Share

บทที่ 32 หมั้นหมาย

last update Dernière mise à jour: 2025-04-07 23:24:29

ยามนี้บรรยากาศในจวนตระกูลฟางค่อนข้างเงียบขรึมเป็นอย่างยิ่ง เสนาบดีฟางเหลียนจ้องมองฟางเมี่ยวและหลี่เยี่ยนเฉินด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ด้านฟางเจี๋ยที่เพิ่งกลับถึงจวนและรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจไม่น้อย

หลี่เยี่ยนเฉินน่ะหรือจะล่วงเกินฟางเมี่ยว หากบอกว่าฟางเมี่ยวล่วงเกินหลี่เยี่ยนเฉินเขายังจะเชื่อมากกว่า!!

"อาเยี่ยน ข้าส่งคนไปแจ้งบิดามารดาเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น"

"ขอรับ"

หลี่เยี่ยนเฉินเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่อ่อนน้อม ด้านฟางเมี่ยวที่เห็นว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธในใจก็รู้สึกดีอย่างแปลกประหลาด แต่ทว่ากลับแปลกใจไม่น้อย

แต่ทว่าเมื่อหันไปมองฟางเจี๋ยพี่ชายของตนก็ต้องขมวดคิ้วคราหนึ่ง

แววตาที่เหมือนว่านางฉุดคร่าหลี่เยี่ยนเฉินมาทำมิดีมิร้ายนั่นมันคือสิ่งใดกัน?

เสนาบดีฟางเหลียนหันมามองบุตรสาวตนก่อนจะเอ่ย

"เจ้าก็เช่นกัน เป็นสตรีกลับไม่รักความถูกต้อง พาบุรุษมาทำเรื่องงามหน้าในจวนเช่นนี้ใช้ได้หรือ?"

"อ้าว ลูกไม่ได้เริ่มก่อนนะเจ้าคะ"

"เมี่ยวเอ๋อร์ เจ้าเป็นสตรี เจ้าทำเช่นนี้มันไม่งาม"

"ท่านพ่อ ลูกกับพี่เยี่ยนยังไม่ได้ทำอันใดกันเลยนะเจ้าคะ ถึงจะอยากทำแต่ก็ไม่ได้ทำนี่เจ้าคะ"

หลี่เยี่ยนเฉินที่ไ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 33 ส่งสินสอดด้วยตนเอง

    สองวันต่อมา จวนตระกูลหลี่ก็ส่งแม่สื่อมาเจรจาสู่ขอฟางเมี่ยวที่จวนตระกูลฟาง อีกทั้งยังนำใบรายการสินสอดพร้อมกับสินสอดบางส่วนมามอบให้ที่จวนตระกูลฟางอีกด้วยข่าวการหมั้นหมายระหว่างสองตระกูลเป็นที่รู้กันทั่วทั้งเมืองหลวง แม้กระทั่งจางเสวี่ยฮุ่ยและหลิวจือก็ยังทราบ พวกนางสองคนดีใจมาก จางเสวี่ยฮุ่ยนั้นเขียนจดหมายส่งมาให้ฟางเมี่ยวเนื่องจากระยะนี้โรคเก่ากำเริบสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ฟางเมี่ยวเองก็เขียนจดหมายตอบกลับ พร้อมทั้งส่งโสมและชาชั้นดีไปที่จวนอ๋องเช่นเดียวกันด้านจวนตระกูลสวีนั้น ยามนี้สวีเซียวเหยากำลังอาละวาดขว้างปาข้าวของอย่างคลุ้มคลั่ง นางกัดฟันกรอด นอกจะฟางเมี่ยวจะอยู่รอดปลอดภัย หลานชายของพ่อบ้านที่นางจ่ายเงินไปหลายร้อยตำลึงให้ช่วยจัดการฟางเมี่ยวกลับหายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยมันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน!!! มันเป็นไปได้อย่างไร!!!ส่วนเสิ่นจื่อหลางนั้นเมื่อได้ยินข่าวนี้เขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมาเลยด้วยซ้ำ ใบหน้ายังคงเย็นชาเรียบเฉยราวกับไม่สนโลกเช่นเดิม เขายกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ก่อนยิ้มออกมาเล็กน้อยสวรรค์ทำให้เขาได้มีโอกาสพบนาง แต่กลับไร้วาสนาได้ครองคู่แต่อย่างน้อยก็ได้เป็นสหายของนางมิใช่หรือ?

