Beranda / รักโบราณ / ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี / บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจาง

Share

บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจาง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 20:02:02

บทที่ 14 งานเลี้ยงตระกูลจาง

ระยะนี้ต้าอู๋ค่อนข้างสงบสุขไม่น้อย แม้ว่ากองทัพของเหลียงไท่จะบุกประชิดชายแดน แต่ทว่ากองกำลังของต้าอู๋ก็ยังคงแข็งแกร่งรับมือกับศัตรูได้อย่างไม่เกรงกลัว

วันนี้ฟางเมี่ยวตื่นนอนสายยิ่งนัก หลังจากล้างหน้าและรับสำรับยามเช้าเสร็จแล้ว นางจึงเดินออกมารับลมที่นอกเรือน ก่อนจะสังเกตเห็นว่าวันนี้ในจวนค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย

"ลู่ชิง เหตุใดจวนจึงดูคึกคักยิ่งนักเล่า?"

"คุณหนู ยามนี้คุณชายใหญ่กลับมาถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ"

ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พลันนึกเรื่องราวบางอย่างขึ้นมาได้

ในชาติก่อน ระยะเวลานี้ฟางเจี๋ยพี่ชายของนางกำลังกลับมาจากสำนักศึกษาบนเขา เขากับนางเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ฟางเจี๋ยอายุเท่าๆ กับหลี่เยี่ยนเฉิน เรียกได้ว่าเป็นสหายสนิทกันก็ไม่ผิดนัก

พี่ชายผู้นี้รักการเรียน อีกทั้งยังมีนิสัยเข้มงวด นางจำได้เขาสอนนางคัดอักษร หากนางเขียนผิดเขาก็จะตีมือนางหนึ่งครั้ง นางเองต่อต้านและเกลียดพี่ชายผู้นี้เป็นอย่างมาก เขาคอยขัดขวางทางรักของนางสารพัด เอาแต่พูดกรอกหูนางว่าสักวันนางจะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถหากยังดื้อรั้นที่จะแต่งเข้าจวนอ๋อง

นางยิ้มออกมาเล็กน้อย พี่ชายนางพูดไม่ผิด ทุกคำเตือนล้วนมาจากความรักความหวังดีทั้งสิ้น แต่เพราะนางตามืดบอดเกินไป จึงมองไม่เห็นความหวังดีนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงรีบมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ทันที เมื่อมาถึงก็พบกับฟางเจี๋ยที่กำลังนั่งสนทนากับเสนาบดีฟางเหลียนบิดาของนางอยู่ ฟางเจี๋ยหันมามองฟางเมี่ยว ก่อนจะเอ่ย

"สายป่านนี้ เจ้าเอาแต่นอนติดเตียงใช้ได้ที่ใดกัน"

ฟางเมี่ยวลอบขบขันในใจ กลับมาก็ต่อว่านางนี่สินะถึงจะสมเป็นพี่ใหญ่ของนาง

"ท่านพ่อ ท่านไม่บอกท่านพี่ไปเล่าเจ้าคะ ว่าระยะนี้ข้ามัวแต่วุ่นวายกับการปรับปรุงกิจการของท่านแม่ นอนดึกทุกวัน"

เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้น จึงหันไปเอ่ยกับฟางเจี๋ยบุตรชายตนทันที

"ใช่ๆ เจ้าไม่รู้อันใด เมี่ยวเอ๋อร์น่ะทำให้กิจการมีกำไรงอกเงยร่วมหลายหมื่นตำลึงเชียวนะ"

ฟางเจี๋ยหันไปมองฟางเมี่ยวที่ยักคิ้วให้เขาคราหนึ่งก่อนจะครุ่นคิด

ก่อนเขาจะออกจากจวนไปที่สำนักศึกษาบนเขา เขาจำได้ว่าน้องสาวผู้นี้ดื้อรั้น ชอบเถียงท่านแม่ วันๆ เอาแต่ไปหาอนุซาง ก่อนท่านแม่จะจากไปเคยเขียนจดหมายส่งให้เขาฉบับหนึ่งว่า ฟางเมี่ยวริอ่านดื่มสุราเล่นการพนัน แต่ผ่านไปร่วมปีที่เขาจากไป นางกลับดีขึ้นมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ

อีกทั้งท่านพ่อยังบอกอีกว่า ช่วงที่เขาไม่อยู่ ฟางเมี่ยวจัดการขับอนุซางออกจากจวนเนื่องจากตรวจสอบพบว่าอนุซางคิดไม่ซื่อ อีกทั้งเหล่าอนุต่างก็เกรงกลัวนางไม่กล้าเหิมเกริมเช่นยามที่ท่านแม่อยู่อีกด้วย

เขารู้ดีว่าท่านพ่อรักและถนอมน้องสาวผู้นี้ราวกับหยกในฝ่ามือ แต่เขาไม่คิดว่าฟางเมี่ยวจะกลายเป็นสาวน้อยที่จัดการเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างเด็ดขาดถึงเพียงนี้

แววตาที่มองน้องสาวแสนดื้อรั้นจึงอ่อนลงหลายส่วน

"ได้ยินว่าพี่ใหญ่กลับจวนมาแล้ว ยินดีต้อนรับกลับจวนนะเจ้าคะ ลู่ชิง เจ้าไปบอกลุงเจินที่ภัตตาคารว่าให้ทำอาหารส่งมาที่จวนให้มากหน่อย"

ฟางเจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยทัดทานน้องสาวตนทันที

"เมี่ยวเอ๋อร์ อย่าสิ้นเปลืองเลย"

"สิ้นเปลืองอันใดกันเจ้าคะ ข้าน่ะไม่อยากจะอวด พ่อครัวที่ข้าหามาใหม่น่ะฝีมือยอดเยี่ยมเชียวแหละ เอาตามนี้ ลู่ชิง เจ้ารีบไปสิ"

"เจ้าค่ะคุณหนู"

หลังจากที่ฟางเจี๋ยไปจัดการผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของตนแล้ว อาหารก็มาถึงพอดี ยามนี้ที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์คงกำลังเตรียมวัตถุดิบ อาหารที่นางสั่งจึงถูกทำเป็นชามแรกๆ ฟางเจี๋ยมองอาหารที่ส่งกลิ่นหอมตรงหน้าคราหนึ่ง ก่อนจะตักขึ้นมาชิม พบว่ารสชาติดีอย่างที่ฟางเมี่ยวว่า อาหารมื้อนี้จึงค่อนข้างอิ่มหนำไม่น้อย

"ฟางเมี่ยว ได้ยินว่าเจ้าปรับปรุงกิจการใหม่ทั้งหมดหรือ?"

ฟางเมี่ยวยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะหันไปเอ่ยกับผู้เป็นพี่ชาย

"เจ้าค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกทั้งกำลังจะสร้างร้านขายอาหารขนาดเล็กที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ไว้ให้ชาวบ้านได้มาซื้ออาหารด้วย ข้าน่ะอยากรับลูกค้าทุกคน ไม่อยากแบ่งชนชั้น มันคือเงินทั้งนั้น"

"เมี่ยวเอ๋อร์รู้ความแล้ว เจ้าคงลำบากไม่น้อย"

"ลำบากอันใดกัน ความจริงยังเหลืออีกที่ก็คือโรงน้ำชาที่ข้ายังไม่ได้ไปดู หากพี่ใหญ่มีเวลาไม่สู้ไปกับข้าดีหรือไม่ ข้าคิดว่าอยากให้ท่านดูแลโรงน้ำชานั้น"

"อืม"

ฟางเจี๋ยพยักหน้า สองพี่น้องคุยกันอีกสักครู่หนึ่งก็แยกกลับมาพักผ่อนที่เรือนของตน

เมื่อฟางเมี่ยวกลับมาถึงก็พบว่ามีเทียบเชิญส่งมาถึงนางหนึ่งฉบับ เมื่อเปิดอ่านก็พบว่าเป็นเทียบเชิญจากจวนราชครู ให้นางไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนราชครูจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า ตัวอักษรด้านล่างมีอักษรว่า เสวี่ยเสวี่ย

