ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้า
ภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่
เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาว
ภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกมาแกะ แล้วสวมครอบป้องกันตัวเอง ก่อนจะช้อนสองแขนลงใต้ร่างสาว มือข้างหนึ่งกอดเอวคอดไว้ มืออีกข้างช้อนใต้บั้นท้ายอวบอัดและจับตรึงไว้ แล้วค่อย ๆ ดุนดันผลักส่งแก่นกายเข้าสู่ร่องรักคับแน่น
เพียงแค่ส่วนหัวมนอวบแทรกเข้าสู่ปากทางร่องสาว ไข่มุกก็สะท้านเฮือก หญิงสาวไขว่คว้ากอดเขาเอาไว้เต็มวงแขน จิกเจ็บลงบนแผ่นหลังกว้างจนเป็นรอย พอเขาผลักส่งตัวตนเข้ามาอีกนิด ไข่มุกก็กรีดเล็บข่วนเขาจนเป็นรอยแผลยาว
“พี่กร...มุกเจ็บค่ะ” เสียงสั่นเครือ และมีน้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตาคู่สวย เขาใหญ่โต แข็งขึง และร้อนผ่าว แม้เธอจะเปียกลื่น และพรักพร้อมแล้ว แต่พอเขาล่วงล้ำเข้าสู่ร่างกายเพียงนิด ไข่มุกก็เจ็บจนน้ำตาซึม
“พูดมาก” ภากรดุ แล้วปิดปากนุ่มด้วยปากตัวเอง เขาล่อหลอกคนไม่ประสาด้วยจูบหวามใจ ขณะที่ค่อย ๆ สอดใส่ความเป็นชายเข้าสู่ร่องรักรัดรึง เธอนุ่มแน่นและคับแคบ บีบรัดเขาอย่างรุนแรง ดังนั้นไม่ใช่แค่เธอหรอกที่เจ็บ เขาก็เจ็บเช่นกัน
เมื่อต่างคนต่างเจ็บ ภากรจึงไม่อยากยื้อความเจ็บไว้นาน ขณะที่เขาหลอกล่อไข่มุกด้วยจูบ เขาจึงขยับบั้นเอวออกแรงผลักส่งความใหญ่โตแข็งกร้าวฝ่าปราการบางเบา สอดใส่สลักลึกแนบแน่นกลางร่องสาวสุดทางในคราเดียว
ไข่มุกเบิกตากว้าง เบี่ยงหน้าหนีจูบ แล้วหวีดร้องออกมาด้วยความเจ็บ น้ำตาไหลรินลงข้างหางตา ใบหน้าบิดเบ้ ปากอิ่มสั่นระริก เธอผลักบ่ากว้างของคนที่ทาบทับเธออยู่สุดแรง และพยายามดิ้นหนี แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นได้
ภากรซุกหน้ากับซอกคอระหง เขาหยุดนิ่ง ค้างคา ไม่ขยับ เพื่อให้ไข่มุกคุ้นชินกับการมีเขาอยู่ในตัวเธอ ทว่าร่องรักสดใหม่ก็ช่างไม่เป็นใจ ทว่า แม้เจ้าของเรือนกายจะสั่นสะท้านและต่อต้านเขา แต่กล้ามเนื้ออ่อนในร่องสาวกลับตอดรัดเขาหนุบหนับไปทั้งลำ
เมื่อไม่อาจอดทนต่อความสดความสาวที่โอบรัดเขาไว้ได้อีกต่อไป ภากรก็เริ่มขยับกาย ถอดถอนเกือบหลุด แล้วผลักส่งสอดใส่ลึกสุดลำ เขาส่ายบั้นเอวบดขยี้ขนหยาบกับติ่งเนื้อนุ่มกลางกลีบนวลนาง ขยับในจังหวะเดิมซ้ำ ๆ อย่างใจเย็น และทำมันอย่างเชื่องช้า ต่อเมื่อไข่มุกเลิกผลักไสแล้วเปลี่ยนมาโอบกอดเขาไว้เต็มวงแขน ทั้งยังขยับบั้นท้ายแอ่นตามในตอนที่เขาถอดถอน ภากรจึงเติมเต็มให้เธอในจังหวะที่เร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่กร...อื๊อ ๆ” ไข่มุกครางเสียงแผ่วแว่วหวานไปตามจังหวะที่เขาสลักรัก ร่างกายโยกคลอนไปตามแรงที่เขาโจนจ้วงเข้าใส่ ลึกล้ำหนักแน่น แก่นกายที่ขับเคลื่อนเข้าออกในร่องสาว ก่อให้เกิดความวูบวาบเสียดเสียวอย่างรุนแรง เมื่อเขาโถมถั่ง ขยับบั้นเอวถี่ยิบ ไข่มุกก็หลุดลอยไปยังปลายทางสุขสมอีกครั้ง เธอแตกกระจายขณะที่เขายังโจนจ้วงล้ำลึกไม่หยุด
