Share

บทที่ 17 เป้าหมายใหม่

last update Last Updated: 2025-04-06 08:58:00

"แผนการล้มเหลวขอรับนายท่าน"

"เก็บกวาดให้เรียบร้อย อย่าให้สาวมาถึงตัวข้า แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ย่อมปล่อยผ่านไปไม่ได้ ไว้ค่อยส่งคนไปสั่งสอนนางใหม่อีกครา"

"ขอรับนายท่าน"

บุรุษชุดดำพยักหน้า ก่อนจะเดินออกจากห้องลับไป เมื่อออกมาจากห้องลับเขาก็หาที่ลับตาคนเปลี่ยนอาภรณ์ของตนออก เป็นชาวเมืองต้าอู๋ทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตปะปนแฝงอยู่กับผู้คน ยามนี้ต้องนำเงินมอบให้สองแม่ลูกนั้นตามคำสั่งของนายท่าน และให้พวกนางย้ายไปนอกเมืองเสีย หลีกเลี่ยงที่จะเกิดปัญหามาถึงนายท่านของเขา

หลี่เยี่ยนเฉินเพิ่งกลับจากค่ายทหารก็มุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลฟางเพื่อพบกับสหายสนิทอีกคนอย่างฟางเจี๋ยในทันที ได้ยินว่าฟางเมี่ยวไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางคงจะไม่อยู่ที่จวน แต่ทว่าเขากลับคาดเดาผิดไปหมด นางกลับมารวดเร็วยิ่ง

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่เหนือความคิดของเขา ชาติก่อนฟางเมี่ยวไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลจางเลย เพราะนางไม่ชอบใจจางเสวี่ยฮุ่ย แต่ทว่าในชาตินี้นางกลับได้ไปร่วมงานเลี้ยง อีกทั้งยังกลายเป็นสหายของจางเสวี่ยฮุ่ยอีกด้วย

เดิมทีเขาก็ไม่ชอบไปงานเลี้ยงตามจวนต่างๆ อยู่แล้วหากไม่จำเป็น ส่วนท่านพ่อนั้นมีงานด่วนต้องสะสาง และท่านแม่ก็รู้สึกไม่สบายเพราะเวียนศีรษะจึงไม่ได้ไปร่วมงานนี้ เพียงส่งคนนำของกำนัลไปมอบให้เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท ส่วนเขาอ้างว่ามีงานให้ต้องสะสางที่ค่ายทหารเช่นกัน จึงไม่อาจไปร่วมงานด้วยได้

หลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะรู้ตัวเขาก็หยุดยืนอยู่ที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์เสียแล้ว นี่คือภัตตาคารของฟางเมี่ยว ยามนี้ผู้คนค่อนข้างคึกคักไม่น้อย ได้ยินว่านางสร้างร้านเล็กๆ ตรงด้านข้างของภัตตาคาร เป็นร้านสำหรับชาวบ้านทั่วไปที่สามารถมาซื้ออาหารในราคาที่จับต้องได้

หลี่เยี่ยนเฉินกวาดตามองไปโดยรอบ ก่อนที่เขาจะต้องตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง

นั่นมัน!!

ภาพเดิมย้อนกลับมาในห้วงความคิดของเขาอีกครา ก่อนจะตกหน้าผาลงไปพร้อมกับฟางเมี่ยว เขาถูกนักฆ่าใช้ดาบฟันลงมาที่กลางหลัง เพราะสายลมที่พัดแรงทำให้ผ้าที่คลุมใบหน้าของมันเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของมัน

บุรุษที่กำลังยืนต่อแถวซื้อซาลาเปาที่หน้าภัตตาคารโหยวเย่ว์ เหตุใดจึงมีใบหน้าคล้ายกับนักฆ่าผู้นั้นเล่า!!!