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 34 ชายารองจวนอ๋อง

    ยามนี้ฟางเมี่ยวกำลังนั่งดื่มชาชั้นดีและกินขนมอย่างสบายอารมณ์ ระยะนี้กิจการของนางค่อนข้างไปได้ดี สินค้าบางอย่างแทบไม่พอขาย อีกทั้งยังมีร้านค้าจากร้านอื่นๆ มาขอซื้อสินค้าจากร้านนางไปขายต่อ ฟางเมี่ยวเองก็เห็นดีด้วย นางขายให้พวกเขาในราคาต่ำกว่าร้านใหญ่นิดหน่อย ให้พวกเขาไปบวกราคาเพิ่มเอง อย่างไรนางก็ยังได้ทุนคืนมา มิได้ขาดทุนไปเลยแม้แต่น้อยฟางเมี่ยวหันไปมองบิดาของตนที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ ก่อนจะเอ่ย"อ้อ ลูกลืมบอกท่านพ่อไป กิจการทั้งหมดของท่านแม่ลูกจะนำมันติดตัวไปเป็นสินเดิม ยามนี้กิจการเป็นชื่อของลูกทั้งหมด ส่วนโรงน้ำชาเป็นของท่านพี่ หากท่านพี่แต่งงานเมื่อใด ลูกค่อยมอบกิจการอื่นให้เป็นชื่อของท่านพี่ ส่วนท่านพ่อหากเหนื่อยล้าก็ลาออกจากราชการมาพักเถิดเจ้าค่ะ ให้ท่านพี่รับหน้าที่ต่อ ลูกเลี้ยงดูท่านพ่อได้ ท่านพ่อจะได้สำราญใจกับเหล่าอนุ"เสนาบดีฟางเหลียนเบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"พ่อยังไม่แก่ ย่อมสนุกกับการทำงานอยู่ อีกไม่นานฝ่าบาทจะมีรับสั่งให้พี่ชายเจ้าเข้ารับตำแหน่งรองเสนาบดีกรมกลาโหม ไม่ให้เป็นอาจารย์แล้ว พระองค์ทรงตรัสว่าบุรุษมากความสามารถ หากใช่งานไม่ถูกที่ย่อมมิอาจกลายเป็นหยกที่เจียระไ

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 35 บ้านสวนป่วนรัก

    สองวันต่อมาฟางเมี่ยวก็เดินทางไปที่บ้านสวนนอกเมืองพร้อมกับฟางเจี๋ย การเดินทางในครั้งนี้มีหลิวจือร่วมเดินทางไปด้วย ครั้งนี้นางไม่ได้บอกหลี่เยี่ยนเฉินเพราะได้ยินว่าเขากำลังยุ่งกับงานในค่ายทหาร ฟางเมี่ยวไม่ได้นำของติดตัวไปมากนักเพราะไปพักเพียงไม่กี่วัน รอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย นางก็จะกลับจวน ใกล้ถึงงานแต่งแล้ว อย่างไรย่อมต้องเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างทางฟางเมี่ยวนั่งอยู่ในรถม้ากับหลิวจือ ส่วนฟางเจี๋ยนั้นควบม้าตามหลังรถม้าของนางเพื่อตรวจตราความปลอดภัย ฟางเมี่ยวมองหลิวจือที่เปิดผ้าม่านรถม้าพลางชะโงกหน้าไปดูด้านนอกเป็นระยะ ก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง"เจ้ามองพี่ชายข้าหรือ?"หลิวจือที่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันกลับมามองฟางเมี่ยว พร้อมกับพยักหน้าด้วยความเขินอาย"ใช่สิ หล่อเหลาเช่นนี้ มองได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ"ฟางเมี่ยวเบ้ปากคราหนึ่ง ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าฟางเจี๋ยพี่ชายของนางนั้นเป็นบุรุษรูปงามอย่างที่หลิวจือว่าจริงๆ หากบอกว่านางเป็นสาวงาม พี่ใหญ่ของนางก็นับว่าเป็นบุรุษที่หล่อเหลาเช่นเดียวกันใช้เวลาเดินทางร่วมสองวัน ฟางเมี่ยวก็เดินทางมาถึงบ้านสวนที่นอกเมืองหลวง ยามนี้มีบ่าวรับใช้มารอต้อนรับนางร่วมหลายสิบ