ไข่มุกหวีดร้อง และดีดดิ้นอยู่ในร่างใหญ่ พี่กรขยับบั้นเอวขับเคลื่อนแก่นกายเข้าออกอย่างดุดันถี่ยิบ ก่อนจะกระแทกแรงครั้งสุดท้าย ฝากฝังตัวตนลึกสุดทาง แล้วปลดปล่อยตัวเอง พร้อมกับครางลึกในลำคอ ลำกายที่กระตุกอยู่ในซอกสาวทำให้ไข่มุกเสียวสะท้านซ่านสยิว เธอจึงแตกกระจายและโบยบินไปยังปลายทางแสงดาวอีกครั้งพร้อมกับเขา
4 ระยะห่างระหว่างเรา
ไข่มุกตื่นเช้ามาด้วยอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัว อีกทั้งยังเจ็บระบมกลางซอกขา แม้ขยับตัวเพียงนิด ใบหน้าก็ต้องบิดเบ้เหยเกเพราะเจ็บ พอลุกขึ้นนั่งบนเตียง และก้มมองสำรวจตัวเอง เธอก็พบว่า ร่างกายมีร่อยที่เกิดจากปากและมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีอยู่เต็ม ยังดีที่มันเป็นรอยอยู่ใต้ร่มผ้า เมื่อสวมเสื้อผ้าแล้วก็จะไม่มีใครเห็นรอยพวกนี้
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้คนที่กำลังก้มสำรวจตัวเองหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกับร่างสูงที่นุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวมองมาที่เธอเช่นกัน ตาคมวาววับทั้งดุมองเธอเพียงแวบเดียวก็หันไปทางอื่น
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
ใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เมื่อรับรู้ได้ว่าคนที่นอนกกกอดซ้อนหลังเธออยู่ขยับตัว ไออุ่นจากเรือนกายชายด้านหน้าที่แนบนาบแผ่นหลังของเธอทำให้หญิงสาวหายใจติดขัด ไหนจะแขนกำยำข้างหนึ่งที่กอดเอวบางไว้หลวม ๆ อีก แค่นี้ก็เล่นงานจนสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างเธอหัวใจแทบวายแล้ว และพอสัดส่วนความเป็นชายแข็งขึงดุนดันบั้นท้ายอวบอัด ไข่มุกก็แทบเป็นลมเสียงถอนหายใจ และวงแขนที่รัดแน่นขึ้นทำให้ไข่มุกหลับตาลง มือบางสองข้างกำผ้าห่มที่คลุมถึงอกไว้แน่น เธอเปลือย เขาก็เปลือย เรือนกายไร้อาภรณ์ของชายหญิงที่มีศักดิ์เป็นว่าที่พี่เขยกับว่าที่น้องเมียแนบชิดเกินงาม ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงของคนที่มีศักดิ์เป็นคู่หมั้นและพี่สาวของพวกเขา“กตจ๋า…” เสียงหวานหูเรียกหาพี่สาว ทั้งที่คนที่เขากกกอดอยู่คือน้องสาวไข่มุกไม่กล้ากระดุกกระดิก เธอแทบกลั้นหายใจในตอนที่ว่าที่พี่เขยขยับตัวกดเธอลงนอนหงาย แล้วขยับตามมาคร่อมทับเธอไว้ทั้งตัวเมื่อคนที่นอนอยู่ใต้ร่างไม่ใช่คนที่คิด และเป็นคนที่ไม่สมควรมาอยู่บนเตียงกับเขา ตาคมก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ“น้องมุก !”ภากรแทบสติแตกเมื่อคนที่เขาคิดว่าตัวเองนอนกกกอดมาทั้งคืนคือมรกต…คู่หมั้นที่จะแต่งงานกันใ
