Share

บทที่ 23 ล่าสัตว์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-06 09:01:56

ใช้เวลาเดินทางราวสามชั่วยามขบวนล่าสัตว์ก็เดินทางมาถึงยังที่หมาย ซึ่งเป็นเขาที่ใช้ล่าสัตว์ในทุกๆ ปี เขาแห่งนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และเขียวชอุ่ม เนื่องจากมีฝนตกและอากาศเย็นตลอดทั้งปี บนใบไม้ยังคงมีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ให้ได้เห็นประปราย

ฟางเมี่ยวสั่งให้ลู่ชิงนำสัมภาระและข้าวของมาเก็บที่กระโจมที่พักของตน เมื่อมาถึงนางจึงได้รู้ว่านางพักอยู่ใกล้ๆ กับหลิวจือ ส่วนกระโจมถัดไปเป็นกระโจมของจางลี่อิง น้องสาวของจางเสวี่ยฮุ่ย ด้านจางเสวี่ยฮุ่ยนั้น นางแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังเป็นคนของเชื้อพระวงศ์ จึงได้พักที่กระโจมใกล้ๆ กับเชื้อพระวงศ์ซึ่งนับว่าเป็นเครือญาติกัน

หลิวจือนั้นเบ้ปากให้ฟางเมี่ยวแต่ไม่กล้าทำสิ่งใด ส่วนจางลี่อิงนั้นก็ปรายตามองฟางเมี่ยวด้วยความไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน การมาล่าสัตว์ในครานี้ มีคุณหนูในห้องหอไม่น้อยที่ได้มีโอกาสออกมาเปิดหูเปิดตา แต่ทว่านางกลับไม่พบกับสวีเซียวเหยา หรือว่านางจะไม่ได้ร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย

ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างเป็นฮ่องเต้ที่ค่อนข้างมีเมตตา อีกทั้งยังสนับสนุนให้สตรีในแคว้นต้าอู๋ขี่ม้าจับดาบได้อย่างเสรีอีกด้วย นับว่าเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ความเท่าเทียมของบุรุษและสตรีอย่างหา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 24 ที่แห่งเดิม

    "ช่วยข้าด้วย!!! ข้ายังไม่อยากตาย!!!"ฟางเมี่ยวหันไปมองมืออีกข้างของตนที่ยามนี้ถูกหลิวจือคว้าจับเอาไว้ หลิวจือหน้าซีดตัวสั่นจนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ฟางเมี่ยวหันไปมองก็พบกับสาวใช้ของหลิวจือและจางเสวี่ยฮุ่ยที่ยามนี้ถูกฆ่าตายไปแล้วก็หวาดหวั่นไม่น้อยนับว่ายังโชคดีที่นางไม่ได้ให้ลู่ชิงสาวใช้ซื่อบื้อของนางติดตามมาด้วย!!!แม้ลู่ชิงจะเป็นสาวใช้ที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็อยู่กับนางมานาน"ฮือ!!!""เงียบนะหลิวจือ!!! ไป!!! ไปกับข้า หาที่ซ่อนเร็ว!!"ฟางเมี่ยวจับมือจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต นางมองซ้ายมองขวาก่อนจะต้องตื่นตระหนกที่นี่คือสถานที่โล่ง ที่ซ่อนตัวล้วนมีไม่มาก!!เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่ายามนี้มีเหล่าสตรีที่ติดตามมากับการล่าสัตว์ในครั้งนี้ถูกสังหารไปไม่น้อย ฟางเมี่ยวรอช้าไม่ได้แล้ว นางลากจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือมาหลบที่พุ่มไม้ด้านหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้ากลัว!!!"จางเสวี่ยฮุ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ฟางเมี่ยวยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว"แม้ปากจะปลอบสหาย แต่ทว่านางกลับใจเสียไม่ต่างกัน ยามนี้บนตัวนางมี

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-06
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 25 ตายพร้อมกันอีกคราก็ย่อมได้

