Share

บทที่ 8 จัดการอนุ

last update Last Updated: 2025-04-05 19:57:18

บทที่ 8 จัดการอนุ

วันต่อมาฟางเมี่ยวตื่นสายไปเสียหน่อย เนื่องจากนางมัวแต่อ่านตำราจนถึงยามดึก ลู่ชิงที่เห็นว่านายตนตื่นแล้ว จึงเข้ามาปรนนิบัติล้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฟางเมี่ยวจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิง

"ข้าจะไปกินอาหารเช้ากับท่านพ่อที่เรือนใหญ่"

"เอ่อ ปกติบ่าวเห็นว่าคุณหนูไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ใดนี่เจ้าคะ"

"ก็ตอนนี้ข้าชอบกินกับผู้อื่นแล้วอย่างไรเล่า เจ้าจะถามไปทำไมให้มากความกัน ปากเจ้านี่หัดเงียบบ้างจะได้หรือไม่!!!"

"บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"

ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจลู่ชิงอีก นางจึงมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงที่หน้าเรือนก็พบว่ามีเสียงหัวเราะหวานใสของสตรีหลายนางและเสียงหัวเราะของท่านพ่อดังแว่วมาจากในเรือนใหญ่

ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ท่านพ่อก็รื่นเริงเสียแล้ว

นางหันไปจ้องมองสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าเป็นเชิงว่าห้ามส่งเสียง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที

"แหมๆๆๆ ท่านพ่อนี่ดูรื่นรมย์เสียจริงนะเจ้าคะ งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ"

เสนาบดีฟางเหลียนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง

บัดซบ!! บุตรสาวตัวดีของเขามาที่นี่ทำไมกัน ร้อยวันพันปีไม่เห็นนางจะมา!!

"ท่านพ่อ"

"เอ่อ เมี่ยวเอ๋อร์ลูกรัก เจ้ามาหาพ่อมีเรื่องใดหรือ?"

"การที่ลูกจะมาหาท่านพ่อ ต้องมีเรื่องด้วยหรือเจ้าคะ?"

"เอ่อ ไม่ๆ"

เขาเอ่ยก่อนจะหันไปส่งสายตาให้เหล่าอนุสามนางที่ปรนนิบัติเขากินอาหารให้สำรวมกิริยาเสีย

ให้ตายเถิด!! เขาสัญญากับฟางฮูหยินก่อนตายว่าจะไม่มีภรรยาใหม่ให้ฟางเจี๋ยและฟางเมี่ยวต้องได้รับความอยุติธรรม แต่ทว่าเขายังไม่แก่ เรื่องเช่นนี้ย่อมขาดไม่ได้!!

ฟางเมี่ยวปรายตามองอนุทั้งสามก่อนจะเอ่ย

"ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้ว ว่าห้ามเสนอหน้ามาที่เรือนของท่านแม่ข้า แม้ว่าท่านแม่จะตายจากไปแต่อย่างไรก็ยังได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินใหญ่ของจวนนี้ หรือว่าพวกเจ้าคิดจะมาแทนที่ท่านแม่ของข้า หวังจะปรนนิบัติให้ท่านพ่อพอใจ แล้วคิดวางแผนตั้งครรภ์บุตรชายเพื่อมาแย่งสมบัติของข้ากับพี่ใหญ่!!!"

เหล่าอนุทั้งสามนางรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ใบหน้าของพวกนางซีดเผือดเป็นอย่างยิ่ง

เสนาบดีฟางเหลียนที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยปรามบุตรสาวตนทันที

"เมี่ยวเอ๋อร์ เหลวไหลไปกันใหญ่แล้ว!!!"

ฟางเมี่ยวไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นบิดา นางหันไปเอ่ยถามแม่นมหลิ่วที่ยืนอยู่ทันที

"แม่นมหลิ่วรายงานเรื่องที่ท่านรู้ให้ข้าฟัง"

แม่นมหลิ่วก้าวเข้ามาตรงหน้า ก่อนจะเอ่ย

"หลายวันก่อน บ่าวเห็นว่าอนุไป๋แอบเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งเจ้าค่ะ"

"เจ้าพูดจาเหลวไหล!!!"

