แชร์

บทที่ 8 “กลางคืน”

ผู้เขียน: รสผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 21:28:56

ตอนที่ 8

“กลางคืน"

เขียนโดย : รสผลไม้

ตัวของจิรพัฒน์ที่ขับรถมาถึงเพนส์เฮ้าท์หรูได้ไม่เพียงกี่นาที ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถยนต์หากแต่เพียงนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในรถ พร้อมกับลอบมองถุงเงินสดและตำราโบราณที่หยิบติดมือมาด้วย ก่อนอื่นคืนนี้เขาคงต้องจัดการกับของต่ำที่อยู่ในทีวีดิจิตอลจอยักษ์เฮงซวยอันนั้นเป็นอย่างแรกเลย ไม่งั้นจอมคงนอนไม่หลับแน่

เมื่อคิดได้เช่นนั้นจิรพัฒน์ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ก็ลงจากรถหรูพร้อมกับถุงเงินที่มีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน เมื่อเท้าเหยียบถึงธรณีดินของเขตตัวบ้าน จิรพัฒน์ก็ต้องหันไปมองรอบเพนส์เฮาท์อีกครั้ง...ไม่มีเจ้าที ไม่มีศาล ไม่มีอะไรเลย

สมควรแล้วที่มีของวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเดินหลบไปในบ้านหรู เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องโถงเจ้าจอมก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในโถงดังกล่าว นายแบบแถวหน้าของบริษัท เยฮวาซีกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ 'อาร์ก้า' และ 'เทมเปอร์' กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูรายการสอนทำอาหาร

ส่วน 'เจย์แลนด์' นอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกตัว และแน่นอนว่า 'พระเพลิง' กำลังมองเขาอยู่ จิรพัฒน์ถอนหายใจแล้วเดินเอากุญแจรถหรูไปคืนให้รุ่นพี่ กุญแจถูกยื่นให้เพลิงอัคคี

คนพี่มองจิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของเดินดินตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับรับกุญแจรถกลับไป สายตาพลางเหลือบมองภายในถุงกระดาษที่คนน้องถือมา เมื่อเห็นว่าเป็นธนบัตรอยู่ภายในนั้นทั้งถุงส่วนอีกถุงเป็นหนังสืออะไรสักอย่าง เพลิงยิ่งต้องแปลกใจ การกระทำของคนน้องซึ่งรีบออกไปทั้ง ๆ ที่ใส่ชุดนอน ก็เพียงเพื่อไปเอาเงินงั้นเหรอ?

"ไปไหนมาน้องดิน?"

เทมเปอร์ละสายตาจากจอโน๊ตบุ๊คแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม จากการอ่านไดอารี่ของดั่งเดินสวรรค์ พบว่าไอ้ส้นตีนนี่มันตีสองหน้าของแท้ เจ้าจอมที่โมโหอยู่คันปากอยากหาที่ลงพอดี ขอบคุณที่มาเป็นสนามอารมณ์ให้กูนะไอ้เปอร์

"แล้วมึงเสือกอะไรกับกู" เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมา แต่ประโยคที่พูดกลับไม่ได้หวานตาม เทมเปอร์ทำสีหน้าตกใจสุดขีด ก็ควรจะตกใจอยู่หรอกเพราะอีกฝ่ายชอบแกล้งเดินดินสารพัดและคนน้องก็ไม่เคยตอบโต้

ไหนจะแกล้งเหยียบเท้าเวลาไปออกงานคู่ ไหนจะชอบแอบหยิกแขนคนสวยขาของเขา จิรพัฒน์โคตรเกลียดเลยพวกตีสองหน้า ต่อหน้าคนอื่นทำอย่างนึง ลับหลังทำอีกอย่าง

"..."

ไม่ต้องรอให้ใครมีปฏิกิริยาตอบโต้เพิ่มเติม เจ้าจอมในร่างนายแบบคนสวย เดินหลบเข้าห้องนอนของตัวเองไปในทันที ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกลสำหรับจิรพัฒน์...

ณ บ้านหรูสไตล์ยุโรป

เมื่อล้างวัตถุดิบเสร็จ เดินดินก็นั่งรอราชาอยู่ที่ห้องรับแขก หน้าต่างแบบกระจกถูกเปิดออกทั้งสี่ทิศเพื่อรับลมเย็นของช่วงบ่าย ราชรณวรที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของดั่งเดินสวรรค์ได้ไม่นาน เขากำลังกอดอกยืนพิงประตูกระจกบานใหญ่ของตัวบ้านเพื่อดูอีกคนที่กำลังนั่งชมนกชมไม้รอบห้องรับแขกซึ่งถูกเปิดประตูและหน้าต่างไว้รอบทิศทาง

"อ๊ะ..."

ร่างของเจ้าจอมสะดุ้งเฮือก เมื่อเห็นราชายืนอยู่ เดินดินไม่ชอบเวลาอยู่คนเดียว เพราะมันจะทำให้เขาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น แต่แปลกตั้งแต่ที่เขามาอยู่ในร่างนี้ เขาไม่ได้เห็นอะไรที่น่ากลัว เหมือนตอนที่เป็นดั่งเดินสวรรค์เลย

"ล้างปลาเสร็จรึยัง?"

"เสร็จแล้วครับ พี่ราชามีอะไรให้จอมช่วยอีกไหม"

ราชาที่ได้ยินประโยคดังกล่าวถึงกับต้องเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง เกรงว่าหากมองหน้าเจ้าจอมตอนนี้เขาคงจะขำพรืด ก็เขาไม่ชินกับเจ้าจอมในเวอร์ชันที่พูดครับแถมยังเรียกเขาว่าพี่ ถ้าโลกมันแตกได้ในทันทีเขาว่าตอนนี้มันคงจะเป็นวันสิ้นโลก

ถ้าลุงนินกลับมาอยากรู้จริง ๆ ว่าระหว่างเจ้าจอมตัวจริง กับเจ้าจอมตอนนี้ ลุงนินจะชอบใครมากกว่ากัน แค่คิดก็อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ไอ้จอมมึงได้ตกกระป๋องแน่!

"ทำกับข้าวเป็นไหม?" ราชาถาม เดินดินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาควรตอบว่ายังไง เพื่อไม่ให้มันดูแปลก เจ้าของร่างนี้ทำกับข้าวเป็นไหมล่ะ เขาก็ไม่รู้

"เอ่อ...เป็นครับ" เดินดินเสี่ยงที่จะตอบไป ราชาพยักหน้าหงึก ๆ

"งั้นไปช่วยพี่หั่นปลา"

"ครับ"

คืนนี้ราชาต้องโทรหาเจ้าจอมแน่ เขาจะบอกให้มันได้รับรู้ว่าเวลานี้ร่างของมันกำลังทำเรื่องที่โคตรตลกสุด ๆ อยู่

และที่จริงแล้วมันจะน่ารักกว่านี้อยู่หรอกถ้าคนที่พูดกับเขาไม่ได้อยู่ในร่างของเจ้าจอม แต่ตอนนี้การกระทำทั้งหมดมันเป็นใบหน้าของจิรพัฒน์ท่าทางของจิรพัฒน์สิ้น แค่เห็นหน้าราชาก็รู้สึกอยากจะขำตลอดเวลาแล้ว

19 : 00 นาฬิกา

'ราชา' เรียกให้เจ้าแดงมาเฝ้าเจ้าจอมที่กำลังนอนหลับอยู่ ซึ่งเขาได้ร่ายมนตร์นิทราให้อีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว คืนนี้ร่างของจิรพัฒน์จะไม่มีทางตื่น จนกว่าเขาจะกลับมาแน่นอน

"พี่ราชา พี่จะไปไหน?" แดงถามด้วยความสงสัย

"จะไปทำงาน มึงก็เฝ้าบ้านดีดี"

"แล้วตำหนักสายหมอกละพี่ คืนนี้ไม่มีคนนอนเฝ้านะ"

"แล้วใครมันจะกล้าเข้าไปวะ!" ราชากระแทกเสียงนิดหน่อย แดงจึงพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ

ร่างของราชรณวรรีบเดินออกจากตัวบ้านสไตล์ยุโรป ลัดเลาะตามแนวทุ่งนากว้างซึ่งไม่มีไฟส่องสว่างนอกจากแสงของพระจันทร์ เขาเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้า คืนนี้คงจะเป็นอีกคืนที่ยาวนานสำหรับราชาเช่นกัน

รถยนต์ลัมโบร์กินีสีเหลืองสดจอดเทียบท่าเข้ามาที่เพนท์เฮ้าส์หรู โดยที่เจ้าจอมบอกกับราชาว่าข้าร่ายมนตร์นิทราให้กับสมาชิกในเพนท์เฮ้าส์หมดแล้ว

จิรพัตน์ที่ติดบุหรี่เมื่อมาอยู่ในร่างของเดินดิน คิดเหรอว่าเขาจะลดมันได้ เขายังคงสูบบุหรี่เช่นเคย ร่างสวยของดั่งเดินสวรรค์นั่งอยู่บริเวณหน้าเพนท์เฮ้าส์หรูเพื่อรอราชารุ่นพี่คนสนิทจอมขมังเวทย์สายขาว ลูกศิษย์เพียงคนเดียวของตำหนักสายหมอก

เด็กหนุ่มนั่งชันเข่าหนึ่งข้างพลางสูบบุหรี่ มันช่างเป็นภาพคุ้นตาของราชาเหลือเกิน ราวกับเดจาวู เพราะเขาเห็นเจ้าจอมทำแบบนี้เรือนทุกวัน

"มึงไม่ไปนั่งข้างในล่ะจอม?" ราชรณวรที่เดินเข้าไปใกล้จิรพัฒน์เอ่ยถามขึ้น

"มึงไปดูเองเถอะ กูจะเอาอะไรไปนั่งอยู่ในนั้นได้ สภาพ!"

เจ้าจอมซึ่งอยู่ในร่างดั่งเดินสวรรค์กระแทกเสียงแล้วโยนบุหรี่มวนสวยทิ้ง ร่างเล็กเดินนำคนพี่เข้าไปในตัวบ้าน ราชาไม่ชินกับจอมในร่างนี้เอาเสียเลย ราชรณวรถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไป

ยามที่ทั้งสองเข้ามาถึงห้องโถงกลาง ราชาก็ต้องทำหน้าหงุดหงิดไปอีกราย เมื่อเห็นสภาพของสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่กลางห้องโถงขนาดกว้างนี้ ทีวีจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่หน้าจอแตกร้าวเนื่องจากการกระทำของเจ้าจอม บัดนี้มันกลับวางอยู่ที่เดิม เนื่องจากผู้ร่วมอาศัยในเพนท์เฮ้าส์ยกมันกลับมาวางไว้ ณ จุดเดิม

ราชรณวรที่เป็นผู้ใช้คุณไสยสายขาวถึงขั้นต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูก เจ้าจอมอาจจะทนได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้มนต์ดำ คาถาต้องห้าม พิธีกรรมสกปรก คลุกคลีกับของพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่กับเขา ราชาหันไปมองหน้าจิรพัฒน์ซึ่งบัดนี้อยู่ในร่างสวยของดั่งเดินสวรรค์ ร่างงามนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับทีวีแล้วพเยิดหน้าไปทางทีวีจอยักษ์ ราชาถึงต้องเลิกคิ้วเชิงถามว่าเอาจริงดิ?

และคำตอบที่เขาได้รับคือเจ้าจอมพยักหน้า บ่งบอกว่าคนตัวเล็กเอาจริง เท้าของจอมที่อยู่ในท่านั่งไขว่ห้างเขย่าเบา ๆ หลังเอนพิงโซฟาหนังซึ่งตนกำลังนั่งอยู่

มือสวยอีกข้างจับบุหรี่ขึ้นมาคีบไว้ ริมฝีปากงามคาบเอาบุหรี่มวนนั้นเข้าไป พร้อมกับจุดไฟ จิรพัฒน์สูบบุหรี่ไปมองราชาไปด้วย ไม่ต่างกันราชรณวรเองก็หันกลับมามองจิรพัฒน์

เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังใช้ร่างคนอื่นสูบบุหรี่อยู่ ราชรณวรรู้สึกอยากจะเอาส้นเท้าประเคนหน้าน้องคนสนิทจริง ๆ แต่คงทำไม่ได้ เพราะนี่ไม่ใช่ร่างของมัน

ราชรณวรเดินไปอย่างเชื่องช้า เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่เป็นจิรพัฒน์เองที่ทนรอไม่ไหว คนตัวเล็กเดินดุ่ม ๆ เข้าไปถีบทีวีจอแอลอีดีขนาดใหญ่อย่างหงุดหงิด ทวีหล่นลงพื้นเสียงดังโครมคราม มันรุนแรงมากเลยทีเดียวแต่น่าแปลกที่ไม่มีใครตื่นมาดูเลยสักคน

"มึงนี่ก็ใจร้อน" ราชาบ่น

"แกะมันออก"

เจ้าจอมสั่งให้ราชาแกะฝาหลังของทีวีออก ราชรณวรพยักหน้าแล้วเอามืองัดแงะแผ่นด้านหลังทีวีแน่นอนว่าไม่นานมันก็หลุดออก กลิ่นเหม็นทะลุทะลวงออกมาพร้อมกับแผ่นฝาหลังทีวีขนาดใหญ่

ผ้าลินินสีขาวที่เปื้อนสีดำอยู่ส่วนหนึ่งถูกราชาหยิบขึ้นมา มันถูกพันด้วยสายสิญจน์ สภาพของมันค่อนข้างเก่าอยู่พอสมควร เมื่อที่ราชรณวรกำลังจะแกะสายสิญจน์ออก วิญญาณร้ายก็พลันปรากฏขึ้น ร่างของหญิงสาวผมยาวที่ทั้งเนื้อตัวมีแต่รอยบาดแผล ผิวของมันแปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำและตอนนี้มันกำลังยืนชี้หน้าพวกเขาอยู่

"อย่าเสือกกกกกก!!!" เสียงหวีดแหลมกรีดร้องออกมาจากปากของมัน เป็นประโยคดังกล่าว สร้างความหงุดหงิดให้จอมเป็นทวีคูณ

บุหรี่มวนงามของจิรพัฒน์ถูกปาลงพื้น พร้อมกับร่างบางเดินตรงไปกระชากห่อผ้าขาวจากมือของราชรณวรที่กำลังนั่งพินิจพิจารณามันอยู่

อิติปิโส ภะคะวา

ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ

มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต

นะโม พุทธายะ

ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา

ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ

พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ

นะโม พุทธายะ

คาถาถูกเปล่งออกมาจากปากสวยของดั่งเดินสวรรค์ เจ้าจอมใช้เท้าสวยของร่างงามกระทืบห่อผ้าขาวซ้ำไปซ้ำมา ทุกครั้งที่กระทืบเท้าลงไปวิญญาณร้ายตนนี้ก็กรีดร้องตามแรงกระทืบห่อผ้าของเจ้าจอม

จิรพัฒน์มองวิญญาณตนนี้ที่ทรุดลงพื้นตามแรงกระทืบของเขาด้วยแววตาเหี้ยมโหด เขาไม่เคยปรานีใครอยู่แล้ว และไม่มีความจำเป็นที่ต้องถามอีกฝ่ายด้วยซ้ำว่าใครส่งมันมา แค่ส่งมันกลับไปหานายมันในสภาพที่ใช้การไม่ได้ก็จบแล้ว

ราชาที่เป็นไสยเวททางสายขาว เมื่อเห็นอีกคนทำเช่นนี้เขาถึงขั้นต้องรีบเบือนหน้าหนี ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเจ้าจอมทำแบบนี้นะ เขาเห็นบ่อยเลยแหละ แต่ไม่ชินเสียที

จริง ๆ แล้วงานที่ราชรณวรทำก็หาใช่งานสะอาด มีหลายครั้งที่เขาต้องซ้อมคนเป็นซึ่งยังมีลมหายใจเพื่อธุรกิจ แต่กับวิญญาณเขาไม่เคยทำ เพราะเจ้าตัวคิดว่าตายไปก็ทรมานอยู่แล้ว ที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังต้องมาใช้กรรมอยู่บนโลกมนุษย์ต่ออีก หิวก็กินไม่ได้เพราะผลบุญไม่มีเหลือแล้ว ทรมานก็พูดกับใครไม่ได้ เพราะไม่มีใครรับฟัง

ดังนั้นแล้วระหว่างคนเป็นกับคนตายแน่นอนว่าราชา สงสารคนตายมากกว่าคนเป็น เมื่อเห็นว่าวิญญาณตนดังกล่าวสลายหายไปแล้ว

จิรพัฒน์ก็ก้มหยิบห่อผ้าสีขาวปนดำขึ้นมาจากพื้น โยนไปที่หน้าของราชรณวร แต่คนพี่รับมันไว้ได้ก่อนที่จะโดนใบหน้าหล่อเหลาของเขา มุมปากของราชายกยิ้มขึ้นให้เจ้าจอมและโบกมือชูผ้าขาวไปมาเพื่ออวดคนน้องว่าเขารู้ทันอีกฝ่ายอยู่ก่อนแล้ว

"ไม่ได้เรื่อง!!!" จิรพัฒน์ด่า

"โถ่ มึงก็ใจร้อนนะจอม"

"มึงมาทำคุณประโยชน์อะไรให้กูบ้างละวันนี้?" เจ้าจอมถาม

"ไม่มีเลยวะ"

"นั่นไง ควายจริง ๆ "

"เดี๋ยวกูกล่อมมึงไหม มึงชอบนอนไม่หลับนี่"

"คิดว่ากูจะยอมเหรอ"

"นู้นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่เอา น้องจอมจะเอาอะไรครับ"

"น้องจอมบ้านป้ามึงสิ ราชาเริ่มกวนตีนแล้วนะ"

"โทษนะจอม ตอนนี้เจ้าจอมคนที่อยู่ตำหนักสายหมอก เรียกกูว่าพี่ราชาวะ ไม่พอนะมึง พูดครับกับกูด้วย"

"..."

"อึ้งเลยดิ โถ่น้องจอม"

"ไอ้สันดาน มึงนี่มันสารเลวจริง ๆ แล้วใครมันอยู่ในร่างกูวะ"

"เดินดินไหมล่ะ?"

"มึงแน่ใจเหรอราชา ไม่ใช่วิญญาณผีบ้าตนไหนนะ ถ้ากูไล่มันออกแล้วกูเข้าร่างตัวเองไม่ได้นี่คืองามหน้าเลยนะ" จิรพัฒน์พูด

"จะใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้ก็ไม่มีใครไล่วิญญาณนั้นออกจากร่างของมึงได้ นอกจากลุงมึง หรือตัวมึงจะทำพิธีเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ไงครับ"

"แล้วกูจะมีมึงไว้เพื่ออะไรวะ" เจ้าจอมถามรุ่นพี่คนสนิท ราชาที่ได้ยินคำถาม เบ้ปากแล้วยักไหล่ให้คนตัวเล็กตรงหน้า

จิรพัฒน์ถอนหายใจพลางนั่งลงโซฟาสีแดงงามสายตาเหลือบมองหน้าของราชรณวร ราชารู้ในทันทีว่าตัวเองต้องทำอะไร ใช่แล้ว! เขาเป็นนายทาสในเรือนเบี้ยของไอ้จอม ไอ้เด็กแสบ

ราชรณวรที่ติดนิสัยทรีตคนอื่นดีตั้งแต่ที่อยู่กับ 'เจ้าเจต' แล้วนั้น เขาถือว่าสิ่งที่เจอเป็นเรื่องปกติไปสะแล้ว คนพี่เดินลงไปนั่งโซฟาตัวเดียวกันกับจอม มือหนาตบตักตนเองเป็นเชิงให้อีกฝ่ายเอาหัวมาหนุนนอนได้แล้ว เขาจะได้เริ่มปรนนิบัติพัดวีมันเสียที

นิ้วหนาของราชาสอดแทรกเข้าไปในลุ่มผมสลวยของดั่งเดินสวรรค์ซึ่งมีจิรพัฒน์อาศัยอยู่ในร่าง แล้วออกแรงเกาศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ ส่วนแขนอีกข้างของราชาใช้มันเหนี่ยวรั้งเอวคนน้องไว้ กันไม่ให้อีกฝ่ายตกลงไป เพราะเวลาหลับเจ้าจอมชอบดิ้น ไม่รู้ว่าพอมาอยู่ในร่างนี้แล้วเป็นแบบนี้ไหม แต่กันไว้ก่อนย่อมดีกว่า

 "จูบไหม" อยู่ดีดีจอมก็เอ่ยถาม

นิสัยของจิรพัฒน์ที่ราชรณวรไม่เคยปฏิเสธคือเวลาคนน้องเครียดชอบขอจูบ แน่นอนว่าราชามอบมันให้จอม ให้เจ้าจอมแต่เพียงผู้เดียว และนอกจากการปรนนิบัติราวนายทาสในเรือนเบี้ยและจูบ ราชาก็ไม่เคยทำเกินหน้าที่

"เครียดเหรอครับ"

"อือ"

"จอมขอพี่เองนะ" ราชรณวรยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคนี้

ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรมา ริมฝีปากบางของคนพี่ก็บดจูบลง ณ บริเวณปากสวยของร่างดั่งเดินสวรรค์ทันที ถึงจะรู้สึกแปลกแต่แน่นอนว่าราชายอมทำ หากนี่เป็นความสบายใจของจิรพัฒน์แล้ว

05:00 นาฬิกา

ราชาเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์หรูหลังจากที่ปลุกเจ้าจอมให้เข้าไปนอนในห้องดีดี เขากำห่อผ้าในมือไว้แน่น สงสัยต้องได้แวะวัดทำพิธี ฌาปนกิจก่อนกระมั้ง

รถยนต์หรูจอดเทียบท่าลานกว้างของตำหนักสายหมอก ร่างของจิรพัฒน์นั่งอยู่สวนลีลาวดีราวกับรอเขาอยู่ยังไงอย่างนั้น ราชรณวรก้าวลงจากรถพร้อมกับถุงโจ๊กในมือสามถุง ของเขาและเจ้าแดง รวมถึงคนตรงหน้าด้วย

"พี่ราชา" อีกฝ่ายมีท่าทีเกร็งๆ แต่ก็เดินมาทักทายเขาตามมารยาท ซึ่งถ้าเป็นไอ้จอมตัวจริง มันคงนั่งคาบบุหรี่แล้วด่าเขาว่าควาย!

"ว่าไงครับ?"

"เอ่อ...ดิน...จอมมารอพี่"

"...ครับ" ราชาพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ

"งั้นขึ้นเรือนไปทานข้าวกันดีกว่าไหม?" ราชาเอ่ยปากชวน

"ครับ"

"พี่โจ๊กร้านไหนโคตรอร่อย!!" แดงที่กำลังกินอยู่ถามขึ้น

"เปิดใหม่ตรงข้างวัดนะ เห็นไหม?"

"เห็น...แล้วพี่ไปทำอะไรที่วัดแต่เช้า วันนี้ไม่ใช่วันพระ ถึงวันพระพี่ก็ไม่ไปอยู่ดี"

"ถามมากจังวะแดง แลมึงดูว่างนะ" ราชาพูดหยอกอีกคน

"วู๊ว! แดงไม่ถามละ ดุจัง!" เด็กหนุ่มบ่นไปพลางตักโจ๊กไป

เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายไปทำธุระของตนเอง ดั่งเดินสวรรค์เลือกที่จะไปนั่งเล่นในสวนลีลาวดีเช่นเคย ตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้เขาเจอเรื่องประหลาดอยู่สามเรื่อง

เรื่องแรก ทันทีที่เดินดินลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตนได้อยู่ในร่างของคนอื่น ภายในห้องที่เขานอนเขาพบกับเด็กชายตัวเล็กน่ารักคนหนึ่งกำลังนั่งเล่นรถบังคับอยู่ ตอนแรกนึกว่าเด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกชายเจ้าของร่างแต่ความจริงอีกฝ่าย...ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

เรื่องที่สอง จากการสังเกตเรือนนี้น่าจะเป็นตำหนักทรงเจ้าหรือไม่ก็สถานที่ดูดวง ที่น่าแปลกกว่าคือนอกจากเด็กคนนั้นเขาก็ไม่เจอสิ่งน่ากลัวใดอีก

และเรื่องสุดท้าย สวนลีลาวดีมันมี...มีกลิ่นหอม ที่หอมมาก ๆ หอมจนเดินดินอยากจะนอนอยู่ตรงนั้นทุกคืน และเขาเคยเผลอหลับอยู่ครั้งหนึ่ง รู้สึกเหมือนหลับไปเป็นชาติเลย มันยาวนานมากจริง ๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 9 “พิธีกรรม”

    ตอนที่ 9 "พิธีกรรม"เขียนโดย : รสผลไม้​แสงแดดสาดส่องเข้ามาในหน้าตาชนิดกระจก มันทแยงตาคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ จิรพัฒน์กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสายตามองภาพตรงหน้า เมื่อหาจุดโฟกัสได้แล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายังคงอยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ นายแบบคนสวย ทุกอย่างหาใช่แค่ฝันไป...เป็นเวลาราวช่วงบ่าย ดั่งเดินสวรรค์ที่วิญญาณด้านในคือจิรพัฒน์ เดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี เมื่อคืนตอนที่ราชากล่อมก็หลับดีอยู่หรอก แต่พออีกคนส่งเขาเข้าห้องนอนและหนีกลับตำหนักสายหมอกไป เจ้าจอมรู้สึกเหมือนว่าตนเองนอนหลับนะ แต่มันไม่ค่อยสบายตัวเหมือนตอนที่คนพี่กล่อมเขาเลยนะสิโทรศัพท์มือถือถูกกดเปิดหน้าจอเพื่ออ่านข้อความที่เด้งเข้ามารัว ๆ จิรพัฒน์พบว่าเช้านี้เป็นเช้าที่ไม่สดใสไปแล้วอีกหนึ่งวัน เพราะว่าข้อความที่เข้ามาในช่องแชทเป็นข้อความจากมารดาของดั่งเดินสวรรค์ ข้อความแบบเดิม ๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง มันเป็นเพียงข้อความขอเงินจากคนน้องเท่านั้น"นี่เขาไม่รู้จักทำมาหากินรึไงวะ"เจ้าจอมยืนอ่านข้อความอยู่หน้าประตูห้องแล้วสถบด่า โทรศัพท์เครื่องสวยถูกปาไปยังโซฟาหนังสีแดงกลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน”

    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน” เขียนโดย : รสผลไม้​ลัมโบร์กินี่หรูสองคัน เหยียบคันเร่งตามกันบนถนนสาธารณะชนิดที่ไม่มีใครยอมใครเพลิงอัคคีที่เป็นอดีตนักแข่งเฉกเช่นราชา รีบขับรถตามอีกฝ่ายเกรงว่าหากช้าไปเพียงนิดอาจจะคลาดกัน ถนนมอเตอร์เวย์สายหลักถูกครอบครองด้วยความเร็วของรถยนต์ทั้งคู่จุดหมายปลายทางของลัมโบร์กินีสีแดงและสีเหลืองสด แปรเปลี่ยนสนามแข่งรถของเจ้าจักรหนึ่งในหุ้นส่วนทางธุรกิจของราชรณวรและเป็นถึงพี่ชายคนสนิทของเพลิงอัคคี หากพระเพลิงจะไปบ้านของราชาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะบ้านของเขาไม่ต่างไปจากตำหนักสายหมอกนักหรอก บัดนี้เป็นเวลาราวเก้าโมงเช้าเพราะว่ามันเช้ามาก ในสนามจึงไม่มีผู้คนมากมายนักสนามแข่งรถระดับประเทศ เป็นแหล่งรวมของคนมีอันจะกิน หรือเงินเหลือใช้บ้าง สายตาหลายคู่จับจ้องมายังรถหรูสองคัน รถที่ทุกคนในสนามคุ้นตาเป็นอย่างดีพระเพลิง อดีตมือขวาคนสนิทของเฮียจักร เพลิงเป็นถึงเจ้าของสนามและนักแข่งเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ แต่อีกฝ่ายอำลาวงการไปเป็นนายแบบ พักหลังการจะได้เจอเพลิงอัคคีในสนามแข่งนั้น ยากกว่าขอให้ถูกลอตเตอรี่เสียอีกกระมั้ง ส่วนราชาไม่ต้องพูดถึงเลยราชรณวร ว่าที่ผู้สืบท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 11 “ของต่ำ”

    บทที่ 11“ของต่ำ” ​01:45 นาฬิกาเป็นเวลาเช้าวันใหม่ของอีกวันเวลาราวตีหนึ่งสี่สิบห้านาฬิกา เจ้าจอมสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากฝันร้าย มือสวยยกขึ้นมากุมหน้าผู้เป็นเจ้าของร่างพร้อมกับเหงื่อไหลซกเต็มหน้าผากสวย ในวินาทีถัดมาทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาของจิรพัฒน์ถูกฝ่ามือหนาจับไว้ ผลลัพธ์จากการกระทำนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตัวอีกครา"เป็นอะไร?" ประโยคคำถามจากคนแปลกหน้าเอ่ยวาจาถามจอมเสี้ยววินาทีนั้นเจ้าจอมเห็นบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของอดีตคู่หมั้น ดวงตาคู่สวยกระตุกวูบสั่นไหวเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะสังเกตเห็นมันเข้าเสียแล้วอีกมุมหนึ่งจากด้านหลังสุวภัทน์มีใบหน้าที่คุ้นชินสำหรับจิรพัฒน์เจ้าหล่อนกำลังยืนอยู่ เขาจำมันได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่เขาเห็นทุกเช้าทุกเย็นยามเมื่ออาศัยอยู่ตำหนักโบราณ ใบหน้าสวยหวานแบบไทยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เธอส่งให้เขาในทุกเช้าตลอดชีวิตของจอม แน่นอนว่าไม่เคยมีครั้งไหนจะเห็นเธอแสดงสีหน้าแบบอื่น ทว่าตอนนี้จิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์เขากำลังเห็น เห็นบางสิ่งที่ผิดปกติหญิงสาวจากสวนลีลาวดีของตำหนักสายหมอก หญิงสาวปริศนาที่ไม่มีใครได้พบเห็นนอกจากจิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 12 “ไม่ยุ่งเกี่ยว”

    บทที่ 12 “ไม่ยุ่งเกี่ยว” เขียนโดย : รสผลไม้​ไม่ถึงยี่สิบนาทีราชาก็มาถึง เขาหอบของมากมายเข้ามาในห้อง พร้อมกับกระสอบเงินถุงใหญ่ที่ในนั้นมีเงินสดมูลค่าสองร้อยล้านด้วย"แน่ใจนะว่าจะจ่าย?" ราชรณวรถามเพื่อน"จ่าย ๆ ไปเถอะ แล้วมึงไปคุยให้กูเลยนะ ถ้าออกจากเพนท์เฮ้าส์เฮงซวยนั้นไม่ได้ กูจะเลิกเป็นนายแบบ""แต่ว่า...ร่างของเดินดินมัน"ราชรณวรเงียบเขาไม่อยากเอ่ยคำใดต่อ แน่นอนว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์อ่อนแอจริง ไม่เหมาะกับการอยู่ในที่แห่งนั้นตั้งแต่แรกแล้ว“ไม่มีแต่ โลกหมุนรอบตัวกูอยู่แล้วกูอยากได้อะไร ไม่อยากทำอะไร ใครจะขัด" เจ้าจอมพูดตอบราชรณวร"เอาที่มึงสบายใจเลย...จอม เจ้าจอม :)" ใครบอกว่าเจ้าเจตเอาแต่ใจ ลองมาเจอจิรพัฒน์ก่อนไหมเพราะเจ้าจอมนะคือที่สุดของจักรวาลนี้แล้วเงินถูกคืนให้เมืองเหนือครบทุกบาททุกสตางค์ หมดเหตุผลให้อีกฝ่ายทวงบุญคุณ เจอหน้าเลี่ยงได้จอมก็จะเลี่ยงเพราะเขารู้สึกไม่อยากเสวนาด้วยเสียเท่าไหร่หลังจากนั้นไม่นาน พิธีกรรมลับจึงได้ถูกจัดทำขึ้นภายในห้องนอนเล็กซึ่งจิรพัฒน์นอนอยู่ ณ ปัจจุบัน ราชาเสนอว่าเจ้าจอมต้องย้ายไปอยู่ที่สนามใหญ่ระหว่างรอหาที่อยู่ใหม่ เพราะสนามใหญ่ มีเจ้าที่มีส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 13 “โรงพยาบาล”

    บทที่ 13"โรงพยาบาล"เขียนโดย : รสผลไม้​ร่างของดั่งเดินสวรรค์ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว ตัวของเพลิงอัคคีและสุวภัทน์มองหน้ากันแค่เพียงชั่วครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดพวกเขาก็เดินกลับไปนั่งอยู่คนละมุมพันวา ‘พันเวลา’ ผู้เป็นดั่งเพื่อนสนิทของราชรณวรและเพลิงอัคคีมาถึงเป็นรายถัดไป หากแต่ยังไร้วี่แววของราชรณวร ราชายังคงไม่ปรากฏตัวให้ใครได้เห็นแม้นว่าเขาจะเป็นผู้รู้เหตุการณ์ทั้งหมดก็ตามเพียงไม่นานนักแพทย์เจ้าของไข้ก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน พันวาพยักหน้าให้แพทย์สาวคนสวยเบา ๆ พวกเขาคุ้นหน้ากันเหลือเกิน หากราชรณวรอยู่ตรงนี้ด้วย คงไม่วายที่เธอจะต้องบ่นเป็นแน่เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน คนที่พันวาหามมาส่งโรงพยาบาลแทบทุกคืนคือเจ้าเจต ‘เจตตินทร์’ เพื่อนสนิทของพวกเขานั่นเอง“แปลก ๆ นะคุณพันวา...ที่รอบนี้ไม่ใช่เจ้าเจต” เธอเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มหวาน“ให้มันได้พักบ้างเถอะ แล้วอาการน้องดินเป็นยังไงบ้าง”พันวาตอบคำถามและถามในสิ่งที่อยากรู้เมื่อเห็นว่าพันวาถามถึงอาการของเดินดิน สองหนุ่มเมืองเหนือและเพลิงอัคคีจึงเดินตามมาสมทบ เพื่อที่จะฟังบทสนทนาต่อไประหว่างพันวาและคุณหมอคนสวย“ทำทุกอย่างแล้วค่ะคุณ ไม่มีอะไรผิดปกติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 14 “เมืองเหนือ”

    บทที่ 14“เมืองเหนือ”เขียนโดย : รสผลไม้​บทสรุปของช่วงเช้าวันนี้มันจบลงที่เจ้าจอมต้องกลับสนามหลักพร้อมเมืองเหนือ เพราะราชาไม่ไว้ใจให้เขากลับไปคนเดียว ครั้นจะให้กลับไปที่เพนท์เฮ้าส์พร้อมพระเพลิงยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนคนพี่นั้นจำใจกลับตำหนักสายหมอกไปพร้อมเดินดินแล้ว ด้วยเพียงเหตุผลเดียว 'ตำหนักสายหมอกต้องมีคนดูแล'เหตุผลที่ไม่ให้จิรพัฒน์กลับตำหนักสายหมอกไปด้วยนั้น เพราะเขารับมือไม่ไหว ถ้าหากว่าวิญญาณของทั้งคู่หลุดออกจากร่างพร้อมกัน เพียงแค่ดั่งเดินสวรรค์คนเดียวก็เพียงพอให้ราชรณวรนอนไม่ได้ทั้งคืนแล้ว ดังนั้นการที่เจ้าจอมกลับตำหนักสายหมอกด้วย เกรงว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์จะรับแรงกดดันขององค์เทพหลายองค์ที่อยู่ภายในตำหนักไม่ไหวต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จิรพัฒน์นับถือเทพหลายองค์ มีทั้งฝั่งดีที่มาจากต้นตระกูลและฝั่งที่ไม่ค่อยจะดีซึ่งคนน้องเพิ่งจะไปรับเข้ามา สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่า องค์เทพแยกกันอยู่ ส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในร่างอีกส่วนแฝงอยู่กับวิญญาณ ยิ่งคิดก็เหมือนว่าภายในหัวของราชารู้สึกปวดหนึบ คล้ายจะระเบิดอยู่รอมร่อด้านของจิรพัฒน์แม็คลาเรนคันงามแล่นเข้ามาเทียบท่าสนามแข่งรถที่ราชรณวรเป็นหนึ่งในหุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 15 “อาคมไหลย้อนกลับ”

    ตอนที่ 15“อาคมไหลย้อน”เขียนโดย : รสผลไม้​หลังจากทำกิจวัตรประจำวันเสร็จราวช่วงเวลาทุ่มกว่าจิรพัฒน์จึงเดินออกมาจากด้านในที่พัก ร่างสวยของนายแบบเช่นดั่งเดินสวรรค์ยืนอยู่ห่างจากรั่วของสนามแข่งรถเพียงไม่กี่เมตร ดวงตากวาดมองรอบทั่วสารทิศยังคงไร้วี่แววของช่อลดา มุมปากสวยพลันยกยิ้มหวาน วันนี้คงเป็นวันที่เขาจะได้พักผ่อนอย่างจริงจังเสียที แม้จะเจ็บช่วงอกเพราะการฝืนทำพิธีกรรมอยู่บ้าง แต่ทานยาแก้ปวดก็คงจะทุเลาลงแน่ อย่างไรเสียก็ยังดีกว่าการสะดุ้งตื่นในยามดึกเป็นไหน ๆจิรพัฒน์เดินกลับเข้ามาในที่พัก คนตัวเล็กพบว่าผู้พี่อย่างสุวภัทน์นั่งรออยู่ใจกลางห้องโถงก่อนแล้ว ตาคู่สวยลุกวาวเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเมืองเหนือ วิสกี้แบรนด์ดังวางเรียงกันอยู่มันช่างล่อตาล่อใจคนน้องยิ่ง รู้อะไรไหมเวลาช้ำในทานวิสกี้ก็ไม่ได้แย่นักหรอก จอมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามสุวภัทน์ มุมปากสวยรีบยกยิ้มให้อีกคน"ชิมได้ไหม?" คำถามลองเชิงถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของเจ้าจอม"ไม่ได้!" คำตอบที่ออกมาจากปากคนโตกว่าไม่เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับจิรพัฒน์เท่าไหร่ทว่าเจ้าจอมก็คือเจ้าจอม หากอยากได้อะไรแล้วเขาก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 16 “อ้อนแบบนี้เอาอะไรครับ”

    บทที่ 16"อ้อนแบบนี้เอาอะไรครับ?"เขียนโดย : รสผลไม้​⚠️⚠️⚠️❌𝓓𝓲𝓻𝓽𝔂 𝓽𝓪𝓵𝓴 // 𝓸𝓾𝓽𝓮𝓻𝓬𝓸𝓾𝓻𝓼𝓮❌❗️𝑹 𝟏𝟖 +❗️ภายในสนามแข่งห้องพักวีไอพีที่เงียบงัน ส่งผลให้เสียงฝีเท้าของราชาดังขึ้นทดแทนความเงียบ คิ้วเรียวได้รูปกำลังขมวดเข้าหากัน ราชาเพิ่งจะรับรู้ว่าขวดเลือดที่เขาและจอมเอามาใช้ทำพิธีส่งเดชในคืนนั้นคือเลือดของมนุษย์และมันยังคงเป็นเลือดของเสือป่าหรือสาปอักษร คนสนิทของพวกเขาทั้งคู่ เมื่อรับรู้ยิ่งทำให้ราชากังวลว่าเสือจะเอาเลือดตัวเองมาแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่ออะไรความกังวลยิ่งทวีคูณเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้รับสายจากเมืองเหนือเรื่องอาการของคนตัวเล็กที่ราชาแสนจะเอ็นดูปลายสายบอกเขาว่าอีกฝ่ายมีอาการค่อนข้างย่ำแย่พอสมควร วันนี้จากการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างภายในตำหนักสายหมอกแล้วเสร็จ ไม่รอช้าราชารีบบึ่งรถมาหาคนสนิททันใดประตูห้องนอนของจิรพัฒน์ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างเล็กของนายแบบหน้าสวยกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ พร้อมกับใบหน้าหงิกงอเหมือนโดนขัดใจอะไรบางอย่าง"พี่ราชา..."จบสิ้นกันพอดี ราชามาเจอเจ้าจอมในโหมดอ้อนรักตอนนี้ได้ยังไง แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ไม่แปลกใจนักเพียงเพราะคนน้องมีอาการป่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04

บทล่าสุด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 46 “END”

    ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 45 “เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”

    ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 44 “เพลิงอัคคี”

    ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 43 “ON THE FLOOR”

    ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 42 “ความจริงจากลุงนิน”

    ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 41 “ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”

    ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 40 “ช่วยเจ้าแดง”

    ตอนที่ 40“ช่วยเจ้าแดง”เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้เหมันต์ฟังอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หมอผีหนุ่มฟังโดยไม่แสดงสีหน้าใด นั้นยิ่งทำให้ตัวของแดงเองหวั่นใจเป็นสุดแดงเล่าในเรื่องของความสัมพันธ์และรวมไปถึงเรื่องทั้งหมดที่รู้ เหตุที่ว่าทำไมจิรพัฒน์ถึงต้องไปต่างประเทศ เด็กหนุ่มเป็นผู้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากกุมารทองระดับเทพของเจ้าจอมเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ถึงรู้ไปก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้"พี่เหมจะปล่อยแดงไปได้รึยังจ๊ะ?" แดงถามคนพี่ แม้ใบหน้าจะยิ้มหวานแต่ในใจกับหวั่นเกรงเป็นที่สุด"มึงไปตามน้องจอมมา ให้เจ้าจอมมาหากู""โทรศัพท์แดงอยู่ที่เรือนจ้ะ ตอนนี้พี่จอมไม่ได้อยู่เรือน^_^°""งั้นกูจะพามึงกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เรือน :) "รอยยิ้มดุจเสือร้ายปรากฏ แดงที่เหงื่อซึมอยู่ก่อนหน้า จึงรีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบริเวณแก้มออกเล็กน้อย สุดท้ายคนไร้วิชาอย่างแดงก็ต้องยอมจำนนต่อเหมันต์อยู่ดีณ ตำหนักสายหมอกลัมโบร์กินีสุดหรูสีขาวรุ่นเดียวกันสีเดียวกันทั้งสองคันกำลังจอดเทียบท่าหน้าเรือนซึ่งเป็นที่คุ้นตาดีของบุคคลทั้งสามราชรณวร สุวภัทน์และจิรพัฒน์ ก้าวลงจากตัวรถโดยพร้อมเพรียง นี่เป็นสิ่งของที่ราชาซื้อให้เหล่าเพื่อนสนิท

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 39 “แฟนเก่า”

    ตอนที่ 39“แฟนเก่า”หกปีก่อนหน้า"พี่เหมดูดิ จอมจับตะขาบได้ด้วย สุดยอดไปเลย"จิรพัฒน์วิ่งมาหาเหมันต์ด้วยท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติพร้อมกับสัตว์อสรพิษในมือ เพื่ออวดอ้างความเก่งกาจของตนต่อหน้าคนรัก"น้องจอมอย่าดื้อ" เหมันต์ส่งเสียงดุหากแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มหวาน"ตะขาบใช้ทำของได้ใช่ไหม?""ก็ได้นะ""งั้นจอมจะทำ"เด็กหนุ่มเอ่ยปากหนักแน่นว่าจะขอทำในสิ่งที่ต้องการ เหมันต์มองจิรพัฒน์พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาเขาและจิรพัฒน์คบกันมาได้เกือบปีแล้ว ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจริง ๆเพียงแต่พักหลังตัวของจอมเองชอบมาขอให้เขาสอนการใช้ไสยเวทมนต์ดำ เหมันต์ก็รู้ดีว่าเจ้าจอมเป็นใคร ทายาทเพียงคนเดียวของรัตติกาลจันทร์อัปสร ตระกูลซึ่งมีชื่อเสียงด้านการใช้คุณไสยทางสายขาวบริสุทธิ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปีตามจริงเหมันต์ค่อนข้างเป็นห่วงจิรพัตน์พอสมควร เขากลัวว่าสักวันจะเป็นคนน้องเองที่ลุ่มหลงในมนต์ดำจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับเขาและวันที่เหมันต์หวั่นกลัวที่สุดก็เดินทางมาถึง จิรพัฒน์กลายเป็นผู้ใช้มนต์ดำเต็มตัวแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนจะเก่งกล้าสามารถมากกว่าเขาหลายเท่าตัว นี่สินะที่เขาเรียก

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 38 “ขุนเขา”

    บทที่ 38"ขุนเขา"จิรพัฒน์เหลือบมองเพลิงอัคคีเป็นระยะ ๆ คนน้องรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเพลิงถึงยังจำขุนเขาได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะมีใครจำได้นอกจากเจ้าเจต และดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแล้ว"เสือมึงเป็นอะไรวะ เอาแต่นอนหลับตาอยู่ได้?" พันวาถามรุ่นพี่คนสนิท"กูจะนอน" เสือป่าตอบปัดพร้อมกับมือที่เริ่มดึงหมอนซึ่งวางอยู่ด้านข้างตนมาปิดบังใบหน้า ในขณะที่จิรพัฒน์เหลือบมองเสือป่าเล็กน้อยพลางกลั้นขำ ก่อนจะเอาหน้าไปซุกไหล่หนาของสุวภัทน์ตามเดิมยามบ่ายแก่ ๆ เจตตินทร์ก็ฟื้นจากห้วงนิทรา ร่างเล็กเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองและนั่งลงด้านข้างอีกคนตามความเคยชิน"เป็นอะไรกัน มาทำไมเยอะแยะ" เจตไล่สายตามองทุกคนและเอ่ยถาม"อย่าพูดพร้อมกันนะ ทีละคน" เจ้าของคำถามไม่รีรอให้เพื่อนพูดหรือกล่าวอะไร เพียงแต่เอ่ยเตือนก่อนเพราะเห็นว่าต่างคนต่างอยากจะพูดเรื่องของตัวเองพร้อมกัน"มึงก่อนเลยพันวา""กูมาเฝ้าเฉย ๆ มึงตื่นก็ดีแล้ว กูจะได้กลับคอนโด" พันวาอธิบายต้องเข้าใจก่อนว่าในกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าเจตจะมีพันวาและราชาซึ่งปกติคอยตามดูอีกคนเกือบยี่สิบสี่ช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status