หลี่เยี่ยนเฉินกำลังจะก้าวเดินเข้าไปหาบุรุษผู้นั้น แต่ทว่ากลับถูกใครบางคนเอื้อมมือมาจับที่ไหล่เสียก่อน เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นฟางเจี๋ยและฟางเมี่ยวที่กำลังเดินตรงมาหาเขาพอดี

"อาเยี่ยน ข้าคิดว่าเจ้ากลับจวนไปแล้วเสียอีก"

ฟางเจี๋ยเอ่ยถาม หลี่เยี่ยนเฉินไม่ตอบสิ่งใด เขาหันกลับไปมองชายผู้นั้นอีกคราก็พบว่าไม่อยู่เสียแล้ว ฟางเจี๋ยที่เห็นท่าทีของสหายดูแปลกพิกลยิ่ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"อาเยี่ยน เจ้ามองสิ่งใดอยู่หรือ?"

"อ้อ ไม่มีสิ่งใดหรอก"

"อาเยี่ยน ไหนๆ เจ้าก็ยังไม่กลับจวน มิสู้ไปลองลิ้มชิมรสอาหารที่ภัตตาคารของน้องสาวข้าดีหรือไม่ แต่เล็กพวกเจ้าก็สนิทสนมกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ ไปกันเถอะ"

"เอ่อ ข้ามีงานต้องสะสางต่อ"

"งานใดกัน เจ้าบอกว่าไม่มีงานแล้วมิใช่หรือ?"

หลี่เยี่ยนเฉินหมดคำจะกล่าว เขาหันไปมองฟางเมี่ยวที่จ้องมองเขาพลางยิ้มน้อยๆ ดวงตาที่กระจ่างใสของนางมันช่างดูงดงามจนทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวเอาเสียดื้อๆ

เมื่อหลีกหนีไม่พ้น หลี่เยี่ยนเฉินจำต้องตามฟางเจี๋ยมาที่ด้านบน คนทั้งสามเลือกนั่งที่ชั้นสอง ห้องนี้มีหน้าต่างกว้างขวาง สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่แสนงดงามทั่วทั้งเมืองต้าอู๋ได้

"พี่เยี่ยน ข้าจำได้ว่าท่านน่ะชอบกิน ซี่โครงผัดเปรี้ยวหวานที่สุด ส่วนขนมหวานก็เป็นขนมดอกกุ้ย ข้าจะสั่งมาให้ท่าน"

หลี่เยี่ยนเฉินไม่ตอบ เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลกอันใด นางรู้ว่าเขาชื่นชอบสิ่งใดมาตั้งแต่เด็ก

เพียงแต่ชาติก่อนนางไม่ได้เอาใจเขาเช่นนี้

ฟางเจี๋ยบังเอิญมีเรื่องให้ต้องสะสางเล็กน้อย จึงขอตัวลงไปที่ด้านล่างครู่หนึ่ง ยามนี้จึงเหลือเพียงหลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว ฟางเมี่ยวเทชาร้อนใส่ถ้วยก่อนจะส่งให้หลี่เยี่ยนเฉิน แล้วจึงยกยิ้มมุมปาก พลางเอ่ยถามเขา

"พี่เยี่ยน คล้ายว่าท่านกำลังหลบหน้าข้าอยู่"

หลี่เยี่ยนเฉินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองฟางเมี่ยว

"ข้ามีงานต้องทำ ไม่ได้หลบหน้าเจ้า"

"ไม่จริง เหตุใดท่านจึงไม่มองหน้าข้าเล่า แต่ก่อนท่านมักจะชอบมองหน้าข้า ท่านยังบอกอีกด้วยว่า ข้าคือสตรีที่งดงามที่สุดที่ท่านเคยเจอมา ข้าจำได้"

หลี่เยี่ยนเฉินส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องเก่าก่อน

"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าช่างงดงามยิ่งนัก"

"แน่นอน ข้ารู้ดีว่าข้าน่ะงดงามที่สุด"

"ใช่แล้ว"

"เพราะฉะนั้น ใบหน้านี้ของข้าท่านอ๋องจะต้องชอบเป็นแน่ เจ้าว่าหรือไม่หลี่เยี่ยนเฉิน เจ้าจำเอาไว้นะ ข้าไม่มีวันยอมเป็นเพียงภรรยาของแม่ทัพกระจอกเช่นเจ้า ข้าจะต้องได้เป็นพระชายาเอกจวนอ๋อง"

นิสัยหลงตนเองของนางยังคงแก้ไม่หายจริงๆ น่ารังเกียจที่สุด!!!"

"พี่เยี่ยน ท่านยังไม่ตอบข้าเลยนะ?"