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 36 ความกลัวที่กัดกินในใจ

    หลี่เยี่ยนเฉินค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าฟางเมี่ยวกำลังนั่งมองเขาอยู่“เจ้าตื่นนานแล้วหรือ?”“อืม เห็นท่านหลับอยู่ข้าจึงไม่ได้ปลุก”“อืม”ฟางเมี่ยวยิ้มให้หลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"ข้าต้องไปดูร้านที่เปิดเอาไว้ ว่าจะหาซื้อของไปฝากท่านพ่อที่จวนด้วย พี่เยี่ยนไปกับข้าเถิด""ได้"หลี่เยี่ยนเฉินรับคำ ก่อนจะรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากรับสำรับยามเช้าแล้ว เขาจึงเดินตามฟางเมี่ยวไปที่รถม้า เมื่อมาถึงยังร้านค้าที่ฟางเมี่ยวเช่าซื้อเอาไว้ หลี่เยี่ยนเฉินก็มองดูนางจัดการสั่งงานผู้ดูแลร้านอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังตั้งใจมากอีกด้วย สินค้าทุกชิ้นนางดูแล้วดูอีก และเรื่องที่น่าแปลกใจก็คือนางดูใจเย็นไม่อารมณ์ร้อนพาลลงกับบ่าวไพร่เช่นแต่ก่อนอีกเขารู้จักนิสัยฟางเมี่ยวดี ชาติก่อนนางไร้ความปรานี ชอบกดขี่ข่มเหงผู้ที่ต่ำกว่าตน อีกทั้งยังชอบขโมยเงินและของในร้านของท่านแม่ตนเองจนติดเป็นนิสัยแต่ทว่าชาตินี้นางกลับตั้งใจขยายกิจการ ทุกอย่างนางทำอย่างละเอียดและตั้งใจอย่างไม่น่าเชื่อ เขามองนางก็อดยิ้มไม่ได้ ฉับพลันประโยคที่นางพูดที่หน้าผาในวันนั้นก็วนกลับมาในห้วงความคิดของเขาอีกครา"หลี่เยี่ยนเฉิน ท

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 37 สัญลักษณ์บนกาย

    หลี่เยี่ยนเฉินพาฟางเมี่ยวเข้ามานั่งพักในรถม้า เมื่อนางได้ฟื้นคืนมาก็ตั้งสติได้แล้ว ฟางเมี่ยวหันมาจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดด้วยความสงสัยเขาจำได้อย่างนั้นหรือ!!! หรือว่าเขาก็ย้อนเวลามาเกิดใหม่เช่นเดียวกับนางจริงๆสวรรค์ เหตุใดจึงมีเรื่องนี้เช่นนี้เกิดขึ้นได้ฟางเมี่ยวอ่อนล้าไม่น้อย นางเอนกายพิงหน้าต่าง หลิวจือที่เห็นเช่นนั้นจึงนำผ้ามาซับเหงื่อให้นางอย่างอ่อนโยนด้านหลี่เยี่ยนเฉินเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวดีขึ้นมากแล้วจึงเดินลงมาสำรวจโดยรอบ ก็พบกับฟางเจี๋ยที่กำลังเดินมาหาเขา"อาเยี่ยน ข้าไปสำรวจดูโดยรอบแล้ว ที่นี่ไม่น่าจะมีรังโจรเลย แล้วพวกนักฆ่ามันมาจากที่ใดกัน?""นั่นสิ"หลี่เยี่ยนเฉินมองไปโดยรอบคราหนึ่ง ก็พบกับเสิ่นจื่อหลางที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเรื่องนี้คงต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว เพราะเสิ่นจื่อหลางเป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร ทำงานขึ้นตรงกับฝ่าบาท หากเขาทราบฝ่าบาทย่อมต้องทรงทราบหลี่เยี่ยนเฉินละสายตาจากเสิ่นจื่อหลางก่อนจะทิ้งกายนั่งลงข้างศพของนักฆ่าผู้หนึ่ง พลางคลำรอบๆ ตัวมัน ฟางเจี๋ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"อาเยี่ยน เจ้าคิด

