แชร์

บทที่ 8 “กลางคืน”

ตอนที่ 8

“กลางคืน"

เขียนโดย : รสผลไม้

ตัวของจิรพัฒน์ที่ขับรถมาถึงเพนส์เฮ้าท์หรูได้ไม่เพียงกี่นาที ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถยนต์หากแต่เพียงนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในรถ พร้อมกับลอบมองถุงเงินสดและตำราโบราณที่หยิบติดมือมาด้วย ก่อนอื่นคืนนี้เขาคงต้องจัดการกับของต่ำที่อยู่ในทีวีดิจิตอลจอยักษ์เฮงซวยอันนั้นเป็นอย่างแรกเลย ไม่งั้นจอมคงนอนไม่หลับแน่

เมื่อคิดได้เช่นนั้นจิรพัฒน์ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ก็ลงจากรถหรูพร้อมกับถุงเงินที่มีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน เมื่อเท้าเหยียบถึงธรณีดินของเขตตัวบ้าน จิรพัฒน์ก็ต้องหันไปมองรอบเพนส์เฮาท์อีกครั้ง...ไม่มีเจ้าที ไม่มีศาล ไม่มีอะไรเลย

สมควรแล้วที่มีของวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเดินหลบไปในบ้านหรู เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องโถงเจ้าจอมก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในโถงดังกล่าว นายแบบแถวหน้าของบริษัท เยฮวาซีกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ 'อาร์ก้า' และ 'เทมเปอร์' กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูรายการสอนทำอาหาร

ส่วน 'เจย์แลนด์' นอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกตัว และแน่นอนว่า 'พระเพลิง' กำลังมองเขาอยู่ จิรพัฒน์ถอนหายใจแล้วเดินเอากุญแจรถหรูไปคืนให้รุ่นพี่ กุญแจถูกยื่นให้เพลิงอัคคี

คนพี่มองจิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของเดินดินตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับรับกุญแจรถกลับไป สายตาพลางเหลือบมองภายในถุงกระดาษที่คนน้องถือมา เมื่อเห็นว่าเป็นธนบัตรอยู่ภายในนั้นทั้งถุงส่วนอีกถุงเป็นหนังสืออะไรสักอย่าง เพลิงยิ่งต้องแปลกใจ การกระทำของคนน้องซึ่งรีบออกไปทั้ง ๆ ที่ใส่ชุดนอน ก็เพียงเพื่อไปเอาเงินงั้นเหรอ?

"ไปไหนมาน้องดิน?"

เทมเปอร์ละสายตาจากจอโน๊ตบุ๊คแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม จากการอ่านไดอารี่ของดั่งเดินสวรรค์ พบว่าไอ้ส้นตีนนี่มันตีสองหน้าของแท้ เจ้าจอมที่โมโหอยู่คันปากอยากหาที่ลงพอดี ขอบคุณที่มาเป็นสนามอารมณ์ให้กูนะไอ้เปอร์

"แล้วมึงเสือกอะไรกับกู" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมา แต่ประโยคที่พูดกลับไม่ได้หวานตาม เทมเปอร์ทำสีหน้าตกใจสุดขีด ก็ควรจะตกใจอยู่หรอกเพราะอีกฝ่ายชอบแกล้งเดินดินสารพัดและคนน้องก็ไม่เคยตอบโต้

ไหนจะแกล้งเหยียบเท้าเวลาไปออกงานคู่ ไหนจะชอบแอบหยิกแขนคนสวยขาของเขา จิรพัฒน์โคตรเกลียดเลยพวกตีสองหน้า ต่อหน้าคนอื่นทำอย่างนึง ลับหลังทำอีกอย่าง

"..."

ไม่ต้องรอให้ใครมีปฏิกิริยาตอบโต้เพิ่มเติม เจ้าจอมในร่างนายแบบคนสวย เดินหลบเข้าห้องนอนของตัวเองไปในทันที ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกลสำหรับจิรพัฒน์...

ณ บ้านหรูสไตล์ยุโรป

เมื่อล้างวัตถุดิบเสร็จ เดินดินก็นั่งรอราชาอยู่ที่ห้องรับแขก หน้าต่างแบบกระจกถูกเปิดออกทั้งสี่ทิศเพื่อรับลมเย็นของช่วงบ่าย ราชรณวรที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของดั่งเดินสวรรค์ได้ไม่นาน เขากำลังกอดอกยืนพิงประตูกระจกบานใหญ่ของตัวบ้านเพื่อดูอีกคนที่กำลังนั่งชมนกชมไม้รอบห้องรับแขกซึ่งถูกเปิดประตูและหน้าต่างไว้รอบทิศทาง

"อ๊ะ..."

ร่างของเจ้าจอมสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นราชายืนอยู่ เดินดินไม่ชอบเวลาอยู่คนเดียว เพราะมันจะทำให้เขาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น แต่แปลกตั้งแต่ที่เขามาอยู่ในร่างนี้ เขาไม่ได้เห็นอะไรที่น่ากลัว เหมือนตอนที่เป็นดั่งเดินสวรรค์เลย

"ล้างปลาเสร็จรึยัง?"

"เสร็จแล้วครับ พี่ราชามีอะไรให้จอมช่วยอีกไหม"

ราชาที่ได้ยินประโยคดังกล่าวถึงกับต้องเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง เกรงว่าหากมองหน้าเจ้าจอมตอนนี้เขาคงจะขำพรืด ก็เขาไม่ชินกับเจ้าจอมในเวอร์ชันที่พูดครับแถมยังเรียกเขาว่าพี่ ถ้าโลกมันแตกได้ในทันทีเขาว่าตอนนี้มันคงจะเป็นวันสิ้นโลก

ถ้าลุงนินกลับมาอยากรู้จริง ๆ ว่าระหว่างเจ้าจอมตัวจริง กับเจ้าจอมตอนนี้ ลุงนินจะชอบใครมากกว่ากัน แค่คิดก็อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ไอ้จอมมึงได้ตกกระป๋องแน่!

"ทำกับข้าวเป็นไหม?" ราชาถาม เดินดินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาควรตอบว่ายังไง เพื่อไม่ให้มันดูแปลก เจ้าของร่างนี้ทำกับข้าวเป็นไหมล่ะ เขาก็ไม่รู้

"เอ่อ...เป็นครับ" เดินดินเสี่ยงที่จะตอบไป ราชาพยักหน้าหงึก ๆ

"งั้นไปช่วยพี่หั่นปลา"

"ครับ"

คืนนี้ราชาต้องโทรหาเจ้าจอมแน่ เขาจะบอกให้มันได้รับรู้ว่าเวลานี้ร่างของมันกำลังทำเรื่องที่โคตรตลกสุด ๆ อยู่

และที่จริงแล้วมันจะน่ารักกว่านี้อยู่หรอกถ้าคนที่พูดกับเขาไม่ได้อยู่ในร่างของเจ้าจอม แต่ตอนนี้การกระทำทั้งหมดมันเป็นใบหน้าของจิรพัฒน์ท่าทางของจิรพัฒน์สิ้น แค่เห็นหน้าราชาก็รู้สึกอยากจะขำตลอดเวลาแล้ว

19 : 00 นาฬิกา

'ราชา' เรียกให้เจ้าแดงมาเฝ้าเจ้าจอมที่กำลังนอนหลับอยู่ ซึ่งเขาได้ร่ายมนตร์นิทราให้อีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว คืนนี้ร่างของจิรพัฒน์จะไม่มีทางตื่น จนกว่าเขาจะกลับมาแน่นอน

"พี่ราชา พี่จะไปไหน?" แดงถามด้วยความสงสัย

"จะไปทำงาน มึงก็เฝ้าบ้านดีดี"

"แล้วตำหนักสายหมอกละพี่ คืนนี้ไม่มีคนนอนเฝ้านะ"

"แล้วใครมันจะกล้าเข้าไปวะ!" ราชากระแทกเสียงนิดหน่อย แดงจึงพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ

ร่างของราชรณวรรีบเดินออกจากตัวบ้านสไตล์ยุโรป ลัดเลาะตามแนวทุ่งนากว้างซึ่งไม่มีไฟส่องสว่างนอกจากแสงของพระจันทร์ เขาเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้า คืนนี้คงจะเป็นอีกคืนที่ยาวนานสำหรับราชาเช่นกัน

รถยนต์ลัมโบร์กินีสีเหลืองสดจอดเทียบท่าเข้ามาที่เพนท์เฮ้าส์หรู โดยที่เจ้าจอมบอกกับราชาว่าข้าร่ายมนตร์นิทราให้กับสมาชิกในเพนท์เฮ้าส์หมดแล้ว

จิรพัตน์ที่ติดบุหรี่เมื่อมาอยู่ในร่างของเดินดิน คิดเหรอว่าเขาจะลดมันได้ เขายังคงสูบบุหรี่เช่นเคย ร่างสวยของดั่งเดินสวรรค์นั่งอยู่บริเวณหน้าเพนท์เฮ้าส์หรูเพื่อรอราชารุ่นพี่คนสนิทจอมขมังเวทย์สายขาว ลูกศิษย์เพียงคนเดียวของตำหนักสายหมอก

เด็กหนุ่มนั่งชันเข่าหนึ่งข้างพลางสูบบุหรี่ มันช่างเป็นภาพคุ้นตาของราชาเหลือเกิน ราวกับเดจาวู เพราะเขาเห็นเจ้าจอมทำแบบนี้เรือนทุกวัน

"มึงไม่ไปนั่งข้างในล่ะจอม?" ราชรณวรที่เดินเข้าไปใกล้จิรพัฒน์เอ่ยถามขึ้น

"มึงไปดูเองเถอะ กูจะเอาอะไรไปนั่งอยู่ในนั้นได้ สภาพ!"

เจ้าจอมซึ่งอยู่ในร่างดั่งเดินสวรรค์กระแทกเสียงแล้วโยนบุหรี่มวนสวยทิ้ง ร่างเล็กเดินนำคนพี่เข้าไปในตัวบ้าน ราชาไม่ชินกับจอมในร่างนี้เอาเสียเลย ราชรณวรถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไป

ยามที่ทั้งสองเข้ามาถึงห้องโถงกลาง ราชาก็ต้องทำหน้าหงุดหงิดไปอีกราย เมื่อเห็นสภาพของสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่กลางห้องโถงขนาดกว้างนี้ ทีวีจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่หน้าจอแตกร้าวเนื่องจากการกระทำของเจ้าจอม บัดนี้มันกลับวางอยู่ที่เดิม เนื่องจากผู้ร่วมอาศัยในเพนท์เฮ้าส์ยกมันกลับมาวางไว้ ณ จุดเดิม

ราชรณวรที่เป็นผู้ใช้คุณไสยสายขาวถึงขั้นต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก เจ้าจอมอาจจะทนได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้มนต์ดำ คาถาต้องห้าม พิธีกรรมสกปรก คลุกคลีกับของพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่กับเขา ราชาหันไปมองหน้าจิรพัฒน์ซึ่งบัดนี้อยู่ในร่างสวยของดั่งเดินสวรรค์ ร่างงามนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับทีวีแล้วพเยิดหน้าไปทางทีวีจอยักษ์ ราชาถึงต้องเลิกคิ้วเชิงถามว่าเอาจริงดิ?

และคำตอบที่เขาได้รับคือเจ้าจอมพยักหน้า บ่งบอกว่าคนตัวเล็กเอาจริง เท้าของจอมที่อยู่ในท่านั่งไขว่ห้างเขย่าเบา ๆ หลังเอนพิงโซฟาหนังซึ่งตนกำลังนั่งอยู่

มือสวยอีกข้างจับบุหรี่ขึ้นมาคีบไว้ ริมฝีปากงามคาบเอาบุหรี่มวนนั้นเข้าไป พร้อมกับจุดไฟ จิรพัฒน์สูบบุหรี่ไปมองราชาไปด้วย ไม่ต่างกันราชรณวรเองก็หันกลับมามองจิรพัฒน์

เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังใช้ร่างคนอื่นสูบบุหรี่อยู่ ราชรณวรรู้สึกอยากจะเอาส้นเท้าประเคนหน้าน้องคนสนิทจริง ๆ แต่คงทำไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ร่างของมัน

ราชรณวรเดินไปอย่างเชื่องช้า เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่เป็นจิรพัฒน์เองที่ทนรอไม่ไหว คนตัวเล็กเดินดุ่ม ๆ เข้าไปถีบทีวีจอแอลอีดีขนาดใหญ่อย่างหงุดหงิด ทวีหล่นลงพื้นเสียงดังโครมคราม มันรุนแรงมากเลยทีเดียวแต่น่าแปลกที่ไม่มีใครตื่นมาดูเลยสักคน

"มึงนี่ก็ใจร้อน" ราชาบ่น

"แกะมันออก"

เจ้าจอมสั่งให้ราชาแกะฝาหลังของทีวีออก ราชรณวรพยักหน้าแล้วเอามืองัดแงะแผ่นด้านหลังทีวีแน่นอนว่าไม่นานมันก็หลุดออก กลิ่นเหม็นทะลุทะลวงออกมาพร้อมกับแผ่นฝาหลังทีวีขนาดใหญ่

ผ้าลินินสีขาวที่เปื้อนสีดำอยู่ส่วนหนึ่งถูกราชาหยิบขึ้นมา มันถูกพันด้วยสายสิญจน์ สภาพของมันค่อนข้างเก่าอยู่พอสมควร เมื่อที่ราชรณวรกำลังจะแกะสายสิญจน์ออก วิญญาณร้ายก็พลันปรากฏขึ้น ร่างของหญิงสาวผมยาวที่ทั้งเนื้อตัวมีแต่รอยบาดแผล ผิวของมันแปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำและตอนนี้มันกำลังยืนชี้หน้าพวกเขาอยู่

"อย่าเสือกกกกกก!!!" เสียงหวีดแหลมกรีดร้องออกมาจากปากของมัน เป็นประโยคดังกล่าว สร้างความหงุดหงิดให้จอมเป็นทวีคูณ

บุหรี่มวนงามของจิรพัฒน์ถูกปาลงพื้น พร้อมกับร่างบางเดินตรงไปกระชากห่อผ้าขาวจากมือของราชรณวรที่กำลังนั่งพินิจพิจารณามันอยู่

อิติปิโส ภะคะวา

ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ

มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต

นะโม พุทธายะ

ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา

ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ

พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ

นะโม พุทธายะ

คาถาถูกเปล่งออกมาจากปากสวยของดั่งเดินสวรรค์ เจ้าจอมใช้เท้าสวยของร่างงามกระทืบห่อผ้าขาวซ้ำไปซ้ำมา ทุกครั้งที่กระทืบเท้าลงไปวิญญาณร้ายตนนี้ก็กรีดร้องตามแรงกระทืบห่อผ้าของเจ้าจอม

จิรพัฒน์มองวิญญาณตนนี้ที่ทรุดลงพื้นตามแรงกระทืบของเขาด้วยแววตาเหี้ยมโหด เขาไม่เคยปรานีใครอยู่แล้ว และไม่มีความจำเป็นที่ต้องถามอีกฝ่ายด้วยซ้ำว่าใครส่งมันมา แค่ส่งมันกลับไปหานายมันในสภาพที่ใช้การไม่ได้ก็จบแล้ว

ราชาที่เป็นไสยเวททางสายขาว เมื่อเห็นอีกคนทำเช่นนี้เขาถึงขั้นต้องรีบเบือนหน้าหนี ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเจ้าจอมทำแบบนี้นะ เขาเห็นบ่อยเลยแหละ แต่ไม่ชินเสียที

จริง ๆ แล้วงานที่ราชรณวรทำก็หาใช่งานสะอาด มีหลายครั้งที่เขาต้องซ้อมคนเป็นซึ่งยังมีลมหายใจเพื่อธุรกิจ แต่กับวิญญาณเขาไม่เคยทำ เพราะเจ้าตัวคิดว่าตายไปก็ทรมานอยู่แล้ว ที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังต้องมาใช้กรรมอยู่บนโลกมนุษย์ต่ออีก หิวก็กินไม่ได้เพราะผลบุญไม่มีเหลือแล้ว ทรมานก็พูดกับใครไม่ได้ เพราะไม่มีใครรับฟัง

ดังนั้นแล้วระหว่างคนเป็นกับคนตายแน่นอนว่าราชา สงสารคนตายมากกว่าคนเป็น เมื่อเห็นว่าวิญญาณตนดังกล่าวสลายหายไปแล้ว

จิรพัฒน์ก็ก้มหยิบห่อผ้าสีขาวปนดำขึ้นมาจากพื้น โยนไปที่หน้าของราชรณวร แต่คนพี่รับมันไว้ได้ก่อนที่จะโดนใบหน้าหล่อเหลาของเขา มุมปากของราชายกยิ้มขึ้นให้เจ้าจอมและโบกมือชูผ้าขาวไปมาเพื่ออวดคนน้องว่าเขารู้ทันอีกฝ่ายอยู่ก่อนแล้ว

"ไม่ได้เรื่อง!!!" จิรพัฒน์ด่า

"โถ่ มึงก็ใจร้อนนะจอม"

"มึงมาทำคุณประโยชน์อะไรให้กูบ้างละวันนี้?" เจ้าจอมถาม

"ไม่มีเลยวะ"

"นั่นไง ควายจริง ๆ "

"เดี๋ยวกูกล่อมมึงไหม มึงชอบนอนไม่หลับนี่"

"คิดว่ากูจะยอมเหรอ"

"นู้นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่เอา น้องจอมจะเอาอะไรครับ"

"น้องจอมบ้านป้ามึงสิ ราชาเริ่มกวนตีนแล้วนะ"

"โทษนะจอม ตอนนี้เจ้าจอมคนที่อยู่ตำหนักสายหมอก เรียกกูว่าพี่ราชาวะ ไม่พอนะมึง พูดครับกับกูด้วย"

"..."

"อึ้งเลยดิ โถ่น้องจอม"

"ไอ้สันดาน มึงนี่มันสารเลวจริง ๆ แล้วใครมันอยู่ในร่างกูวะ"

"เดินดินไหมล่ะ?"

"มึงแน่ใจเหรอราชา ไม่ใช่วิญญาณผีบ้าตนไหนนะ ถ้ากูไล่มันออกแล้วกูเข้าร่างตัวเองไม่ได้นี่คืองามหน้าเลยนะ" จิรพัฒน์พูด

"จะใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้ก็ไม่มีใครไล่วิญญาณนั้นออกจากร่างของมึงได้ นอกจากลุงมึง หรือตัวมึงจะทำพิธีเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ไงครับ"

"แล้วกูจะมีมึงไว้เพื่ออะไรวะ" เจ้าจอมถามรุ่นพี่คนสนิท ราชาที่ได้ยินคำถาม เบ้ปากแล้วยักไหล่ให้คนตัวเล็กตรงหน้า

จิรพัฒน์ถอนหายใจพลางนั่งลงโซฟาสีแดงงามสายตาเหลือบมองหน้าของราชรณวร ราชารู้ในทันทีว่าตัวเองต้องทำอะไร ใช่แล้ว! เขาเป็นนายทาสในเรือนเบี้ยของไอ้จอม ไอ้เด็กแสบ

ราชรณวรที่ติดนิสัยทรีตคนอื่นดีตั้งแต่ที่อยู่กับ 'เจ้าเจต' แล้วนั้น เขาถือว่าสิ่งที่เจอเป็นเรื่องปกติไปสะแล้ว คนพี่เดินลงไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันกับจอม มือหนาตบตักตนเองเป็นเชิงให้อีกฝ่ายเอาหัวมาหนุนนอนได้แล้ว เขาจะได้เริ่มปรนนิบัติพัดวีมันเสียที

นิ้วหนาของราชาสอดแทรกเข้าไปในลุ่มผมสลวยของดั่งเดินสวรรค์ซึ่งมีจิรพัฒน์อาศัยอยู่ในร่าง แล้วออกแรงเกาศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ ส่วนแขนอีกข้างของราชาใช้มันเหนี่ยวรั้งเอวคนน้องไว้ กันไม่ให้อีกฝ่ายตกลงไป เพราะเวลาหลับเจ้าจอมชอบดิ้น ไม่รู้ว่าพอมาอยู่ในร่างนี้แล้วเป็นแบบนี้ไหม แต่กันไว้ก่อนย่อมดีกว่า

 "จูบไหม" อยู่ดีดีจอมก็เอ่ยถาม

นิสัยของจิรพัฒน์ที่ราชรณวรไม่เคยปฏิเสธคือเวลาคนน้องเครียดชอบขอจูบ แน่นอนว่าราชามอบมันให้จอม ให้เจ้าจอมแต่เพียงผู้เดียว และนอกจากการปรนนิบัติราวนายทาสในเรือนเบี้ยและจูบ ราชาก็ไม่เคยทำเกินหน้าที่

"เครียดเหรอครับ"

"อือ"

"จอมขอพี่เองนะ" ราชรณวรยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคนี้

ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรมา ริมฝีปากบางของคนพี่ก็บดจูบลง ณ บริเวณปากสวยของร่างดั่งเดินสวรรค์ทันที ถึงจะรู้สึกแปลกแต่แน่นอนว่าราชายอมทำ หากนี่เป็นความสบายใจของจิรพัฒน์แล้ว

05:00 นาฬิกา

ราชาเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์หรูหลังจากที่ปลุกเจ้าจอมให้เข้าไปนอนในห้องดีดี เขากำห่อผ้าในมือไว้แน่น สงสัยต้องได้แวะวัดทำพิธี ฌาปนกิจก่อนกระมั้ง

รถยนต์หรูจอดเทียบท่าลานกว้างของตำหนักสายหมอก ร่างของจิรพัฒน์นั่งอยู่สวนลีลาวดีราวกับรอเขาอยู่ยังไงอย่างนั้น ราชรณวรก้าวลงจากรถพร้อมกับถุงโจ๊กในมือสามถุง ของเขาและเจ้าแดง รวมถึงคนตรงหน้าด้วย

"พี่ราชา" อีกฝ่ายมีท่าทีเกร็งๆ แต่ก็เดินมาทักทายเขาตามมารยาท ซึ่งถ้าเป็นไอ้จอมตัวจริง มันคงนั่งคาบบุหรี่แล้วด่าเขาว่าควาย!

"ว่าไงครับ?"

"เอ่อ...ดิน...จอมมารอพี่"

"...ครับ" ราชาพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ

"งั้นขึ้นเรือนไปทานข้าวกันดีกว่าไหม?" ราชาเอ่ยปากชวน

"ครับ"

"พี่โจ๊กร้านไหนโคตรอร่อย!!" แดงที่กำลังกินอยู่ถามขึ้น

"เปิดใหม่ตรงข้างวัดนะ เห็นไหม?"

"เห็น...แล้วพี่ไปทำอะไรที่วัดแต่เช้า วันนี้ไม่ใช่วันพระ ถึงวันพระพี่ก็ไม่ไปอยู่ดี"

"ถามมากจังวะแดง แลมึงดูว่างนะ" ราชาพูดหยอกอีกคน

"วู๊ว! แดงไม่ถามละ ดุจัง!" เด็กหนุ่มบ่นไปพลางตักโจ๊กไป

เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายไปทำธุระของตนเอง ดั่งเดินสวรรค์เลือกที่จะไปนั่งเล่นในสวนลีลาวดีเช่นเคย ตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้เขาเจอเรื่องประหลาดอยู่สามเรื่อง

เรื่องแรก ทันทีที่เดินดินลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตนได้อยู่ในร่างของคนอื่น ภายในห้องที่เขานอนเขาพบกับเด็กชายตัวเล็กน่ารักคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นรถบังคับอยู่ ตอนแรกนึกว่าเด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกชายเจ้าของร่างแต่ความจริงอีกฝ่าย...ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

เรื่องที่สอง จากการสังเกตเรือนนี้น่าจะเป็นตำหนักทรงเจ้าหรือไม่ก็สถานที่ดูดวง ที่น่าแปลกกว่าคือนอกจากเด็กคนนั้นเขาก็ไม่เจอสิ่งน่ากลัวใดอีก

และเรื่องสุดท้าย สวนลีลาวดีมันมี...มีกลิ่นหอม ที่หอมมาก ๆ หอมจนเดินดินอยากจะนอนอยู่ตรงนั้นทุกคืน และเขาเคยเผลอหลับอยู่ครั้งหนึ่ง รู้สึกเหมือนหลับไปเป็นชาติเลย มันยาวนานมากจริง ๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status