แชร์

ตอนที่ 12 พี่ชายและสหายของเขา

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 21:05:39

ด้านฟางซินและบุตรชายทั้งสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อย ทั้งสองคนจึงบอกกับมารดาว่าจะไปพบสหาย เพื่อพูดคุยเรื่องอาชีพเสริมที่น้องสาวคิดขึ้นมา นางอนุญาตให้พวกเขาไปหาสหายได้ ส่วนตนเองนั้นจะอยู่รอสามีกับบุตรสาวอยู่ตรงหน้าบ้านเอง

“ท่านแม่ท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน รอท่านพ่อกับน้องเล็กไปก่อน ข้ากับน้องรองจะไปพบสหายเสียหน่อย เพื่อคุยเรื่องอาชีพเสริมของน้องเล็กขอรับ”

“ใช่แล้วท่านแม่ พวกเราสองคนไปไม่นานจะรีบกลับมาขอรับ”

“พวกเจ้าไปเถอะแม่อยู่คนเดียวได้ อีกสักพักพ่อกับน้องสาวพวกเจ้าก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ”

ลู่เวินบังคับเกวียนเข้าประตูบ้าน ภายหลังจากที่บุตรชายออกไปไม่ถึงหนึ่งจิบชา พอฟางซินเห็นสามีกับบุตรสาวกลับมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า สามีไปเอาเกวียนมาจากที่ใดเพราะราคาน่าจะหลายตำลึง ทั้งยังเป็นเกวียนวัวที่มีหลังคาอีกด้วย

“ท่านพี่นี่ท่านไปเอาเกวียนวัวจากที่ใดมาเจ้าคะ” ฟางซินเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นเขาบังคับเกวียนเล่มใหญ่เข้ามา

“อ้อ เกวียนวัวเล่มนี้เป็นของครอบครัวของเรา เพราะต้องใช้มันขนของเพื่อไปพักในตำบลชั่วคราว หลังจากนี้พวกเราจะสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเดิม” ลู่เวินอธิบายให้ภรรยาของเขาฟัง

“หืม ไปพักในตำบลชั่วคราวแล้วยังจะสร้างบ้านหลังใหม่ หรือว่าท่านพี่กับชิงเอ๋อร์หาซื้อร้านค้าได้แล้วหรือเจ้าคะ” ฟางซินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

“น้องหญิงเดาได้ถูกต้องแล้วเป็นร้านที่ทำเลดีไม่น้อย พรุ่งนี้พี่จะไปติดต่อนายช่างหาน ให้มาปรับปรุงร้านค้าเสียก่อน หลังจากนั้นถึงจะให้นายช่างมาสร้างบ้านหลังใหม่ของเราที่นี่” ลู่เวินเห็นแววตาที่ตื่นเต้นของภรรยาก็ดีใจไม่น้อย เขาไม่เห็นท่าทางแบบนี้ของนางมานานแล้ว

“แต่สร้างบ้านใหม่ต้องใช้เงินไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ” ฟางซินยังกังวลเรื่องเงินที่ต้องใช้ในการสร้างบ้าน

“ท่านแม่เจ้าคะ ท่านลืมข้าไปได้อย่างไร ตอนนี้เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว เพราะวันนี้พวกเราได้เงินจากการขายเครื่องประดับยกชุดหลายตำลึงเชียวนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่ไม่เชื่อก็ถามท่านพ่อดูสิเจ้าคะว่าข้าพูดจริงหรือไม่” ลู่ชิงรีบบอกท่านแม่ก่อนที่นางจะคิดมากไปกว่านี้

ฟางซินมองไปที่สามีเหมือนจะให้ช่วยยืนยัน ในสิ่งที่บุตรสาวเพิ่งพูดออกมาว่า เป็นเรื่องจริงหรือล้อเล่นให้นางตกใจกันแน่ แต่คำตอบของสามีก็ทำเอาฟางซินถึงกับจะเป็นลมขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ที่ชิงเอ๋อร์พูดมาล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมดนะน้องหญิง ตอนนี้เรามีเงินจากการขายเครื่องประดับ ถึงหนึ่งแสนห้าพันตำลึงทองเชียวล่ะ” ลู่เวินกล่าวยืนยันคำพูดของบุตรสาวว่าเป็นความจริง หากเขาไม่ได้ยินกับหูหรือเห็นกับตาก็คงไม่คิดเชื่อเช่นกัน

“ห๊ะ!! หนึ่งแสนห้าพันตำลึงทอง!! ท่านพี่เจ้าคะข้าจะเป็นลมเจ้าค่ะ เอิ้ก..” ฟางซินอุทานออกมาด้วยเสียงที่ดัง และเหมือนนางจะเป็นลม ไม่รู้ว่าจะตกใจหรือดีใจก่อนดี

“น้องหญิง!!!/ท่านแม่!!” ลู่เวินและลู่ชิงรีบเข้าไปประคองฟางซิน ให้นั่งลงก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้น

