Share

บทที่ 29 มอบของติดตัว

last update Last Updated: 2025-04-07 23:23:01

หลายวันต่อมาเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างนำสมบัติที่ตนมีมาถวายเข้าท้องพระคลัง ส่วนมากจะเป็นเงินเสียส่วนใหญ่ ขุนนางบางจำพวกที่เห็นแก่ตัวก็ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจจะเอ่ยทัดทานสิ่งใดออกไปได้

ตระกูลฟางบริจาครายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขายในเดือนนี้ให้แก่วังหลวงนับว่าเป็นเงินจำนวนมาก อีกทั้งยังแบ่งเสบียงอาหารแห้งให้แก่กองทัพอีกด้วย ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างที่ได้ยินเช่นนั้นก็นึกชื่นชมไม่น้อย

หลี่เยี่ยนเฉินในยามนี้นั้นเขากำลังเตรียมตัวที่จะไปออกรบที่ชายแดน เพราะสงครามครั้งนี้ทำให้เหล่าทหารชายแดนเสียขวัญกำลังใจไปไม่น้อย

ด้านฟางเมี่ยวนั้นเช้าวันนี้ นางได้ไปพบกับบิดาตนที่เรือนใหญ่ เสนาบดีฟางเหลียนที่กำลังจะตื่นนอนยังไม่ทันได้ล้างหน้าล้างตาดี ก็ถูกบุตรสาวปลุกให้พาไปที่จวนตระกูลหลี่ ระหว่างนั่งในรถม้า เขาหันไปเอ่ยถามฟางเมี่ยวอย่างไม่พอใจ

"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าปลุกข้ามาเพื่อให้พาไปจวนตระกูลหลี่อย่างนั้นหรือ?"

"เจ้าค่ะ พี่เยี่ยนกำลังจะออกเดินทางไปออกรบแล้ว ข้ามีของจะมอบให้เขา เดิมทีจะไปเองก็คงไม่เหมาะ จึงต้องให้ท่านพ่อช่วยออกหน้า"

เสนาบดีฟางเหลียนลอบเบ้ปากคราหนึ่ง ไม่เหมาะสมอันใดกัน บุตรสาวเขาเป็นคนที่เห็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 30 ฉุด

    ฟางเมี่ยวพยายามตั้งสติ ก่อนจะหันไปสบตากับอิงหยวนในทันที"คุณหนู เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ"ฟางเมี่ยวปิดผ้าม่านหน้าต่างลง ก่อนจะเอ่ย"อิงหยวน ฟังข้านะ หากเกิดเรื่องใดขึ้นเจ้าต้องมีสติ”"เอ?"อิงหยวนทำหน้างงๆ ฟางเมี่ยวไม่รอช้า นางรีบเปิดผ้าม่านขึ้น แล้วเอ่ยกับคนขับรถม้าผู้นั้นทันที"ช้าก่อน เจ้าหยุดรถม้าสักครู่เถิด ข้ารู้สึกปวดท้องเหลือเกิน"ไม่มีเสียงตอบรับจากคนขับรถม้า แต่ทว่ารถม้ากลับหยุดนิ่ง ฟางเมี่ยวหันไปสบตากับอิงหยวนอีกครา ก่อนจะเอ่ย"อยู่ในนี้ห้ามออกไป เข้าใจหรือไม่""แต่คุณหนูเจ้าคะ!!!"“หากเกิดเรื่องขึ้น เจ้าจงหาทางกลับไปแจ้งท่านพ่อและพี่ใหญ่ข้าที่จวน”“เจ้าค่ะ”อิงหยวนรับคำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ฟางเมี่ยวเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินลงไปจากรถม้า เมื่อนางลงมาถึงก็พบว่าที่นี่ค่อนข้างไร้ผู้คน อีกทั้งยังมีแต่ป่าไผ่ล้อมรอบ นางค่อยๆ ก้าวลงมาจากรถม้า ฉับพลันที่ปลายเท้าของนางแตะพื้น ปลายดาบเงาวับก็พาดเข้ามาที่ลำคอของนางทันทีฟางเมี่ยวใจเต้นตึกตัก แต่พยายามข่มความกลัวเอาไว้ นางค่อยๆ หันไปมองบุรุษผู้นั้นก็พบว่าไม่ใช่คนขับรถม้าของจวนนางคนผู้นี้เป็นใคร แล้วมันเอาตัวคนขับรถม้าในจวนนางไปไว้