เสียงของฟางเมี่ยวทำให้สติของหลี่เยี่ยนเฉินกลับคืนมา เขาไม่ตอบสิ่งใด เพียงมองไปทางอื่น ฟางเมี่ยวเองแม้จะสงสัยในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามออกไปให้มากความ นางจึงเปลี่ยนเรื่องเสีย

"อ้อ เครื่องประทินโฉมที่ข้าส่งไปที่จวน ท่านป้าได้รับแล้วกระมัง"

"ข้าไม่รู้ ข้ายังไม่ได้ถามท่านแม่"

"เช่นนั้น ท่านก็กลับไปถามเสียสิ ว่าชอบหรือไม่ หากชอบข้าจะได้ส่งไปให้อีก"

ฟางเมี่ยวค่อยๆ ยื่นมือของตนไต่ๆ ไปบนโต๊ะอาหาร ก่อนที่ปลายนิ้วชี้ของนาง จะสะกิดที่หลังมือของหลี่เยี่ยนเฉิน เขาตกใจจนชักมือกลับ ก่อนจะเอ่ย

"เจ้าเป็นสตรี ทำเช่นนี้ไม่เหมาะ"

"ไม่เหมาะอันใดกัน ข้าเพียงแตะที่หลังมือท่าน"

"ฟางเมี่ยว!! เจ้านี่มัน"

"ข้าทำไมหรือ?"

"หึ!!!"

ฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

นี่เขามีคนที่ชอบแล้วจริงๆ หรือ จึงไม่ไยดีนางเช่นกาลก่อนแบบนี้ เดิมทีที่นางทำดีกับเขาเพราะต้องการชดใช้ในเรื่องก่อนนั้น แต่ทว่านานวันเข้านางกลับชอบเขาเหลือเกิน

ยิ่งนึกถึงหลี่เยี่ยนเฉินคนเก่าที่ทำดีกับนาง อ่อนโยนกับนาง ฟางเมี่ยวก็รู้สึกเศร้าใจไม่น้อย

นางถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย

"เฮ้อ ข้าเหนื่อยแล้วสิพี่เยี่ยน ท่านช่างเล่นตัวยิ่งนัก ข้าก็ไม่รู้ว่าจะหยอกเย้าท่านไปได้อีกนานหรือไม่ ข้าน่ะเป็นคนขี้เบื่อด้วยสิ ท่านเล่นตัวนานเข้าข้าอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสท่านอีกสักสองสามครา หากท่านยังเมินข้า ข้าก็คงต้องหาเป้าหมายใหม่จริงๆ แล้ว ข้าน่ะมีเงินมากมาย ย่อมหาบุรุษดีๆ ได้สักคนไม่ยากนัก แต่เพราะตอนนี้ข้ายังชอบท่านอยู่ ท่านเข้าใจหรือไม่"

ฟางเมี่ยวเอ่ยพร้อมกับยิ้มตาหยี หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะครุ่นคิด

เปลี่ยนเป้าหมายใหม่อย่างนั้นหรือ?

สวรรค์ นางกำลังเล่นตลกอันใดกับเขากันแน่!!!

หลี่เยี่ยนเฉินรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่ได้ยินว่านางอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เขาก็อยากจะฆ่าเป้าหมายใหม่ของนางเสียเดี๋ยวนี้ เขาโมโหจนทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นทันที

"ข้าคงต้องขอตัวแล้ว ฝากลาฟางเจี๋ยให้ด้วย"

"หากท่านกล้าลุก ข้าจะตะโกนว่าท่านลวนลามข้า"

ฟางเมี่ยวปรายตามองหลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง เอาสิ!!! ชอบเล่นตัวดีนัก ข้าก็จะแกล้งท่านให้สาแก่ใจเลยคอยดู เอาคืนที่ท่านเมินข้า!!!

"ฟางเมี่ยว!!!"

"ลุกสิ!! ข้าจะได้ตะโกนว่าท่านลวนลามข้า ข้าเพียงจับมือท่านมาวางที่ตักของข้า ก็ไม่มีปัญหาแล้ว ผู้คนด้านนอกไม่รู้ว่าเราสองคนทำอันใดกันอยู่ในนี้ ท่านคิดว่าพวกเขาจะเชื่อสตรีอ่อนแอเช่นข้าหรือว่าบุรุษกำยำเช่นท่านกันเล่า"

"อย่ามายั่วโทสะข้า!!!"