อนุไป๋รีบปฏิเสธทันที แต่ทว่าเมื่อเห็นสายตาเย็นชาที่มองมาของฟางเมี่ยวนางก็แทบจะร้องไห้แล้ว

ผู้ใดจะรู้ว่าสตรีที่วันๆ ไม่สนใจสิ่งใดแม้แต่มารดาตนเอง วันหนึ่งกลับลุกขึ้นมาหาเรื่องนาง!!!

"อนุไป๋ เจ้าเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งอย่างนั้นหรือ?"

"เอ่อ..."

"ลากนางไปโบยสิบไม้และขับออกจากจวน!!"

"เมี่ยวเอ๋อร์!!!"

"ท่านพ่อ เดิมทีท่านเคยรับปากว่าเรื่องในจวนนับจากนี้จะให้ลูกเป็นคนจัดการ ลูกก็จัดการมิให้พวกนางเหิมเกริม ลูกเป็นสตรีเห็นแก่ตัวท่านพ่อก็รู้ ลูกจะไม่ยอมให้พวกนางตั้งครรภ์ ลูกไม่อยากมีน้องสาวหรือว่าน้องชาย ลูกไม่แบ่งสมบัติให้ผู้ใดทั้งนั้นนอกจากพี่ใหญ่ และจะไม่ยอมให้พวกนางมากดหัวลูกเหมือนที่เคยทำกับท่านแม่อีก ลูกผิดหรือเจ้าคะ หรือว่าท่านพ่อรักอนุมากกว่าลูก ไม่อยากมีลูกเป็นบุตรสาวแล้ว!!!"

"เมี่ยวเอ๋อร์ ไม่ใช่!! เฮ้อ ลากนางไปโบยเสีย!!!"

"นายท่าน!! ฮืออ นายท่าน!!!"

เสนาบดีฟางเหลียนทำได้เพียงปล่อยไป เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้มารดาของฟางเมี่ยวต้องตาย

"พวกเจ้าสองคน หากอยากชูคอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ก็อย่าคิดมาตีตนเสมอท่านแม่ของข้า!!"

ฟางเมี่ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา อนุเหล่านี้ในชาติที่แล้วรังแกมารดาของนางจนล้มป่วย นางจำได้ไม่ลืม!

นับว่านางเมตตามากแล้ว นางไม่อยากมีน้องสาวหรือน้องชายที่เกิดจากอนุมาสร้างความรำคาญใจให้นางอีก!!

"เมี่ยวเอ๋อร์ ตกลงเจ้ามาหาพ่อด้วยเรื่องใดหรือ?"

ฟางเมี่ยวทิ้งกายนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ย

"ลูกอยากมากินอาหารกับท่านพ่อเจ้าค่ะ นับแต่นี้เวลาอาหารเช้าและเย็นลูกจะมากินกับท่านพ่อทุกมื้อ"

เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นความไม่พอใจในคราแรกก็หายไปจนหมดสิ้น เขายิ้มให้ฟางเมี่ยวก่อนจะเอ่ย

"ได้สิ เมี่ยวเอ๋อร์ของพ่อเติบโตขึ้นมากแล้ว"

ฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"ข้าหิวแล้ว ลู่ชิงมาทำความสะอาดโต๊ะแล้วจัดสำรับมาให้ข้ากับท่านพ่อใหม่ ส่วนผู้ใดที่ไม่เกี่ยวก็ไสหัวไป อย่าเสนอหน้ามาทำให้ข้ารำคาญใจอีก"

เหล่าอนุทั้งสองรีบจากไปทันที แม้จะไม่พอใจเพียงใดแต่ก็ไม่กล้าปริปาก เสนาบดีฟางเหลียนรักใคร่บุตรสาวผู้นี้มาก พวกนางคงทำได้เพียงจำยอมแล้ว