ฟางเมี่ยวยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ยกับลู่ชิง

"พรุ่งนี้เจ้าไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมของเรา นำยาทาขี้ผึ้งกับยาสระผมมาให้ข้า"

"เจ้าค่ะคุณหนู"

ฟางเมี่ยวเอนกายลงนอนก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้านั้น

เดิมทีในชาติก่อนนางไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่จวนราชครูจัดขึ้น เนื่องจากจางเสวี่ยฮุ่ยกับนางไม่สนิทกัน แม้จะเจอกันด้านนอกจวนบ้าง แต่เพราะยามนั้นนางหึงหวงเย่จิ้นหยาง จึงคอยเอ่ยวาจาเหน็บแนมจางเสวี่ยฮุ่ยให้นางอับอายอยู่เสมอ

แต่ทว่าชาตินี้จางเสวี่ยฮุ่ยกลับเป็นคนส่งเทียบเชิญฉบับนี้ให้นางเองกับมือ นางจะไม่ไปได้อย่างไรเล่า

ชาตินี้ได้เป็นสหายกัน นางย่อมไปอย่างแน่นอน

สองวันต่อมา ฟางเมี่ยวก็ไปที่จวนราชครูพร้อมกับลู่ชิง วันนี้นางสวมชุดสีเขียวอ่อนสบายตา เครื่องประดับก็ปักเพียงปิ่นหยกสีเขียวธรรมดา ใบหน้าไม่ได้แต่งแต้มมากนัก แต่ทว่าความธรรมดาแต่ไม่สามัญของนาง กลับทำให้นางดูงดงามชวนน่ามองอย่างที่สุด

ด้วยเกรงว่าจะทำให้จางเสวี่ยฮุ่ยขายหน้าที่เชิญนางมาแต่นางกลับแต่งกายสบายๆ ฟางเมี่ยวจึงสวมต่างหูไข่มุก และกำไลหยกเพิ่มไปอีกหน่อย

เมื่อมาถึง นางก็พบว่านอกจากจะมีเหล่าสตรีน้อยมาร่วมงานแล้ว ยังมีเหล่าบุรุษจากจวนต่างๆ มาร่วมงานด้วย ฟางเมี่ยวรู้ได้ในทันที จวนราชครูคงคิดจะจัดงานนี้เพื่อให้สตรีและบุรุษที่ยังไม่ออกเรือนมาสานสัมพันธ์กันสินะ

ฟางเมี่ยวก้าวลงจากรถม้า ลู่ชิงที่เดินประคองนางมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนัก

"คุณหนู ท่านแต่งหน้าน้อยไปหรือไม่เจ้าคะ ปกติท่านแต่งหน้าหนานัก แก้มนี่ขาว ปากนี่แดงจัด หากมีแผ่นยันต์ติดหน้าบ่าวแยกไม่ออกเลยเจ้าค่ะว่าผีหรือคน!!!"

ฟางเมี่ยวพยายามระงับโทสะ ยามนี้นางรู้แล้วว่านางอยากจะตบใครมากที่สุด ก็สาวใช้ปากมากของนางอย่างไรเล่า!!!

"เมี่ยวเมี่ยว"

ฟางเมี่ยวหันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นจางเสวี่ยฮุ่ยที่เดินเข้ามาหานางด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฟางเมี่ยวยิ้มตอบคราหนึ่งก่อนจะเอ่ย

"ข้ามาช้าไปเล็กน้อย ขออภัยเจ้าด้วย"

"ไม่ช้าเสียหน่อย"

"นี่ของเจ้า"

"ให้ข้าหรือ?"

"อืม เป็นยาทาขี้ผึ้งกับยาสระผม ข้าปรับสูตรเพิ่มดอกไม้เข้าไป รับรองว่าผมของเจ้าจะหอมกว่าสตรีใดแน่นอน"

"เมี่ยวเมี่ยว นี่ใช่ยาสระผมและขี้ผึ้งดอกบัวที่ผู้คนเล่าลือกันใช่หรือไม่ ข้าอยากไปซื้อนัก แต่ไม่มีเงิน เอ่อ..."

