Home / แฟนตาซี / การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ / บทที่ 3 “ตำรามหาเสน่ห์”

Share

บทที่ 3 “ตำรามหาเสน่ห์”

last update Last Updated: 2024-10-31 12:01:41

จิรพัฒน์และราชาถูกสั่งให้มาเก็บกวาดห้องเก็บคัมภีร์ ตำราโบราณ ภายในเรือนไทยหลังงาม ส่วนลุงนินนั้นได้ลงไปยันเรือนเล็กเพื่อถอนของให้ลูกศิษย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในตัวเรือนใหญ่จึงเหลือแค่ราชรณวรกับคนน้องอย่างเจ้าจอมเท่านั้น

"รีบไปเก็บเถอะ กูจะได้กลับไปนอน" จิรพัฒน์เอ่ยปากบอกอีกคน

"อืม" ราชรณวรพยักหน้ารับคำ

แม้จะรู้ว่าเจ้าจอมอายุน้อยกว่าตน แต่ราชาก็ไม่ใช่คนซีเรียส หากคนน้องไม่อยากเรียกเขาว่าพี่ ใยเล่าเขาจะไปบังคับอีกฝ่ายได้

เมื่อยามที่พวกเขาเข้ามาถึงห้องเก็บคัมภีร์ คนทั้งคู่ก็ช่วยกันเก็บของให้เป็นระเบียบ ในคราแรกที่รู้จักมีการพูดคุยกันบ้าง ไปมากลับพูดคุยถูกคอกันเสียอย่างงั้น

"ราชา"

"ว่าไงมึง?"

เจ้าจอมไม่ได้พูดเพราะกับราชา แน่นอนว่าเขาเองก็พูดไม่เพราะกับอีกคนเช่นกัน

"มึงว่าในห้องนี้จะมีของน่าสนใจไหม?" จิรพัฒน์ถามราชรณวรด้วยใบหน้าทะเล้น

"มึงอย่าแย่ไอ้จอม!" ราชาดุคนตัวเล็ก

แต่จินพัฒน์หาฟังไม่ จากที่จะเก็บตำราโบราณ กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายรื้อมันออกมาอ่านเล่มแล้วเล่มเล่าแทน ราชรณวรถอนหายใจแล้วรอให้อีกฝ่ายรื้อออกมาอ่านเสร็จ เขาค่อยเก็บยังจะดีเสียกว่า เหตุการณ์ ณ ปัจจุบันจึงกลับกลายเป็นว่าคนพี่นั่งเท้าคางอยู่บนเก้าอี้ไม้ ดูการกระทำแสนซนของคนน้องแทน

คัมภีร์ทุกอย่างถูกจัดเรียง มีระเบียบตามหมวดหมู่ของมันอยู่แล้ว หากแต่สายตาเฉียบคมของเจ้าจอมดันเหลือบไปเห็นคัมภีร์เล่มเก่าเล่มหนึ่งที่ซ่อนอยู่ด้านหลังตู้ไม้บานใหญ่ หน้าคัมภีร์มันเขียนไว้ว่า 'คาถามหาเสน่ห์ (ตกหลุมรัก)'

มันถูกเขียนด้วยตัวอักษรไทยสมัยโบราณ ความเก่าของตำราเล่มดังกล่าวบ่งบอกถึงอายุอันยาวนานของมันได้ดีทีเดียว

"โอ้มายก๊อด~ มันคือคาถาทำให้คนตกหลุมรักใช่ไหม?"

เจ้าจอมหยิบมันขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาใช้มือเปิดอ่านหน้าถัดไปเรื่อย ๆ ราชรณวรจึงเดินเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อเชยชมด้วย หนังสือเก่าที่ต้องเปิดอย่างเบามือเพราะเกรงว่าจะขาด ถูกจับพลิกเปิดไปมาหน้าแล้วหน้าเล่าตามใจของจิรพัฒน์

~ วิธีการใช้งาน ~ ท่องคาถาแล้วสัมผัสมือกับคนที่ต้องการ

"ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ...ของก๊องแก๊งรึเปล่าเนี่ย?" เจ้าจอมพึมพำ

"แต่ไม่หรอก ระดับลุงแล้ว มีแต่ของแท้เหนือธรรมชาติทั้งนั้นแหละ" คำพูดที่พูดกับตนถูกเปล่งเสียงออกมา ชายหนุ่มยักไหล่แล้วหยิบปากกาพร้อมกระดาษมาจดคาถา

คาถาถูกคัดลอกออกไปโดยจิรพัฒน์ เขาหวังจะใช้มันกับคนโปรดอย่างน้องเดินดิน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา ทั้งหมดนั้นคือความคิดของเจ้าจอม ถึงจะมั่นใจในใบหน้าของตัวเองมาก แต่สำหรับเดินดินหน้าตาแบบเขาคงพบเจอบ่อยจนชินแล้วกระมั่ง

"มึงจะลอกไปทำไมจอม?"