1 เจ้าสาวที่ไม่ได้เลือกวันวิวาห์ควรเป็นวันที่เจ้าสาวมีความสุข เธอควรยิ้มหวานสดใส ใบหน้าควรอิ่มเอิบ แววตาควรเปล่งประกายยินดี ทว่าสำหรับไข่มุกแล้ว วันวิวาห์ในวันนี้เป็นวันที่แสนขมขื่น ใบหน้าของเธอจึงหม่นเศร้า ในใจมีแต่ความรู้สึกผิด หวาดหวั่นและขลาดกลัว เพราะเธอเป็นเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวไม่ได้เลือก เธอเป็นเจ้าสาวที่เขาจำใจแต่งงานด้วยเพราะความผิดพลาดเพียงชั่วข้ามคืนจริง ๆ แล้ว เจ้าสาวในวันนี้ควรเป็นมรกต...พี่สาววัย 24 ปีของเธอ แต่เพราะเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นเธอ ในขณะที่เจ้าบ่าวยังคงเป็นภากร...พี่ชายข้างบ้านที่อายุมากกว่าเธอแปดปีคนเดิม แม้ไม่เต็มใจแต่ง แต่เขาก็ยอมแต่งกับเธอเพราะพ่อกับแม่ของเขาบีบบังคับให้เขารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนงานแต่งงานในวันนี้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ถึงจะเป็นงานเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นภายในบริเวณบ้านเจ้าสาว แต่ก็มีการเชิญแขกคนสำคัญและญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายมาร่วมด้วย รวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว...ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาวของเธอ เพราะเธอไม่ได้เตรียมตัวว่าจะต้องเข้าพิธีแต่ง
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันอย่างหนักใจ“แต่งงานกันแล้ว ก็ควรจดจะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย” แม่แก้วอยากจะต่อว่าลูกชายที่พูดจาไม่ดีในวันแต่งงาน แต่เพราะเกรงใจฝ่ายเจ้าสาว ท่านจึงพยายามพูดกับลูกชายดี ๆ“จะจดทำไมครับ ยังไงผมกับมุกก็ต้องเลิกกันอยู่ดี”“เจ้ากร !” พ่อภวัตเรียกลูกชายเสียงดังด้วยความโมโห ท่านจ้องหน้าลูกชายด้วยสายตาดุไม่พอใจ“ไม่จดก็ได้ค่ะ มุกไม่มีปัญหาอะไร เวลาติดต่อราชการหรือทำธุรกรรมจะได้ไม่ยุ่งยากต้องแนบเอกสารใบทะเบียนสมรสเพิ่ม”“งั้นก็ตามนี้ ไม่จดทะเบียนสมรส ทุกคนมีเรื่องจะคุยกับผมแค่นี้ใช่ไหมครับ ผมขอตัวออกไปดื่มกับเพื่อน ๆ ต่อนะครับ”ร่างสูงของเจ้าบ่าวเดินออกจากห้องไปโดยไม่เหลียวหลัง เขาไม่สนใจสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหนักใจของผู้ใหญ่ทั้งสี่คน ส่วนเจ้าสาวนั้นพยายามฝืนยิ้มให้ทุกคน สองมือที่ประสานอยู่บนตักบีบแน่น“เอาไว้มุกเรียนจบแล้ว แม่จะบอกให้พี่เขาพาหนูไปจดทะเบียนสมรสนะ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของแม่แก้ว ทำให้ไข่มุกยิ้มกว้างขึ้น หญิงสาวพยักหน้ารับฟังคำบอกของท่านเมื่อทุกคนเห็นพ้องกันกับแม่แก้วว่า รอให้ไข่มุกเรียนจบ แล้วค่อยจดทะเบียนสมรสก็ได้ ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนจึงออก
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายยอมให้ทั้งคู่ไม่จดทะเบียนกัน แต่ไม่มีใครยอมให้บ่าวสาวแยกห้องนอนกันในคืนเข้าหอคืนแรกค่ำคืนนี้ ไข่มุกจึงต้องย้ายที่นอนจากบ้านตัวเองมานอนบ้านเจ้าบ่าว ในห้องหอที่ไร้เงาเจ้าบ่าว เพราะเขายังนั่งดื่มกับเพื่อนที่โต๊ะหน้าบ้านของเขาข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของเธอถูกขนมาไว้ในห้องนี้บางส่วนแล้ว รวมถึงพี่เน่า...ตุ๊กตาปลาโลมาสีชมพูขนาดสองฟุตของเธอด้วยเสียงเอะอะและเสียงโห่ร้องที่ดังมาจากหน้าบ้าน ทำให้ไข่มุกอุ้มพี่เน่าไปแอบส่องดูที่หน้าต่าง หญิงสาวแง้มผ้าม่านออกเล็กน้อย เมื่อมองลงไป เธอเห็นเจ้าบ่าวของเธอเดินเซอย่างคนเมา เขากำลังจะเข้ามาในบ้าน“สุขสันต์คืนเข้าหอนะไอ้กร”“ไม่สว่างไม่เลิกเอา เอ๊ย ! ไม่เลิกรานะโว้ย ! ฮิ้ววว”เสียงเพื่อน ๆ ของเขาโห่แซวไล่หลังมาอย่างสนุกสนาน แต่ไข่มุกไม่ได้ยินเสียงเจ้าบ่าวของเธอพูดอะไรสักคำไข่มุกปิดผ้าม่านไว้ตามเดิม เธอหันไปมองนาฬิกาเรือนเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงอีกสิบนาทีก็จะห้าทุ่มแล้ว...เจ้าบ่าวของเธอต่อรองกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายว่า เขายอมเข้าหอกับเธอ ยอมให้เธอมานอนในห้องหอด้วย แต่เขาขอดื่มฉลองงานวิวาห์กับเพื่อน ๆ จนถึงห้าทุ่ม แล้วถึงจะขึ้นห
ภากร ธันวา และอชิระ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทำงานคนละบริษัท แต่ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ กิจการของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตในปีแรก และหากได้ทำงานโพรเจกต์ใหญ่ล่าสุดที่กำลังลุ้นกันอยู่ ในปีนี้...บริษัทของพวกเขาจะเติบโตแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวคนถูกเพื่อนแซวถอนหายใจแรง ภากรปล่อยให้เพื่อนพูดไปเรื่อย ส่วนเขานั่งเงียบมองจอโทรศัพท์ พอไข่มุกส่งเลขที่บัญชีมา เขาก็จัดการโอนเงินให้เธอทันทีเป็นจำนวนสามหมื่นบาท แล้วส่งข้อความขู่กลับไปด้วยความหงุดหงิดคืนนี้เธอโดนเอาหนักแน่เงินแค่นี้เขาให้ได้ ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกไม่ยอมบอกเขา แต่ละวันเขาต้องทำงานหนัก บางวันก็ออกตรวจงาน ยิ่งช่วงนี้เขากับเพื่อนกำลังลุ้นงานตรวจงานระบบอาคารโปรเจคใหญ่ด้วย เขาจึงไม่มีเวลาไปถามไถ่เธอหรอกว่า เธอจะเปิดเรียนวันไหน ต้องการเงินรายเดือนเท่าไร เขาโดนคุณแม่ต่อว่าเรื่องโน้ตบุ๊กใหม่ของเธอแล้ว วันนี้เขายังต้องมาโดนกล่าวหาว่าไม่ดูดำดูดีเธออีก โทษฐานที่ทำให้เขาหงุดหงิด คืนนี้เขาจะเอาคืนให้หนักเชียวพอโอนเงินให้เมียและจัดก