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 38 ของขวัญวันแต่งงาน

    ยามนี้จวนตระกูลฟางกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานมงคล ไม่ต่างจากจวนตระกูลหลี่ เพราะนอกจากจะเป็นวันที่ฟางเมี่ยวต้องแต่งออกเข้าจวนตระกูลหลี่แล้ว ยังคงเป็นวันที่หลิวจือต้องแต่งเข้าตระกูลฟางด้วยเช่นกันฟางเมี่ยวให้อิงหยวนไปแจ้งหลิวจือที่จวนตระกูลหลิว ว่าให้หลิวจือเข้ามาพบนางที่จวน วันนี้ฟางเจี๋ยอยู่ที่จวนพอดี เนื่องจากต้องเตรียมพร้อมสำหรับงานแต่ง ฟางเมี่ยวให้คนทั้งสองมาพบที่เรือนของตน หลิวจือส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม"มีอันใดหรือเมี่ยวเมี่ยว เจ้าจึงตามข้ามาพบเช่นนี้?""ทำไม อยากสนทนากับพี่สะใภ้ไม่ได้หรือ"ฟางเมี่ยวเอ่ยพลางยิ้มเล็กน้อย หลิวจือยิ้มตาหยี ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาฟางเมี่ยวพยักหน้าให้อิงหยวนนำหีบใบหนึ่งเข้ามา ฟางเจี๋ยจ้องมองหีบใบนั้นคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม"เมี่ยวเอ๋อร์ นี่คือสิ่งใดหรือ?"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงไขกุญแจเปิดหีบใบนั้นออก ก่อนจะเอ่ย"นี่คือบัญชีร้านผ้าไหมของท่านแม่ และโรงน้ำชา อีกทั้งกิจการย่อยๆ อีกสิบกว่าแห่ง ข้ามอบให้ท่านพี่กับจือจือเป็นของขวัญวันแต่งงาน""เมี่ยวเอ๋อร์ เดิมทีนี่เป็นสินเดิมที่เจ้าจะต้องนำติดตัวไปมิใช่หรือ?"ฟางเจี๋ยเอ่ยถามด้วยความสง

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 39 เปิดใจ

    "เจ้าตายเพราะถูกเย่จิ้นหยางสั่งฆ่าจริงๆ หรือ?"ฟางเมี่ยวไม่คิดว่าหลี่เยี่ยนเฉินจะเอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน นางกำมือแน่น ใบหน้าดูไม่สู้ดีเท่าใดนัก หลี่เยี่ยนเฉินสังเกตว่าบนใบหน้านางมีทั้งความเศร้าใจ เสียใจ รู้สึกผิด และโกรธแค้นในคราเดียวกัน อีกทั้งยังปะปนไปกับความสับสนและว้าวุ่นใจในคราเดียวกัน"หากเจ้าไม่อยากตอบข้าก็จะไม่บังคับ แต่อีกไม่นานเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว เจ้ากำลังจะเป็นภรรยาของข้า หากยังค้างคาใจกันเพราะเรื่องนี้ ข้าคงไม่อาจอยู่ร่วมกับเจ้าได้อย่างสงบสุข"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินและยิ้มออกมาเล็กน้อย"ใช่ เขาส่งคนมาสังหารข้า ยามนั้นข้าไม่รู้ตัวเลย อาวุธที่จะใช้ป้องกันตัวก็ไม่มีสักอย่าง ข้ายังจำความเจ็บปวดยามที่ธนูดอกนั้นแทงทะลุเข้าที่กลางอกของข้าได้เป็นอย่างดี เขาเอ่ยปากออกมาเองว่า ให้สังหารข้าซะ"หลี่เยี่ยนเฉินนั่งฟังนางเงียบๆ ฟางเมี่ยวยิ้มขมขื่น ดวงตาของนางแดงก่ำ ก่อนน้ำตาหยดใสจะไหลลงมาจากดวงตาคู่งามของนาง หลี่เยี่ยนเฉินถอนหายใจออกมา ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยนฟางเมี่ยวเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า พยายามข่มกลั้นน้

    Dernière mise à jour : 2025-04-07
  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 40 แต่งงาน

    ยามนี้หลี่เยี่ยนเฉินกำลังนั่งอยู่บนหลังม้า เขาสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงดูหล่อเหลาสง่างาม ชวนให้ผู้ที่ได้พบเห็นหลงใหลไม่น้อย เขาขี่ม้ามาจนถึงจวนตระกูลฟาง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า มุ่งหน้าเข้าไปรับฟางเมี่ยวที่เป็นเจ้าสาวของเขาในทันทีฟางเมี่ยวในยามนี้กำลังเดินออกมาจากประตูห้องนอน โดยมีแม่นมหลิ่วและอิงหยวนคอยประคอง ด้านหน้าของนางมีเสนาบดีฟางเหลียนที่ขอบตาแดงก่ำ ราวกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มา เสนาบดีฟางเหลียนจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินที่เดินเข้ามาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"อาเยี่ยน ฝากเมี่ยวเอ๋อร์ด้วย หากเจ้าทำให้นางเจ็บช้ำใจหรือไม่รักนางแล้ว โปรดส่งนางกลับจวนตระกูลฟาง ข้าย่อมเลี้ยงดูนางได้ตลอดชีวิต"หลี่เยี่ยนเฉินคำนับพ่อตาตนอย่างนอบน้อม ก่อนจะเอ่ย"ท่านลุงโปรดวางใจ ข้าจะดูแลนางเป็นอย่างดีขอรับ""อืม"เสนาบดีฟางเหลียนหันไปมองฟางเมี่ยวอีกครา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"คล้ายว่าเมื่อวานเจ้ายังหาเรื่องปวดหัวมาให้พ่ออยู่เลย วันนี้กลับจะแต่งงานหนีพ่อไปเสียแล้ว"ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็อดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว นางเองก็เอ่ยตอบบิดาด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นเช่นเดียวกัน"ท่านพ่อ หนีไปที่ใดกันเจ้าคะ ลูกจะมาเยี่ย