จางเสวี่ยฮุ่ยไม่เอ่ยสิ่งใดอีก นางก้มหน้างุด ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่เพราะยามนี้มีคนมองพวกนาง ฟางเมี่ยวจึงไม่ได้เอ่ยถามจางเสวี่ยฮุ่ย

เป็นถึงบุตรสาวภรรยาเอกจะไม่มีเงินได้อย่างไร?

"พี่ใหญ่ ท่านมาทำอันใดตรงนี้ โอะ นั่นเครื่องประทินโฉมของผู้ใดกัน ดูแล้วน่าใช้ยิ่งนัก ข้าจะเอา เอามาให้ข้า"

"น้องรอง นี่เป็นของที่สหายข้าให้มา"

"ข้าจะเอา ท่านกล้าขัดคำข้าหรือ!!! ข้าจะฟ้องท่านพ่อ"

ฟางเมี่ยวจ้องมองจางเสวี่ยฮุ่ยที่มีท่าทีร้อนรน ก่อนจะถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง

นางพอจะรู้แล้วละว่า เหตุใดจางเสวี่ยฮุ่ยจึงเป็นเช่นนี้!!!

"แม่นางผู้นี้ นี่เป็นของขวัญที่ข้านำมามอบให้เสวี่ยเสวี่ย ไม่ใช่ของเจ้า"

จางเสวี่ยฮุ่ยหันมามองฟางเมี่ยว สลับกับหันไปมองจางลี่อิงน้องสาวต่างมารดาของตนคราหนึ่ง

จางลี่อิงหันมาจ้องมองฟางเมี่ยวก่อนจะเอ่ยถาม

"เจ้าเป็นผู้ใดกัน?"

"จางลี่อิงเจ้าอย่าเสียมารยาทนะ นี่ฟางเมี่ยวสหายของข้า"

จางลี่อิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเฮอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะมองฟางเมี่ยวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

"อ้อ ข้าก็คิดว่าผู้ใด สตรีที่ทำตัวเหลวไหลไม่เอาการเอางานผู้นั้นนี่เอง พี่ใหญ่ท่านคบหาสตรีเช่นนี้เป็นสหายหรือ?"

จางเสวี่ยฮุ่ยไม่ตอบสิ่งใด ฟางเมี่ยวเลิกคิ้วขึ้นมองจางลี่อิงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเช่นเดียวกัน นางมองอยู่เช่นนั้น มองจนจางลี่อิงประหม่า

"จะมองอันใดนักหนา?"

ฟางเมี่ยวยิ้มตาหยีก่อนจะเอ่ยตอบ

"อ้อ ข้าอยากมองชัดๆ น่ะ เจ้าคงเป็นบุตรสาวสายรองสินะ มิน่าล่ะ เพราะไม่ได้คลานออกมาจากท้องของภรรยาเอกนี่เอง นิสัยจึงเป็นเช่นนี้!!"

"เป็นเช่นไร!!!"

"แล้วแต่จะคิดเถิด ข้าคร้านจะอธิบายให้คนโง่ฟัง"

"ฟางเมี่ยว!! จะเกินไปแล้วนะ เจ้าเหยียบย่างเข้ามาในจวนของผู้อื่น แต่กลับทำกิริยาต่ำทรามเช่นนี้หรือ!!!"

"ข้าเหยียบย่างเข้ามาในฐานะแขก เจ้าต่างหาก ทำกิริยาต่ำทรามกับแขกในจวนเช่นนี้ใช้ได้หรือ?"

