตรสาวนามว่าฟางเมี่ยว มารดาของบุตรทั้งสองตายจากไปตั้งแต่ฟางเมี่ยวอายุได้สิบสี่ปี ส่วนบุตรชายยามนี้นั้นอายุได้ยี่สิบปีแล้ว เพราะความรักบุตรทั้งสองเขาจึงไม่แต่งภรรยาใหม่อีก มีเพียงอนุในจวนสองสามคนที่ไม่กล้ามีปากมีเสียงใดๆ ทั้งสิ้นเพียงเท่านั้นเขาเป็นถึงเสนาบดีกรมกลาโหม มีหน้ามีตาในบรรดาชนชั้นสูง คอยตรวจสอบเสบียงอาหารในกองทัพ ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของกองทัพ ดูแลยุทโธปกรณ์ ปัจจัยต่างๆ ในกองทัพ อีกทั้งยังมีสหายสนิทเป็นถึงแม่ทัพใหญ่อีกด้วย เดิมทีเขาคิดจะให้ฟางเมี่ยวที่ยามนี้อายุสิบห้าปีแล้วแต่งงานกับหลี่เยี่ยนเฉินบุตรชายของสหายรักที่รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพอนาคตไกลแต่ทว่าบุตรสาวตัวดีของเขากลับไปถูกตาต้องใจ เย่จิ้นหยาง ชินอ๋องหนุ่มรูปงาม ผู้เป็นหลานชายของฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าอู๋ บิดาของเย่จิ้นหยางเป็นน้องชาย

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 2 หยิบยื่นความตาย

    บทที่ 2 หยิบยื่นความตายล่วงเวลามาจนยามเย็น เย่จิ้นหยางก็กลับมาที่จวนอ๋อง เขาตรงมาหาจางเสวี่ยฮุ่ยที่เรือนใหญ่ในทันที จางเสวี่ยฮุ่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ดูแลปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดี เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางจึงเอ่ยกับเย่จิ้นหยางอย่างอ่อนโยน"ท่านอ๋องเพคะ นางมาแล้วเพคะ หม่อมฉันจัดให้นางอยู่ที่เรือนเล็กที่ท่านอ๋องเตรียมไว้ให้แล้วเพคะ"เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันมาเอ่ยถามจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยความสงสัย"เสวี่ยเอ๋อร์ นางที่เจ้าหมายถึงคือผู้ใดกัน?"จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้น จึงยิ้มให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ"ฟางเมี่ยวอย่างไรเล่าเพคะ นางมาถึงตั้งแต่ยามเช้าแล้ว"เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนเมื่อครู่นี้ ก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่านางจะต้องเข้าจวนอ๋องวันนี้ เขาเพียงให้คนนำเกี้ยวไปรับนางอย่างส่งๆ ไม่ได้สนใจไยดีนางเลยแม้แต่น้อย นางจะมาเช่นไร จะทนอยู่ได้หรือไม่ เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเกลียดนางยิ่งนัก!!เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้"เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าทำให้เจ้าลำบากใจใช่หรือไ

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 3 กลับมาอีกครา

    บทที่ 3 กลับมาอีกคราแคว้นต้าอู๋รัชศกหมิงหล่างฮ่องเต้นามเย่หมิงหล่าง"คุณหนู ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ!!!"เสียงของสาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาด้วยความดีใจ เมื่อเห็นนายของตนฟื้นแล้ว เสียงเอะอะโวยวายนี้ทำให้ฟางเมี่ยวถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับที่ศีรษะของตนเอง ความรู้สึกปวดหนึบไหลเวียนไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ศีรษะของนางราวกับถูกบีบรัดอย่างไรอย่างนั้น"ปวดหัวยิ่งนัก!!!""คุณหนู บ่าวจะไปตามหมอนะเจ้าคะ!!"เสียงที่คุ้นเคยทำให้ฟางเมี่ยวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติ และเงยหน้าไปมองสาวใช้น้อยนางนั้นทันทีลู่ชิง!!!"ลู่ชิง เจ้า...""เอ? เป็นบ่าวเองเจ้าค่ะ คุณหนูคิดว่าเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ รอสักครู่นะเจ้าคะ บ่าวจะไปเรียนนายท่านว่าคุณหนูได้สติแล้ว"ลู่ชิงลนลานลุกขึ้นยืนหวังจะไปบอกคนในจวน แต่ทว่าฟางเมี่ยวกลับร้องเรียกนางเอาไว้เสียก่อน"ช้าก่อน"ลู่ชิงยังไม่ทันที่จะได้เดินออกไปก็ถูกฟางเมี่ยวรั้งตัวเอาไว้ นางจึงหันมามองนายตนด้วยความงุนงง“คุณหนู?”"ข้ายังไม่ตายหรือ?"ลู่ชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีตกใจไม่น้อย ก่อนจะเอ่ย"ตายอันใดกันเจ้าคะ!!!""เช่นนั้นข้ามาอยู่ที่จวนได้เช่นไร หรือว่าข้ายังไม

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 4 ตรวจสอบบัญชี

    บทที่ 4 ตรวจสอบบัญชียามเช้าของวันต่อมาฟางเหลียนออกจากจวนไปร่วมประชุมเช้าที่วังหลวง หลังจากเสร็จสิ้นจึงกลับมาที่จวน ก็พบว่ายามนี้บ่าวไพร่กำลังวุ่นวายอยู่ในจวน เดินขวักไขว่กันไปมา เมื่อมองไปก็เห็นฟางเมี่ยวบุตรสาวของเขาที่กำลังยืนชี้นิ้วสั่งงานเหล่าบ่าวไพร่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเขาขยี้ตาตนคราหนึ่ง นี่บุตรสาวเขาเสียใจที่มารดานางตายจนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว?ยามนี้มิใช่ว่านางต้องออกนอกจวนไปผลาญเงินเขาเล่นหรอกหรือ?เอาเถิด เป็นเช่นนี้ก็ดีมิใช่หรือ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงเดินตรงไปหาบุตรสาวตนทันที"เมี่ยวเอ๋อร์""ท่านพ่อ ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ลู่ชิง ยกน้ำชามาให้ท่านพ่อดื่มดับกระหาย"บริการน้ำชาด้วย!!!เสนาบดีฟางเหลียนคล้ายไม่คุ้นชินกับท่าทางเอาอกเอาใจเช่นนี้ของฟางเมี่ยวเอาเสียเลย เขารับถ้วยชามาดื่มจนหมดจอก ก่อนจะเอ่ย"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ?""อ้อ ลูกกำลังจัดการจวนใหม่เจ้าค่ะ อีกไม่นานพี่ใหญ่ก็จะกลับมาที่จวนแล้ว นี่พวกเจ้า!! ตัดต้นสาลี่ต้นนั้นออกด้วย"เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยทันที"ไม่ได้นะ สาลี่ต้นนี้แม่เล็กซางของเจ้าชอบมาก"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึง

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 5 วาสนา(ด้ายแดง)ขนมเปี๊ยะ

    บทที่ 5 วาสนา (ด้ายแดง) ขนมเปี๊ยะหลังจากที่อนุซางถูกขับออกจากจวน บรรดาอนุทั้งหลายในจวนตระกูลฟางต่างก็ไม่กล้าเสนอหน้าหรือมีปากเสียงใดอีกแม้เพียงสักคน อีกทั้งยังสวมชุดสีอ่อนเพื่อไว้ทุกข์ให้อดีตฮูหยินอย่างว่าง่ายอีกด้วยเช้านี้อากาศค่อนข้างดีไม่น้อย เนื่องจากอยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ ฟางเมี่ยวที่อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ยามนี้นางกำลังจ้องมองอาภรณ์ในหีบที่มีอยู่ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลู่ชิง"ลู่ชิง เจ้าจงไปหาช่างฝีมือดีมาหลายคนหน่อย ข้าจะตัดชุดใหม่ ชุดพวกนี้สีสันฉูดฉาดเกินไป ข้าไม่อยากใส่"ลู่ชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย"เอ? ปกติคุณหนูชื่นชอบเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดนี่เจ้าคะ คุณหนูบอกว่ายิ่งสีชัดยิ่งดี คุณหนูจะได้เป็นที่จับตามองของเหล่าบุรุษ จะได้เด่นเกินหน้าเกินตาผู้อื่นอย่างไรเล่าเจ้าคะ!!"ฟางเมี่ยวหลับตาลงพลางยกมือนวดขมับ นางอยากจะยกเท้าถีบกลางหน้าอกของสาวใช้บัดซบผู้นี้เสียจริง!!แต่ช่างเถิด นางจะปรับเปลี่ยนตนเองใหม่ นางจะไม่เจ้าอารมณ์อีกเมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิงอย่างมีความอดทน"ข้าสั่งให้เจ้าไป เจ้าก็ไป ไม่ต้องมาย้อนถามข้า""เจ้าค่ะคุณหน

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 6 พบกันอีกครา

    บทที่ 6 พบกันอีกคราฟางเมี่ยวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้เห็นท่าทีที่ต่างไปจากเดิมของหลี่เยี่ยนเฉิน แววตาของเขาที่มองนางดูคล้ายไม่เหมือนเดิม ทุกคราที่ได้พบกัน แววตาของเขาช่างกระจ่างใสและบริสุทธิ์ เป็นแววตาของเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสา มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนมอบให้แก่นางแต่เหตุใดครั้งนี้นางจึงรู้สึกว่าแววตาของเขาดูเย็นชาและตัดพ้อนางในคราเดียวกันแต่ทว่าเมื่อหันไปมองอีกคราก็พบว่าหลี่เยี่ยนเฉินได้จากไปพร้อมกับขบวนกองทัพแล้ว เขาไม่แม้แต่จะส่งยิ้มทักทายให้นางเลยแม้แต่น้อยฟางเมี่ยวคร้านจะคิดสิ่งใดให้มากความอีก บางทีหลี่เยี่ยนเฉินอาจจะเดินทางเหนื่อยจึงไม่มีเวลาทักทายนาง หรือบางคราการเดินทางกลับอาจจะต้องรีบเร่งตามคำสั่งของฮ่องเต้ เขาจึงไม่มีเวลาส่งจดหมายมาบอกนาง แค่นางต้องสะสางเรื่องในจวนก็เหนื่อยมากพอแล้ว นางไม่มีเวลามาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีกเอาเถิด อย่างไรเขากับนางย่อมต้องได้พบเจอกันอีกเป็นแน่ฟางเมี่ยวหยิบผ้าที่วางอยู่ขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง นางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง ยามนี้โรงน้ำชาค่อนข้างคึกคักไม่น้อยแล้ว ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาลองชิมชาชั้นดีและขนมเลิศรสที่โรงน้ำชาของนางนั

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status