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 31 เปลือกหอย

    วันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส สวีเซียวเหยาที่รอฟังข่าวดีแต่ทว่ากลับต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพบว่าไม่มีวี่แววใดเลยแม้แต่น้อย นางอยากจะเห็นใจจะขาดว่าฟางเมี่ยวได้ถูกผู้อื่นฉุดคร่าไปเป็นภรรยาแล้ว อีกทั้งคนผู้นั้นยังไร้หัวนอนปลายเท้า ฟางเมี่ยวจะต้องอับอายอย่างที่สุด นางถึงกับให้พ่อบ้านที่จวนไปช่วยหาบุรุษผู้นี้มา เขาเป็นหลานชายของพ่อบ้าน มีนิสัยโลภมาก นางจ่ายเงินมากสักหน่อยเขาก็ตกปากรับคำนางอย่างลับๆ โดยไม่ให้พ่อบ้านรู้"นี่เจ้า มีข่าวคราวจากหลานชายพ่อบ้านส่งมาถึงข้าหรือไม่?""ไม่มีเลยเจ้าค่ะคุณหนู"สวีเซียวเหยาหันไปเอ่ยถามสาวใช้ แต่ทว่าก็ต้องอารมณ์เสีย มิใช่ว่าคนผู้นั้นรับเงินนางไปแล้วแต่ไม่ทำตามคำสั่งนะ อย่าให้เจอหน้าเชียว!!!ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจ ประจวบเหมาะกับสาวใช้ของนางบอกว่ายามนี้ที่วัดบนเขามีไต้ซือผู้หนึ่งที่น่าเลื่อมใส อีกทั้งยังเก่งกาจด้านการดูดวง สวีเซียวเหยาชื่นชอบเรื่องเช่นนี้มาก นางจึงสั่งให้สาวใช้เตรียมรถม้าเพื่อเดินทางไปวัดบนเขาในวันต่อมาทันทีสวีเซียวเหยาไม่ได้ให้คนติดตามไปมากนัก เรื่องที่นางเชื่อสิ่งลี้ลับเช่นการดูดวงเช่นนี้นางไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ อีกทั้งนางยังคิดว่าจะขอยันต์สาป

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 32 หมั้นหมาย

    ยามนี้บรรยากาศในจวนตระกูลฟางค่อนข้างเงียบขรึมเป็นอย่างยิ่ง เสนาบดีฟางเหลียนจ้องมองฟางเมี่ยวและหลี่เยี่ยนเฉินด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ด้านฟางเจี๋ยที่เพิ่งกลับถึงจวนและรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจไม่น้อยหลี่เยี่ยนเฉินน่ะหรือจะล่วงเกินฟางเมี่ยว หากบอกว่าฟางเมี่ยวล่วงเกินหลี่เยี่ยนเฉินเขายังจะเชื่อมากกว่า!!"อาเยี่ยน ข้าส่งคนไปแจ้งบิดามารดาเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น""ขอรับ"หลี่เยี่ยนเฉินเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่อ่อนน้อม ด้านฟางเมี่ยวที่เห็นว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธในใจก็รู้สึกดีอย่างแปลกประหลาด แต่ทว่ากลับแปลกใจไม่น้อยแต่ทว่าเมื่อหันไปมองฟางเจี๋ยพี่ชายของตนก็ต้องขมวดคิ้วคราหนึ่งแววตาที่เหมือนว่านางฉุดคร่าหลี่เยี่ยนเฉินมาทำมิดีมิร้ายนั่นมันคือสิ่งใดกัน?เสนาบดีฟางเหลียนหันมามองบุตรสาวตนก่อนจะเอ่ย"เจ้าก็เช่นกัน เป็นสตรีกลับไม่รักความถูกต้อง พาบุรุษมาทำเรื่องงามหน้าในจวนเช่นนี้ใช้ได้หรือ?""อ้าว ลูกไม่ได้เริ่มก่อนนะเจ้าคะ""เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าเป็นสตรี เจ้าทำเช่นนี้มันไม่งาม""ท่านพ่อ ลูกกับพี่เยี่ยนยังไม่ได้ทำอันใดกันเลยนะเจ้าคะ ถึงจะอยากทำแต่ก็ไม่ได้ทำนี่เจ้าคะ"หลี่เยี่ยนเฉินที่ไ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 33 ส่งสินสอดด้วยตนเอง