"กูก็อยากลองใช้มั้งแหละ!" เจ้าจอมกระแทกเสียงใส่ราชาเบา ๆ

"ตามใจมึง รื้อเสร็จก็ช่วยกูเก็บด้วยครับ" คนพี่บอกน้อง

หลังจากวันนันเจ้าจอมและราชาก็สนิทกันโดยปริยาย สนิทกันชนิดว่าหากที่ใดมีเจ้าจอมที่นั่นย่อมมีราชา หมายถึงในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติล่ะน่ะ

เพราะทั้งคู่กลายเป็นลูกมือของลุงนินเสียเรียบร้อย งานทุกอย่างภายในตำหนักแห่งนี้ คนเป็นลุงโยนมาให้พวกเขาเกือบทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่งานหาฤกษ์หายามต่าง ๆ

"มาเฟียบ้าไรมานั่งดูข้างขึ้นข้างแรม"

เจ้าจอมแขวะราชาที่นั่งใช้ปากกาเมจิกขีด ๆ เขียน ๆ กระดานเพื่อหาฤกษ์ยามงามดีให้คู่รักที่กำลังจะแต่งงานกัน

"แล้วนักเรียนนอกที่ไหน มานั่งหยดน้ำตาเทียนงก ๆ ใส่อ่างน้ำมนต์อยู่ละ?"

ราชาเบ้ปากตอบ พลางมองคนตัวเล็กที่กำลังหยดน้ำตาเทียนลงบนโอ่งลายมังกร ภาชนะซึ่งใช้กักเก็บน้ำมนต์ขนาดใหญ่ของตำหนักสายหมอก

แม้ว่าจิรพัฒน์อยากจะเอาฝ่าเท้าถีบคนตรงหน้าเพียงใด แต่คนน้องก็ทำได้แค่ปั้นหน้ายิ้ม เพราะตอนนี้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา กำลังอยู่เต็มเรือนใหญ่ทั้งเรือน

ยามช่วงเวลาบ่ายแก่แสงแดดเริ่มอ่อนลง หลังจากคนทั้งคู่ช่วยงานภายในตำหนักสายหมอกเสร็จ ราชรณวรก็ชวนจิรพัฒน์ออกไปสนามแข่งรถที่ตัวเองเป็นหุ้นส่วนอยู่ เพียงเพราะอีกคนชอบบ่นว่าที่ประเทศไทยไม่มีอะไรให้ทำและตอนนี้ราชายังเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเจ้าจอมอีกด้วย

ลานจอดรถอเนกประสงค์ซึ่งเต็มไปด้วยรถของผู้ที่ต้องการจะเข้าชมการแข่งขัน พนักงานอยู่ในชุดซึ่งทางสนามจัดเตรียมไว้ให้รีบออกมาต้อนรับราชาหุ้นส่วนของสนามแห่งนี้ ราชรณวรผู้เป็นถึงหุ้นส่วนรายใหญ่ของสนามดังกล่าวถูกเชิญไปยังห้องพักนักกีฬาเพื่อทำการพูดคุยธุรกิจ

"ตามมา" ราชาดึงร่างเล็กของเจ้าจอมให้ไปประชิดตัว

เมื่อถึงห้องพักนักกีฬา พวกเขาก็พบกับคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งจิบไวน์อยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยเจ้าจอมรู้อีกทีหลังจากที่ทั้งหมดแนะนำตัวว่าแต่ละคนเป็นใครบ้าง

คนแรกชื่อ "เจ้าจักร" จักรพรรดิ เจริญศักดิ์เจียมสกุล ผู้เป็นถึงเจ้าของสนามแข่งรถขนาดใหญ่แห่งนี้ เจ้าจอมรู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี เพราะเขาติดท็อปหนึ่งในสิบของบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชีย ท่าทางเย็นชาของผู้พี่ดูไม่น่าจะเป็นคนที่จอมพูดคุยด้วยได้

จิรพัฒน์จึงเปลี่ยนมาสนใจอีกคนที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน ถัดจากเจ้าจักรก็เป็นแฟนของเขา

"เจ้าเจต" เจตตินทร์ อภินันท์เลิศเกียรติคุณ เด็กหนุ่มหน้าหวาน ผู้ซึ่งน่ารักน่าเอ็นดูมากสำหรับจิรพัฒน์

ไม่ใช่แค่เจ้าจอม แต่ดูเหมือนว่าราชาจะเอ็นดูคนตรงหน้านี้มากกว่าใครสิ้น ทั้งประเคนน้ำทั้งบีบขาให้คนสวย จักรพรรดิที่เป็นแฟนถึงกับต้องคอยเอาเท้าเขี่ยอีกคนให้ออกห่างจากเจตตินทร์

และอีกคนคือ "เมืองเหนือ" สุวภัทน์ เหนือนิรันดร์ ผู้เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของราชาเช่นกัน เขาเป็นหนึ่งในสิบมหาเศรษฐีหนุ่มที่รวยที่สุดในโลก