มีคนเคยบอกว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ส่วนช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรามักจะรู้สึกว่ามันอยู่กับเรายาวนานเหลือเกิน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เวลาที่ผ่านไปนั้นช้าเร็วไม่ต่างกัน เพียงแต่เราหวงแหนช่วงเวลาแห่งความสุข อยากรั้งมันไว้นาน ๆ เราจึงคิดกันไปเองว่า เวลามันผ่านไปเร็ว แต่พอเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เราก็มักจะภาวนาขอให้ผ่านไปเร็ว ๆ คิดวนเวียนหมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เราเลยรู้สึกกันว่า ช่วงเวลาทุกข์ช่างยาวนานแถมยังทรมานอีกด้วยสำหรับไข่มุกแล้ว ไม่ว่าจะช่วงเวลาสุขหรือทุกข์ เธอก็เลือกที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ แม้จะทุกข์ แม้จะมีคราบน้ำตา แต่เธอก็มองเห็นความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในช่วงเวลานั้นสองสัปดาห์แล้วที่เธอย้ายมาอยู่บ้านสามี ทุกคนในครอบครัวของเขาดีกับเธอมาก ขนาดพี่ดาไปพักอยู่คอนโดยังโทรมาพูดคุยกับเธอบ่อย ๆ พ่อวัตกับแม่แก้วก็เอาใจเธอยิ่งกว่าคุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียอีก ยกเว้นก็แต่สามีของเธอ นอกจากคำพูดเหน็บแนมและเอ่ยปากไล่เธอทุกครั้งที่เธอขัดใจ เขายังชอบเอาแต่ใจกับเธอด้วยแต่ไข่มุกก็มองว่า นี่คือผลจากการกระทำของเธอเอง และเธอเลือกเข้ามาอยู่จุดนี้เอง แม้
“น้องมุกเตรียมของ เตรียมชุดนักศึกษาครบหรือยังลูก” แม่แก้วถามในตอนที่กำลังกินอาหารมื้อค่ำกันอยู่“เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้วค่ะแม่แก้ว เหลือโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังไม่ได้ไปซื้อค่ะ วันนี้ตอนเอาแกงเทโพไปให้ที่บ้าน คุณพ่อบอกว่าจะพาไปซื้อสัปดาห์หน้าค่ะ”“โน้ตบุ๊กหรือ ทำไมต้องไปรบกวนคุณกวีด้วยล่ะ น้องมุกแต่งงานมีสามีแล้ว ก็ให้สามีซื้อให้สิ” พอบอกลูกสะใภ้แล้ว แม่แก้วก็หันไปบอกลูกชายว่า “ตากร...วันหยุดนี้พาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กใหม่หน่อยนะลูก”“ผมไม่ว่างครับ” ภากรตอบแทบจะทันทีหลังจากที่แม่แก้วพูดจบคนเป็นแม่ถอนหายใจ มองค้อนลูกชาย แล้วหันถามสามี“คุณวัตคะ พรุ่งนี้ว่างไหมคะ”“ว่างสิ สำหรับคุณผมว่างเสมอแหละ”แม่แก้วยิ้มพอใจ “งั้นก็ดีเลยค่ะ พรุ่งนี้เราพาน้องมุกไปซื้อโน้ตบุ๊กกันเถอะนะคะ”“ได้สิ น้องมุกอยากได้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนก็บอกมา พ่อซื้อให้ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย เพราะพ่อถือว่าน้องมุกเป็นลูกสาวของพ่ออีกคน”“เอ่อ...ค่ะ ขอบคุณพ่อวัตกับแม่แก้วมากนะคะ”“ไม่เป็นไรลูก อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ ในเมื่อแม่กับพ่อรับมุกมาเป็นสะใภ้แล้ว เราก็จะดูแลมุกให้ดีที่สุด ใครไม่ดูแลก็ช่างมัน อย่าไปสนใจ”คนที่ถูกแม่แขวะแทบสำลั
ภากรเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดทำงานออกมา พอเขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมอย่างไม่เกรงใจสายตาใครอีกคนที่มองเขาอยู่ คนมองจึงรีบก้มมองตักตัวเองบรรยากาศยามเช้าในห้องของคู่ข้าวใหม่ปลามันช่างอึมครึม ทั้งที่เมื่อคืนเขากับเธอกอดก่ายแนบชิด ร่วมรักกันอย่างดุดันเร่าร้อนตั้งหลายครั้ง แต่พอตื่นเช้ามา เขาก็ทำราวกับว่า เธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ภากรใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็แต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์ กุญแจรถ กระเป๋าโน้ตบุ๊ก แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวจึงเห็นว่า สามีสวมชุดทำงาน เธอเห็นแค่ด้านหลังของเขา และเห็นเพียงแวบเดียว ก่อนเขาจะดึงประตูห้องปิดลงไข่มุกถอนหายใจบางเบา ค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียง พอลุกขึ้นยืนข้างเตียงแล้วหันกลับไปมองร่องรอยที่เขากับเธอร่วมกันทำไว้เมื่อคืน ไข่มุกก็ต้องเม้มปากแน่นผ้าปูที่นอนสีชมพูมีจุดสีแดงอยู่กลางเตียง...ก็จริงอยู่ที่คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้วัดกันที่เยื่อพรหมจรรย์ แต่มันจะดีกว่าไหม ถ้าคนที่ได้มันไปจากเธอจะทะนุถนอม และจะโอบกอดปลอบโยนเธอสักนิดหลังจากที่เขาเสร็จสมไปห้าครั้งเมื่อคืนพี่กรนอนหันหลังให้เธอทันทีหลังจากปลดปล่
ภากรเก็บกลืนหยาดน้ำหวานสาวจนเกลี้ยง เขาจูบกลางกลีบเนื้อนวลหนัก ๆ แล้วปาดเลียบางเบา แต่เพียงบางเบา ร่างสาวก็สั่นกระตุก เจ้าของเนื้อนวลที่ถูกเขาฉกชิมรสชาติครางเสียงหวานเซ็กซี่ อาการตอบสนองของไข่มุกทำให้ภากรยิ้มในหน้าภากรปล่อยขาเรียววางลงบนที่นอน เขาถอดอาภรณ์ที่ปกปิดช่วงล่างของตนออกจนหมด ขณะที่จัดการกับตัวเอง ตาคมก็ไม่ละสายตาไปจากคนที่นอนหอบหายใจแรงเพราะเพิ่งผ่านจุดสุขสมมาเมื่อครู่เมื่อสองกายเปล่าเปลือยเท่าเทียม คนตัวโตก็โน้มตัวลงมาทาบทับร่างสาวอีกครั้ง เขาวางสองมือค้ำยันตัวเองไว้ข้างศีรษะของเธอ ใช้หัวเข่าดันแยกต้นขาขาวให้กางออก แล้วกดตัวตนความเป็นชายนาบลงไปกลางกลีบเนื้อนวล กดเน้น ๆ แล้วขยับบั้นท้ายช้า ๆ ให้ลำกายแข็งกร้าวบดขยี้จุดที่ไวต่อสัมผัส ตาคู่คมจับจ้องดวงหน้าสาว แววตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย“อื๊อ...” ไข่มุกขยุ้มผ้าปูที่นอนเต็มสองมือ แอ่นบั้นท้ายขยับส่ายร่อนร้อนรน ซอกสาวร้อนวูบวาบ ร่องรักคัดหลั่งน้ำหวานออกมาจนเปียกเปื้อนเต็มซอกขา ทั้งยังชโลมลำกายแกร่งจนมันวาวภากรลดตัวลงนาบกับเรือนกายนุ่ม เขาเสียเวลาเพียงนิดในตอนที่ยื่นมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเล็กข้างหัวเตียง หยิบซองถุงยางอนามัยออกม