    สองวันต่อมา จวนตระกูลหลี่ก็ส่งแม่สื่อมาเจรจาสู่ขอฟางเมี่ยวที่จวนตระกูลฟาง อีกทั้งยังนำใบรายการสินสอดพร้อมกับสินสอดบางส่วนมามอบให้ที่จวนตระกูลฟางอีกด้วยข่าวการหมั้นหมายระหว่างสองตระกูลเป็นที่รู้กันทั่วทั้งเมืองหลวง แม้กระทั่งจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือก็ยังทราบ พวกนางสองคนดีใจมาก จางเสวี่ยฮุ่ยนั้นเขียนจดหมายส่งมาให้ฟางเมี่ยวเนื่องจากระยะนี้โรคเก่ากำเริบสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ฟางเมี่ยวเองก็เขียนจดหมายตอบกลับ พร้อมทั้งส่งโสมและชาชั้นดีไปที่จวนอ๋องเช่นเดียวกันด้านจวนตระกูลสวีนั้น ยามนี้สวีเซียวเหยากำลังอาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างคลุ้มคลั่ง นางกัดฟันกรอด นอกจะฟางเมี่ยวจะอยู่รอดปลอดภัย หลานชายของพ่อบ้านที่นางจ่ายเงินไปหลายร้อยตำลึงให้ช่วยจัดการฟางเมี่ยวกลับหายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยมันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน!!! มันเป็นไปได้อย่างไร!!!ส่วนเสิ่นจื่อหลางนั้นเมื่อได้ยินข่าวนี้เขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาเลยด้วยซ้ำ ใบหน้ายังคงเย็นชาเรียบเฉยราวกับไม่สนโลกเช่นเดิม เขายกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ก่อนยิ้มออกมาเล็กน้อยสวรรค์ทำให้เขาได้มีโอกาสพบนาง แต่กลับไร้วาสนาได้ครองคู่แต่อย่างน้อยก็ได้เป็นสหายของนางมิใช่หรือ?

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 34 ชายารองจวนอ๋อง

    ยามนี้ฟางเมี่ยวกำลังนั่งดื่มชาชั้นดีและกินขนมอย่างสบายอารมณ์ ระยะนี้กิจการของนางค่อนข้างไปได้ดี สินค้าบางอย่างแทบไม่พอขาย อีกทั้งยังมีร้านค้าจากร้านอื่นๆ มาขอซื้อสินค้าจากร้านนางไปขายต่อ ฟางเมี่ยวเองก็เห็นดีด้วย นางขายให้พวกเขาในราคาต่ำกว่าร้านใหญ่นิดหน่อย ให้พวกเขาไปบวกราคาเพิ่มเอง อย่างไรนางก็ยังได้ทุนคืนมา มิได้ขาดทุนไปเลยแม้แต่น้อยฟางเมี่ยวหันไปมองบิดาของตนที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ ก่อนจะเอ่ย"อ้อ ลูกลืมบอกท่านพ่อไป กิจการทั้งหมดของท่านแม่ลูกจะนำมันติดตัวไปเป็นสินเดิม ยามนี้กิจการเป็นชื่อของลูกทั้งหมด ส่วนโรงน้ำชาเป็นของท่านพี่ หากท่านพี่แต่งงานเมื่อใด ลูกค่อยมอบกิจการอื่นให้เป็นชื่อของท่านพี่ ส่วนท่านพ่อหากเหนื่อยล้าก็ลาออกจากราชการมาพักเถิดเจ้าค่ะ ให้ท่านพี่รับหน้าที่ต่อ ลูกเลี้ยงดูท่านพ่อได้ ท่านพ่อจะได้สำราญใจกับเหล่าอนุ"เสนาบดีฟางเหลียนเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"พ่อยังไม่แก่ ย่อมสนุกกับการทำงานอยู่ อีกไม่นานฝ่าบาทจะมีรับสั่งให้พี่ชายเจ้าเข้ารับตำแหน่งรองเสนาบดีกรมกลาโหม ไม่ให้เป็นอาจารย์แล้ว พระองค์ทรงตรัสว่าบุรุษมากความสามารถ หากใช่งานไม่ถูกที่ย่อมมิอาจกลายเป็นหยกที่เจียระไ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 35 บ้านสวนป่วนรัก

    สองวันต่อมาฟางเมี่ยวก็เดินทางไปที่บ้านสวนนอกเมืองพร้อมกับฟางเจี๋ย การเดินทางในครั้งนี้มีหลิวจือร่วมเดินทางไปด้วย ครั้งนี้นางไม่ได้บอกหลี่เยี่ยนเฉินเพราะได้ยินว่าเขากำลังยุ่งกับงานในค่ายทหาร ฟางเมี่ยวไม่ได้นำของติดตัวไปมากนักเพราะไปพักเพียงไม่กี่วัน รอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย นางก็จะกลับจวน ใกล้ถึงงานแต่งแล้ว อย่างไรย่อมต้องเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างทางฟางเมี่ยวนั่งอยู่ในรถม้ากับหลิวจือ ส่วนฟางเจี๋ยนั้นควบม้าตามหลังรถม้าของนางเพื่อตรวจตราความปลอดภัย ฟางเมี่ยวมองหลิวจือที่เปิดผ้าม่านรถม้าพลางชะโงกหน้าไปดูด้านนอกเป็นระยะ ก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง"เจ้ามองพี่ชายข้าหรือ?"หลิวจือที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันกลับมามองฟางเมี่ยว พร้อมกับพยักหน้าด้วยความเขินอาย"ใช่สิ หล่อเหลาเช่นนี้ มองได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ"ฟางเมี่ยวเบ้ปากคราหนึ่ง ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าฟางเจี๋ยพี่ชายของนางนั้นเป็นบุรุษรูปงามอย่างที่หลิวจือว่าจริงๆ หากบอกว่านางเป็นสาวงาม พี่ใหญ่ของนางก็นับว่าเป็นบุรุษที่หล่อเหลาเช่นเดียวกันใช้เวลาเดินทางร่วมสองวัน ฟางเมี่ยวก็เดินทางมาถึงบ้านสวนที่นอกเมืองหลวง ยามนี้มีบ่าวรับใช้มารอต้อนรับนางร่วมหลายสิบ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 36 ความกลัวที่กัดกินในใจ