“ชิงเอ๋อร์เหตุใดถึงขายเครื่องประดับ ได้ในราคาสูงถึงเพียงนั้นเล่า มันเป็นเครื่องประดับแบบใดกัน เถ้าแก่หงถึงยอมซื้อจากเจ้า” ฟางซินที่ตั้งสติได้บ้างแล้วถามบุตรสาว

“อิอิ คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าท่านแม่ต้องอยากรู้เป็นแน่ ว่าของแบบไหนที่ขายได้ราคาดีเช่นนี้ ท่านแม่รอประเดี๋ยวนะเจ้าคะสิ่งที่ท่านอยากเห็น ว่ามันคู่ควรกับราคาข้าจะเอาออกมาให้ท่านดูเจ้าค่ะ” ลู่ชิงบอกให้มารดารอนาง ก่อนจะหายเข้าไปในมิติเพื่อหยิบชุดเครื่องเพชร ที่ลวดลายแตกต่างจากชุดที่นำไปขายออกมา

“นี่เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านลองเปิดดูก็จะรู้ว่าเหตุใดมันถึงขายได้ราคาสูงเช่นนั้น” ลู่ชิงยื่นกล่องเครื่องเพชรให้กับท่านแม่ได้ดู

“ชะ ชะ ชิงเอ๋อร์ นี่มันสวยมากเกินไปแล้วลูก แม่เข้าใจแล้วสมกับที่เป็นเครื่องประดับราคาแพงจริง ๆ คนที่ซื้อไปอาจใส่ออกงานบ้าง หรือจะเก็บไว้เป็นมรดกให้บุตรหลานก็ยังได้เลยนะเนี่ย” นางตื่นตะลึงกับความสวย แสงระยิบระยับนั่นก็ส่องเข้าตาของนางเสียเหลือเกิน

“ถ้างั้นเครื่องประดับชุดนี้ข้ายกให้ท่านแม่เก็บเอาไว้ ท่านจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ หรือท่านแม่จะใส่เพียงแหวนก็ได้เจ้าค่ะ ชิ้นอื่นก็เก็บเอาไว้ในอนาคตหากได้เข้าร่วมงานเลี้ยง หรือพิธีเปิดกิจการของพวกเรา ค่อยหยิบออกมาใส่ให้ผู้คนอิจฉาเล่น ๆ ก็ยังได้เจ้าค่ะ” ลู่ชิงยกชุดเครื่องเพชรนี้ให้กับมารดาไปเลย

“ชิงเอ๋อร์ตั้งใจมอบมันให้น้องหญิงก็รับไว้เถอะ อย่าให้ลูกต้องเสียน้ำใจที่มอบให้เจ้าเลยนะ” ลู่เวินสนับสนุนบุตรสาวในเรื่องนี้

“เช่นนั้นแม่ก็จะรับเอาไว้ ขอบใจชิงเอ๋อร์มากนะลูก แม่จะเก็บรักษามันไว้อย่างดี” ฟางซินปลาบปลื้มใจยิ่งนัก

“ข้ายินดีเจ้าค่ะ ในมิติยังมีอีกมากมาย ต่อไปท่านแม่ต้องได้ใส่ไม่ซ้ำอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ แล้วนี่พี่ชายไปไหนกันหมดเจ้าคะ ท่านแม่ถึงอยู่บ้านเพียงลำพัง” นางถามถึงพี่ชายทั้งสองตั้งแต่มาถึง ยังไม่ได้ยินเสียงพวกเขาเลย

“พี่ชายเจ้าไปหาสหายเพื่อจะคุยเรื่องอาชีพเสริม ที่เจ้าคิดจะให้ชาวบ้านทำนั่นแหละ”

“อ้อ เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะท่านแม่จะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หรือว่าจะตามพวกเราไปหาหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อหารือเรื่องนี้ด้วยกันเจ้าคะ” นางถามท่านแม่ก่อนว่าอยากไปด้วยกันไหม

“เจ้าไปกับบิดาเถิด แม่จะอยู่ที่บ้านและทำกับข้าวไว้รอก็แล้วกัน”

“พี่กับชิงเอ๋อร์จะรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย น้องหญิงทานอะไรรองท้องไปก่อนก็ได้ อย่าปล่อยให้ท้องหิวไว้พี่จะรีบกลับนะ” เขาไม่อยากให้นางหิ้วท้องรอ

“เจ้าค่ะท่านพี่” ฟางซินรับคำสามีด้วยรอยยิ้ม

ด้านสองคนพี่น้องที่รีบไปหาสหาย ลู่เสียนบอกกับพี่ชายว่าเขาจะไปตามสหายของเขา และให้ไปเจอกันที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้แม่น้ำหลังหมู่บ้าน จากนั้นทั้งคู่ก็แยกกันไปตามสหาย เพื่อประหยัดเวลาดีกว่าเดินตามกันไป

“เว่ยหลิน ๆ เจ้าอยู่บ้านหรือไม่ข้าลู่จื้อเอง”

เว่ยหลินกำลังผ่าฟืนอยู่ด้านหลังบ้าน ได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ คล้ายเสียงของสหายตนอย่างลู่จื้อจึงเดินออกไปดู