"ข้าไม่ได้ยั่วโทสะ ท่านโมโหเองต่างหาก"

“ฟางเมี่ยว”

หลี่เยี่ยนเฉินถลึงตาจ้องมองฟางเมี่ยวอย่างหมดหนทางจะเอ่ย เขารู้สึกว่าตนเองยามนี้โทสะเริ่มปะทุแล้ว

เขาจ้องมองฟางเมี่ยวอยู่เช่นนั้น เห็นเพียงนางยกถ้วยชาขึ้นดื่มไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เขาจึงส่งเสียงเหอะคราหนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารมา ฟางเมี่ยวไม่รอช้ารีบตามเขาไปเช่นเดียวกัน นางเองก็เบื่อแล้ว อยากกลับจวนไปนอนแล้วเช่นกัน

"โอ๊ะ อาเยี่ยน เจ้าก็มาลองลิ้มรสชาติอาหารที่เลื่องชื่อของภัตตาคารโหยวเย่ว์เช่นกันหรือ"

เสียงของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนระหว่างหลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว ฟางเมี่ยวจำเสียงนี้ได้ดี นางลอบสบถในใจอย่างอารมณ์เสีย

เย่จิ้นหยาง คนบัดซบนี่เสนอหน้ามาทำไมกัน!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 18 ประทับตรา

    ฟางเมี่ยวลุกขึ้นยืนก่อนจะทำความเคารพเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเช่นเคย เย่จิ้นหยางที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยทักทายนาง"คุณหนูฟางนี่เอง ข้าก็คิดว่าสตรีที่ใดกันที่อาเยี่ยนพามาที่นี่ด้วย ดีเลยวันนี้เจ้าอยู่พอดี แนะนำอาหารที่อร่อยให้ข้าด้วยเถิด ได้ยินว่าภัตตาคารแห่งนี้เป็นของมารดาเจ้า ที่ตกทอดมาถึงเจ้า อีกทั้งเจ้ายังคิดที่จะขายอาหารในราคาที่จับต้องได้ให้ราษฎรระดับล่างอีกด้วย ช่างมีจิตใจที่ดีงามยิ่งนัก"เย่จิ้นหยางเอ่ยชมฟางเมี่ยวจากใจจริง ฟางเมี่ยวเพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้นเหอะ!! ชาติก่อนเขาด่านางราวกับนางไม่ใช่คน นางยังจำได้ดี คืนนั้นที่นางวางยาปลุกกำหนัดเขา และยามรุ่งสางที่เขาตื่นขึ้นมาพบว่าได้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับนางไปเสียแล้ว"ฟางเมี่ยว สตรีหน้าไม่อาย แพศยา ต่ำช้า เจ้าวางยาข้าหรือ""ท่านอ๋อง เมี่ยวเอ๋อร์รักพระองค์นะเพคะ""แต่ข้าเกลียดเจ้า เกลียดจนแทบอยากจะอาเจียน ข้าเกลียดเจ้าได้ยินหรือไม่!!! ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาลากนางไปขังเอาไว้ที่เรือนเล็กท้ายจวน ห้ามให้อาหารนางจนกว่าข้าจะสั่ง!!!""ท่านอ๋อง!!!"นางถูกเขาสั่งขังในเรือนโกโรโกโส ไม่มีอาหารกิน นางหิวจนปวดแสบท้องไปห