เมืองเหนือนั่งมองจอแอลอีดีขนาดใหญ่ซึ่งกำลังฉายภาพการเตรียมตัวของนักกีฬาจากหลากหลายทีม ก่อนที่จะหยิบไวน์ขึ้นมากระดก บอกตามตรงว่าบรรยากาศรอบตัวของคนคนนี้ ไม่น่าพูดคุยด้วยเลยแม้แต่ประโยคเดียว ราวกับว่าเป็นเรื่องที่คนในกลุ่มเคยชินกันหมดแล้ว เพราะไม่มีใครสนใจเมืองเหนือเลย ไม่ว่าเขาจะทำอะไร อีกฝ่ายเหลือบมองจิรพัฒน์เป็นระยะ ๆ หากแต่ไม่ได้เอ่ยคำทักทายใด

ส่วนคนสุดท้าย เจ้าจอมคุ้นหน้าดี เขาคือคู่จิ้นของ 'เดินดิน' นายแบบคนสวยขาที่เขาชอบ

"พระเพลิง" เพลิงอัคคี ไฟนิรันดร์ ผู้มีดีกรีเป็นถึงนายแบบชื่อดังของเอเชีย ขึ้นแท่นเทียบเคียงกับเดินดินเสมอมา พระเพลิงส่งยิ้มหวานมาทางเจ้าจอม หากแต่อีกคนโดนราชาด่าก่อนว่าอย่าทำตัวรุ่มร่ามกับเพื่อนของเขา เพลิงอัคคีจึงเลิกสนใจคนมาใหม่เช่นจิรพัฒน์ และหันไปเอาอกเอาใจเจ้าเจตแทน

แก๊งนี้เรียกว่าจุดรวมพลของคนรวย ๆ เป็นแน่แท้ ตัวของราชรณวรรู้ดีว่า เจ้าจอมนั้นต้องรู้สึกอึดอัดเพราะบรรยากาศตรงหน้า เขาจึงชวนคนน้องออกมาสูดอากาศด้านนอกและอยู่ดูการแข่งขันเป็นเพื่อนคนตัวเล็กแทนการเข้าไปคุยธุรกิจเหมือนดังที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรก ก็ในเมื่อเขาพาอีกฝ่ายมา เขาก็ต้องรับผิดชอบดูแลน้องชายคนนี้สิ

ราชรณวรและจิรพัฒน์ยืนอยู่ขอบสนามแข่ง สายตาของจิรพัฒน์ยังคงเหม่อมองเข้าไปในสนามเพื่อดูการแข่งขัน ทว่าเป็นราชรณวรที่เหม่อมองจิรพัฒน์แทน ราวกับรู้ว่ามีสายตาจรดจดจ้องตน จอมหันกลับมาสบตารุ่นพี่คนสนิททันที

"จูบไหม?" คำถามถูกถามออกมาจากปากราชรณวร

"..."

"จูบกันไหมครับ น้องจอม"

หลังจากดูการแข่งขันได้ไม่นาน ตกเย็นจิรพัฒน์ก็ขอตัวกลับก่อน เนื่องจากถึงเวลาที่เขาต้องไปงานแฟนมีตติ้งของเดินดินแล้ว ก็เขาอุตส่าห์ลงทุนซื้อน้ำเกือบห้าหมื่นขวดเพื่อนชิงโชคให้ได้เป็นหนึ่งในผู้โชคดีของงานนี้เชียวนะ!!

พูดถึงไอ้น้ำห้าหมื่นกว่าขวด เขาต้องดื่มอีกกี่ปีมันถึงจะหมด แค่คิดก็รู้สึกอยากจะเอามือกุมขมับบรรเทาอาการปวดศีรษะแล้ว

ณ โรงแรม N

ดูคาติคันงามราคาเฉียดสามล้านขับเข้ามาเทียบท่าลานจอดรถอเนกประสงค์ของโรงแรม ที่จอดรถระดับวีไอพี หมวกกันน็อกราคาหลายหมื่นถูกถอดออกจากหัวแล้วนำมาห้อยที่แขนแกร่ง

เจ้าจอมรีบเดินเข้าไปในตัวอาคารเพื่อลงทะเบียนเข้างานแฟนมีตติ้ง มันกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

รอเพียงไม่นานเจ้าจอมก็ต้องเดินขึ้นเวทีไปหาเดินดิน นายแบบคนสวยของเขา ซึ่งอีกฝ่ายนั่งรออยู่ด้านบนเวทีแล้ว และเขาคือผู้โชคดีคนแรกจากแฟนคลับผู้โชคดีอีกยี่สิบคน เจ้าจอมเดินย่างก้าวอย่างเชื่องช้าขึ้นบันไดไป ทุกก้าวเดินคาถาที่เขานั่งจำทั้งคืนพลันหลุดออกมาจากปากเบา ๆ

โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ หลงกู

พุทธัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา รักกู

ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา เป็นของกู

สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา อยู่กับกู

โอมนะโมพุทธายะ หลงกู พุทธัง สะระติ ธัมมัง รักกู สะระติ สังฆัง สะระติ เป็นของกู

จิตตัง สะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ ตลอดกาล

เมื่อเท้าของจิรพัฒน์เหยียบถึงบันไดขั้นสุดท้าย คาถาที่ชายหนุ่มตั้งใจท่องก็จบพอดี เจ้าจอมยิ้มสวยทักทายนายแบบหนุ่ม