    หลี่เยี่ยนเฉินร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย ระหว่างทางเข้าครุ่นคิดมาตลอดทาง ก่อนหน้านี้ก็ได้เอ่ยเรื่องบางอย่างให้เย่จิ้นหยางได้ฟัง เขาไม่ได้บอกไปตามตรงว่ามีนักฆ่า เพียงแต่บอกว่าระยะนี้สงครามยังไม่สงบ เกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาได้ จะต้องระวังให้มาก เย่จิ้นหยางเองก็เห็นด้วย เพราะศัตรูเหลียงไท่นั้นชอบลอบกัด เรื่องนี้ฝ่าบาทเองก็ทรงทราบดี จึงสั่งให้นำทหารติดตามมามากเสียหน่อยเขาเองเอ่ยสิ่งใดได้ไม่มากนัก อีกทั้งยังบอกสถานที่และลักษณะของนักฆ่าตัวก่อเรื่องไม่ได้ นอกจากจะไม่มีคนเชื่อแล้ว ฝ่าบาทอาจจะยังสงสัยว่าเขาอยู่เบื้องหลังนักฆ่าเหล่านี้หรือไม่ ตระกูลหลี่อาจจะตกที่นั่งลำบากเอาได้เขาทำได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือคงต้องวัดดวงกันแล้วเมื่อครุ่นคิดถึงฟางเมี่ยว เขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ภาพที่นางถูกนักฆ่าสังหารยังติดตาเขา หลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่นพลางครุ่นคิดฟางเมี่ยวไม่ได้มีฐานะสูงศักดิ์อันใด เป็นเพียงบุตรสาวขุนนางเท่านั้น แต่กลับถูกนักฆ่าสังหาร มันดูแปลกประหลาดเกินไปหรือไม่ช่างเถิด เรื่องในครานั้นก็มีคนล้มตายไปไม่น้อยเช่นกัน เขาสงสัยมากไปก็เปล่าประโยชน์คืนนั้นเขานอนไม่หลับทั้งคืน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 26 ได้สหายใหม่

    ยามนี้ทั่วทั้งลานล่าสัตว์มีแต่ความวุ่นวาย หมอหลวงต่างวิ่งเข้าออกกระโจมของฟางเมี่ยวด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก ฟางเจี๋ยจับแขนบิดาของตนเอาไว้ ในยามนี้เสนาบดีฟางเหลียนแทบล้มทั้งยืน ดวงตาของเขาแดงก่ำ รู้สึกเอ่ยวาจาใดๆ ไม่ออก เพราะเป็นห่วงบุตรสาวอย่างที่สุดด้านฮ่องเต้เย่หมิงหล่างนั้นก็สั่งให้หมอหลวงรักษาคนเจ็บอย่างสุดกำลัง เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า การออกมาล่าสัตว์ในครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ขึ้น"จิ้นเอ๋อร์ เจ้าจับตัวคนร้ายได้หรือไม่"ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างหันไปเอ่ยถามเย่จิ้นหยางหลานชายของตนคราหนึ่ง เย่จิ้นหยางส่ายหน้าก่อนจะตอบ"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ พวกมันบางส่วนหนีรอดไปได้ บางส่วนก็กัดยาพิษในปากจนตาย บางส่วนก็ถูกฆ่าตาย หลานคิดว่าจะต้องเป็นฝีมือของกบฏเหลียงไท่เป็นแน่ เสด็จลุง เป็นความผิดของหลานเอง""อย่าโทษตนเอง เจ้าก็พยายามแล้วข้ารู้"ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างจับไหล่หลานชายตนคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเสนาบดีฟางเหลียน"เป็นห่วงก็แต่อาเหลียน ข้าเป็นสหายกับเขามานาน เพิ่งเคยเห็นเขามีท่าทีน่าเวทนาเช่นนี้เป็นครั้งแรก ได้ยินว่าคุณหนูฟางผู้นั้นเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยหลานสะใภ้เอาไว้ อาจิ้น ให้หมอหลว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 27 มาพร้อมกัน

    วันนี้หลี่เยี่ยนเฉินไม่มีอันใดให้ต้องสะสางที่ค่ายทหารอีกแล้ว เขาจึงแวะซื้อทับทิมหลายผล ติดมือไปที่จวนตระกูลฟาง ระยะนี้เขาไม่ได้มาเยี่ยมฟางเมี่ยวเนื่องจากมีงานให้ต้องจัดการมากมายนัก เมื่อสอบถามฟางเจี๋ยก็บอกเพียงว่านางยังไม่แข็งแรงเท่าใดนัก ยังคงนอนซมอยู่บนเตียง เขาจึงคิดจะแวะไปเยี่ยมนางเสียหน่อยเมื่อมาถึงก็พบว่าฟางเจี๋ยกำลังสนทนาอยู่กับบุรุษผู้หนึ่ง เมื่อเขามองให้ดีก็พบว่าเป็นเสิ่นจื่อหลางนั่นเองหลี่เยี่ยนเฉินขมวดคิ้วมุ่น พลางจ้องมองเสิ่นจื่อหลางคราหนึ่ง ฟางเจี๋ยที่เห็นว่าหลี่เยี่ยนเฉินมาถึงแล้วก็ยิ้มก่อนจะเอ่ย“อ้าวอาเยี่ยน เจ้าก็มาด้วยหรือ มาดื่มชาก่อนเร็ว”ฟางเจี๋ยสั่งให้สาวใช้ยกถ้วยชามาให้หลี่เยี่ยนเฉิน เขาเหลือบมองเสิ่นจื่อหลางก่อนจะพบว่ายามนี้เสิ่นจื่อหลางมีใบหน้าเรียบเฉย ไม่ได้มีรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นวันนั้นที่ยิ้มให้กับฟางเมี่ยวเลยแม้แต่น้อยเสิ่นจื่อหลางคล้ายรู้ตัวว่าถูกหลี่เยี่ยนเฉินมอง เขาจึงหันมามองหลี่เยี่ยนเฉินเช่นเดียวกัน หลี่เยี่ยนเฉินยิ้มมออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย“ไม่คิดว่าจะพบใต้เท้าเสิ่นที่นี่”เสิ่นจื่อหลางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะเอ่ย“ข้าเพียงแวะมาเยี่ยมเยือนคุณหนูฟาง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 28 สงครามเริ่มปะทุ