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 19 ปรับทุกข์

    ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยในยามนี้นั้น นางกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ภายในห้อง ตั้งแต่ได้รับราชโองการให้นางได้แต่งเข้าจวนอ๋อง เหล่าฮูหยินรองและบรรดาอนุของท่านพ่อก็ไม่กล้ามาสร้างความลำบากใจให้นางและท่านแม่อีก เห็นจะมีแต่จางลี่อิงที่แสดงท่าทีไม่พอใจเพียงเท่านั้น แต่ก็ไม่กล้าหาเรื่องนางเท่าแต่ก่อน"คุณหนูเจ้าคะ นายท่านเรียกให้ท่านไปพบที่ห้องตำราเจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยละสายตาจากตำราตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้าให้หลิงหลิง สาวใช้คนสนิทของนางคราหนึ่ง แล้วจึงมุ่งหน้าไปพบบิดาของตนที่ห้องตำราในทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าท่านพ่อกำลังรอนางอยู่ จางเสวี่ยฮุ่ยทำความเคารพบิดาตนคราหนึ่ง จางหยวนจ้องมองบุตรสาวคนโตด้วยแววตาที่เรียบเฉยก่อนจะเอ่ย"นั่งลงเถิด""เจ้าค่ะ"จางเสวี่ยฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย จางหยวนที่เห็นเช่นนั้น จึงเอ่ยกับบุตรสาวตนด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย"เรื่องที่พ่อสั่งสอนเจ้าเอาไว้ เจ้าจำได้หรือไม่?"จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าไปมองบิดาของตนทันที ใบหน้าสวยหวานของนางซีดเผือดขึ้นมา ก่อนจะละล่ำละลักเอ่ย"ท่านพ่อ คือว่า..."เพียะ!!ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยตอบ จางหยวนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะตรงเข้ามาตบนางจนนางเซล้มลงตกจากเก้า

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 20 ทุบตีคน

    "คุณหนูฟาง วันนี้ข้าแวะมาฟังบทละครที่โรงน้ำชาของเจ้า มิสู้เจ้ามานั่งเป็นเพื่อนข้าดีหรือไม่?""ขออภัยคุณชายมู่หรง ข้าไม่ว่างเจ้าค่ะ ขอตัวก่อน""อย่าเล่นตัวเลยน่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า เจ้ายังส่งสายตายั่วยวนให้ข้าอยู่เลยนะฟางเมี่ยว""ตอนนั้นข้าตาบอด แต่ตอนนี้ตาข้าสว่างแล้ว"ฟางเมี่ยวกำลังจะเดินจากไป แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับยื่นมือมาจับแขนของนางเอาไว้ ฟางเมี่ยวหันไปมองมู่หรงฟังด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ย"ปล่อยข้านะมู่หรงฟัง""ไม่ปล่อย ฟางเมี่ยวคนงาม พวกเราไปที่โรงพนันกันเถิด ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก""มู่หรงฟัง ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้าแล้วนะ""ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด โอ๊ย!!!"มู่หรงฟังแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกฟางเมี่ยวยกขาเตะเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างเต็มแรง นางยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย"อย่ามายุ่งกับข้า!!!"ฟางเมี่ยวปรายตามองมู่หรงฟังคราหนึ่ง ก่อนจะเดินหนีเขาไป นางรำคาญยิ่งนักที่ต้องมาเจอคนเช่นนี้ แต่ทว่ามู่หรงฟังกลับไม่ยอมปล่อยนางไป"ไปกับข้า ฟางเมี่ยวคนงาม เราไปโรงพนันกันเถิด""มู่หรงฟัง!!""ไปเถิด หากวันนี้เจ้าทำเงินได้มากกว่าข้า ข้าจะเลิกยุ่งกับเจ้า ข้าสัญญา"ฟางเมี่

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 21 งานแต่ง

    ข่าวที่ฟางเมี่ยวทุบตีมู่หรงฟังแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะไม่มีคนติฉินนินทาฟางเมี่ยวแล้ว มู่หรงฟังยังถูกผู้คนโจษจันว่าเป็นบุรุษเฮงซวยอีกด้วย ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็จบลงเพียงแค่ทั้งสองฝ่ายยอมความกัน ด้วยเพราะทั้งสองตระกูลต่างก็รู้จักกันมานาน เสนาบดีมู่หรงรู้จักนิสัยบุตรชายของตนดี นอกจากจะไม่เข้าข้างบุตรชายของตนแล้ว ยังส่งของกำนัลมาที่จวนตระกูลฟางเพื่อเป็นการไถ่โทษอีกด้วย ฟางเมี่ยวไม่ได้สนในสิ่งของเหล่านี้มากนัก เพียงเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของเพียงเท่านั้นอีกไม่กี่วันก็จะถึงงานมงคลระหว่างเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ยแล้ว ฟางเมี่ยวได้รับเทียบเชิญให้ไปงานแต่งที่จวนอ๋องเช่นเดียวกัน นางสั่งให้คนเตรียมของขวัญเอาไว้ นางจะนำไปมอบให้จางเสวี่ยฮุ่ยในงานแต่งงานหลี่เยี่ยนเฉินในยามนี้นั้นเขากำลังกลับจากค่ายทหารและกำลังมุ่งหน้ามาที่จวนของตน ระหว่างทางเขาครุ่นคิดถึงบุรุษผู้นั้นที่เขาเห็นว่าเป็นนักฆ่าในชาติก่อน เขาส่งคนไปสืบอย่างลับๆ แต่ทว่ากลับไร้วี่แววอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ยังไม่ยอมละความพยายาม ยังคงให้คนสืบค้นต่อไปเมื่อกลับมาถึงจวนเขาก็พบว่ามีรถม้าจอดอยู่ที่ด้านหน้าจวน เขามองเพียงครู่เดียวก็ร

