ภริดาเพิ่งควักเงินเก็บครึ่งหนึ่งซื้อคอนโดมิเนียมหรูใกล้ร้านอาหารของเธอ เธอซื้อเงินสดเพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยเงินกู้ จะว่างก เธอก็ยอมรับ แม้จะเสียดายเงินก้อนโต แต่เพื่อความสะดวกในการทำงาน และเธอเองจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เธอจึงยอมจ่าย ในส่วนเงินเก็บที่เหลือจากการซื้อคอนโด ครึ่งหนึ่ง เธอแบ่งไปลงทุนในแหล่งที่ไม่มีความเสี่ยง และอีกครึ่ง เธอนำไปลงหุ้นในแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ในส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงนี้ เธอให้บริษัทแนะนำการลงทุนเป็นคนจัดการให้ ดังนั้น...ตอนนี้เธอจนจริง ๆ นะ นี่ก็ต้องทำงานหัวหกก้นขวิด เพื่อหาเงินมาเติมส่วนที่พร่องไป
“เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะให้เลี้ยงอีก”
“ก็คุณพ่อรวยกว่าดา ไม่รู้ล่ะ มื้อนี้คุณพ่อจ่ายนะคะ”
พ่อวัตกอดอก แล้วถอนหายใจ
“เหม็นสาบคนจน เลี้ยงก็ได้”
ภริดายิ้มแก้มปริ พอรถจอดติดสัญญาณไฟแดง เธอก็หันไปยิ้มแฉ่งให้บิดา
“คุณภวัตสุดหล่อน่ารักที่ซู้ดดด”
แม่แก้วถอนหายใจใส่คนเป็นพ่อ ไม่ว่าอย่างไรคุณภวัตก็ไม่เคยทนลูกอ้อนของลูกสาวได้สักที แม้ภริดาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานหาเงิน และรับผิดชอบตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เวลาอยู่กับพ่อแม่ ลูกสาวคนโตของพวกท่านก็ยังอ้อนและพูดคุยหยอกล้อกับพ่อแม่เสมอ โดยเฉพาะกับคุณภวัตสุดหล่อของเธอ อ้อนทีไร อยากได้อะไรก็ได้ อ้อนกันจนน่าหมั่นไส้
“ว่าแต่น้องมุกอยากกินอะไร บอกมาได้เลย พี่ดาคนนี้จะทำหน้าที่สารถีพาไปเอง ส่วนคนคนจ่ายตังค์คือคุณพ่อ แล้วพี่จะบอกอะไรให้นะ” ภริดาเอนตัวไปทางน้องสะใภ้ ทำท่าเหมือนกระซิบกระซาบ แต่เสียงดังจนได้ยินกันทั้งรถ
“คุณพ่อรวยมาก อยากกินอะไรก็สั่งได้หมดเลย ไม่ต้องกลัวว่าคุณพ่อจะไม่มีตังค์จ่ายนะ นอกจากตังค์ที่เก็บไว้ในธนาคารแล้ว ยังมีตังค์ที่คุณพ่อซ่อนคุณแม่ไว้ในบ้านอีกเยอะ พี่รู้ พี่เคยเห็น”
“อะแฮ่ม !” คนที่ถูกลูกสาวนินทาระยะเผาขนส่งเสียงปราม “ตัดออกจากกองมรดกดีไหมฮึ !”