หลังจากที่รับสำรับเก็บเรียบร้อยแล้ว เสนาบดีฟางเหลียนจึงหันมาเอ่ยกับฟางเมี่ยว

"นี่เมี่ยวเอ๋อร์ อีกสองวันจวนตระกูลหลี่จะจัดงานเลี้ยงที่จวน พ่อจะพาเจ้าไปร่วมด้วย"

ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย

นางจำได้ว่าหลังจากที่หลี่เยี่ยนเฉินและบิดาของเขากลับมาที่ต้าอู๋ จวนตระกูลหลี่ก็จัดงานเลี้ยงที่หลี่เยี่ยนเฉินได้เลื่อนขั้นเป็นรองแม่ทัพ ผู้คนต่างไปร่วมงานอย่างครึกครื้น

ในงานเลี้ยงครั้งนี้เองที่หลี่เยี่ยนเฉินสารภาพรักกับนาง

"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้าชอบเจ้า เจ้าจะยินดีหรือไม่หากว่าข้าจะไปสู่ขอเจ้าที่จวน"

"เช่นนั้นเจ้าก็ไปบอกกับท่านพ่อข้าเถิด ท่านพ่อว่าอย่างไรข้าก็ว่าตามนั้น"

นางยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าในใจกลับครุ่นคิด

ข้าจะใช้เจ้าเป็นสะพานเพื่อข้ามไปหาเย่จิ้นหยาง พอเจ้าหมดประโยชน์ข้าก็จะไม่สนใจเจ้าอีก แต่งงานอันใดกัน ข้าไม่แต่งกับคนเช่นเจ้าหรอก!!

นางเสแสร้งทำเป็นทำอาหารและขนมไปส่งให้หลี่เยี่ยนเฉิน เขาไม่เคยสงสัยในจุดประสงค์แอบแฝงของนางเลยแม้แต่น้อย นางเสแสร้งแกล้งทำดีกับเขาเพื่อหวังใช้เขาเป็นบันไดไต่ไปหาเย่จิ้นหยาง

เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์นางก็ถีบหัวส่งเขาจริงๆ

"ไหนเจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้า!!"

"ข้าเคยรับปากเจ้าเมื่อใดกัน?"

"ฟางเมี่ยว!! เจ้าบอกให้ข้าไปสู่ขอเจ้ากับท่านพ่อเจ้า"

"แต่ข้ามิได้รู้เรื่องด้วยนี่!!"

"ฟางเมี่ยว เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเจ็บปวดเพียงใด ข้ารักเจ้า เจ้าก็รู้!! เจ้าเป็นคนพูดเองว่าเจ้ายินดีที่จะแต่งกับข้า"

"แต่ข้าไม่เคยรักเจ้า แล้วข้าเคยพูดเมื่อใดว่ายินดีแต่งกับเจ้า ข้าเพียงให้เจ้าไปลองถามท่านพ่อดู เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น ข้าไม่แต่ง หากเจ้าทุกข์ใจมาก ก็ไปตายเสียสิ!!"

ฟางเมี่ยวหลับตาลง ความรู้สึกผิดเอ่อท่วมท้นในจิตใจของนางอย่างไม่อาจหลีกพ้น

เขาทำเพื่อนางทุ่มเทเพื่อนางทุกอย่าง แต่สุดท้ายนางกลับเห็นเขาเป็นเพียงบันไดปูทางตอบสนองความต้องการในใจของตนเอง

นางยังจำใบหน้าที่ดีใจอย่างลิงโลดของเขายามที่นางบอกว่าให้เขาไปสู่ขอนางกับบิดาของนางได้ไม่ลืม

รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนเช่นนั้น ไม่ได้ทำให้ความเลวร้ายและมืดบอดในจิตใจของนางมลายหายไปได้เลยแม้แต่น้อย

สมควรแล้วที่นางต้องพบกับจุดจบเช่นนั้น!!