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 22 พบเจอ

    นางเดินมาได้ครู่หนึ่ง ก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาหันมามองเมื่อเห็นว่าเป็นนางดวงตาคมก็ฉายแวววูบไหวครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเดินเข้าไปหาหลี่เยี่ยนเฉิน พลางมองสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จนคนถูกมองรู้สึกปะหม่า"ฟางเมี่ยว เจ้าจะมองข้าอีกนานหรือไม่?""ก็เจ้าหล่อนี่ ข้าจึงชอบมอง ไม่ได้หรือ?"หลี่เยี่ยนเฉินหมดคำจะกล่าวแล้ว เขาเถียงนางไปก็เท่านั้น เขาจึงเปลี่ยนมาลอบสังเกตท่าทีของนาง ก็พบว่าในแววตาของนางไม่ได้มีแววเสียใจหรือเศร้าโศกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ความริษยาก็ไม่มีให้เห็นหลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกดีใจอย่างแปลกประหลาดที่เห็นว่าฟางเมี่ยวไม่รู้สึกอันใดกับการแต่งงานของเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ย ไม่ทันรู้ตัวก็พบว่ายามนี้ฟางเมี่ยวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเสียแล้ว เขาลนลานคิดจะหนีกลับพบว่าแผ่นหลังของตนยามนี้ชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ไร้หนทางหลีกหนีจากนางเสียแล้วฟางเมี่ยวเอียงคอมองหลี่เยี่ยนเฉิน ก่อนจะเอ่ย"อยากแต่งงานหรือไม่?""ฮะ?"หลี่เยี่ยนเฉินมีท่าทีตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ยามที่เข้าใกล้ฟางเมี่ยวเขาคล้ายกับสูญเสียการควบคุมอย่

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 23 ล่าสัตว์

    ใช้เวลาเดินทางราวสามชั่วยามขบวนล่าสัตว์ก็เดินทางมาถึงยังที่หมาย ซึ่งเป็นเขาที่ใช้ล่าสัตว์ในทุกๆ ปี เขาแห่งนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และเขียวชอุ่ม เนื่องจากมีฝนตกและอากาศเย็นตลอดทั้งปี บนใบไม้ยังคงมีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ให้ได้เห็นประปรายฟางเมี่ยวสั่งให้ลู่ชิงนำสัมภาระและข้าวของมาเก็บที่กระโจมที่พักของตน เมื่อมาถึงนางจึงได้รู้ว่านางพักอยู่ใกล้ๆ กับหลิวจือ ส่วนกระโจมถัดไปเป็นกระโจมของจางลี่อิง น้องสาวของจางเสวี่ยฮุ่ย ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยนั้น นางแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังเป็นคนของเชื้อพระวงศ์ จึงได้พักที่กระโจมใกล้ๆ กับเชื้อพระวงศ์ซึ่งนับว่าเป็นเครือญาติกันหลิวจือนั้นเบ้ปากให้ฟางเมี่ยวแต่ไม่กล้าทำสิ่งใด ส่วนจางลี่อิงนั้นก็ปรายตามองฟางเมี่ยวด้วยความไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน การมาล่าสัตว์ในครานี้ มีคุณหนูในห้องหอไม่น้อยที่ได้มีโอกาสออกมาเปิดหูเปิดตา แต่ทว่านางกลับไม่พบกับสวีเซียวเหยา หรือว่านางจะไม่ได้ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วยฮ่องเต้เย่หมิงหล่างเป็นฮ่องเต้ที่ค่อนข้างมีเมตตา อีกทั้งยังสนับสนุนให้สตรีในแคว้นต้าอู๋ขี่ม้าจับดาบได้อย่างเสรีอีกด้วย นับว่าเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ความเท่าเทียมของบุรุษและสตรีอย่างหา