จางลี่อิงทนไม่ไหว นางง้างมือเตรียมจะตบฟางเมี่ยว นางจะกลัวอันใด บิดารักนาง บิดานางเป็นสหายของฮ่องเต้และเป็นอาจารย์ที่เหล่าบัณฑิตให้ความเคารพในสำนักศึกษาหลวง ท่านปู่นางก็เป็นถึงราชครูของฮ่องเต้ อำนาจตระกูลจางยิ่งใหญ่ ตระกูลฟางเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ฟางเมี่ยวเตรียมพร้อมแล้ว หากจางลี่อิงจะตบ นางก็จะถีบยอดหน้าให้ดู ไม่สนหรอกว่าจะเป็นลูกหลานใคร บิดานางก็มีความชอบต่อฝ่าบาทไม่น้อย ได้ยินว่าฝ่าบาทนับบิดานางเป็นสหายเช่นเดียวกัน เพราะอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่บุกเบิกก่อสร้างแคว้นต้าอู๋ เหอะ!!! คิดว่าอวดเบ่งได้แค่ตระกูลเดียวหรืออย่างไรกัน

แต่ทว่ายังไม่ทันที่จางลี่อิงจะได้ลงมือกับฟางเมี่ยว ก็มีเสียงทรงอำนาจของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

"ลี่อิง หยุดทำตัวไร้มารยาทเดี๋ยวนี้!!!"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 15 ลองตบข้าสิ

    บทที่ 15 ลองตบข้าสิฟางเมี่ยวหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนจะพบกับบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังก้าวเดินเข้ามา ท่าทีของเขาดูเป็นบัณฑิตผู้มีความรู้ นางจำเขาได้ดี เขาคืออาจารย์จาง บิดาของจางเสวี่ยฮุ่ย นามว่าจางหยวน เขาคือผู้ที่มีความสามารถและเคารพนับถือของเหล่าบัณฑิตในเมืองหลวง ผู้คนต่างเรียกเขาว่าท่านอาจารย์จางจางลี่อิงลดมือลง ก่อนจะหันไปมองบิดาของตนคราหนึ่ง จางหยวนมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาที่ตำหนิอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะหันมาจ้องมองฟางเมี่ยวด้วยแววตาที่ล้ำลึก"บุตรสาวของข้าเสียมารยาทแล้ว เจ้าคือบุตรสาวตระกูลใดหรือ?""คารวะท่านอาจารย์จาง ข้ามีนามว่าฟางเมี่ยว บุตรสาวจวนตระกูลฟางเจ้าค่ะ""อ้อ บุตรสาวของท่านเสนาบดีฟางนี่เอง"จางหยวนยิ้มให้ฟางเมี่ยวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ต้องขออภัยแทนบุตรสาวของข้าด้วย นางไม่รู้ความเท่าใดนัก""ไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ เดิมทีข้าก็ตั้งใจมาร่วมงานเลี้ยงตามคำเชิญของเสวี่ยเสวี่ยอยู่แล้ว ต้องขออภัยท่านอาจารย์จางเช่นกันที่ไม่สำรวมกิริยา""อืม คุณหนูฟางช่างรู้ความไม่น้อยเลย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ลี่เอ๋อร์ ตามพ่อมา"จางลี่อิงหันมาถลึงตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่งอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก ก่อน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-05
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 16 ก่อกวน

    ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเร่งไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมในทันที ระหว่างทางนางพบกับฟางเจี๋ยและหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังเดินออกมาจากจวนพอดี ฟางเจี๋ยที่เห็นว่าน้องสาวตนมีท่าทีรีบร้อนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"เมี่ยวเอ๋อร์ จะรีบไปที่ใดกัน เจ้าเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงมิใช่หรือ?""พี่ใหญ่ แม่นมหลิ่วบอกว่าที่ร้านเครื่องประทินโฉมเกิดเรื่อง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องใด จึงจะรีบไปดูเสียหน่อย""เกิดเรื่องหรือ เช่นนั้นให้พี่ไปด้วยดีกว่า อาเยี่ยน ข้าคงไม่ได้ไปส่งเจ้าที่จวนแล้ว ข้าขอตัวไปจัดการธุระกับเมี่ยวเอ๋อร์ก่อน""อืม เจ้ารีบไปเถิด"ยามนี้ฟางเมี่ยวไม่มีเวลามาใส่ใจหลี่เยี่ยนเฉินเท่าใดนัก นางจึงเร่งรีบเดินทางไปที่ร้านเครื่องประทินโฉมพร้อมกับฟางเจี๋ยในทันทีเมื่อรถม้าจอดลงที่ด้านหน้าร้าน ฟางเมี่ยวก็รีบก้าวลงมาอย่างรีบร้อน ภาพที่เห็นก็คือ ยามนี้ด้านหน้าร้านของนางมีคนมามุงเต็มไปหมด ผู้ดูแลหลัวก็มีท่าทีกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เมื่อเหลือบมาเห็นฟางเมี่ยว นางก็มีท่าทีดีใจราวกับพระโพธิสัตว์มาโปรดอย่างไรอย่างนั้น"คุณหนู"เสียงเรียกของผู้ดูแลหลัว ทำให้ผู้คนที่มุงดูหันมามองฟางเมี่ยวเป็นตาเดียว"เจ้าเองหรือคือเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 17 เป้าหมายใหม่