นางไม่รู้ว่าชาติก่อนเขาตายเช่นไร หลังจากปล่อยนางตกหน้าผาตายไปแล้ว เขาก็คงจะแต่งงานใหม่กับสตรีที่ดีพร้อมและมีบุตรหลานเต็มจวนสินะ

หลี่เยี่ยนเฉิน ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่

    บทที่ 9 งานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ผ่านมาร่วมสองวันจวนตระกูลหลี่ก็ส่งเทียบเชิญมาที่จวนตระกูลฟาง ฟางเมี่ยวจ้องมองเทียบเชิญฉบับนั้นอย่างเงียบๆ ในใจของนางรู้สึกเต้นระรัวอย่างรุนแรงนางบอกไม่ถูกว่ามันเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ที่ทำให้จิตใจของนางไม่สงบได้ถึงเพียงนี้ คล้ายว่านางรอคอยที่จะได้พบกับเขาและเฝ้ารอให้เขาพูดประโยคบอกรักนั้นกับนางอีกคราหากครานี้เขาพูดกับนางอีกครา นางจะตอบตกลงเขาอย่างไม่รีรอ นางจะแต่งกับเขา จะดูแลเขาให้ดีที่สุดฟางเมี่ยวละสายตาจากเทียบเชิญฉบับนั้น ก่อนจะสั่งให้ลู่ชิงช่วยนางเลือกชุดที่จะสวมใส่ไปที่จวนตระกูลหลี่ในอีกสองวันข้างหน้านางจำได้ว่าในชาติก่อนนั้น นางรู้ว่าในงานเลี้ยงครั้งนี้เย่จิ้นหยางจะมาร่วมด้วยเช่นกัน เพราะสนิทสนมกับหลี่เยี่ยนเฉินมาก นางจึงบรรจงแต่งกายสีสันฉูดฉาดไป เพื่อยั่วยวนเย่จิ้นหยาง โดยไม่สนใจหลี่เยี่ยนเฉินเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังหลอกใช้เขาฟางเมี่ยวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไป นางมองดูชุดที่ตนเองจะสวมใส่ก่อนจะยิ้มออกมาคราหนึ่งสองวันต่อมางานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่ยามนี้ภายในจวนตระกูลหลี่ค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมาก ขุนนางชั้นสูงจากทั่วทั้งเมืองหลวงต่างมาร่วมยินดีด้ว

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป

    บทที่ 10 บรรยากาศแปลกไป"ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ"จางเสวี่ยฮุ่ยลุกขึ้นทำความเคารพเย่จิ้นหยางอย่างนอบน้อมและเขินอาย ฟางเมี่ยวที่หาทางปลีกกายออกไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงลุกขึ้นยืนทำความเคารพเขาเช่นเดียวกันให้ตายสิ!! กระโดดถีบแทนได้หรือไม่เย่จิ้นหยางละสายตาจากจางเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะจ้องมองมาที่ฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ฟางเมี่ยวมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย ทำให้เย่จิ้นหยางขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเอ่ยถาม"แม่นาง ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ชอบใจข้าเท่าใดนัก"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันมาจ้องมองเย่จิ้นหยางคราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่ารอยยิ้มของนางดูเย็นชาไม่น้อย"ท่านอ๋องทรงคิดมากไปแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่เคยพบเจอท่านอ๋องมาก่อน จะไม่ชอบใจพระองค์เรื่องใดกัน""นั่นสินะ ข้าคงคิดมากไป ว่าแต่เจ้าคงจะเป็นสหายของเสวี่ยเอ๋อร์สินะ"เย่จิ้นหยางเอ่ยถามนาง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้จางเสวี่ยฮุ่ย ฟางเมี่ยวไม่ตอบเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้นคนบัดซบเช่นนี้ นางไม่อาจทำใจรักษากฎระเบียบใดกับเขาได้ แม้ยามนี้นางจะบอกตนเองเสมอว่าไม่ให้แค้นเคืองเขาในเรื่องเก่าก่อน แต่นางกลับรู้สึกว่าตนขัดหูขัดตาเขาไม่น้อย นี่แปลว่านางยังแค้นเขาใช่หร