    Dernière mise à jour : 2025-04-07

Latest chapter

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง1-4

    หลายเดือนต่อมา เจียงซูซูมาส่งใบลาให้เสิ่นจื่อหลาง บอกเพียงว่านางต้องติดตามท่านพ่อท่านแม่ไปจัดการธุระที่บ้านเดิมซึ่งอยู่นอกเมืองหลวงเสิ่นจื่อหลางให้นางลาสามวัน และบอกให้นางรีบกลับระหว่างทางที่มุ่งหน้ากลับบ้านเดิมนั้นไม่มีปัญหา จนกระทั่งยามที่นางและครอบครัวกำลังจะเดินทางกลับ กลับมีโจรบุกเข้ามาปล้นชิงครอบครัวของนาง พวกมันจับตัวพวกนางเอาไว้ เจียงซูซูหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีเอาไว้นางไม่รู้ว่าพวกมันจับตัวนางมาไว้ที่ใด ได้ยินเพียงพวกมันบอกว่าจะสังหารท่านพ่อท่านแม่ของนางและส่งนางไปขายที่หอนางโลมเจียงซูซูพลันนึกถึงเสิ่นจื่อหลางขึ้นมา จู่ๆ ขอบตาของนางก็ร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านางกับเขาชาตินี้อาจะไม่ได้เจอนางอีก นางสัญญากับเขาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้สูงส่งแต่นางเป็นเพียงขุนนางหญิงต่ำต้อย กลับอาจหาญที่จะไปหลงรักเขาภายใต้ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขามันซ่อนความอบอุ่นเอาไว้ เขาไม่เคยตำหนินาง ไม่เคยลงโทษนาง อีกทั้งยังไม่ถือตัวกับนาง นางชอบทุกอย่างที่เป็นเขา รักทุกอย่างของเขาจู่ๆ เจียงซูซูที่เข้มแข็ง น้อยครั้งนักที่นางจะร้องไห้ แต่ทว่ายามนี้นางกลับ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-3

    วันเวลาเช่นนี้ผ่านไปวันแล้ววันเล่าเดือนแล้วเดือนเล่าจนล่วงมาเป็นปี เขาไม่ทันรู้ตัวว่าเปิดรับนางเข้ามาในใจตั้งแต่ยามใด รู้ตัวอีกคราสายตาของเขาก็เอาแต่มองหานางเสียแล้ว“ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่กำลังนั่งอ่านตำราพลันเงยหน้าขึ้นไปมองโจวกุ้ยเฟยที่กำลังเดินเข้ามาโจวกุ้ยเฟย นามเดิม โจวเย่หลัน นางเป็นหลานสาวของนายท่านโจว เป็นทายาทที่เกิดจากบุตรชายเพียงคนเดียวของโจวชิงเหยา บุตรชายของนายท่านโจวเขารับนางเข้ามาเป็นสนมได้ร่วมสองปีแล้ว นิสัยของนางค่อนข้างอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ และมีเมตตาแต่ทว่าเขารู้ดีว่านี่คือเปลือกนอกที่นางแสดงให้เขาดูเพียงเท่านั้นสตรีวังหลังมีผู้ใดบ้างไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ หากไม่สนอำนาจเช่นนั้นจะเข้าวังหลวงมาทำไมกัน ไปบวชชีคงเหมาะเสียกว่า!!“โจวกุ้ยเฟย เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?”โจวกุ้ยเฟยฉีกยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ย“ทูลฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันคิดค้นสูตรอาหารขึ้นมาใหม่ จึงอยากมาชวนพระองค์ไปลองชิมที่ตำหนักเพคะ”“อืม ไว้มีเวลาข้าจะไป”“ฝ่าบาทเพคะ”เสิ่นจื่อหลางที่ได้ยินว่าโจวกุ้ยเฟยเอาแต่เรียกเขา ก็เงยหน้าไปมองนางด้วยแววตาที่เย็นชาจนนางลนลานหวาดกลัวไม่น้อย“เอ่อ หม่อมฉันขอทูล