ดั่งเดินสวรรค์ซึ่งนั่งอยู่บนเวที เจ้าจอมตรงเข้าไปขอลายเซ็นพร้อมกับจับมือของอีกฝ่ายอย่างดีใจ

เดินดินยิ้มสวยให้เจ้าจอม ทั้งคู่พูดคุยกันเล็กน้อย ไม่ถึงสองนาทีจิรพัฒน์ก็ถูกเชิญลงเวที เนื่องจากเวลาที่จำกัด จอมหันหลังกลับไปก็พบว่าเดินดินไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย

"คาถาก๊องแก๊ง!"

คำดูถูกเล็ดลอดผ่านไรฟันของเจ้าจอม พร้อมกันนั้นร่างสูงของเขาก็เดินไปหยิบหมวกกันน็อกราคาหลายหมื่น ที่ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของงาน แล้วเดินออกมาจากงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ทันที

ถึงจะชอบเดินดินมาก ๆ แต่ถ้าเขาไม่สบอารมณ์กับสิ่งใดแล้ว ต่อให้คนข้างหน้าเป็นนางฟ้าเทวดาลงมาจุติ เขาก็ไม่มีอารมณ์ปลื้มปริ่มกับความงามนั้นหรอกนะ ก็จิรพัฒน์นะเป็นคนอารมณ์รุนแรง รุนแรงเสมอต้นเสมอปลาย

ตระกูลของเจ้าจอมเป็นผู้ใช้ไสยเวทสายขาวมาโดยตลอด หากแต่ทุกอย่างมันเริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อถึงคราวที่จิรพัฒน์จะต้องสืบต่อกิจการอันยาวนานของตระกูล 'รัตติกาลจันทร์อัปสร'

เขาไม่ได้เรียนรู้ไสยเวทสายขาวเลยแม้แต่น้อย จะเรียกว่าไม่เรียนก็ไม่ใช่ จิรพัฒน์รู้วิธีใช้เพียงแต่เขาไม่ยอมใช้มันต่างหากละ

เจ้าจอมเป็นผู้ใช้ไสยเวทมืด อาคมมืด วิชาต้องห้าม จอมขมังเวทย์สายดำ รวมไปถึงไสยศาสตร์ชนิดที่ถูกลืมเลือนจากประวัติศาสตร์อันเก่าแก่

และนี้จึงเป็นอีกเหตุผลที่ลุงนิน รับราชาเข้ามาเป็นศิษย์ ลุงของเขาคงไม่ต้องการให้เจ้าจอมเป็นผู้สืบทอด 'รัตติกาลจันทร์อัปสร' หากอีกฝ่ายไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง

แล้วไงใครจะแคร์?

เพราะเจ้าจอมไม่เคยอยากได้ 'รัตติกาลจันทร์อัปสร'

Comments (1)
goodnovel comment avatar
Very Simon
ความรวยนี้555
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 4 “ห้องโถง”

    เพนท์เฮ้าส์สุดหรูย่านปริมณฑล ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดานายแบบตัวท็อปในสังกัด YEhwazi (เยฮวาซี) บัดนี้ถูกปิดไฟ เกือบมืดสนิททั้งหลัง เพราะเจ้าของบ้านไปทำงานที่ต่างประเทศกันเกือบหมด เหลือเพียง 'เดินดิน' นายแบบตัวท็อปของเยฮวาซี ผู้ที่มีใบหน้าสวยหวาน ดั่งเดินสวรรค์กำลังนั่งดูทีวีอยู่ใจกลางห้องโถงของเพนท์เฮ้าส์หรูเดินดินใช้นิ้วเรียวจิ้มโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยเพื่อเปิดดูข้อความที่เด้งเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่าย ๆสายตาจดจ้องข้อความที่ถูกส่งรัว ๆ เข้ามาในช่องแชทหาใช่ของใครอื่น มันเป็นข้อความจากแม่เลี้ยงของเขานั้นเองเมื่อเดินดินอ่านมันจบก็พบว่าเป็นข้อความขอเงินจากอีกฝ่ายเช่นเคย มันเป็นเหตุการณ์เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แอปพลิเคชันธนาคารภายในตัวเครื่องถูกเปิดขึ้นเพื่อตรวจสอบยอดเงินทั้งหมด เด็กหนุ่มถอนหายใจเบา เมื่อเห็นว่ายอดทั้งหมดในบัญชีมีเพียงหนึ่งหมื่นสามพันบาทเท่านั้นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นสามพันบาทถูกโอนไปให้มารดา ด้วยความรีบเร่งตามการส่งข้อความแชทถี่รัวของอีกฝ่าย เพราะเกรงว่าเธอจะทนไม่ไหวเสียก่อน เมื่อทำธุรกรรมทางการเงินเสร็จช่องแชทก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง'โอนไปแล้วมันค