“อ้าว อาจื้อเจ้ามีอะไรหรือถึงได้มาหาข้าถึงบ้านได้”

“ข้ามีเรื่องสำคัญจะมาพูดคุยกับเจ้าและกวงเหอ แต่พวกเราทั้งหมดต้องไปเจอน้องชายของข้า ที่ต้นไม้ใหญ่หลังหมู่บ้านจะได้พูดทีเดียวไม่ต้องพูดหลายรอบ เจ้าพอมีเวลาหรือไม่”

“ได้สิ ตอนนี้ข้าแค่ผ่าฝืนที่เก็บมาผึ่งแดดอยู่ แต่ไปคุยกับพวกเจ้าก่อนแล้วค่อยกลับมาทำต่อก็ยังได้”

“ตกลง งั้นเราไปตามกวงเหอที่บ้านและไปเจอน้องชายข้ากันเลย” ลู่จื้อมีสหายเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในหมู่บ้านอันผิงแห่งนี้ เนื่องจากตอนที่เขามาถึงฐานะทางการเงินก็ย่ำแย่ไปแล้ว

ลู่จื้อกับเว่ยหลินเดินไปที่บ้านสหายต่อ มาถึงหน้าประตูบ้านก็แข่งกันตะโกนเรียกชื่อของสหาย พอประตูเปิดออกมาเห็นว่าเป็นกวงเหอ ทั้งสองไม่รอช้าเข้าไปประกบด้านข้างของกวงเหอ แล้วพาเขาเดินไปทางหลังหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ยยย!! นะ นี่ นี่ พวกเจ้าทำอะไรจะพาข้าไปไหน ทำไมไม่พูดอะไรสักหน่อยเล่า พวกเจ้าเดินช้า ๆ ก็ได้” กวงเหอที่ถูกสหายหิ้วปีกคนละข้างก็เดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ และยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดสหายถึงดูมีลับลมคมในแปลก ๆ

“เจ้าอย่าเพิ่งถามอะไรได้หรือไม่ ไปถึงแล้วก็จะรู้เองนั่นแหละ”

“กวงเหอเจ้าทำตามที่อาจื้อบอกเถอะน่า ไม่ได้มีเจ้าคนเดียวที่อยากรู้ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันรีบเดินเข้า”

เด็กหนุ่มทั้งสามคนเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่หลังหมู่บ้าน ก็เจอลู่เสียนกับสหายรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อทุกคนมาพร้อมกันเป็นลู่จื้อที่พูดขึ้น

“ที่ข้ากับอาเสียนพาพวกเจ้ามาที่นี่ เพราะมีเรื่องสำคัญมาบอกกับพวกเจ้า หากรู้แล้วอย่าเพิ่งไปบอกกับใครเป็นอันขาด ให้รอฟังจากหัวหน้าหมู่บ้านอีกครั้ง”

“อาจื้อ เจ้ารีบบอกมาเถอะ ข้ากับกวงเหอสัญญาจะไม่บอกใครแน่นอน” เว่ยหลินบีบมือตนเองแน่นด้วยรู้สึกตื่นเต้นมากในยามนี้

“ข้ากับซุนอวี้ก็เช่นกันขอรับพี่ชายลู่จื้อ” สหายของลู่เสียนก็รับปากลู่จื้อด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน

“เอาล่ะเรื่องที่ข้าจะบอกก็คือ น้องสาวของพวกข้าคิดอาชีพเสริม เพื่อให้พวกเจ้าและครอบครัวได้ทำ อยากให้ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต้องเดินทางเข้าตำบล หรือเข้าไปในเมืองหางานทำให้เหนื่อย พวกเจ้าคิดว่าทำอาชีพเสริมที่น้องสาวข้าคิดขึ้นมาจะดีกว่าหรือไม่”

“อาชีพเสริมเช่นนั้นหรืออาจื้อ น้องสาวของเจ้านางจะให้ทำอันใดหรือ หากไม่ต้องลำบากไปหางานทำในเมือง ข้าเต็มใจทำแน่ ๆ อย่างน้อยได้อยู่กับครอบครัวมีรายได้เพิ่มอีกหน่อย หลังจากทำนาย่อมดีกว่าอยู่แล้ว” เว่ยหลินคิดว่าหากมีงานให้ทำโดยไม่ต้องเดินทาง เขาสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้

“ข้าก็คิดเหมือนพี่ชายเว่ยหลินขอรับ ทำงานในเมืองค่าแรงก็ไม่ได้มากมาย ไหนจะค่ากินค่าเดินทางกลับบ้านบ่อยก็ไม่ได้ไม่ถูกหักเงินก็ถูกเลิกจ้าง”

“เอาล่ะพวกเจ้าฟังให้ดี งานที่น้องสาวข้าจะให้ทำมีอยู่ทั้งหมดสามอย่าง อย่างแรกแก้วน้ำไม้ไผ่แบบมีฝาปิด จะรับซื้อที่ใบละสองอีแปะ อย่างที่สองกระติ๊บขนาดเล็กสำหรับใส่ข้าวเหนียว และอย่างที่สามเป็นถาดสานแบบกลมขนาดเท่าจานใส่อาหาร ทั้งสองอย่างนี้รับซื้อชิ้นละสามอีแปะพวกเจ้าเห็นว่าอย่างไร”

