Share

บทที่ 6 พบกันอีกครา

last update Последнее обновление: 2025-04-05 19:56:13

บทที่ 6 พบกันอีกครา

ฟางเมี่ยวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้เห็นท่าทีที่ต่างไปจากเดิมของหลี่เยี่ยนเฉิน แววตาของเขาที่มองนางดูคล้ายไม่เหมือนเดิม ทุกคราที่ได้พบกัน แววตาของเขาช่างกระจ่างใสและบริสุทธิ์ เป็นแววตาของเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสา มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนมอบให้แก่นาง

แต่เหตุใดครั้งนี้นางจึงรู้สึกว่าแววตาของเขาดูเย็นชาและตัดพ้อนางในคราเดียวกัน

แต่ทว่าเมื่อหันไปมองอีกคราก็พบว่าหลี่เยี่ยนเฉินได้จากไปพร้อมกับขบวนกองทัพแล้ว เขาไม่แม้แต่จะส่งยิ้มทักทายให้นางเลยแม้แต่น้อย

ฟางเมี่ยวคร้านจะคิดสิ่งใดให้มากความอีก บางทีหลี่เยี่ยนเฉินอาจจะเดินทางเหนื่อยจึงไม่มีเวลาทักทายนาง หรือบางคราการเดินทางกลับอาจจะต้องรีบเร่งตามคำสั่งของฮ่องเต้ เขาจึงไม่มีเวลาส่งจดหมายมาบอกนาง แค่นางต้องสะสางเรื่องในจวนก็เหนื่อยมากพอแล้ว นางไม่มีเวลามาคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก

เอาเถิด อย่างไรเขากับนางย่อมต้องได้พบเจอกันอีกเป็นแน่

ฟางเมี่ยวหยิบผ้าที่วางอยู่ขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง นางกวาดสายตามองไปโดยรอบคราหนึ่ง ยามนี้โรงน้ำชาค่อนข้างคึกคักไม่น้อยแล้ว ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาลองชิมชาชั้นดีและขนมเลิศรสที่โรงน้ำชาของนาง

นับว่าตระกูลของท่านแม่วางรากฐานการค้าเอาไว้ได้ดีไม่น้อย ทำเลที่ตั้งก็จัดว่าอยู่ในสถานที่ที่ดีมาก

"ลู่ชิง กลับจวน ข้าง่วงแล้ว"

"เอ่อ คุณหนูเจ้าคะ คือว่า..."

"มีอันใด"

ฟางเมี่ยวหันไปมองลู่ชิงคราหนึ่งด้วยความสงสัย ลู่ชิงยิ้มตาหยีก่อนจะเอ่ย

"คือว่า คุณหนูไม่แวะไปดื่มสุราที่หอสุราเฉียวเป่าก่อนหรือเจ้าคะ เสร็จแล้วก็ไปเล่นไพ่นกกระจอกที่โรงพนันดีหรือไม่เจ้าคะ เผื่อว่ามือจะขึ้น"

เมื่อได้ยินลู่ชิงเอ่ยเช่นนั้น ฟางเมี่ยวก็จำขึ้นมาได้ในทันที

นางในชาติก่อน นอกจากจะวิ่งตามยั่วยวนเย่จิ้นหยางอย่างบ้าคลั่งแล้ว นางยังขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีที่เข้าออกโรงพนันเป็นว่าเล่น อีกทั้งยังติดสุราจนมือสั่น วันใดไม่ได้ดื่มก็จะทุรนทุรายทุบตีบ่าวไพร่ทำลายข้าวของในจวน

และนางยังจำได้ดีว่าอนุซางเอ่ยกับนางเช่นไร

"เร็วเข้า รีบไปนำสุรามาให้คุณหนู เอามาเยอะๆ อย่าให้คุณหนูต้องโมโห มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกสั่งโบย!!!"

ฟางเมี่ยวแค่นเสียงเหอะในลำคอ บัดซบจริงๆ นอกจากไม่พานางไปรักษาแล้วยังเพิ่มสุราที่มีรสชาติแรงให้นางขึ้นเรื่อยๆ ใจคอต้องอำมหิตเพียงใดถึงได้สั่งสอนให้เด็กสาวอายุเพียงสิบห้าปีติดสุราจนเมามายเช่นนั้น อนุซางนี่น่าจะฆ่าให้ตายไม่น่าลงโทษเพียงไล่นางออกไป

จะว่าไปก็รู้สึกหิวเหล้าขึ้นมาบ้างไม่น้อยแล้ว!!!