    Last Updated : 2024-10-31
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 5 “ร่างของคนอื่น”

    ​บทที่ 5 “ร่างของคนอื่น” เขียนโดย : รสผลไม้​09:45 นาฬิกาแปลก...วันนี้แปลกมาก จิรพัฒน์มั่นใจว่าช่วงเวลานี้มันน่าจะต้องเป็นช่วงสายของวันแล้วแน่ ๆ แต่ทำไมไม่มีใครมาปลุกเขาไปใส่บาตรละ?เจ้าจอมหรี่ตาขึ้นเพื่อมองนาฬิกาตรงมุมหัวเตียงสวย แต่ก็ต้องแปลกใจกว่าเดิมเมื่อภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนไปภาพของห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและยานอนหลับที่วางอยู่ข้างหมอนสูงที่เขาหนุน ไม่ปกติ โคตรจะไม่ปกติเลย!จอมรีบยันตัวขึ้นนั่ง สายตาโฟกัสปรับแสงเพื่อมองสำรวจรอบห้องนอน ยิ่งหันไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่ที่มีรูปเดินดินคนสวยแขวนอยู่สร้างความงุนงงให้จิรพัฒน์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก"กูคงฝันแหละ...ก็บ้าแล้ว!" ประโยคแรกเขาพึมพำกับตนเอง ส่วนในประโยคถัดมาคือตอนนี้เขาได้รับรู้ว่าสิ่งที่คิดและไม่อยากให้มันเกิดขึ้นมันกำลังจะเป็นความจริงเจ้าจอมรีบดีดตัวพุ่งไปที่โต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสวย และสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นที่สุด ยินดีด้วยมันได้เป็นความจริงแล้วจิรพัฒน์ตอนนี้กำลังอยู่ในร่างของเดินดิน!เจ้าจอมในร่างของดั่งเดินสวรรค์ซึ่งตอนนี้เขาสวมชุดนอนน่ารักเป็นผ้าซาตินตัวบาง จิรพัฒน์รีบเดินออกมานอกห้องนอนเจ้าของร่างนี้อย่างรวดเร็

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 6 “ตำหนักสายหมอก”

    บทที่ 6 “ตำหนักสายหมอก”เขียนโดย : รสผลไม้​เจ้าจอมมองหน้าคนสองคนที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม โดยพระเพลิงกำลังนั่งจิ้มมือถือ ส่วนอาร์ก้านั่งจิบกาแฟ จิรพัฒน์จึงเลือกที่จะถามอาร์ก้า เพราะเห็นว่าเพลิงอัคคีกำลังขมวดคิ้วกับโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่"อาร์ก้า…""ว่าไงดิน""กู…เราเก็บกุญแจรถไว้ไหนอะ?""กุญแจรถ?" อีกฝ่ายทำหน้าฉงนแล้วทวนคำถามกับคนตัวเล็ก"ใช่ ๆ กุญแจรถของเรานะ""ดินไม่สบายรึเปล่า? ดินไม่มีรถนะครับ ดินไม่เคยซื้อรถ" อาร์ก้าอธิบายเจ้าจอมเลิกคิ้วสูง ในหัวเดือดปุด ๆ อะไรคือไม่เคยซื้อรถ? เงินที่หามาได้มันไปไหนหมด? โฆษณาแต่ละตัวได้เป็นแสนเป็นล้านโอ๊ย!หงุดหงิดโว้ย จิรพัฒน์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ทีวีแอลอีดีขนาดใหญ่ ก่อนที่จะยกเท้าขึ้นมาถีบมันหล่นลงพื้น ทีวีร่วงหล่นตามแรงกระแทกอย่างรุนแรงด้วยอารมณ์ที่โมโหกับสถานการณ์อันไม่เป็นดั่งใจหวัง ยังต้องมาเจอวิญญาณปัญญาอ่อนห้อยขาต่องแต่งอยู่ขอบทีวี มันทำให้หมอผีปากแซ่บอย่างจอมหัวร้อนแบบเขาอยากจะจับไอ้ผีตนนี้ลงหม้อดินให้รู้แล้วรู้รอด เพื่อลดอารมณ์ความหงุดหงิดลงบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี~โครม~เสียงทีวีที่หล่นลงพื้นกระเบื้องสีขาว

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 7 “ดอกลีลาวดี”