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   เสิ่นจื่อหลาง 1-2

    วังหลวงท้องพระโรงยามนี้เจียงซูซูอยากจะมุดแผ่นดินหนีหรือไม่ก็แทรกตัวเข้าไปหลบในเสาต้นใดต้นหนึ่งยิ่งนักบุรุษที่นางยืนด่าฉอดๆ เมื่อไม่นานมานี้ แท้จริงเขาคือฮ่องเต้ของต้าอู๋พระนามเสิ่นจื่อหลางเจียงซูซูเบะปากทำท่าคล้ายคนจะร้องไห้ เห็นทีตำแหน่งขุนนางหญิงที่นางใฝ่ฝันคงจะจบเห่แล้ว!!!เสิ่นจื่อหลางปรายตามองเจียงซูซูคราหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองสตรีอีกสองนางที่สอบได้ลำดับรองลงไป สตรีที่ได้อันดับสองมาจากจวนตระกูลหาน ได้ยินว่านางเก่งกาจด้านการใช้อาวุธ เขาจึงมอบตำแหน่งองค์รักษ์หญิงให้แก่นาง ส่วนสตรีอีกนางมาจากจวนตระกูลสวี ได้ยินว่านางรอบรู้ อีกทั้งยังช่างสังเกต เขาจึงให้นางไปเรียนรู้การทำงานที่ศาลต้าหลี่ ดูว่านางมีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งใดในศาลต้าหลี่แล้วค่อยมอบตำแหน่งนั้นให้นางส่วนผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่ง เขาตั้งใจที่จะให้นางทำงานอยู่ข้างกายเขา เขาไปที่ใดนางต้องไปตามคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา สามารถเป็นตัวแทนเขาในการทำงานต่างๆ ได้ สตรีมักจะทำงานรอบคอบและละเอียดมากกว่าบุรุษสตรีน้อยสองนางออกไปแล้ว ยามนี้เหลือเพียงเจียงซูซู เสิ่นจื่อหลางโบกมือให้คนอื่นๆ ออกไป ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง เจียงซูซูที่เห็นเช

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ เสิ่นจื่อหลาง 1-1

    (เรื่องราวเกิดขึ้นหลังขึ้นครองราชย์6ปี)“ฝ่าบาท จะออกไปจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”ขันทีคนสนิทเอ่ยถามเสิ่นจื่อหลางอย่างร้อนรน ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาทจะออกไปชิมอาหารที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์อีกแล้ว“ไม่ต้องตามข้า ข้าเพียงไปพบสหายเท่านั้น”เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะปลอมตัวเป็นองค์รักษ์เสื้อแพรออกไปที่นอกวังหลวงยามนี้อาอวี้รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการองค์รักษ์เสื้อแพร อีกทั้งยังตงฉิน ทำงานอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง มันทำให้เขามองเห็นตนเองเมื่อสมัยก่อนปีนี้เขามีอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว ครองราชย์มาก็หลายปี แต่ทว่ายังคงไม่มีทายาทสืบทอดวันนี้เขามีนัดกับฟางเมี่ยวที่ภัตตาคารโหยวเย่ว์ นางบอกมีสูตรอาหารแปลกใหม่อยากให้เขาได้ลิ้มลองเมื่อมาถึงเขาก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉิน น่าแปลกที่ยามนี้เขากับหลี่เยี่ยนเฉินกลายเป้นสหายสนิทกันไปเสียแล้ว“อาจื่อ เจ้าว่างมากหรือ จึงนัดพวกข้ามาพบ”“แน่นอนสิ ข้าไม่มีสิ่งใดทำ”“เหอะ”“เหอะอันใด รีบสั่งอาหารมาสิ แล้วนี่เมี่ยวเมี่ยวเล่า นางไปที่ใด?”“มาถึงก็เรียกหาภรรยาผู้อื่นเช่นนี้ใช้ได้หรือ กลับไปหาสนมเจ้าสิ!!!”“เจ้าหึงหวงหรือ ช่วยไม่ได้ เมี่ยวเมี่ยวสนิทกับข้านี่เจ้าก็รู้”“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทุบ

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   ตอนพิเศษ หลี่เยี่ยนเฉินและฟางเมี่ยว