    "แผนการล้มเหลวขอรับนายท่าน""เก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าให้สาวมาถึงตัวข้า แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ย่อมปล่อยผ่านไปไม่ได้ ไว้ค่อยส่งคนไปสั่งสอนนางใหม่อีกครา""ขอรับนายท่าน"บุรุษชุดดำพยักหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องลับไป เมื่อออกมาจากห้องลับเขาก็หาที่ลับตาคนเปลี่ยนอาภรณ์ของตนออก เป็นชาวเมืองต้าอู๋ทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตปะปนแฝงอยู่กับผู้คน ยามนี้ต้องนำเงินมอบให้สองแม่ลูกนั้นตามคำสั่งของนายท่าน และให้พวกนางย้ายไปนอกเมืองเสีย หลีกเลี่ยงที่จะเกิดปัญหามาถึงนายท่านของเขาหลี่เยี่ยนเฉินเพิ่งกลับจากค่ายทหารก็มุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลฟางเพื่อพบกับสหายสนิทอีกคนอย่างฟางเจี๋ยในทันที ได้ยินว่าฟางเมี่ยวไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางคงจะไม่อยู่ที่จวน แต่ทว่าเขากลับคาดเดาผิดไปหมด นางกลับมารวดเร็วยิ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่เหนือความคิดของเขา ชาติก่อนฟางเมี่ยวไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางเลย เพราะนางไม่ชอบใจจางเสวี่ยฮุ่ย แต่ทว่าในชาตินี้นางกลับได้ไปร่วมงานเลี้ยง อีกทั้งยังกลายเป็นสหายของจางเสวี่ยฮุ่ยอีกด้วยเดิมทีเขาก็ไม่ชอบไปงานเลี้ยงตามจวนต่างๆ อยู่แล้วหากไม่จำเป็น ส่วนท่านพ่อนั้นมีงานด่วนต้องสะสาง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 18 ประทับตรา

    ฟางเมี่ยวลุกขึ้นยืนก่อนจะทำความเคารพเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเช่นเคย เย่จิ้นหยางที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยทักทายนาง"คุณหนูฟางนี่เอง ข้าก็คิดว่าสตรีที่ใดกันที่อาเยี่ยนพามาที่นี่ด้วย ดีเลยวันนี้เจ้าอยู่พอดี แนะนำอาหารที่อร่อยให้ข้าด้วยเถิด ได้ยินว่าภัตตาคารแห่งนี้เป็นของมารดาเจ้า ที่ตกทอดมาถึงเจ้า อีกทั้งเจ้ายังคิดที่จะขายอาหารในราคาที่จับต้องได้ให้ราษฎรระดับล่างอีกด้วย ช่างมีจิตใจที่ดีงามยิ่งนัก"เย่จิ้นหยางเอ่ยชมฟางเมี่ยวจากใจจริง ฟางเมี่ยวเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้นเหอะ!! ชาติก่อนเขาด่านางราวกับนางไม่ใช่คน นางยังจำได้ดี คืนนั้นที่นางวางยาปลุกกำหนัดเขา และยามรุ่งสางที่เขาตื่นขึ้นมาพบว่าได้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับนางไปเสียแล้ว"ฟางเมี่ยว สตรีหน้าไม่อาย แพศยา ต่ำช้า เจ้าวางยาข้าหรือ""ท่านอ๋อง เมี่ยวเอ๋อร์รักพระองค์นะเพคะ""แต่ข้าเกลียดเจ้า เกลียดจนแทบอยากจะอาเจียน ข้าเกลียดเจ้าได้ยินหรือไม่!!! ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาลากนางไปขังเอาไว้ที่เรือนเล็กท้ายจวน ห้ามให้อาหารนางจนกว่าข้าจะสั่ง!!!""ท่านอ๋อง!!!"นางถูกเขาสั่งขังในเรือนโกโรโกโส ไม่มีอาหารกิน นางหิวจนปวดแสบท้องไปห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 19 ปรับทุกข์

    ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยในยามนี้นั้น นางกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ภายในห้อง ตั้งแต่ได้รับราชโองการให้นางได้แต่งเข้าจวนอ๋อง เหล่าฮูหยินรองและบรรดาอนุของท่านพ่อก็ไม่กล้ามาสร้างความลำบากใจให้นางและท่านแม่อีก เห็นจะมีแต่จางลี่อิงที่แสดงท่าทีไม่พอใจเพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่กล้าหาเรื่องนางเท่าแต่ก่อน"คุณหนูเจ้าคะ นายท่านเรียกให้ท่านไปพบที่ห้องตำราเจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยละสายตาจากตำราตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้าให้หลิงหลิง สาวใช้คนสนิทของนางคราหนึ่ง แล้วจึงมุ่งหน้าไปพบบิดาของตนที่ห้องตำราในทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าท่านพ่อกำลังรอนางอยู่ จางเสวี่ยฮุ่ยทำความเคารพบิดาตนคราหนึ่ง จางหยวนจ้องมองบุตรสาวคนโตด้วยแววตาที่เรียบเฉยก่อนจะเอ่ย"นั่งลงเถิด""เจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย จางหยวนที่เห็นเช่นนั้น จึงเอ่ยกับบุตรสาวตนด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย"เรื่องที่พ่อสั่งสอนเจ้าเอาไว้ เจ้าจำได้หรือไม่?"จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าไปมองบิดาของตนทันที ใบหน้าสวยหวานของนางซีดเผือดขึ้นมา ก่อนจะละล่ำละลักเอ่ย"ท่านพ่อ คือว่า..."เพียะ!!ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยตอบ จางหยวนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงเข้ามาตบนางจนนางเซล้มลงตกจากเก้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 20 ทุบตีคน

    "คุณหนูฟาง วันนี้ข้าแวะมาฟังบทละครที่โรงน้ำชาของเจ้า มิสู้เจ้ามานั่งเป็นเพื่อนข้าดีหรือไม่?""ขออภัยคุณชายมู่หรง ข้าไม่ว่างเจ้าค่ะ ขอตัวก่อน""อย่าเล่นตัวเลยน่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า เจ้ายังส่งสายตายั่วยวนให้ข้าอยู่เลยนะฟางเมี่ยว""ตอนนั้นข้าตาบอด แต่ตอนนี้ตาข้าสว่างแล้ว"ฟางเมี่ยวกำลังจะเดินจากไป แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับยื่นมือมาจับแขนของนางเอาไว้ ฟางเมี่ยวหันไปมองมู่หรงฟังด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ปล่อยข้านะมู่หรงฟัง""ไม่ปล่อย ฟางเมี่ยวคนงาม พวกเราไปที่โรงพนันกันเถิด ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก""มู่หรงฟัง ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้าแล้วนะ""ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด โอ๊ย!!!"มู่หรงฟังแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกฟางเมี่ยวยกขาเตะเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มแรง นางยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"อย่ามายุ่งกับข้า!!!"ฟางเมี่ยวปรายตามองมู่หรงฟังคราหนึ่ง ก่อนจะเดินหนีเขาไป นางรำคาญยิ่งนักที่ต้องมาเจอคนเช่นนี้ แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับไม่ยอมปล่อยนางไป"ไปกับข้า ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด""มู่หรงฟัง!!""ไปเถิด หากวันนี้เจ้าทำเงินได้มากกว่าข้า ข้าจะเลิกยุ่งกับเจ้า ข้าสัญญา"ฟางเมี่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 21 งานแต่ง