    บทที่ 7"ดอกลีลาวดี"เขียนโดย : รสผลไม้​~ กลิ่นหอมที่ยาวนาน ตราบเท่านิรันดร์กาล ใจหวั่นไหว การพบรัก ต้องเคียงคู่ข้างกาย ท้ายที่สุดต้องจากกันและล้ำลา มันคือโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดให้เรามาไม่เท่ากัน ~ณ ตำหนักสายหมอกราชาเหลือบตามองลัมโบร์กินีสีแดงสดที่ขับพุ่งออกมาจากตำหนัก เขาจำได้ดีว่ามันคือรถของพระเพลิง แล้วเพลิงอัคคีมาทำอะไรที่นี่ละ? หรือคนในนั้นไม่ใช่เพลิงเพื่อนของเขาเมื่อรถลัมโบร์กินีสีเหลืองสดของเขาจอดเข้ามาเทียบท่าลานกว้างภายในตัวเรือนไทยหลังงาม ก็พบกับนิสสันจีทีอาร์สามสิบห้าสีดำคันสวยและดูคาติอีกสองคันประกบข้างสภาพของรถและต้องมีบอดี้การ์ดประกบข้างแบบนี้ ทั้งประเทศเกรงว่าจะมีคนเดียวกระมั้ง ราชรณวรรีบจอดรถทันที ชายหนุ่มรีบก้าวลงมาจากรถหรูเช่นกันกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ของเขาร่างของเจ้าจอมที่บัดนี้เดินดินเป็นผู้ครอบครอง ก็ได้เดินลงมาพร้อมกันกับราชา แต่ดั่งเดินสวรรค์กลับชะงักค้างเมื่อเห็นเมืองเหนือสุวภัทน์ซึ่งยืนลูบริมฝีปากของตนเองอยู่คนตัวเล็กรีบถอยเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของราชาทันที ราชรณวรเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น"น้องจอม ไปรอพี่อยู่ที่บ้านเล็กของจอมก่อน

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 8 “กลางคืน”

    ตอนที่ 8 “กลางคืน"เขียนโดย : รสผลไม้​ตัวของจิรพัฒน์ที่ขับรถมาถึงเพนส์เฮ้าท์หรูได้ไม่เพียงกี่นาที ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถยนต์หากแต่เพียงนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในรถ พร้อมกับลอบมองถุงเงินสดและตำราโบราณที่หยิบติดมือมาด้วย ก่อนอื่นคืนนี้เขาคงต้องจัดการกับของต่ำที่อยู่ในทีวีดิจิตอลจอยักษ์เฮงซวยอันนั้นเป็นอย่างแรกเลย ไม่งั้นจอมคงนอนไม่หลับแน่เมื่อคิดได้เช่นนั้นจิรพัฒน์ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ก็ลงจากรถหรูพร้อมกับถุงเงินที่มีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน เมื่อเท้าเหยียบถึงธรณีดินของเขตตัวบ้าน จิรพัฒน์ก็ต้องหันไปมองรอบเพนส์เฮาท์อีกครั้ง...ไม่มีเจ้าที ไม่มีศาล ไม่มีอะไรเลยสมควรแล้วที่มีของวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเดินหลบไปในบ้านหรู เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องโถงเจ้าจอมก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในโถงดังกล่าว นายแบบแถวหน้าของบริษัท เยฮวาซีกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ 'อาร์ก้า' และ 'เทมเปอร์' กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูรายการสอนทำอาหารส่วน 'เจย์แลนด์' นอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกตัว และแน่นอนว่า 'พระเพลิง' กำลังมองเขาอยู่ จิรพัฒน์ถอนหายใจแล้วเดินเอากุญแจรถหรูไปคืนให้รุ่นพี่ กุญแจถู

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 9 “พิธีกรรม”

    ตอนที่ 9 "พิธีกรรม"เขียนโดย : รสผลไม้​แสงแดดสาดส่องเข้ามาในหน้าตาชนิดกระจก มันทแยงตาคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ จิรพัฒน์กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสายตามองภาพตรงหน้า เมื่อหาจุดโฟกัสได้แล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายังคงอยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ นายแบบคนสวย ทุกอย่างหาใช่แค่ฝันไป...เป็นเวลาราวช่วงบ่าย ดั่งเดินสวรรค์ที่วิญญาณด้านในคือจิรพัฒน์ เดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี เมื่อคืนตอนที่ราชากล่อมก็หลับดีอยู่หรอก แต่พออีกคนส่งเขาเข้าห้องนอนและหนีกลับตำหนักสายหมอกไป เจ้าจอมรู้สึกเหมือนว่าตนเองนอนหลับนะ แต่มันไม่ค่อยสบายตัวเหมือนตอนที่คนพี่กล่อมเขาเลยนะสิโทรศัพท์มือถือถูกกดเปิดหน้าจอเพื่ออ่านข้อความที่เด้งเข้ามารัว ๆ จิรพัฒน์พบว่าเช้านี้เป็นเช้าที่ไม่สดใสไปแล้วอีกหนึ่งวัน เพราะว่าข้อความที่เข้ามาในช่องแชทเป็นข้อความจากมารดาของดั่งเดินสวรรค์ ข้อความแบบเดิม ๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง มันเป็นเพียงข้อความขอเงินจากคนน้องเท่านั้น"นี่เขาไม่รู้จักทำมาหากินรึไงวะ"เจ้าจอมยืนอ่านข้อความอยู่หน้าประตูห้องแล้วสถบด่า โทรศัพท์เครื่องสวยถูกปาไปยังโซฟาหนังสีแดงกลา

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน”