    จวนอ๋องยามนี้จางเสวี่ยฮุ่ยกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ที่ศาลาริมสระบัว แต่ทว่าใจกลับล่องลอยอย่างไม่รู้ตัว จางเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกว่าจิตใจของตนไม่สงบเอาเสียเลย นางจึงวางตำราในมือลงทันทียามนี้นางตั้งครรภ์ได้ร่วมสองเดือนแล้ว นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งในจวนอ๋อง เย่จิ้นหยางดีใจเป็นอย่างมาก ฝ่าบาทและฮองเฮาก็ส่งของบำรุงมานับไม่ถ้วนราวกับสายน้ำไหลเมื่อสองวันก่อนท่านแม่มาเยี่ยมนาง พร้อมกับนำของบำรุงมามอบให้นางไม่น้อย นางสั่งให้สาวใช้ออกไปให้หมด เมื่อเหลือกันอยู่เพียงสองคน ท่านแม่จึงล้วงหยิบห่อยาห่อหนึ่งส่งให้กับนางจางเสวี่ยฮุ่ยขมวดคิ้วมุ่น พลางมองห่อยาในมือของมารดาด้วยแววตาที่สงสัย"ท่านแม่ นี่คือสิ่งใดหรือเจ้าคะ?""กำยานพิษ"จางเสวี่ยฮุ่ยตกใจลนลานจนสติแทบหลุด นางไม่กล้ารับห่อยานั้นมาถือเอาไว้เลยแม้แต่น้อย นางจ้องมองท่านแม่ของตนด้วยแววตาที่หวาดหวั่นจางฮูหยินมองบุตรสาวของตนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ก่อนจะเปิดแขนเสื้อให้บุตรสาวดู จางเสวี่ยฮุ่ยยกมือขึ้นปิดปากตน เมื่อได้เห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆ ทั่วทั้งแขนของผู้เป็นมารดา"ท่านแม่ นี่!!!""เสวี่ยเอ๋อร์ ท่านพ่อเจ้ากำชับมาว่าต้องทำให้แนบเนียน เขาส่งคนมาจับตาดูเจ้าเอาไว้แล้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 29 มอบของติดตัว

    หลายวันต่อมาเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างนำสมบัติที่ตนมีมาถวายเข้าท้องพระคลัง ส่วนมากจะเป็นเงินเสียส่วนใหญ่ ขุนนางบางจำพวกที่เห็นแก่ตัวก็ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยทัดทานสิ่งใดออกไปได้ตระกูลฟางบริจาครายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขายในเดือนนี้ให้แก่วังหลวงนับว่าเป็นเงินจำนวนมาก อีกทั้งยังแบ่งเสบียงอาหารแห้งให้แก่กองทัพอีกด้วย ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างที่ได้ยินเช่นนั้นก็นึกชื่นชมไม่น้อยหลี่เยี่ยนเฉินในยามนี้นั้นเขากำลังเตรียมตัวที่จะไปออกรบที่ชายแดน เพราะสงครามครั้งนี้ทำให้เหล่าทหารชายแดนเสียขวัญกำลังใจไปไม่น้อยด้านฟางเมี่ยวนั้นเช้าวันนี้ นางได้ไปพบกับบิดาตนที่เรือนใหญ่ เสนาบดีฟางเหลียนที่กำลังจะตื่นนอนยังไม่ทันได้ล้างหน้าล้างตาดี ก็ถูกบุตรสาวปลุกให้พาไปที่จวนตระกูลหลี่ ระหว่างนั่งในรถม้า เขาหันไปเอ่ยถามฟางเมี่ยวอย่างไม่พอใจ"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าปลุกข้ามาเพื่อให้พาไปจวนตระกูลหลี่อย่างนั้นหรือ?""เจ้าค่ะ พี่เยี่ยนกำลังจะออกเดินทางไปออกรบแล้ว ข้ามีของจะมอบให้เขา เดิมทีจะไปเองก็คงไม่เหมาะ จึงต้องให้ท่านพ่อช่วยออกหน้า"เสนาบดีฟางเหลียนลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ไม่เหมาะสมอันใดกัน บุตรสาวเขาเป็นคนที่เห็