เหล่าสหายของสองพี่น้อง ได้ฟังเกี่ยวกับงานทั้งสามอย่างก็หันมามองหน้ากัน เหมือนพวกเขาจะคิดแบบเดียวกันว่า มันเป็นงานที่ทำไม่ยากแค่อาศัยฝีมืองานไม้ และงานจักสานเท่านั้นก็สามารถขายได้เงินแล้ว ถ้าหนึ่งวันคนในครอบครัวช่วยกัน นั่นย่อมได้เงินหลายสิบอีแปะเชียวนะ พวกเขาพยักหน้าให้กันและเป็นเว่ยหลินที่เป็นตัวแทนพูดขึ้นมา

“อาจื้อ พวกเราทุกคนยินดีที่จะทำงานนี้อย่างแน่นอน และข้าคิดว่าชาวบ้านที่ได้รับรู้เรื่องที่พวกเจ้าพูด ต้องดีใจไม่ต่างจากพวกเราเช่นกัน” เว่ยหลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ

“ต่อจากนี้พวกเจ้าก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น จะได้กินให้อิ่มท้องไม่ต้องลำบากประหยัดกันอีกแล้ว วันนี้ท่านพ่อกับน้องสาวของข้า จะไปหารือกับหัวหน้าหมู่บ้าน พวกเจ้าไปรอฟังเรื่องนี้อยู่กับครอบครัว ว่าจะมีการเรียกประชุมยามใดก็แล้วกัน”

“ตกลง พวกเราจะทำตามที่เจ้าบอก ขอบคุณพวกเจ้ามากจริง ๆ อาจื้อ” กวงเหอก็ดีใจไม่ต่างจากเว่ยหลิน

“ไม่เป็นไรพวกเราเป็นสหายกันนี่นา มิใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเราต่างก็ช่วยเหลือกันมาตลอดหรือไร”

“ฮ่า ๆ ๆ”

เด็กหนุ่มทั้งหกคนต่างส่งเสียงหัวเราะ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป จากนี้หมู่บ้านอันผิงจะต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 13 ชาวบ้านยินดีแต่มีมนุษย์ป้าด้วยนะ

    ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ ว่าแต่พวกเจ้ามีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าในยามนี้เล่า”“ข้ากับบุตรสาวมีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน ถ้าครอบครัวข้าอยากจะหาอาชีพเสริม มาให้ชาวบ้านทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม ท่านอาหลิ่วคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ” เมื่อเข้ามานั่งด้านในบ้านแล้วลู่เวินก็พูดขึ้นทันที“อาชีพเสริมเช่นนั้นรึ ถ้ามันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มข้าย่อมสนับสนุน หมู่บ้านของเราใช่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยามเกิดภัยแล้งภัยหนาวล้วนลำบากทั้งนั้น กว่าทางการจะให้การช่วยเหลือ ผู้คนก็ล้มป่วยหรือตายจากญาติพี่น้องก็มี พวกเจ้าลองอธิบายให้ข้าฟังสักหน่อย หากเป็นงานที่ไม่ยากเกินไป ข้าจะได้เรียกทุกคนมาประชุมหารือร่วมกันทันที”เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ย่อมไม่อยากเห็นลูกบ้านของตนอยู่อย่างยากลำบากเกินไป เมื่อมีลู่ทางหาเงินเขาจะไม่สนับสนุนได้เช่นไร“เรื่องนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 14 ฉากเปิดตัวพระเอกหรือเปล่านะ?

    เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครัวที่ต้องลำบาก ประคับประคองชีวิตมาจนถึงตอนนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆลู่ชิงเอ่ยเช่นนี้เพราะอยากให้ครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ แม้ตอนนี้จะมีข้าวกินจนอิ่มท้องและมีน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ร่างกายทุกคนยังดูผอมกันอยู่ จึงต้องทานอาหารบำรุงดี ๆ รวมถึงการพักผ่อนเพื่อให้ภายในร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ลู่เวินเข้าใจความห่วงใยนี้ของลู่ชิง และมันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขา พยายามกันอยากมากกับการทำงานเลี้ยงชีพ เมื่อยามนี้พอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การพักฟื้นร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ “พ่อจะทำตามที่ชิงเอ๋อร์แนะนำเป็นอย่างดี รวมถึงท่านแม่และพี่ชายของเจ้าด้วยเช่นกัน”“ดีมากเจ้าค่ะ อิอิ”“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เรื่องที่ไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางซินกังวลว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องอาชีพ“กา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 15 ได้ช่างปรับปรุงร้านค้า

    ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปรับปรุงร้านค้าและสร้างบ้านน่ะ” ลู่เวินถามกับคนงาน ที่กำลังเตรียมของอยู่ในลานบ้านของนายช่างหาน“หืม พวกท่านมาติดต่องานหรือขอรับ นายช่างหานอยู่ด้านใน พวกท่านเดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอแล้วขอรับ” เขาตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่สุภาพ“ขอบใจมากนะน้องชาย”“ยินดีขอรับ” มีลูกค้ามาก็ต้องต้อนรับดี ๆ หน่อยลู่เวินพาทุกคนเดินเลยลานบ้านเข้ามา ก็ได้เจอนายช่างหานที่กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่พอดี จึงเข้าไปทักทายอย่างสุภาพ“พี่ชายท่านนี้ไม่ทราบว่าใช่นายช่างหานหรือไม่ขอรับ ข้ามาติดต่อว่าจ้างไปปรับปรุงร้านค้ากับสร้างบ้านขอรับ” ลู่เวินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ“อ้อ ข้านายช่างหานเอง เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะมาจ้างงานข้าเช่นนั้นหรือ” นายช่างหานหันมาตอบลู่เวินอย่างเป็นธรรมชาติ“ใช่ขอรับ พวกเราได้ยินหลายคนพูดกันว่า ท่านมีฝีมือในการสร้างบ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 16 ประวัติของนางที่เขาได้รู้

    ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นล่างหนึ่งห้องนอนมีห้องน้ำเช่นกัน และมันเป็นห้องของลู่ชิงเอง ส่วนห้องน้ำอีกห้องเอาไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านนายช่างหานก็รับปากจะทำอย่างเต็มที่ และที่สำคัญเขาอยากเห็นบ้านหลังนี้ หลังจากสร้างเสร็จตามแบบที่ได้รับมาเร็ว ๆ เสียเหลือเกินตอนนี้หมดหน้าที่ของลู่ชิงตรงนี้แล้ว นางจึงขอตัวไปเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวมื้อเที่ยงสำหรับทุกคนลู่ชิงเข้ามาในบ้านก็เอ่ยชวนมารดาเข้าครัวด้วยกันทันที “ท่านแม่เจ้าคะ พวกเราเข้าครัวเตรียมทำอาหารมื้อเที่ยง รอท่านพ่อกับนายช่างหานกันเถิดเจ้าค่ะ”“ชิงเอ๋อร์จะให้แม่ทำตรงส่วนไหนบ้าง บอกมาได้เลยลูกแม่จะจำวิธีการทำไว้ เผื่ออยากกินอีกจะได้ลงมือทำเอง” ฟางซินชอบดูวิธีการทำอาหารของบุตรสาวมาก“ได้สิเจ้าคะ เช่นนั้นรบกวนท่านแม่ล้างพวกผักต่าง ๆ ที่ต้องใส่ในอาห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 17 คำสั่งซื้ออาหารไปจัดงานเลี้ยง

    เซียวหนิงหลงสั่งการเรื่องนี้กับตันเจียง เพื่อจะได้ให้เจียวมิ่งเตรียมตัวให้พร้อม ว่าจะต้องมาทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไรที่ตำบลหย่งฝูแห่งนี้“ขอรับ ข้าน้อยจะส่งจดหมายถึงเจียวมิ่ง ให้เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง” ตันเจียงแอบคิดในใจว่า เขาจะเขียนเรื่องคุณหนูลู่ชิงไปด้วยนิดหน่อย ให้เจียวมิ่งเอาไปเล่าให้ท่านอ๋องกับพระชายาฟัง คงจะตกใจจนคาดไม่ถึงเป็นแน่“พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมคืนนี้เข้ายามจื่อ พวกเราจะเริ่มลงมือเพื่อสะกดรอยตามคนพวกนั้น” เขาจะต้องติดตามและจับเป็นสายลับกลับเมืองหลวงให้ได้ หากชักช้าย่อมไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านแถบชายแดน ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะเกิดสงครามขึ้นมายามใดนายช่างหานที่เดินสำรวจ และวัดพื้นที่ทั้งหมดของบ้านตระกูลสวี ก็แจ้งกับลู่เวินว่าต้องใช้เวลาในการสร้างบ้าน และสร้างกำแพงรอบบ้านนั้นประมาณสามเดือน เขาคิดราคารวมทั้งหมดแล้ว เป็นเงินห้าร้อยเจ็ดสิบตำลึงทองเพราะต้องใช้วัสดุอย่างดี และค่าจ้างคนงานที่ต้องจ้างมาเพิ่ม เมื่อตกลงและทำสัญญาเรียบร้อย นายช่างหานก็ได้ลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อยที่เขาไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ถึงกับเอ่ยปากชมลู่ชิงไม่หยุด แม้กระทั่งตอนจะกลับยังบอกอีกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 18 พบเจอหน้ากันครั้งแรก

    ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย่างข้าวผัดหมูและผัดกะเพรา ข้าจะทำใส่หม้อใบใหญ่อย่างที่ท่านเห็น ราคาจะอยู่ที่หม้อละห้าสิบตำลึงเงิน ส่วนหมูทอดไก่ทอดจะใช้วัตถุดิบอย่างละยี่สิบจิน รวมสามอย่างก็หกสิบจินคิดราคาสิบห้าตำลึงเงิน รวมทั้งหมดคือหนึ่งร้อยสี่สิบห้าตำลึงเงิน ท่านพ่อบ้านคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไรเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ได้เอากำไรมากมาย เพราะราคาที่บอกไปมันเป็นกำไรล้วน ๆ ต่างหาก“อืม ราคาที่เจ้าพูดมาก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป แค่เนื้อก็ราคาสูงกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ข้าตกลงสั่งอาหารกับเจ้าในราคาที่เจ้าเสนอมา” พ่อบ้านคำนวณแล้วถือว่าราคาถูกกว่า ไปสั่งอาหารที่เหลาอาหารในเมืองเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรสชาติอาหาร ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นเช้าวันงานรบกวนท่านพ่อบ้าน ให้คนมารับอาหารที่แผงขายของนี้ ทางเราจะมีของแถมเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 20 ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร

    เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรขึ้นมาดื่ม ทันทีที่น้ำสมุนไพรเข้าไปในร่างกาย เขาก็รู้สึกโล่งเบาสบายเป็นอย่างมากอาการเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากการขี่ม้าก็หายไป นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงลมปราณที่วิ่งไปยังจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับว่าเขากำลังจะบรรลุวรยุทธ์ขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจที่ชิงเอ๋อร์กำชับเอาไว้ว่า อย่าแบ่งน้ำสมุนไพรนี้ให้กับใครพร่ำเพรื่อเด็ดขาด เซียวหนิงหลงถือถุงหนังใส่น้ำสมุนไพรเดินไปหาตันเจียงกับชุนชาน เพื่อแบ่งให้พวกเขาสองคนได้ดื่ม และจะเก็บไว้ให้กับครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน“ตันเจียง ชุนชาน พวกเจ้าแยกมาด้านนี้สักประเดี๋ยว” เขาเรียกผู้ติดตามทั้งสองคนให้เดินมาหาอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันพวกสายลับจะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดคุยกัน“ไม่ทราบว่าซื่อจื่อมีอะไรจะสั่งการพวกเราหรือขอรับ” ตันเจียงเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 19 เซียวหนิงหลงเจ้าเล่ห์ทำตัวตีสนิทกับตระกูลสวี

    ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ“อ้อ ข้ากำลังจะไปดูนายช่างหาน ที่มาปรับปรุงร้านเป็นวันแรกเจ้าค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คงต้องเอาไว้ค่อยมาดูพรุ่งนี้กับท่านพ่อแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ” พรุ่งนี้ค่อยชวนทุกคนมาดูพร้อมกันน่าจะดีกว่า“นายช่างได้บอกหรือไม่ว่าใช้เวลากี่วัน ถึงจะปรับปรุงร้านค้าของเจ้าเสร็จ” เซียวหนิงหลงเอ่ยถามกับลู่ชิงบ้าง“บอกเจ้าค่ะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบวัน เพราะต้องต่อเติมด้านบนชั้นสองทำเป็นห้องพักสองห้อง จากนั้นครอบครัวข้าจะย้ายมาพักที่นี่ชั่วคราว และให้นายช่างหานไปสร้างบ้านต่อที่หมู่บ้านอันผิงเจ้าค่ะ” ลู่ชิงตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ แถมยังส่งยิ้มให้กับเซียวหนิงหลงอีกด้วย“หากพี่จะฝากคนให้มาเป็นลูกจ้างของร้านเจ้า สักสามสี่คนจะได้หรือไม่ พวกเขาเป็นกำพร้าแต่เด็กไม่มีครอบครัว เจ้าพอจะรับไว้ได้ไหม” เขาต้อ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 18 พบเจอหน้ากันครั้งแรก

    ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย่างข้าวผัดหมูและผัดกะเพรา ข้าจะทำใส่หม้อใบใหญ่อย่างที่ท่านเห็น ราคาจะอยู่ที่หม้อละห้าสิบตำลึงเงิน ส่วนหมูทอดไก่ทอดจะใช้วัตถุดิบอย่างละยี่สิบจิน รวมสามอย่างก็หกสิบจินคิดราคาสิบห้าตำลึงเงิน รวมทั้งหมดคือหนึ่งร้อยสี่สิบห้าตำลึงเงิน ท่านพ่อบ้านคิดว่าราคานี้เป็นอย่างไรเจ้าคะ” ลู่ชิงไม่ได้เอากำไรมากมาย เพราะราคาที่บอกไปมันเป็นกำไรล้วน ๆ ต่างหาก“อืม ราคาที่เจ้าพูดมาก็ถือว่าไม่แพงจนเกินไป แค่เนื้อก็ราคาสูงกว่าอย่างอื่นอยู่แล้ว ข้าตกลงสั่งอาหารกับเจ้าในราคาที่เจ้าเสนอมา” พ่อบ้านคำนวณแล้วถือว่าราคาถูกกว่า ไปสั่งอาหารที่เหลาอาหารในเมืองเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของรสชาติอาหาร ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง“ขอบคุณเจ้าค่ะ เช่นนั้นเช้าวันงานรบกวนท่านพ่อบ้าน ให้คนมารับอาหารที่แผงขายของนี้ ทางเราจะมีของแถมเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 17 คำสั่งซื้ออาหารไปจัดงานเลี้ยง

