หลังจากขนของลงจากรถเสร็จแล้ว แม่แก้วก็บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันได้เลย พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันแกะกล่อง และจัดของอีกที
คนอื่นก็เดินขึ้นบ้านเข้าห้องไปตามปกติ แต่คนที่ต้องเข้าไปเจอหน้าสามีที่เพิ่งเข้าหอด้วยกันครั้งแรกเมื่อคืน และเป็นคืนเข้าหอที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้อง เธอใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะเคาะประตูห้อง
หลังจากเคาะประตูห้องแล้ว ไข่มุกก็แทบกลั้นหายใจ ขณะที่รอเขามาเปิดประตูให้
พอประตูห้องเปิดออก ไข่มุกก็ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่มีมือเปิดเองหรือไง ทำไมต้องเคาะประตู”
“เอ่อ...” ก็เธอเคาะประตูตามมารยาทที่ควรทำไง ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องหอของเธอกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ในห้องกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมที่จะให้เธอเข้าไปในห้องหรือเปล่า เธอก็ต้องเคาะเพื่อขออนุญาต และรอเขามาเปิดให้
“ทีหลังไม่ต้องเคาะ อยากเข้าก็เข้ามา หรือถ้าชอบเคาะ ก็เคาะไป แล้วก็เปิดประตูเอง ไม่ต้องรอให้พี่มาเปิด มันน่ารำคาญ”
“ค่ะ” ไข่มุกรับคำแล้วก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในห้อง
เพราะเดินก้มหน้า และไม่มองเขา ไข่มุกจึงไม่รู้ภากรเดินไปมุมไหนของห้อง ส่วนเธอเดินไปเปิดประตูตู้ หยิบชุดนอนกระโปรงแบบเดิม ชุดชั้นใน และผ้าเช็ดตัวมาหอบไว้แนบอก แต่พอจะเดินเข้าห้องน้ำ เธอก็พบว่าร่างสูงยืนกอดอก พิงกรอบประตูขวางอยู่
ไข่มุกสูดลมหายใจลึกเพื่อเพิ่มพลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามองเขา
“เรามีบางอย่างต้องตกลงกัน” ภากรก้มมองสบตาคู่สวยด้วยสายตาดุ
“เอ่อ...ค่ะ”
“เราสองคนแต่งงานกันแล้ว และพี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถึงไม่รู้สึกรัก แต่พี่ก็อยากเอา ผู้ชายเอากับผู้หญิงคนไหนก็ได้ถึงจะไม่ได้รักก็ตาม”
“พี่กรบอกมุกแล้วค่ะ” ไข่มุกก้มหน้ามองแค่อกกว้าง เธอกำเสื้อผ้าในมือไว้แน่น
ภากรยิ้มเยาะ “พี่จ่ายเงินค่าสินสอดไปแล้ว พี่จะไม่ยอมควักกระเป๋าซื้อผู้หญิงบริการมาแก้เงี่ยนหรอกนะ มุกเป็นเมีย มุกต้องทำหน้าที่นี้”
ไข่มุกพยักหน้าน้อย ๆ “ค่ะ”
“พี่จะป้องกันด้วยการสวมถุงยางทุกครั้งที่เอากัน พี่ไม่อยากพลาดทำเธอท้อง เพราะอีกหน่อยเราก็เลิกกัน เด็กจะได้ไม่มีปมพ่อแม่แยกทางกัน”
“ค่ะ” ไข่มุกรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ความเจ็บแปลบเมื่อคืนยังผลให้เธอหวาดหวั่น
“ไปอาบน้ำ แล้วเตรียมตัวดี ๆ เพราะคืนนี้พี่จะเอาเธอและพี่อาจจะเอาหลายรอบ เพราะพี่เซ็กซ์จัด”
“เอ่อ...ค่ะ” แม้จะหวาดหวั่น แม้จะตื่นกลัว แต่เธอถอยหลังไม่ได้แล้ว เจ็บแค่ไหนก็คงไม่ถึงตายหรอก เธอคิดว่า เธออดทนได้
ไข่มุกใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร แต่ถึงจะนานเท่าไร คนที่นั่งรออยู่บนเตียงก็ยังไม่หลับ
พอได้ยินเสียงเปิดประตู คนรอก็หันมามอง
ไข่มุกเดินช้า ๆ ไปหยุดยืนข้างเตียงฝั่งที่เขานั่งอยู่