“มุกต้องทำยังไงต่อคะ”หากไข่มุกไม่ถาม คนที่เอาแต่มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอก็คงยังมองอยู่อีกนาน“ขึ้นมาบนเตียงสิ แล้วนอนอ้าขาให้พี่เอา”ไข่มุกเม้มปากแน่น จุกในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอกำลังจะได้ทำหน้าที่บนเตียงในฐานะเมีย แต่สำหรับเขา เธอก็แค่คนที่เขาใช้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศ...ไม่ต่างจากหญิงขายบริการไข่มุกคลานขึ้นเตียงไปนอนลงกลางเตียง เธอตะแคงหน้าหันมองไปอีกทาง เพราะไม่กล้าสบตาคมดุ ไข่มุกใช้แขนและมือข้างซ้ายปิดเต้านมสองข้าง และวางมือข้างขวาลงตรงกึ่งกลางหว่างขา แถมยังหนีบขาไว้แน่น“ปิดทำไม ถ้าไม่อยากให้ทำก็ลุกขึ้น ขนของกลับบ้านไป”เสียงเข้มดุของคนที่นั่งมองเรือนกายสาวอยู่ทำให้ไข่มุกค่อย ๆ เลื่อนสองแขนวางลงข้างลำตัว ความหวาดหวั่นและตื่นกลัวทำให้ไข่มุกหอบหายใจแรง ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง เต้าสาวกระเพื่อมไหว เม็ดเนื้อนุ่มสีชมพูบนยอดเต้าเต่งตึงหดแข็งภากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เรือนกายขาวนวลและเย้ายวนของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียกระตุ้นความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง ท่าทางขัดเขินไร้เดียงสาของไข่มุกยิ่งทำให้เขาอยากรังแกเธอ“อ๊ะ !” ไข่มุกอุทานตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่ขยับมาคร่อมทับเธออย่างรวดเร็ว ห
หลังจากขนของลงจากรถเสร็จแล้ว แม่แก้วก็บอกให้ทุกคนไปอาบน้ำอาบท่าแล้วพักผ่อนกันได้เลย พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันแกะกล่อง และจัดของอีกทีคนอื่นก็เดินขึ้นบ้านเข้าห้องไปตามปกติ แต่คนที่ต้องเข้าไปเจอหน้าสามีที่เพิ่งเข้าหอด้วยกันครั้งแรกเมื่อคืน และเป็นคืนเข้าหอที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้อง เธอใช้เวลาครู่ใหญ่ กว่าจะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะเคาะประตูห้องหลังจากเคาะประตูห้องแล้ว ไข่มุกก็แทบกลั้นหายใจ ขณะที่รอเขามาเปิดประตูให้พอประตูห้องเปิดออก ไข่มุกก็ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาเขา“ขอบคุณค่ะ”“ไม่มีมือเปิดเองหรือไง ทำไมต้องเคาะประตู”“เอ่อ...” ก็เธอเคาะประตูตามมารยาทที่ควรทำไง ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องหอของเธอกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาที่อยู่ในห้องกำลังทำอะไรอยู่ พร้อมที่จะให้เธอเข้าไปในห้องหรือเปล่า เธอก็ต้องเคาะเพื่อขออนุญาต และรอเขามาเปิดให้“ทีหลังไม่ต้องเคาะ อยากเข้าก็เข้ามา หรือถ้าชอบเคาะ ก็เคาะไป แล้วก็เปิดประตูเอง ไม่ต้องรอให้พี่มาเปิด มันน่ารำคาญ”“ค่ะ” ไข่มุกรับคำแล้วก้มหน้าเดินตามเขาเข้าไปในห้องเพราะเดินก้มหน้า และไม่มองเขา ไข่มุกจึงไม่รู้ภากรเดินไปมุมไหนของห้อง ส่วนเธ