ถุยๆๆๆ ชาตินี้ข้าจะต้องเป็นคนดีสิ โชคดีที่ชาตินี้นางยังไม่ได้ติดสุราถึงขั้นขาดมันไม่ได้ ร่างกายจึงไม่ได้ทรมานเช่นชาติก่อนอีกยามที่ไม่ได้ดื่ม

"ลู่ชิง"

"เจ้าคะ"

"หากเจ้าเอ่ยถึงโรงสุราและโรงพนันข้าจะตัดลิ้นเจ้าเสีย"

"บ่าวไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ"

ลู่ชิงหวาดกลัวไม่น้อย ในใจพลางคิดว่าระยะนี้คุณหนูของนางดูแปลกไปไม่น้อยเลย

"กลับจวน"

ฟางเมี่ยวคลี่พัดสีขาวขึ้นมาพัดให้ตนเอง ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างของโรงน้ำชา เมื่อกำลังจะเดินออกมาที่หน้าประตู นางก็ได้พบกับสตรีนางหนึ่งเข้า

สตรีนางนั้นที่นางเคยวางแผนกลั่นแกล้งสารพัด เพียงเพราะความริษยา

จางเสวี่ยฮุ่ย!

"ท่านอ๋อง!! ทรงทำเช่นนี้จะไม่ดูโหดร้ายไปหน่อยหรือเพคะ"

ภาพในวันนั้นทำให้ฟางเมี่ยวเริ่มหายใจติดขัด ร่างกายโงนเงน จนลู่ชิงต้องช่วยประคอง จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้เห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้าตกใจไม่น้อย ใบหน้าซีดเซียวแต่ทว่างดงามของนางช่างดูน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก นางเดินเข้ามาช่วยประคองฟางเมี่ยวเอาไว้ พลางเอ่ยอย่างเป็นมิตร

"แม่นาง เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?"

เสียงที่คุ้นเคยทำให้ฟางเมี่ยวได้สติกลับคืนมา ก่อนจะหันไปมองจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้กำลังมองนางด้วยความห่วงใย

ใบหน้าของจางเสวี่ยฮุ่ยคล้ายคมมีดที่กรีดลึกลงมาที่กลางใจของฟางเมี่ยว ชาติก่อนนางชั่วช้าเหลือเกิน ถึงขนาดกล้าแย่งสามีและรังแกจางเสวี่ยฮุ่ยสารพัด แต่จางเสวี่ยฮุ่ยกลับไม่เคยโต้ตอบนางเลย จางเสวี่ยฮุ่ยไม่ได้ทำผิด เป็นนางที่เดินเข้าหาความตายเอง นางเลือกทางเดินที่ผิดเอง

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงเอ่ยกับจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยน้ำเสียงที่ประหม่าเล็กน้อย

"ข้าไม่เป็นอันใด ขอบคุณแม่นางมาก"

"แน่ใจหรือ ใบหน้าของเจ้าดูซีดเซียวไม่น้อย อ้อ ข้ามียาบำรุงอยู่หนึ่งห่อ บังเอิญได้มาจากท่านหมอน่ะ ข้ากินแล้วดีมาก แม่นางรับเอาไว้เถอะ"

"เอ่อ..."

"รับไว้เถอะ"

"ขอบใจเจ้ามากนะ"

จางเสวี่ยฮุ่ยยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"ไม่เป็นอันใด ข้าชื่อจางเสวี่ยฮุ่ยนะ เป็นบุตรสาวจวนราชครู เจ้าเล่า"

ฟางเมี่ยวกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"ข้าชื่อฟางเมี่ยว บุตรสาวจวนตระกูลฟาง"

"อ้อ"

ฟางเมี่ยวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลู่ชิง

"ไปบอกผู้ดูแลร้านว่าให้นำใบชาชั้นดีมามอบให้คุณหนูจางด้วย"

"เจ้าค่ะ"

จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบส่ายหน้าไปมาทันที ฟางเมี่ยวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะรับห่อใบชามายัดใส่มือให้จางเสวี่ยฮุ่ย

"แลกกันอย่างไรเล่า ข้ารับของของเจ้ามามือเปล่าไม่ได้หรอกนะ"

"เช่นนั้นก็ได้"

จางเสวี่ยฮุ่ยรับใบชาชั้นดีไปถือเอาไว้ ฟางเมี่ยวปรายตามองข้อมือของจางเสวี่ยฮุ่ยคราหนึ่งก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจางเสวี่ยฮุ่ยจะผอมบางถึงเพียงนี้ แขนของสตรีนางนี้แทบจะหักได้อยู่แล้ว ราวกับว่านางไม่ได้กินอิ่มอย่างไรอย่างนั้น

"พี่ใหญ่ ชักช้าอยู่ไยกัน ข้ารอนานแล้วนะ ไหนเล่าใบชาของท่านแม่ข้าน่ะ!!!"

"อ้อ ข้ากำลังจะไปซื้อ"

"แล้วที่อยู่ในมือท่านนั่นคือสิ่งใด อ้อ นี่ท่านคิดจะแอบเก็บใบชาชั้นดีเอาไว้ต้มดื่มคนเดียวใช่หรือไม่ คอยดูเถิด ข้าจะฟ้องท่านพ่อให้ลงโทษท่าน!!!"

"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ไม่ใช่ เอ่อ ฟางเมี่ยว ข้าไปก่อนนะ ขอโทษเจ้าด้วย"

"อืม"

จางเสวี่ยฮุ่ยลนลานจากไป ฟางเมี่ยวมองตามนางจนลับสายตา ก่อนจะครุ่นคิด

ดูจากสถานการณ์เมื่อครู่แล้ว นางพอจะเดาออกแล้วว่าเหตุใดจางเสวี่ยฮุ่ยจึงดูผอมบางราวกับคนไม่ได้กินอิ่มเช่นนั้น

นางถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง เรื่องของผู้อื่นอย่าไปใส่ใจเลย อย่างไรนางกับจางเสวี่ยฮุ่ยย่อมไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีก นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ยามนี้จางเสวี่ยฮุ่ยยังคงเป็นสาวน้อยไม่ได้แต่งเข้าจวนอ๋องเป็นพระชายาสินะ แต่ทว่าอีกไม่นานจางเสวี่ยฮุ่ยย่อมต้องได้แต่งงานกับเย่จิ้นหยางอย่างแน่นอน ส่วนนางก็จะต้องแต่งกับหลี่เยี่ยนเฉินให้ได้ นางจะไม่เดินซ้ำรอยเดิมอีก

ยามนี้นางเริ่มจะปล่อยวางเรื่องในกาลก่อนได้บ้างแล้ว นางจะไม่เป็นชายารองหรืออนุของผู้ใด นางจะไม่แย่งสามีของผู้ใด นางจะต้องมีชีวิตที่ดีกว่าชาติก่อนให้ได้!!!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิงทันที

"กลับจวนกันเถิด"

"เจ้าค่ะคุณหนู"

"อ้อ ระหว่างทางแวะร้านตำราให้ข้าด้วย"

"คุณหนูจะซื้อบทละครงิ้วมาอ่านหรือเจ้าคะ?"

"ไม่ ข้าอยากได้ตำราคุณธรรมหญิงและตำราอาหารมาอ่าน"

"หา!!! คุณหนูอ่านรู้เรื่องหรือเจ้าคะ!!"

"หากถามอีก ข้าจะตบเจ้าจนฟันหน้าเจ้าหลุดแน่นอน!!!"