    เซียวหนิงหลงสั่งการเรื่องนี้กับตันเจียง เพื่อจะได้ให้เจียวมิ่งเตรียมตัวให้พร้อม ว่าจะต้องมาทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไรที่ตำบลหย่งฝูแห่งนี้“ขอรับ ข้าน้อยจะส่งจดหมายถึงเจียวมิ่ง ให้เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง” ตันเจียงแอบคิดในใจว่า เขาจะเขียนเรื่องคุณหนูลู่ชิงไปด้วยนิดหน่อย ให้เจียวมิ่งเอาไปเล่าให้ท่านอ๋องกับพระชายาฟัง คงจะตกใจจนคาดไม่ถึงเป็นแน่“พวกเจ้าเตรียมตัวไว้ให้พร้อมคืนนี้เข้ายามจื่อ พวกเราจะเริ่มลงมือเพื่อสะกดรอยตามคนพวกนั้น” เขาจะต้องติดตามและจับเป็นสายลับกลับเมืองหลวงให้ได้ หากชักช้าย่อมไม่เป็นผลดีกับชาวบ้านแถบชายแดน ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง ว่าจะเกิดสงครามขึ้นมายามใดนายช่างหานที่เดินสำรวจ และวัดพื้นที่ทั้งหมดของบ้านตระกูลสวี ก็แจ้งกับลู่เวินว่าต้องใช้เวลาในการสร้างบ้าน และสร้างกำแพงรอบบ้านนั้นประมาณสามเดือน เขาคิดราคารวมทั้งหมดแล้ว เป็นเงินห้าร้อยเจ็ดสิบตำลึงทองเพราะต้องใช้วัสดุอย่างดี และค่าจ้างคนงานที่ต้องจ้างมาเพิ่ม เมื่อตกลงและทำสัญญาเรียบร้อย นายช่างหานก็ได้ลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อยที่เขาไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ถึงกับเอ่ยปากชมลู่ชิงไม่หยุด แม้กระทั่งตอนจะกลับยังบอกอีกว่า

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 16 ประวัติของนางที่เขาได้รู้

    ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นล่างหนึ่งห้องนอนมีห้องน้ำเช่นกัน และมันเป็นห้องของลู่ชิงเอง ส่วนห้องน้ำอีกห้องเอาไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมบ้านนายช่างหานก็รับปากจะทำอย่างเต็มที่ และที่สำคัญเขาอยากเห็นบ้านหลังนี้ หลังจากสร้างเสร็จตามแบบที่ได้รับมาเร็ว ๆ เสียเหลือเกินตอนนี้หมดหน้าที่ของลู่ชิงตรงนี้แล้ว นางจึงขอตัวไปเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวมื้อเที่ยงสำหรับทุกคนลู่ชิงเข้ามาในบ้านก็เอ่ยชวนมารดาเข้าครัวด้วยกันทันที “ท่านแม่เจ้าคะ พวกเราเข้าครัวเตรียมทำอาหารมื้อเที่ยง รอท่านพ่อกับนายช่างหานกันเถิดเจ้าค่ะ”“ชิงเอ๋อร์จะให้แม่ทำตรงส่วนไหนบ้าง บอกมาได้เลยลูกแม่จะจำวิธีการทำไว้ เผื่ออยากกินอีกจะได้ลงมือทำเอง” ฟางซินชอบดูวิธีการทำอาหารของบุตรสาวมาก“ได้สิเจ้าคะ เช่นนั้นรบกวนท่านแม่ล้างพวกผักต่าง ๆ ที่ต้องใส่ในอาห

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 15 ได้ช่างปรับปรุงร้านค้า

    ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปรับปรุงร้านค้าและสร้างบ้านน่ะ” ลู่เวินถามกับคนงาน ที่กำลังเตรียมของอยู่ในลานบ้านของนายช่างหาน“หืม พวกท่านมาติดต่องานหรือขอรับ นายช่างหานอยู่ด้านใน พวกท่านเดินเข้าไปไม่ไกลก็เจอแล้วขอรับ” เขาตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่สุภาพ“ขอบใจมากนะน้องชาย”“ยินดีขอรับ” มีลูกค้ามาก็ต้องต้อนรับดี ๆ หน่อยลู่เวินพาทุกคนเดินเลยลานบ้านเข้ามา ก็ได้เจอนายช่างหานที่กำลังสั่งงานลูกน้องอยู่พอดี จึงเข้าไปทักทายอย่างสุภาพ“พี่ชายท่านนี้ไม่ทราบว่าใช่นายช่างหานหรือไม่ขอรับ ข้ามาติดต่อว่าจ้างไปปรับปรุงร้านค้ากับสร้างบ้านขอรับ” ลู่เวินเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ“อ้อ ข้านายช่างหานเอง เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจะมาจ้างงานข้าเช่นนั้นหรือ” นายช่างหานหันมาตอบลู่เวินอย่างเป็นธรรมชาติ“ใช่ขอรับ พวกเราได้ยินหลายคนพูดกันว่า ท่านมีฝีมือในการสร้างบ้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 14 ฉากเปิดตัวพระเอกหรือเปล่านะ?

    เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครัวที่ต้องลำบาก ประคับประคองชีวิตมาจนถึงตอนนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆลู่ชิงเอ่ยเช่นนี้เพราะอยากให้ครอบครัว ได้มีเวลาพักผ่อนเยอะ ๆ แม้ตอนนี้จะมีข้าวกินจนอิ่มท้องและมีน้ำจากบ่อวิเศษ แต่ร่างกายทุกคนยังดูผอมกันอยู่ จึงต้องทานอาหารบำรุงดี ๆ รวมถึงการพักผ่อนเพื่อให้ภายในร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ลู่เวินเข้าใจความห่วงใยนี้ของลู่ชิง และมันเป็นเรื่องจริงที่พวกเขา พยายามกันอยากมากกับการทำงานเลี้ยงชีพ เมื่อยามนี้พอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การพักฟื้นร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ “พ่อจะทำตามที่ชิงเอ๋อร์แนะนำเป็นอย่างดี รวมถึงท่านแม่และพี่ชายของเจ้าด้วยเช่นกัน”“ดีมากเจ้าค่ะ อิอิ”“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ เรื่องที่ไปหารือกับผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางซินกังวลว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เชื่อเรื่องอาชีพ“กา

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 13 ชาวบ้านยินดีแต่มีมนุษย์ป้าด้วยนะ

    ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ ว่าแต่พวกเจ้ามีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าในยามนี้เล่า”“ข้ากับบุตรสาวมีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน ถ้าครอบครัวข้าอยากจะหาอาชีพเสริม มาให้ชาวบ้านทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม ท่านอาหลิ่วคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ” เมื่อเข้ามานั่งด้านในบ้านแล้วลู่เวินก็พูดขึ้นทันที“อาชีพเสริมเช่นนั้นรึ ถ้ามันช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มข้าย่อมสนับสนุน หมู่บ้านของเราใช่ว่าจะมีฐานะร่ำรวย ยามเกิดภัยแล้งภัยหนาวล้วนลำบากทั้งนั้น กว่าทางการจะให้การช่วยเหลือ ผู้คนก็ล้มป่วยหรือตายจากญาติพี่น้องก็มี พวกเจ้าลองอธิบายให้ข้าฟังสักหน่อย หากเป็นงานที่ไม่ยากเกินไป ข้าจะได้เรียกทุกคนมาประชุมหารือร่วมกันทันที”เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ย่อมไม่อยากเห็นลูกบ้านของตนอยู่อย่างยากลำบากเกินไป เมื่อมีลู่ทางหาเงินเขาจะไม่สนับสนุนได้เช่นไร“เรื่องนี้

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 12 พี่ชายและสหายของเขา

    ด้านฟางซินและบุตรชายทั้งสอง เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่จนเรียบร้อย ทั้งสองคนจึงบอกกับมารดาว่าจะไปพบสหาย เพื่อพูดคุยเรื่องอาชีพเสริมที่น้องสาวคิดขึ้นมา นางอนุญาตให้พวกเขาไปหาสหายได้ ส่วนตนเองนั้นจะอยู่รอสามีกับบุตรสาวอยู่ตรงหน้าบ้านเอง“ท่านแม่ท่านพักผ่อนอยู่ที่บ้าน รอท่านพ่อกับน้องเล็กไปก่อน ข้ากับน้องรองจะไปพบสหายเสียหน่อย เพื่อคุยเรื่องอาชีพเสริมของน้องเล็กขอรับ”“ใช่แล้วท่านแม่ พวกเราสองคนไปไม่นานจะรีบกลับมาขอรับ”“พวกเจ้าไปเถอะแม่อยู่คนเดียวได้ อีกสักพักพ่อกับน้องสาวพวกเจ้าก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ”ลู่เวินบังคับเกวียนเข้าประตูบ้าน ภายหลังจากที่บุตรชายออกไปไม่ถึงหนึ่งจิบชา พอฟางซินเห็นสามีกับบุตรสาวกลับมาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า สามีไปเอาเกวียนมาจากที่ใดเพราะราคาน่าจะหลายตำลึง ทั้งยังเป็นเกวียนวัวที่มีหลังคาอีกด้วย“ท่านพี่นี่ท่านไปเอาเกวียนวัวจากที่ใดมาเจ้าคะ” ฟางซินเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นเขาบังคับเกวียนเล่มใหญ่เข้ามา“อ้อ เกวียนวัวเล่มนี้เป็นของครอบครัวของเรา เพราะต้องใช้มันขนของเพื่อไปพักในตำบลชั่วคราว หลังจากนี้พวกเราจะสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเดิม” ลู่เวินอธิบายให้ภรรยาข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status