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 24 ที่แห่งเดิม

    "ช่วยข้าด้วย!!! ข้ายังไม่อยากตาย!!!"ฟางเมี่ยวหันไปมองมืออีกข้างของตนที่ยามนี้ถูกหลิวจือคว้าจับเอาไว้ หลิวจือหน้าซีดตัวสั่นจนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ฟางเมี่ยวหันไปมองก็พบกับสาวใช้ของหลิวจือและจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้ถูกฆ่าตายไปแล้วก็หวาดหวั่นไม่น้อยนับว่ายังโชคดีที่นางไม่ได้ให้ลู่ชิงสาวใช้ซื่อบื้อของนางติดตามมาด้วย!!!แม้ลู่ชิงจะเป็นสาวใช้ที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็อยู่กับนางมานาน"ฮือ!!!""เงียบนะหลิวจือ!!! ไป!!! ไปกับข้า หาที่ซ่อนเร็ว!!"ฟางเมี่ยวจับมือจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะต้องตื่นตระหนกที่นี่คือสถานที่โล่ง ที่ซ่อนตัวล้วนมีไม่มาก!!เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่ายามนี้มีเหล่าสตรีที่ติดตามมากับการล่าสัตว์ในครั้งนี้ถูกสังหารไปไม่น้อย ฟางเมี่ยวรอช้าไม่ได้แล้ว นางลากจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือมาหลบที่พุ่มไม้ด้านหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้ากลัว!!!"จางเสวี่ยฮุ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ฟางเมี่ยวยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว"แม้ปากจะปลอบสหาย แต่ทว่านางกลับใจเสียไม่ต่างกัน ยามนี้บนตัวนางมี

    Last Updated : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 25 ตายพร้อมกันอีกคราก็ย่อมได้

    หลี่เยี่ยนเฉินร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย ระหว่างทางเข้าครุ่นคิดมาตลอดทาง ก่อนหน้านี้ก็ได้เอ่ยเรื่องบางอย่างให้เย่จิ้นหยางได้ฟัง เขาไม่ได้บอกไปตามตรงว่ามีนักฆ่า เพียงแต่บอกว่าระยะนี้สงครามยังไม่สงบ เกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาได้ จะต้องระวังให้มาก เย่จิ้นหยางเองก็เห็นด้วย เพราะศัตรูเหลียงไท่นั้นชอบลอบกัด เรื่องนี้ฝ่าบาทเองก็ทรงทราบดี จึงสั่งให้นำทหารติดตามมามากเสียหน่อยเขาเองเอ่ยสิ่งใดได้ไม่มากนัก อีกทั้งยังบอกสถานที่และลักษณะของนักฆ่าตัวก่อเรื่องไม่ได้ นอกจากจะไม่มีคนเชื่อแล้ว ฝ่าบาทอาจจะยังสงสัยว่าเขาอยู่เบื้องหลังนักฆ่าเหล่านี้หรือไม่ ตระกูลหลี่อาจจะตกที่นั่งลำบากเอาได้เขาทำได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือคงต้องวัดดวงกันแล้วเมื่อครุ่นคิดถึงฟางเมี่ยว เขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ภาพที่นางถูกนักฆ่าสังหารยังติดตาเขา หลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางครุ่นคิดฟางเมี่ยวไม่ได้มีฐานะสูงศักดิ์อันใด เป็นเพียงบุตรสาวขุนนางเท่านั้น แต่กลับถูกนักฆ่าสังหาร มันดูแปลกประหลาดเกินไปหรือไม่ช่างเถิด เรื่องในครานั้นก็มีคนล้มตายไปไม่น้อยเช่นกัน เขาสงสัยมากไปก็เปล่าประโยชน์คืนนั้นเขานอนไม่หลับทั้งคืน

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status