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 11 พบสหายเก่า

    บทที่ 11 พบสหายเก่าฟางเมี่ยวเดินกลับเข้ามาในงานเลี้ยง นางรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ในชาตินี้หลี่เยี่ยนเฉินดูแปลกไปหรือว่าเขาจะย้อนอดีตกลับมาเช่นเดียวกันกับนางจะเป็นไปได้เช่นไรกัน เขาก็ดูปกติดี ไม่ได้มีท่าทีว่าจำเรื่องราวในชาติก่อนได้เลยนี่!!!ช่างเถิด ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว นางค่อยหาทางอีกคราก็ยังไม่สาย"คุณหนูฟาง ได้ยินชื่อเสียงมานาน ได้พบที่งานเลี้ยงวันนี้ช่างดูงดงามสมคำร่ำลือยิ่งนัก"ฟางเมี่ยวหันไปมองบุุรุษที่เดินเข้ามาทักทายนางคราหนึ่ง นางจำเขาได้ คนผู้นี้มีนามว่ามู่หรงฟังในชาติที่แล้วเขาตามตื๊อนางอย่างเอาเป็นเอาตาย คอยส่งของมีค่ามาให้นาง อีกทั้งยังสอนให้นางเล่นการพนันอีกด้วย ยามที่เสียพนันเขาก็เป็นคนแนะนำให้นางไปขโมยเงินมาจากสินเดิมของท่านแม่ นางยามนั้นไร้เดียงสาโง่งมทำตามเขาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง เพียงเพราะต้องการตอบสนองความสนุกของตนเองเพียงเท่านั้นยามนี้นางได้กลับมาเจอเขาอีกครา เป็นช่วงเวลาที่นางยังไม่ทันได้ติดการพนันอย่างบ้าคลั่ง ทุกอย่างเพียงกำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเมื่อคิดได้เช่นนั้น ฟางเมี่ยวจึงยิ้มให้มู่หรงฟังเล็กน้อย"รู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?"มู่หรงฟังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 12 กิจการของฟางเมี่ยว

    บทที่ 12 กิจการของฟางเมี่ยวหลายวันต่อมาฟางเมี่ยวก็ไปที่ภัตตาคารเพื่อเลือกพ่อครัวคนใหม่ นางเลือกมาได้สองคนที่มีฝีมือค่อนข้างดีเยี่ยม อีกทั้งระยะนี้นางยังจะต้องศึกษาสมุนไพรและเครื่องหอมที่ท่านแม่เคยบันทึกเอาไว้ มันไม่ง่ายเลย นางลองทำตามสูตรที่เขียนเอาไว้แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แต่นางก็ไม่ละความพยายาม จนกระทั่งนางสามารถปรุงยาขี้ผึ้งดอกบัวออกมาได้ตามที่หวังเอาไว้ยาทาตลับนี้มีดอกบัวและใบบัวเป็นวัตถุดิบหลัก ต้องเด็ดดอกบัวสดตัดรากอ่อนมาสองท่อนนำมาตากแห้งบดเป็นผงร่อนผ่านกระชอน ผสมน้ำใส่ลงในหม้อดินเผา อบไล่ด้วยไฟแรงสลับไฟอ่อนสองวัน นำออกมาทิ้งให้เย็นแล้วบดเป็นผง ใช้กระชอนร่อน สุดท้ายนำไปผสมกับแป้งฝุ่น ลองเอามาทาข้อมือดูถ้าไม่มีผลข้างเคียงก็ใช้ได้ ผงดอกบัวรากบัวใช้บรรเทาการอาการปวด ลดบวม ลดฟกช้ำ ในส่วนผสมยังมีชะเอมแก้อักเสบและสะระแหน่ที่เย็นทำให้ลดอาการบวมแดง สามารถใช้ทาที่ใบหน้าหรือว่าตรงที่ระบมฟกช้ำได้เป็นอย่างดีอีกทั้งนางยังทำยาสระผมออกมาได้อีกด้วย ส่วนผสมของมันมีเพียง ดอกจำปีตูม ดอกกุหลาบอย่างละห้าเฉียน สนแผง ใบหม่อน เปลือกรากโบตั๋น อย่างละสี่เฉียน แล้วจึงใส่น้ำชาค้างคืนลงไปต้มเพื่อสกัดน้ำมันส