    หลี่เยี่ยนเฉินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าฟางเมี่ยวกำลังนั่งมองเขาอยู่“เจ้าตื่นนานแล้วหรือ?”“อืม เห็นท่านหลับอยู่ข้าจึงไม่ได้ปลุก”“อืม”ฟางเมี่ยวยิ้มให้หลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าต้องไปดูร้านที่เปิดเอาไว้ ว่าจะหาซื้อของไปฝากท่านพ่อที่จวนด้วย พี่เยี่ยนไปกับข้าเถิด""ได้"หลี่เยี่ยนเฉินรับคำ ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากรับสำรับยามเช้าแล้ว เขาจึงเดินตามฟางเมี่ยวไปที่รถม้า เมื่อมาถึงยังร้านค้าที่ฟางเมี่ยวเช่าซื้อเอาไว้ หลี่เยี่ยนเฉินก็มองดูนางจัดการสั่งงานผู้ดูแลร้านอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังตั้งใจมากอีกด้วย สินค้าทุกชิ้นนางดูแล้วดูอีก และเรื่องที่น่าแปลกใจก็คือนางดูใจเย็นไม่อารมณ์ร้อนพาลลงกับบ่าวไพร่เช่นแต่ก่อนอีกเขารู้จักนิสัยฟางเมี่ยวดี ชาติก่อนนางไร้ความปรานี ชอบกดขี่ข่มเหงผู้ที่ต่ำกว่าตน อีกทั้งยังชอบขโมยเงินและของในร้านของท่านแม่ตนเองจนติดเป็นนิสัยแต่ทว่าชาตินี้นางกลับตั้งใจขยายกิจการ ทุกอย่างนางทำอย่างละเอียดและตั้งใจอย่างไม่น่าเชื่อ เขามองนางก็อดยิ้มไม่ได้ ฉับพลันประโยคที่นางพูดที่หน้าผาในวันนั้นก็วนกลับมาในห้วงความคิดของเขาอีกครา"หลี่เยี่ยนเฉิน ท

    Last Updated : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 37 สัญลักษณ์บนกาย

    หลี่เยี่ยนเฉินพาฟางเมี่ยวเข้ามานั่งพักในรถม้า เมื่อนางได้ฟื้นคืนมาก็ตั้งสติได้แล้ว ฟางเมี่ยวหันมาจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดด้วยความสงสัยเขาจำได้อย่างนั้นหรือ!!! หรือว่าเขาก็ย้อนเวลามาเกิดใหม่เช่นเดียวกับนางจริงๆสวรรค์ เหตุใดจึงมีเรื่องนี้เช่นนี้เกิดขึ้นได้ฟางเมี่ยวอ่อนล้าไม่น้อย นางเอนกายพิงหน้าต่าง หลิวจือที่เห็นเช่นนั้นจึงนำผ้ามาซับเหงื่อให้นางอย่างอ่อนโยนด้านหลี่เยี่ยนเฉินเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวดีขึ้นมากแล้วจึงเดินลงมาสำรวจโดยรอบ ก็พบกับฟางเจี๋ยที่กำลังเดินมาหาเขา"อาเยี่ยน ข้าไปสำรวจดูโดยรอบแล้ว ที่นี่ไม่น่าจะมีรังโจรเลย แล้วพวกนักฆ่ามันมาจากที่ใดกัน?""นั่นสิ"หลี่เยี่ยนเฉินมองไปโดยรอบคราหนึ่ง ก็พบกับเสิ่นจื่อหลางที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเรื่องนี้คงต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว เพราะเสิ่นจื่อหลางเป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร ทำงานขึ้นตรงกับฝ่าบาท หากเขาทราบฝ่าบาทย่อมต้องทรงทราบหลี่เยี่ยนเฉินละสายตาจากเสิ่นจื่อหลางก่อนจะทิ้งกายนั่งลงข้างศพของนักฆ่าผู้หนึ่ง พลางคลำรอบๆ ตัวมัน ฟางเจี๋ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"อาเยี่ยน เจ้าคิด

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status