“มุกต้องทำยังไงคะ” ไข่มุกมองสบตาเขาแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง
“ถอดเสื้อผ้าออก”
คำสั่งที่น่าตกใจทำให้ไข่มุกเงยมองหน้าเขา เธอกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ยืนนิ่ง ลังเล แต่พอเขาขยับนั่งตัวตรง กอดอก แล้วจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ ไข่มุกก็รีบดึงชายกระโปรงชุดนอนผ้ายืดขึ้นมา ถอดมันออกทางศีรษะ แล้วเอามากอดไว้แนบอก
ภากรมองเมียวัยสิบแปดอย่างเหนื่อยหน่าย รำคาญตาที่เห็นเธอทำท่ากระมิดกระเมี้ยนเขินอาย
“จะเอาไปกอดไว้ทำไม วางมันลง แล้วก็รีบถอดชุดชั้นในออกด้วย” ภากรว่าแล้วถอนหายใจหงุดหงิด
“ถ้าไม่อยากทำก็กลับบ้านไป เราเลิกกันคืนนี้เลย”
ภากรว่าแล้วหันหน้าหนี
“ถอดค่ะ...ถอด มุกจะถอด”
ไข่มุกละล่ำละลักบอก แม้ไฟในห้องจะสว่างโร่ และการต้องถอดเสื้อผ้าให้เขามองทำให้เธออยากจะร้องไห้ แต่เพราะรู้ตัวว่าทำผิดต่อเขา ปกปิดความจริงบางอย่างไว้ เธอทำให้เขาต้องมารับผิดชอบทั้งที่เขาไม่ได้รัก ไข่มุกจึงยอมทำตามที่เขาสั่ง
ไข่มุกปล่อยชุดนอนลงบนพื้น มือบางปลดเปลื้องชุดชั้นในออกจากร่างกายจนเหลือเพียงตัวเปลือยเปล่า ไข่มุกประสานสองมือกุมไว้ตรงสัดส่วนความสาว
“มุกถอดออกหมดแล้วค่ะพี่กร”
ภากรถอนหายใจหงุดหงิด ก่อนจะหันกลับมามองคนยืนเปลือยอยู่ข้างเตียง
ตาคมเป็นประกายวาววับ เมื่อได้เห็นเรือนกายขาวนวลเย้ายวนเต็มตา แม้เมื่อคืนเขาจะเอาแต่ใจกับเธอแล้ว แต่เขาทำไปเพราะความเมา เขาจึงไม่ได้เห็นเรือนกายสาวเต็มตา ไม่ได้มองเห็นชัดเจนเหมือนตอนนี้ รอยดูดและขบเม้มสีแดงช้ำเป็นจ้ำที่เขาฝากไว้เมื่อคืน ยังผลให้เลือดหนุ่มแล่นพล่านสูบฉีดไปทั้งตัว ลำกายแกร่งแข็งคึกจนปวดไปทั้งลำ
ไข่มุกเป็นสาวเต็มตัวแล้ว เธอไม่ใช่ยัยเด็กตัวเล็กข้างบ้านที่วิ่งลอดรั้วมาขอขนมแม่เขากินเหมือนวันวานแล้ว แม้ไข่มุกจะตัวเล็ก สูงแค่อกของเขา แต่เต้านมอวบอิ่มกับสัดส่วนความสาวใหญ่เกินตัวมากนัก ช่วงขาเรียวสมส่วนของเธอยิ่งทำให้คนตัวเล็กเซ็กซี่น่ามอง และเขาก็มองจนเพลินตา
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
ใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เมื่อรับรู้ได้ว่าคนที่นอนกกกอดซ้อนหลังเธออยู่ขยับตัว ไออุ่นจากเรือนกายชายด้านหน้าที่แนบนาบแผ่นหลังของเธอทำให้หญิงสาวหายใจติดขัด ไหนจะแขนกำยำข้างหนึ่งที่กอดเอวบางไว้หลวม ๆ อีก แค่นี้ก็เล่นงานจนสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างเธอหัวใจแทบวายแล้ว และพอสัดส่วนความเป็นชายแข็งขึงดุนดันบั้นท้ายอวบอัด ไข่มุกก็แทบเป็นลมเสียงถอนหายใจ และวงแขนที่รัดแน่นขึ้นทำให้ไข่มุกหลับตาลง มือบางสองข้างกำผ้าห่มที่คลุมถึงอกไว้แน่น เธอเปลือย เขาก็เปลือย เรือนกายไร้อาภรณ์ของชายหญิงที่มีศักดิ์เป็นว่าที่พี่เขยกับว่าที่น้องเมียแนบชิดเกินงาม ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงของคนที่มีศักดิ์เป็นคู่หมั้นและพี่สาวของพวกเขา“กตจ๋า…” เสียงหวานหูเรียกหาพี่สาว ทั้งที่คนที่เขากกกอดอยู่คือน้องสาวไข่มุกไม่กล้ากระดุกกระดิก เธอแทบกลั้นหายใจในตอนที่ว่าที่พี่เขยขยับตัวกดเธอลงนอนหงาย แล้วขยับตามมาคร่อมทับเธอไว้ทั้งตัวเมื่อคนที่นอนอยู่ใต้ร่างไม่ใช่คนที่คิด และเป็นคนที่ไม่สมควรมาอยู่บนเตียงกับเขา ตาคมก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ“น้องมุก !”ภากรแทบสติแตกเมื่อคนที่เขาคิดว่าตัวเองนอนกกกอดมาทั้งคืนคือมรกต…คู่หมั้นที่จะแต่งงานกันใ