“ว้าย ๆ คุณแม่ขา ที่ดาพูดมาทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริงนะคะ ดาแค่ล้อเล่น” คนกลัวถูกคุณพ่อตัดออกจากกองมรดกรีบบอกเร็วปรื๋อ
พ่อวัตกับแม่แก้วหัวเราะคนพลิกลิ้นคำให้การเมื่อครู่
บทสนทนาและการหยอกล้อของภริดากับพ่อวัตทำให้ไข่มุกพลอยหัวเราะไปด้วย
“ตกลงว่าเราจะกินอะไรกันดีจ๊ะน้องมุก” ภริดาถามอย่างใส่ใจ เธอไม่ได้ถามส่ง ๆ เพราะอยากให้น้องสะใภ้ผ่อนคลาย และมีความสุขกับการมาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเธอ ไม่อยากให้เกรงใจจนเกินไป จนไม่กล้าพูดหรือไม่กล้าออกความเห็นอะไร
“มุกอยากกินสเต๊กค่ะ”
“สเต๊กเหรอ...ได้สิ ว่าแต่อยากกินร้านไหนจ๊ะ ว่ามาได้เลย”
ไข่มุกยิ้มดีใจที่จะได้กินสเต๊กร้านโปรด หญิงสาวบอกชื่อร้านที่เธออยากกินให้พี่ดาทราบ
พอน้องสะใภ้บอกชื่อร้าน ภริดาก็ร้อง อ๋อ ! ทันที เธอขับรถพาผู้โดยสารบนรถไปยังร้านสเต๊กที่ไข่มุกบอกโดยไม่ต้องถามทาง เพราะเธอเองก็ไปกินที่ร้านนี้บ่อยอยู่เหมือนกัน
พอได้ไปซื้อของใช้เข้าบ้าน ได้พูดคุยกันไปตลอดทางที่อยู่บนรถ และได้รับประทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน ไข่มุกก็ผ่อนคลาย และพูดคุยหยอกล้อกับครอบครัวใหม่ของเธอได้อย่างสนุกสนาน พ่อวัต แม่แก้ว และพี่ดา ให้ความเป็นกันเองกับเธอ และเอ็นดูเธอมาก จากเมื่อก่อนที่สนิทกันในระดับหนึ่ง แต่พอได้พูดคุยได้ทำกิจกรรมร่วมกันตลอดทั้งวัน ไข่มุกก็เริ่มสนิทสนมกับทุกคนมากขึ้น
ภริดาขับรถพาทุกคนกลับมาถึงบ้านตอนหกโมงเย็น เธอซื้อสเต๊กมาฝากน้องชายด้วย เพราะวันนี้ไม่ได้ทำอาหารมื้อเย็นไว้ เลยต้องซื้อกับข้าวมาให้คนที่ไม่ได้ไปกินที่ร้านด้วย
ไข่มุกเป็นคนลงไปเปิดประตูรั้ว พอเปิดประตูออก เธอจึงเห็นรถของภากรจอดอยู่ในโรงจอดรถข้างบ้าน สามีของเธอกลับมาแล้ว ตะวันก็ตกดินไปแล้ว ใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องอยู่กับเขาในห้องสองต่อสองอีกแล้วสินะ คืนนี้เขาจะทำเธอเจ็บอีกไหม หรือเขาจะว่าอะไรอีกหรือเปล่า...
“ทำไมกลับเร็ว” ภริดาถามน้องชายด้วยความแปลกใจ เมื่อเดินเข้ามาในห้องโถงของบ้าน แล้วพบว่าน้องชายนอนอยู่บนโซฟา
“ก็อยากกลับเร็ว” ภากรว่าพลางลุกขึ้นนั่ง พอเห็นว่าทุกคนที่เดินตามหลังพี่สาวเขาเข้ามาในบ้านพากันหอบข้าวของติดมือมาหลายอย่างเขาก็ขมวดคิ้ว
“ซื้ออะไรกันเยอะแยะครับ ตอนจะย้ายกลับบ้านตัวเอง คงลำบากขนหลายเที่ยว”
“นอกจากกวนตีนแล้วยังปากหมาอีก” ภริดาเบ้ปากใส่น้องชาย
“ยัยดา” แม่แก้วปรามลูกสาวเสียงดุ
ภากรไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพี่สาว เขาจึงลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินขึ้นบ้านไป
“ไอ้คนแล้งน้ำใจ จะขนช่วยสักนิดก็ไม่มี รู้อย่างนี้ ฉันไม่ซื้อของกินมาให้แกหรอก” ภริดาว่าตามหลัง และคาดโทษต่อว่า
“คอยดูเถอะ วันไหนแกน้ำตาเช็ดหัวเข่า ฉันจะไม่มีวันช่วยแกเด็ดขาด สาธุ ! ขอให้เมียทิ้ง”
“ยัยดา ! พอได้แล้ว ไปขนของจากรถมาไว้ในบ้านก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยจัด วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะได้พักผ่อนกัน” แม่แก้ววางของลงบนพื้น แล้วเดินออกไปขนของจากรถอีกรอบ