    เขาจำได้ดีว่าในปีนั้นเป็นช่วงฤดูร้อน ฮ่องเต้เย่หมิงหล่างมีรับสั่งให้เหล่าขุนนางตามออกไปล่าสัตว์อีกครา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่เหล่านักฆ่าลอบสังหาร ก็มีการเพิ่มกำลังการคุ้มกันแน่นหนาขึ้น“วันนี้พี่เยี่ยนช่างรูปงามยิ่งนัก”หลี่เยี่ยนเฉินปรายตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี นางตามมาเกี้ยวพาเขาอีกแล้วฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินด้วยท่าทีหยอกเย้า ไม่ได้ใส่ใจท่าทีที่เอือมระอาของเขาเลยแม้แต่น้อย“พี่เยี่ยน”“หยุดเรียกข้าสักที”เขารีบควบม้าหนีนางไปทันที ฟางเมี่ยวไม่ยอมลดละรีบควบม้าตามเขาไปอย่างรวดเร็วแต่ทว่าม้าของนางกลับพยศ มันวิ่งเข้าป่าไม่หยุดจนเกือบจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลี่เยี่ยนเฉินตื่นตระหนกยิ่ง รีบกระโดดเข้ามาคว้าตัวนางลงจากหลังม้า ก่อนที่คนทั้งสองจะกลิ้งตกลงเขาไปด้วยกันฮ่องเต้เย่หมิงหล่างสั่งให้คนออกตามหาพวกเขาทั้งสองคนแต่กลับไม่พบฟางเมี่ยวขยับกายเล็กน้อย นางรู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ว่าเมื่อได้มองเห็นหลี่เยี่ยนเฉินที่นอนสลบอยู่ ก็ตกใจไม่น้อย บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่าอาจจะถูกกิ่งไม้แหลมขูดหน้าผาก ฟางเมี่ยวรีบใช้ผ้าสะอาดที่นางนำติดมาด้วยซับเลือดให้เขา

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 56 บทสรุป

    รัชศกจื่อหลางปีที่ 1ยามนี้เสิ่นจื่อหลางขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้หนึ่งปีแล้ว นับแต่ที่เขาขึ้นครองราชย์นั้นนับว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองไม่น้อย แคว้นต่างๆ ยอมศิโรราบ แคว้นใดคิดเป็นกบฏจะถูกสังหารอย่างไม่ละเว้น ผู้ทำผิดถูกลงโทษไม่เว้นว่าจะเกิดในตระกูลใด เด็กๆ ที่ยากจนได้มีสถานที่เรียน ซึ่งทางราชสำนักเป็นคนต่อตั้งขึ้นสำหรับครอบครัวที่ยากจนสามปีต่อมาอาอวี้ที่มีอายุจะครบสิบห้าปีแล้วสามารถสอบเป็นจอหงวนได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีกหลายปี เพราะความสามารถของเขาที่เก่งกาจทั้งบุ๋นและบู๊ จึงได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ทำงานรับใช้ฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดฟางเจี๋ยพี่ชายของนางได้รับตำแหน่งเสนาบดีกรมกลาโหม ส่วนท่านพ่อนั้นก็ออกมาพักผ่อนและเลี้ยงลูกๆ ของฟางเจี๋ยและหลิวจืออยู่ที่จวนส่วนหลี่เยี่ยนเฉินนั้นยามนี้สงครามสงบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำ เขาจึงติดตามภรรยาไปค้าขายต่างแคว้นอย่างมีความสุข ทั้งคู่ยังไม่มีบุตรจนหลี่ฮูหยินร้อนใจ สั่งให้ฟางเมี่ยวห้ามออกจากจวนไปทำงาน อยู่ทำลูกกับหลี่เยี่ยนเฉินทุกวันยามที่มีเวลาว่าง ฟางเมี่ยวมักจะไปที่หลุมศพของจางเสวี่ยฮุ่ย บอกเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาให้นางฟังฟางเมี่ยวเชื

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 55 ความฝันของเย่จิ้นหยาง

    ฟางเมี่ยวเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังยืนรดน้ำดอกกุหลาบอยู่ ฟางเมี่ยวที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามเขาทันที“ท่านพี่ เหตุใดจึงทำเอง บ่าวไพร่ไปที่ใดหมดเจ้าคะ?”หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมาส่งยิ้มให้ฟางเมี่ยว ก่อนจะเช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินเข้ามาหาฟางเมี่ยว แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นางอย่างใส่ใจ“ดอกไม้เหล่านี้เมี่ยวเอ๋อร์ของข้าชอบมากที่สุด ข้าย่อมต้องดูแลเองไม่อาจวางใจให้ผู้อื่นดูแลได้ ไหนมาให้ข้าซับเหงื่อให้ เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ท่านพี่ข้าพบสวีเซียวเหยา นางสารภาพมาเองว่าเคยส่งคนมาฉุดข้า”ฟางเมี่ยวคล้ายจะลืมตัวว่าตนเอ่ยสิ่งใดออกไป นางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับหลี่เยี่ยนเฉินเพราะเกรงว่าเขาจะเป็นห่วงและคิดมาก อีกอย่างนางก็ปลอดภัยดีจึงไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอันใด หลี่เยี่ยนเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยถามทันที“นี่เจ้าถูกนางส่งคนมาฉุดเช่นนั้นหรือ?”“เอ่อ...”“ตอบมา!!!”“ท่านพี่ เรื่องมันนานมากแล้วเจ้าค่ะ ข้าเองไม่อยากให้ท่านกังวล นับว่าโชคยังดีที่ข้าปลอดภัย สหายเสิ่นไปช่วยข้าเอาไว้ได้ทันเวลา”สหายเสิ่นอีกแล้ว?หลี่เยี่ยนเฉินหรี่ตามองฟางเมี่ยว ก่อนจะมี