    ข่าวที่ฟางเมี่ยวทุบตีมู่หรงฟังแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะไม่มีคนติฉินนินทาฟางเมี่ยวแล้ว มู่หรงฟังยังถูกผู้คนโจษจันว่าเป็นบุรุษเฮงซวยอีกด้วย ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงเพียงแค่ทั้งสองฝ่ายยอมความกัน ด้วยเพราะทั้งสองตระกูลต่างก็รู้จักกันมานาน เสนาบดีมู่หรงรู้จักนิสัยบุตรชายของตนดี นอกจากจะไม่เข้าข้างบุตรชายของตนแล้ว ยังส่งของกำนัลมาที่จวนตระกูลฟางเพื่อเป็นการไถ่โทษอีกด้วย ฟางเมี่ยวไม่ได้สนในสิ่งของเหล่านี้มากนัก เพียงเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของเพียงเท่านั้นอีกไม่กี่วันก็จะถึงงานมงคลระหว่างเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ยแล้ว ฟางเมี่ยวได้รับเทียบเชิญให้ไปงานแต่งที่จวนอ๋องเช่นเดียวกัน นางสั่งให้คนเตรียมของขวัญเอาไว้ นางจะนำไปมอบให้จางเสวี่ยฮุ่ยในงานแต่งงานหลี่เยี่ยนเฉินในยามนี้นั้นเขากำลังกลับจากค่ายทหารและกำลังมุ่งหน้ามาที่จวนของตน ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงบุรุษผู้นั้นที่เขาเห็นว่าเป็นนักฆ่าในชาติก่อน เขาส่งคนไปสืบอย่างลับๆ แต่ทว่ากลับไร้วี่แววอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ยังไม่ยอมละความพยายาม ยังคงให้คนสืบค้นต่อไปเมื่อกลับมาถึงจวนเขาก็พบว่ามีรถม้าจอดอยู่ที่ด้านหน้าจวน เขามองเพียงครู่เดียวก็ร

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 22 พบเจอ

    นางเดินมาได้ครู่หนึ่ง ก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาหันมามองเมื่อเห็นว่าเป็นนางดวงตาคมก็ฉายแวววูบไหวครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเดินเข้าไปหาหลี่เยี่ยนเฉิน พลางมองสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จนคนถูกมองรู้สึกปะหม่า"ฟางเมี่ยว เจ้าจะมองข้าอีกนานหรือไม่?""ก็เจ้าหล่อนี่ ข้าจึงชอบมอง ไม่ได้หรือ?"หลี่เยี่ยนเฉินหมดคำจะกล่าวแล้ว เขาเถียงนางไปก็เท่านั้น เขาจึงเปลี่ยนมาลอบสังเกตท่าทีของนาง ก็พบว่าในแววตาของนางไม่ได้มีแววเสียใจหรือเศร้าโศกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ความริษยาก็ไม่มีให้เห็นหลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกดีใจอย่างแปลกประหลาดที่เห็นว่าฟางเมี่ยวไม่รู้สึกอันใดกับการแต่งงานของเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ย ไม่ทันรู้ตัวก็พบว่ายามนี้ฟางเมี่ยวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเสียแล้ว เขาลนลานคิดจะหนีกลับพบว่าแผ่นหลังของตนยามนี้ชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ไร้หนทางหลีกหนีจากนางเสียแล้วฟางเมี่ยวเอียงคอมองหลี่เยี่ยนเฉิน ก่อนจะเอ่ย"อยากแต่งงานหรือไม่?""ฮะ?"หลี่เยี่ยนเฉินมีท่าทีตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ยามที่เข้าใกล้ฟางเมี่ยวเขาคล้ายกับสูญเสียการควบคุมอย่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06

Bab terbaru

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status