หลังจากขนของลงจากรถเสร็จแล้ว แม่แก้วก็บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันได้เลย พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันแกะกล่อง และจัดของอีกทีคนอื่นก็เดินขึ้นบ้านเข้าห้องไปตามปกติ แต่คนที่ต้องเข้าไปเจอหน้าสามีที่เพิ่งเข้าหอด้วยกันครั้งแรกเมื่อคืน และเป็นคืนเข้าหอที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้อง เธอใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะเคาะประตูห้องหลังจากเคาะประตูห้องแล้ว ไข่มุกก็แทบกลั้นหายใจ ขณะที่รอเขามาเปิดประตูให้พอประตูห้องเปิดออก ไข่มุกก็ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา“ขอบคุณค่ะ”“ไม่มีมือเปิดเองหรือไง ทำไมต้องเคาะประตู”“เอ่อ...” ก็เธอเคาะประตูตามมารยาทที่ควรทำไง ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องหอของเธอกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ในห้องกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมที่จะให้เธอเข้าไปในห้องหรือเปล่า เธอก็ต้องเคาะเพื่อขออนุญาต และรอเขามาเปิดให้“ทีหลังไม่ต้องเคาะ อยากเข้าก็เข้ามา หรือถ้าชอบเคาะ ก็เคาะไป แล้วก็เปิดประตูเอง ไม่ต้องรอให้พี่มาเปิด มันน่ารำคาญ”“ค่ะ” ไข่มุกรับคำแล้วก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในห้องเพราะเดินก้มหน้า และไม่มองเขา ไข่มุกจึงไม่รู้ภากรเดินไปมุมไหนของห้อง ส่วนเธ
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
ไข่มุกเหลือบมองคนที่นอนอยู่บนเตียง พอเห็นว่าเขายังไม่ตื่น เธอจึงเดินไปหยุดที่หน้ากระจกบานใหญ่ใกล้ตู้เสื้อผ้า หญิงสาวหมุนตัวไปมา มองดูตัวเองในกระจก แล้วยิ้มหวาน“กระโปรงสั้นไปไหม”เสียงเข้มดุของคนที่เธอคิดว่า เขายังหลับอยู่ ทำให้ไข่มุกหันขวับไปมอง จึงเห็นว่าเขาตื่นแล้ว และลุกขึ้นมานั่งมองเธออยู่ริมเตียงไข่มุกขมวดคิ้ว ก้มมองกระโปรง แล้วจึงเงยมองหน้าเขาอีกครั้ง“ไม่สั้นนะคะ เพื่อน ๆ ก็ใส่กันแบบนี้”“เอะอะก็อ้างเพื่อน แบบนี้ เดี๋ยวก็ติดเพื่อนแล้วก็เสียคน”พอถูกเขาว่า ไข่มุกก็ก้มหน้าถอนหายใจ“มุกไปเรียนนะคะ” เธอไม่อยากพูดกับเขามากไปกว่านี้ พูดอะไรก็มีแต่ว่า ไม่เคยจะพูดดีกับเธอสักที“รออยู่ข้างล่าง พี่จะไปส่ง”ไข่มุกเงยหน้า เบิกตากว้าง มองคนที่เพิ่งบอกว่าจะไปส่งเธอด้วยความแปลกใจภากรถอนหายใจแรง เขาลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจสองสามที แล้วบอกเมียเด็กปีหนึ่งด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า“แม่บอกให้ไปส่ง แต่บอกไว้ก่อนนะ พี่ไปส่งแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น วันหลังไปเอง”ไข่มุกยิ้มกว้างสดใส “ค่ะ ขอบคุณนะคะ”ยัยนักศึกษาปีหนึ่งลงไปข้างล่างแล้ว คนที่เพิ่งตื่นจึงเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการทำธุระส่วนตัว ทว่าใ
ไข่มุกและเพื่อน ๆ สวมเสื้อคาร์ดิแกนทับเสื้อนักศึกษา พวกเธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะตามที่พี่ดาบอกระหว่างนั่งกินอาหาร พี่ดาก็มานั่งร่วมโต๊ะด้วย ไข่มุกแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักพี่ดา เธอแนะนำว่าพี่ดาเป็นพี่สาวของคู่หมั้นของเธอคำว่าคู่หมั้น ทำให้ภริดาหันไปมองหน้าน้องสะใภ้ พอเห็นแววตาขอร้องของไข่มุก หญิงสาวจึงเออออห่อหมกตามว่า...