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 54 ที่พึ่งพิงชั่วชีวิต

    รัชศกจิ้นหยางปีที่ 1เย่จิ้นหยางขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของแคว้นต้าอู๋ นับตั้งแต่เขาได้สติกลับคืนมาก็ตั้งใจทำเพื่อบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง เขากวาดล้างเหล่าขุนนางโลภออกไปจากราชสำนักได้ไม่น้อย อีกทั้งยังลดภาษีให้กับราษฎรอีกด้วย ไม่กี่ปีต่อมาแคว้นต้าอู๋ก็กลับมางดงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิมเขานึกถึงคำเตือนของเสิ่นจื่อหลางได้ไม่ลืม อีกทั้งยังชื่นชมเสิ่นจื่อหลางอีกด้วย เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเสด็จลุงจึงไว้วางใจเสิ่นจื่อหลางถึงเพียงนี้นับตั้งแต่เริ่มแผนการที่ท่านลุงวางไว้ แผนการนั้นจะไม่สำเร็จและแยบยลเลย หากไม่มีขุนนางที่ตงฉินและไว้ใจได้ และยอมทำงานถวายชีวิตเช่นเสิ่นจื่อหลางที่ผ่านมาเสด็จลุงส่งเสิ่นจื่อหลางมาคอยจับตาดูเขาและขุนนางทุกคน สุดท้ายเสด็จลุงไว้วางใจที่จะมอบแผ่นดินนี้ให้กับเขา เขาเองก็จะไม่ทำให้ความไว้วางใจนั้นของเสด็จลุงต้องสูญเปล่ายามนี้ต้าอู๋นับว่าคึกคักไม่น้อยเลย ฟางเมี่ยวกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครา อีกทั้งรายได้ครึ่งหนึ่งของการค้าขาย นางก็จะบริจาคเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยราชสำนักทุกเดือน ระยะหลังมานี้กิจการของนางได้ส่งออกไปขายต่างแคว้น นับว่าได้กำไรงามไม่น้อยตั้งแต่แคว้นเห

  • ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี   บทที่ 53 เสียสติ

    ฟางเมี่ยวเดินออกจากจวนอ๋องมาพร้อมกับหลิวจือ ยามนี้เย่จิ้นหยางเสียใจอย่างหนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้ร่างของจางเสวี่ยฮุ่ย เขาเอาแต่กอดร่างไร้ลมหายใจของนางเอาไว้เช่นนั้นไม่ยอมปล่อย ปากก็พร่ำเพ้อว่ายามนี้นางกำลังนอนพักผ่อน ห้ามผู้ใดรบกวนนางฟางเมี่ยวทนมองภาพที่น่าสลดใจเช่นนี้ไม่ไหว นางจึงรีบขอตัวกลับจวนตนทันทีหลิวจือนั้นขอตัวกลับจวนของตนเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องจัดการ ส่วนฟางเมี่ยวนั้นยามนี้ก็กำลังนั่งรถม้ามุ่งหน้ากลับจวนตระกูลหลี่เช่นเดียวกันเมื่อกลับมาถึงจวน นางก็พบกับหลี่เยี่ยนเฉินที่กำลังนั่งรอนางอยู่ในเรือน เขาได้ยินข่าวที่จางเสวี่ยฮุ่ยจากแล้ว ในใจก็นึกเวทนาไม่น้อย ข่าวการตายของจางเสวี่ยฮุ่ยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปถึงในวังหลวงเมื่อเห็นว่าฟางเมี่ยวกลับมาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหานางทันที ก่อนจะพบว่ายามนี้ใบหน้าของฟางเมี่ยวเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือหลี่เยี่ยนเฉิน ฟางเมี่ยวก็โผเข้ากอดเขาทันที ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครา“ฮืออ หลี่เยี่ยนเฉิน จางเสวี่ยฮุ่ยตายแล้ว ข้าช่วยนางไม่ได้ ฮือ ข้าช่วยนางไม่ได้ ข้าไม่อยากให้นางตาย

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status