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 30 ฉุด

    ฟางเมี่ยวพยายามตั้งสติ ก่อนจะหันไปสบตากับอิงหยวนในทันที"คุณหนู เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ"ฟางเมี่ยวปิดผ้าม่านหน้าต่างลง ก่อนจะเอ่ย"อิงหยวน ฟังข้านะ หากเกิดเรื่องใดขึ้นเจ้าต้องมีสติ”"เอ?"อิงหยวนทำหน้างงๆ ฟางเมี่ยวไม่รอช้า นางรีบเปิดผ้าม่านขึ้น แล้วเอ่ยกับคนขับรถม้าผู้นั้นทันที"ช้าก่อน เจ้าหยุดรถม้าสักครู่เถิด ข้ารู้สึกปวดท้องเหลือเกิน"ไม่มีเสียงตอบรับจากคนขับรถม้า แต่ทว่ารถม้ากลับหยุดนิ่ง ฟางเมี่ยวหันไปสบตากับอิงหยวนอีกครา ก่อนจะเอ่ย"อยู่ในนี้ห้ามออกไป เข้าใจหรือไม่""แต่คุณหนูเจ้าคะ!!!"“หากเกิดเรื่องขึ้น เจ้าจงหาทางกลับไปแจ้งท่านพ่อและพี่ใหญ่ข้าที่จวน”“เจ้าค่ะ”อิงหยวนรับคำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ฟางเมี่ยวเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินลงไปจากรถม้า เมื่อนางลงมาถึงก็พบว่าที่นี่ค่อนข้างไร้ผู้คน อีกทั้งยังมีแต่ป่าไผ่ล้อมรอบ นางค่อยๆ ก้าวลงมาจากรถม้า ฉับพลันที่ปลายเท้าของนางแตะพื้น ปลายดาบเงาวับก็พาดเข้ามาที่ลำคอของนางทันทีฟางเมี่ยวใจเต้นตึกตัก แต่พยายามข่มความกลัวเอาไว้ นางค่อยๆ หันไปมองบุรุษผู้นั้นก็พบว่าไม่ใช่คนขับรถม้าของจวนนางคนผู้นี้เป็นใคร แล้วมันเอาตัวคนขับรถม้าในจวนนางไปไว้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 31 เปลือกหอย

    วันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส สวีเซียวเหยาที่รอฟังข่าวดีแต่ทว่ากลับต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพบว่าไม่มีวี่แววใดเลยแม้แต่น้อย นางอยากจะเห็นใจจะขาดว่าฟางเมี่ยวได้ถูกผู้อื่นฉุดคร่าไปเป็นภรรยาแล้ว อีกทั้งคนผู้นั้นยังไร้หัวนอนปลายเท้า ฟางเมี่ยวจะต้องอับอายอย่างที่สุด นางถึงกับให้พ่อบ้านที่จวนไปช่วยหาบุรุษผู้นี้มา เขาเป็นหลานชายของพ่อบ้าน มีนิสัยโลภมาก นางจ่ายเงินมากสักหน่อยเขาก็ตกปากรับคำนางอย่างลับๆ โดยไม่ให้พ่อบ้านรู้"นี่เจ้า มีข่าวคราวจากหลานชายพ่อบ้านส่งมาถึงข้าหรือไม่?""ไม่มีเลยเจ้าค่ะคุณหนู"สวีเซียวเหยาหันไปเอ่ยถามสาวใช้ แต่ทว่าก็ต้องอารมณ์เสีย มิใช่ว่าคนผู้นั้นรับเงินนางไปแล้วแต่ไม่ทำตามคำสั่งนะ อย่าให้เจอหน้าเชียว!!!ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจ ประจวบเหมาะกับสาวใช้ของนางบอกว่ายามนี้ที่วัดบนเขามีไต้ซือผู้หนึ่งที่น่าเลื่อมใส อีกทั้งยังเก่งกาจด้านการดูดวง สวีเซียวเหยาชื่นชอบเรื่องเช่นนี้มาก นางจึงสั่งให้สาวใช้เตรียมรถม้าเพื่อเดินทางไปวัดบนเขาในวันต่อมาทันทีสวีเซียวเหยาไม่ได้ให้คนติดตามไปมากนัก เรื่องที่นางเชื่อสิ่งลี้ลับเช่นการดูดวงเช่นนี้นางไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ อีกทั้งนางยังคิดว่าจะขอยันต์สาป

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-07

Bab terbaru

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status