ฟางเมี่ยวรีบก้าวเดินขึ้นรถม้า ก่อนจะตรงไปร้านตำราในทันที

หลี่เยี่ยนเฉินที่ยืนหลบอยู่ในมุมหนึ่งไม่ไกลมากนัก เขามองตามรถม้าของฟางเมี่ยวไปจนลับสายตา ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น

เขาเห็นทั้งหมด เมื่อครู่ฟางเมี่ยวสนทนากับจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้ยังเป็นเพียงบุตรสาวจากจวนราชครู ไม่ใช่พระชายาเอกจวนชินอ๋อง

ฟางเมี่ยวมีท่าทีเป็นมิตรกับจางเสวี่ยฮุ่ยอย่างยิ่ง นี่เขาตาฝาดไปหรือไม่ อีกทั้งนางยังไม่ได้ทาแป้งผัดหน้าจนหนาราวกับนางเอกงิ้วอีกด้วย

เหตุใดการที่เขาย้อนกลับมาเกิดใหม่ครานี้ทุกอย่างจึงดูผิดแปลกไปหลายอย่างกันเล่า

หรือว่าที่ฟางเมี่ยวทำดีกับจางเสวี่ยฮุ่ยเพราะมีแผนการชั่วช้าอยู่ในใจ!!!

ไม่ได้การเขาจะต้องจับตาดูนางเอาไว้

ว่าแต่เมื่อครู่เขาได้ยินนางเอ่ยว่าจะไปร้านตำราอย่างนั้นหรือ?

นางไม่ไปหอสุราแล้วหรือ?

นางจะไม่ลงแดงเอาหรือ?

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 7 ตำราคุณธรรมหญิง

    บทที่ 7 ตำราคุณธรรมหญิงหลี่เยี่ยนเฉินละสายตาจากรถม้าของฟางเมี่ยว ก่อนจะมุ่งหน้ากลับจวนของตน เดิมทีที่เขามีเวลาออกมาดูนางได้นั้น เป็นเพราะต้องรอให้ฝ่าบาททรงเรียกตัวเข้าวังหลวง แม้จะมีความดีความชอบ แต่ยามนี้เป็นเวลาที่ฮ่องเต้และชินอ๋องผู้เป็นหลานชายต้องการสนทนาเรื่องราวบางอย่างกันตามลำพัง และให้เขาและท่านพ่อได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนเข้าเฝ้าในเช้าวันพรุ่งนี้เมื่อกลับมาถึงจวน เขาก็พบว่ายามนี้ท่านแม่กำลังปรนนิบัติดูแลท่านพ่อเป็นอย่างดี ออกรบครานี้ครอบครัวไม่อยู่พร้อมหน้ากันเป็นเวลาร่วมหนึ่งปี เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล เป็นที่รักของท่านพ่อท่านแม่อย่างมากหลี่เย่ แม่ทัพใหญ่กำลังมองบุตรชายของตนคราหนึ่ง ก่อนที่หลี่ฮูหยินที่เห็นว่าบุตรชายของตนกลับมาถึงจวนแล้วก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง"เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว""ท่านแม่""เหนื่อยหรือไม่ แม่สั่งให้เหล่าสาวใช้ทำอาหารมารอเจ้าแล้ว""ขอบคุณท่านแม่มากขอรับ""รีบไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิด แล้วรีบมากินอาหาร""ขอรับ"หลี่เยี่ยนเฉินพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตน แล้วจึงจัดการให้ตงหยาง บ่าวรับใช้คนสนิท นำน้ำร้อนมาผสม

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 8 จัดการอนุ

    บทที่ 8 จัดการอนุวันต่อมาฟางเมี่ยวตื่นสายไปเสียหน่อย เนื่องจากนางมัวแต่อ่านตำราจนถึงยามดึก ลู่ชิงที่เห็นว่านายตนตื่นแล้ว จึงเข้ามาปรนนิบัติล้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฟางเมี่ยวจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิง"ข้าจะไปกินอาหารเช้ากับท่านพ่อที่เรือนใหญ่""เอ่อ ปกติบ่าวเห็นว่าคุณหนูไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ใดนี่เจ้าคะ""ก็ตอนนี้ข้าชอบกินกับผู้อื่นแล้วอย่างไรเล่า เจ้าจะถามไปทำไมให้มากความกัน ปากเจ้านี่หัดเงียบบ้างจะได้หรือไม่!!!""บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจลู่ชิงอีก นางจึงมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงที่หน้าเรือนก็พบว่ามีเสียงหัวเราะหวานใสของสตรีหลายนางและเสียงหัวเราะของท่านพ่อดังแว่วมาจากในเรือนใหญ่ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ท่านพ่อก็รื่นเริงเสียแล้วนางหันไปจ้องมองสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าเป็นเชิงว่าห้ามส่งเสียง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที"แหมๆๆๆ ท่านพ่อนี่ดูรื่นรมย์เสียจริงนะเจ้าคะ งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ"เสนาบดีฟางเหลียนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามองฟางเมี่ยวคราหนึ่งบัดซบ!! บุตรสาวตัวดีของเขามาที่นี่ทำไมกั