1 เจ้าสาวที่ไม่ได้เลือกวันวิวาห์ควรเป็นวันที่เจ้าสาวมีความสุข เธอควรยิ้มหวานสดใส ใบหน้าควรอิ่มเอิบ แววตาควรเปล่งประกายยินดี ทว่าสำหรับไข่มุกแล้ว วันวิวาห์ในวันนี้เป็นวันที่แสนขมขื่น ใบหน้าของเธอจึงหม่นเศร้า ในใจมีแต่ความรู้สึกผิด หวาดหวั่นและขลาดกลัว เพราะเธอเป็นเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไม่ได้เลือก เธอเป็นเจ้าสาวที่เขาจำใจแต่งงานด้วยเพราะความผิดพลาดเพียงชั่วข้ามคืนจริง ๆ แล้ว เจ้าสาวในวันนี้ควรเป็นมรกต...พี่สาววัย 24 ปีของเธอ แต่เพราะเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นเธอ ในขณะที่เจ้าบ่าวยังคงเป็นภากร...พี่ชายข้างบ้านที่อายุมากกว่าเธอแปดปีคนเดิม แม้ไม่เต็มใจแต่ง แต่เขาก็ยอมแต่งกับเธอเพราะพ่อกับแม่ของเขาบีบบังคับให้เขารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนงานแต่งงานในวันนี้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ถึงจะเป็นงานเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นภายในบริเวณบ้านเจ้าสาว แต่ก็มีการเชิญแขกคนสำคัญและญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายมาร่วมด้วย รวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว...ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาวของเธอ เพราะเธอไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องเข้าพิธีแต่ง
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห
หลังจากขนของลงจากรถเสร็จแล้ว แม่แก้วก็บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันได้เลย พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันแกะกล่อง และจัดของอีกทีคนอื่นก็เดินขึ้นบ้านเข้าห้องไปตามปกติ แต่คนที่ต้องเข้าไปเจอหน้าสามีที่เพิ่งเข้าหอด้วยกันครั้งแรกเมื่อคืน และเป็นคืนเข้าหอที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้อง เธอใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะเคาะประตูห้องหลังจากเคาะประตูห้องแล้ว ไข่มุกก็แทบกลั้นหายใจ ขณะที่รอเขามาเปิดประตูให้พอประตูห้องเปิดออก ไข่มุกก็ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา“ขอบคุณค่ะ”“ไม่มีมือเปิดเองหรือไง ทำไมต้องเคาะประตู”“เอ่อ...” ก็เธอเคาะประตูตามมารยาทที่ควรทำไง ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องหอของเธอกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ในห้องกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมที่จะให้เธอเข้าไปในห้องหรือเปล่า เธอก็ต้องเคาะเพื่อขออนุญาต และรอเขามาเปิดให้“ทีหลังไม่ต้องเคาะ อยากเข้าก็เข้ามา หรือถ้าชอบเคาะ ก็เคาะไป แล้วก็เปิดประตูเอง ไม่ต้องรอให้พี่มาเปิด มันน่ารำคาญ”“ค่ะ” ไข่มุกรับคำแล้วก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในห้องเพราะเดินก้มหน้า และไม่มองเขา ไข่มุกจึงไม่รู้ภากรเดินไปมุมไหนของห้อง ส่วนเธ