ภริดาเพิ่งควักเงินเก็บครึ่งหนึ่งซื้อคอนโดมิเนียมหรูใกล้ร้านอาหารของเธอ เธอซื้อเงินสดเพราะไม่อยากเสียดอกเบี้ยเงินกู้ จะว่างก เธอก็ยอมรับ แม้จะเสียดายเงินก้อนโต แต่เพื่อความสะดวกในการทำงาน และเธอเองจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เธอจึงยอมจ่าย ในส่วนเงินเก็บที่เหลือจากการซื้อคอนโด ครึ่งหนึ่ง เธอแบ่งไปลงทุนในแหล่งที่ไม่มีความเสี่ยง และอีกครึ่ง เธอนำไปลงหุ้นในแหล่งที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน ในส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงนี้ เธอให้บริษัทแนะนำการลงทุนเป็นคนจัดการให้ ดังนั้น...ตอนนี้เธอจนจริง ๆ นะ นี่ก็ต้องทำงานหัวหกก้นขวิด เพื่อหาเงินมาเติมส่วนที่พร่องไป“เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้ว ยังจะให้เลี้ยงอีก”“ก็คุณพ่อรวยกว่าดา ไม่รู้ล่ะ มื้อนี้คุณพ่อจ่ายนะคะ”พ่อวัตกอดอก แล้วถอนหายใจ“เหม็นสาบคนจน เลี้ยงก็ได้”ภริดายิ้มแก้มปริ พอรถจอดติดสัญญาณไฟแดง เธอก็หันไปยิ้มแฉ่งให้บิดา“คุณภวัตสุดหล่อน่ารักที่ซู้ดดด”แม่แก้วถอนหายใจใส่คนเป็นพ่อ ไม่ว่าอย่างไรคุณภวัตก็ไม่เคยทนลูกอ้อนของลูกสาวได้สักที แม้ภริดาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานหาเงิน และรับผิดชอบตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เวลาอยู
หลังจากย้ายมาอยู่บ้านใหม่ได้ราวสิบปี พ่อกวีตัดสินใจเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เป็นปีเดียวกับที่มรกตเรียบจบปริญญาตรี พ่อกวีลาออกมาใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกเมีย แต่แม้ไม่ได้ทำงานแล้ว พ่อกวีก็ยังมีรายได้จากการให้เช่าที่ดินมรดกที่อยู่ต่างจังหวัดหลายแปลง และมีรายได้จากการลงทุนหลายอย่าง เพราะท่านวางแผนการเกษียณมาอย่างดี ท่านจึงสามารถเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้อยู่ดีกินดีได้อย่างสบาย ๆหลังจากช่วยกันขนของช่วยกันจนเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองครอบครัวก็รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันที่บ้านของไข่มุกพอกินมื้อเที่ยงเสร็จ พ่อวัตกับแม่แก้วขอตัวกลับบ้านก่อน ส่วนไข่มุกอยู่พูดคุยกับพ่อ แม่ และพี่สาวเป็นครั้งแรกที่ทั้งครอบครัวได้จับเข่าคุยกันจริงจัง หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะหลังจากคืนก่อนนั้น ไข่มุกต้องเข้าพิธีแต่งงานกับภากร ทุกคนจึงวุ่นวายกับการจัดงาน จึงยังไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันแม่บุษรานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก โดยมีลูกสาวทั้งสองนั่งขนาบข้าง พ่อกวีนั่งที่เก้าอี้ใกล้โซฟา คนเป็นพ่อนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ปล่อยให้แม่ลูกคุยกันตามประสาผู้หญิง“กตไม่อยากจมอยู่กับอดีตค่ะ