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่

    บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ผ่านมาร่วมสองวันจวนตระกูลหลี่ก็ส่งเทียบเชิญมาที่จวนตระกูลฟาง ฟางเมี่ยวจ้องมองเทียบเชิญฉบับนั้นอย่างเงียบๆ ในใจของนางรู้สึกเต้นระรัวอย่างรุนแรงนางบอกไม่ถูกว่ามันเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ที่ทำให้จิตใจของนางไม่สงบได้ถึงเพียงนี้ คล้ายว่านางรอคอยที่จะได้พบกับเขาและเฝ้ารอให้เขาพูดประโยคบอกรักนั้นกับนางอีกคราหากครานี้เขาพูดกับนางอีกครา นางจะตอบตกลงเขาอย่างไม่รีรอ นางจะแต่งกับเขา จะดูแลเขาให้ดีที่สุดฟางเมี่ยวละสายตาจากเทียบเชิญฉบับนั้น ก่อนจะสั่งให้ลู่ชิงช่วยนางเลือกชุดที่จะสวมใส่ไปที่จวนตระกูลหลี่ในอีกสองวันข้างหน้านางจำได้ว่าในชาติก่อนนั้น นางรู้ว่าในงานเลี้ยงครั้งนี้เย่จิ้นหยางจะมาร่วมด้วยเช่นกัน เพราะสนิทสนมกับหลี่เยี่ยนเฉินมาก นางจึงบรรจงแต่งกายสีสันฉูดฉาดไป เพื่อยั่วยวนเย่จิ้นหยาง โดยไม่สนใจหลี่เยี่ยนเฉินเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังหลอกใช้เขาฟางเมี่ยวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป นางมองดูชุดที่ตนเองจะสวมใส่ก่อนจะยิ้มออกมาคราหนึ่งสองวันต่อมางานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ยามนี้ภายในจวนตระกูลหลี่ค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมาก ขุนนางชั้นสูงจากทั่วทั้งเมืองหลวงต่างมาร่วมยินดีด้ว

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป

    บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป"ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ"จางเสวี่ยฮุ่ยลุกขึ้นทำความเคารพเย่จิ้นหยางอย่างนอบน้อมและเขินอาย ฟางเมี่ยวที่หาทางปลีกกายออกไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงลุกขึ้นยืนทำความเคารพเขาเช่นเดียวกันให้ตายสิ!! กระโดดถีบแทนได้หรือไม่เย่จิ้นหยางละสายตาจากจางเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะจ้องมองมาที่ฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ฟางเมี่ยวมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย ทำให้เย่จิ้นหยางขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเอ่ยถาม"แม่นาง ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ชอบใจข้าเท่าใดนัก"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันมาจ้องมองเย่จิ้นหยางคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่ารอยยิ้มของนางดูเย็นชาไม่น้อย"ท่านอ๋องทรงคิดมากไปแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่เคยพบเจอท่านอ๋องมาก่อน จะไม่ชอบใจพระองค์เรื่องใดกัน""นั่นสินะ ข้าคงคิดมากไป ว่าแต่เจ้าคงจะเป็นสหายของเสวี่ยเอ๋อร์สินะ"เย่จิ้นหยางเอ่ยถามนาง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้จางเสวี่ยฮุ่ย ฟางเมี่ยวไม่ตอบเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้นคนบัดซบเช่นนี้ นางไม่อาจทำใจรักษากฎระเบียบใดกับเขาได้ แม้ยามนี้นางจะบอกตนเองเสมอว่าไม่ให้แค้นเคืองเขาในเรื่องเก่าก่อน แต่นางกลับรู้สึกว่าตนขัดหูขัดตาเขาไม่น้อย นี่แปลว่านางยังแค้นเขาใช่หร