ภริดาเพิ่งควักเงินเก็บครึ่งหนึ่งซื้อคอนโดมิเนียมหรูใกล้ร้านอาหารของเธอ เธอซื้อเงินสดเพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยเงินกู้ จะว่างก เธอก็ยอมรับ แม้จะเสียดายเงินก้อนโต แต่เพื่อความสะดวกในการทำงาน และเธอเองจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เธอจึงยอมจ่าย ในส่วนเงินเก็บที่เหลือจากการซื้อคอนโด ครึ่งหนึ่ง เธอแบ่งไปลงทุนในแหล่งที่ไม่มีความเสี่ยง และอีกครึ่ง เธอนำไปลงหุ้นในแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ในส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงนี้ เธอให้บริษัทแนะนำการลงทุนเป็นคนจัดการให้ ดังนั้น...ตอนนี้เธอจนจริง ๆ นะ นี่ก็ต้องทำงานหัวหกก้นขวิด เพื่อหาเงินมาเติมส่วนที่พร่องไป“เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะให้เลี้ยงอีก”“ก็คุณพ่อรวยกว่าดา ไม่รู้ล่ะ มื้อนี้คุณพ่อจ่ายนะคะ”พ่อวัตกอดอก แล้วถอนหายใจ“เหม็นสาบคนจน เลี้ยงก็ได้”ภริดายิ้มแก้มปริ พอรถจอดติดสัญญาณไฟแดง เธอก็หันไปยิ้มแฉ่งให้บิดา“คุณภวัตสุดหล่อน่ารักที่ซู้ดดด”แม่แก้วถอนหายใจใส่คนเป็นพ่อ ไม่ว่าอย่างไรคุณภวัตก็ไม่เคยทนลูกอ้อนของลูกสาวได้สักที แม้ภริดาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานหาเงิน และรับผิดชอบตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เวลาอยู
หลังจากย้ายมาอยู่บ้านใหม่ได้ราวสิบปี พ่อกวีตัดสินใจเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เป็นปีเดียวกับที่มรกตเรียบจบปริญญาตรี พ่อกวีลาออกมาใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกเมีย แต่แม้ไม่ได้ทำงานแล้ว พ่อกวีก็ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่ดินมรดกที่อยู่ต่างจังหวัดหลายแปลง และมีรายได้จากการลงทุนหลายอย่าง เพราะท่านวางแผนการเกษียณมาอย่างดี ท่านจึงสามารถเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้อยู่ดีกินดีได้อย่างสบาย ๆหลังจากช่วยกันขนของช่วยกันจนเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองครอบครัวก็รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันที่บ้านของไข่มุกพอกินมื้อเที่ยงเสร็จ พ่อวัตกับแม่แก้วขอตัวกลับบ้านก่อน ส่วนไข่มุกอยู่พูดคุยกับพ่อ แม่ และพี่สาวเป็นครั้งแรกที่ทั้งครอบครัวได้จับเข่าคุยกันจริงจัง หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะหลังจากคืนก่อนนั้น ไข่มุกต้องเข้าพิธีแต่งงานกับภากร ทุกคนจึงวุ่นวายกับการจัดงาน จึงยังไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันแม่บุษรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก โดยมีลูกสาวทั้งสองนั่งขนาบข้าง พ่อกวีนั่งที่เก้าอี้ใกล้โซฟา คนเป็นพ่อนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ปล่อยให้แม่ลูกคุยกันตามประสาผู้หญิง“กตไม่อยากจมอยู่กับอดีตค่ะ