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 13 ปรับปรุงกิจการ

    บทที่ 13 ปรับปรุงกิจการฟางเมี่ยวที่รีบเดินหนีมาจากศาลาเมื่อมาถึงที่ลับตาคน นางจึงรีบให้ลู่ชิงนำชาที่ตนนำติดมาด้วยเทใส่ถ้วย ก่อนจะกระดกหมดถ้วยในคราเดียวขนมเกือบติดคอตายแล้วไหมล่ะ!! เย่จิ้นหยางนี่มีดวงพิฆาตกับข้าจริงๆ!!"คุณหนู เหตุใดท่านจึงไม่แบ่งขนมให้ท่านอ๋องลองชิมเล่าเจ้าคะ บ่าวว่าท่านอ๋องรูปงามสูงศักดิ์ เหมาะสมกับคุณหนูมากกว่าคุณชายหลี่...""หุบปาก!! ก่อนที่ข้าจะยกกาชาฟาดหน้าเจ้า""คุณหนู!!"เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำต่อแล้ว ฟางเมี่ยวจึงไปแจ้งบิดาของตนว่านางจะกลับจวนแล้ว ก่อนจะรีบขึ้นรถม้ามุ่งหน้าออกจากค่ายทหารในทันทีแต่ก่อนยามที่นางติดตามท่านพ่อมาที่นี่เป็นเพราะถูกบังคับ ท่านพ่ออยากให้นางได้มาพบกับหลี่เยี่ยนเฉิน นางจึงจำได้ว่าเขามักจะชอบอยู่ที่ลานขี่ม้า ด้านท่านพ่อเอง เมื่อมาตรวจตราทุกอย่างและจัดการเอกสารเสร็จเรียบร้อยก็จะรีบเข้าวังหลวงทันทีฟางเมี่ยวครุ่นคิดบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงหันไปเอ่ยกับคนขับรถม้าทันที"ไปที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์""ขอรับคุณหนู"ภัตตาคารโหยวเย่ว์ฟางเมี่ยวเดินลงมาจากรถม้า ก่อนจะมองป้ายหน้าร้านด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปด้านในที่นี่คือภัตตาค

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจางระยะนี้ต้าอู๋ค่อนข้างสงบสุขไม่น้อย แม้ว่ากองทัพของเหลียงไท่จะบุกประชิดชายแดน แต่ทว่ากองกำลังของต้าอู๋ก็ยังคงแข็งแกร่งรับมือกับศัตรูได้อย่างไม่เกรงกลัววันนี้ฟางเมี่ยวตื่นนอนสายยิ่งนัก หลังจากล้างหน้าและรับสำรับยามเช้าเสร็จแล้ว นางจึงเดินออกมารับลมที่นอกเรือน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าวันนี้ในจวนค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย"ลู่ชิง เหตุใดจวนจึงดูคึกคักยิ่งนักเล่า?""คุณหนู ยามนี้คุณชายใหญ่กลับมาถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พลันนึกเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้ในชาติก่อน ระยะเวลานี้ฟางเจี๋ยพี่ชายของนางกำลังกลับมาจากสำนักศึกษาบนเขา เขากับนางเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ฟางเจี๋ยอายุเท่าๆ กับหลี่เยี่ยนเฉิน เรียกได้ว่าเป็นสหายสนิทกันก็ไม่ผิดนักพี่ชายผู้นี้รักการเรียน อีกทั้งยังมีนิสัยเข้มงวด นางจำได้เขาสอนนางคัดอักษร หากนางเขียนผิดเขาก็จะตีมือนางหนึ่งครั้ง นางเองต่อต้านและเกลียดพี่ชายผู้นี้เป็นอย่างมาก เขาคอยขัดขวางทางรักของนางสารพัด เอาแต่พูดกรอกหูนางว่าสักวันนางจะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถหากยังดื้อรั้นที่จะแต่งเข้าจวนอ๋องนางยิ้มออกมาเล็กน้อย พี่ชายนางพูดไม่ผิด