    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน” เขียนโดย : รสผลไม้​ลัมโบร์กินี่หรูสองคัน เหยียบคันเร่งตามกันบนถนนสาธารณะชนิดที่ไม่มีใครยอมใครเพลิงอัคคีที่เป็นอดีตนักแข่งเฉกเช่นราชา รีบขับรถตามอีกฝ่ายเกรงว่าหากช้าไปเพียงนิดอาจจะคลาดกัน ถนนมอเตอร์เวย์สายหลักถูกครอบครองด้วยความเร็วของรถยนต์ทั้งคู่จุดหมายปลายทางของลัมโบร์กินีสีแดงและสีเหลืองสด แปรเปลี่ยนสนามแข่งรถของเจ้าจักรหนึ่งในหุ้นส่วนทางธุรกิจของราชรณวรและเป็นถึงพี่ชายคนสนิทของเพลิงอัคคี หากพระเพลิงจะไปบ้านของราชาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะบ้านของเขาไม่ต่างไปจากตำหนักสายหมอกนักหรอก บัดนี้เป็นเวลาราวเก้าโมงเช้าเพราะว่ามันเช้ามาก ในสนามจึงไม่มีผู้คนมากมายนักสนามแข่งรถระดับประเทศ เป็นแหล่งรวมของคนมีอันจะกิน หรือเงินเหลือใช้บ้าง สายตาหลายคู่จับจ้องมายังรถหรูสองคัน รถที่ทุกคนในสนามคุ้นตาเป็นอย่างดีพระเพลิง อดีตมือขวาคนสนิทของเฮียจักร เพลิงเป็นถึงเจ้าของสนามและนักแข่งเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ แต่อีกฝ่ายอำลาวงการไปเป็นนายแบบ พักหลังการจะได้เจอเพลิงอัคคีในสนามแข่งนั้น ยากกว่าขอให้ถูกลอตเตอรี่เสียอีกกระมั้ง ส่วนราชาไม่ต้องพูดถึงเลยราชรณวร ว่าที่ผู้สืบท

    Last Updated : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 11 “ของต่ำ”

    บทที่ 11“ของต่ำ” ​01:45 นาฬิกาเป็นเวลาเช้าวันใหม่ของอีกวันเวลาราวตีหนึ่งสี่สิบห้านาฬิกา เจ้าจอมสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากฝันร้าย มือสวยยกขึ้นมากุมหน้าผู้เป็นเจ้าของร่างพร้อมกับเหงื่อไหลซกเต็มหน้าผากสวย ในวินาทีถัดมาทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาของจิรพัฒน์ถูกฝ่ามือหนาจับไว้ ผลลัพธ์จากการกระทำนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตัวอีกครา"เป็นอะไร?" ประโยคคำถามจากคนแปลกหน้าเอ่ยวาจาถามจอมเสี้ยววินาทีนั้นเจ้าจอมเห็นบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของอดีตคู่หมั้น ดวงตาคู่สวยกระตุกวูบสั่นไหวเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะสังเกตเห็นมันเข้าเสียแล้วอีกมุมหนึ่งจากด้านหลังสุวภัทน์มีใบหน้าที่คุ้นชินสำหรับจิรพัฒน์เจ้าหล่อนกำลังยืนอยู่ เขาจำมันได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่เขาเห็นทุกเช้าทุกเย็นยามเมื่ออาศัยอยู่ตำหนักโบราณ ใบหน้าสวยหวานแบบไทยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เธอส่งให้เขาในทุกเช้าตลอดชีวิตของจอม แน่นอนว่าไม่เคยมีครั้งไหนจะเห็นเธอแสดงสีหน้าแบบอื่น ทว่าตอนนี้จิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์เขากำลังเห็น เห็นบางสิ่งที่ผิดปกติหญิงสาวจากสวนลีลาวดีของตำหนักสายหมอก หญิงสาวปริศนาที่ไม่มีใครได้พบเห็นนอกจากจิ

    Last Updated : 2024-11-04

Latest chapter

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 46 “END”

    ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 45 “เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”

    ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 44 “เพลิงอัคคี”

    ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 43 “ON THE FLOOR”

    ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 42 “ความจริงจากลุงนิน”

    ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 41 “ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”

    ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 40 “ช่วยเจ้าแดง”

    ตอนที่ 40“ช่วยเจ้าแดง”เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้เหมันต์ฟังอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หมอผีหนุ่มฟังโดยไม่แสดงสีหน้าใด นั้นยิ่งทำให้ตัวของแดงเองหวั่นใจเป็นสุดแดงเล่าในเรื่องของความสัมพันธ์และรวมไปถึงเรื่องทั้งหมดที่รู้ เหตุที่ว่าทำไมจิรพัฒน์ถึงต้องไปต่างประเทศ เด็กหนุ่มเป็นผู้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากกุมารทองระดับเทพของเจ้าจอมเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ถึงรู้ไปก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้"พี่เหมจะปล่อยแดงไปได้รึยังจ๊ะ?" แดงถามคนพี่ แม้ใบหน้าจะยิ้มหวานแต่ในใจกับหวั่นเกรงเป็นที่สุด"มึงไปตามน้องจอมมา ให้เจ้าจอมมาหากู""โทรศัพท์แดงอยู่ที่เรือนจ้ะ ตอนนี้พี่จอมไม่ได้อยู่เรือน^_^°""งั้นกูจะพามึงกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เรือน :) "รอยยิ้มดุจเสือร้ายปรากฏ แดงที่เหงื่อซึมอยู่ก่อนหน้า จึงรีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบริเวณแก้มออกเล็กน้อย สุดท้ายคนไร้วิชาอย่างแดงก็ต้องยอมจำนนต่อเหมันต์อยู่ดีณ ตำหนักสายหมอกลัมโบร์กินีสุดหรูสีขาวรุ่นเดียวกันสีเดียวกันทั้งสองคันกำลังจอดเทียบท่าหน้าเรือนซึ่งเป็นที่คุ้นตาดีของบุคคลทั้งสามราชรณวร สุวภัทน์และจิรพัฒน์ ก้าวลงจากตัวรถโดยพร้อมเพรียง นี่เป็นสิ่งของที่ราชาซื้อให้เหล่าเพื่อนสนิท

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 39 “แฟนเก่า”

    ตอนที่ 39“แฟนเก่า”หกปีก่อนหน้า"พี่เหมดูดิ จอมจับตะขาบได้ด้วย สุดยอดไปเลย"จิรพัฒน์วิ่งมาหาเหมันต์ด้วยท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติพร้อมกับสัตว์อสรพิษในมือ เพื่ออวดอ้างความเก่งกาจของตนต่อหน้าคนรัก"น้องจอมอย่าดื้อ" เหมันต์ส่งเสียงดุหากแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มหวาน"ตะขาบใช้ทำของได้ใช่ไหม?""ก็ได้นะ""งั้นจอมจะทำ"เด็กหนุ่มเอ่ยปากหนักแน่นว่าจะขอทำในสิ่งที่ต้องการ เหมันต์มองจิรพัฒน์พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาเขาและจิรพัฒน์คบกันมาได้เกือบปีแล้ว ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจริง ๆเพียงแต่พักหลังตัวของจอมเองชอบมาขอให้เขาสอนการใช้ไสยเวทมนต์ดำ เหมันต์ก็รู้ดีว่าเจ้าจอมเป็นใคร ทายาทเพียงคนเดียวของรัตติกาลจันทร์อัปสร ตระกูลซึ่งมีชื่อเสียงด้านการใช้คุณไสยทางสายขาวบริสุทธิ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปีตามจริงเหมันต์ค่อนข้างเป็นห่วงจิรพัตน์พอสมควร เขากลัวว่าสักวันจะเป็นคนน้องเองที่ลุ่มหลงในมนต์ดำจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับเขาและวันที่เหมันต์หวั่นกลัวที่สุดก็เดินทางมาถึง จิรพัฒน์กลายเป็นผู้ใช้มนต์ดำเต็มตัวแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนจะเก่งกล้าสามารถมากกว่าเขาหลายเท่าตัว นี่สินะที่เขาเรียก

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 38 “ขุนเขา”

    บทที่ 38"ขุนเขา"จิรพัฒน์เหลือบมองเพลิงอัคคีเป็นระยะ ๆ คนน้องรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเพลิงถึงยังจำขุนเขาได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะมีใครจำได้นอกจากเจ้าเจต และดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแล้ว"เสือมึงเป็นอะไรวะ เอาแต่นอนหลับตาอยู่ได้?" พันวาถามรุ่นพี่คนสนิท"กูจะนอน" เสือป่าตอบปัดพร้อมกับมือที่เริ่มดึงหมอนซึ่งวางอยู่ด้านข้างตนมาปิดบังใบหน้า ในขณะที่จิรพัฒน์เหลือบมองเสือป่าเล็กน้อยพลางกลั้นขำ ก่อนจะเอาหน้าไปซุกไหล่หนาของสุวภัทน์ตามเดิมยามบ่ายแก่ ๆ เจตตินทร์ก็ฟื้นจากห้วงนิทรา ร่างเล็กเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองและนั่งลงด้านข้างอีกคนตามความเคยชิน"เป็นอะไรกัน มาทำไมเยอะแยะ" เจตไล่สายตามองทุกคนและเอ่ยถาม"อย่าพูดพร้อมกันนะ ทีละคน" เจ้าของคำถามไม่รีรอให้เพื่อนพูดหรือกล่าวอะไร เพียงแต่เอ่ยเตือนก่อนเพราะเห็นว่าต่างคนต่างอยากจะพูดเรื่องของตัวเองพร้อมกัน"มึงก่อนเลยพันวา""กูมาเฝ้าเฉย ๆ มึงตื่นก็ดีแล้ว กูจะได้กลับคอนโด" พันวาอธิบายต้องเข้าใจก่อนว่าในกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าเจตจะมีพันวาและราชาซึ่งปกติคอยตามดูอีกคนเกือบยี่สิบสี่ช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status