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 11 พบสหายเก่า

    บทที่ 11 พบสหายเก่าฟางเมี่ยวเดินกลับเข้ามาในงานเลี้ยง นางรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ในชาตินี้หลี่เยี่ยนเฉินดูแปลกไปหรือว่าเขาจะย้อนอดีตกลับมาเช่นเดียวกันกับนางจะเป็นไปได้เช่นไรกัน เขาก็ดูปกติดี ไม่ได้มีท่าทีว่าจำเรื่องราวในชาติก่อนได้เลยนี่!!!ช่างเถิด ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว นางค่อยหาทางอีกคราก็ยังไม่สาย"คุณหนูฟาง ได้ยินชื่อเสียงมานาน ได้พบที่งานเลี้ยงวันนี้ช่างดูงดงามสมคำร่ำลือยิ่งนัก"ฟางเมี่ยวหันไปมองบุุรุษที่เดินเข้ามาทักทายนางคราหนึ่ง นางจำเขาได้ คนผู้นี้มีนามว่ามู่หรงฟังในชาติที่แล้วเขาตามตื๊อนางอย่างเอาเป็นเอาตาย คอยส่งของมีค่ามาให้นาง อีกทั้งยังสอนให้นางเล่นการพนันอีกด้วย ยามที่เสียพนันเขาก็เป็นคนแนะนำให้นางไปขโมยเงินมาจากสินเดิมของท่านแม่ นางยามนั้นไร้เดียงสาโง่งมทำตามเขาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง เพียงเพราะต้องการตอบสนองความสนุกของตนเองเพียงเท่านั้นยามนี้นางได้กลับมาเจอเขาอีกครา เป็นช่วงเวลาที่นางยังไม่ทันได้ติดการพนันอย่างบ้าคลั่ง ทุกอย่างเพียงกำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเมื่อคิดได้เช่นนั้น ฟางเมี่ยวจึงยิ้มให้มู่หรงฟังเล็กน้อย"รู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?"มู่หรงฟังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 12 กิจการของฟางเมี่ยว

    บทที่ 12 กิจการของฟางเมี่ยวหลายวันต่อมาฟางเมี่ยวก็ไปที่ภัตตาคารเพื่อเลือกพ่อครัวคนใหม่ นางเลือกมาได้สองคนที่มีฝีมือค่อนข้างดีเยี่ยม อีกทั้งระยะนี้นางยังจะต้องศึกษาสมุนไพรและเครื่องหอมที่ท่านแม่เคยบันทึกเอาไว้ มันไม่ง่ายเลย นางลองทำตามสูตรที่เขียนเอาไว้แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แต่นางก็ไม่ละความพยายาม จนกระทั่งนางสามารถปรุงยาขี้ผึ้งดอกบัวออกมาได้ตามที่หวังเอาไว้ยาทาตลับนี้มีดอกบัวและใบบัวเป็นวัตถุดิบหลัก ต้องเด็ดดอกบัวสดตัดรากอ่อนมาสองท่อนนำมาตากแห้งบดเป็นผงร่อนผ่านกระชอน ผสมน้ำใส่ลงในหม้อดินเผา อบไล่ด้วยไฟแรงสลับไฟอ่อนสองวัน นำออกมาทิ้งให้เย็นแล้วบดเป็นผง ใช้กระชอนร่อน สุดท้ายนำไปผสมกับแป้งฝุ่น ลองเอามาทาข้อมือดูถ้าไม่มีผลข้างเคียงก็ใช้ได้ ผงดอกบัวรากบัวใช้บรรเทาการอาการปวด ลดบวม ลดฟกช้ำ ในส่วนผสมยังมีชะเอมแก้อักเสบและสะระแหน่ที่เย็นทำให้ลดอาการบวมแดง สามารถใช้ทาที่ใบหน้าหรือว่าตรงที่ระบมฟกช้ำได้เป็นอย่างดีอีกทั้งนางยังทำยาสระผมออกมาได้อีกด้วย ส่วนผสมของมันมีเพียง ดอกจำปีตูม ดอกกุหลาบอย่างละห้าเฉียน สนแผง ใบหม่อน เปลือกรากโบตั๋น อย่างละสี่เฉียน แล้วจึงใส่น้ำชาค้างคืนลงไปต้มเพื่อสกัดน้ำมันส

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 13 ปรับปรุงกิจการ

    บทที่ 13 ปรับปรุงกิจการฟางเมี่ยวที่รีบเดินหนีมาจากศาลาเมื่อมาถึงที่ลับตาคน นางจึงรีบให้ลู่ชิงนำชาที่ตนนำติดมาด้วยเทใส่ถ้วย ก่อนจะกระดกหมดถ้วยในคราเดียวขนมเกือบติดคอตายแล้วไหมล่ะ!! เย่จิ้นหยางนี่มีดวงพิฆาตกับข้าจริงๆ!!"คุณหนู เหตุใดท่านจึงไม่แบ่งขนมให้ท่านอ๋องลองชิมเล่าเจ้าคะ บ่าวว่าท่านอ๋องรูปงามสูงศักดิ์ เหมาะสมกับคุณหนูมากกว่าคุณชายหลี่...""หุบปาก!! ก่อนที่ข้าจะยกกาชาฟาดหน้าเจ้า""คุณหนู!!"เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำต่อแล้ว ฟางเมี่ยวจึงไปแจ้งบิดาของตนว่านางจะกลับจวนแล้ว ก่อนจะรีบขึ้นรถม้ามุ่งหน้าออกจากค่ายทหารในทันทีแต่ก่อนยามที่นางติดตามท่านพ่อมาที่นี่เป็นเพราะถูกบังคับ ท่านพ่ออยากให้นางได้มาพบกับหลี่เยี่ยนเฉิน นางจึงจำได้ว่าเขามักจะชอบอยู่ที่ลานขี่ม้า ด้านท่านพ่อเอง เมื่อมาตรวจตราทุกอย่างและจัดการเอกสารเสร็จเรียบร้อยก็จะรีบเข้าวังหลวงทันทีฟางเมี่ยวครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงหันไปเอ่ยกับคนขับรถม้าทันที"ไปที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์""ขอรับคุณหนู"ภัตตาคารโหยวเย่ว์ฟางเมี่ยวเดินลงมาจากรถม้า ก่อนจะมองป้ายหน้าร้านด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในที่นี่คือภัตตาค

    Последнее обновление : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจางระยะนี้ต้าอู๋ค่อนข้างสงบสุขไม่น้อย แม้ว่ากองทัพของเหลียงไท่จะบุกประชิดชายแดน แต่ทว่ากองกำลังของต้าอู๋ก็ยังคงแข็งแกร่งรับมือกับศัตรูได้อย่างไม่เกรงกลัววันนี้ฟางเมี่ยวตื่นนอนสายยิ่งนัก หลังจากล้างหน้าและรับสำรับยามเช้าเสร็จแล้ว นางจึงเดินออกมารับลมที่นอกเรือน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าวันนี้ในจวนค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย"ลู่ชิง เหตุใดจวนจึงดูคึกคักยิ่งนักเล่า?""คุณหนู ยามนี้คุณชายใหญ่กลับมาถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พลันนึกเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้ในชาติก่อน ระยะเวลานี้ฟางเจี๋ยพี่ชายของนางกำลังกลับมาจากสำนักศึกษาบนเขา เขากับนางเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ฟางเจี๋ยอายุเท่าๆ กับหลี่เยี่ยนเฉิน เรียกได้ว่าเป็นสหายสนิทกันก็ไม่ผิดนักพี่ชายผู้นี้รักการเรียน อีกทั้งยังมีนิสัยเข้มงวด นางจำได้เขาสอนนางคัดอักษร หากนางเขียนผิดเขาก็จะตีมือนางหนึ่งครั้ง นางเองต่อต้านและเกลียดพี่ชายผู้นี้เป็นอย่างมาก เขาคอยขัดขวางทางรักของนางสารพัด เอาแต่พูดกรอกหูนางว่าสักวันนางจะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถหากยังดื้อรั้นที่จะแต่งเข้าจวนอ๋องนางยิ้มออกมาเล็กน้อย พี่ชายนางพูดไม่ผิด

    Последнее обновление : 2025-04-05

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status