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 15 ลองตบข้าสิ

    บทที่ 15 ลองตบข้าสิฟางเมี่ยวหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนจะพบกับบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังก้าวเดินเข้ามา ท่าทีของเขาดูเป็นบัณฑิตผู้มีความรู้ นางจำเขาได้ดี เขาคืออาจารย์จาง บิดาของจางเสวี่ยฮุ่ย นามว่าจางหยวน เขาคือผู้ที่มีความสามารถและเคารพนับถือของเหล่าบัณฑิตในเมืองหลวง ผู้คนต่างเรียกเขาว่าท่านอาจารย์จางจางลี่อิงลดมือลง ก่อนจะหันไปมองบิดาของตนคราหนึ่ง จางหยวนมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาที่ตำหนิอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะหันมาจ้องมองฟางเมี่ยวด้วยแววตาที่ล้ำลึก"บุตรสาวของข้าเสียมารยาทแล้ว เจ้าคือบุตรสาวตระกูลใดหรือ?""คารวะท่านอาจารย์จาง ข้ามีนามว่าฟางเมี่ยว บุตรสาวจวนตระกูลฟางเจ้าค่ะ""อ้อ บุตรสาวของท่านเสนาบดีฟางนี่เอง"จางหยวนยิ้มให้ฟางเมี่ยวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ต้องขออภัยแทนบุตรสาวของข้าด้วย นางไม่รู้ความเท่าใดนัก""ไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ เดิมทีข้าก็ตั้งใจมาร่วมงานเลี้ยงตามคำเชิญของเสวี่ยเสวี่ยอยู่แล้ว ต้องขออภัยท่านอาจารย์จางเช่นกันที่ไม่สำรวมกิริยา""อืม คุณหนูฟางช่างรู้ความไม่น้อยเลย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ลี่เอ๋อร์ ตามพ่อมา"จางลี่อิงหันมาถลึงตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่งอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก ก่อน

    Last Updated : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 16 ก่อกวน

    ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเร่งไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมในทันที ระหว่างทางนางพบกับฟางเจี๋ยและหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังเดินออกมาจากจวนพอดี ฟางเจี๋ยที่เห็นว่าน้องสาวตนมีท่าทีรีบร้อนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"เมี่ยวเอ๋อร์ จะรีบไปที่ใดกัน เจ้าเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงมิใช่หรือ?""พี่ใหญ่ แม่นมหลิ่วบอกว่าที่ร้านเครื่องประทินโฉมเกิดเรื่อง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องใด จึงจะรีบไปดูเสียหน่อย""เกิดเรื่องหรือ เช่นนั้นให้พี่ไปด้วยดีกว่า อาเยี่ยน ข้าคงไม่ได้ไปส่งเจ้าที่จวนแล้ว ข้าขอตัวไปจัดการธุระกับเมี่ยวเอ๋อร์ก่อน""อืม เจ้ารีบไปเถิด"ยามนี้ฟางเมี่ยวไม่มีเวลามาใส่ใจหลี่เยี่ยนเฉินเท่าใดนัก นางจึงเร่งรีบเดินทางไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมพร้อมกับฟางเจี๋ยในทันทีเมื่อรถม้าจอดลงที่ด้านหน้าร้าน ฟางเมี่ยวก็รีบก้าวลงมาอย่างรีบร้อน ภาพที่เห็นก็คือ ยามนี้ด้านหน้าร้านของนางมีคนมามุงเต็มไปหมด ผู้ดูแลหลัวก็มีท่าทีกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เมื่อเหลือบมาเห็นฟางเมี่ยว นางก็มีท่าทีดีใจราวกับพระโพธิสัตว์มาโปรดอย่างไรอย่างนั้น"คุณหนู"เสียงเรียกของผู้ดูแลหลัว ทำให้ผู้คนที่มุงดูหันมามองฟางเมี่ยวเป็นตาเดียว"เจ้าเองหรือคือเ

    Last Updated : 2025-04-06

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status