น้องชายของเธอคือคู่หมั้นของไข่มุก“พี่โทรบอกคุณแม่ให้แล้วนะ ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง”“ขอบคุณค่ะพี่ดา”“วันนี้พี่ว่าจะกลับไปนอนบ้าน จะเลิกงานเร็วสักหน่อย มุกรอกลับพร้อมพี่นะ”“ค่ะ”ระหว่างที่สาว ๆ นั่งคุยกันอยู่ ลูกน้องในร้านก็เดินมาบอกภริดาว่า“คุณดาครับมีนักศึกษามาสมัครงานเป็นนักร้องครับ”ภริดาขมวดคิ้วมุ่น มองหาคนที่ลูกน้องบอก พอมองเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดียืนถือกีต้าร์อยู่ไม่ไกลจึงกวักมือเรียกให้เข้ามาหาพอชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ ภริดายังไม่ทันพูดอะไร ช่อใบบัวก็ทักทายคนที่มาสมัครงานก่อน“เวทิศ !”คนถูกเพื่อทักยิ้มตอบ “ไปไงมาไงอะ ทำไมต้องมาสมัครงาน” ช่อใบบัวเคยเรียนระดับมัธยมกับเวทิศ และเท่าที่เธอรู้จักประวัติของเขา เพื่อนชายของเธอคนนี้รวยมาก พ่อของเขาเ
วันไปเรียนวันแรกของไข่มุกราบรื่นทั้งวัน กระทั่งถึงตอนเย็น สามีจอมเจ้ากี้เจ้าการของเธอมารับถึงหน้าคณะ พอจอดรถแล้ว เขาก็ลงมายืนข้างรถ ทำให้เกิดเสียงฮือฮาจากลุ่มเพื่อนสาว ๆ ที่นั่งคุยกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ตึกคณะ“แก...ผู้ชายของใคร หล่อมากก” พลอยขวัญพูดพลางมองผู้ชายหล่อด้วยสายตาเพ้อฝันไข่มุกยิ้มแหย เธอเห็นด้วยกับยัยพลอยว่าเขาหล่อ แต่เพื่อนของเธอคงไม่รู้หรอกว่า เขาร้ายด้วย...ปากร้าย ใจร้าย“ยัยพลอย ตื่น ๆ หล่อขนาดนี้ เขามีเจ้าของแล้วแน่นอน” ช่อใบบัวสะกิดเพื่อนสาวยิก ๆ จะได้ตื่นจากฝัน“ฉันหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยความฝัน ตราบใดที่ยังไม่เห็นผู้หญิงคนไหนขึ้นรถไปกับเขา ฉันก็ยังมีความหวัง”“พลอย บัว มุกขอตัวกลับก่อนนะ” ไข่มุกสะพายกระเป๋า หยิบหนังสือขึ้นมาถือแนบอก แล้วลุกขึ้นไปยืนข้างโต๊ะ“มุกกลับยังไง พลอยไปส่งไหม” พลอยขวัญขับรถมาเรียน เธอจึงอาสาจะไปส่งเพื่อนด้วยความเต็มใจ“ขอบใจมากจ้ะพลอย แต่ไม่เป็นไร มีคนมารับมุกแล้ว”“ไหน...ใครมารับ คุณพ่อคุณแม่หรือเปล่า เราสองคนจะได้ไปไหว้สวัสดีพวกท่าน” ช่อใบบัวถามพลางมองหารถที่มารอรับไข่มุกไข่มุกส่ายหน้า เธอกำลังคิดว่าจะบอกเพื่อนว่าใครมารับดี“เอ่อ...คู่หมั้น
ไข่มุกเหลือบมองคนที่นอนอยู่บนเตียง พอเห็นว่าเขายังไม่ตื่น เธอจึงเดินไปหยุดที่หน้ากระจกบานใหญ่ใกล้ตู้เสื้อผ้า หญิงสาวหมุนตัวไปมา มองดูตัวเองในกระจก แล้วยิ้มหวาน“กระโปรงสั้นไปไหม”เสียงเข้มดุของคนที่เธอคิดว่า เขายังหลับอยู่ ทำให้ไข่มุกหันขวับไปมอง จึงเห็นว่าเขาตื่นแล้ว และลุกขึ้นมานั่งมองเธออยู่ริมเตียงไข่มุกขมวดคิ้ว ก้มมองกระโปรง แล้วจึงเงยมองหน้าเขาอีกครั้ง“ไม่สั้นนะคะ เพื่อน ๆ ก็ใส่กันแบบนี้”“เอะอะก็อ้างเพื่อน แบบนี้ เดี๋ยวก็ติดเพื่อนแล้วก็เสียคน”พอถูกเขาว่า ไข่มุกก็ก้มหน้าถอนหายใจ“มุกไปเรียนนะคะ” เธอไม่อยากพูดกับเขามากไปกว่านี้ พูดอะไรก็มีแต่ว่า ไม่เคยจะพูดดีกับเธอสักที“รออยู่ข้างล่าง พี่จะไปส่ง”ไข่มุกเงยหน้า เบิกตากว้าง มองคนที่เพิ่งบอกว่าจะไปส่งเธอด้วยความแปลกใจภากรถอนหายใจแรง เขาลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจสองสามที แล้วบอกเมียเด็กปีหนึ่งด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายว่า“แม่บอกให้ไปส่ง แต่บอกไว้ก่อนนะ พี่ไปส่งแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น วันหลังไปเอง”ไข่มุกยิ้มกว้างสดใส “ค่ะ ขอบคุณนะคะ”ยัยนักศึกษาปีหนึ่งลงไปข้างล่างแล้ว คนที่เพิ่งตื่นจึงเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการทำธุระส่วนตัว ทว่าใ
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห